ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    อยู่จังหวัดไหนเหรอ
    กำลังจะเดินทาง... จะได้เตรียมตัวถูก เพราะแถวบ้านร้อนปกติ
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แกะรอย'โคโรน่า'ไวรัสพันธุ์ใหม่..กระจายทั่วโลก !!!

    [​IMG]

    ปี ค.ศ.2003 มีการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่า “ซาร์ส” เป็นผลให้มีผู้ป่วยมากกว่า 8,000 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 750 รายทั่วโลก ต้นตอของเชื้อพบครั้งแรกที่ประเทศจีน จากการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พบว่าเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โคโรน่า

    แกะรอยกลับไปเมื่อประมาณวันที่ 15 ก.ย.2012 ศ.ดร.อาลี โมฮัมเม็ด ซาคี ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา รายงานผลการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาในนครเจดดะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ปรากฏใน “อินเตอร์เน็ตโปรเม็ทเมลล์” ของสมาคมโรคติดเชื้อนานาชาติว่า พบไวรัสที่เพาะแยกได้จากมนุษย์ เป็น ไวรัสชนิดใหม่คล้ายไวรัสก่อโรคซาร์ส...

    ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ราชบัณฑิตและผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เล่าว่า หลังจากมีการรายงานดังกล่าว รัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้บังคับให้โรงพยาบาลไล่ ศ.ซาคีออกจากโรงพยาบาล โดยไม่มีเงินตอบแทนใดๆ โทษฐานที่นำเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อชาวโลก แต่แล้วชื่อของ “โคโรน่าไวรัส” ก็กลับมาทำให้โลกต้องตื่นตะลึงอีกครั้ง ในเดือน ก.พ.2013 เมื่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนให้ทุกประเทศจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสคล้ายโรคซาร์ส (SARS)

    หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในอังกฤษ โดยพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อทั่วโลก 12 ราย และ 5 ราย มีอาการเข้าขั้นรุนแรง ในจำนวนนี้เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย 3 ราย และชาวจอร์แดน 2 ราย

    [​IMG]

    “โคโรน่าไวรัส” (Corona Virus) อันตรายมากน้อยแค่ไหน....

    คุณหมอประเสริฐ อธิบายว่า โคโรน่าไวรัส ประกอบด้วยสมาชิกหลายสายพันธุ์ ที่สามารถก่อโรคได้ในมนุษย์หลักๆมีอยู่ 3 จีนัส คือ อัลฟ่าโคโรน่าไวรัส เป็นไวรัสของค้างคาว สุกร และมนุษย์, เบต้าโคโรน่าไวรัส เป็นไวรัสของหนูและค้างคาว และ แกมม่าโคโรน่าไวรัส เป็นไวรัสของสัตว์ปีก หนู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

    เมื่อค้นข้อมูลเกี่ยวกับโคโรน่าไวรัส พบว่า โคโรน่าไวรัส เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ ในคนและสัตว์ เช่น หนู ไก่ วัว ควาย สุนัข แมว กระต่าย และสุกร มีรายงานการพบเชื้อมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1965 ประกอบด้วยเชื้อสายพันธุ์ย่อยหลายสายพันธุ์ และพบได้ทั่วโลก ความรุนแรงของอาการที่ได้รับเชื้อแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ มีเพียงส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรง เช่นกรณีของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคซาร์สเมื่อปี ค.ศ.2013

    สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่เพิ่งเป็นข่าวฮือฮาล่าสุดนี้ เป็นไวรัสสายพันธุ์หนึ่งในกลุ่มโคโรน่าไวรัส เรียกว่า Novel Corona Virus : NCoV เพิ่งค้นพบในปี พ.ศ.2555 ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงการติดเชื้อว่าติดมาได้จากอะไร แต่ที่แน่ๆผู้ป่วยชาวอังกฤษ 2 ราย ที่พบเชื้อล่าสุดมีประวัติการเดินทางกลับจากประเทศปากีสถานและซาอุดีอาระเบีย

    อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกยืนยันในเบื้องต้นว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือโรคโคโรน่า 2012 นี้ ไม่ใช่โรคซาร์สเพราะเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าคนละสายพันธุ์ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 นี้จะมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน มีระยะฟักตัวของโรคอย่างไร ส่วนการติดต่อของโรค สันนิษฐานว่า น่าจะติดจากคนสู่คน โดยผ่านทางฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายจากผู้ป่วยที่มีเชื้อไปยังบุคคลอื่น โดยการไอ หรือจาม และการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศ มีโอกาสเป็นไปได้แต่น้อย

    มาตรการขณะนี้นอกจากกระทรวงสาธารณสุขจะสั่งการให้สำนักระบาดวิทยาและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคปอดบวมหรือมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรง มีไข้สูง และปอดผิดปกติทุกรายอย่างเข้มงวด และประสานทำงานร่วมกับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อวางความพร้อมระบบการป้องกันโรคในประเทศได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพแล้ว

    ในส่วนของประชาชนทั่วไปก็ควรที่จะดูแลสุขภาพของตนเอง โดยหลีก เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือจาม, ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย, หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ที่เป็นหวัดหรือมีอาการไอ จาม ควรใส่หน้ากากอนามัย ปิดปากปิดจมูกเวลาไอหรือจาม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น

    แม้ขณะนี้จะมีการยืนยันว่ายังไม่มีการระบาดของโคโรน่าไวรัสในเมืองไทย แต่สำหรับเชื้อไวรัส..ที่ปรับตัวได้ง่าย และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วแล้ว เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้จริงๆ.

    ที่มา แกะรอย'โคโรน่า'ไวรัสพันธุ์ใหม่..กระจายทั่วโลก! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    ลำพูนครับ เมื่อเช้าก็ยังเย็นอยู่นะ จำได้ว่า2-3ปีก่อนก็หนาวยังนี้แหละมีฝนด้วย หนาวมาก

    แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ปี54ไหม

    ถ้าใช่อาจเป็นลางว่าปีนีี้มีน้ำมากครับ

    (มีคนไม่เห็นด้วยกับผม ไม่ทราบว่าเพราะอะไไร ผมบอกเล่าเฉยๆๆนะ)
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประกาศวันมหาสงกรานต์ ปี พ.ศ.๒๕๕๖ !!!

    [​IMG]

    วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๑ นาฬิกา ๕๘ นาที ๔๘ วินาที ตรงกับเวลา ๒ นาฬิกา ๑๖ นาที ๔๘ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน) *จันทรคติตรงกับ วันเสาร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะเส็ง

    นางสงกรานต์นามว่า มโหทรเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว(ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จไสยาสน์หลับเนตร(นอนหลับตา) มาเหนือหลังมยุรา(นกยุง) เป็นพาหนะ
    เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ ศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า

    คำทำนายวันสงกรานต์ ปี พ.ศ.๒๕๕๖

    เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ อาโป(ธาตุน้ำ) น้ำมาก น้ำท่วม

    เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะเส็ง นาคราชให้น้ำ ๑ ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล

    เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในไร่นา จะได้ ๑ ส่วน เสีย ๑๐ ส่วน คนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยากลำบากแค้น เพราะกันดารอาหารบ้าง จะฉิบหายเป็นอันมากแล

    วันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ : จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิง และ โจรผู้ร้าย และ จะเจ็บไข้นักแล ฯ ,

    วันจันทร์ เป็นวันเนา : เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่าง ๆ ,

    วันจันทร์ เป็นวันเถลิงศก : พระราชเทวี และหมู่นางสนม ราชบริพาร จะประกอบไปด้วยสุขและสมบัติทั้งปวง ,

    นางสงกรานต์ ไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) : พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

    ที่มา ประกาศสงกรานต์ปี พ.ศ.2556 วันมหาสงกรานต์ วันเถลิงศก - myhora.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มาเตือนให้ระวังเรื่องเศรษฐกิจให้ดีจ้า..!!!

    [​IMG]

    Falkman สมาชิก

    มาเตือนๆ กันอีกหน ว่าให้ระวังเรื่องเศรษฐกิจให้ดีจ้า

    ได้สัญญาณบางอย่างแล้ว ปีนี้พวกเราอาจจะได้เห็นการลด cost

    เห็นการ layoff หรือเห็นการปิดตัวของหลายบริษัทได้อีก


    14-03-2013, 03:23 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ภัยทาง...ืนเร็วๆ-นี้-เตรียมตัวกันหรือยัง.338369/page-6
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. vich

    vich เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +156
    "อนุโมทนา".......ผมขออนุโมทนา ข่าวความวิบัติ อาเพศ คนตายหมู่ สัตว์ตายเกลื่อนบ้านเรือนพังพินาศ ให้ผู้มาบอกเตือนให้รับรู้ในข่าวเหล่านี้แล้วไม่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ถ้าเผื่อสักวันสิ่งเหล่าอาจเกิดขึ้นใกล้ๆตัวผมหรือคุณๆในวันหน้า
    ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราคือประสบการณ์ตรง ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาแล้วถ่ายทอดให้รับรู้คือประสบการณ์อ้อม รับรู้แล้วไตร่ตรอง มีจริงมีเท็จ ใช้สติคิดตามอย่าพึ่งปฏิเสธโดยไม่ยั้งคิดเท่ากับปิดหูปิดตาตัวเอง...................รับรู้สิ่งใดแล้วให้ตื่นตัวไม่ประมาถชีวิต!
     
  7. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    ตอนนี้แถวอำเภอสามร้อยยอดร้อนมากๆขนาดอยู่ในบ้านต้องเปิดแอร์ตอนกลางวันตลอด
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "เกลือ"สิ่งธรรมดาที่อยู่ในครัว แต่เป็นสมุนไพรชั้นยอด !!!

    [​IMG]

    อากาศเริ่มร้อนเข้าสู่ภาวะปกติของคิมหันต์ฤดู คนส่วนใหญ่จึงนิยมมุ่งหน้าสู่ทะเลนั่งตากลมคลายร้อน และลงเล่นน้ำทะเล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทะเลสวยกว่าฤดูฝน เที่ยวทะเลแล้วนึกถึงเกลือ เพราะความเค็มของน้ำทะเล และเพราะนั่งรถผ่านชายทะเลยังเห็นนาเกลือ แม่ค้าขายเกลือข้างทางมากมาย

    เกลือคู่กับความเค็ม ใครที่เคยอ่านหนังสือของสำนักพิมพ์มติชน เรื่อง "ประวัติศาสตร์โลกผ่านเกลือ" จะเข้าใจประโยชน์ของเกลือ และการค้าขายในอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างดี ใครจะนึกว่าเคยมีภาษีเกลือและมีสงครามแย่งชิงเกลือ หากยังไม่ได้อ่านลองหาอ่านยามลาพักร้อนในเดือนร้อนๆ แบบนี้นะ

    มาพูดถึงความเค็มของเกลือ คนทั่วไปมักใช้ประโยชน์ในการประกอบอาหาร และการถนอมอาหาร ขอแยกแยะเป็นความรู้เบื้องต้นของเกลือตามโครงสร้างทางเคมีสักนิด คือ เกลือประกอบด้วย โซเดียมและคลอไรด์ พูดตามภาษาเคมี เกลือธรรมดา (Normal Salt) ก็คือ โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) นั่นเอง แต่ยังมีเกลือตามโครงสร้างเคมีอีกมากมาย เช่น เกลือกรด (Acid Salt) เกลือด่าง (Basic Salt) และเกลือผสม (Double Salts)

    แต่คนทั่วไปก็ไม่รู้หรอกว่าเกลือ 3-4 ชนิดนั้นเอาไปใช้ทำอะไรที่ต่างกัน คนทั่วไปมักจะรู้จักเกลือที่นำไปกินกันในชีวิตประจำวัน พูดกันง่ายๆ รู้จักอยู่ 2 อย่าง เรียกตามภาษาชาวบ้านว่า "เกลือสมุทรหรือเกลือทะเลหรือเกลือแกง" และอีกอย่างคือ "เกลือสินเธาว์หรือเกลือบาดาล"

    เกลือสมุทร ชื่อบอกอยู่แล้วว่าเป็นเกลือที่ได้มาจากน้ำทะเล มีส่วนประกอบของโซเดียมคลอไรด์ต่ำกว่าเกลือสินเธาว์ แต่มีสารที่สำคัญต่อสุขภาพคือไอโอดีน เกลือสมุทรเกิดจากการทำให้น้ำทะเลตกผลึกโดยใช้แสงอาทิตย์ในภาษาอังกฤษจึงเรียกเกลือชนิดนี้ว่า Solar Salt

    ผลึกของเกลือมีรูปร่าง 2 แบบ ใครที่สนใจตำรับยาโบราณหรือแม่ครัวยุคเก่าก็รู้ดีว่ามีการเรียกเกลือได้ 2 แบบ คือ เกลือตัวผู้ เม็ดเกลือจะมีรูปร่างลักษณะเป็นเม็ดยาวแหลม ชาวนาเกลือจะใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นคือ นำไปผสมน้ำมะนาวจะแก้ไอได้ดี หรือใช้อุดฟันแก้ปวดก็ได้ ส่วน เกลือตัวเมีย เม็ดเกลือจะมีรูปร่างลักษณะแบนเป็นเหลี่ยม ประโยชน์ของเกลือตัวเมียสามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์ ใช้บริโภค ใช้ดองผัก ดองปลา ทำน้ำปลา และใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ

    สำหรับเกลือสินเธาว์ ชื่อก็บอกอีกเช่นกันว่าเป็นเกลือที่ได้มาจากดิน กระบวนการผลิตเกลือชนิดนี้มีหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่เป็นการละลายเกลือที่อยู่ใต้ดินโดยใช้น้ำบาดาล แล้วนำน้ำเกลือมาต้มหรือทำให้เกลือตกผลึกโดยแสงแดด เกลือสินเธาว์มีผลึกขนาดเล็กและมีส่วนประกอบของโซเดียมคลอไรด์สูงกว่าเกลือสมุทรแต่ไม่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ เรียกว่าได้อย่างเสียอย่าง

    ดังที่ใครอ่านหนังสือ "ประวัติศาสตร์โลกผ่านเกลือ" ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าเกลือเป็นมากกว่าของรสเค็มๆ เป็นมากกว่าเครื่องปรุงรสและถนอมอาหาร ในด้านสุขภาพเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเกลือมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ หากขาดเกลือทำให้เจ็บป่วยได้ แต่กินมากไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน ในตำรายาไทยได้มีการกล่าวถึงสรรพคุณของเกลือในอีกรูปลักษณ์หนึ่งที่คนรุ่นใหม่ยังไม่ได้รับทราบ ในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่แบบโบราณของไทย จึงขอนำเรื่องเก่าที่ทรงคุณค่าและยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในยุคนี้มาเล่าสู่กันฟัง

    จากตำราสรรพคุณยาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ซึ่งท่านได้รับการยกย่องจากยูเนสโกเมื่อปี 2551 ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ซึ่งมีผลงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขที่สำคัญ คือ ตำราสรรพคุณยาสมุนไพร เป็นตำราเกี่ยวกับคุณประโยชน์และโทษของสมุนไพรไทย จำนวน 166 ชนิด ที่ใช้ในการรักษาโรคในการแพทย์ไทยแผนโบราณเป็นตำราสมุนไพรเล่มแรกของไทยที่ เขียนแบบเอกสารทางวิชาการ แจกแจง และวิเคราะห์ส่วนต่างๆ ของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด

    และใครที่ชื่นชมความรู้จากวัดโพธิ์ ก็ขอให้ทราบว่า ท่านเป็นผู้จารึกคำประพันธ์ไว้บนแผ่นหิน ที่บรรยายการบำบัดโรคด้วยสมุนไพร และท่า "ฤๅษีดัดตน" ที่มีเรียงรายอยู่ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั่นเอง ตำรับยาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิทได้กล่าวไว้ว่า เกลือที่ใช้เป็นยามี 5 ประเภท คือ เกลือสินเธาว์ เกลือพิก เกลือฝ่อ เกลือสมุทรี และ เกลือวิก แต่ละชนิดเกิดจากกระบวนการปรุงที่แตกต่างกัน

    เริ่มต้นให้เอาเกลือสมุทรมาตำให้ละเอียด เอาน้ำใส่พอสมควร (ท่านไม่ได้บอกปริมาณแน่ชัดน่าจะเนื่องมาจากเกลือที่นำมาใช้มีปริมาณน้ำในเกลือแต่ละแหล่งและช่วงเวลาไม่เท่ากัน จึงให้ผู้ประกอบยาได้พิจารณาจากประสบการณ์ว่าควรใส่น้ำเท่าใด ซึ่งข้อนี้ได้แสดงให้เห็นว่าหมอแต่อดีตมีความชำนาญในการปรุงยา) แล้วนำไปต้มด้วยหม้อใหม่ (หมายถึงหม้อดิน) ให้แห้ง แล้วสุมไฟจนหม้อแดง แล้วนำเกลือนั้นมาแบ่งเป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนนำมาปรุงเป็นเกลือแต่ละประเภท ดังนี้

    การปรุงเกลือสินเธาว์ ให้เอาเกลือที่เตรียมไว้แล้วมาผสมน้ำนมวัว เคี่ยวไปจนแห้งประมาณ 3 วัน เกลือสินเธาว์ใช้แก้โรค 3 อาการคือ

    1. พรรดึก (อ่านว่า พันระดึก) หมายถึงอาการท้องผูกมาก มีอุจจาระเป็นก้อนแข็งคล้ายขี้แพะ

    2. แก้ระส่ำระสาย ในที่นี้น่าจะหมายถึงอาการที่เกิดจากการหมุนเวียนของโลหิตไม่ปกติ ทำให้เกิดความผิดปกติของลมในร่างกายทำให้เกิดอาการระส่ำระสาย

    3. แก้ตรีโทษ คือ เสมหะ ขับลม และบำรุงน้ำดี

    ความรู้ของท่าน ได้ปรากฏในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตำราหลักของแพทย์แผนไทย ได้กล่าวไว้ว่าให้เอาน้ำนมโคเท่ากับเกลือ 1 ส่วน ลงกวนสามวันให้แห้ง จึงได้ชื่อว่าเกลือสินเธาว์ มีรสเค็มมัน สรรพคุณ แก้พรรดึก แก้ระส่ำระสาย แก้ไข้ตรีโทษ (เป็นโทษที่เกิดจาก ปิตตะ วาตะและเสมหะร่วมกัน) และแก้นิ่ว

    ที่มา : โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิสุขภาพไทย

    ในทุกครัวเรือนหรือร้านอาหารจะต้องมีเกลือเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารทุกชนิด แต่หลายคนมักจะรู้จักสรรพคุณของเกลือ เฉพาะความเค็มเท่านั้น จริงๆแล้ว

    เกลือมีสรรพคุณหลายด้าน ดังนี้

    ๑. แก้ตะคริว ใช้เกลือละลายน้ำดื่มแก้ตะคริวได้ บางท่านก่อนจะลงว่ายน้ำถ้าได้ดื่มน้ำเกลือก่อนจะช่วยให้ไม่เป็นตะคริว

    ๒. แก้คลื่นไส้ เมาสุรา ใช้เกลือ ๑/๒ ช้อนกาแฟต่อน้ำ ๑ แก้ว ผสมกันแล้วดื่ม อาการคลื่นไส้จะหายไป

    ๓. แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ใช้เกลือละลายน้ำสะอาด ๑ แก้ว ดื่มก่อนเข้านอนหรือตื่นนอนตอนเช้า แก้อาการร้อนในกระหายน้ำได้ผลดี

    ๔. รักษาโรคกระเพาะ ใช้เกลือ ๑ ช้อนชา ละลาย น้ำ ๑ แก้ว กินทุกเช้าหลังจากตื่นนอน ช่วยรักษาโรคกระเพาะได้

    ๕. แก้เป็นลม เอาเกลือทะเลละลายกับน้ำร้อน หรือน้ำเย็นดื่มแก้อาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียน ตาลาย เพราะร่างกายอ่อนเพลียได้ผลดี

    ๖. แก้ถูกยาเบื่อ ใช้เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำอุ่น ๑/๒ แก้ว กินครั้งเดียวกันอาเจียนออกมา

    ๗. แก้แผลปากเปื่อย ใส่เกลือบริเวณแผลแล้วอมไว้ ครั้งแรกจะรู้สึกแสบ ครั้งต่อไปแผลจะหาย

    ๘. แก้เผ็ด ถ้ากินอาหารรสจัด ๆ รู้สึกแสบที่ปากอมเกลือแล้วทิ้งไว้สักครู่ก็จะหาย

    ที่มา ฟอรัมเสรีไทยดอสเนต
    สรรพคุณ...ของเกลือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ในยามเกิดสงคราม"เกลือ"จะหายากและมีราคาแพง !!!

    [​IMG]

    หนังสือชื่อ ทหารเหลือใช้สงคราม พลตรี ถาวร ช่วยประสิทธิ์ เขียน พิมพ์ขายแล้วสองครั้ง ครั้งหลังสำนักพิมพ์สารคดี พิมพ์เมื่อปี 2549 วันที่ 8 ธ.ค.2484 ร.ต.ถาวร ประจำการอยู่อำเภอวัฒนานคร เห็นเครื่องบินไทยบินขึ้นสู้ฝูงบินญี่ปุ่น แล้วถูกยิงร่วงสามลำ...กับตา ไม่กี่วันต่อมาความรู้สึกญี่ปุ่นเป็นศัตรู ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้รับคำสั่งให้ไปร่วมรบกับญี่ปุ่น

    ตอนไปถึงแม่สาย เชียงราย...เลื่อนยศเป็น ร.ท. ข้ามแม่สายไปตั้งฐานอยู่ท่าขี้เหล็ก ซึ่งตอนนั้นกองทัพไทยบุกยึดเป็นสาธารณรัฐไทยเดิมแล้ว ช่วงเวลาพักรอคำสั่ง...รุกคืบหน้า ทหารก็มักหาเรื่องบันเทิงนิดหน่อย เช่นตั้งวงเล่นอีโปง ลูกอีโปง ของเล่นคนตะวันออก นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ฯลฯ คือลูกข่างเล็กๆทำจากเขาควาย...มีหกหน้า เมื่อเจ้ามือปั่นลูกข่าง ลูกค้าก็เริ่มแทง พอลูกข่างล้ม ออกหน้าไหน คนแทงหน้านั้นก็ชนะ

    อุปกรณ์เล่นสำคัญ คือจานสำหรับปั่น เขาใช้จานกระเบื้องเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1 คืบ คว่ำลงเอากระดาษทรายขัดก้นจนบางใส แสงแดดผ่านได้ พออีโปงวิ่งก็จะได้ยินเสียงกร๊อดถนัด พออีโปงล้ม ก็จะเกิดเสียง “กริ๊ก” ลูกค้าก็จะมีช่องสังเกต ล้มเสียงไหน จะออกตาใด ล่อตาล่อใจให้แทง กรรมวิธีเล่น เจ้ามือเอาผ้าขาวผ้าขดเป็นวงบนพื้น เอาจานตั้งลงไป มีช่องว่างใต้จาน เมื่อเจ้ามือปั่นแล้ว ก็เอาหมวกกะโล่อบยางครอบไว้ พออีโปงล้มลูกค้าจะแทงกันอุตลุด ทุกหน้ามีชื่อเรียก อ๋อ กั๊ก ชั้วอา หัวตะเข้ฯ

    ครั้งหนึ่งมีเรื่องใหญ่ เจ้ามือปั่นอีโปงแล้วเอาหมวกครอบ ก็ทำทีเป็นขอตัวไปปัสสาวะ พวกเจ้ามือก็แกล้งเปิดหมวก ให้ลูกค้าเห็น อีโปงออกตา 6 พอเจ้ามือกลับมา ค่อยเลื่อนหมวกออก อีโปงกลับหงายหน้าเป็นเอี่ยว ทันทีนั้นก็เกิดการตะลุมบอน เพราะลูกค้าเชื่อว่าเจ้ามือโกง โกงด้วยการเอานิ้วไปสอดใต้หมวก พลิกหน้าอีโปง

    ระหว่างอยู่ท่าขี้เหล็ก ท่านผู้นำ ในฐานะ ผบ.สูงสุด แวะมาเยี่ยมปลอบขวัญติดเหรียญชัยให้ทหาร แต่ในบรรยากาศรบกับศัตรู บนภูเขา และไข้มาลาเรีย ทหารไม่รู้ว่าจะติดเหรียญไปเดินอวดต้นหมากรากไม้ที่ไหน จากนั้นก็รุกคืบหน้า เข้าเชียงตุง ระหว่างภารกิจก็ต้องสู้ทุกอย่าง ขาดยา ขาดอาหาร ขาดเสื้อผ้ากันหนาว ต้องยิงนกตกปลา เอาชีวิตรอดไปวันๆ

    แต่ก็มีเรื่องรักๆใคร่ๆ มาให้วูบวาบกันอยู่บ้าง ลูกน้องเป็นแม่สื่อไปขอสาว รุ่งขึ้นจะหมั้นหมายกัน พ่ออุ๊ยก็คุยกับลูกเขย อยู่กับลูกสาวแกแล้ว ช่วยหาเกลือมาให้สักครึ่งกระสอบ เกลือในตลาดที่นั่น 1 ถ้วยตะไล ขาย 1 บาท เกลือกระสอบเสื่อจูด แลกกับทองบริสุทธิ์กว่า 1 บาท ความฝันของคนแถวนั้น ...คือเกลือ เพราะเกลือคือทอง ทั้งหายากกว่าทอง

    รบกับฝรั่งเศสแบบรุกบ้างถอยบ้าง ระแวงกระทั่งญี่ปุ่น ที่ตายก็ตายไป เผาเอากระดูกใส่กล่องไม้ไผ่ เก็บไว้ให้ญาติ...กลาง ส.ค.2488 ญี่ปุ่นเจอระเบิดปรมาณูแพ้สงคราม ทหารพันธมิตรยื่นคำขาด ให้ทหารไทยออกจากเชียงตุงใน 4 วัน ตอนกลับ ทหารญี่ปุ่นนั่งรถไฟ แต่ทหารไทยต้องเดินด้วยเท้า นับไม้หมอน...ถึงหน่วยเก่า...โคราช ก็มีทหารหน่วยใหม่มาอยู่เต็มหมดแล้ว รอญาติมารับกระดูก กับของฝากเพื่อนทหารที่ตาย เป็นภารกิจสุดท้าย

    พลตรีถาวรเขียนบทสรุปว่า...เป็นทหารยศ ร.ต. 3 วัน ก็ต้องออกสนามรบ...6 ปีผ่านไป ได้ยศ ร.อ. ตระเวนดินแดนอินโดจีนจนทั่ว แล้วก็ต้องคืนเขาไป สิ่งที่เหลือติดกาย...คือเชื้อมาลาเรียในสายเลือด สิ่งที่เหลือในสำนึก...อันมนุษย์ที่ดิ้นรนกันทุกวันนี้ แท้จริงสิ่งที่ต้องการจริงๆ ก็คือที่อยู่ซุกหัวนอน เครื่องนุ่งห่มพอกันหนาวร้อน และความอาย อาหารพอประทังชีวิต และสุดท้าย ยารักษาเพื่อไม่ให้ตายก่อนวัยอันสมควร...เท่านั้น

    แม้พลตรีถาวร ตั้งใจเรียกตัวเองว่า ทหารเหลือใช้สงคราม แต่ทหารเหลือใช้สงครามคนนี้ มีชีวิตตอนปลาย มีเสน่ห์ น่ารัก และสง่างาม ทำแต่คุณแต่ประโยชน์ให้คนอื่น ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้บ้านเมือง ผมไม่แน่ใจ ทหารเก่าๆบางราย จะเรียกทหารเหลือใช้สงครามได้เหมือน พล.ต.ถาวร หรือไม่..

    หลายท่าน เอ่ยชื่อขึ้นมา ชาวบ้านเขาก็ส่ายหน้า...ทำอะไรไม่ค่อยเป็น เป็นแต่เรื่องล้าหลัง เอะอะก็ปฏิวัติ ไม่เคยลืมตาดูว่า โลกวันนี้เขาพัฒนาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว.

    โดย: กิเลน ประลองเชิง
    14 พฤศจิกายน 2555

    ที่มา ทหารเหลือใช้สงคราม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "มโหธรเทวี” นางสงกรานต์สุดดุ ปี พ.ศ.2556 !!!

    [​IMG]

    ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวาย และกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะนั้น หากเราไปอ่านคำพยากรณ์จากประกาศสงกรานต์ปี 2556 ก็จะเห็นได้ว่า มีความสอดคล้องกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนางสงกรานต์ปีนี้ที่มีนามว่า มโหธรเทวี มิหนำซ้ำวันมหาสงกรานต์ปีนี้ก็ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 เมษายน แถมวันเนาว์ยังตรงกับวันจันทร์อีกต่างหาก

    ตรงนี้หมายความว่าอย่างไร คำพยากรณ์ของโบราณบอกว่า การที่วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันเสาร์ จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิง และ โจรผู้ร้าย และจะเจ็บไข้นักแล ฯ ส่วนวันเนาว์ตรงกับวันจันทร์ เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่าง ๆ

    ครั้นมาดูนางสงกรานต์ ที่มีนามว่า นางมโหธรเทวี ดูท่าแล้วก็ดุไม่เบา เนื่องจากพระนางนอกจากจะพกจักรและตรีศูลย์เป็นอาวุธแล้ว ยังกินเนื้อทรายเป็นอาหาร แถมทัดดอกสามหาว และใส่นิล (พลอยสีดำ) เป็นเครื่องประดับอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม ถ้ามองให้ลึกลงไปก็อาจสบายใจขึ้นบ้าง เพราะการที่วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันเสาร์ แม้จะเป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ที่ทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นวันเจ้าทุกข์ แต่ก็เป็นวันแข็ง และมีพระนาคปรกเป็นพระประจำวันนี้ ซึ่งเปรียบเหมือนเรามีพญานาคราชได้แผ่พังพานปกป้องคุ้มครองให้พ้นทุกข์และภัยพิบัติต่างๆ และยังมีความเชื่อว่าพระปางนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ทางเมตตา เพราะตามตำนานแม้แต่พญานาคยังขึ้นจากน้ำมาถวายอารักขาพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ก็ด้วยพลานุภาพแห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์

    ดังนั้น จึงเป็นการบอกทางอ้อม ให้เราใช้รู้จักใช้หลักเมตตาธรรมในการดำเนินชีวิตทุกระดับ ไม่ว่าจะกับครอบครัว สังคม และประเทศชาติ

    ส่วนอาวุธของนางสงกรานต์ที่เป็นจักรนั้น ก็คืออาวุธของพระนารายณ์ที่ทรงใช้ในการปราบทุกข์เข็ญให้แก่โลก และตรีศูลย์ก็คือ อาวุธของพระศิวะมหาเทพที่ทรงโปรดให้พรวิเศษแก่ผู้กระทำคุณความดีต่างๆ และนิลนั้นก็เป็นอัญมณีที่ทำให้ผู้สวมใส่ เกิดความใจเย็น สามารถป้องกันอันตรายจากภูตผีวิญญาณ นำมาซึ่งความเข้มแข็ง โชคลาภ หรือความมั่งมี

    จะเห็นได้ว่า แม้วันเวลาที่นางสงกรานต์เสด็จมาไม่ดีนัก แต่อาวุธและเครื่องประดับก็มีนัยที่ดี เพราะใช้ปราบอริราชศัตรูและเป็นมงคล

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราควรตระหนัก คือ เราต้องใช้คำทายทักล่วงหน้าเหล่านี้เตือน “สติ” ตัวเองให้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความระมัดระวัง เพียงแค่นี้ เราก็จะรับ “สงกรานต์” ได้อย่างมีความสุข และเชื่อมั่นในอนาคตข้างหน้าได้

    ที่มา Quality of Life - Manager Online - “มโหธรเทวี” นางสงกรานต์สุดดุปี 56
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรือดำน้ำนิวเคลียร์สหรัฐฯ โผล่ที่สัตหีบ !!!

    [​IMG]

    เรือแอลบูเคอร์กี (USS Albuquerque -SSN 706) แล่นไปยังเรือแฟรงค์ เคเบิ้ล (USS Frank Cable -AS 40) เรือพี่เลี้ยงในอ่าวสัตหีบของไทยวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐโดยกองกำลังแปซิฟิกเผยแพร่ภาพในเว็บไซต์วันอังคารนี้ นับเป็นเรือดำน้ำสหรัฐลำที่ 2 ที่เข้าทะเลอ่าวไทย เท่าที่มีการเปิดเผยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ปีที่แล้วเรือบัฟฟาโล (USS Buffalo - SSN715) ซึ่งเป็นเรือชั้นลอสแอนเจลีสอีกลำเข้าจอดที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่เรือแอลบูเคอร์กีเข้าถึงก้นอ่าวไทยในปีที่สหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนย้ายกำลัง 60% สู่ภูมิภาค. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 2nd Class Corey Hensley

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทะเลอ่าวไทยได้กลายเป็นแหล่งคุ้นเคยสำหรับเรือดำน้ำขนาดใหญ่ไปอีกแห่ง และไม่จำเป็นต้องทำลับๆ ล่อๆ อีกต่อไป กองกำลังนาวีในแปซิฟิกของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพเรือดำน้ำ 1 ลำ กับเรือพี่เลี้ยงอีก 1 ลำ ในบริเวณอ่าวสัตหีบของไทยในวันอังคาร 12 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ 2 วันก่อนหน้านั้น และเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปีที่สหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนย้ายแสนยานุภาพเข้าสู่ภูมิภาค

    ทั้ง 2 ลำในภาพคือ เรือแอลบูเคอร์กี (USS Albuquerque -SSN706) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำโจมตีเร็วชั้นลอสแองเจลิส (Los Angeles-Class) ขนาด 6,000 ตัน ติดจรวดร่อนโทมาฮอว์กสำหรับยิงโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินในรัศมีนับพันกิโลเมตร และติดจรวดฮาร์พูนยิงทำลายเรือรบข้าศึกบนพื้นน้ำ อีกลำหนึ่งคือ เรือแฟรงค์เคเบิล (USS Frank Cable -AS40) ซึ่งเป็นเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ (Submarine Tender Ship) แต่ทั้งกองเรือแปซิฟิก และกองทัพเรือสหรัฐฯ ยังมิได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับภารกิจของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำนี้

    ตามรายงานในเว็บไซต์กองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ เรือแฟร็งค์ เคเบิล กับเรือแอลบูเคอร์กี ไปถึงอ่าวสัตหีบตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. ในโครงการเชื่อมความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับราชนาวีไทย ซึ่งระหว่างนี้ลูกเรือจะมีส่วนร่วมในโครงการบริการชุมชนด้วย ขณะเดียวกันก็จะใช้โอกาสนี้ซ่อมบำรุงเรือดำน้ำให้แล้วเสร็จ ซึ่งไม่มีการระบุว่าเป็นเรื่องใดบ้าง

    “ภารกิจ (การแวะเยือน) ครั้งนี้จะะช่วยปรับปรุงความสามารถของเราในปฏิบัติงานร่วมกันในยามที่ไทยกับสหรัฐฯ จะต้องปฏิบัติการร่วมกัน” น.อ.พีท ฮิลเดร็ท (Pete Hildreth) ผู้บังคับการเรือแฟรงค์ เคเบิล กล่าว

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกล่าวถึงภารกิจของเรือดำน้ำ กับนายทหารและลูกเรือราว 150 ชีวิต แอลบูเคอร์กี นับเป็นเรือดำน้ำสหรัฐฯ ลำที่ 2 ที่แล่นเข้าถึงก้นอ่าวไทยในช่วงไม่กี่ปีมานี้หรือเท่าที่มีการเปิดเผย หลังจากเรือบัฟฟาโล (USS Buffalo - SSN715) ซึ่งเป็นเรือชั้นลอสแองเจลิสอีกลำได้เข้าจอดเทียบท่าเรือแหลมฉบังร่วมฝึกซ้อมการปราบปรามเรือดำน้ำ ตามการร้องขอของราชนาวีไทยระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-20 ส.ค.ปีที่แล้ว

    “วันที่ 20 มี.ค. เรือเอสเอสเอ็น 706 ได้เข้าจอดเทียบเรือยูเอสเอสแฟรงค์เคเบิล ขณะทอดสมอนอกฝั่งสัตหีบในประเทศไทย เพื่อรับการซ่อมบำรุง (Fleet Maintenance Availability - FMAV)” เป็นข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับกำหนดการของเรือแอลบูเคอร์กี ที่โพสต์ลงในหน้าข่าวของเว็บไซต์ Uscarriers.Net วันอังคารนี้

    เว็บไซต์ดังกล่าวได้เฝ้าติดตาม และอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับเรือดำน้ำลำนี้ กับเรือชั้นลอสแองเจลิสลำอื่นๆ เป็นระยะ เรือแอลบูเคอร์กี แล่นออกจากฐานทัพซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2556 “เพื่อสนับสนุนสันติภาพกับความมั่นคงปลอดภัย” ในย่านแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งหมายถึงทะเลจีนใต้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด

    ต่อมา วันที่ 13 ก.พ. เรือได้แวะเยือนเมืองท่าโยโกสุกะ (Yokosuka) ในญี่ปุ่นจอดที่นั่นเป็นเวลา 6 วัน ให้ลูกเรือกว่า 100 คนขึ้นฝั่ง เรียนรู้ด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และพักผ่อน ทั้งนี้เป็นรายงานในเว็บไซต์กองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ เกี่ยวกับเรือดำน้ำลำนี้เลยอีกจนกระทั่งวันนี้

    แอลบูเคอร์กีเข้าประจำการกองทัพเรือเมื่อปี 2526 และนับตั้งแต่เรือลอสแองเจลิส (USS Los Angeles -SSN688) ซึ่งเป็นเรือนำของชั้นเข้าประจำการในปี 2519 ได้มีการสร้างขึ้นมาอีกรวมทั้งหมด 62 ลำ จนถึงสิ้นปี 2555 ยังเหลือประจำการอยู่เพียง 42 ลำ ขณะที่ 18 ลำจอดนิ่งเพื่อรอปลดประจำการ อีก 2 ลำปลดออกไปและทำลายทิ้ง ทั้งหมดรอเรือรุ่นใหม่ในชั้นเวอร์จิเนีย (Virginia-Class) ขนาด 7,900 ตัน ใหญ่กว่า และทันสมัยยิ่งกว่าเข้าแทนที่

    ตามข้อมูลในเว็บไซต์ข่าวกลาโหมของสหรัฐฯ จนถึงสิ้นปี 2555 กองทัพเรือได้โยกเรือดำน้ำชั้นลอสแองเจลิสเข้าประจำการในเอเชียแปซิฟิกจำนวน 16 ลำ ตามนโยบายยุทธศาสตร์สับเปลี่ยนกำลังรบเข้าสู่ภูมิภาคนี้ 60% แต่ก็ยังมีเรือชั้นเวอร์จิเนียกับรวมทั้งเรือชั้นโอไฮโอ (Ohio-Class) อีกจำนวนหนึ่งด้วย

    โดยปกติสหรัฐฯ จะไม่เปิดเผยกำหนดการตลอดจนรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางของเรือรบรวมทั้งเรือดำน้ำด้วย นอกจากนั้นรายละเอียดหลายประการเกี่ยวกับเรือดำน้ำก็ยังถูกเก็บเป็นความลับ ข้อมูลหลายเรื่องเกี่ยวกับเรือดำนน้ำที่ถูกปล่อยออกมาก็เป็นข้อมูลลวง ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว

    เรือชั้นโอไฮโอเป็นเรือดำน้ำยุทธศาสตร์ที่น่าเกรงขามมากที่สุด เพราะสร้างขึ้นมาเพื่อติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์โดยเฉพาะ เรือชั้นนี้แต่ละลำติดขีปนาวุธไทรเดนต์ (Trident Ballistic Missile) ได้ลำละ 24 ลูก ติดหัวรบที่เลือกยิง 3 เป้าหมายได้อย่างอิสระในคราวเดียวกัน นอกจากนั้น ยังติดจรวดโทมาฮอว์กรุ่นหัวรบนิวเคลียร์อีกจำนวนหนึ่งด้วย

    แอลบูเคอร์กี เป็นเรืออันดับที่ 19 ของชั้นในจำนวน 31 ลำ ที่ผลิตออกมารุ่นแรก และเข้าประจำการระหว่างปี 2519-2528 ซึ่งรวมทั้งเรือบัฟฟาโล (อันดับที่ 28) ด้วย ปัจจุบันยังเหลือเรือชั้นลอสแองเจลิสรุ่นแรกประจำการอยู่ 11 ลำเท่านั้น

    เรือชั้นลอสแองเจลิสรุ่น 2 หรือ Flight II ผลิตตามกันออกมาเพียง 8 ลำ เข้าประจำการระหว่างปี 2528-2542 เป็นรุ่นที่เริ่มติดตั้งท่อยิงจรวดโทมาฮอว์กแนวตั้งแทนระบบท่อยิงแนวนอนในรุ่นแรกและมีการปรับปรุงระบบอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

    เรืออีก 23 ลำเรียกว่า “รุ่นปรับปรุง” ซึ่งเป็นปัจจุบันที่สุด นำเข้าประจำการระหว่างปี 2531-2539 เพิ่มท่อยิงจรวดโทมาฮอว์กมากขึ้น ติดจรวดโทมาฮอว์กเวอร์ชันใหม่ที่ใช้หัวรบนิวเคลียร์ได้ ติดตั้งระบบสื่อสาร ระบบโซนาร์ และอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด รวมทั้งใช้จรวดโทมาฮอว์กรุ่นใหม่ยิงทำลายเรือแทนจรวดฮาร์พูนในรุ่นก่อน

    ในช่วงปลายยุคสงครามเย็น สหรัฐฯ มีแผนการผลิตเรือดำน้ำชั้นซีวูล์ฟ (Seawolf-Class) ขนาด 9,000-12,000 ตันเพื่อใช้แทนเรือชั้นลอสแองเจลิส แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว ทำให้ต้องหันไปให้ความสำคัญเรือชั้นเวอร์จิเนีย ซึ่งมีการพัฒนาขีดความสามารถให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการสร้างเรือชั้นซีวูล์ฟออกมาเพียง 3 ลำและเลิกล้มแผนการไป

    เรือชั้นเวอร์จิเนียลำแรก คือ USS Virginia - SSN774 เข้าประจำการในเดือน ต.ค.2547 ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันผลิตออกมาได้ 9 ลำ กองทัพเรือต้องการทั้งหมด 30 ลำ ส่วนเรือชั้นโอไฮโอ ทยอยเข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 18 ลำ เชื่อว่าในไม่ช้าไม่นานอ่าวไทยจะได้ต้อนรับสุดยอดแห่งเรือดำน้ำของโลกทั้ง 2 รุ่นอีก.

    ที่มา IndoChina - Manager Online - โผล่ที่สัตหีบ .. เรือดำน้ำนิวเคลียร์สหรัฐฯ เข้าถึงก้นอ่าวไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายเรื่องโป๊ปองค์รองสุดท้ายในศาสนาคริสต์ !!!

    [​IMG]

    ลองมาวิเคราะห์โดยคำทำนายของนอสตราดามุสในเซ็นจูรี่ที่ 5 บทที่ 92 :

    "Apres le siege tenu dix sept ans,Cinq changeront en tel revolu terme;
    Pusi sera esleu de mesme temps,
    Qui des Romains ne sera trop conforme."


    "องค์หนึ่งจะครองอาสน์อยู่ 17 ปี
    ห้าพระองค์จะเปลี่ยนไปเมื่อครบวาระ
    หลังจากนั้นอีกท่านหนึ่งจะถูกเลือกในสมัยเดียวกัน
    ซึ่งจะไม่เป็นที่ยอมรับแก่ชาวกรุงโรม"

    วิเคราะห์

    บรรทัดที่ 1 โป๊ปเบเนดิกต์ ที่ 16 เสด็จจาริกแสวงบุญ ณ สักการสถานแม่พระฟาติมาระหว่าง 11-14 พ.ค.2010 ปีโอที่ 11 ทรงครองพระอาสน์ 17 ปี ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1922 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1939

    บรรทัดที่ 2 ห้าพระองค์จะเปลี่ยนไป...มีลำดับ ดังนี้

    1.โป๊ป ปีโอที่ 12 ทรงครองพระอาสน์ระหว่างปี 1939-1958
    2.โป๊ป จอห์นที่ 23 ทรงครองพระอาสน์ระหว่างปี 1958-1963
    3.โป๊ป พอลที่ 6 ทรงครองพระอาสน์ในปี 1963-1978
    4.โป๊ป จอห์น พอลที่ 1 ทรงครองพระอาสน์ในปี 1978 (33 วัน)
    5.โป๊ป จอห์น พอลที่ 2 ทรงครองพระอาสน์ระหว่างปี 1978-2005

    ฉะนั้น โป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 ก็ทรงครองพระอาสน์ต่อมาตั้งแต่ปี 2005 ถือเป็นองค์ที่ 6 ถัดจากจอห์น พอลที่ 2

    บรรทัดที่ 3 หลังจากนั้น หมายถึง หลังจากโป๊ปองค์ที่ 6 คือเบเนดิกต์ที่ 16 ก็จะมีอีกองค์หนึ่งถูกเลือกขึ้นมาในสมัยเดียวกับเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งเหตุการณ์นี้ยังไม่เกิด การที่มีพระสันตะปาปาอีกองค์หนึ่งถูกเลือกตั้งขึ้นมาแข่งบารมีนั้น ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมาแล้ว 33 ครั้ง มีศัพท์เรียกผู้ที่ถูกเลือกตั้งขึ้นมาประกบเช่นนี้ว่า "Antipope"

    บรรทัดที่ 4 แน่นอนที่สุด พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกจะยอมรับพระสันตะปาปาองค์ที่ 2 ไม่ได้แม้จะอ้างว่า โป๊ปองค์ปัจจุบันเคร่งครัดจนเกินไปควรจะผ่อนปรน กฎเกณฑ์ให้เป็นไปตามยุคตามสมัยใหม่บ้าง ก็คงจะรับไม่ได้ เพราะตำแหน่งพระสันตะปาปาไม่มีวาระเช่นตำแหน่งทางการเมือง อื่นๆ แต่ตำแหน่งพระสันตะปาปาจะครบวาระเมื่อสิ้นอายุขัยเท่านั้น

    กลอนนอสตราดามุสบทที่ 15/5 ก็เป็นการขยายความบทหนึ่ง กรณีโป๊ปถูกเบียดจากบัลลังก์

    "Ennavigant captif prins grand pontife ;Grand apres faillir les clecs tummultuez :Second esleu absent son bien debife,Son favori bastard a mort tue."

    "พระสันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่ถูกจับเป็นเชลยระหว่างการเดินทางพระองค์สิ้นพระชนม์ ส่งผลให้บรรดานักบวชสับสนอลหม่านขณะที่พระองค์มิได้ประทับอยู่ (ในวาติกัน) องค์ที่ 2 ก็ถูกเลือกขึ้นมาผู้ใกล้ชิดจากตระกูลต่ำต้อยจะได้รับอันตรายถึงชีวิต"

    นอสตราดามุสได้เขียนคำทำนายถึงพระสันตะปาปาไว้หลายบทเมื่อประมาณ 450 ปีมาแล้ว ช่างน่าประหลาดใจที่คำทำนายของท่านไปตรงกับคำทำนายของเซนต์มาลาคี ซึ่งมีอายุมากกว่าราว 400 ปี

    เซนต์มาลาคีเป็นสังฆราชเมืองคอนเนอร์ในไอร์แลนด์ มรณภาพในปี 1148 ท่านได้รับพรสวรรค์ในการทำนาย ท่านถูกขอร้องจากเซ็นต์เบอร์นาร์ดให้ทำนายถึงพระสันตะปาปาในอนาคต ซึ่งท่านบอกพระราชสมัญญาถึง 111 พระองค์เป็นภาษาละตินสั้นๆ เพียง 2-3 คำเท่านั้น นับตั้งแต่โป๊ป อินโนเซนต์ที่ 2 (ปี 1130-1143) เป็นต้นมา ส่วนองค์สุดท้าย คือ องค์ที่ 112 ท่านบรรยายยืดยาว 3-4 บรรทัด พร้อมให้ "เอกลักษณ์" สั้นๆ ว่า "Petrus Romanus" หรือ "ปีเตอร์ชาวกรุงโรม" พ้องกับพระสันตะปาปาองค์แรก คือ เซนต์ปีเตอร์ ชาวกาลิลี ในประเทศปาเลสไตน์

    คำบรรยายของเซนต์มาลาคีถึงโป๊ปองค์สุดท้าย คือ องค์ที่ 112 เป็นภาษาละติน ถอดความเป็นไทยว่า "ระหว่างการเบียดเบียนแสนสาหัสของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก "Petrus Romanus " จะเลี้ยงฝูงแกะของเขาในความทุกข์เข็ญนานาประการ หลังจากนั้นนครแห่ง 7 คีรี (โรม) จะถูกทำลายอย่างราบคาบและมหาตุลาการผู้เที่ยงธรรมจะพิพากษาประชากรของพระองค์ อาเมน"

    ตามที่เซนต์มาลาคี (Malachy) ได้ทำนาย "เอกลักษณ์" ของโป๊ปตั้งแต่สมัยของท่านคือ ในปี 1139 จนถึงอวสานกาลจะมีโป๊ปทั้งสิ้น 112 องค์ โป๊ป เบเนดิกต์ที่ 16 นี้ ถือเป็นองค์ที่ 111 (รองสุดท้าย) มี "เอกลักษณ์" ว่า Gloria Olivae ชัยชนะของต้นมะกอก เนื่องจากโป๊ปองค์ปัจจุบันนี้ใช้พระนาม BENEDICTUS ซึ่งเป็นชื่อนักบุญที่ใช้ชีวิตในอาราม เลี้ยงชีพด้วยการปลูกต้นองุ่นเพื่อทำไวน์ และปลูกต้นมะกอกเพื่อทำน้ำมันมะกอก

    นักบวชเบเนดิกตินเป็นชาวไร่มะกอก หรือ Olivae ฉะนั้นโป๊ปที่ทรงพระนาม BENEDICTUS ก็เป็นชาวไร่มะกอก คือเกียรติหรือชัยชนะของชาวไร่มะกอก หรือ Gloria Olivae ตามที่ท่านมาลาคีได้ทำนายไว้ หรือ Olivae หมายถึงชาวยิวก็ได้ซึ่งน่าชื่นชมยินดียิ่งขึ้นว่า ในสมัยของโป๊ป เบเนดิกต์ ที่ 16 จะมีชาวยิวเปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสต์คือ ชัยชนะของชาวยิวในบั้นปลายตามจดหมายของเซนต์พอลก็ได้ (โรมบทที่ 11 : 26)

    โปรดใช้วิจารณญาณ...
    คัดลอกมาจาก คอลัมน์: สู่ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่ ของ ไทยโพสต์

    คอลัมน์: สู่ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่: ความฝันของเซนต์ยอห์นบอสโกส...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2013
  13. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    อย่างนี้สมกับเป็นตัวเองคุณเกษมครับ พี่ไม่ต้องลอกคำทำนายใครๆครับข้อมูลอย่างนี่เป็นของจริงๆ ใครๆก็ไม่อาจที่จะกด อนุโมทนาพี่ไม่ได้ครับขอขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    ขอทำความเข้าใจกับคุณ kb 2500 อีกครั้งนะครับว่า ผมเพียงทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลคำทำนายของทุกๆแหล่ง เท่าที่ผมพอจะเสาะหามาไ้ด้ เพื่อมาให้ผู้อ่านทุกๆท่านได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน โดยไม่ยึดติดกับคำทำนายของใครแต่เพียงแห่งเดียว เพื่อที่ผู้อ่านจะได้ใช้วิจารณญาณได้อย่างเต็มที่ ว่าคำทำนายไหนที่ควรจะรับเอาไว้พิจารณา หรือคำทำนายไหนที่ไม่ควรจะเก็บเอามาใส่ใจ ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวผู้อ่านเอง เพราะการปิดกั้นตัวเองไม่ยอมรับรู้ข้อมูลในสิ่งที่ตัวเองไม่เชื่อและไม่เข้าใจ ก็เปรียบเหมือนกบในกะลาครอบนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2013
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รับทราบครับ...แต่คุณอาญาสิทธ์ ทราบหรือไม่ว่า เหตุการณ์ทั้งหลายที่ได้ทำนายเอาไว้นั้น มันสามารถเลื่อนเวลาการเกิดออกไปได้ ด้วยเหตุและปัจจัยหลายประการ และที่สำคัญที่สุดผู้ที่บุญบารมีมากที่สุดของประเทศไทยในเวลานี้ ท่านได้อธิษฐานจิตขอชลอเหตุการณ์เหล่านั้นเอาไว้ ทำให้เวลาคลาดเคลื่อนออกไปจากที่ได้เคยทำนายกันเอาไว้ แต่ในที่สุดแล้วเหตุการณ์ต่างๆ ก็ยังต้องเกิดตามคำทำนายอยู่นั่นเองครับ

    ทั้งนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมนะครับ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ดินฟ้าอากาศ เปลี่ยนไปตามจิตใจคนเรา....ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามการกระทำ ****

    17-09-2007, 04:50 PM #1

    *** กฎแห่งกรรม ****

    กฎแห่งกรรม...ไม่ใช่สิ่งสูงสุด
    กฎแห่งกรรม....คนเรารู้มานานแล้ว นานก่อนจะมีพระพุทธเจ้า
    มนุษย์เรา...รู้ว่าทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว...มานานแล้ว

    แต่ไม่มีใครรู้ว่า....เพราะเหตุใด ทำดีจึงได้ดี !!!
    ไม่มีใครรู้ว่า...เพราะเหตุใด ทำชั่วจึงได้ชั่ว !!!!

    ไม่มีใครรู้เหตุผล
    ไม่มีใครรู้ถึงคำตอบ

    จนกระทั่ง...พระพุทธเจ้าค้นพบว่า
    ทุกการกระทำ ที่ได้ทำไปแล้ว… ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    เกิดเป็นตัวเป็นตน...แต่คนเราไม่สามารถมองเห็นได้
    พระพุทธเจ้า...จึงเรียกผลของการกระทำนี้ว่า.... “ตัวกระทำ”

    พระพุทธเจ้า...พบว่า
    ทุกตัวกระทำ... จะติดตัว ติดไปกับจิตวิญญาณของเราตลอดกาล
    และ ทุกตัวกระทำ.... มีผลตอบแทนทั้งสิ้น

    พระพุทธเจ้า...จึงพบว่า
    สิ่งนี้เองคือ.... “หลักสัจจะธรรม”
    พระองค์จึงสรุปแก่นสารของ...สัจจะธรรม ความจริงในธรรมชาติ ไว้สั้นๆ
    ……. “ ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน ” …….

    ในที่สุด
    พระพุทธเจ้า...จึงตรัสรู้ว่า
    ”หลักสัจจะธรรม”... คือ เหตุผลของ “กฎแห่งกรรม” นั่นเอง

    เพราะ... “ตัวกระทำ” จากการกระทำที่ไม่ดี เบียดเบียนผู้อื่น...
    จึงส่งผลไม่ดีกลับมา เป็นความทุกข์ เช่น โชคไม่ดี โรคร้าย อุบัติเหตุ เป็นต้น

    เพราะ... “ตัวกระทำ” จากการกระทำที่ดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์...
    จึงส่งผลดีกลับมา เป็นความสุข เช่น โชคดี รอดพ้น ปลอดภัย แคล้วคลาด เป็นต้น

    พระพุทธเจ้า จึงเป็นผู้ค้นพบความจริง
    ว่า...กฎแห่งกรรม ไม่ใช่สิ่งสูงสุด
    ”หลักสัจจะธรรม” ความจริงในธรรมชาติ...คือ สิ่งสูงสุด มีผลรอบคอบจักรวาล
    หลักสัจจะธรรม....จึงเป็นเหตุผลของ “กฎแห่งกรรม”

    พระพุทธเจ้า...จึงพบว่า
    การกระทำ...เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    เพราะ...การกระทำ ก่อให้เกิด... “ตัวกระทำ”
    พระองค์...จึงมุ่งสั่งสอนให้มนุษย์ ปฏิบัติตนด้วย “สัจจะ”
    ทำความดีให้ได้สักหนึ่งข้อ เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับตนเองต่อไป

    และ พระองค์...ทรงใช้ “สัจจะ”
    เป็นผู้นำตนเอง ในการขจัดกิเลสนิสัย...จนหมดสิ้นไปจากจิตใจของพระองค์
    พระสงฆ์และสาวก ในสมัยพระพุทธเจ้า...จึงปฏิบัติด้วย “สัจจะ” เป็นประจำ
    ผู้ที่สำเร็จเป็นอรหันต์...จึงมีมากในสมัยพุทธกาล
    เพราะ...ตั้งใจจริง และทำได้จริง....นิสัยแต่ละตัวจึงค่อยๆ หมดไปได้จริง

    - “ หนุมาน ผู้นำสาร “
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** การรักษาสัจจะ ในระหว่างที่อ่านกระทู้ ****

    ข้อเสนอแนะ
    เราน่าจะรักษาสัจจะ ในระหว่างที่อ่านกระทู้ต่างๆ
    เพื่อไม่ปล่อยให้เวลา ผ่านไปโดยไม่เกิด การกระทำเที่ยง
    คือ กาย วาจา ใจ ตรงกันตามสัญญาที่ทำไว้กับใจตนเอง

    วิธีการ
    ลองกำหนดเป็น ข้อสัจจะปฏิบัติ เช่น
    * ไม่เห็นผู้อื่นผิด มีกำหนดในช่วงเวลาที่อยู่ใน Website พลังจิต วันนี้
    * ไม่เห็นว่าตนเองดีแล้ว มีกำหนดในช่วงเวลาที่อยู่ใน Website พลังจิต วันนี้
    * ไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ มีกำหนดในช่วงเวลาที่อยู่ใน Website พลังจิต วันนี้

    ประโยชน์ที่จะได้รับ
    * จะช่วยให้เรามีสติ พิจารณาตนเอง และเกิดปัญญาในการตัดสินใจกระทำสิ่งต่างๆ
    * ช่วยให้สังคมในนี้สงบสุข เกิดปัญญาเป็นทวีคูณ
    * นิสัยไม่ดีของเราทุกคนจะค่อยๆ หมดไป
    * ทุกคนจะหลุดพ้นจากการกระทำที่สร้างกรรมต่อกัน
    * เป็นตัวอย่างในการสร้างสันติธรรมขึ้นใน Website พลังจิต

    ขออวยพรให้ทุกคน เป็นผู้ทำได้
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑
     
  18. Dream_Seer

    Dream_Seer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +288
    ผมชอบ ตารางของคุณอาญาสิทธิ์ ครับ เห็นภาพรวมของคำทำนายมากเลยครับ
     
  19. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    คิดให้มากๆก่อนโพสก์ ก็จะเป็นคุณแก่พระพุทธศาสนานะครับ บางเรื่อง บางความคิดเห็น บางความเชื่อส่วนตัวของใครก็แล้วแต่..อาจเป็นภัยแก่พระศาสนาได้ครับ ช่วยๆกันสอดส่องกันนะครับ

    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2013
  20. Be Cool

    Be Cool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +185
    ตารางคำทำนายคุณhiflyerเป็นผู้รวบรวมขี้นแล้วแปะไว้ในกระทู้
    รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next? ไม่ใช่คุณอาญาสิทธิ์

    ปล.โปรดสังเกตุที่มุมซ้ายด้านบนสุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...