ทำบุญแต่ไม่ได้กรวดน้ำ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย D_pat, 19 มีนาคม 2013.

  1. D_pat

    D_pat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +499
    สอบถามผู้รู้คะ เวลาเราทำบุญ ไม่ว่าจะใส่บาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา ให้อาหารสัตว์ บริจาคเงินร่วมทำบุญ หรือบริจาคเงินช่วยผู้ที่เดือดร้อน แล้วเราไม่เคยกรวดน้ำเลย แล้วเราจะได้ผลบุญไหมคะ แต่เวลาที่เรากำลังทำบุญเรานั่งระลึกและอุทิศผลบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แล้วเขาเหล่านั้นจะได้ผลบุญที่เราได้อุทิศไปให้เขาไหมคะ
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    เราก่อกองไฟ เราก็ได้ไฟ ... เราก่อกองบุญก็ย่อมได้บุญ

    เวลาเราจุดเทียน เราอยากให้คนอื่นมีแสงสว่างด้วย เราก็ให้คนอื่นมาต่อไฟจากเทียนของเรา

    ฉันใด เมื่อเราแบ่งบุญให้คนอื่น คนอื่นก็ย่อมได้บุญด้วยฉันนั้น

    แต่ว่าคนที่เราแบ่งบุญไปให้เขา เขาจะมาเอาบุญเราได้เมื่อไหร่

    ก็ขึ้นอยู่กับกรรมอยู่กับภพภูมิที่เขาอยู่ด้วยครับ



    .
     
  3. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    เราได้เต็มๆ อยู่แล้วครับ ไม่ต้ิองกรวดน้ำหรอกครับ ส่วนเรื่องการอุทิศส่วนกุศลนั้น เค้าอุทิศกันด้วยจิต ไม่ได้อุทิศกันด้วยน้ำครับ ยกเว้นในกรณีที่เราต้องการอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณจำนวนมาก แล้วจิตเราไม่นิ่งพอ ฟุ้งไปคิดเรื่องอื่น บางวิญญาณอาจตกหล่น ด้วยเหตุนี้จึงมีการใช้น้ำเป็นสื่อ ก็เพื่อให้จิตเป็นสมาธิได้ง่ายขึ้น และฝากแม่พระธรณีนำบุญไปมอบให้ท่านเหล่านั้น ซึ่งเป็นการการันตีว่าผลบุญถึงปลายทางแน่นอนครับ (ถ้าผู้รับอยู่ในภพที่รับได้นะครับ)
     
  4. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    อุทิศด้วยจิต ถ้าเขาอยู่ในภพภูมิที่พอรับได้และโมทนาได้ก็ได้บุญครับ
    การกรวดน้ำเป็นพิธีการแบบพราหมณ์พระเจ้าพิมพิสารเป็นคนแรกที่กรวดน้ำด้วยน้ำ เนื่องจากท่านเป็นพราหมณ์มาก่อน พระพุทธเจ้าไม่ห้าม ก็เลยเป็นธรรมเนียมมาถึงทุกวันนี้
     
  5. D_pat

    D_pat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +499
    ขอบคุณข้อมูลดีๆๆคะ:cool:
     
  6. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ท่านปลูกข้าวก็ ได้เมล็ดข้าว ปลูกมะม่วง ก็ได้ผลมะม่วง ฉะนั้นทำบุญย่อมได้บุญ และทำบาปย่อมได้บาป ไม่ต้องกรวดน้ำ ก็ยังได้เลย เมื่อทำบุญแล้วขอให้หมั่นนึกถึงบุญกุศลที่เราทำไว้เนืองๆ จะทำให้เราสุขใจ
     
  7. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถ้าไม่สบายใจนักก็ทำเถิด...แต่ถ้าเราทำบุญแล้วเกิดความสบายใจไม่ต้องทำก็ได้มันอยู่ที่ความเชื่อ...รักษาศัทธา 3 ช่วงไว้จะดีกว่านะครับ สวัสดี
     
  8. evatranse

    evatranse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +571
    ในสมัยพุทธกาล แท้จริง..ไม่มีการกรวดน้ำ..

    ..การทำบุญอุัทิศให้ญา่ติของพระเจ้าพิมพิสารในสมัยพุทธกาล
    แท้จริง..ไม่มีการกรวดน้ำ..

    ..จากพระไตรปิฎกชุด91เล่ม มมร.ปกสีน้ำเงิน เล่ม39 หน้า284..

    "พระราชาถวายน้ำทักษิโณทก (แก่พระพุทธเจ้า) ทรงอุทิศ (ทันที) ว่า
    ขอทานนี้จงมีแก่พวกญาติของเรา.

    ทันใดนั้นเอง สระโบกขรณีดารดาษด้วยปทุม ก็บังเกิดแก่เปรต พวกนั้น.
    เปรตพวกนั้นก็อาบและดื่มในสระโบกขรณีนั้น ระงับความกระวนกระวาย
    ความลำบากและหิวกระหายได้แล้ว มีผิวพรรณดุจทอง
    ลำดับนั้น พระราชาถวายข้าวยาคู ของเคี้ยว ของกินเป็นต้น (แก่พระพุทธเจ้า)
    แล้วทรงอุทิศ.(ทันที) ในทันใดนั้นเอง ข้าวยาคูของเคี้ยวและของกินอันเป็นทิพย์
    ก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้น. เปรตพวกนั้น ก็พากินบริโภคของทิพย์เหล่านั้น
    มีอินทรีย์เอิบอิ่ม.

    ลำดับนั้น พระราชาถวายผ้าและเสนาสนะเป็นต้น(แก่พระพุทธเจ้า) ทรงอุทิศ(ทันที) ให้เครื่องอลังการต่าง ๆ มีผ้าทิพย์ ยานทิพย์ ปราสาททิพย์ เครื่องปูลาดและที่นอนเป็นต้น ก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้น. สมบัติแม้นั้นของเปรตพวกนั้น ปรากฏทุกอย่าง
    โดยประการใด พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ทรงอธิษฐาน (ให้พระราชาทรงเห็น) โดยประการนั้น. พระราชาทรงดีพระทัยยิ่ง."

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=31Sx3-9LaLA"]http://www.youtube.com/watch?v=31Sx3-9LaLA[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2013
  9. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    อนุโมทนาบุญสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้มีจิตศรัทธาในการสร้างบุญ
     
  10. Nammol

    Nammol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +330
    ข้าพเจ้าเป็น สาวก (สมาชิก) ระดับชั้นเตรียมอนุบาล

    สนใจเกี่ยวกับเรื่องการกรวดน้ำเช่นกัน ขอยอมรับว่าชอบการกรวดน้ำมาก โดยเฉพาะ

    ขณะที่พระนำบท อิมินา ปุญญะกัมเมนะ นั้น ข้าพเจ้าก็รู้สึกเต็มใจยิ่ง ที่จะกรวดน้ำเพื่อ

    อุทิศบุญ และขณะที่ได้ยินเสียงน้ำที่กรวดลงไปนั้น ให้รู้สึกถึงความไพเราะในเสียงน้ำนั้นยิ่งนัก

    จนบังเกิดเป็นความปิติ อิ่มบุญ และมีสมาธิ ในการจะอุทิศส่งผลบุญนั้นไปให้ถ้วนทั่วพิภพจักรวาล

    และในหนังสือสวดมนต์เกือบทุกเล่ม โดยเฉพาะบทสวดมนต์ ทำวัตรเช้า เย็น

    ก็จะมีบท กรวดน้ำ เช้า เย็น แนบด้วย เช่นบทกรวดน้ำ อุททิสสนาธิฏฐานคาถา

    (หมายเหตุ ข้อความของข้าพเจ้า คือการแชร์ความคิดเห็น อันหาใช่การแสดงความคิดเห็นที่เป็นการขัดกันในทางความรู้สึกนึกคิด อนุโมทนาบุญ)เช
     
  11. Nammol

    Nammol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +330
    ตำนานพระพุทธชัยมงคล (ว่าด้วยมงคลที่1)

    ขออนุญาต นำมงคลที่1 ของพุทธมงคลคาถา หรือบทพาหุง ที่ข้าพเจ้าอ่านพบ

    โดยเฉพาะข้อความของช่วงวรรคท้ายสุด ซึ่งได้กล่าวถึง เจ้าแม่ธรณี ที่ได้บีบน้ำจากมวยผมออกมาเป็นทะเลหลวง ฯ

    สามารถพิชิตเหล่ามารได้ พญามารก็ประนมหัตถ์นมัสการยอมพ่ายแพ้บุญฤทธิ์แด่หน่อพระพิชิตมาร

    ข้อความต่อไปนี้ ค่อนข้างยาว แต่ทำให้ทราบบทแปลพาหุงบทที่ 1 ที่นำว่า

    1 : พาหุงสหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง

    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุเต (เม) ชะยะมังคะลานิ

    ตำนานมงคลที่1 นี้ กล่าวว่า

    เมื่อพระสิทธัตถราชกุมาร พระบรมโพธิสัตว์เจ้าสละราชสมบัติ ทรงออกผนวชแสวงหาพระสัมโพธิญาณ

    เพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า โปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นจากสังสารวัฏทุกข์ ประสบวิมุตติสุขอันเกษมสานติ์

    ตามพระพุทธปณิธานที่ตั้งไว้นั้น ครั้นพระองค์ได้ทรงพยายามบำเพ็ญพระปรมัตถบารมีตลอด 6 ปี เป็นกำหนด

    ปรากฎความตามพระบาลีว่า ในคืนราตรีวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หน่อพระชินศรีเสด็จผทม

    ในเวลาปัจจุสมัยใกล้สว่าง ทรงมหาสุบินนิมิต ฝันเป็นมงคลวิจิตร 5 ประการ

    ข้อต้น ทรงฝันว่า พระองค์มีกายใหญ่ ผทมเหนือพื้นปฐพี พระเศียรหนุนภูเขาหิมพานต์บรรพต

    พระพาหาทั้งสองข้างพาดหยั่งลงไปสู่มหาสมุทรทั้งสองฝั่ง พระยุคลบาทก็พาดหยั่งมหาสมุทรด้านตะวันตก เป็นต้น

    ………ครั้นหน่อพระชินศรีทศพลทรงตื่นผทมแล้ว มีพระหฤทัยผ่องแผ้ว ทรงรำพึงถึงความฝัน 5 ประการ

    แล้วทรงพยากรณ์ด้วยพระปรีชาญาณของพระองค์เองว่า ความฝันทั้ง 5 นี้ เป็นบุพนิมิตว่า พระองค์จะได้ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ

    เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในราตรีวันขึ้น 15 ค่ำ เพ็ญวิสาขมาส กลางเดือน6 คือวันนี้เป็นแน่แล้ว

    และในเช้าวันเพ็ญนั้น ทรงรับข้าวมธุปายาสของนางสุชาดากุลเศรษฐีธิดา ถวาย ณ โคนต้นไม้ไทรพฤกษมณฑล

    ทรงเสวยข้าวมธุปายาสหมดถาดทอง ซึ่งเจ้าของศรัทธาถวายทั้งถาดแล้ว

    พระองค์ก็เสด็จโดยพระบาท ไปสู่ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรานที ทรงลอยถาดทองเสี่ยงพระบารมีพระสัมโพธิญาณ

    เกิดนิมิตปาฏิหาริย์ให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำเห็นเป็นสำคัญ

    เป็นนิมิตสนับสนุนความฝันเมื่อราตรี
     
  12. Nammol

    Nammol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +330
    ต่อ : ตำนานพระพุทธชัยมงคล (มงคลที่1)

    เวลากลางวัน ทรงประทับพักในร่มไม้สาลพฤกษ์เป็นที่รโหฐาน

    ครั้นเวลาบ่าย ก็เสด็จดำเนินมุ่งตรงไปยังร่มไม้อสัตถพฤกษ์โพธิมณฑล อันมีลำต้นและกิ่งไม้งดงาม

    ทรงรับหญ้าคา 8 กำ จากโสตถิยพราหมณ์ ถวายในระหว่างทาง

    ครั้นเสด็จถึงก็ทรงวางไว้ที่โคนไม้มหาโพธิ ด้านทิศตะวันออก และทรงราดเป็นพุทธอาสน์ เพื่อประทับนั่ง

    แล้วทรงตั้งพระทัยอธิษฐานว่า ถ้าอาตมาจะได้ตรัสรู้แก่พระสัพพัญญุตญาณดังประสงค์

    ขอจงบังเกิดเป็นรัตนบัลลังก์แก้วปรากฏ

    พอสิ้นกระแสพระวาจาออกพระโอฐอธิษฐานบัลลังก์แก้วรัตนะโอฬาร

    สูงประมาณ 14 ศอก ก็บังเกิดเป็นอัศจรรย์ ต่อนั้นพระบรมโพธิสัตว์เจ้า ก็เสด็จขึ้นประทับ

    หันพระปฤษฎางค์ข้างด้านมหาโพธิพฤกษ์ บ่ายพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก

    ทรงคู้พระเพลาขัดสมาธิ ตั้งพระกายดำรงพระสติมั่นด้วยอานาปานสมาธิภาวนา

    แล้วออกพระโอฐดำรัสพระสัตยาธิษฐานว่า

    ถ้าอาตมาไม่พ้นอาสวะกิเลสตราบใด ถึงแม้มาตรว่า หฤทัย เนื้อ หนัง จะแห้งเหือด

    ตลอดถึงเลือดและมันข้นจนทั่วสรีระกาย อาตมาก็จะมิทำลายสมาธิบัลลังก์อันนี้เลย

    จะพยายามให้บรรลุเสวยพุทธาภิเษกสมบัติให้จงได้

    ตั้งพระทัยมั่นหมายพระสัพพัญญุตญาณครั้งนั้น เทพยดาพระพรหมทุกสถาน

    มีท้าวสหัมบดี พรหม และท้าวมัฆวาน เป็นต้น ก็มาประชุมแวดล้อมกระทำสักการบูชา

    ครั้งนั้น พญามารวัสวดี ได้สดับสัททสำเนียงเทพเจ้าบรรลือลั่นโกลาหล

    จึงดำริว่า หน่อพระพุทธางกูรจะล่วงพ้นวิสัยแห่งอาตมา

    เป็นการสูญเสียศักดิ์ที่น่าอัปยศอดสูอย่างยิ่ง

    ควรอาตมาจะไปทำอันตรายให้พระองค์ลุกหนีไปให้พ้นจากบัลลังก์

    อย่าให้พระองค์ล่วงพ้นวิสัยไปได้

    พญามารมีความพิโรธด้วยกำลังอิสสาจิตครอบงำสันดาน จึงร้องอุโฆษนาการ

    ให้พลเสนามารทั้งสิ้นมาประชุมกัน พร้อมด้วยสรรพาวุธและสรรพวาหนะ

    ที่แรงร้ายเหลือที่จะประมาณ เต็มไปในคัคนานต์ท้องฟ้า

    พญาวัสวดีขึ้นช้างพระที่นั่งคีรีเมขล์ นิรมิตมือพันมือ ถืออาวุธพร้อมสรรพ

    นำกองทัพมารอันแสนร้าย เหาะมาโดยนภาลัยประเทศ

    เข้าล้อมเขตบัลลังก์รัตน์ ของพระบรมโพธิสัตว์เจ้าไว้อย่างหนาแน่น

    ……ทันใดนั้น ฝูงเทพเจ้าที่พากันมาแวดวงถวายสักการบูชาหน่อพระชินศรีอยู่

    ต่างก็มีความกลัว พากันหนีไปยังขอบจักรวาล ทิ้งให้พระองค์ต่อสู้พญามารแต่พระองค์เดียว

    เมื่อพระมหาพุทธางกูร ทรงเปล่าเปลี่ยวเหลียวหาผู้จะช่วยมิได้

    จึงตรัสเรียกทวยทหารของพระองค์ 30 เหล่า กล่าวคือ พระบารมี 30 ทัศ

    ด้วยพระคาถาดำรัสว่า "อายนฺตุ โภนฺโต อิธ ทานสีลา"

    เป็นอาทิ ความว่า มาเถิดพวกท่านทั้ง 30 กอง จงพร้อมกันจับอาวุธรบกับหมู่มารในบัดนี้

    ครั้งนั้น บารมีธรรม 30 ประการ ต่างสำแดงกายให้ปรากฎดุจทหารกล้า

    ถืออาวุธพร้อมที่จะเข้าประยุทธชิงชัยกับเสนามาร

    รอพระบรมโองการประทานโอกาสอยู่เท่านั้น
     
  13. Nammol

    Nammol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +330
    ต่อ : ตำนานพระพุทธชัยมงคล (มงคลที่1)

    เมื่อพญามารวัสวดี เห็นหน่อพระชินศรีโพธิสัตว์ทรงประทับนั่งนิ่ง ไม่หวั่นไหวแต่ประการใด

    ก็พิโรธ สั่งให้เสนามาร รุกเข้าทำอันตรายหลายประการจนหมดฤทธิ์

    บรรดาสรรพาวุธ ศัสตรายาพิษ ที่พุ่งซัดไป ก็กลายเป็นบุปผามาลัย บูชาพระองค์จนสิ้น

    ……ครั้งนั้น พญามารวัสวดีจึงตรัสกะพระโพธิสัตว์ด้วยสันดานพาล ว่า

    สิทธัตถกุมาร บัลลังก์แก้วนี้เป็นของเรา เกิดเพื่อบุญเรา

    ท่านเป็นคนไม่มีบุญ ไม่ควรจะนั่ง จงลุกไปเสียโดยเร็ว

    ……พระบรมโพธิสัตว์ตรัสตอบว่า ดูกรพญามาร บัลลังก์แก้วนี้

    เกิดขึ้นด้วยบุญของอาตมา ที่ได้บำเพ็ญมาแต่อสังไขยกัป จะนับประมาณมิได้

    พญามารก็ค้านว่าไม่ใช่ ให้พระองค์หาพยานมายืนยันว่าพระองค์ได้ทำมาจริงให้ประจักษ์ในที่นี้

    หน่อพระชินศรี จึงตรสเรียกนางวสุนทราเจ้าแม่ธรณีว่า

    ดูกรวสุนทรา นางจงมาเป็นพยานให้อาตมาด้วยเถิด.
     
  14. Nammol

    Nammol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +330
    ต่อ : ตำนานพระพุทธชัยมงคล (มงคลที่1)

    ต่อ ช่วงท้ายสุดของตำนานบทสวดพาหุง หรือ บทพระพุทธเจ้าชนะมาร

    ลำดับนั้น นางวสุนทรา เจ้าแม่ธรณีก็ปรากฏกาย ทำอัญชลีถวายอภิวาท

    แล้วประกาศให้พญามารทราบว่า

    พระบรมโพธิสัตว์บำเพ็ญบุญมามากมายเหลือที่จะนับ

    แม้แต่น้ำกรวดที่ข้าพเจ้าเอามวยผมรองรับไว้บนเศียรเกล้า

    ก็มีมากพอจะถือเอาเป็นหลักฐานได้ นางกล่าวแล้วก็ประจงหัตถ์อันงาม ปล่อยมวยผม

    บีบน้ำกรวดที่สะสมไว้แต่อเนกชาติให้ไหลออกมาเป็นทะเลหลวง

    ท่วมทับเสนามารทั้งปวง ให้จมลงวอดวาย

    กำลังน้ำได้ซัดช้างคีรีเมขล์ให้ถอยร่นไปติดขอบจักรวาล

    ……ครั้งนั้น พญามารก็ประนมหัตถ์ นมัสการยอมพ่ายแพ้บุญฤทธิ์

    แด่หน่อพระพิชิตมาร สมดังมโนปณิธานที่ทรงตั้งไว้.

    * * *
    การชนะด้วยคุณธรรม ก่อความสันติสุข ผิดกับศัสตราวุธ เห็นปานดังนี้

    ** * พระพุทธชัยมงคล คือพระคาถาเทิดทูนพระเกียรติคุณ พระผู้มีพระภาคเจ้า

    ที่ทรงชนะมาร ๘ หมู่ ด้วยพระยอดคุณธรรม ๘ ประการ

    นับเป็นยอดของชัยชนะและเป็นมงคลอย่างยิ่ง

    ท่านใดมีจิตศรัทธาน้อมนำไปท่องสวดเป็นประจำ จะมีความสุข

    ความเจรญรุ่งเรืองอย่างยิ่งในชีวิตหาที่เปรียบมิได้
     
  15. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วครับ
     
  16. ไกลฝัน

    ไกลฝัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +171
    อนุโมทนาคะกับความรู้คะ แต่ก็ยังแอบสงสัยคะ เพราะบางท่านบอกต้องทำไม่งั้นบุญที่เราอุทิศให้เค้าเหล่านั้นจะไม่ถึง แต่สำหรับส่วนตัวเข้าใจอย่างที่อ.กล่าวมาคะ
     
  17. deardolly

    deardolly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +178
    เห็นด้วยครับ ถ้าใจนิ่งพอแล้ว กรวดหรือไม่กรวดก็คงได้

    ในขณะที่เรากรวดเราก็จะนึกถึงบริกรรมถึงการอุทิศส่วนบุญให้เขาทั้งหลาย

    โดยใจเราก็ยึดเอาน้ำที่กรวดนั้นทำให้ใจนิ่งสงบ แต่ถ้าเป็นคนฟุ้งซ่าน ถ้าไม่กรวดก็คงจะคิดไปเรื่อยเปื่อยบุญนั้นก็คงจะไม่ถึงเขาทุกคนทุกตน
     
  18. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำตั้งใจสงบนิ่งระลึกถึงเขาก็ได้บุญครับผม
     
  19. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    เริ่มได้บุญ ตั้งแต่เราตั้งใจ ตั้งเจตนาจะไปทำบุญนั้นแล้วครับ และขณะที่เราทำบุญนั้น
    เราสามารถจะอุทิศก่อนที่จะทำหรือก่อนให้ของขณะนั้น หรืออุทิศตอนที่ให้ของ หรือขณะพระขึ้นต้นสวด ยะถาฯ

    การกรวดน้ำมีประโยชน์อยู่คือ เราระลึกถึงความดีที่ทำ หรือบุญนั้นอีกครั้ง เป็นระยะที่สามคือระลึกถึงบุญที่เคยทำ บางทีเราอาจระลึกหลังจากทำไปหลายปีแล้ว ขณะระลึกจิตก็
    แจ่มใส ผ่องใส ขณะนี้ก็เกิดบุญอีก การระลึกบ่อยๆ เราก็ผ่องใส นึกถึงความดีจนชินเป็นนิสัย ขณะก่อนตายถ้านึกถึง จิตจะไปสุคติภูมิก่อน โดยเฉพาะตอนทำมีเหตุการณ์หรือผู้รับที่เราประทับใจ เรายิ่งทำให้ระลึกถึงเอง แฟนผมเคยเชิญฝรั่งที่เป็นหัวหน้างานที่นับถือคริสต์มาเป็นประธานถวายสังฆทานและพระประธาน9นี้ว เขาประทับใจมากๆ รู้สึกดีมาก และระลึกถึงบ่อยๆ

    การกรวดน้ำที่เราไปรดน้ำที่โคนต้นไม้ที่มีแก่น รดลงไปถึงพระแม่ธรณี เราอุทิศกุศลเสร็จเราก็ฝากบอก รุกขเทวดา ภูมิเทวดา อากาศเทวดา ไปบอกบุญนี้กับท่านเหล่านั้นที่เรากล่าว กรณีบางเคสที่เขารับกระแสบุญนี้ไม่ได้ อันเนื่องจากกำลังที่เราส่ง หรือตัวผู้รับไม่มีกำลังรับ เทวดาท่านจะได้ช่วยไปบอกบุญให้
    การกรวดน้ำ เราอาจอุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวรที่เราได้ล่วงเกินไว้ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งที่รู้และไม่รู้ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ลูกเมียสามี(ในอดีตเราเป็นทุกสถานะ คนรอบข้างเหล่านี้อาจตามมาแต่เราไม่ทราบ หรืออาจมีสัญญากันไว้โดยเฉพาะช่วงที่มีสงครามตายกันง่าย ตายกันมาก ช่วงที่มีทาส ขอเกิดเป็นลูกเป็นแม่ เป็นคู่กันอีก) บรรพบุรุษต้นตระกูล ครูบาอาจารณ์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน เทวดาประจำตัว เทวดาสร้างบารมี เทพพรหมเทวดาทั้งหมด(หรือกล่าว ท้าวสหัมบดีพรหม ท้าวสักกะ ท้าวมหาราชทั้งสี่ ท้าวพยายมราช และบริวารท่านทั้งหลาย สยามเทวาธิราช พระแม่ธรณี พระแม่คงคา) เทวดาและเจ้าที่ที่บ้าน เจ้าที่ที่ทำงาน ชื่อหัวหน้างาน เทวดาประจำตัวหัวหน้างาน สรรพสัตว์ทั้งหลาย สัมภเวสี ผีเรร่อน เปรต อสุรกาย ผู้ที่ต้องการบุญนี้ทุกรูปทุกนาม ท่านทั้งหลายจงอนุโมทนาบุญนี้เถิด โปรดอโหสิกรรมข้าพเจ้า ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุขความเจริญ ภูมิภพที่สูงขึ้น เข้าถึงนิพพานในที่สุด และทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทำบุญ ถึงแม้ข้าพเจ้าไม่ได้เอ่ย ท่านทั้งหลายจงมาอนุโมทนาบุญนั้นด้วย
    ฝากท่านรุกขเทวดา ภูมิเทวดา อากาศเทวดา ณ ที่นี้ ช่วยไปบอกบุญนี้กับท่านเหล่านั้นที่ข้าพเจ้ากล่าวแล้วด้วยเถิด สาธุ เสร็จแล้วอธิฐาน.......

    กรวดน้ำนี้ดีนะ ผมเคยกรวดน้ำแล้วฝนตกหนักมากๆทันทีเฉพาะบริเวณที่ผมอยู่ ประมาณ2นาที ตอนกรวดน้ำนั้นเป็นหน้าร้อน ประมาณ5-6โมงเย็น ท้องฟ้าสว่างโล่ ไม่มีเค้าฝนเลย
    ผมเริ่มกล่าวไม่กี่คำเอง ตอนนั้นกรวดน้ำที่บ้านใต้ต้นฟ็อก
    กล่าว ข้าพเจ้าทำ.........นี้ เพื่อในหลวง เพื่อแผ่นดินสยาม ขออุทิศบุญกุศลนี้แก่เจ้ากรรมนายเวร เทวดาทั้ง.........ฝนตกหนักมากๆในทันที เม็ดใหญ่ ตกเฉพาะบริเวณบ้านผมเท่านั้น ฝนตกหนักมากจนแฟนผมหนีไปโรงรถเลย ไปพนมมือต่อที่นั่น ผมกล่าวต่ออีกราว2นาที กล่าวเสร็จประมาณ5วินาทีฝนหยุดตกทันทีเลย เทวดาท่านคงมาอนุโมทนากันมากจนฝนตกหนักแบบไม่มีเค้าฝนในทันที แฟนยกมือพนมบอกเทวดาท่านคราวหน้าไม่ต้องมีฝนนะค่ะ ทราบแล้วว่าท่านรู้ท่านอนุโมทนา หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีอีก
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:อนุโมทนาสาธุแด่ทุกๆท่านครับ อันนี้ก็ว่ากันไป ของใครของมันครับ ถ้าผู้ที่มีบุญแล้วจริงๆผีน่ะรู้ว่าผู้ใดมีบุญพอที่เขาเหล่านั้น จะมาโมทนาสาธุได้ บ้างก็รับได้ บ้างก็รับไม่ได้ แล้วแต่กรรมของผู้นั้นๆ จะรับได้ หรือรับไม่ได้ แต่เจ้าของผู้กระทำ ได้แน่ๆ ๑๐๐ เปอร์เซ็น รับได้ได้ไม่ได้เป็นเรื่อง ของสัตว์ แต่ละบุคคล เมื่อทำแล้ว บุญย่อมเกิด ถ้าไม่ได้อุทิศบุญให้ใครเลย เมื่อนึกได้ในภายหลัง อีก ๕๐ ปีมาอุทิศยังได้เลย แต่ไม่ดีนะ แทนที่เขาจะได้ รับได้ เลยไม่ต้องรอกัน ได้รับความทุกข์ก็แย่เลย ถ้าได้รับความสุขก็ดีไป ทำบุญเสร็จ ควรอุทิสตรง แล้วก้ญาติมิใช่ญาติ ถ้าบอกพายายม ราชจะตรงกว่า เพราะกันสัตว์ไม่ให้ตกนรกว่างั้นเถอะ

    ส่วนใหญ่ พวกที่บอกกว้างๆ ส่วนใหญ่ที่เห็น เป็นพวกพุทธภูมิ พวกนี้ต้องเป็นครูเขานี่ เรียนเยอะรู้เยอะ พวกนี้ที่มีบารมีมาก ทำได้กว้างกว่า ช่วยคนได้และสัตว์ได้มาก ผมจึงบอกว่า มีทั้งได้รับและไม่ได้รับ และยิ่งพวกท่านพระโพธิสัตว์ที่มีทิพย์จักษุญาณ มีบารมีเต็ม ท่านพวกนี้ ช่วยสัตว์มีกรรมหนักบางอย่างได้ ท่านพวกนี้ สามารถต่อรอง เจ้ากรรมนายเวรได้ด้วย และสามารถยื้อได้อีกต่างหากครับ บูญมันมีหลายชั้น ตามวาสนาบารมีที่ สั่งสมมาครับ ประสบการณ์ ที่ครูบาอาจารย์แต่ละอง์นะครับ ใครทำใครได้ บุญใครบุญมันทำตามกำลังบุญของตัวครับ ทุกท่านว่ามาดีกันแล้วครับ:cool:


    การกรวดน้ำ หรือไม่กรวดน้ำก็ได้ แต่หลักจริงๆ ใครถนัดแบบไหน ก็ตามสบาย สไตรใครสไตรมัน ไม่ผิดครับ แต่ที่พวกท่าน ทำถึงแล้ว เขาให้ตรง ถ้าไม่รู้ ติดต่อไม่ได้ เขาบอกกว้างๆไปอีก ให้แม่พรธรณีเป็นพยาน แต่จะขาดไม่ได้ ต้องบอกพยายม บอกตรง เพราะท่านมีหน้าที่นี้กันสัตวื ไปอธิบายไม่ต้องอธิบายแล้วเน๊าะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...