ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

ขอเรียนถามท่านทิพยจักรครับ ที่เขาว่ามีปรอทแล้วห้ามวางไว้ใกล้พระเครื่องวัตถุมงคลอื่นๆเพราะจะไปดูดพลังของวัตถุมงคลนั้นๆมา จริงไหมครับ เวลาห้อยติดตัวก็ให้ห้อยเดี่ยวห้ามห้อยรวมกับพระเครื่ององค์ฺอื่นๆ

 

เท่าที่ศึกษามาไม่เคยได้ยินเลยครับว่าปรอทดูดพลัง ทราบแต่ว่าปรอทดูดพิษ เคนถามอาจารย์โยธินแล้วท่านก็ว่าไม่ ทั้งนี้แล้วแต่อาจารย์ที่เสกด้วยว่าใช้วิชาสายไหนเสก แต่โดยตัวเนื้อแท้ของปรอทนั้นไม่ดูดกลืนพลังงานของพระเครื่ององค์อื่นๆ แน่นอนครับ


ปรอทเป็นของดีตามธรรมชาติ โดยเฉพาะที่ทำให้แข็งขึ้นรูปขี้นมาแบบอาศัยว่านยาซัดลงไป ปรอททนสิทธิ์เหล่านี้มีพลังเข้มแข็งในตัว และพร้อมที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อเป็นแก้วจักรพรรดิ์ หากมีผู้สามารถมาหุงต่อจนถึงขั้นสูงสุด ปรอททนสิทธิ์ เหล่านี้เป็นปรอทอิ่มตัวไม่กลืนพลังงานสายอื่น ทั้งนี้ปรอทมีฤทธิ์ได้ก็ด้วยผู้หุงและผู้ครอบครองมีศีล สัจจะ มีภาวนาเป็นที่ตั้ง ธาตุที่ดีในตัวอยู่แล้วจึงทวีความดีในตัวเพิ่มขึ้นตามคุณธรรมของผู้ประกอบพิธีและผู้ถือครอง ปรอทในสายที่ผมศึกษาเป็นเช่นนี้ครับ

แต่เนื่องจากปรอทมีหลายสายหลายครูด้วยกัน ที่ผ่านตาผมมาผมว่าสายวิชาปรอทคงมีมากเป็นร้อยสายเชียวครับ ยังประเมินไม่ได้ว่าจะมากแค่ไหน เพราะมีทั้งสายดักจับปรอท สายเสกปรอทเข้าตัว สายขึ้นรูปหุงปรอท สายฆ่าพิษปรอท เนื้อหาวิชาก็มาก สูตรการทำก็มากเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่จะเก็บวัตถุมงคลปรอทจากสำนักไหนจึงควรศึกษารายละเอียดให้แน่ชัดลงไปก็จะเป็นการดีครับ

 

อาจารย์หล่อแกมีว่านดีๆเยอะมากแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสืบทอดตำราว่านต่างๆของแก...ผมเคยศึกษากับป้าบุญช่วยที่ขายว่านอยู่ที่สวนจตุจักร..(เป็นลูกศิษย์อาจารย์หล่อ)
ตอนนี้ทั้งสองท่านเสียไปหมดแล้วครับ.....ไม่รู้จะไปหาคนที่เล่นว่่่่่่่านเหมือนสมัยก่อนได้ที่ไหนตอนนี้หายากมาก....อาจารย์ที่เล่นว่านจะมีตำราและยาดีๆ หนึ่งในนั้นก็คือว่านที่ฆ่าปรอทได้...ซึ่งมีอยู่ในตำราหลายเล่ม...แต่ไม่เคยรองนำมารองเพราะว่าไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำหรือสั่งสอน...ของพวกนี้เล่นเองอันตราย...ต้องมีคนที่รู้แนะนำจะดีที่สุด
ยกตัวอย่างว่าน
ว่านอึ่ง รวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวไว้ว่า "ว่านอึ่ง มีลักษณะใบเหมือนหมากผู้หมากเมีย หัวเป็นรูปคล้ายปลาปักเป้า มีสีเขียวติดกันเป็นพืด ๆ หัวมียางเหนียว ว่านนี้มีเจ้าของรักษาอยู่ ถ้าพบแล้วจงขุดเอามา ก่อนจะขุดท่านให้เขียนยันต์ใส่ฝ่ามือสำหรับจับว่านดังนี้ ( วาดเป็นตาราง 9 ช่อง และใส่เลขจากซ้ายไปขวา จากแถวบนไปแถวกลางและแถวล่างตามลำดับ ตัวเลขคือ ๑,๕,๙,๘,๖,๒,๗,๔,๓ -ผู้คัดลอก )
สรรพคุณเอาว่านนี้มากวนกับปรอท แล้วเอาผ้าดำย้อมมะเกลือห่อทอดดีบุกก็ดี ตะกั่วก็ดี เป็นรัชฏะ ( บางตำราว่าถ้าขุดแล้วให้เอาลวดตะกั่วรอยปากมา ) "

 

รายละเอียด
ว่านอึ่ง Eulophia macrobulbon
ลักษณะ
หัวเป็นรูปเหมือนอึ่งเกาะกัน เป็นคู่ๆเปลือนนอกเป็นสีเขียวอ่อนๆ เนื้อในขาวนวลมียางไหล เมื่อเฉือนให้ขาดจากกัน ใบตั้งตรง ก้านใบแข็ง ใบออกสีน้ำตาลออกแดงนิดๆ ว่านนี้จะเจริญเติบโตไปทางข้าง เมื่องอกหัวที่สองก็ยังงามอยู่ แต่ถ้างอกหัวที่สามเมื่อใด หัวที่หนึ่งก็จะตายทันที นับว่าแปลกเหมือนกันดังอึ่งที่เกาะกันเป็นคู่เช่นนั้น
ประโยชน์
เป็นว่านศักดิ์สิทธิ์ที่นับนือกันมากในหมู่นักเลงเล่นแร่แปรธาตุเพราะมีตัวฆ่าปรอทให้ตาย ทำให้ตะกั่วกลายเป็นเงินขึ้นมาได้ต่อจากนั้นก็หาวิธีทำเป็นทองคำต่อไปตามกลวีธีการ หัวอึ่งนี้หากเอาแช่น้ำหรือต้มกันกับว่านอื่นๆเพื่ออาบน้ำ ตามกรรมวิธี จะทำให้แก้ผื่นคัน แก้กลากเกลื้อนต่างๆ ให้หายได้ หัวหรือเหง้า ฝนกับน้ำมะนาว แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย หากกินเข้าไปจะทำให้อยู่คงชั่วเบาหนึ่งไปที่ใด แม้นถูกรุมตีสักปานใดก็ไม่ล้ม เพราะยิ่งโดนยิ่งพองลม (ตามตำราท่านว่าไว้)

 

อืม งง ครับ คนได้ฌาณ เขาก็เข้าฌาณได้เองอยู่แล้วเพราะจะถูกฝึกเรื่องอธิษฐานก่อนออกฌาณ และวสีอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้จะเข้าฌาณได้ยังไง เพราะไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน... และหลวงปู่ละมัยนี่ ปรอทท่าน ครูบาอาจารย์ก็นับถือกันอยู่บ้างว่ากันไข้ป่า.... ผมเคยถามหลวงตาม้าตรงๆเรื่องนี้ ว่าท่านพกปรอทติดตัวตลอดจริงไหม และปรอทดีตรงไหน ท่านบอกใส่ไว้ในย่าม และบอกว่าไว้กันไข้ป่า และบอกว่า... ขอละไว้ .....เพราะคนศรัทธาปรอทเยอะ
ผมเองก้หนึ่งคนละ ที่ชอบปรอท

 

.....หลายปีก่อน เคยได้พระปรอทองค์เล็กเท่าเมล็ดฟักทองมา1องค์ แต่ไม่รู้ว่าปรอททรงคุณค่าน่าอัศจรรย์เพียงใด ผมเลยไม่ได้สนใจเก็บรักษา พอมาอ่านกระทู้นี้ถึงรู้ว่าปรอทนั้นศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ไม่ธรรมดา ผมเลยค้นหาแต่ว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลยครับ............ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาร่วมแบ่งปันความรู้...ขอ.อนุโมทนา...ครับ

 

อัดพลังให้ละเอียดระดับฌาณครับ.. เวลาเอามาไว้กับร่างกายหรืออมก็ตามก็จะทำให้เข้าฌาณได้ง่ายขึ้น....เป็นการเหนี่ยวนำ...(พวกสายพลัง)...บางทีก็ใช้อุปกรณ์อื่น...ที่มีพลังในการช่วยในการฝึก....และเพิ่มพลัง....รูปแบบการฝึกมีหลายรูปแบบ...ไม่ตายตัว....ความรู้มีเยอะ...ผมเชื่อว่าคนฝึกสายอื่นก็จะมีวิธีการฝึกแบบอื่นและความรู้แบบอื่นๆที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน.....ไม่มีศูนย์กลาง....ทุกสรรพสิ่งล้วนรวมตัวเป็นหนึ่้งไม่อิงกับสิ่งใดส่ิงหนึ่งเป็นหลัก....ผันแปรไปตามธรรมชาติ...แล้วแต่ธรรมชาติจะให้เป็นไปตามการเวลา...........

 

ผมขอถามเรื่องการเลี้ยง แร่บางไผ่หน่อยครับ ว่าถ้ามีแล้วการเลี้ยงควรเริ่มจากอะไร
ต้องมี คาถา หรืออะไรมากว่าปกติ หรือว่า เหมือนเลี้ยงปลา ใส้ตุ่มไว้ เฉยๆ ใส่น้ำล้างปลา แล้วก็รอให้มันโตขึ้นๆทุกวัน อย่างนั้นหรือเปล่า รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

แล้วอ.โยธิน ใช้จำนวนแร่บางไผ่มากหรือเปล่าครับต่อการเข้าปรอท หนึ่งเม็ด

 

การเลี้ยงแร่บางไผ่ไม่ใช่เรื่องยากครับ ผมเองก็มีเลี้ยงไว้เหมือนกัน ของผมรับมาจากพระอาจารย์สมศักดิ์ วัดนครอินทร์ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ ครับ การเลี้ยงมีอยู่ว่า ๑ ใส่ไว้ในน้ำเฉย เป็นการเลี้ยงเพื่อไม่ให้แร่ตาย แต่ไม่ค่อยโต

๒ ใส่ไว้ในน้ำแล้วเอาเศษปลาเศาข้าวเศษเนื้อหมู ตัดเพียงชิ้นเล็กๆใส่ลงไป ไม่กี่วันน้ำจะเน่าจากนั้นสักอาทิตย์นึงน้ำจกลับมาใส เลี้ยงแบบนี้ไปเรื่อยๆกว่าแร่จะโตต้องอาศัยระยะเวลานานพอสมควร เพราะแร่โตช้ากว่าต้นไม้ นานวันไปแร่จะมีสีเข้มขึ้น น้ำหนักมากขึ้น ขยายขนาดขึ้น ถ้าเลี้ยงไว้ในขวดโลหอาจโตไม่มาก แต่ถ้าเลี้ยงในโอ่งดินจะโตได้มากกว่า

๓ การเข้าแร่บางไผ่กับปรอท ท่านใช้แร่บางไผ่ไม่มากเท่าไหร่ครับ แต่เข้ายาก เข้ายากกว่าเหล็กชนิดอื่นๆครับ

 

ตัวผมเองและอาจารย์โยธินต่างเป็นลูกค้าประจำของคุณป้าบุญช่วย จตุจักรเช่นกันครับ ว่านอึ่งที่ใช้ฆ่าปรอทเดี๋ยวนี้ลองเอามาทำดูแล้วไม่ได้ผล เหตุเพราะต้องหาว่านป่่ามาจริงๆ การเพาะว่านในเมืองและขาดขั้นตอนด้านวิทยาคมทำให้ฤทธิ์ว่านสูญหายได้ดูแต่ต้น และอำนาจยาในต้นว่านไม่ได้เท่าที่ควร สูตรว่านยาที่ใช้ว่านอึ่ง ว่านกบ ว่านเขียด ผมเอง(ทิพยจักร) เคยทดลองกวนเองมาแล้วไม่สำเร็จ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ได้โทรสอบถามกับอาจารย์โยธินท่านเองก็มีตำรานี้เช่นกันทั้งยังเคยเป็นลูกค้าขาประจำคุณป้าท่านด้วย หากมีโอกาสอาจารย์โยธินจะเอาตำราว่านอึ่ง ว่านกบ ว่านเขียดว่ามีส่วนผสมอย่างไรและวิธีกวนอย่างไรมาแจกแจงกันครับ

 

เหล็กย้อยแบบนี้ที่ครูบาอาจารย์บางท่านเรียกว่าพญาเหล็กตายซาก ถ้าเป็นชิ้นเล็กๆพกติดตัวก็เป็นของขลังชั้นดีอย่างหนึ่ง หรือถ้านำมาเข้าปรอทก็ได้ปรอทวิเศษอีกประเภทหนึ่งเช่นกัน

 

นานขนาดไหนครับ กว่าจะใช้เข้าปรอทได้ หรือขนาดไหนครับ
วัดจากเหรีญบาทก็แล้วกันนะครับ

 

การนำแร่บางไผ่เข้าปรอท สามารถใช้ได้ตั้งแต่ก้อนเท่าเหรียญบาทเลยครับ แต่อาจจะได้เนื้อแร่ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าได้ขนาดประมาณลูกมะนาวขึ้นไปก็จะได้แร่เหล็กที่ดีกว่าครับ ทั้งนี้ไม่ต้องขึ้นกับระยะเวลาในการเลี้ยง แต่ถ้าจะเล้ยงให้ได้คุณภาพขึ้นมาคาดการณ์ว่าไม่น่าจะต่ำกว่า ๕ ปีครับ

 

ระหว่างเหล็กไหลย้อย กับ แร่บางไผ่ แบบไหนพลังเยอะกว่ากันครับ แบบว่าเน้นทาง ฤทธิ์เดชนะครับ

 

ประเมินไม่ถูกครับ ต้องลองให้อาจารย์ท่านวัดพลังดู เราจะจับพลังก็ไม่มีโอกาสเพราะของไม่อยู่ในมือครับ

แต่ถ้าตามความรู้สึกผมว่าแร่บางไผ่จะมีพลังสูงกว่า เพราะแร่บางไผ่ในตัวของเขาเองก็มีเชื้อปรอทอยู่ด้วย ในอดีตหลวงปู่จัน เป็นชาวเขมรเคยเล่นแร่แปรธาตุทำให้กลายเป็นสุดยอดพระปิดตาเมืองสยามมาแล้ว

ส่วนแร่พญาเหล็กย้อย ก็ดีครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อแร่ที่ได้มาด้วย ว่าจะได้เนื้อแร่ชั้นดีขนาดไหน ถ้าได้แบบตายซากมาก็ไม่ค่อยมีฤทธิ์เท่าไหร่แต่ถ้าได้แบบเนื้อแข็งๆตันๆ ไม่ผุไม่เปราะกรอบ ได้เนื้อดำหรือเทาอมดำยังมีมันวาวที่เนื้อแบบนี้ละก็ถึงไหนถึงกันครับ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้อาจารย์โยธินท่านเคี่ยวปรอทกับเหล็กย้อยอันได้คุณลักษณะนี้มาก่อน แล้วทดสอบวัดพลังดูก็จะรู้ได้แน่นอนว่าแบบไหนดีกว่ากัน


แร่เหล็กย้อยหรือเหล็กตายซากครูบาอาจารย์เมืองพม่านิยมใช้กันทั้งแบบพกติดตัวดิบๆ และเล่นแร่แปรธาตุเป็นองค์พระขึ้นมา ถือว่ามีอำนาจทางล่องหนหายตัว อยู่ยงคงกระพัน เป็นเหล็กอาถรรพณ์ที่มีมายาในตัวพอสมควร ถือว่าเป็นของดีตามธรรมชาติอีกประเภทหนึ่งทั้งนี้เหล็กย้อยหากเลี้ยงไม่เป็นนานวันไปก็กลายเป็นเหล็กตายซากแบบตายจริงๆคือเนื้อของเขาจะผุกร่อนไปเรื่อยๆ จะกลายเป็นขี้ดิน เช่นกันกับแร่บางไผ่เลี้ยงไม่เป็นวางไว้บนบกนานๆก็จะผุกร่อนสลายตัวไปในที่สุด แร่บางไผ่เลี้ยงด้วยน้ำคาวปลา แร่เหล็กย้อยเลี้ยงด้วยน้ำผึ้งเพราะถือเป็นโคตรเหล็กไหลประเภทหนึ่ง

แล้วผมจะลองให้อาจารย์หุงปรอทด้วยเหล็กย้อยดีๆสักครั้งครับ

 

ขอบคุณครับ

ผมถามบ่อยๆจะเบื่อที่จะตอบหรือเปล่าครับ
คือตอนนี้ผมมีความคิดว่า จะลงไปในลำธาร ที่อยู่ไกล้ๆ แล้วเอาแม่เหล็ก ผูกเชือกลงไป หาแร่เหล็กที่อยู่กับลำธารนะครับ อาจารย์ พอจะให้แนวทางในการหาเหล็ก ในน้ำกับผมได้หรือเปล่าครับ เพราะผมเคยได้ เหล็กไหลตาน้ำ มาสองเม็ดเล็กๆ แต่ผมว่าน่าจะมีอันใหญ่กว่านี้ครับ แต่เม็ดเล็กๆ ผมก็ขอเขามาอีกทีนะครับ แต่เขาบอกว่า ไหลน้ำจะอยู่ตามโขดหินที่มีน้ำไหลผ่าน ผมก็เลยอยากลองดูครับ อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

 

ยินดีที่จะตอบเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะเราต้องการสนับสนุนการให้ความรู้ ถือว่าเป็นการศึกษาไปพร้อมๆกันก้ดีครับ เหล็กวิเศษหรือของดีมีสองประเภทครับคือที่เป็นเหล็กในตัวอย่างสมบูรณ์จะติดแม่เหล็กได้ และประเภทที่สองคือตัวของมันไม่ได้เป็นเหล็กหรือไม่ไเป็นเหล็กโดยสมบูรณ์ประเภทนี้ไม่ติดแม่เหล็ก การหาเหล็กจากลำธาร อาศัยการใช้แม่เหล็กอย่างเดียวจะได้ของน้อย และอาจข้ามของดีไปซะหมด อย่าลืมว่าอย่างแร่บางไผ่เราเอาแม่เหล็กไปดูดยังไงก็ไม่ติด เพราะตัวของเขายังเป็นเหล็กไม่สมบูรณ์จนกว่าจะเผาไฟให้แดง รอจนเย็นลงนั่นละแม่เหล็กจึงดูดติด

ให้ศึกษาการดูแร่และสัณฐานจะดีที่สุด ว่ามีลักษณะงอกไปมา มีสีดำ สีดำอมแดงหรือเปลืองมังคุด มีความเงาวาวหรือไม่ และถ้าเก็บมาเป็นสีน้ำตาลแดงถ้าก้อนไม่ใหญ่เกินไปลองนำมาเผาไฟดูถ้าเย็นตัวลงกลายเป็นเหล็กแม่เหล็กดูดติดก็ถือว่าได้เหล็กของดีมาครับ ทั้งนี้ก่อนหาก่อนเผา จุดธุปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นการขอขมาและขออนุญาตก่อนนะครับ

สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือต้องหมั่นสวดมนต์ ถือศีล และเจริญกรรมฐาน ทำให้เป็นชีวิตจิตใจ ขาดไม่ได้เลย การถือศีลให้ลึกลงไปในใจเราจริงๆให้เห็นคุณของศีลว่าเป็นสิ่งสงบ เป็นสิ่งสำรวม เป็นสิ่งที่นำความเยือกเย็นมาให้ ส่วนการเจริญกรรมฐานทำให้ได้อย่างน้อยวันละ ๕ นาทีทำให้ได้เป็นปกติ ลองหาหนังสือของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมาศึกษาดูก็ได้ครับ ต้องทำให้เป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้เป็นการอบรมบุญภายในทำให้ทรัพย์ภายนอกวิ่งเข้ามาหาเราในที่สุด และเป็นการสร้างของดีแท้ๆที่ติดตัวไปได้ทุกที่ไม่มีวันหนีหายไม่มีวันโดนขโมย พยายามทำเข้านะครับ

ขออนุโมทนา

 

อนุโมทนา ด้วยครับ ตอนนี้ผมก็ทำแบบ ระลึกได้ตอนไหนก็ทำครับ

ตอนนี้ผมได้ขอแร่บางไผ่จาก พี่ๆ มาแต่ไม่ทราบจำนวนครับ เค้าบอกว่าคงจะเม็ดเล็ก
ผมจะถามว่า ถ้ามีแร่บางไผ่เม็ดเล็กๆซัก ประมาณ เต็มฝาเอ็มร้อย จำนวนขนาดนั้นจะพอต่อการเข้าปรอทหรือเปล่าครับ

 

#263
battosai
สมาชิก

battosai's Avatar

วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 108
Groans: 1
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 265
ได้รับอนุโมทนา 422 ครั้ง ใน 107 โพส
พลังการให้คะแนน: 74
battosai will become famous soon enoughbattosai will become famous soon enough

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ทิพยจักร อ่านข้อความ
ยินดีที่จะตอบเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะเราต้องการสนับสนุนการให้ความรู้ ถือว่าเป็นการศึกษาไปพร้อมๆกันก้ดีครับ เหล็กวิเศษหรือของดีมีสองประเภทครับคือที่เป็นเหล็กในตัวอย่างสมบูรณ์จะติดแม่เหล็กได้ และประเภทที่สองคือตัวของมันไม่ได้เป็นเหล็กหรือไม่ไเป็นเหล็กโดยสมบูรณ์ประเภทนี้ไม่ติดแม่เหล็ก การหาเหล็กจากลำธาร อาศัยการใช้แม่เหล็กอย่างเดียวจะได้ของน้อย และอาจข้ามของดีไปซะหมด อย่าลืมว่าอย่างแร่บางไผ่เราเอาแม่เหล็กไปดูดยังไงก็ไม่ติด เพราะตัวของเขายังเป็นเหล็กไม่สมบูรณ์จนกว่าจะเผาไฟให้แดง รอจนเย็นลงนั่นละแม่เหล็กจึงดูดติด

ให้ศึกษาการดูแร่และสัณฐานจะดีที่สุด ว่ามีลักษณะงอกไปมา มีสีดำ สีดำอมแดงหรือเปลืองมังคุด มีความเงาวาวหรือไม่ และถ้าเก็บมาเป็นสีน้ำตาลแดงถ้าก้อนไม่ใหญ่เกินไปลองนำมาเผาไฟดูถ้าเย็นตัวลงกลายเป็นเหล็กแม่เหล็กดูดติดก็ถือว่าได้เหล็กของดีมาครับ ทั้งนี้ก่อนหาก่อนเผา จุดธุปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นการขอขมาและขออนุญาตก่อนนะครับ

สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือต้องหมั่นสวดมนต์ ถือศีล และเจริญกรรมฐาน ทำให้เป็นชีวิตจิตใจ ขาดไม่ได้เลย การถือศีลให้ลึกลงไปในใจเราจริงๆให้เห็นคุณของศีลว่าเป็นสิ่งสงบ เป็นสิ่งสำรวม เป็นสิ่งที่นำความเยือกเย็นมาให้ ส่วนการเจริญกรรมฐานทำให้ได้อย่างน้อยวันละ ๕ นาทีทำให้ได้เป็นปกติ ลองหาหนังสือของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมาศึกษาดูก็ได้ครับ ต้องทำให้เป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้เป็นการอบรมบุญภายในทำให้ทรัพย์ภายนอกวิ่งเข้ามาหาเราในที่สุด และเป็นการสร้างของดีแท้ๆที่ติดตัวไปได้ทุกที่ไม่มีวันหนีหายไม่มีวันโดนขโมย พยายามทำเข้านะครับ

ขออนุโมทนา
อนุโมทนา ด้วยครับ ตอนนี้ผมก็ทำแบบ ระลึกได้ตอนไหนก็ทำครับ

ตอนนี้ผมได้ขอแร่บางไผ่จาก พี่ๆ มาแต่ไม่ทราบจำนวนครับ เค้าบอกว่าคงจะเม็ดเล็ก
ผมจะถามว่า ถ้ามีแร่บางไผ่เม็ดเล็กๆซัก ประมาณ เต็มฝาเอ็มร้อย จำนวนขนาดนั้นจะพอต่อการเข้าปรอทหรือเปล่าครับ
__________________
บุญน้อยใหญ่อยู่ที่ใจทำ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย battosai : วันนี้ เมื่อ 09:27 AM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ.................................. ครับ

 

คิดว่าจำนวนน้อยเกินไปครับ เนื่องจากแร่บางไผ่ที่ได้มาต้องนำมาเผาอีกครั้งไล่ขี้แร่หรือส่วนที่เป็นขี้ดินออกไป จำนวนแร่ที่ได้จริงๆจะน้อยลงไปอีก อาจไม่เพียงพอต่อการเข้าปรอทครับ