เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    4.ในช่วงกระทู้เกี่ยวกับนักร้อง ก็มีเหตุการณ์ในขณะที่เรียนภาษา อาจารย์ยกตัวอย่างนักร้องก็คือ Elvis คงไม่ใช่ความบังเอิญนะคะ
    หากน้องจิตต์ทำใจให้เปิดกว้างอีกนิด น้องจิตต์จะพบว่า การรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสที่หกหรือประสาทสัมผัสภายใน จะเปิดเผยโลกกว้างภายในให้เราตระหนักว่า สรรพสิ่งทั้งหลายสัมพันธ์กันอย่างแยกจากกันไม่ได้ ไม่มีปรากฏการณ์ใดๆ เป็นเอกเทศ หรือเป็นเพียงความบังเอิญที่ปราศจากความหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม (เช่นเรื่อง Elvis เป็นต้น)
     
  2. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    5.ในขณะที่สนทนากับบางท่านที่รู้สึกถูกชะตา สนทนาไปเรื่อย ๆ ก็มีภาพส่งออกมาเป็นการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มิใช่ในสมัยนี้ หรือเป็นเทวดาที่ท่านนั้น ๆ บูชา ในบางครั้งมองเห็นเหมือนเปลวแดดหรือเปลวน้ำมัน ระยิบรอบ ๆ ตัว หรือช่วงศรีษะของท่านนั้น ในบางครั้งบางท่านบูชารูปหรือเทวรูปขององค์เทพที่นับถือ เราโทรไปหาแล้วก็พูดออกไปว่ามีภาพหรือเทวรูปองค์เทพ อาภรณ์สีนี้นะ เขาก็บอกว่าเพิ่งไปบูชามาหรือบุญจัดสรรเพิ่งได้รับมา (คงเป็นเพราะจิตบริสุทธิ์เลยสื่อถึงกันได้หรือเกิดในยุคสมัยเดียวกันมั๊งคะ)
    ภาษาพูดเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่แสดงออกมาเป็นรูปธรรมทางกายภาพ การสื่อสารที่แท้จริงทั้งหมดคือการสื่อสารจากจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณโดยตรง ซึ่งหมายความว่า เมื่อเราสนทนากับผู้ใด บทสนทนานั้นเป็นเสียงพูดที่เป็นสัญญลักษณ์ที่ทดแทนข้อมูลที่แท้จริงเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ข้อมูลที่มากมายกว่านั้นถ่ายทอดอีกส่วนหนึ่งโดยตรงจากจิตวิญญาณผู้พูดไปสู่จิตวิญญาณของผู้ฟังโดยตรง แม้บทสนทนาตามปกติในชีวิตประจำวันของเราทั้งหลายก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันนี้ และหากเรารู้จักใช้ประสาทสัมผัสที่หก การรับและถ่ายทอดข้อมูลจากจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณก็จะเป็นไปให้รู้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกเช่นทึ่คุณจิตต์รู้เห็นนี้
     
  3. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    6.ในขณะที่จิตต์ทำการสวดมนต์หรือจดจ่อกับสิ่งใด บางครั้งในส่วนของสมอง เอ้อจะบอกว่าเหมือนลูกโป่ง 2 ลูกอยู่ในลูกโป่งใบใหญ่กว่า มี 2 ความคิด
    ในขณะเดียวกัน(แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่เคยนำไปทำอะไรที่ผิดศีล เลยสักครั้งเดียวสิ่งนี้ขอยืนยัน)
    บางครั้งรู้สึกว่าหัวใจหรือเส้นเลือด
    เต้นแรงมากข้างขวา ลองเอามือสัมผัสก็ยังเต้นอยู่แต่ไม่บ่อยสักเท่าไหร่
    ในภาวะที่จิตเป็นสมาธิ เราจะพบว่าสติสัมปชัญญะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือผู้กระทำและอีกส่วนหนึ่งคือผู้สังเกตการณ์ และบ่อยครั้งเราก็อาจพบได้ว่า ในภาวะดังกล่าวเรามีความคิด 2 ชุด มีความจำ 2 ชุด หรือเผชิญกับประสบการณ์ซัอน หรือเผชิญกับการเป็นบุคคลตัวตน 2 ตัวตน หรือมากกว่านั้น ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อจิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อจากภาวะปกติไปสู่ภาวะอื่นๆที่แตกต่างไปด้วยพร้อมๆกัน ทำให้การรู้เห็นขยายตัว ครอบคลุมหลายตัวตน หลายสภาพแวดล้อม และหลายความทรงจำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  4. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    7.ในวันข้างขึ้นของปฏิทินมีความรู้สึกอยากนั่งอาบแสงจันทร์(ไม่บ่อยครั้งนะคะ) บางครั้งก็ได้อาบสมใจอยาก ในใจก็ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสวดอิติปิโสเท่านั้นค่ะ
    จิตวิญญาณที่เลือกมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังมักหวลถวิลถึงต้นกำเนิดที่มันจากมาเสมอ ดวงจันทร์ ดวงดาว และแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณต้นกำเนิดที่เราจากมา คนไทยมักพอใจอาบแสงจันทร์ค่ะ เพราะบ้านเราอากาศร้อนจัด แต่ฝรั่งชอบอาบแดด ไม่ใช่เพราะเขาจะชอบมีผิวสี Tan เท่านั้นหรอกนะคะ แต่ก็เป็นด้วยสาเหตุเดียวกันกับที่คนไทยรักแสงจันทร์น่ันแหละค่ะ โลกตะวันตกหนาวเหน็บในฤดูหนาว ดังนั้นฝรั่งจึงพอใจอาบแสงแดดโดยไม่กลัวร้อน
     
  5. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    8.บางครั้งอยากทานอาหารชนิดนี้ ก็จะได้ทาน
    มีความรู้สึกว่าพระหรือรูปภาพนี้น่าบูชา ก็มีเพื่อนนำมาให้ นึกถึงคนที่รู้จักก็โทรเข้ามา หรือเราโทรไปหา
    ท่านนั้นก็จะพูดว่ากำลังนึกถึงเธอหรือคุยกันถึงเธออยู่พอดีเลย
    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า
    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้น
     
  6. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    9.ในขณะที่จิตใจเป็นกุศล สงบ นั่งทำงานหรือนั่งอยู่หน้าคอม ฯ จะมีคำพูดเป็นชื่อหรือภาพปรากฎให้รับรู้ แล้วก็มีความรู้สึกว่าให้เดินไปที่ร้านหนังสือ
    ก็จะมีหนังสือที่ท่านจะสอนหรือให้เรารับรู้ว่าชื่อนี้ บทความนี้ ประโยคนี้มีจริงนะ หนังสือเล่มนี้เพิ่งวางขาย พอรับรู้สงบ ความรู้สึกเหล่านี้มิเคยทำให้ข้าพเจ้าเสียทรัพย์ เสียใจ หรือทำอะไรที่เป็นบาปกรรม หรือเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นเลยค่ะ ถ้าความเป็นมนุษย์บางครั้ง อยากมีคนที่เข้าใจพูดคุยกับเราแล้วรู้เหมือนเรา ซึ่งปัจจุบันความรู้สึกนี้เริ่มเพลา ๆ ลงแล้วค่ะ
    จิตวิญญาณของเราทุกคนใฝ่รู้ และเมื่อสติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอกปรารถนาคล้องจองกับสติสัมปชัญญะของตัวตนภายใน ก็ทำให้จิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติภายในเสมอๆ เพื่อรับข้อมูลความรู้จากภายใน ความปรารถนาดังกล่าวมักทำให้เราขวนขวายใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา การศึกษาหาความรู้เป็นกลไกที่ช่วยให้จิตวิญญาณสามารถเปลี่่ยนความเชื่อเป็นความรู้ได้ระดับหนึ่ง ส่วนการฝึกฝนให้สติสึมปชัญญะมีความคมชัดช่วยทำให้จิตวิญญาณสามารถจดจ่อรู้เห็นความเป็นจริง ซึ่งช่วยเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ได้อีกระดับหนึ่ง การแสวงหาความรู้และการฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัดจึงเป็นวิธีการอันเป็นของกลางของทุกชาติศาสนา ที่ทำให้การเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของจิตวิญญาณ บรรลุผลสำเร็จ

    เมื่อสติสัมปชัญญะมีความคมชัด เราจะรู้เห็นปรากฏการณ์ที่นอกเหนือประสาทสัมผัสทั้งห้าได้บ่อยๆ คุณน้องจิตต์ตระหนักว่าตนเองรู้เห็นได้ด้วยประสาทสัมผัสภายใน การรู้เห็นเหล่านี้จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆหากเราสามารถทำความเข้าใจในประสาทสัมผัสเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้
     
  7. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    10.มีเหตุการณ์จมน้ำเกือบตายตอนอายุประมาณ 3 ขวบแต่ก็รอดมาได้ ปัจจุบันชอบเล่นน้ำแต่ว่ายน้ำไม่เป็น พอหัดว่ายน้ำจะเกร็งแล้วช่วงคอจะเคล็ด แต่ถ้าให้นอนหงายลอยน้ำได้ทั้งในสระและในทะเลค่ะ สามารถลอยไปได้ไกลค่ะ ขอเรียนพี่เลขาว่าทุกสิ่งที่จิตต์ได้พิมพ์ขึ้นมาจาก ความจริงที่ได้ประสบพบเจอ และมิได้ฝึกอะไรเพิ่มเติม นอกจากปฏิบัติธรรม แรก ๆ รู้สึกสับสน มีความอยากรู้(ก็จะไม่ได้รับรู้) พอเรายอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด แล้วเรามีชีวิตอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ จะโพสบนกระทู้กลัวว่าบางท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสาร ทำให้เข้าใจผิดก็เป็นกรรมกับท่านนั้น ๆ อีกค่ะ จิตต์จะระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน พระมหากษัตริย์ของไทย และเทพทุก ๆ พระองค์ จิตต์จะถูกจริตกับเทพทางฮินดูค่ะ(พี่เลขาคะจิตต์มิใช่ตำหนักทรง แต่เริ่มจากความชอบนำรูปภาพมาบูชา และบางครั้งสื่อกับท่านได้ และสิ่งที่สนับสนุนคือถ้าจิตต์ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดทุกสิ่งอย่างจะราบรื่นมาก และพระมหากษัตริย์ของไทย)
    สังคมและศาสนามักให้คำนิยามและการแบ่งแยกระหว่างบุคคลผู้ฝึกปฏิบัติ ผู้ถือศีล ผู้รักพระเจ้า ผู้สร้างกุศล และแยกบุคคลเหล่านี้ออกจากบุคคลผู้ไม่ฝึกปฏิบัติ ไม่ถือศีล ไม่รักแต่ก็ไม่ได้เกลียดพระเจ้า หากเราตั้งจิตให้เป็นกลาางและมองดูศาสนาต่างๆ เราจะพบว่า การฝึกปฏิบัติ การถือศีล การรักพระเจ้า การสร้างกุศล ในทิศทางของศาสนาหนึ่งๆ ไม่ปรากฏในอีกศาสนาหนึ่ง เราจะพบได้ว่าหลักการเหล่านี้เป็นหลักการจำเพาะซึ่งถูกกำหนดขึ้นในโลกทางกายภาพ ซึ่งก่อให้เกิดการแบ่งแยก

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า เราจะมองเห็นได้ไม่ยากว่า อะไรคือความเชื่ออันจำกัดทางศาสนา และอะไรคือธรรมชาติความเป็นจริงอันเป็นของกลาง เพราะธรรมชาติความเป็นจริงอันเป็นของกลางจะปรากฏในทุกศาสนา และย่อมไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง

    พี่นักเขียนสัมผัสกับพลังงานอันเต็มไปด้วยความอ่อนไหว และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาดีอย่างบริสุทธิ์ใจของคุณน้องจิตต์เสมอๆ
    พี่นักเขียนเองเป็นผู้ที่เคยเคร่งครัดอยู่ในพุทธศาสนาแต่เพียงศาสนาเดียวก ถือศีล-กินเจ-ฝึกปฏิบัติสมาธิอย่างเคร่งครัด เลิกทานเนื้อกว่า 10 ปี และรู้สึกว่าโดดเดี่ยวออกไป หาคนเข้าใจเราได้ยาก พอใจสันโดษและพอใจคบหาแต่ผู้ที่ถือศีล-กินเจ-ฝึกปฏิบัติสมาธิอย่างเคร่งครัดเท่านั้น ทำให้รู้สึกแปลกแยกออกไปจากสังคมไม่มากก็น้อย จนในที่สุดได้ย้ายมาอยู่อเมริกา ได้มาสอนสมาธิแนวพุทธให้กับชาวคริสต์ อิสลาม ยิว และลัทธิความเชื่ออื่นๆ ได้ค้นพบอดีตชาติของตนเอง ซึ่งเคยเป็นผู้ที่อยู่ในคริสต์ศาสนาแต่มีความขัดแย้งกับคริสต์ศาสนา และได้ค้นพบอีกอดีตชาติหนึ่งซึ่งเคยเป็นผู้นำศาสนาคริสต์กึ่งพุทธ ทำให้พี่นักเขียนตระหนักว่า โลกแห่งจิตวิญญาณนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าที่ศาสนาเพียงศาสนาเดียวจะบรรจุข้อมูลความรู้ทั้งหมดและถ่ายทอดให้เราได้

    พี่นักเขียนอยากสนับสนุนให้คุณน้องจิตต์เปิดใจในห้องวิทย์ฯ โดยเริ่มต้นจากการมีมุมมองใหม่ที่ว่า การพัฒนาจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่เป็นไปอย่างเป็นระบบเครือข่าย และการพัฒนาที่แท้จริงคือการพัฒนาไปสู่การเป็นหนึ่งเดียวตามภาวะอันเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ ความจริงที่เราได้ประสพมีความหมายและเป็นบทเรียนที่ดีให้ได้สำหรับทุกคน เช่นเดียวกับที่ความเป็นจริงของผู้อื่นเป็นบทเรียนที่ดีให้เราได้เสมอ การเข้าใจผิดไม่ก่อกรรมกับใครหรอกค่ะ นอกเสียจากว่าเราจะไม่รู้จักยกโทษให้ตนเอง กรรมที่แท้จริงคือความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในอารมณ์ด้วยความเชื่อในทางที่ผิด แต่จิตวิญญาณใฝ่รู้ ความเชื่อที่ผิดจึงย่อมเปลี่ยนเป็นความรู้ได้เสมอ
     
  8. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    10.บางครั้งการฝึกฝันจะไม่ค่อยสำเร็จเพราะอาศัยอยู่กับญาติและไม่เป็นส่วนตัวค่ะ
    หากคุณจิตต์หมายถึงการฝึกฝันจริงๆ ไม่ใช่ฝึกฝนหรือฝึกสมาธิ ซึ่งต้องอาศัยความเงียบสงัดและความเป็นส่วนตัว พี่นักเขียนขอย้ำว่า การฝึกฝันเป็นสิ่งที่ทำได้เสมอทุกเมื่อเชื่อคืนที่เราได้นอนหลับ
    คุณน้องจิตต์ลองศึกษาดูการฝึกฝันจาก http://www.novaanalai.com/novaanalai...D932ED860.html นะคะ หากมีปัญหามาถามพี่นักเขียนได้เสมอค่ะ
    ส่วนการฝึกฝนหรือฝึกสมาธิ หากหาความสงบและความเป็นส่วนตัวได้ยาก พี่นักเขียนขอแนะนำให้นอนสมาธิ ด้วยการนับจากปลายเท้าขึ้นกระหม่อมผ่านจักระจุดต่างๆตามภาพ นับช่วงละ 10-20 ทุกช่วงที่นับผ่านจะต้องชา ไม่ชาย้อนกลับไปนับใหม่ เช่นเริ่มจากปลายเท้านับไปถึึงส้นเท้า จากส้นเท้านับไปถึงเข่า หากยังไม่ชากลับไปเริ่มใหม่จากปลายเท้า นับเป็นช่วงๆไปจนถึงสะโพก หากยังไม่ชา ย้อนกลับไปดูว่าส่วนปลายสุดที่ชาคือส่วนใด เช่นหายังชาขึ้นมาถึงเข่า ก็ย้อนกลับไปนับจากหัวเข่า ไปเรื่อยๆจนบรรจบที่ตาที่สาม กำหนดจิตของเรียนรู้ธรรมชาติความเป็นจริง นับต่อจนจบที่กระหม่อมแล้วหลับ การนอนสมาธิในลักษณะนี้ อย่างไรเสีียก็หาความเป็นส่วนตัวได้เสมอค่ะ
     
  9. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    11.ภาพถ่ายของภูเขาหิมาลัย เป็นสิ่งในสถานที่ที่อยากจะไปค่ะ อยากไปอินเดียค่ะ
    พี่นักเขียนเอาคุณน้องจิตต์ขึ้นหลังลาตัวที่ประดับประดาสวยที่สุดเลยค่ะ

    12.ไม่สะดวกในการใช้คอม ฯ และไม่มีประสบการณ์ในการวาดภาพค่ะ แต่ชอบศิลปะ บางครั้งการบ้านก็เลยไม่ได้ทำส่งพี่เลขา จิตต์เป็นเด็กดีไม่ดื้อนะคะ
    ไม่เป็นไรค่ะ หาภาพส่วนตัวทำบทฝึกฝนได้ด้วยตนเองโดยไม่ post ภาพแต่นำสาระมาเล่าสู่กันฟังได้เสมอค่ะ พี่นักเขียนขอบคุณที่บอกให้ทราบ จะได้แนะนำท่านอื่นๆที่เอาภาพมา post ไม่ได้ให้ทำการบ้านได้ด้วยตนเองเช่นกัน
     
  10. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    13.บางครั้งในการเดินทางไปบางสถานที่บนทางหลวงจะนอนหลับ มีบางแห่งถึงมืดก็มีความรู้สึกว่าให้มองป้ายหรือมองสถานที่นี้ไว้ แล้วสักวันหนึ่งก็จะได้มา
    รู้สึกดีที่ได้มาอ่านหนังสือที่ดี มีประโยชน์อนันต์และได้รู้จักพี่เลขา (ผู้ที่ถูกเลือกแล้ว) จิตต์พยายามละไม่ยึดติดจึงทำให้ได้รับรู้ และเรียนรู้ว่ามิใช่เราคนเดียวที่มีทุกข์ บางคนทุกข์หนักหนาสาหัสมากกว่าเรา แต่บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขา แต่ถ้าเราสงบนิ่งแล้วทุกอย่างจะเปิดให้รับรู้และค่อย ๆ แก้ไข(แต่กว่าจะผ่านมาได้ 1 ปีมันรู้สึกเกือบไม่รอด)
    ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ จิตต์จะรอคำตอบและคำแนะนำนะคะ
    เราทั้งหลายคือจิตวิญญาณที่เลือกมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง เพื่อเผชิญกับความท้าทายใฝ่รู้ เผชิญกับชีวิตในวิถีทางที่เราเลือก เราไม่จำเป็นต้องเลือกความทุกข์ เสมอไป ดังเช่นที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า

    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้น
    และ
    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงจากความเชื่อของตนเอง
    และ
    เธอจดจ่อกับสิ่งใด-ได้สิ่งนั้น-ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น

    เมื่อเรารู้ทันแล้ว เราจึงควรเลือกจดจ่อกับความคิดในแง่บวก และตั้งอยู่ในอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวกที่ทำให้เรามีความสุขหรือมีความรู้สึกที่ดีเสมอๆค่ะ เพราะความทุกข์ไม่ได้ทำให้เราต้องจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบ แต่ในทางตรงกันข้ามนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบ นำมาซึ่งความทุกข์ค่ะ

    ขอให้คุณน้องจิตต์มีแต่ความสุขด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้แสวงหาความรู้ ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอันอ่อนไหว ที่พร้อมเสมอที่จะจดจ่อกับความสุขและโลกอันงดงามภายใต้แสงจันทร์ค่ะ
    ด้วยความปรารถนาดี
    พี่นักเขียน (rose)
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ____________________________________________________________
    นักเขียน http://www.novaanalai.com/novaanalai/Index.html

    (b-ahh) โชคดีจังเลยที่เก็บไว้ คงมีประโยชน์สำหรับนักเรียนที่น่ารัก(ตี) ของพี่นักเขียนทุกคนนะคะ

    เอ!ว่าแต่ผู้ชาย 2 คน อยู่ในบรรยากาศแสงสีขาวและสีทอง กำลังทำอะไรกันอยู่เอ่ย (คนนึงสูงผอม คนหนึ่งรูปร่างสันทัด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  11. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    สวัสดีค่ะคุณ TK the Naka สบายดีนะคะ ในช่วงนี้พระจันทร์สวยและน้ำเต็มตลิ่ง (เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง) ขออภัยคะ หลุดไปนิดนึง คิดถึงนะคะ
     
  12. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    คิดถึงมากๆครับคุณจิตต์ ขออนุญาตเรียกสั้นๆนะครับ หวังว่าคงสบายดี
    วันนี้พิมพ์ซะเยอะเลยนะครับ อ่านจนตาลายเลย ชอบทุกๆข้อมูลที่พิมมาครับ
    โรแมนติกดีจัง
    แล้วที่ได้คุยกับข้าพเจ้า คุณจิตต์เห็นจินตภาพเป็นอย่างไรบ้างครับ อยากทราบจัง

    เคารพและคิดถึง
    TK the Naka
     
  13. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    สวัสดีครับ
    ต้องขออภัยนะครับที่ตอบช้าไปหน่อย พอดีมีปัญหากับอินเตอร์เน็ตนิดหน่อยครับ
    ดีใจครับที่พี่เจริญฝันถึงผมด้วย ทุกอย่างที่พี่เจริญฝันเห็นตรงมากๆครับ
    เอ...แต่ตรงหน้าตาดำๆนี่ทำให้นึกถึงคำที่พระอาจารย์ผมสอนไว้ว่า คนที่มีเวรกรรมติดตัวมา หน้าก็จะคล้ำๆคงเป็นธรรมดากระมังครับ แต่การที่ได้สนับสนุนจากผู้หญิงสองคนนี่นึกไม่ออกนะครับว่าใคร ว่างๆก็ฝันถึงอีกนะครับ มาเข้าฝันผมบ้างก็ได้นะ
    และที่สำคัญ อยากจะขอบคุณท่านนักเขียน และพี่ๆในห้องวิทย์มากๆ อยากจะบอกว่า
    ทุกครั้งที่ได้อ่านข้อความของท่านนักเขียนและพี่ๆก็รู้สึกดีครับ เหมือนได้ปลดปล่อยตนเองออกจากอดีตและเรื่องราวว้าวุ่นทั้งหลาย รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะมากๆเลย ขอบคุณอีกทีครับ ต่อไปนี้ผมจะพยายามที่จะทำความเข้าใจกับธรรมชาติของจิตวิญญานไปเรื่อยๆครับ ต่อไปนี้ถ้าไม่เข้าใจอะไรผมจะถามให้หมดเลยนะ

    เคารพและคิดถึงทุกท่าน
    TK the Naka
     
  14. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    มีประโยชน์มากเลยครับ คุณจิตต์แยกคำถามคำตอบเป็นข้อๆ ได้ดีจัง
    เอ.....คนรูปร่างสัดทัด เนี่ยผมบางๆ หัวล้านหรือเปล่าฮะ
     
  15. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ดีจังผมได้ชื่อใหม่ อีกแล้ว คราวก่อนน้องมายด์ กับคุณจิตต์เรียกผมว่า ชาห้อย แต่ชื่อไม่ค่อยมีความสำคัญกับผมเท่าไหร่ อย่างที่ทำงานเวลาลูกค้ามา เค้าเรียกชื่อผม คุณ ฉลวย บ้างคุณเฉลิม บ้าง ก็มีหลายตัวตนที่ดำเนินไปพร้อมกัน เลยต้องมีหลายชื่อ 555+
    ส่วนเรื่องความฝันผมยังฝึกอยู่เลย บางวันก็คมชัด บางวันก็เหมือนเสียเวลาไม่ได้อะไร แต่ก็พยายามอยู่ครับก็รู้สาเหตุครับคือตอนหลับเนี่ยกำหนดไม่ทัน ผมจัดอยู่ในประเภทหัวถึงหมอนก็ล่วงแล้วยังไม่ทันกำหนดอะไรเลย บางวันนอนสมาธิกำหนดยังไม่ถึงหัวเข่าเลยก็ล่วงแล้วเร็วจัง
    เอาไว้ผมอยากกินอะไรผมจะไปเข้าฝันคุณนาคานะ เอิ้กๆๆๆ
     
  16. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    คุณชยุตม์มาทีคำถามเพียบเลย
    กฏของห้องวิทย์ ไม่ต้องเกรง ใจถ้าหัวใจใฝ่รู้
    คำถามบางคำถามก็เหมือนผมเลย ก็อยากรู้นะ แต่บางอย่างก็ต้องเปิดรับความรู้ใหม่ทั้งๆที่ขัดกับความเชื่อเดิม
    อย่างผมก็มีความเชื่อในศาสนาที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กๆว่าพระพุทธองค์ท่านสูงสุดแล้ว พอมาศึกษาอนุตตรธรรม อ้าวมีผู้ที่สูงกว่าพระพุทธเจ้าเราอีกเหรอ กว่าจะรับได้ในใจก็ต่อต้านแบบไม่เปิดใจเลย
    แต่พอศึกษาไปก็ อ้อ เป็นอย่างนี้ๆ
    อย่างคำพระเจ้า พระอัลเลาะห์ พระผู้ให้กำเนิด องค์เหลาหมู่ หรือพระสรรพสิ่ง ก็เป็นคำเรียก ทีกำหนดกัน แทนผู้ที่ให้กำเนิดจิตวิญญาณ หรือผู้ที่ให้กำเนิดสรรพสิ่ง ก็แล้วแต่เราอยู่ในสังคม ภูมิภาค ภาษาไหนนะ ขนาดอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน อย่างในประเทศเรานี่ คำว่า กิน ก็มีหลายคำ เสวย รัปประทาน อะไรอีเยอะแยะไปหมด
    อย่างในอนุตตรธรรม ถ้าจับดีๆ ก็เหมือนอาจารย์อนาลัย แต่ก็ต้องแยกอะไรที่เกิดจากความคิดผู้บรรยาย อะไรที่เป็นหลักธรรมจริง เพราะผู้ฟังผู้พูดมีหลายระดับ ถ้าเราไปแบ่งแยกเรา เขา ขาว ดำ มันไม่จบนะ
    เพราะสุดท้ายก็คือรวมเป็นหนึ่ง ก็คือต้นกำเนิดเดิม
    ก็สนับสนุนในความสงสัยของคุณชยุตม์นะ เพราะถ้าเรารู้หมด เราก็ไม่ต้องมาเรียนรู้ มาถาม นะ
     
  17. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เอ่อ.. คุณ Mead มาคนเดียวเหรอคะ ไม่พาคุณ Falkman มาด้วยอ่ะ.. ระวังน้องมายด์กินตับตัวเองนะจ๊ะ..
    เป็นงัยบ้างคะ มาเที่ยวบนดาวเคราะห์โลกของเราหนุกมั้ย?
    คราวหลังสอนพวกเราเคลื่อนย้ายมวลบ้างดิ.. เผื่อจะได้ไปเที่ยวดาวของท่านบ้าง.. อิอิ..
    (555)
     
  18. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ส่งการบ้านมาค่ะคุณ yut จะได้รู้จักกัน..
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ตอบคำถามคุณ Chayutt ข้อ 1

    คำถามของคุณ Chayutt ยาวประมาณ 7 miles พีนักเขียนต้องขอตัดทีละครึ่ง mile มา post
    ไม่อย่างนั้น server คงจะ down พี่นักเขี่ยนจะพยายามทำความเข้าใจทีละข้อนะคะ
    ข้อที่เห็นว่าเป็นความคิดเห็นของคุณ Chayutt และไม่ใช่คำถาม
    จึงไม่ได้ขยายความ หากตั้งใจจะถามรบกวนช่วยตั้งคำถามใหม่นิดนึงค่ะ
    พี่นักเขียนจะได้เข้าใจตรงกันว่าอยากให้ช่วยขยายความว่าอะไร ยินดีเสมอที่จะตอบค่ะ

    พี่นักเขียนสงสัยว่า คุณ Chayutt อาจจะยังไม่ได้อ่าน หรือพลาดสาระหลายอย่างไปจากหนังสือ
    โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพ ซึ่งมีข้อมูลที่ทำให้คุณ Chayutt อาจจะเข้าใจ
    ถึงที่มาของท่านอาจารย์อนาลัยได้ดีขึ้น และทำให้คลายความกลัว ความกังวลมากมายที่มีอยู่
    ในขณะนี้ไปได้มาก


    การที่จะเข้าใจในธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณได้นั้น
    สิ่งแรกที่จะต้องเข้าใจคือ ความหมายของคำว่า จิตวิญญาณ
    จิต คือ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิด

    วิญญาณ คือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ
    จิตวิญญาณ จึงหมายถึงข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ
    ซึ่งถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิด

    หากเข้าใจในความหมายของจิตวิญญาณได้ดังนี้แล้ว จะต้องทำความเข้าใจต่อไปอีกว่า
    ตามธรรมชาติแล้ว จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปนอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระะยะทางและกาลเวลา
    ซึ่งหมายความว่า จิตวิญญาณมีปรากฏอยู่ในสรรพสิ่งทั้งหลาย ทุกสถานที่พร้อมกับหมดโดยไม่มีการเดินทาง ไม่ต้องใช้เวลา เพียงแค่คิดก็ถึงแล้ว เพราะจิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้น ด้วยความรวดเร็วกว่าแสง
    ความสามารถตามธรรมชาติของจิตวิญญาณคือ สามารถจดจ่อได้มากมายหลายภาวะ-หลายตัวตน-หลายโลก-หลายมิติ-หลายชาติภพ-เป็นอนันต์ แต่เมื่อเรามีเพียงสติสัมปชัญญะที่คุ้นเคยแต่กับเพียงตัวตนภายนอก ซึ่งรู้เห็นและจดจ่อผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าแต่เพียงทิศทางเดียว เราจึงมักจะปักใจเชื่อว่าจิตวิญญาณของเธอจดจ่อหรือรู้เห็นได้เพียงภาวะเดียว-ตัวตนเดียว-โลกเดียว-มิติเดียว-ชาติภพเดียวเท่านั้น

    ความสามารถตามธรรมชาติของจิตวิญญาณคือ สามารถจดจ่อได้มากมายหลายภาวะ-หลายตัวตน-หลายโลก-หลายมิติ-หลายชาติภพ-เป็นอนันต์ได้พร้อมกันหมด ซึ่งหมายความว่า จิตวิญญาณรู้เห็นอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตได้พร้อมกันหมด เป็นปัจจุบัน
    การรู้เห็นของจิตวิญญาณที่ปราศจากร่างกายตัวตนที่เป็นเนื้อหนัง เป็นการรู้เห็นธรรมชาติความเป็นจริงโดยปราศจากเครื่องพราง
    การรู้เห็นของจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายตัวตนที่เป็นเนื้อหนัง เป็นการรู้เห็นธรรมชาติความเป็นจริงภายใต้เครื่องพรางของช่องว่าง-ระะยะทางและกาลเวลา

    หากเราจะเอาธรรมชาติความเป็นจริงที่อยู่นอกเหนือเครื่องพรางมาเทียบเคียงกับสิ่งที่ปรากฏภายใต้เครื่องพราง ก็ไม่ต่างอะไรกับความพยายามที่จะนำเอาจักรวาลอันไพศาลมาย่อส่วนและเทียบขนาดกับห้องเพียงห้องหนึ่งเท่านั้น เราจะตัดทอนและสูญเสียความเป็นจริง-ความหมายและข้อมูลความรู้มากมายที่นอกเหนือความรู้อันจำกัดของเราออกไปด้วย

    การตัดทอนข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัยซึ่งเป็นความรู้ใหม่อันไพศาล ด้วยการนำมาเทียบเคียงกับความรู้เดิมที่มีจำกัดก็ไม่ต่างไปจากอุปมาอุปมัยที่กล่าวไปนี้ เพราะมันทำให้เราต้องตัดทอนสาระของข้อมูลออกไปเพียงเพื่อจะทำให้มันเข้ากันได้สนิทกับความคิดอันจำกัดที่มีอยู่เดิม ทำให้การขยายความรู้เป็นไปไม่ได้
    (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ตอบคำถามคุณ Chayutt ข้อ 2

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้หนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ ว่า ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับพระเจ้าหรือตัวตนอื่นๆที่เหนือมนุษย์ ล้วนเป็นความคิดที่จำกัดเกี่ยวกับการเป็นบุคคล-ตัวตนที่กำหนดโดยมนุษย์ทั้งสิ้น และความคิดเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์

    จิตวิญญาณทั้งหลายในทุกรูปกายมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด ด้วยคำพูดและความคิดที่ขึ้นกับเส้นทางแห่งกาลเวลาเช่นเธอ-อาจกล่าวได้ว่า กระเปาะที่จะกลายเป็นดอกไม้ในอนาคตได้รับข้อมูลจากดอกไม้ในอนาคตที่มาบอกมันว่า-มันจะเบ่งบานออกเป็นดอกไม้ได้อย่างไร ความทรงจำทำงานย้อนเวลาหรือล่วงหน้าไปในกาลเวลาได้ ดอกไม้ส่งข้อมูลย้อนเวลากลับไปบอกกระเปาะเพื่อให้มันรู้ถึงการพัฒนาอันเป็นไปได้(ในอนาคต)

    หากเธอมีอายุยี่สิบสามปี เธอมีความคิดความฝันที่จะมีธุรกิจส่วนตัว ตัวตนของเธอในอนาคตผู้มีอายุยี่สิบปีกำลังดำเนินชีวิตอยู่พร้อมกับเธอเป็นปัจจุบัน ตัวตนในอนาคตจะย้อนเวลากลับมาบอกเธอถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจส่วนตัว แม้เธอจะไม่รู้เห็นตัวตนในอนาคต แต่เธอก็ติดต่อสื่อสารกับตัวตนในอนาคตของเธอในความฝันหรือรับความรู้ข้อมูลที่เป็นแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจ เธออาจเรียกตัวตนในอนาคตว่า เป็นตัวตนที่ก้าวหน้ากว่าเธอ ผู้มีคำตอบสำหรับคำถามทั้งหลายของเธอ และเป็นผู้ที่เธอเชื่อถือได้

    เธออาจมองเห็นพระเจ้าหรือตัวตนเหนือมนุษย์อื่นๆในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าเธอทั้งหลายจะมีความคิดและความเข้าใจอันจำกัดเกี่ยวกับการเป็นบุคคล-ตัวตน แต่เธอทั้งหลายก็มีแนวโน้มตามธรรมชาติที่จะมองเห็นพระเจ้าหรือตัวตนเหนือมนุษย์อื่นๆเป็นบุคคล-ตัวตน ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเป็นบุคคล-ตัวตนที่กว้างและลึกกว่าที่เธอรู้จักจะนำเธอไปสู่การสัมผัสกับจิตวิญญาณรวมที่เธอทั้งหลายเชื่อมต่อผูกพันธ์ เป็นส่วนหนึ่ง เป็นต้นกำเนิดของเธอ และเธอก็อุบัติขึ้นจากต้นกำเนิดนี้อยู่ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ(rose)(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...