"คุณไสย" แพ้ สามประโยคสั้นๆ (พระพุฒาจารย์โต)

"คุณไสย" แพ้ สามประโยคสั้นๆ เรื่องเล่าของ "พระพุฒาจารย์โต"


อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ด้วยตัวอาตมาเอง ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูตผีวิญญาณ ตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถา และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนตร์คาถาอาคมใดเลย นอกจากคำว่า


พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง



อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้ ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม ในดงพญาไฟขณะนั้น ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้ เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี และ ณ ที่แห่งนั้น อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาอาคมเล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ เขาเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสย์เขาได้หรือไม่ นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย

วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทมนตร์คาถา หรือคุณไสยใด นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมาจึงกลับมายังเขา ซึ่งเป็นผู้กระทำ ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนตร์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้ อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

นายผล เมื่อได้ฟังดังนั้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์ ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้ ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่ ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนตร์ของท่านเช่นนี้ จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถาในภูตผีปิศาจ ของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไป ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนตร์ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ เมื่ออาตมานอนหลับไป อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก ดังขึ้นมา จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว ของอาตมามาก อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์


พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักพำนักอยู่ อาตมาบอกว่าอาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได้สวดมนต์ภาวนา ตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป

นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนตร์คาถา และคุณไสยใดๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้ ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนตร์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้

ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ว่า เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนตร์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้ เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้ ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อุบาสิกา ในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า อานิสงส์ของการสวดมนตร์มีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับท่านdanetkung

นับถือหลวงปู่โตเสมอมา มีโอกาสก็ไปกราบที่วัดระฆังครับ

 

อนุโมทนาค่ะ

มักจะภาวนาก่อนนอน บางทีก้อพุทโธ ธัมโม สังโฆจนหลับ
ไม่มีสิ่งใด จะยิ่งใหญ่ไปกว่า
พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพและพระสังฆานุภาพ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

มีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ คือดิฉันนับถือองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต มาได้ประมาณ 10 ปีได้
คล้ององค์ทันไว้เป็นพระเครื่องประจำตัวเลยก็ว่าได้ ไปไหนมาไหนต้องมีองค์ท่านไปด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยค่ะ มีอยู่ครั้งนึง มีโอกาศกลับไปบ้านต่างจังหวัด แต่ว่าไม่มีที่นอนเพราะย้ายมาอยู่กรุงเทพนาน แม่ก็เลยทำห้องเราเป็นห้องเก็บของซะอย่างนั้น เราเลยต้องไปนอนห้องพี่ชายและพี่สะใภ้ ด้วยสถานที่จำกัด ทำให้ต้องไปนอนตรงประตูเข้าออกค่ะ คือว่าห้องพี่ชายต้องเล่านิดนึงว่ามีนางไม้อาศัยอยู่ อยู่มานานแล้วจนบ้านเราชิน ส่วนใหญ่เด็กฝึกงานที่บ้านจะเห็น คนในบ้านไ่ม่เคยมีใครเห็นค่ะ มีแต่คนนอกเท่านั้นมาเล่าให้ฟัง กลับมาเข้าเรื่องนะค่ะ เราก็นอนอยู่ขวางประตูเลยในใจรู้ว่ามันไม่ดี แต่ไม่มีที่จริงๆเลยไม่มี่ทางเลือก ประมาณตีอะไรก็ไม่ทราบรู้สึกตัวว่ามีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวกลิ้งผ่านตัวเราไปค่ะเพื่อเข้ามาในห้อง ตอนนั้นตกใจมาก แต่ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางก็หลับต่อไปไม่ได้สนใจ พอตอนเช้าตื่นมา ก็แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา 3 ประเด็น คือ
1. หรือว่าเขาตั้งใจจะมาอำเราแต่พระใส่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เลยอำไม่ได้
2. เพราะว่าเราใส่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เขาก็เลยเคารพด้วยการไม่ข้ามเราไปเลยใช้วิธีกลิ้งผ่านตัวไป - -
3. ตั้งใจทำให้รู้สึก เพราะใส่พระแรงๆ เข้ามาในห้อง - -"

แล้วก็มีเคยเจออีกครั้งนึงนะค่ะ สวดมนต์มหาสูตรอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ ที่ในประวัติคาถานี้ เวลาพระพุทธเจ้าสวด เทวดาอยู่ไกลแสนไกลจะมาฟัง ภูตวิญญาณที่อยู่ในระแวกนั้น รวมถึงนางไม้จะถอยห่างไปจนเหลือเห็นแต่คอ ลอยคออยู่ในทะเล ดิฉันก็สวดแต่ไม่ได้ตั้งใจสวดเพื่อทำร้ายเค๊านะค่ะ แต่สวดเพื่อเสริมบารมีให้ตัวเอง ปรากฏว่าเค๊าโกรธมากค่ะ แม่นางไม้ที่บ้าน เรานอนตอนกลางคืน รู้สึกว่ามีเด็กมาดึงแขนสองข้างสะบัดไปมา น่าจะเป็นกุมาร เราก็ร้องโอ้ยๆๆๆ ด้วยความตกใจ ในฝันพอเด็กคนนั้นสะบัดมือเราเสร็จเราก็เห็นผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาว ผมยาวมาก ตาดุมาก ยืนอยู่ปลายเตียงตรงเท้าเราพอดี จ้องมาหาเราด้วยความโกรธแค้น ตาเขา ขาวแล้วในตาเป็นสีแดง เท่านั้นเราก็ตกใจตื่น แต่วันนั้นเราใส่องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โตด้วย เลยมีข้อสงสัยว่า
1. ทำไมวิญญาณถึงเข้ามาทำอะไรเราได้ในเมื่อเราคล้องพระอยู่ ส่วนใหญ่ที่เข้าใกล้ตัวเราได้จะเป็นกุมาร ซะส่วนใหญ่ เหมือนว่าไม่กลัวพระเลย
2. หรือว่าพุทธคุณ การปลุกเสก อาจจะเสื่อม วิญญาณเหล่านั้นเลยไม่กลัว
3. หรือว่าเพราะด้วยพุทธคุณ เขาเลยแค่มากวนไ้ด้แต่ทำอะไรไม่ได้

รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ เล่ามายาวจะมีใครอ่านไหมหนอ

 

ขอตอบครับ

ที่คุณรู้สึกว่ามีผู้หญิงกลิ้งผ่านตัวไปนั่น ตามความคิดเห็นของผมเป็นเพราะว่าเทวดาท่านให้ความเคารพพระที่คุณสวมครับ เลยกลิ้งแทนที่จะก้าวข้ามครับผม

1.ทำไมวิญญาณถึงเข้ามาทำอะไรเราได้ในเมื่อเราคล้องพระอยู่ ส่วนใหญ่ที่เข้าใกล้ตัวเราได้จะเป็นกุมาร ซะส่วนใหญ่ เหมือนว่าไม่กลัวพระเลย

- คุณต้องเข้าใจก่อนครับว่าวัตถุมงคลนี้เป็นองค์เสริมครับไม่ใช่องค์หลัก หากเราไม่ปลุกพระ อาราธนาพระทุกวัน พระท่านก็ไม่คุ้มครองเนื่องจากเราไม่สนใจท่านครับ วัตถุมงคลนั้นมีอานุภาพมากอยู่แล้วครับอยู่ที่กำลังใจในการปฏิบัติของเราว่าจะสามารถจูนเข้ากับวัตถุมงคลนั้นๆได้หรือไม่ บุคคลที่พระคุ้มครองต้องอาราธนาพระทุกเช้าด้วยคาถาที่ว่า

" อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด "

และ ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ มีหลวงพ่อปานวัดบางนมโคหลวงพ่อฤาษีฯเป็นที่สุด

ซึ่งเป็นพระคาถาของหลวงปู่ปานในการอาราธนาพระคุ้มครองครับ

หลวงพี่เล็กเคยกล่าวไว้ ก่อนเป่ายันต์รอบที่สอง ก่อนทำพิธีหลวงพ่อ ได้อธิบายให้ทราบดังที่กล่าวมาแล้ว แต่พอจะมีเรื่องเพิ่มเติมดังนี้เมื่อคืนนี้ปลุกพระ มีกรณีพิเศษ ซึ่งพระที่มาคุมการปลุกพระท่านยืนยัน ขอรับรองว่าถ้าข้าศึกยิงด้วยปืน ค. ปืน ค. จะแตก รูจักปืน ค. ไหม ไม่รู้จักก็แล้วไป นี่พูดกับทหารตำรวจเขารู้เรื่องนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ถ้าต้องการให้ผลทั้ง 2 อย่าง คือป้องกันด้วย มีลาภสักการะด้วย ให้ปลุกพระนี้ทุกวัน พอตื่นเช้าก็ปลุกพระตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า.. “ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด ” ปลุกอย่างนี้ทุกวัน ถ้าต้องการลาภก็ขอลาภท่าน ต้องการคุ้มครองก็ขอการคุ้มครองท่าน อย่างนี้ทุกคนจะมีทั้งลาภและการคุ้มครอง ถ้าห้อยไว้เฉย ๆ พระก็หลับ เพราะท่านถือว่าไม่สนใจในพระ ขอทุกคนเมื่อนึกถึงพระแล้ว เมื่อมีพระแล้ว ก็นึกถึงพระไว้ทุกวันทุกเช้า อย่างนี้จะมีทั้งลาภและการคุ้มครองตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตายชาตินี้ไม่ตกนรก ทั้ง ๆ ทุกคนก็มีบาปอยู่แล้วก็ตามที ในเมื่อเรานึกถึงพระทุกวันอย่างนี้จิตเป็นฌาณในพระ เวลาจะตายจะเห็นภาพพระก่อน เวลาตายเราจะไม่ลงนรก จะไปสวรรค์ทันที...

วิธีอาราธนาก็ไม่มีมาก..จับพระขึ้นมายกมือไหว้นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด ว่าขอลาภสักการะจงปรากฏแก่ข้าพเจ้า แค่นี้ก็พอนะ ถ้าขายของบอกขายของดี ๆ แล้วปลอดภัยด้วย...


อีกประการก็คือ องค์กุมารหรือนางไม้ เหล่าเทวดาทั้งหลายขึ้นชื่อว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ซึ่งเป็นเทวดาไม่กลัวพระครับ เพราะจะเป็นเทวดาได้ต้องมีความดีและเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครับ ไม่ใช่เปรต อสูรกาย หรือ สัมภเวสีครับ

2. พุทธคุณไม่มีเสื่อมครับ เปรียบได้กับ งูเลื้อยมารอดผ้าถุงแล้วมากัดคน คนๆนั้นก็ตายอยู่ดีครับ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดครับ

 

ขอบคุณมากค่ะ คุณ danetkung ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ แล้วก็เข้าใจอะไรได้มากขึ้น ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนี้นะค่ะ จะนำไปปฏิบัติค่ะ ปกติชอบอาราธนา ว่า

พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
พุธธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม

แต่เคยได้ยินคนบอกว่า ห้ามพูดว่า แมร่ง พระจะเสื่อมคุณ เหมือนด่าคำว่าแม่ อะค่ะ ซึ่งเราติดเวลาคุยกับเพื่อนก็ชอบหลุดคำนี้ตลอด แต่ก็จะรู้ตัวรีบยกพระมาขอขมา ในตอนนั้นเลย

แต่บทของคุณdanetkung บทสั้นดีค่ะ ชอบค่ะ

และพึ่งรู้อีกข้อหนึ่งว่า องค์กุมารหรือนางไม้ นี่จัดว่าเป็นเทวดาหรอค่ะ คิดมาตลอดว่าเป็นภูต วิญญาณ อะค่ะ

 

นางไม้นี่เป็นรุกขเทวดานะครับ

องค์กุมารที่เป็นเทพก็มี เป็นพราย(สัมภเวสี)ที่รอให้หมดอายุขัยตอนเป็นมนุษย์ก็มีครับ

ดีแล้วครับการด่าแม่หรือคำว่าแม่ง คือผู้มีพระคุณนั้นเป็นบาป เพราะพระคุณแม่นั่นยิ่งใหญ่มากครับ

 

ขอบคุณ คุณ danetkung ที่ให้ความรู้ดีๆค่ะ

 

1.1 ไม่ได้จะอำ จะเข้าห้อง
1.2 ถูกต้อง แต่ที่จริงคลานผ่านอย่างรวดเร็วน่ะ ไม่ใช่กลิ้ง
1.3 ตั้งใจให้เห็น ใส่พระแรงแค่ไหนก็ไม่ว่า แต่กรุณาอย่าใส่พระแล้วนอนขวางประตู

2.1 พระไม่ได้ทำให้กลัว เขาเคารพพระกันทั้งนั้น บางท่านก็เคารพมากกว่าเราเยอะ
2.2 ไม่เสื่อม และอ่านข้อ 2.1
2.3 เขามาด่า ให้กุมารปลุก แล้วด่า เหตุผลให้อ่านข้อ 2.4
2.4 บทที่สวดนั้นเรียกว่า มหาสมัยสูตร เมื่อสวดเทวดาจะมามาก เทวดาที่บ้านหรือต้นไม้ในบ้านก็ต้องกระเด็นไปไกล ก่อนจะสวดพึงมีสัญญาณเตือนแจ้งก่อน จะจุดธูปบอกกล่าว หรือสวดบทอะไรนำให้ตั้งตัวก่อนก็ได้ ให้เทวดาค่อย ๆ ทะยอยมา แล้วก็ควรจะทำบุญอุทิศให้เทวดาทั้งหลายในบริเวณบ้านด้วย

 

ขอบคุณ คุณsamnido มากค่ะ
รู้มั้ยค่ะว่าคอมเม้นของ คุณsamnido ทำเราขนลุกนะ ไม่รู้เพราะอะไร
เหมือนเรารู้สึกว่า คุณsamnido มีญาณพิเศษ เหมือนประมาณว่านั่งทางในเห็น อะไรประมาณนั้น ขอบคุณที่ตอบข้อสงสัยค่ะ ชัดเจนมาก

รบกวนถาม คุณsamnido อีกเรื่อง ทำไมเวลาคนในบ้านนำของแรงๆ เช่นยันต์ หรือเครื่องลางของขลัง หรือแม้กระทั่งสวดมนต์ บทอาจจะแรงไปสำหรับเทวดาในบ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวเขาก่อน ทำไมเราต้องโดนด้วยหล่ะค่ะ ทั้งๆที่คนอื่นทำแท้ๆ แต่คนที่โดนนี่เราทุกครั้งเลยค่ะ อย่างเช่นมีคนในบ้านนำสีผึ้งทาปากจากวัดป่าเข้าบ้านมา เพื่อให้ค้าขายดี
แต่ของนั้ำนมีพิธีกรรมที่ไม่สะอาดค่ะ สายดำ แต่ตอนเอามาไม่มีใครทราบนะค่ะ แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้คือฝันค่ะ ฝันเห็นผู้หญิงชุดขาวเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ก็ตกใจตื่น ก็เป็นเหตุให้ต้องสืบหาข้อมูลว่าความฝันนั้นบ่งบอกอะไรจนรู้ที่มาว่ามาจากสีผึ้งที่นำเข้าบ้านมา

ครั้งที่ 2 คนในบ้านสวดมนต์ แต่ตัวพระคาถาแรง และไม่ได้บอกกล่าวเทวดาในบ้านก่อน เช่นแม่นางไม้ กุมาร เป็นต้น เขาก็มากวนแต่เรา แต่คนที่สวดกลับไม่เป็นอะไรเลย นอนหลับสบาย - - คิดในใจอะไรเนี้ย ไม่ได้ทำอะไรใครก็ยังผิด
ด้วยความโมโหปนน้อยใจ เราก็พูดลอยๆว่าใครทำอะไรให้ก็ไปบอกคนๆนั้นสิ มาทำเราทำไม เชื่อมั้ยค่ะ พอมาอีกวันคนที่สวด ปวดแขนมาก จนยกไม่ขึ้น แล้วก็มีไข้ไม่สบายไปหลายวัน เราก็เลยสงสัยเพราะปากเราหรือเปล่าว้า เลยบอกให้เขาจุดธูปขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง อีกวันเขาก็หายเป็นปกติ

ทำให้เกิดเป็นประเด็นอีกละว่า
1. เพราะเราขวัญอ่อนหรือยังไง ทำไมคนที่ก่อเรื่องไม่โดน ทำไมเราโดนแทนตลอดๆๆๆๆ
2. หรือเพราะว่า เขามาเตือน คนที่เขาสื่อสารได้ บรื้อๆๆๆๆ ไม่จริง><

 

รู้มั้ยค่ะว่าคอมเม้นของ คุณsamnido ทำเราขนลุกนะ ไม่รู้เพราะอะไร
ขนลุกเพราะคุณผู้หญิงที่ชี้หน้ามานั่งอ่านด้วยอยู่ข้าง ๆ

เหมือนเรารู้สึกว่า คุณsamnido มีญาณพิเศษ
ไม่มีอะครับ ผมก็คนธรรมดาเหมือนคุณเป๊ะ ต่างกันที่ผมนั่งรับฟังแต่คุณกลัวจนเปลี่ยนระดับจิตหนี

รบกวนถาม คุณsamnido อีกเรื่อง ทำไมเวลาคนในบ้านนำของแรงๆ เช่นยันต์ หรือเครื่องลางของขลัง หรือแม้กระทั่งสวดมนต์ บทอาจจะแรงไปสำหรับเทวดาในบ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวเขาก่อน ทำไมเราต้องโดนด้วยหละค่ะ
นั่นคือการได้รู้ได้เห็น ไม่ใช่โดน เป็นเรื่องดี รู้ดีกว่าไม่รู้

พอมาอีกวันคนที่สวด ปวดแขนมาก จนยกไม่ขึ้น แล้วก็มีไข้ไม่สบายไปหลายวัน เราก็เลยสงสัยเพราะปากเราหรือเปล่าว้า
ก็ไปขอแบบนั้นเอง ท่านมาบอกคุณเพราะคุยกันได้ คนอื่นไม่ได้อยู่ในช่องทางที่คุยกันได้ จะให้รู้เรื่องก็ต้องทำแบบนั้น คุณก็แค่หัดรับฟังแค่นั้นเอง จะไปกลัวอะไร ห้อยพระหลวงปู่อยู่ไม่มีใครเขาทำอะไรหรอก ใคร ๆ ก็รักหลวงปู่

เพราะเราขวัญอ่อนหรือยังไง ทำไมคนที่ก่อเรื่องไม่โดน ทำไมเราโดนแทนตลอดๆๆๆๆ
เพราะจิตเข้าสู่ระดับอุปจารสมาธิบ่อย เลยรับรู้ แต่เพราะขวัญอ่อน เลยฟังไม่ค่อยจบความ

หรือเพราะว่า เขามาเตือน คนที่เขาสื่อสารได้ บรื้อๆๆๆๆ ไม่จริง
นั่นแหละ จริง ๆ จะบรื๋อทำไม เดี๋ยวตายแล้วก็ต้องเจอตลอดเวลา คนเกิดมาก็ต้องตายทุกคน

สวดชินบัญชรทุกวันนะ
เวลาฉุกเฉินให้ใช้บทย่อ

 

ขอบคุณ คุณsamnido ที่เข้ามาตอบจ้า

ขนลุกอีกแล้วง่า คุณsamnido
ถ้าไม่มีญาณพิเศษแล้วคุณรู้ได้ไงอะว่าเขามานั่งอ่านด้วย อ๊ากกก กลัวอ่า
ก็เราเห็นหน้าเค๊าเราก็กลัวสิ แต่คุณไม่ได้เห็นด้วยนี่นา

ต้องมีญาณเห็นจากทางในแน่ๆ ..

สวดอยู่ค่ะ แต่หลังๆมานี่ไม่ได้สวดเลย สวดบ้างไม่ได้สวดบ้าง พระก็ใส่บ้างไม่ได้ใส่บ้างแล้วแต่วันไหนกลัวก็ไปปลุกพระมาใส่ อิอิ

 

รู้เพราะเขาบอก รู้ว่าเขาบอกอะไรเพราะฟัง
เห็นก็เห็นเท่ากันนี่แหละ

พระอย่าถอดออก ใส่ไว้ตลอด

 

เหอๆ ... ใส่พระแต่ลืมนึกถึงพระ ก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ

ผมเคยใส่ท่านท้าวเวสสุวรรณ ไปงานศพ ขึ้นชื่อว่าท่านท้าวเวสสุวรรณนี้ ผีต้องกลัวใช่มะ
แต่วันนั้น ผมเหนื่อย เลยไปนั่งพักๆ เหมอๆ เหนื่อยๆ อยู่ท้ายๆศาลา

โดนดึงเสื้อซะงั้น

หันไปดู ไม่มีใครเลย มีแต่ป่าช้า และ โกฏิกระดูก

ตั้งแต่วันนั้น มา ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าใส่พระ แต่ในใจไม่มีพระ
พลังแห่งการคุ้มครองก็ขาดช่วง ... เว้นแต่ว่า คุณจะเป็นคนที่ศีลบริสุทธฺ์ตลอด 24 ชั่วโมงจริงๆ

 

เขามาขอบุญ อาราธนาเขาก็ดึงอยู่ดี
จะบอกว่าผีกลัวท้าวเวสสุวรรณก็ต้องดูก่อนว่าผีหมายถึงอะไร

 

นำภาพ พระพุฒาจารย์โต ที่ใส่คล้องคอประจำ เวลาเดินทางไปไหนมาไหน มาให้ชมค่ะ
องค์นี้มีคนรู้จักให้มาค่ะ เวลาที่นึกอยากได้พระองค์ไหนมาบูชา มักจะมีคนนำมาให้ทั้งๆที่เขาก็ไม่ทราบนะค่ะว่าเราอยากได้ ก็น่าแปลกดี ตอนนี้พระเต็มบ้านละค่ะ มาเองทั้งนั้นเลย อธิษฐานจิตเอา บางองค์ก็บูชามาบ้าง แต่ส่วนน้อย ตอนนี้มีอยู่องค์ที่เราอยากได้มาบูชา แต่ยังหาไม่ได้เลย องค์พระแก้วใส วัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่ อยากได้มาบูชามาก ยังไม่มีโอกาศได้ไปเชียงใหม่บ้างเลย หวังไว้ว่าสักวันคงได้ท่านมาใส่คล้องคอเพิ่มอีกองค์ fly_pig

 

;aa8 เขาคงทำได้แค่แว๊บๆ หล่ะมั้งค่ะ เหมือนประมาณว่าดึงด้วยความรวดเร็ว
แล้วก็รีบหายตัวหนีไป พระท่านคงตั้งหลักไม่ทัน อิอิ
เหมือนที่เขาเรียกกันว่าอยากลองของหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้นะ คิดเองล้วนๆ รอผู้รู้มาไขข้อสงสัย

 

สาธุ อนุโมทนากับทุกท่านครับ มีประสบการณ์การสวดมนต์เล็กๆน้อยๆ มาเล่าให้ฟังครับ คือ เมื่อก่อนเล่นเกมส์จน5-6ทุ่ม แล้วเข้านอน ก่อนนอนได้สวดมนต์เกี่ยวกับไตรสรณะด้วยอาการง่วงนอนไม่ค่อยตั้งใจ ไม่ค่อยมีสติในการสวดมนต์และแผ่เมตตา เพราะง่วงเพลียมาก สวดมนต์แล้วเข้านอนหลับอย่างไวเลย พอตอนตี2ตี3ได้ระมั้ง โดนผีอำขยับตัวไม่ได้ ไม่กลัวแต่ลำคานมากเจ็บมากๆทั้งตัวขยับตัวก็ไม่ได้อีก เลยสวดมนต์ในใจพร้อมนึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลายว่า"นะโมพุทธายะ"อย่างจิตแรงกล้า ขนพองสยองหัวไปทั้งตัวพร้อมมีแสงสีทองว๊าบบบคาในหลับตาเหมือนหลับตามองดวงอาทิตย์และยังมีเสียงดังในหูแรงมากเหมือนเสียงระเบิดดังตู๊มมมม ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที นึกในใจว่าผีคงจะเจ็บตัวกะเด็นไปไกลไม่กล้ามาอำอีกมาอีกโดนเหมือนเดิมแน่ แล้วหลับอย่างสบายอีกที

 

สาธุๆ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ..กับด้านคุณเจ้าของกระทู้

 

ดิฉันสวดบทชินบัญชรทุกวัน ก่อนนั่งสมาธิที่บ้าน
เคยอ่านพบว่า เป็นบทที่วิญญาณไม่ชอบ เพราะไปทำร้ายเค้า
แท้จริงอย่างไรก็ไม่ทราบคะ แต่ก็สวดอยู่ทุกวันเหมือนเดิม