อยากสอบถาม สงสัยว่าพุทธภูมิ คือ พระโพธิสัตว์ หรือพระพุทธเจ้า กันแน่?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 2 เมษายน 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เราไม่มีความรู้เรื่องพุทธภูมิ แค่แว็บๆมาอ่านใน section นี้เลยรู้สึกสงสัยว่า พุทธภูมิ นี้คือคนที่จะบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์? หรือ พระพุทธเจ้ากันแน่? และ พุทธภูมินี้มีผู้หญิงไหม ถ้าไม่มี ทำไมถึงมี เจ้าแม่กวนอิม หรือ พระแม่ อารยา ธารา ยังเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ก็แสดงว่า ผู้หญิงเป็นพระโพธิสัตว์ได้เหมือนกัน?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  2. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
  3. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    การบำเพ็ญทศบารมี และการปรารถนาพุทธภูมิของบุคคลๆหนึ่ง เรียกว่า พระโพธิสัตว์

    เมื่อทศบารมีเต็ม 30 ทัศ และถึงเวลาที่สมควรที่จะตรัสรู้ในชาติสุดท้ายเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    พูดง่ายๆผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก่อนหน้าการตรัสรู้ในแต่ละชาติก่อนชาติสุดท้ายนั้นเรียกว่า พระโพธิสัตว์ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยตามโพสบนครับ


    ส่วนเรื่องของผู้หญิงที่ปรารถนาพุทธภูมิไม่ใช่แต่ผู้หญิงที่ปรารถนาพุทธภูมิ ได้เท่านั้น สัตว์ในโลกก็สามารถปรารถนาพุทธภูมิได้ทั้งหมดเหมือนกัน แต่ว่าผู้ปรารถนาพุทธภูมิที่บารมีปลาย และเข้มข้นโดยแน่นอนจะไม่บังเกิดเป็นสตรีเพศ เราเลยคุ้นเคยกับพระโพธิสัตว์เป็นบุรุษมากกว่า เพราะว่า บารมีท่านบำเพ็ญมามากอย่างนับไม่ถ้วน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  4. din555

    din555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +544
    หนทาง และจุดหมายปลายทาง
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    พุทธภูมิ หมายถึง ภูมิแห่งพุทธะ หรือกล่าวว่า ความเป็น พระพุทธเจ้า จะบังเกิดขึ้นได้ ย่อมต้องอาศัย การกระทำความดี สร้างกุศล บารมีต่างๆไว้มากมาย

    การที่มนุษย์ผู้นั้นปราถนาพุทธภูมิ สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ต้องสร้างบารมี ช่วงเวลาของการสร้างบารมีเพื่อจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านี้ เรากล่าวนามมนุษย์ผู้นี้ว่า พระโพธิสัตว์
    พระโพธิสัตว์ ซึ่งหมายความได้อีกว่า เป็นผู้ที่กำลังสร้างบารมีเพื่อให้มีปัญญารู้แจ้งเป็นผู้หลุดพ้นห่างไกลกิเลสคือตรัสรู้ด้วยตนเอง และ เป็นผู้ซึ่งกำลังสร้างบารมีเพื่อเป็นร่มโพธิ์ ของเหล่าสรรพสัตว์ เป็นผู้ซึ่งจะนำพาสรรพสัตว์ข้ามพ้นทุกข์

    อันพระโพธิสัตว์ ก็มีหลายระดับชั้น ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญบารมีสั่งสมมามากน้อยไม่เท่ากันเราขอกล่าวเสริมจากตำราในลำดับขั้นของพระโพธิสัตว์ดังนี้คือ

    1 พระโพธิสัตว์บารมีเริ่มต้น เป็นอริยะบุคคลพระโสดาบัน

    2 พระโพธิสัตว์บารมีขั้นต้น เป็นอริยะบุคคลพระสกิทาคามี

    3 พระโพธิสัตว์บารมีขั้นกลาง เป็นอริยะบุคคลพระอนาคามี ขั้นนี้จะบำเพ็ญบารมีถึงขั้นอุปบารมี

    4 พระโพธิสัตว์บารมีขั้นปลาย เป็นอริยะบุคคลพระอนาคามี ขั้นนี้จะบำเพ็ญบารมีถึงขั้นปรมัตถ์บารมี ขั้นนี้จะเริ่มกล่าวพระนามใหม่ว่า พระมหาโพธิสัตว์เพราะสร้างบารมีมามากมายนับไม่ถ้วนหลายกัปป์แล้ว

    5 พระโพธิสัตว์บารมีขั้นสูงสุด ขั้นนี้คือสร้างบารมีสั่งสมใกล้เต็มแล้ว เหลือเวลาเพียงกัปป์สุดท้ายแล้ว ตรงนี้จะเริ่มเข้าสู่พระสัพพัญญุตญาณ รู้แจ้งในวัสัยแห่งพุทธวิสัย รู้แจ้งได้เองว่าจักต้องดำเนินรอยตามพุทธประเพณีพุทธจริยาว่าจะต้องสร้างบารมีส่วนที่เหลือ อย่างไร ก่อนตรัสรู้จะต้องสร้างบารมี10-30ทัศน์ อย่างไร วิสัยแห่งพุทธภูมิจะทราบได้เองเกือบทั้งหมดครับ ขอกล่าวไว้เพียงแค่นี้ก่อนครับสาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =======

    พระโพธิสัตว์ ในลำดับที่1-3จัดอยู่ในพระอนิยตะโพธิสัตว์
    พระโพธิสัตว์ในลำดับที่4 ส่วนหนึ่งจะจัดอยู่ในพระอนิยตะโพธิสัตว์ และส่วนหนึ่งที่บารมีสูงถึงขั้นปรมัตถบารมีจะได้ถูกตรัสทำนายพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า เลื่อนชั้นเป็นพระนิยะโพธิสัตว์
    พระโพธิสัตว์ในลำดับที่5 จัดอยู่ในลำดับขั้นพระนิยตะโพธิสัตว์เท่านั้น

    สาธุครับ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เมื่อคืนกระผมก็สวดมนต์ภาวนาปกติเหมือนเดิมทุกคืน แต่พอจิตสงบว่างอยู่ภายในแล้ว นานพอสมควร ภายในก็สว่าง จิตนิมิตไประลึกถึงพระอวโลกิเตศวร และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ จิตเกิดปัญญาหยั่งรู้อีกประการหนึ่งว่า

    ความเป็นพระโพธิสัตว์ ยังมีพระมหาโพธิสัตว์อีกส่วนหนึ่ง ที่สร้างสั่งสมปารมีไว้มากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน จิตเข้าหยั่งเข้าสู่พระอนาคามีจนใกล้พระอรหันต์แล้ว แต่ถึงแม้จะสร้างปารมีมามากมายก็ตามแต่ก็ยังไม่ได้ถูกตรัสทำนายพยากรณ์ให้เป็นพระอนิยะตะโพธิสัตว์ ทั้งนี้ มีเหตุว่า ขึ้นอยู่กับมโนปณิธานที่ตั้งไว้
    พระมหาโพธิสัตว์ส่วนนี้มีมหาปณิธาณสร้างบารมีที่พิศดาร และใช้ระยะเวลาในการสร้างปารมีอย่างมากและยิ่งยวด หากยังปารมียังไม่มากพอสมดังมโนปณิธานก็จะยังไม่ถูกตรัสทำนายพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าได้ ขอยกตัวอย่างสองพระองค์ดังนี้

    1 พระมหาโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวรเจ้าแม่กวนอิม ท่านอธิฐานตั้งมโนปณิธานว่า ต้องสร้างบารมีไปจนกว่า จะนำพาเหล่าสรรพสัตว์ทั้ง3ไตรภูมิข้ามพ้นทุกข์ให้หมด หมายความว่า หากพระอวโลกิเตศวรสร้างบารมีจนถึงที่สุด ในยุคที่จะได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ในกาละนั้น เหล่าสรรพสัตว์ทั้งสามไตรภูมิจะบรรลุพระธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดไม่มีเหลือ ซึ่งนับว่าเป็นมหาปณิธานที่พิศดารและยากยิ่ง เช่นนี้จึงต้องสร้างบารมีต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนวาระแห่งบุญกุศลที่สั่งสมไว้มากพอ ย่อมถึงฝั่งสำเร็จตามที่พระประสงค์ แต่จะยาวนานแค่ไหนยังไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อไหร่ที่บารมีใกล้เต็มใกล้บรรลุ พระอวโลกิเตศวรก็จะได้ถูกตรัสทำนายพยาการณ์จากพระพุทธเจ้าเองตามพุทธวิสัยแห่งพุทธภูมิครับ

    2 พระมหาโพธิสัตว์ กษิติครรภ์โพธิสัตว์หรือพระมาลัยโพธิสัตว์ พระองค์นี้ก็เช่นกัน ท่านมีมหาปณิธาณ คือ จะนำพาเหล่าสรรพสัตว์ข้ามพ้นทุกข์ โดยเฉพาะในกาละที่ท่านจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในกาละนั้นบารมีของท่านจะส่งผลให้ในนรกภูมิว่างเปล่าไม่มีสรรพสัตว์ที่ต้องทนทุกข์ทรมานในนรก ซึ่งก็ทำได้ยากมากๆเช่นกันเพราะต้องสั่งสมสร้างบารมีโปรดสรรสัตว์จนเหล่าสรรพสัตว์เป็นพระโสดาบันดาเป็นอย่างน้อยทั้งหมด ก็จะไม่มีสรรพสัตว์ที่ตกนรก หากพระมาลัยสร้างปารมีใกล้เต็มตามที่ประสงค์แล้ว ก็จะได้ตรัสทำนายจากพระพุทธเจ้าเช่นกันเมื่อเวลานั้นมาถึงครับ

    นอกจากนี้ยังมีพระมหาโพธิสัตว์ฝ่ายหินยาน และมหายานบางพระองค์ที่มีมหาปณิธาณยิ่งใหญ่พิศดารเช่นนี้อีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้จะขอกล่าวยกตัวอย่างไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ สาธุครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2013
  8. ชาย2550

    ชาย2550 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +1,244
    พระนิตยโพธิสัตว์ คือผู้ที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ว่าจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่นอน เปลี่ยนแปลงไม่ได้

    พระอนิตยโพธิสัตว์ คือผู้ที่ยังมิได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า เป็นผู้ที่ยังไม่แน่นอนว่าจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ (ลาพุทธภูมิ)
     
  9. โต้งสารคาม

    โต้งสารคาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +65
    ท่าน tjs ครับ เท่าที่ศึกษามา ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ จะไม่บรรลุโสดาบันเลยนะครับ เดินคนละสายกับพระอรหันต์ แต่เมื่อลาพุทธภูมิเมื่อไรก็บรรลุได้เร็ว ผิดถูกประการใด ก็เคารพกันและกันครับ
     
  10. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    @โต้งสารคาม @นิวรรฒก์ จากที่ศึกษาผมเห็นด้วยครับ

    คุณ tjs อาจเปรียบเทียบรึปล่าวครับ ตามที่ศึกษามาจริงๆแล้วเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ซึ่งความเป็นอริยบุคคลจะไม่บังเกิดขึ้นเลย แต่ถ้าลาพุทธภูมิแล้ว ถ้าจิตมีฐานเป็นพระโสดาบันเป็นอย่างน้อย หรือพระอรหันต์ ก็สามารถเข้านิพพานได้ในเร็ววันครับ ผิดถูกประการใดอย่าว่ากันนะครับ ผมก็เป็นผู้น้อย :cool:
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การเป็นพระโพธิสัตว์มิใช่เรื่อง่ายๆหรือแค่ปราถนาอยาก แล้วสงเคราะห์ผู้อื่นเล็กๆน้อยๆแล้วก็ได้ชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์ อย่างนั้นหรือ เราจะกล่าวอย่างนั้นก็ไม่ถูกต้องนัก

    ความเป็นพระโพธิสัตว์ ที่ได้ชื่อว่าผู้เป็นนักบุญนักสร้างบารมีนั้น จัดว่าเป็นเทวดาของมนุษย์เป็นยอดมนุษย์นั้น ย่อมต้องเป็นผู้มี ทัศนะคติ ความคิด ความรู้ ศีลธรรมประจำตน มีกรอบกติการะเบียบแบบแผนของตน อย่างนี้จึงกล่าวได้ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ผู้สร้างบารมีจริงๆ

    อย่าลืมนะอริยะบุคคล8จำพวก มิได้จำเป็นว่าต้องอยู่ในสมณเพศเป็นภิกษุเท่านั้น อริยะบุคคลที่เป็นฆารสวาสก็มีมากมาย

    พระโพธิสัตว์ ที่ดีต้องเริ่มต้นด้วยเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรม อย่างนี้หากปฏิบัติได้ก็จัดอยู่ในพระโสดาบันเบื้องต้น ขึ้นไป ไม่ใช่ว่าท่านปราถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นมาก แต่ท่านยังเสพกามผิดศีลข้อสาม ท่านยังฆ่าสัตว์ ท่านยังเล่นการพนัน ท่านยังเสพสุรานารีหรือยังทำบาบมากพอๆกับบุญ อย่างนี้เป็นต้น

    เหล่าเทพเทวดาเขายังไม่กราบไหว้ท่าน ท่านยังไม่ใชยอดมนุษย์ที่มนุษย์ทั้งหลายควรเคารพ อย่างนี้ท่านก็ไม่มีทางไปดุสิตทิพย์วิมานได้หรอก เขาไม่นับท่านหรอกเพราะหากท่านยังเป็นพระโพธิสัตว์แบบงูๆปลาๆครับ ก็ขอให้พิจารณาทบทวนในสิ่งที่ผมกล่าวมา เพราะนี่คือคำสอนจากครูอาจารย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สอนแนะนำกระผม เพราะกระผมเมื่อก่อนก็เคยคิดแบบท่านก็ยังมีทำบาบผิดศีลอยู่ จนมาถึงเวลานี้ มันเห็นแล้วรู้แจ้งแล้วในทางแห่งพระโพธิสัตว์ จึงขอกล่าวให้ทราบอย่างนี้

    ขออนุญาตุเอ่ยความดีงามของ ท่านพระองค์ในหลวง ความจริงไม่มีใครที่จะทราบว่าจริยวัตรท่านดีงามพร้อมบริบูรณ์มาก จิตของท่านชำระสะอาดบริสุทธิ์มั่นคงระดับใดกระผมไม่ขอกล่าว
    แต่ท่านนั้นเป็นอริยะบุคคล พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์วัดสวนขัน ได้กล่าวแสดงธรมเล็กๆน้อยแก่ในหลวง ท่านได้กล่าวกัลลูกศิษย์ว่า ในหลวงท่านพระองค์นี้ ท่านเป็นยอดของมนุษย์ เป็นยอดเทวดาของมนุษย์ทั้งหลาย

    อย่างหลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อปาน หลวงพ่อเดิม ครูบาศรีวิชัย ท่านเป็นอริยะบุคคลชั้นใด กระผมไม่ขอกล่าว

    พระโพธิสัตว์อื่นเช่น พระร่วง พระนารายณ์มหาราช พระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสินมหาราช บุคคลเหล่านั้น จิตท่านเป็นอริยะบุคคลประเภทใด

    ความเป็นพระโพธิสัตว์ อาจมีวิบากกรรมและมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ชีวิตมีกรอบระเบียบปฏิบัติ หากต้องฆ่าสัตว์เขาก็ไม่ฆ่ากันเพราะคึกคะนองหรือสนุกหรือแค่เพื่อตนเอง แต่ที่ต้องทำก็เพราะหน้าที่เพื่อบ้านเมืองเพื่อคนส่วนรวม เจตนามันคนละอย่างกัน พร้อมกับการปฏิบัติในส่วนการสวดมนต์ภาวนานั้นจะต้องทำเป็นนิจเสมอไม่ขาด

    สุดท้ายสิ่งที่กระผมเล่ามาให้ท่านทั้งหลายฟังนี้ ขอให้ทำความเข้าใจและเปิดใจให้กว้าง ในทางที่ดีที่ควร หากท่านปราถนาจะเป็นพระโพธิสัตว์ช่วยเหลือผู้อื่นๆ ท่านต้องทำตนให้ดีก่อน เริ่มต้นด้วยทาน ศีล ภาวนา ท่านทำตรงนี้ให้ได้ อย่าทำแบบงูๆปลาๆหากท่านยังทำบาบอยู่ บารมีแห่งโพธิญาณท่านก็ยังไปถึงไม่ได้ กรรมไม่ดีจะคอยให้ผลท่านจะเดินทางสายนี้ลำบากมากจะไปไม่ถึงมโนปณิธาณ
    แต่ถ้าหากท่านก้าวเดินตามที่กระผมบอก บุญจะส่งผลให้บารมีโพธิญาณก้าวหน้ารวดเร็วมั่นคงดียิ่งๆขึ้นไปครับ เพราะท่านได้ปิดประตูอบายภูมิแล้ว บุญกุศลก็ให้ผลเต็มที่ครับสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2013
  12. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ... ตามพระสูตรหรือครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ชัดเจนแล้วครับว่า พระโพธิสัตว์ไม่ได้อยู่ในผู้ที่สำเร็จเป็นอริยะบุคคล ทั้งหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษี หลวงตาม้า ท่านยังบอกว่าท่านเองก็ยังไม่พ้นจากอบายภูมิ หลวงพ่อดู่ท่านก็กล่าวว่าท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์หรือพระอริยะเจ้าแต่ที่ท่านยิ้มแย้มตลอดเวลาอย่างนั้นเพราะบารมีท่านเต็มแล้ว

    ที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านสอนไว้ พระโพธิสัตว์เป็นบุคคลที่ทรงอารมณ์พระอรหันต์หรือทรงอารมณ์พระอริยะเจ้าไว้ ไม่ได้หมายถึงการสำเร็จมรรคผลอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ว่ามีบารมีพร้อมที่จะบรรลุธรรมระดับโสดาบันขึ้นไปกันทุกพระองค์
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ขอเสริมอีกนิด เพื่อจะได้เตือนใจ ผู้ปราถนาพุทธภูมิ อย่างหนึ่งว่า

    เวลาที่ท่านคิดจะทำบาบเพราะกิเลสมันครอบงำ จะเป็นบาบด้วยกาย วาจา ใจ หากมีสติรู้ ต้องเตือนจิต ย้ำๆแรงว่า นี่เราปราถนาพระโพธิสัตว์ แล้วเราจะยังจะทำบาบกรรมอย่างนี้เหรอ หากเราทำอย่างนี้จะเป็นบาบกรรมอย่างนี้ เรายังควรเรียกตนเองหรือให้ผู้อื่นเรียกตนว่าพระโพธิสัตว์อย่างนั้นหรือ เช่นนี้แ
    ล้วจึงด้วยการถามย้ำอย่างนี้ เราจะไม่กล้าทำบาบกรรม เพราะความละอาย เพราะความกลัว นี่เอง หากเราปฏิบัติสร้างบารมีมามาก สิ่งเหล่านี้จะเกิดเป็นวิธีคิด เป็นตัวรู้อัตโนมัติ ทันที จิตจะไม่ไหลไปสู่ที่ต่ำจะไม่ทำบาบกรรมใด มุ่งหวังที่ ขอให้ได้สร้างบารมี สร้างความดีให้ยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ก้าวสู่ความเป็นอริยะบุคคล เนื้อความนี้เป็นความสัตย์จริงแต่ต้องทำความกระจ่างว่า อริยะบุคคลที่ก้าวไปไม่ถึงนั้น มีอยู่เพียงประการเดียวคือ
    พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย จะยังไม่ก้าวไปสู่อริยะบุคคลประเภทพระอรหันต์บุคคลเท่านั้น เพราะพระโพธิสัตว์มีมโปณิธาณปราถนาพุทธภูมินี่เอง จึงยังติดตรงนี้คือยังมีสัญญาปณิธาณตรงนี้ แต่หลายๆพระองค์ล้วนเป็นพระอริยะบุคคลประเภทอื่น
    อย่างเช่น หลวงปู่ทวด สมเด็จโต พลวงพ่อเงิน หลวงพ่อปาน หลวงปู่ดูท่านเป็นพระอนาคามีอริยะบุคคลแล้ว ซึ่งการที่ท่านกล่าวว่ายังไม่พ้นอบายภูมิก็เพราะว่า บุคคลผู้ที่จะก้าวพ้นอบายภูมิก็มีประการเดียวคือผู้ที่สำเร็จพระอรหันต์เท่านั้น ขอให้ท่านลองไปศึกษาดูมาใหม่ให้ถี่ถ้วนแล้วท่านจะทราบคำตอบได้เองครับ สิ่งที่เรากล่าวมาผิดหรือถูกเราไม่ขอชี้ชัด แต่นี่คือสิ่งที่เหล่าพระโพธิสัตว์ควรทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เดินอย่างถูกทางตามธรรมนองครองธรรม และเมื่อบารมีถึงจุดหนึ่งแล้วย่อมเริ่มจะเข้าใจมีญาณพระสรรพพัญญุตญาณ รู้ในวิถีแห่งโพธิญาณและพุทธวิสัย ตลอดจนการสร้างบารมีต่างได้มากยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ด้วยเหตุนี้ ผู้สร้างบารมีพระโพธิสัตว์ ด้วยกิเลสมีอยู่น้อยนิด เป็นอริยะบุคคล จิตใจสะอาดบริสุทธิ์มากแต่ไม่เท่าพระอรหันต์ แต่เมื่อไหร่ที่ต้องการลาพุทธธภูมิ เมื่อลาพุทธภูมิ คือตัดขาดในสัญญาปณิธาณ ตัดขาดจากการปรถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ตัดขาดที่อยากจะเป็นผู้ตรัสรู้พระธรรมและนำพาสรรพสัตว์ข้ามพ้นทุกข์แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงลาพุทภูมิ
    ที่นี้เมื่อลาพุทธภูมิแล้ว ด้วยจิตที่มีกิเลสน้อย มีสร้างคุณความดี กรรมดีมามากมาย จิตก็มีความสะอาดบริสุทธิ์มากก็เพราะว่าเป็นอริยะบุคคลด้วยเหมือนกัน การเดินจิตไปสู่ความเป็นอรหันต์ก็ทำได้โดยง่าย สำเร็จได้ในชาตินั้นทันที และก่อนพระนิพพาน ก็ต้องสืบทอดพระพุทธศาสนา เผยแพร่ธรรมะ และสามารถดึงเอ
    าผู้ที่เคยร่วมวาสนากันมา สร้างบารมีร่วมกันมาและหากกัลยานมิตรใดมีบารมีพร้อมย่อมช่วยให้เขา เข้าสู่ความเป็นอรหันต์บุคคลได้เช่นกัน
    อย่างหลวงปู่มั่นเป็นต้น ที่ท่านมีลูกศิษย์ที่เป็นพระอรหันต์มากมาย เป็นต้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2013
  16. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนหรือคณาจารย์ทั้งหลายสอน เรารู้กันว่าพระโสดาบันปิดอบายภูมิแล้วครับ ไม่ตกนรก ไม่เกิดเป็น เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน จิตปรารถนาพระนิพพานไม่เสื่อมคลายและต้องเกิดอีก 7 ชาติเท่านั้น

    ส่วนตัวแล้วผมเชื่อตามวิสุทธิมรรคและครูบาอาจารย์บารมีสูงๆมากกว่า เพราะท่านกล่าวชัดเจนอยู่แล้ว
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    พระโพธิสัตว์เป็นบุคคลที่ทรงอารมณ์พระอรหันต์หรือทรงอารมณ์พระอริยะเจ้าไว้ นี่คำคำสัตย์จริง

    การที่จะทรงอารมณ์พระอรหันต์หรือพระอริยะบุคคลนั้น การที่จะทรงอารมณ์เหล่านี้ได้ ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆหรือทำกันแค่ประเดี๋ยวเดียวหรือชั่วครู่ชั่วยาม แต่ต้องทรงอารมณ์นี้ให้ได้ตลอดต่อเนื่อง บุคคลที่สามารถรักษาอารมณ์จิตไว้ได้เช่นนี้ ก็เพราะด้วยอาศัย การฝึกปฏิบัติและสร้างบารมีมามาก สิ่งที่จะเป็นเหตุให้ทรงอารมณ์เช่นนี้ได้ก็มีเหตุอย่างเดียวคือ
    การ มีกรอบระเบียบในตนเอง การทำบุญสุนทานเป็นปกติ การรักษาศีลเป็นปกติ การสวดมนต์ภาวนาเป็นปกติ จิตยกจิตสูงขึ้นเป็นอริยะบุคคลแล้ว แต่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ก็เท่านั้นเองครับ
    ส่วนคำกล่าวของหลวงปู่ เรื่องความเป็นอริยะบุคคล พระภิกษุผู้เป็นอริยะบุคคลไม่ว่าจะชั้นใด ย่อมไม่กล่าวแสดงว่าตนมีตนได้แล้ว แม้ในอภิญญาก็ตาม หรือแม้ความเป็นอรหันต์ก็ตาม เพราะพระสาวกผู้ปฏิบัติดีงามชอบแล้ว กิเลสมีน้อยหรือหมดแล้ว ย่อมไม่กล่าวโอ้อวดหรือแสดงตนครับ สาธุครับ
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมขอ นำมากล่าวบ้าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ ในแนวของ ท่านเจ้าของกระทู้ ผมเคยได้กล่าว มาบ้างแล้ว ในกระทู้ ของท่านๆหลายๆท่าน ผมก็เจอหรือประสบ กันท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ทั้ง ผู้หญิงผู้ชาย พระฆราวาส แม้แต่สัตว์เดรัชฉาน แต่ก็มิวาย ผู้ที่สับสน ยังมีอีกเยอะครับ ไม่ได้ มาอวด หรือ แข่งบารมีหรอกครับ ได้โปรด ใช้วิจรณะญาณ ไตร่ตรอง ให้ละเอียด พวกพุทธภูมิ มันต้องเรียนถูก เรียนผิดมาด้วยตนเอง และแก้ด้วยตนเอง ถ้าคุยเรื่องนี้ ๒ คืน ๓ วันมันก็ไม่จบหรอกครับ


    ทุกอย่างมันต้องมีที่มาและที่ไป พุทธภูมิ หมายถึง คนที่ทำความปราถนา ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า นั่นเอง เมื่อปราถนาพุทธภูมิ จิตใจ ของท่านเหล่านั้น จะเป็นพระโพธิสัตว์ ทันทีสัตว์ แค่คิด มันก็เป็นแล้ว แต่จิตใจของท่านนั้นๆ จะเข้มแข็งขนาดไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ คนที่ทำความปราถนา จิตใจเขา เป็นพระโพธิสัตว์ เต็มตัว ก็เป็น เนื้อหน่อ เลือดเนื้อ เชื้อไข ของ พุทธางกูลนั่นเอง พระโพธิสัตว์ มันมี ๓ แบบ ๓ ขั้น ๓ สาย ๓ ชั้น สายที่ ๑ ปัญญาธิกะ ใช้ปัญญา นำหน้า บำเพ็ญ บารมี อย่างน้อย ๔ อสงไขย กำไลแสนมหากัป มีบารมีต้น กลาง ปลาย หรือ ขั้น บารมี ต้น กลาง ปลาย เมื่อบำเพ็ญบารมี ๑๐ อย่าง มันจะแยก ออก ย่างละ ๓ ต้นกลางปลาย เมื่อเต็ม เขาเรียก บารมี ๓๐ ทัต


    สายที่ ๒ ศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขย กำไลย แสนมหากัป บำเพ็ญเหมือนกัน แต่ใช้ ศรัทธานำหน้า ทำตัวเดียว บารมีตัวอื่น จะเข้าเสริม ทันที ก็จะเป๋นบารมี ๑๐ บารมี ต้น กลาง ปลาย มี ๓ ชั้น ๓ ขั้น เหมือนกันหมด ต่างกันที่ บำเพ็ญ ตัวไหนนำหน้ามากกว่า ทุกอย่าง เมื่อทำให้เต็มแล้ว ก็จะเป็น บารมี ๓๐ ทัต และสาย สุดท้าย วิริยาธิกะ บารมี พระโพธิสัตว์ขั้นนี้ ต้องบำเพ็ญบารมี มาถึง ๑๖ อสงไขยกำไลย แสนมหากัป มีต้น กลาง ปลายเหมือนกัน มี ๓ ขั้น ๓ ชั้น เหมือนกัน มีอย่าง มีหยาบ กลาง ละเอียด


    พวกบารมีต้น และกลาง ส่วนใหญ่ ยังมีการ ตกนรกอยู่ มาก เพราะต้องเรียนถูก ผิด เสียส่วนใหญ่ ต้องมาเกิด บำเพ็ญ บารมี คนกับสัตว์ เท่านั้น ต้องขยันเกิด ขยันตาย ต้องสร้างในแดน มนุษย์ เท่านั้น เป็นแดนกลาง ตายเกิดจนนับไม่ถ้วน บารมีตัวไหน ไม่เต็ม หรือ ยังทำไม่ได้ หรือไม่ผ่าน ต้องไปทำให้ได้ ให้เต็ม พระโพธิสัตว์ บางพระองค์ถึง กับ กล่าวว่า มาสร้าง บารมี ทั้งชีวิต ทำทุกอย่าง ยังได้แค่ขี้เล็บ ท่านกล่าวแบบนี้ ผมถึงกับตกใจ ทำไมถึงท่านได้พูดแบบนั้น เมื่อนึกตามดู ถึงพอจะเข้าใจ

    พระโพธิสัตว์ แต่ละองค์ ถ้ามาถึง ขั้น ปรมัตแล้วเนี่ย กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้หมดทุกกอง และคล่องได้จน นับชาติไม่ถ้วนด้วย (พระโพธิสัตว์ ไม่มีสิทธิ ได้เป็นพระอริยเจ้า) ถ้าไม่ลาพุทธภูมิ ขี้เกียจ ทำต่อนั่นเอง จึงลามาเป็นสาวก แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงจำไว้ด้วย ผมพูดมาหลายครั้ง หลายที่แล้ว พุทธภูมิ ต้องเรียนรู้ อารมย์ พระโสดาบัน เรียนรู้ อารมย์ พระสกิทาคามี พระอนาคามี และเรียนรู้ อารมย์ ของพระอรหันต์ อารมย์เทียบเท่า ไม่ใช่เป็นพระอริยเจ้า ถ้าเป็นพระอริยเจ้าแล้ว มันไม่มีใครเขา ไปเป็นพระโพธิสัตว์ ต่อ หรอกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2013
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    (พระโพธิสัตว์ ไม่มีสิทธิ ได้เป็นพระอริยเจ้า)

    อริยะเจ้า อริยะบุคคล อริยะสงฆ์ ต่างกันอย่างไร ช่วยอธิบายให้ทราบหน่อยครับ

    แล้วการที่พระโพธิสัตว์ไม่สามารถเป็นพระอริยะเจ้าได้นี่เป็นอย่างไร ทำไมท่านเป็นพระอริยะเจ้าไม่ได้

    พระอริยะเจ้า ผมคิดว่าคำนี้ความหมายกว้างมาก แต่ถ้าเฉพาะเจาะจงว่า พระโพธิสัตว์ ไม่สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ ตรงนี้ตรงกับภูมิความรู้และสิ่งที่ครูอาจารย์สั่งสอนมาครับ

    แต่เวลากล่าวอธิบา
    ยควรกล่าวอย่างละเอียดเฉพาะเจาะจงให้กระจ่างให้ฟังหน่อยครับ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ครับ
     
  20. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ถ้าศึกษามาถ้าจำไม่ผิดนะครับ ตามที่ศึกษามาพระโพธิสัตว์จะไม่บังเกิดความเป็นพระอริยบุคคล แต่สามารถเรียนรู้ และทรงอารมณ์ได้เทียบเท่าพระอริยบุคคล

    จึงมีข้อแม้ว่าเรียนรู้อารมณ์เทียบเท่าเฉยๆ แต่ความเป็นอริยบุคคลจะไม่บังเกิดครับ เพราะ ยังห่วงในการช่วยเหลือผู้อื่น เลยยังไม่อยากไปนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...