บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นคนมักโกรธ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย thepkere, 3 เมษายน 2013.

แท็ก: แก้ไข
  1. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [​IMG]
    [๕๘๖] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม
    เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง
    ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย
    ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก

    เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้
    หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
    ถ้ามาเป็น มนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม

    ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทรามนี้ คือ
    เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง
    ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย
    ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียด ให้ปรากฏ ฯ

    [๕๘๗] ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม
    เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง
    ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย
    ไม่ทำความโกรธ ความร้าย และความ ขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
    ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนน่าเลื่อมใส

    ดูกรมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใสนี้ คือ
    เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง
    ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย
    ไม่ทำความโกรธ ความร้าย ความขึ้งเคียดให้ปรากฏ ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
    หน้าที่ ๒๘๙/๔๑๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    698
    ค่าพลัง:
    +2,385
    รู้ว่าไม่ดีแต่การควบคุมไม่ให้โกรธนั้นเป็นสิ่งที่ทำยากยิ่ง คงต้องค่อยๆใช้เวลาขัดเกลาจิตใจไปเรื่อยๆ
     
  3. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    หญิงที่ต้องไปเกิดในอบาย

    ปัญหา มาตุคามประเภทไหน เมื่อกายแตกตายไป จะไปเกิดในอบาย ?

    พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ โดยมากเมื่อกายแตกตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
    ธรรม ๓ ประการคือ มาตุคามในโลกนี้
    เวลาเช้ามีใจอันมลทิน คือ ความตระหนี่ กลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลากลางวันมีใจถูกความริษยากลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลาเย็นมีใจอันกามราคะกลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน.....”


    มาตุคามสูตร สฬา. สํ. (๔๖๗)
    ตบ. ๑๘ : ๒๙๘ ตท. ๑๘ : ๒๗๔
    ตอ. K.S. ๔ : ๑๖๓
     
  4. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    ชีวิตฆราวาสเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัว

    ปัญหา ภิกษุควรคิดถึงการดำรงชีวิตอยู่ในโลกอย่างไร จึงจะเกิดความต้องการที่จะบรรลุถึงนิพพาน ?

    พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่ามีอสรพิษ ๔ จำพวก มีฤทธิเดชแรงกล้า ถ้ามีบุรุษผู้รักชีวิต ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า อสรพิษ ๔ จำพวกนี้ มีฤทธิเดชแรงกล้า ท่านพึงปลุกให้ลุกตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ตามเวลา เวลาใดอสรพิษ ๔ จำพวกนี้ ตัวใดตัวหนึ่งโกรธขึ้นเวลานั้นท่านก็จะพึงถึงความตาย หรือถึงทุกข์ปางตาย กิจใดที่ท่านควรทำก็จงทำกิจนั้นเสีย
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น บุรุษนั้นกลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวก นั้นจึงหนีไปที่อื่น ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า มีเพชฌฆาตผู้เป็นศัตรู ๕ คน ได้ติดตามมาข้างหลังท่าน พบท่านในที่ใดก็จะฆ่าท่านเสียในที่นั้น กิจใดที่ท่านควรทำก็จงทำกิจนั้นเสีย
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นกลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวก กลัวเพชฌฆาต ๕ คน จึงหนีไปที่อื่น ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า มีเพชฌฆาตคนที่ ๖ ซึ่งเที่ยวไปในอากาศ เงื้ออาบติดตามมาข้างหลังท่าน พบท่านในที่ใด ก็จะตัดศีรษะของท่านเสียในที่นั้น กิจใดที่ท่านควรทำก็จงทำกิจนั้นเสีย
    “ครั้งนั้น บุรุษนั้นกลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวก กลัวเพชฌฆาต ๕ คน กลัวเพชฌฆาตคนที่ ๖ จึงหนีไปที่อื่น เขาพบบ้านร้างเข้า จึงเข้าไปสู่เรือนร้างว่างเปล่าหลังหนึ่ง ลูบคลำภาชนะว่างเปล่าชนิดหนึ่ง ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า มีโจรทั้งหลายคอยฆ่าชาวบ้านเข้ามาสู่บ้างร้างนี้เสมอ กิจใดที่ท่านควรทำก็จงทำกิจนั้นเสีย
    “ครั้งนั้น บุรุษนั้นกลัวโจรผู้คอยฆ่าชาวบ้าน จึงหนีไปที่อื่น เขาพบห้วงน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ฝั่งข้างนี้น่ารังเกียจ เต็มไปด้วยภัยอันตราย ฝั่งข้างโน้นเป็นที่เกษมปลอดภัย เรือแพหรือสะพานที่จะข้ามไปฝั่งโน้นไม่มี
    “ครั้งนั้น บุรุษมีความคิดอย่างนี้ว่า ถ้าอย่างไร เราควรจะมีหญ้า กิ่งไม้ ใบไม้ผูกเป็นแพ เกาะแพนั้น พยายามไปด้วยมือและเท้า ก็พึงถึงฝั่งโน้น ได้โดยสวัสดี ครั้นแล้ว บุรุษนั้นทำตามความคิดของตน ก็ว่ายน้ำข้ามฝากถึงฝั่งโน้น แล้วเป็นพราหมณ์ขึ้นบกไป


    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำว่า อสรพิษทั้ง ๔ จำพวกนั้น หมายถึงมหาภูตรูป ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม คำว่าเพชฌฆาตทั้ง ๕ คนนั้น หมายถึงอุปาทานขันธ์ ๕ คำว่าเพชฌฆาตคนที่ ๖ หมายถึงความกำหนัดยินดี คำว่าบ้านร้าง หมายถึงอายตนะภายใน ๖ ถ้าแม้บัณฑิตผู้ฉลาดมีปัญญาใคร่ครวญอายตนะภายใน ๖ นั้น.... ก็จะปรากฏเป็นของว่างเปล่า....สูญทั้งสิ้น
    “คำว่าโจรผู้ฆ่าชาวบ้านนั้น หมายถึง อายตนะภายนอก ๖ คำว่าห้วงน้ำใหญ่ หมายถึง โอฆะทั้ง ๔ โอฆะคือ กาม โอฆะ คือ ภพ โอฆะ คือ ทิฏฐิ โอฆะ คือ อวิชชา คำว่าฝั่งข้างนี้อันน่ารังเกียจ หมายถึงกายของตน คำว่าฝั่งข้างโน้น หมายถึงพระนิพพาน คำว่าแพนั้น หมายถึงอริยมรรคมีองค์ ๘ คำว่าพยายามข้ามไปด้วยมือและท้า หมายถึงการปรารภความเพียร คำว่าผู้เป็นพราหมณ์ ถึงฝั่งโน้นแล้วขึ้นบกไป หมายถึงพระอรหันต์”

    อาสีวิสสูตร สฬา. สํ. (๓๐๙-๓๑๖)
    ตบ. ๑๘ : ๒๑๖-๒๑๙ ตท. ๑๘ : ๒๐๗-๒๐๙
    ตอ. K.S. ๔ : ๑๐๗-๑๑๐
     

แชร์หน้านี้

Loading...