อยากสอบถาม สงสัยว่าพุทธภูมิ คือ พระโพธิสัตว์ หรือพระพุทธเจ้า กันแน่?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 2 เมษายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อริยะบุคคลมีแปดจำพวก

    อริยะสงฆ์ ก็จัดอยู่ใน อริยะบุคคลแปดจำพวก อริยะเจ้าก็จัดอยู่ในอริยะสงฆ์ ที่อยู่ในอริยะบุคคลแปดจำพวก

    อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
    อริยบุคคล บุคคลผู้เป็นอริยะ,
    ท่านผู้บรรลุธรรมวิเศษมี ๔ คือ
    ๑. พระโสดาบัน
    ๒. พระสกทาคามี (หรือสกิทาคามี)
    ๓. พระอนาคามี
    ๔. พระอรหันต์ ;

    แบ่งพิสดารเป็น ๘ คือ
    ผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค และพระผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล คู่ ๑,
    ผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิมรรค และพระผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิผล คู่ ๑,
    ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค และพระผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล คู่ ๑,
    ผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรค และพระผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล คู่ ๑

     
  2. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ถูกต้องครับ แต่ไม่สามารถบังเกิดขึ้นกับพระโพธิสัตว์ได้ แต่ถ้าลาพุทธภูมิเมื่อใดแล้ว ฐานจิต และอารมณ์ผู้นั้นเป็นพระอริยบุคคลก็นิพพานได้ในเร็ววันครับ
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ดังนั้นเวลากล่าวถึงอริยะบุคคล เพื่อความกระจ่างบางโอกาสจึงควรกล่าวจำเพาะลงไปด้วยก็จะดีครับ

    วลาเรากล่าวถึงอริยะบุคคล ก็เป็นที่ทราบและเข้าใจว่ามีแปดจำพวก แต่เวลาที่เราต้องกล่าวอธิบายในภูมิธรรมอันเกี่ยวเนื่องกันกับความเป็นอริยะบุคคลนี้ ควรต้องอธิบายให้กระจ่างชัด และต้องจำแนกให้ชัดเจนว่า ภูมิธรรมที่เรากำลังอธิบายเกี่ยวเนื่องกับอริยะบุคคลจำพวกใด ในแปดจำพวก การที่เรากล่าวรวมไม่จำแนก อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ถึงเนื้อแก่นแท้ภายใน ดังนั้นผู้อธิบายต้องรู้ว่า เวลาอธิบายในแต่ละครั้งนั้น ควรกล่าวสั้นแค่คำว่าอริยะบุคคลก็พอ หรือในบางโอกาสจำเป็นต้องกล่าวแบบจำเพาะลงไปว่าเป็นอริยะบุคคลจำพวกใด เวลาสั่งสอนธรรมอธิบายธรรมก็จะได้กล่าวแสดงให้เขาอย่างตรงกับภูมิธรรมของเขาเหล่านั้น จะได้ไม่เสียเวลาหรือเพื่อให้เสียดแทงจิตตรงที่สุดเพื่อความบรรลุธรรมที่สูงยิ่งๆขึ้นไปครับ

    ส่วนเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด เนื่องจากกระผมเป็นเพียงนักปฏิบัติ ไม่ได้มีอะไรมาการันตีย์ ก็สุดแท้แต่ท่านจะพิจารณาครับ ไม่นานหากกระผมถึงเวลาได้บวชปฏิบัติธรรม หลังจากธุดงค์จนมั่นใจว่าเอาชนะกิเลสเข้าถึงพระธรรมได้แล้ว คงได้มีโอกาสเผยแพร่พระธรรมก็ค่อยมาคุยกันต่อก็ยินดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2013
  4. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    พุทธภูมิ นี้คือคนที่จะบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ หรือ พระพุทธเจ้ากันแน่?
    -พุทธภูมิ แปลว่า ผู้เป็นแดนเกิดของพระพุทธเจ้า หมายถึงพระโพธิสัตว์ ใช้เรียกรวมๆทั้งพวกนิตยะ และอนิตยะ

    พุทธภูมินี้มีผู้หญิงไหม ถ้าไม่มี ทำไมถึงมี เจ้าแม่กวนอิม หรือ พระแม่ อารยา ธารา ยังเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ก็แสดงว่า ผู้หญิงเป็นพระโพธิสัตว์ได้เหมือนกัน?
    -มี ช่วงที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ เป็นได้ทั้งชาย ทั้งหญิง
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ไม่แบ่งแยกว่าต้องเป็นเพศหญิง ชาย มนุษย์ สัตว์ ร่ำรวย ยากจน คนธรรมดา หรือกษัติย์ เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมที่กำลังตามให้ผล ขึ้นอยู่กับปราถนาของจิตในขณะนั้น ว่าปราถนาที่จะมาสร้างบารมีอะไรเพื่ออะไร ครับ

    ขอกล่าวเสริมในส่วนของพระแม่กวนอิม[พระอวโลกิเตศวร] ความจริง ไม่มีความเป็นเพศสำหรับท่าน แต่พระนามนี้ ถูกกล่าวเรียกมา อันมีปฐมเหตุเดิมที่พระอวโลกิเตศวร เกิดเป็นหญิง สร้างบารมีที่เป็นมหาบารมี คือพระนางกวนสี่อิม ให้ทานด้วยเลือดเนื้อของตนแก่ผู้อื่น ซึ่งก็หมายถึงให้ชีวิตตนเป็นทานนั่นเอง จึงเป็นมหาทาน และกลายเป็นพระนามที่กล่าวเรียกกันตามบารมีที่สร้างนั่นเองครับ

     
  6. โต้งสารคาม

    โต้งสารคาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +65
    ผมเปรียบง่ายๆ แบบเรียนหนังสือแล้วกันครับว่า

    ผู้ที่มุ่งเป้นพระอรหันต์สาวก เปรียบเหมือนเรียนชั้น ปวช. ปวส. คือเรียน ปวช สามปีก็สำเร็จการศึกษาได้รับวุฒิไปทำงาน พอเรียน ปวส.สองปี ก็สำเร็จการศึกษาได้วุฒิ ปวส.ไปสมัครทำงาน
    ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์เปรียบเหมือนเรียนระดับปริญญาตรีสี่ปี คนที่เรียนปริญญาตรีสี่ปี แม้ว่าจะเรียนผ่านไปสองปีก็จะไม่ได้รับวุฒิใดๆเลย แต่ได้ความรู้เทียบ ปวส.ที่เรียนสองปีนั้นละครับ จนเมื่อเรียนครบสี่ปีสำเร็จการศึกษาจึงได้รับวุฒิปริญญาตรีที่เดียวเลย
    คุณ tis เน้นความรู้ทางมหายานแบบจีนหรือไต้หวันหรือเปล่าครับ จึงเชื่อแบบนั้น ทางสายเถรวาทจะเชื่อว่าพระโพธิสัตว์ไม่มีสิทธิ์เป็นพระอริยบุคคลได้ เว้นแต่ลาพุทธภูมิครับ ส่วนตัวผมเองขอของให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดก็ดีสุดแล้วครับ เป็นอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็พอแล้วครับ
     
  7. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เท่าที่อ่านมาจากหลายๆท่านอธิบายดี พอจะมองออกแล้วว่า การเป็นพระโพธิสัตว์ นั้นยากเย็นเหลือเกินแต่ ถ้าท่านช่วยเหลือ มนุษย์ และสัตว์ ได้หมด แล้ว ท่านต้องได้บุญมากมายทีเดียว
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    สรุป พระโพธิสัตว์ก็คือคนที่ บำเพ็ญบารมีเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้า ถ้างั้นชาติสุดท้ายที่ได้เป็นพระพุทธเจ้าก็เป็นพระอหันต์ ได้ใชไหมคะ
     
  9. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ใช่แล้วครับ ชาติสุดท้ายรวมบารมีทั้งหมดเพื่อบรรลุอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดสัตว์ และเข้านิพพาน ชาติใหม่ภพใหม่ของพระองค์ไม่มีอีก
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:แสดงว่าคุณอ่านไม่เข้าใจ ถึงได้ถามมาเช่นนี้ ผมพูดชันเจน โดย ที่ไม่ต้องอธิบายซ้ำ ผมไม่ได้อ่านตำราอย่างเดียว ผมทำด้วย เรียนรู้ จากผู้ รู้ ต่างๆ จดจำ รักจำ การกระทำของ บุคคลนั้นๆ และทำ มาด้วยตนเอง ถึงยังไม่ได้ มรรคผลอะไร ก็รู้ ว่าอะไรผิด หรือถูก ย่อม แยกแยะได้ครับ ว่าดีหรือชั่ว ผิดหลักการ หรือถูก หลักการ ทุกอย่างมีถูกก็มีผิด มีผิด ก็มีถูก แต่อย่างไหน จะผิดถูก มากกว่ากันเท่านั้นครับ แต่ อย่างไหน ถ้าผิด ผมจะยอมรับ ไม่ดื้อดึง ยอมรับเหตุผล ซึ่งกันและกัน ตาบใด ยังเป็นผู้ ศึกษาอยู่ ย่อมมีผิดพาด เสมอๆครับ


    คำว่า พระอริยเจ้า กับ พระอริยบุคคล มันจะต่างกันตรงไหน มันไม่ต่างกันหรอกครับ มันต่างกันที่ สำเร็จ ขั้น กับ สำเร็จชั้น ตั้งแต่ พระโสดาบัน ถึงพระอรหันต์ มันต่างชั้นต่างขั้น และต่างกันที่เพศ นักบวช สำเร็จได้ ฆราวาสก็ สำเร็จ มรรคผลได้ ไม่ว่าเพศหญิงหรือชาย มีสิทธิ สำเร็จมรรคผล ได้เหมือนกันหมด ไม่อยู่ในเพศอะไร เมื่อได้ ดวงตาเห็น ธรรม หมายถึง เอา ตั้งแต่ พระโสดาบันขึ้นไป เรียกว่า เป็นพระอริยบุคคลใน พระพุทธศาสนา ถ้ามาบวช นุ่งเหลือง ห่มเหลือง ยังไม่ได้แม้แต่ ฌาณ โลกีย์ ยังไม่เป็น พระอริยเจ้า พระพทุธองค์เรียก สมมุติสงฆ์ครับ


    สมมุติสงฆ์ หรือฆราวาส ยังไม่ได้ มรรคผลใดๆยังต้องศึกษาอยู่ เพื่อจะได้ ธรรม ในวันต่อๆไป เขาเรียกว่า พระโยคาวจร
    คุณถาม(แล้วการที่พระโพธิสัตว์ไม่สามารถเป็นพระอริยะเจ้าได้นี่เป็นอย่างไร ทำไมท่านเป็นพระอริยะเจ้าไม่ได้) ตอนนี้สิไม่น่าถาม ผมพูดอย่างชัดเจน ไม่หน้าถามซ้ำนะ ผมถามหน่อย ในเมื่อพระโพธิสัตว์ ท่าน บำเพ็ญเพียรอยู่ ทำความปราถนาอยู่ ที่จะไปเป็นพระพุทธเจ้า มันจะสำเร็จ มรรคผล เป็นพระอริยเจ้าได้ไง ถ้าลา มาเป็นสาวก จะต้องบำเพ็ญ ความเพียร ให้เข้าถึง มรรคผลนิพพาน ไม่บำเพ็ญต่อ เป็นพระโพธิสัตว์ การทำความปราถนานั้น ทำได้ แต่ถึงยาก ฉนั้น จึงมีพระโพธิสัตว์ ลาพุทธภูมิออกมากมาย


    คุณถาม พระอริยะเจ้า ผมคิดว่าคำนี้ความหมายกว้างมาก แต่ถ้าเฉพาะเจาะจงว่า พระโพธิสัตว์ ไม่สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ ตรงนี้ตรงกับภูมิความรู้และสิ่งที่ครูอาจารย์สั่งสอนมาครับ

    ผมว่า ข้อความมันไม่ได้กว้าง อย่างที่คุณ พูดมาหรอกครับ มันลงตัวแล้ว พูดง่ายฟังง่ายแล้ว พระโพธิสัตว์ กับพระอริยเจ้า มันก็ต่างกันแล้วครับ มันต่างเพราะการกระทำ ความปราถนา คนจะรื้อสัตว์ ขนสัตว์ ให้พ้นจากทุกข์ มันกว้างใหญ่ไพรศาล กับคน ที่ทำตัวเองพ้นทุกข์ คนเดียว มันต่างกันตรงนี้ พระพุทธเจ้าก็ไปนิพพาน พระสาวก ก็ไปนิพพาน

    พระสาวก ไปนิพพานองค์ เดียว พระพุทธเจ้า สอนคนไปนิพพาน นับไม่ถ้วน มันต่างกันที่ที่น้ำใจ พระมหากรุณาธิคุณ ไปนิพพานน่ะ มันไม่ต่างกันหรอกครับ ไปที่เดียวกัน หมดทุกข์ เหมือนกัน มีความสุขเหมือนกัน ใครไปก่อน สบายก่อน ไปทีหลังสบายที่หลังครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เรื่องความเป็นอริยะบุคคล ก็ดี ความเป็นอริยะเจ้าก็ดี ความเป็นอริยะสงฆ์ ก็ดี
    เวลากล่าว ปกติจะกล่าวรวมได้ แต่หากมีเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องแก่นธรรม หรือข้อวัตรปฏิบัติ ที่นำไปสู่ความเป็นอริยะบุคคล นั้นจำเป็นต้องกล่าวอย่างละเอียดเพราะมีความต่างกัน เพราะว่า
    พระโสดาบันก็เป็นอริยะบุคคล พระอรหันต์ก็เป็นอริยะบุคคลเหมือนกันแต่เนื้อในแก่นแท้ต่างกัน คือพระโสดาบันศีลต้องบริบูรณ์เป็นต้น แต่พระอรหันต์นี่ศีล สมาธิ ภาวนา ถึงที่สุดบรรลุพระธรรมฝ่ายโลกุตระแล้ว

    ผมเข้าใจว่า ท่านทั้งหลายต่างหากที่ไม่พยายามอธิบายให้เกิดความกระจ่างในความเป็นอริยะบุคคลแต่ละระดับชั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะแต่ละท่านก็มีภูมิธรรมต่างกัน สุดท้ายก็ไม่เป็นไรครับผิดถูกเราก็ขอแลกเปลี่ยนกันครับ ก็ยินดีและอนุโมทนากับทุกๆความเห็นครับ

    สำหรับแนวทางของผมไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นหินยานหรือมหายาน เพราะครูบาอาจารย์ของผม ท่านก็มีทั้งสองฝ่ายความจริงแล้วแม้บางอย่างที่เกี่ยวด้วยประเพณีการปฏิบัติอาจจะแตกต่างกันบ้างแต่โดยแก่นแท้แล้วคือพระธรรมอันเดียวกัน ซึ่งก็คือพระธรรมของพระพุทธเจ้าเช่นกัน แต่วิธีการอาจต่างกันแต่จุดหมายเดียวกันครับ
    ดังนั้นสิ่งที่ผมถ่ายทอดออกมาจึงสามารถอธิบายได้ทั้งแบบหินยายและมหายานเพราะทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันและถือกำเนิดจากสิ่งเดียวกัน มีเป้าหมายคือจุดหมายเดียวกัน
    แต่ที่หลายๆท่านคิดว่าแตกต่างกันผิดแผกออกไป หากท่านศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วลองเทียบเคียงและใช้จิตที่ผ่านการฝึกฝนภาวนามามากพอสมควรพอจะมีปัญญาก็จะสามารถมีความเข้าใจและมีปัญญารู้แจ้งในเหตุผลและที่มา ทำให้เข้าใจถึงแก่นแท้ภายในได้ จุดสำคัญจึงอยู่ที่ตรงนี้ครับ สาธุครับ
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =========

    ขอบคุณครับที่ได้อธิบายในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจครับ
    สรุปก็คือว่ายังไม่กระจ่างเท่าที่ควรแต่ก็ไม่เป็นไรครับ

    สุดท้ายสำหรับความเข้าใจของกระผม กระผมคิดเสมอว่า มันไม่แปลก หรือจะเป็นไปไม่ได้ว่า พระโพธิสัตว์จะเป็นอริยะบุคคล หรือพระอริยะเจ้า หรืออริยะสงฆ์ไม่ได้ [ยกเว้นพระอรหันต์อริยะบุคคล] ผมศรัทธาในหลวงปู่ทวดและสมเด็จโต หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อปาน หลวงพ่อเดิมมาก ผมกราบไหว้และบูชาท่าน ด้วยการปฏิบัติบูชาเพราะท่านคือแบบอย่างแห่งพระโพธิสัตว์ ผู้เป็นอริยะสงฆ์ ผู้เป็นพระอริยะจ้า ตามความเข้าใจของผม ก็แล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อแบบไหนอย่างไรก็สุดแท้แต่ท่านครับ

    สุดท้ายก็ขออนุโมทนากับทุกท่านอีกครับกับทุกความเห็นครับ สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อยากทราบคะ ว่า พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านต้อง บำเพ็ญเป็น พระโพธิสัตว์ ก่อนชาติสุดท้ายด้วย หรือ เปล่า คะ
     
  14. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    พระปัจเจกพุทธเจ้า ถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ตรัสรู้ได้โดยพระองค์เอง และรู้ได้เฉพาะตน แต่มิได้สั่งสอนให้ผู้ใดรู้ตาม จึงไม่มีการประกาศศาสนา และไม่มีสาวก

    ดังนั้น ท่านจึงไม่ได้สร้างบารมีมาแบบพระโพธิสัตว์ และในชาติสุดท้ายก็ไม่จำเป็นต้องบำเพ็ญแบบพระโพธิสัตว์

    เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า นั้นมีมากมาย เกินวิสัยที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะกล่าวได้ ก็ขอตอบเฉพาะเท่าที่ถาม

    แต่จะขอทิ้งปริศนาไว้ พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น คือผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิมาแล้วทั้งสิ้น เว้นเสียจากเป็นผู้ตั้งใจปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

    จะขอยกพระพุทธพจน์ ที่พระพุทธองค์ตรัสแก่พระอานนท์ในคัมภีร์ปัจเจกพุทธาปธานว่า

    "ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย"
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==========

    อนุโมทนาสาธุ ครับ นี่แหละคือความสัจจริงครับ จากพระพุทธวัจนะ กล่าวไว้ว่า "ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้า
     
  16. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    พระปัจเจกพุทธเจ้า ก่อนๆชาติสุดท้ายไม่น่าจะเรียกว่า พระโพธิสัตว์ นะครับ

    คำว่าโพธิ์ เหมือนต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ผู้อาศัยใต้ร่มไม้ได้อยู่อย่างร่มเย็น
    ซึ่งรวมทั้ง 2 คำคือ พระโพธิสัตว์ คือ ที่พึ่งพาของเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์

    ซึ่งต่างกับพระปัจเจกที่หลุดพ้นแค่ตนเอง ไม่สามารถสอนให้ผู้อื่นรู้ได้ เสมือนคำว่า ปัจเจก คือรู้ได้เฉพาะตน
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    พระปัจเจกพุทธเจ้า ก่อนๆชาติสุดท้ายไม่น่าจะเรียกว่า พระโพธิสัตว์ นะครับ ///// ตรงนี้ส่วนใหญ่แล้วจะใช่ครับ
    ผมขออธิบายเพิ่มว่า ความเป็นพระปัจจเจกพุทธเจ้า แบ่งเป็นมโนปณิธาณต่างๆดังนี้
    1 ปราถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าตั้งแต่แรกเริ่ม ก็มี
    2 ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วลาพุทธภูมิ ขอเป็นเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็มี
    3 ปราถนาเป็นสาวกภูมิ แต่ไม่อยากรอเวลาที่จะสำเร็จพระอรหันต์ต่อจากพระพุทธเจ้า จึงเร่งความเพียรปราถนาตั้งปณิธาณใหม่ขอเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็มี

    ทีนี้จากทั้งสามเหตุปัจจัย ความจริงแล้วการเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ต้องอาศัยสร้างบารมีมามากมายเช่นกัน แต่ไม่เน้นในเรื่องบุญทานมากนัก จะเน้นที่ศีลข้อวัตรข้อปฏิบัติ จะเน้นการภาวนา เจริญสมาธิมากเป็นที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้เท่านั้นจะนำตนให้เกิดปัญญาตรัสรู้พระธรรม บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ครับ

    ส่วนการแนะนำสั่งสอนนำพาผู้อื่นพ้นทุกข์ตรงนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีเกิดขึ้นจะไม่มีการประกาศพระธรรมหรือศาสนาพุทธเกิดขึ้น แต่ก็อาจจะมีกรณีที่พระปัจเจกอาจจะได้เคยร่วมบุญวาสนาตั้งปณิธาณมาด้วยกัน ครั้นเวลาบรรลุธรรมก็อาจจะมีประกาศแสดงธรรมแก่กันก็เฉพาะกลุ่มหรือสหายธรรมที่เคยร่วมบุญวาสนากันมาก็เท่านั้นและพระธรรมเหล่านั้นก็สลายดับลงตรงนั้นครับ สาธุ

    ทีนี้จากคำถาม ว่าพระปัจเจกพุทธเจ้านี้ จะเรียกว่าต้องสร้างบารมีพระโพธิสัตว์มาก่อนหรือเปล่า ขอตอบว่าโดยส่วนรวมแล้วอาจจะไม่ใช่แบบพระโพธิสัตว์ แต่จะเน้นไปทางสมาธิภาวนา เป็นหลักแบบจอมมุนีปุ๋ฤษี จะเป็นส่วนใหญ๋

    ความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า มีคนนับถือมากน้อยก็อาศัยบุญกุศลที่สั่งสมมาเช่นกัน พระปัจเจกพุทธเจ้าที่สั่งสมบุญทานมามากพร้อมด้วยภาวนามามากถึงเวลาก็ย่อมมีผู้ศรัทธาร่วมทำบุญอนุเคราะห์สงเคราะห์มากเช่นกัน ทุกอย่างอยู่ทีการประกอบเหตุในอดีตไว้ครับ ก็ขอกล่าวเพียงเท่านี้ก่อนครับ สาธุ
     
  18. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    แม้จะเคยเดินเส้นทางพุทธภูมิ แต่เมื่อลาพุทธภูมิแล้ว ก็แสดงว่าเคยเป็นอนิตยโพธิสัตว์(คือยังไม่แน่นอนที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า)

    จากนั้นเมื่อบรรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จะเรียกย้อนหลังไปว่าท่านเป็น พระโพธิสัตว์ ก็ไม่ใช่อยู่ดี
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    บางทีกระผมก็คิดว่า อย่าไปยึดติดมากนัก ในคำว่าพระโพธิสัตว์ เพราะว่ามันก็เป็นนามสมมุติ

    ผู้เป็นอริยะบุคคลทั้งหลาย ย่อมไม่สนใจในสิ่งเหล่านี้ หากสนใจใน การสร้างเหตุ คือการสร้างบุญกุศล ทาน ศีล ภาวนา ให้มาก สร้างบารมีเหล่านี้ให้มาก เพื่อจะได้สำเร็จดั่งปณิธาณ ก็มีเท่านั้นเองครับ ก็อย่างที่เราคุยกันมา และทราบดีว่า คำว่าพระโพธิสัตว์ ความหมายมันกว้าง

    อนาคตอาจจะมีคนไปตีความหมายเพิ่มว่า ฉันจะเป็นพระโพธิสัตว์ แบบมหาเทพแค่นั้นคือ ฉันปราถนาจะช่วยเหลื่อสรรพสัตว์ ด้วยการถือพรหมจรรย์ ทำบุญไว้เยอะะจะได้ช่วยเหลือคนได้ เพราะชอบช่วยเหลือคน แต่ไม่ขอเป็นพระพุทธเจ้า เพราะมันหนักเกินไปเกินความสามารถจะเป็นอย่างนี้ จะปฏิบัติมีข้อวัตรอย่างนี้ และด้วยข้อวัตรปฏิบัติเป็นแบบนี้ เราจะไม่ล่วงตกจากความเป็นมหาเทพ มหาพรหม เราพอใจแบบนี้
    ทีนี้หากเขาปราถนาแบบนี้ เขาพอจะเรียกว่าพระโพธิสัตว์ได้หรือเปล่า คือเป็นได้แค่ช่วยเหลือเป็นที่พึ่ง แค่ทางโลกิยะ ส่วนโลกุตระเข้าไม่ถึง ไม่สามารถพาสรรพสัตว์ข้ามพ้นทุกข์ได้
    ก็สมควรแก่เวลาครับ ปัญญาในโลกนี้มีมากมาย อย่ายึดติดแม้ในภูมิธรรมใดๆหรือแม้ที่ตนมี รู้แล้วปล่อยวาง รักษาจิตให้ว่างสะอาดบริสุทธิ์" ไว้เสมอครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...