หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์ เถระ ๕ แผ่นดิน ลูกบุญธรรมของหลวงพ่อเงิน

ขอบคุณคร๊าบบบบบ

 

มีแต่งามๆทั้งนั้น

 

รุ่นนี้ พิธีเดียวกันกับพระปิดตา ปี 2537 หรือเปล่าครับ?

 

กราบหลวงปู่ทองดำครับ........สวัสดีครับทุกๆท่านช่วงนี้ที่เมืองทองหมอกลง ดูหนาตา ใครขับรถก็ระมัดระวังหน่อยนะครับ ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ.......

 

กราบหลวงปู่ทองดำ และสวัสดีลูกศิษย์หลวงปู่ทุกๆท่านครับ

​

 

กราบหลวงปู่ทองดำ และแฟนพันธุ์แท้ของหลวงปู่ทุกท่าน

เม็ดแตงครับ ปิดตาองค์น้อย

 

โอ้วววว ว้าววววว.......ไม่เคยเห็นเลยแบบนี้

 

ไปเจอรูปตอนที่หลวงปู่แดง ท่านเมตตาเจิมหน้าผากให้ครับ
ไม่ทันได้ไปกราบท่านเลยครับ ท่านละสังขารก่อน​

​

 

ก่อนไปงานประกวดพระที่กองบินเมืองพิษณุโลกครับ

 

งามแท้ๆ เสี่ยองค์นี้รุ่นไหนอ่ะครับ ใช่ปี 29 รึเปล่า เนื้อทองอีก.....โอ้ยยยย ใจสั่น......หวั่นไหว......

 

กราบหลวงปู่ทองดำ และสวัสดีลูกศิษย์หลวงปู่ทุกๆท่านครับ

​

 

พิมพ์เบ้าทุบ ปี46

 

นั้นแน่ของดีๆชอบแอบจริงๆน่ะพี่เรา

 

สวัสดีครับพี่ตั้ม.... ไม่ได้คุยกันนานเลย...มีอะไรงามๆมาอวดน้องบ้างครับ...

 

สุดยอดเลยครับพี่ สำหรับผมแค่เนื้อธรรมดายังไม่มีปัญญาเลยครับ

 

กราบหลวงปู่ทองดำ และสวัสดีลูกศิษย์หลวงปู่ทุกๆท่านครับ

​

 

กราบหลวงปู่ทองดำครับ วันนี้ที่เมืองทองอากาศครื้มอีกแล้วเมื่อวานฝนตกหนักเลย........ วันนี้หยุดอยู่บ้านเลี้ยงลูก....หุหุหุหุ.....

 

ฝนตกคือกันครับอ้าย แต่มาทำงานครับวันนี้

 

จากความในใจ เด็กบ้านท่าทอง

ผมรู้สึกดีใจมาที่มาพบเห็น และได้เข้ามาอ่าน กระทู้นี้ โดยส่วนตัวผม ในวัยเด็ก จนอายุสิบห้าได้ใช้ชีวิตเป็นหลักอยู่ที่บ้านท่าทอง คุณพ่อผมทำงานโรงงานน้ำตาลวังกะพี้
ทำให้ผมและเพื่อนๆ ได้มีโอกาศได้ใกล้ชิดกับท่าน หลวงพ่อทองดำ (ในสมัยนั้น ยังเรียกหวลงปู่ ว่าหลวงพ่อ) และแม่ผมก็มีโอกาศได้รับใช้หลวงพ่อ อยู่บ่อยๆ เรื่องงานโรงครัว หลวงพ่อท่านมีความเมตตามาก พวกเรา(เด็กๆ สมัยนั้น)มักจะเล่นซนทะโมนกันอยู่แถวลานวัด หลวงพ่อก็ไม่เคยดุด่า มีแต่เรียกพวกเราไปฟังนิทานชาดก เรื่องที่หลวงพ่อท่านชอบเล่าให้ฟัง ก็เรื่องกัญหาชาลี เสร็จแล้วก็ให้คลานเรียงแถวมารับชานหมากที่คายออกมาจากปากหลวงพ่อ ตอนช่วงปลายก่อนท่านจะละสังขาล ผมก็ยังมีโอกาศได้ฟังท่านเล่า ช่วงที่กลับมาพักพื้นที่ศาลาหลังใหม่ (ที่บรรจุร่างท่านในปัจจุบัน)
ลืมบอกไป ว่าพอดีช่วงอายุครบบวช ผมได้ไปบวชอยุ่ที่วัดท่าทอง แต่ หลวงพ่อท่านรักษาตัวอยู่ที่ รพ. พอดีเลยไม่ได้บวชกับท่าน วันนึงท่านออกจากรพ.มาพักพื้นอยู่ที่วัด ผมก็รับใช้ท่านอยู่ ท่านก็ถามมาว่า วันนี้มีงานอะไร ญาติโยม มากันเยอะ เชียวผมก็ตอบไปว่ามีบวชพระใหม่ ครับหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เรียกหาผ้าครอง มาให้ท่าน ลงอุโบสถ์ ทั้งที่ยังไม่แข็งแรง จริงๆแล้ววันนั้นได้เชิญพระอุปชา มาจากวัดวังกะพี้แล้ว ระหว่าประคองหลวงพ่อเดินไป หลวงพ่อก็บอกว่า เราเป็นสงฆ์ เราต้องทำกิจของสงฆ์ เราเป็นพระอุปชา เค้ามาบวช วัดเราเราต้องทำหน้าที่ หลวงพ่อท่านเว้นช่วงสักพักแล้วก็พูดขึ้นว่า ดีจังได้บวชทีเดียวสองรูปเลย ผมมาคิดได้ทีหลัง ว่าหลวงพ่อ ตื่นจากจำวัด แล้วก็ฉันเช้า อยู่แต่ในกุฎิ หลวงพ่อรู้ได้งัย ว่า มีงานบวช แล้วก็บวชคู่อีก ซึ่งพระที่บวชคู่ในวันนั้นก็ไม่ได้มากลาวขอบวชกับหลวงพ่อก่อน เพราะหลวงพ่อเพิ่งกลับมาจาก รพ.เมื่อวานเย็น เรื่องนี้ผมจำได้แน่นยำมาก เพระาผงลงกุฎิมารับใช้หลวงพ่อ ตั้งแต่เช้า

อีกเรื่องหนึ่งตอนผมไปขอลาสิขา กับท่าน ท่านได้ จารอัขระ เลขยันต์พระพุธเจ้า ห้า พระองค์ให้ผม บนศรีษะ หลังจากที่หลวงพ่อบริกรรมคาถา และจารอัขระ ให้ผมแล้ว หลวงพ่อก็ให้โอวาศกับผมว่า ไอ้ที่เขียนลงให้ไป หน่ะ มันไม่มีอะไรหรอกนะ ของดี หน่ะ มันมีอยู่สามอย่าง คือ คิดดี ทำดี พูดดี ถ้าเอ็งอยากให้เค้าคิดดี กับเอ็ง เอ็งก็ต้องคิดดีกับเค้า ถ้าเอ็งอยากให้เค้าทำดีกับเอ็ง เอ็งก็ต้องคิดดีกับเค้าและถ้าเอ็งอย่าจะให้เค้าพูดดีกับเอ็ง เองก็ต้องพูดกับเค้าดีๆ แล้วทุกอย่างมันก็จะดีเอง