ไขความจริง "ผีแม่ม่าย" ต้นเหตุทำผู้ชายใหลตาย !?!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 1 มีนาคม 2013.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หากใครได้ติดตามข่าวสาร คงได้อ่านข่าวผีแม่ม่ายออกอาละวาดจนเกิดความแตกตื่น และหวาดผวาไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะในหมู่บ้าน ต.ในเขต อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หรือในแถบจังหวัดใกล้เคียงที่เงียบเหงาและเต็มไปด้วยความเศร้าสลด เนื่องจากชาวบ้านกำลังอยู่ในอาการหวาดผวา และเสียขวัญต่อการสูญเสียคนในครอบครัว และญาติพี่น้องที่เสียชีวิตฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นการกระทำของผีแม่ม่ายที่กำลังออกอาละวาดคร่าชีวิตผู้ชาย

    นับเป็นโรคลึกลับที่คร่าชีวิตคนไทยมากว่า 100 ปี ซึ่งทำให้ชายหนุ่มที่ดูปกติแข็งแรงดี กลายเป็นศพในตอนเช้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่แปลกที่จะเห็นชาวบ้านแถบภาคอีสานนิยมทำหุ่นฟางขึ้นมา บางตัวอาจมีปลัดขิกอันใหญ่เพื่อขู่ผีแม่ม่ายมิให้มารังควาน หรือจากกรณีข่าวที่เกิดขึ้น ได้มีการนำเสื้อสีแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน บางหลังยังมีการเขียนข้อความไว้ด้วยว่า "บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย" ซึ่งนอกจากนี้ พวกผู้ชายบางคนยังทาเล็บมือ ทาปาก นุ่งโสร่งนอน เพื่อเป็นการแก้เคล็ดและขับไล่ผีแม่ม่ายไม่ให้มาเอาชีวิตไป ตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อน

    หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ทีมงาน Live มีข้อมูลทางการแพทย์มาให้พิจารณาควบคู่กัน ซึ่งการเสียชีวิตกะทันหันจากโรคใหลตายนั้น ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ได้ค้นหาสาเหตุจนพบว่า เกิดจากการเต้นระริกที่ไม่มีการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่เกี่ยวกับผีแม่ม่ายแต่อย่างใด ซึ่งพบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานเพศชาย ส่วนผู้หญิงก็พบเหมือนกัน แต่น้อยกว่้า

    นพ.กุลวี เนตรมณี อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ในฐานะประธานสถาบันวิจัยหัวใจเต้นผิดจังหวะ แปซิฟิก ริม โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่าน ASTVผู้จัดการไว้ว่า การเสียชีวิตในขณะนอนหลับ จาก "โรคใหลตาย" เกิดจากการเต้นระริกที่ไม่มีการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจที่เกิดขึ้นเอง (Spontaneous Ventricular Fibrillation, VF) และผู้ป่วยเกือบทั้งหมดไม่มีความผิดปกติทางกายภาพของหัวใจให้ตรวจพบ นอกเหนือจากการมีคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่มีลักษณะเฉพาะเช่นเดียวกับที่พบในคนไข้ที่เสียชีวิตกระทันหัน ในยุโรปที่เรียกว่า Brugada Syndrome

    สำหรับสาเหตุของโรค เป็นผลพวงมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม (เท่าที่พบราวร้อยละ 30 มีความผิดปกติใน gene ที่ควบคุมการทำงานของประจุไฟฟ้าโซเดียมในระดับเซลล์) ร่วมกับความผิดปกติของการนำไฟฟ้าในผนังหัวใจด้านขวาตอนบน โดยมีพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุเสริม โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตกะทันหัน คือเพศชายที่มีอาการใหลแต่รอดตาย การมีประวัติใหลตายในครอบครัว การสูญเสียโปตัสเซียม แมกนีเซียมจากร่างกาย (เช่น จากการอาเจียน ท้องร่วง กินยาขับปัสสาวะ หรือดื่ม กาแฟ ชา หรือ เหล้า ซึ่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะเช่นกัน) รวมทั้ง การมีไข้สูง การเกิดความเครียดจากการอดนอน ทำงานหนัก

    นอกจากนี้ยังพบว่า สาเหตุของโรคใหลตายบางส่วนมีความเกี่ยวข้องกับสารเคมีในร่างกายเสียสมดุล เช่น ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งสารบางตัวออกมามากผิดปกติ รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารหมักดอง ดื่มเหล้า เบียร์ สูบบุหรี่ รวมทั้งน้ำปลา มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคใหลตายได้อย่างชัดเจน

    ส่วนอาการแสดงของโรคใหลตาย มีได้ตั้งแต่ไม่มีอาการ เป็นลมหมดสติโดยหาสาเหตุไม่ได้ จนถึงปลุกไม่ตื่นและเสียชีวิตกระทันหัน โดยการเต้นระริกที่ไม่มีการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจนี้ ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจนกระทันหัน เป็นผลให้กล้ามเนื้อตามตัว แขนขาเกิดอาการเกร็งและหายใจเสียงดังจากการมีเสมหะในหลอดลม บางรายจะมีอุจจาระ ปัสสาวะราดจากการสูญเสียการควบคุมของระบบประสาทอัตโนมัติ ผู้ป่วยจะมีใบหน้า ริมฝีปากเขียวคล้ำและเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว หากไม่ได้รับการกู้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วยโรคใหลที่รอดชีวิต ร้อยละ 90 มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ และมีลักษณะเฉพาะ คือ มีการยกตัวของคลื่น ST เหมือนกับที่พบใน Brugada syndrome การเสียชีวิติในลักษณะเช่นนี้ยังพบได้ในภาคเหนือ (เรียกว่าหลับรวด) ในประเทศฟิลิปปินส์ (เรียกว่า Bangungut) หรือในญี่ปุ่นซึ่งเรียกว่าโรค Pokkuri ความหมายของคำเหล่านี้ล้วนบ่งถึงการเสียชีวิตในขณะนอนหลับทั้งสิ้น

    ทั้งนี้ เมื่อแพทย์พบคนเกิดโรคใหลตาย สำคัญที่สุด คือการนวดหัวใจอย่างต่อเนื่องทันที และใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC cardioversion) กระตุกกล้ามเนื้อหัวใจให้กลับมาทำงานให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันการป้องกันการเสียชีวิตจากโรคใหลตายในผู้ที่รอดตาย ทำได้โดยการฝังเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (ICD) ในกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีโอกาสเกิดใหลซ้ำสูงถึงร้อยละ 20 ต่อปี ส่วนการรับประทานยาต้านหัวใจเต้นผิดจังหวะนั้น อาจช่วยลดความเสี่ยงลงราวร้อยละ 50 แต่ไม่สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 100 % ในบางครั้ง การเต้นระริกอาจหยุดเองได้และผู้ป่วยก็จะรอดตายได้เช่นกัน แต่ก็อาจจะเกิดสมองพิการถาวรหากขาดออกซิเจนนาน นอกจากนี้ควรงดดื่มสุรา รับประทานอาหารที่มีโปรแตสเซียม เช่น กล้วย ส้มเป็นประจำ หากเกิดไข้ ท้องเดิน อาเจียนควรรีบรักษา

    ปัจจุบัน ได้มีการรักษาแนวใหม่โดยการจี้จุดกำเนิดของการเต้นผิดปกติเนื่องจากการฝังเครื่อง ICD นั้นไม่ได้เป็นการรักษาโรคเพียงแต่ป้องกันการเสียชีวิต และยังมีราคาแพง (300,000บาท/เครื่อง) และจะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่เมื่อแบตเตอรีหมด (เครื่องจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี) คณะผู้วิจัยพบว่ามีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่ยังมีการเกิดการเต้นระริกซ้ำจนเครื่องช็อคบ่อย เป็นผลให้อายุของแบตเตอรีลดลง ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยจึงเกิดปัญหาเมื่อไม่สามารถหาเครื่องใหม่ทดแทนด้วยกำลังทรัพย์ของตนเองได้

    อย่างไรก็ดี นพ.กุลวี เนตรมณี และคณะผู้วิจัย ยังพบด้วยว่า ตำแหน่งของจุดกำเนิดการเต้นระริกที่ไม่มีการบีบตัว (VF) ในผู้ป่วยใหลตาย (Brugada syndrome) อยู่ที่ตอนบนบริเวณผิวนอกของผนังหัวใจด้านขวาล่าง และการใช้พลังงานความร้อนเท่าคลื่นวิทยุจี้ทำลายจุดกำเนิดดังกล่าว อาจเป็นทางเลือกใหม่ของการรักษาที่สามารถป้องกันการเสียชีวิตจากการเกิดการเต้นระริกซ้ำในผู้ป่วยกลุ่มนี้

    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทีมงานไม่ได้ลบหลู่ความเชื่อที่ทำตาม ๆ กันมา แต่การรู้เท่าทัน คือหนทางที่ควรจะรับทราบไว้ด้วยเช่นกัน หากพบประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคใหลตาย ประกอบกับมีอาการเป็นลม และชักบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือจู่ๆ ก็เป็นลมหมดสติไป ควรให้นึกถึงโรคนี้ และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ชัดเจน โดยเฉพาะการตรวจระบบสรีรวิทยาคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ อีพีเอส ซึ่งเป็นการตรวจเฉพาะ แต่ถ้าไม่เคยมีประวัติในครอบครัวเคยเป็นโรคดังกล่าว แต่มีอาการคล้ายๆ กัน เช่น เป็นลม ชัก และเกร็งอยู่บ่อยๆ ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะโอกาสที่จะเป็นโรคนี้มีได้น้อย ทางที่ดีควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการเหล่านี้ต่อไป

    จาก Daily News - Manager Online - ไขความจริง ผีแม่ม่าย ต้นเหตุทำผู้ชายใหลตาย !?!
     
  2. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    การป่วยที่ว่ามาไม่ลบหลู่แต่อยากถามว่าถ้าป่วยแบบนั้นทำไมเขาไม่ตายตอนที่ทำงานหนักอยู่ ณ ตอนนั้น แต่กลับมาตายในช่วงใกล้เช้าหรือตอนกลางคืน

    เหมือนน้าเราที่เพิ่งตายไป ถ้าหากไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ใครๆคงคิดว่าแกไหลตายธรรมดา แต่ก่อนแกจะตายแกละเมอสู้กับใครอยู่พักหนึ่งแล้วแกก็ขาดใจตาย
     
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    วิทยาศาสตร์พยายามจะหาเหตุผลมาอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้รับความเชื่อถือจึงต้องปะคำว่านักวิทยาศาสตร์บ้าง ศจ.ดร. ขึ้นมาบ้าง คือใครไม่เชื่อแสดงว่า โง่ งมงาย... ตอนที่ผมรับเหมาก่อสร้างอยู่จังหวัดน่าน โฟแมน ได้นำหลานชาย พึ่งจบ ปวส. หมาดๆ เป็นนักกีฬา สุขภาพแข็งแรง ครอบครัวก็ไม่เคยมีประวัติไหลตายมาก่อน มาอยู่ที่บ้านพักได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็ตาย มีอาการเกร็ง ตาเหลือกค้าง มือข้างนึงกำหมัดยกค้างอยู่ มืออีกข้างนึงพยายามจะดันอะไรบางอย่าง ขาข้างหนึ่งยกเข่าชันขึ้น ไม่พบโรคประจำตัวอื่นๆ...หมอวินิจฉัยว่าหัวใจล้มเหลว..จบ..
     
  4. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ผีแม่ม่ายมีจริง เกิดจากความอยากที่เกินพอดีของผู้ชายแต่เก็บกดไว้ส่วนลึกในจิตใจ
    ทำให้ไปกระตุ้นดวงวิญญาณบริสุทธิ์แถวนั้นให้มาช่วยให้ตายจะได้ไปอยู่กับเธอเร็วขึ้น
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้ และเห็นมาหลายคน
    ทั้งที่ตายขณะหลับ
    และตายขณะดูทีวี ไม่ก็ทำธุระส่วนตัวอยู่
    คิดว่าสาเหตุการตายคือสาเหตุเดียวกัน
    คือภาวะหัวใจล้มเหลว และ/หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ

    เคยมีคนบอกว่า
    เขาก็เฉียดอาการนี้มา
    คือจะหายใจติดขัด
    เริ่มหายใจถี่เข้าถี่เข้าจนหายใจไม่เข้าไม่ออก
    ลักษณะเหมือนหายใจไม่อิ่ม
    ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ ก็ไม่ตาย
    เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบนะคะ
     
  6. Yohanna

    Yohanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +130
    หมู่บ้านของเพื่อนผมใน อำเภอแห่งหนึ่ง จังหวัดบุรีรัมย์
    ก็มีผู้ชายอายุ 27-30ปี นอนไหลตาย 4 ศพ คนในหมู่บ้านคาดว่าเป็นผีแม่ม่าย
    และต่อแต่ละบ้านก็ทำการสะเดาะเคราะห์ให้กับลูกชาย
     
  7. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    จังหวัดเดียวกันค่ะ น้าเราที่เสียก่อนจะตายพอดีมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ลักษณะเหมือนคุณรามิงบอกเลย แต่ว่าแกไม่ได้ตายที่บ้าน
    พอดีเคยเปิดเจอในรายการคนอวดผีที่จะมีดาราหรือเคยเป็นนักร้องมาก่อนเขาป่วยเป็นมะเร็งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วเป็นเหมือนผีหรือเจ้ากรรมนายเวรพยายามจะทำร้าย หรือเราเรียกว่าผีอำ เขาก็ว่าพยายามร้องเรียกให้คนที่เฝ้าอยู่ในห้องช่วยเขาก็ไม่สนใจ ได้แต่อ่านหนังสือพิมพ์ของเขาต่อไป จนเขาพยายามดิ้นรนให้รอดจากผีนั้นได้ พอฟื้นเลยถามคนที่เฝ้าว่าเขาเรียกทำไมไม่ช่วย มีคนจะมาทำร้ายเขาเกือบจะตายไปเสียแล้ว คนที่เฝ้าก็บอกว่าเห็นแต่นอนละเมอ ไม่มีใครในห้องอีก

    สงสัยคนที่ไหลตายคงจะโดนคล้ายๆกันกับดาราคนนี้ ถ้าเขาตาย เชื่อว่าหมอก็ต้องบอกว่าหัวใจล้มเหลวอย่างแน่นอน
     
  8. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464
    บ้านผมเองครับ แถวบ้านเขาห้อยเสื้อแดงกันใหญ่
    ยกเว้นบ้านผมเพราะไม่ค่อยสนใจ ผีแม่ม่ายไม่กล้าเข้าหรอก
    มีพระเยอะ 55
     
  9. วิสัจชนา

    วิสัจชนา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +20
    จริงๆแล้วเกิดจาก พวกเขาเหล่านั้นเป็นคนดี มีศีล มีธรรม ไม่ควรเสพกามะตัณหา เพราะฉะนั้นจึงเกิดเป็นโรคนี้ขึ้นมาค่ะ เตือนด้วยความหวังดี วิสุทธิธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...