ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เอ็มพี3 ภัยดิจิทัลคนฟังเสี่ยงหูดับ​

<TABLE cellPadding=2 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอ็มพี 3 ไม่บอกก็รู้ว่าคืออะไร ในปัจจุบันคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบฟังเพลง แต่จะมีใครทราบบ้างว่า การฟังเอ็มพี 3 บ่อยๆนั้น มีความเสี่ยงที่ อาจทำให้หูดับได้ จากการฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 เป็นเวลานาน

นักวิชาการเตือนคนที่ชอบฟังเครื่องเล่น เพลงดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่าเครื่องเอ็มพี 3 โดยเปิดระดับเสียงเต็มที่อาจเสี่ยงหูดับได้ ผลสำรวจความเห็นวัยรุ่นพบส่วนใหญ่ไม่คิดว่าเป็นปัญหาศ.ดีน การ์สเต็คกี้ ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์และความผิดปกติด้านการสื่อสาร ได้ออกมากล่าวเตือนถึงภัยอิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมกับกระแสฮิตเครื่องฟัง เพลงพกพาที่มีขนาดเล็กแต่ฟังเพลงได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำ แต่ยิ่งฟังนาน ความเสี่ยงต่อปัญหาการได้ยินยิ่งมีมากขึ้น

ศ.ดีน กล่าวว่า ต้นตอของปัญหาคือเจ้าหูฟังชนิดที่ยัดเข้าไปอยู่ในรูหูพอดิบพอดี ซึ่งหากฟังในระดับเสียงดังอาจสร้างปัญหาในการได้ยินรุนแรงยิ่งกว่าการฟัง เพลงด้วยหูฟังชนิดครอบทับใบหูจากวอล์คแมน หรือซาวนด์อะเบาท์สมัยก่อนที่ใช้ฟังเทปคาสเซ็ท และเด็กวัยรุ่นมักชอบเปิดเพลงเสียงดังไม่ห่วงว่าหูจะเสียเครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 อย่างไอพอดที่ฮิตกันมักใช้หูฟังชนิดที่เหน็บเข้าไปในรูหู และสามารถเพิ่มระดับความดังเสียงได้ถึง 9 เดซิเบล เรียกได้ว่าระเบิดเสียงดังได้พอๆ กับนาฬิกาปลุก หรือเครื่องตัดหญ้า เจ้าหูฟังประเภทนี้จะมีเสียงจากข้างนอกเล็ดลอดเข้าไปได้ คนฟังก็เลยต้องเพิ่มระดับเสียงเข้าไปอีกเพื่อกลบเสียงรอบข้าง โอกาสเสี่ยงหูพังยิ่งมากขึ้น

ปัญหาเกี่ยวกับประสาทหูไม่ได้จำกัดอยู่กับการใช้เครื่องเอ็มพี 3 เท่านั้น เครื่องฟังเพลงอื่นที่ใช้หูฟังแบบนี้ก็ก่อปัญหาได้ไม่ต่างกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านโสตประสาทจึงเตือนนักเตือนหนาถึงความเสี่ยงรุนแรงที่ผู้ บริโภคจะได้รับการจากฟังเพลงด้วยอุปกรณ์ฟังเพลงอิเล็กทรอนิสก์พกพาที่ ประดิษฐ์ออกมาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ยิ่งระยะหลังเครื่องรุ่นใหม่ๆ แบตเตอรี่มีอายุใช้งานยาวนานและมีความจุเพลงได้มากขึ้นจึงทำให้คนฟังเพลงต่อ เนื่องกันนานขึ้นโดยไม่ปล่อยให้ประสาทหูพักผ่อน

ศ.พ.ญ.สุจิตรา ประสานสุข ผู้อำนวยการศูนย์การได้ยิน การพูด การทรงตัว เสียงในหู โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงเปิดตัวศูนย์การได้ยิน การพูด การทรงตัว เสียงในหูว่า ขณะนี้นับว่าวัยรุ่นไทยอยู่ในภาวะวิกฤติทางการได้ยินโดยพบว่ามีวัยรุ่นจำนวนมากต้องเข้ารับการรักษาเนื่องจากมีภาวะเสียงรบกวนในหู ที่จะนำมาสู่การเกิดภาวะหูตึง เพราะวัยรุ่นในปัจจุบันมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบการได้ยินที่ไม่ถูกต้อง เช่น การคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน การฟังเอ็มพี 3 ไอพอด และการเข้าผับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดหูตึงก่อนวัย

ผอ.ศูนย์การได้ยินฯ กล่าวอีกว่า ตามกฎกระทรวงมหาดไทย (มท.) กำหนดให้เสียงในโรงงานไม่ควรดังเกิน 90 เดซิเบล แต่โดยปกติเสียงในสิ่งแวดล้อม เช่น ตามท้องถนน หรือ ห้างสรรพสินค้า คนเราไม่ควรรับเสียงดังเกิน 70 เดซิเบล ที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่า ความดังของเสียงส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 90 เดซิเบล ขณะที่ในผับมีความดัง 120 เดซิเบล ตนในฐานะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม จึงเตรียมเสนอให้มีการกำหนดให้ความดังของเสียงในสิ่งแวดล้อมไม่เกิน 70 เดซิเบล ส่วนในผับจะอนุโลมให้ดังได้ไม่เกิน 90 เดซิเบล แต่ก็ไม่ควรอยู่ในผับเป็นเวลานาน

ศ.พ.ญ.สุจิตรา กล่าวด้วยว่า นอกจากปัญหาทางการได้ยินที่เกิดจากสภาพแวดล้อมแล้ว ยังพบว่าทารกแรกเกิดจำนวน 3 ใน 1,000 ราย มีความพิการทางการได้ยิน หรืออาการหูตึงมาแต่กำเนิด อาจมีสาเหตุมาจากโรคทางพันธุกรรม หากบิดาหรือมารดามีประวัติบุคคลในครอบครัวพิการทางการได้ยินแต่กำเนิด ลูกจะมีโอกาสหูตึงถึง 50%

รวมทั้ง โรคในมารดาระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคครรภ์เป็นพิษ การคลอดผิดปกติหรือล่าช้าจนเด็กขาดออกซิเจน ตัวเหลือง คลอดก่อนกำหนดและต้องเข้าตู้อบ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้หูชั้นในผิดปกติหรือสมองพิการ ทำให้สูญเสียการได้ยิน หากไม่มีการตรวจคัดกรองตั้งแต่ทารกแรกเกิด และฟื้นฟูบำบัดทันเวลา จะส่งผลต่อพัฒนาการโดยรวม โดยเฉพาะการพูด ทำให้เด็กเป็นใบ้สูงขึ้น

ที่ผ่านมามีงานวิจัยจากหลายสถาบันรายงานความเสี่ยงประสาทหูเสียหายจากการใช้ หูฟังเพลงที่นิยมใช้กัน ถึงกระนั้น ผลสำรวจทัศนคติวัยรุ่นเกี่ยวกับการใช้หูฟังเพลงโดยสถานีโทรทัศน์เอ็มทีวี กลับพบว่า เด็กวัยรุ่นไม่คิดว่าการฟังเพลงเสียงดังจะเป็นปัญหามากมายอะไร แม้ว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ตอบแบบสำรวจยอมรับว่า หลังจากดูคอนเสิร์ตจบแล้วเหมือนได้ยินเสียงวี้ดๆ อยู่ในหู และเมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงดังๆ อาจทำให้หูนวกตลอดชีวิต ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ กล่าวว่า พวกเขาอาจหาวิธีป้องกันในอนาคต

ที่มา http://www.chiangmainews.co.th/viewnews.php?id=17242&lyo=1

 

*** เริ่มเตือน เริ่มใกล้ ****

ดินฟ้าอากาศ...จะคอยเตือนให้ก่อนกรรมมาเสมอ
บัวหลายเหล่า....ยังใช้ชีวิตด้วยความประมาท
มีบัวหนึ่งเหล่า...เชื่อ "สัจจะ" นำพาให้รอดพ้นภัย
ทุกวินาที....มีคุณค่าด้วย "การกระทำ" ที่ทำได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วิวรณ์บทที่ 17


​

17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย

17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"

17:3 ทูตสวรรค์องค์นั้นได้นำข้าพเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารโดยพระวิญญาณ และข้าพเจ้าได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสัตว์ร้ายสีแดงเข้มตัวหนึ่ง ซึ่งมีชื่อหลายชื่อเป็นคำหมิ่นประมาทเต็มไปทั้งตัว มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา

17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน

17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อไว้ว่า "ความลึกลับ บาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่แห่งสิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก"

17:6 และข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นเมามายด้วยโลหิตของพวกวิสุทธิชน และโลหิตของคนทั้งหลายที่พลีชีพเพื่อเป็นพยานของพระเยซู เมื่อข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็อัศจรรย์ใจยิ่งนัก

17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น

17:8 สัตว์ร้ายที่ท่านได้เห็นนั้นเป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และมันจะขึ้นมาจากเหวที่ไม่มีก้นเหวเพื่อไปสู่ความพินาศแล้ว และคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก ซึ่งไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่แรกทรงสร้างโลกนั้น ก็จะอัศจรรย์ใจ เมื่อเขาเห็นสัตว์ร้าย ซึ่งได้เป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และกำลังจะเป็น

17:9 นี่ต้องใช้สติปัญญา หัวทั้งเจ็ดนั้นคือภูเขาเจ็ดยอดที่หญิงนั้นนั่งอยู่

17:10 และมีกษัตริย์เจ็ดองค์ ซึ่งห้าองค์ได้ล่วงไปแล้ว องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ และอีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็นขึ้น และเมื่อเป็นขึ้นมาแล้ว จะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

17:11 สัตว์ร้ายที่เป็นแล้วเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นนั้นก็เป็นที่แปด แต่ก็ยังเป็นองค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น และจะไปสู่ความพินาศ

17:12 เขาทั้งสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้นคือกษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่จะรับอำนาจอย่างกษัตริย์ด้วยกันกับสัตว์ร้ายนั้นหนึ่งชั่วโมง

17:13 กษัตริย์ทั้งหลายนั้นมีน้ำพระทัยอย่างเดียวกัน และทรงมอบฤทธิ์และอำนาจของตนไว้แก่สัตว์ร้ายนั้น

17:14 กษัตริย์เหล่านี้จะกระทำสงครามกับพระเมษโปดก และพระเมษโปดกจะทรงชนะพวกเขา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย และทรงเป็นพระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย และผู้ที่อยู่กับพระองค์นั้นเป็นผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียก และทรงเลือกไว้ และเป็นผู้ที่สัตย์ซื่อ"

17:15 และทูตสวรรค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ

17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ

17:17 เพราะว่าพระเจ้าทรงดลใจเขาให้กระทำตามพระทัยของพระองค์ โดยการทรงทำให้พวกเขามีความคิดอย่างเดียวกัน และมอบอาณาจักรของเขาให้แก่สัตว์ร้ายนั้น จนถึงจะสำเร็จตามพระวจนะของพระเจ้า

17:18 "และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"

ที่มา http://www.bibledbdata.org/onlinebibles/thai/66_017.htm​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมใหญ่เม็กซิโกกว่า 1 ล้านคนเดือดร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 พฤศจิกายน 2550 00:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยเร่งปฏิบัติงานอย่างหนักวันศุกร์(2) เพื่อช่วยเหลือประชาชนหลายแสนคนในรัฐตาบัสโก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก ที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีบันทึกสถิติกันมา โดยผู้ว่าการรัฐ อันเดรส กรานิเอร์ ประมาณการว่าในจำนวนพลเมืองของรัฐ 2.1 ล้านคน มีมากกว่าครึ่งกำลังลำบากเดือดร้อน

เจ้าหน้าที่หลายรายบอกว่า ตาบัสโกซึ่งเป็นรัฐริมอ่าวเม็กซิโกที่ร่ำรวยด้วยน้ำมัน เวลานี้จมอยู่ในน้ำราว 80% โดยมีเมืองเล็กเมืองน้อยกว่า 850 เมืองถูกน้ำท่วม ทั้งนี้เนื่องจากอิทธิพลของแนวปะทะอากาศเย็น (cold front) ทำให้ฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ยอมหยุดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนระดับน้ำของแม่น้ำสายต่างๆ ในบริเวณนี้ขึ้นสูงเอ่อล้นฝั่ง ยิ่งกว่านั้นคาดหมายกันว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีกในช่วงสองสามวันข้างหน้า

ผู้ว่าการกรานิเอร์บอกว่า กรณีของเมืองนิวออร์ลีนส์ที่เผชิญพายุเฮอร์ริเคน แคทรีนา ในปี 2005 ถือเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไปเลย เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับอุทกภัยซึ่งตาบัสโกกำลังเผชิญอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะที่แคทรีนาผลาญชีวิตผู้คนไปกว่า 1,000 คนเฉพาะที่นิวออร์ลีนเมืองเดียว น้ำท่วมใหญ่ที่ตาบัสโกยังมีผู้เสียชีวิตไปแค่คนเดียวเท่านั้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000130589​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แหนมเนืองเน่าท้องร่วงเฉียบพลันลามฮานอย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 ตุลาคม 2550 14:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ภาพถ่ายวันที่ 26 ต.ค.2550 แม่ค้าหาบเร่ที่ริมทางเท้าถนนสายหนึ่งในเขตกรุงเก่าฮานอย กำลังตักขนมจีนชามร้อนบริการลูกค้า ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกเตือนพวกที่ชอบกินสุกๆ ดิบๆ ระวังการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสท้องร่วงชนิดเฉียบพลันรุนแรง (ภาพ: AFP)​

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ออกเตือนให้ประชาชนระวัง "โรคท้องร่วง" ชนิดรุนแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัส กำลังแพร่ระบาดในเมืองหลวงกับอีกหลายจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตครึ่งต่อครึ่ง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ​

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์จิ่งก๋วนฮ่วน (Trinh Quan Huan) กล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซเพรส ว่า การระบาดเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยหลายรายถูกนำส่งโรงพยาบาลหลังพบมีอาการท้องร่วงเฉียบพลัน อาเจียน และ กระหายน้ำ​

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร และเข้ารับการรักษาจากแพทย์แผนโบราณ เมื่อนำส่งโรงพยาบาลของรัฐจึงทราบแน่ชัดว่า เป็นโรคท้องร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง​

ผู้ป่วยส่วนใหญ่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ แหนมหมู และปลาดิบห่อผัก อันเป็นอาหารยอดนิยมประจำท้องถิ่นต่างๆ ในเวียดนาม​

ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเป็นท้องร่วงชนิดเฉียบพลันรุนแรง นับจำนวนได้ถึง 33 ราย จากท้องที่ 11 อำเภอทั้งในฮานอย และ จ.ห่าเตย (Ha Tay) จ.หวิงฟุ (Vinh Phuc) ทั้งหมดถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลโรคเขตร้อนกับอีก 2 แห่งในฮานอย​

ดร.ฮ่วน กล่าวว่า 90% ของผู้ป่วยที่พบรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ซึ่งรวมทั้งกะปิกุ้งด้วย ทางการได้สั่งห้ามใช้เครื่องปรุงจากกุ้งชนิดนี้ตามโรงแรมต่างๆ แล้ว​

ไวรัสชนิดนี้จะออกมากับของเหลวจากร่างกายผู้ป่วยและยังไม่มีตัวยาใดสามารถกำจัดได้ หมอต้องใช้วิธีให้ดื่มน้ำสะอาดและให้น้ำเกลือชดเชยเนื่องจากร่างกายขาดน้ำมาก​

กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งคณะกรรมการออกตรวจความสะอาดของอาหารในหายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธ (31 ต.ค.) นี้เป็นต้นไป เวียดนามเอ็กซเพรส กล่าว​

ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000129273​

 

ไปทำบุญจริงหรือนั่น...แล้วได้บุญมั๊ยนั่น
โดยคุณบุญโต​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

เรื่องของเรื่องก็คือ

 

Mexico's Gulf coast, Friday, Nov. 2, 2007

 

ขอเป็นหน้าม้าสักนิด เผื่อบางท่านจะสนใจ

"สึนามิ 2565 โลกาพิบัติ "
นําแสดงโดย คุณชลิต เฟื่องอารมณ์ , ภานุเดช วัฒนสุชาติ , อภิรดี ภวภูตานนท์ ทุ่มทุนสร้างกว่า 160 ล้านบาท

เมษายน 2551 นี้ ทุกโรงภาพยนตร์​

20Th June Entertainment จำกัด
http://www.thailandbeauties.com/webboard/index.php?showtopic=1993

 

[FONT=Times New Roman,Georgia,Times][/FONT][FONT=Times New Roman,Georgia,Times]โลกเอียงแล้ว???
[/FONT]<table cool="cool" gridx="16" gridy="16" showgridx="showgridx" showgridy="showgridy" usegridx="usegridx" usegridy="usegridy" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="1537" width="604"><tbody><tr height="111"><td content="content" csheight="111" colspan="4" xpos="10" bgcolor="#ffe4c4" height="111" valign="top" width="551">

[FONT=Times New Roman,Georgia,Times]Earth's Axis Tilts +26 deg.
[/FONT][FONT=Times New Roman,Georgia,Times]Cause of extreme weather?[/FONT]​

</td> <td height="111" width="1"><spacer type="block" height="111" width="1"></td> </tr> <tr height="17"> <td rowspan="5" height="737" width="22">
</td> <td colspan="2" height="17" width="416">
</td> <td rowspan="2" height="145" width="113">
</td> <td height="17" width="1"><spacer type="block" height="17" width="1"></td> </tr> <tr height="128"> <td colspan="2" rowspan="2" xpos="32" align="left" height="336" valign="top" width="416"></td> <td height="128" width="1"><spacer type="block" height="128" width="1"></td> </tr> <tr height="208"> <td content="content" csheight="48" colspan="2" xpos="448" height="208" valign="top" width="128">[FONT=Trebuchet MS, Geneva, Arial, Helvetica, SunSans-Regular, sans-serif]Normal
[/FONT][FONT=Trebuchet MS, Geneva, Arial, Helvetica, SunSans-Regular, sans-serif]23.5 degree tilt[/FONT]</td> <td height="208" width="1"><spacer type="block" height="208" width="1"></td> </tr> <tr height="160"> <td colspan="2" rowspan="2" xpos="32" align="left" height="384" valign="top" width="416"></td> <td colspan="2" height="160" width="128">
</td> <td height="160" width="1"><spacer type="block" height="160" width="1"></td> </tr> <tr height="224"> <td content="content" csheight="48" colspan="2" xpos="448" height="224" valign="top" width="128">[FONT=Trebuchet MS, Geneva, Arial, Helvetica, SunSans-Regular, sans-serif]Current
49.5 degree [/FONT]</td></tr></tbody></table>
​

 

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ วันที่ 03 พฤศจิกายน 2550 13.00 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 3 ลูก
1) Tropical Deoression 21W (17.7N 128.4E,25kts): เมื่อเวลา 13.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็น พายุดีเปรสชันแล้ว ที่ ละติจูด 17.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 128.4 องศาตะวันออก บริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนใต้ ความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 25 นอต หรือ 46 กม./ชม. คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนอีกภายใน12 ชม. และจะถูกตั้งชื่อว่า PEIPAH (เปย์ปาห์)
2) Tropical Disturbance 97W(11.7N 110.6E,10-15kts): หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง ที่ ละติจูด 11.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.6 องศาตะวันออก บริเวณทางด้านตะวันตกของเมือง นาตรัง ประเทศเวียตนาม ความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 10-15 นอต หรือ 19-28 กม./ชม. และพายุลูกนี้เป็นพายุลูกเดียวกับที่กรมอุตุฯประกาศเตือนภัย
http://www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=925
3) TC 98W(6.4N 140.0E,15kts): หย่อมความกดอากาศต่ำ ที่ ละติจูด 6.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 140.0 องศาตะวันออก บริเวณทางทิศตะวันตกของหมู่เกาะ ปาเลา ความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต หรือ 28 กม./ชม.

 

อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดครับ

 

ข่าวดี!!! ปีนี้ประเทศไทยจะไม่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงอย่างแน่นอน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

อิเหนาผวาภูเขาไฟบึ้ม 3 ลูกซ้อน! ​

</TD></TR><TR><TD colSpan=3>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="8%"></TD><TD width="92%">

โดย ข่าวสด [ 28-10-2550 ]​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"></TD><TD width="93%">เมื่อ 27 ต.ค. เอพีรายงานว่า ศูนย์ภูเขาไฟและธรณีวิทยา ประเทศอินโดนีเซีย สั่งปรับระดับเฝ้าระวังภัยภูเขาไฟ 3 ลูกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตรวจพบอัตราการปะทุในระดับที่น่าเป็นห่วง และ 2 ใน 3 ลูกอาจเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นเร็วๆ นี้

ภูเขาไฟ 1 ใน 3 แห่งที่ทางศูนย์ฯ เฝ้าติดตามเป็นพิเศษ คือ อานัก กรากาตัว หรือ บุตรแห่งกรากาตัว แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบซุนดา ระหว่างเกาะสุมาตรากับเกาะชวา ห่างจากทิศตะวันตกของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซียเพียง 130 กิโลเมตร โดยในรอบ 2-3 วันที่ผ่านมา ภูเขาปะทุและสั่นไหวบ่อยครั้ง

สำหรับภูเขาไฟอีก 2 ลูกที่ทางการจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่ ภูเขาไฟโซปูตัน ในเขตสุลาเวสีเหนือ ซึ่งปะทุตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พ่นกลุ่มควันเถ้าถ่านสูงขึ้นไปบนอากาศสูง 1 กิโลเมตร แต่ล่าสุดได้ลดความรุนแรงลง และภูเขาไฟอีกลูกตั้งอยู่ในเขตชวาตะวันออก คือ ภูเขาไฟเคลัต ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,731 ฟุต เริ่มปะทุหนักมาตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. จนทางการต้องอพยพประชาชน 1.3 แสนคนออกจากรัศมีโดยรอบ 10 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_779879", true); </SCRIPT> สมาชิก

</TD></TR></TBODY></TABLE>ถ้าภูเขาไฟสามลูกระเบิดพร้อมกัน คงน่ากลัวมากเลยนะ เพราะแค่ไฟป่า ที่อินโด ทุกปีที่พัดมายังมาเลเซีย และมายังทางใต้ของไทย ควันปกคลุมขนาดที่ถึงขั้นอันตราย โรงเรียนต้องปิดตัว บริษัทต้องหยุดทำงาน

เคยมีปีหนึ่งควันมากขนาดมองไประยะไม่เกิน 10 เมตร จะมองอะไรไม่เห็น บ้านเหมือนโดนรมควัน ต้องปิดประตูหน้าต่างไม่อย่างนั้นควันเข้ามาแล้วจะระบายไม่ได้ แล้วจะต้องนอนดมควัน

แต่นี่ภูเขาไฟ เขม่าควัน คงมากกว่าหลายเท่า แถมยังมีพวก กำมะถัน ออกมาปนกับน้ำฝน เขม่าอาจปกคลุมไปยิ่งว่า ควันไฟป่าอีก พูดถึงน่าจะมีการเตรียมๆ อะไรไว้บ้าง จริงๆ คนอาจมองว่า ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ผลอาจส่งมาถึงเราก็ได้ ขนาดตอนการากาตั้วระเบิด ควันปกคลุมโลก อากาศที่ยุโรปยังลด (คิดว่าจะไม่ผิด คือ ลดลงไป 10 องศา) เป็นเวลาอยู่นาน<!-- / message --><!-- sig -->

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
​

kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_779913", true); </SCRIPT> สมาชิก

หากภูเขาไฟที่อินโด 3 ลูกชุดนี้ระเบิด ก็ขอให้เตรียมใจรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และภัยธรรมชาติที่รุนแรงแบบไม่ธรรมดากันเอาไว้ได้เลยครับ ยังไรช่วยกันเฝ้าระวังกันเอาไว้ด้วยครับ

-แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เพลทที่กำลังหมิ่นๆ อยู่ตามที่นักวิชาการได้เตือนเอาไว้ บริเวณอินโดนีเซีย

-ซึนามิที่มีผลจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกและแรงสั่นสะเทือนของภูเขาไฟ

-เถ้าเขม่ากำมะถันและฝนกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนและปกคลุม ชั้นบรรยากาศ ส่งผลทั้งทำให้เจ็บป่วย พืชผลเสียหาย และอากาศหนาวเย็น เป็นทุพภิกขภัย

-พื้นที่บริเวณอื่นรวมทั้งในไทยเองที่จะถูกแรงดันของลาวาใต้โลก ดันให้มีพื้นที่เป็นรอยแยก รอยร้าวและมีลาวาผุดขึ้นมาจากใต้โลก

เป็นแนวโน้มขึ้นกับระดับความรุนแรงของภูเขาไฟชุดนี้ครับ และอย่าลืมตรวจสอบภูเขาไฟใต้มหาสมุทรในบริเวณโดยรอบๆ ด้วย
<!-- / message --><!-- sig -->

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
​

tossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_781701", true); </SCRIPT> สมาชิก

หากภูขาไฟใต้ทะเลบริเวณอ่าวไทยปะทุขึ้นมาด้วย จะทำให้เกิดปรากฏการลานีญ่าที่รุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าอันเนื่องจากน้ำทะเลในอ่าวไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เกิดไอน้ำในอากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2 ถึง 3 เท่าตัว นั่นคือจะมีปริมาณฝนตกหนักทั่วทุกพื้นที่ของเอเซียอาคเนย์รวมทั้งประเทศไทยด้วย อาจจะเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย และอาจจะเกิดเป็นพายุใต้ฝุ่นรุนแรงพัดขึ้นฝั่งประเทศไทยได้ เราอาจจะได้พบกับปรากฏการณ์พายุฝนกระหน่ำอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวนี้ได้ทั้งๆ ที่อากาศหนาวแต่มีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั่วประเทศ หรืออาจจะเกิดลูกเห็บ หรือเกิดหิมะตกทางภาคเหนือก็เป็นได้ครับ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​

<!-- / message --><!-- edit note -->​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=68851&page=9

 

น้ำท่วมรุนแรงในเม็กซิโกส่งผลไร้ที่อยู่อาศัยนับแสนคน

​

สถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรงในรัฐตาบัสโก เม็กซิโก ส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะจำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยที่มีนับแสนคน

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงอีกครั้งของเม็กซิโก ทิ้งร่องรอยความเสียหายให้เห็นทั่วรัฐตาบัสโก ท่ามกลางรายงานข่าวเรื่องการปล้นสะดมฝีมือของผู้ประสบภัยที่กำลังหิวโหย และคำเตือนเรื่องการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ถนนหนทางในเมืองหลักในรัฐนี้ยังมีน้ำท่วมขัง ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ต้องอาศัยเต็นท์ที่พักชั่วคราว หลังจากละทิ้งบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม อาหารเริ่มขาดแคลน และโรงพยาบาลราว 150 แห่ง ไม่มีบุคลากรเข้าทำหน้าที่ หลังจากหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนักติดต่อกันนานนับสัปดาห์ จนทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ก่อนไหล่บ่าเข้าท่วมพื้นที่อย่างน้อย 80% ในรัฐนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบริการเกือบทั้งหมด รวมถึงน้ำดื่ม และระบบขนส่งมวลชน ต้องระงับการให้บริการ.

2007-11-04 | 01:38:58

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในเวียดนามเพิ่มเป็น 18 คน

​

เวียดนามรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 18 คนในสัปดาห์นี้

ฮานอย 3 พ.ย.

 

สาส์นจากแม่พระธรณีถึงผู้รับใช้(ฉบับที่ 14)
ให้ไว้ ณ.วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2549​

แม่พระธรณี​

อีกเพลาแค่ 1 วันสวรรค์เท่านั้น(1 ปีมนุษย์) ความอดอยากจะเข้ามาหาพวกเจ้าและทุกๆ คนที่อยู่บนพื้นแผ่นธรณี เลือดจะนองธรณี เจ้าจำนะลูกนะ เลือดจะนองธรณีขึ้นทุกวัน เสียงดังของสิ่งที่เจ้าเรียกว่า

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; BORDER-LEFT: gray 1px solid" align=middle width="100%" colSpan=3>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
"หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง" [/SIZE]
ฉบับที่ 8 (343/2550) ลงวันที่ 04 พฤศจิกายน 2550
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" align=middle width="100%" colSpan=3> <DD>ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2550 <DD>สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นโดยทั่วไป
</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>