การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 19 เมษายน 2012.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    บางท่านกล่าวไว้หรือตั้งความปราถนาเพียงว่า ขอตายแบบพร้อมเพียงกันพร้อมคนรัก เช่น ตายพร้อมกันพ่อแม่ลูกเป็นต้น กาขาวขอฝากให้ท่านคิดว่่า การตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเดินทาง แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้ง และการกอดคอกันตายก็ไม่เหมือนการร่วมล้อมวงกินข้าว ที่เมื่ออิ่มแล้วจะได้ออกเดินทางพร้อมกันและอยู่ร่วมทางเดียวกันไปตลอดการเดินทางจนถึงจุดหมาย แต่การตายนั้นต่อให้กอดคอกันแล้วมัดร่างกายให้ติดกันด้วยเชือกก็ไม่อาจทำให้ร่วมทางเดินในชีวิตหลังความตายได้ ทั้งยังเป็นสัญญาณอันตรายว่ายังมีความเห็นต่างจากที่พระพุทธเจ้าสอนว่า ร่างกายคือขันธ์ห้านี้ไม่ใช่ตัวเรา เป็นเพียงที่อาศัยชั่วคราวของจิต ดังนั้นแม้ตายพร้อมกันแต่ละดวงจิตต่างก็พลัดพรากแยกย้ายกันไปตามบุญกรรม ที่ต้องระวังคือ จิตเศร้าหมองหรือเศร้าโศกอาลัยอาวรณ์เกินไปกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนทึ่ต่างก็ทำบุญอุทิศบุญช่วยเหลือกันไม่ได้ ดังนั้นในบางกรณี การมีญาติเหลือรอดมีชีวิตไว้บ้างเพื่อคอยช่วยเหลือกันระหว่างภพภูมิก็จะดี คนที่ีิีีรอดก็ทำบุญอุทิศบุญให้เพื่อเตือนสติดวงจิตของคนที่ตายเพื่อไปสู่ภพภูมิที่ดีและมีฤิทธิ์มาก แล้วดวงจิตทึ่เลื่อนภพภูมิเป็นเทวดาหรือพรหมนั้นก็กลับมาช่วยคนที่ยังไม่ตายใหัปลอดภัยและช่วยเหลือให้มีความเจริญในชีวิต อาจจะดีกว่ากอดคอกันตายกลายเป็นวิญญาณเฝัาสถานที่โดยที่ต่างก็ช่วยเหลือกันไม่ได้เพราะต่างก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน - ไม่จำเป็นต้องตายพร้อมกัน จึงจะได้อยู่ด้วยกัน เพียงดูป้ายบอกทางใหัดีๆ นัดหมายกันให้ดีๆ ว่าจะไปพบกันที่ใดหลังความตาย "เราจะพบกันที่นั่น และไม่กลับมาที่นี่" (ภาพประกอบ : ป้ายบอกทางที่วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว เชียงใหม่)


    ติดตาม "กาขาว" http://www.facebook.com/whitecrow.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  2. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]


    ก่อนจะถึงวันนั้น (ถ้ามันมีจริง)
    พวกเรามักได้ยินหรือมักพูดถึงการมีสติอยู่เสมอ
    เช่น อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
    หลายครั้งคนที่พูดก็เพียงแต่จำเขาเอามาพูด
    โดยไม่รู้ว่าตนเคยฝึกสมาธิ ฝึกสติวันละกี่ชั่วโมง

    วันนี้เรามีบททดสอบให้ลองทำกันดูเล่น ๆ
    คือลองนั่งในที่สงบๆที่บ้าน ควรเป็นเวลากลางคืน
    ปิดไฟและแสงสว่างทุกชนิด
    เหลือเพียงแต่คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของคุณ
    (ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอใหญ่คงจะดีกว่า)
    จากนั้นเปิดคลิปจากยูทูป ตามลิงค์ด้านล่างนี้
    โดยขยายภาพให้เต็มจอ เปิดเสียงดังพอสมควร
    ทั้งหมดนี้เพื่อจำลองสถานการณ์เพื่อให้มีความสมจริง

    แล้วลองดูปฏิกริยา ความรู้สึก ความนิ่งของจิตคุณ สติของคุณ
    คุณสามารถทรงภาพพระ (หมายถึงจินตนาการภาพพระซ้อนทับเหตุการณ์ตรงหน้า หรือลอยอยู่กลางอากาศ)
    ในเหตุการณ์แบบนี้ได้หรือไม่

    นี่คือเหตุการณ์สมมติ ที่มีความยาวเพียง 3 นาที
    หากเป็นเหตุการณ์จริงที่ยาวนานถึง 3 วัน
    ความรู้สึกตื่นตกใจอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าหรือ 100 เท่า
    คุณจะสามารถคุมสติได้หรือไม่ หรือจะสติแตก

    คำเตือน : คุณไม่ควรเปิดดูเล่นๆก่อนจะได้ลองทดสอบ
    เพราะคุณอาจไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เราอยากให้คุณรู้สึก

    นี่่คือลิ้งค์คลิปจากยูทูป
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=fcrOYyQcXx4&feature=related]The 3 Days Of Darkness - YouTube[/ame]

    ภาพประกอบจากวัดถ้ำเมืองนะ
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    อะไรคือ "กาขาว" http://www.facebook.com/whitecrow.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    Everyday Carry (EDC) หรือ Emergency Survival Kits น้ำหนักรวม 300 กรัม พกพาใส่กระเป๋ากางเกงแบบสบายๆ ค่อยๆรวบรวมเองดีกว่าซื้อชุดสำเร็จ

    อุปกรณ์เพื่อการรอดชีวิตในกรณีฉุกเฉิน ประกอบด้วย : มีดพับ ไฟฉายพร้อมไซเรน ไฟแช๊ค ไฟฉายฉุกเฉิน แท่งแมกนีเซียมจุดไฟ ถุงยางอนามัย 2 ชิ้น พลาสเตอร์ปิดแผล หลอดกรองน้ำ พระขรรค์จักพรรดิ + ลูกแก้วจักพรรดิวัดถ้ำเมืองนะเพื่อทำน้ำมนต์ปรับภพภูมิ วิธีการใช้ลูกแก้ว บทสวดจักรพรรดิและภาพถ่ายหลวงปู่ดู่ สติกเกอร์สะท้อนแสง นกหวีด ที่อุดหู เงินสดสำรอง เข็มทิศและวัดอุณหภูมิ ทรั๊มพ์ไดรฟ์เก็บข้อมูลและรูปภาพคนในครอบครัวและเอกสารสำคัญ (ความจุ 4 GB) หนังยาง น้ำมันเขียว(หมอเขียว) สำลี สำเนาบัตรประชาชนระบุข้อมูลส่วนบุคคล ระบุกรุ๊ปเลือด ประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว(ถ้ามั) และเบอร์ติดต่อญาติ ทั้งหมดอยู่ในถุงกันน้ำ 100% ใช้ถุงผ้าสีดำคลุมภายนอก รวมทั้งหมดอยู่ในถุงขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย น้ำหนักรวม 3 ขีด หรือ 300 กรัม ใส่ในกระเป๋ากางเกงได้เป็นปกติโดยไม่ผิดสังเกต

    ***สิ่งที่หลายคนอาจลืมใส่ลงไปคือข้อมูลที่ระบุตัวตนและข้อมูลทางการแพทย์ตลอดจนเบอร์ติดต่อญาติ
    สิ่งนี้จะมีประโยชน์มากเมื่อเราได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ***

    ประโยชน์จากถุงยางอนามัย
    ประโยชน์หลักๆของถุงยาง คือ เก็บน้ำ /กันน้ำ /เก็บอากาศ / กันอากาศ สามารถนำไปประยุกต์เป็น ทุ่นลอยน้ำหรือชูชีพ / ถุงใส่น้ำหรือใช้แทนกระติกน้ำ / ถุงกันน้ำสำหรับเก็บอุปกรณ์อิเล็คโทรนิค เช่น โทร.มือถือ ไฟฉาย /ใส่น้ำทำเป็นเลนส์เพื่อรวมแสงอาทิตย์เพื่อจุดไฟ / ถุงยางอนามัยเจาะรูเล็กๆบริเวณด้านปลายสามารถทำเป็นที่กรองน้ำฉุกเฉิน ใส่ผงคาร์บอนหรือถ่านที่เหลือจากการก่อกองไฟ บดละเอียดหรือใส่ทั้งก้อน ใส่ทรายลงไปด้วย น้ำกรองที่ได้ควรนำไปต้มก่อนบริโภค

    ประโยชน์ของพระขรรค์และลูกแก้วจักรพรรดิคืออะไร
    หาคำตอบได้ในลิงค์นี้ http://www.facebook.com/media/set/?set=a.386598638082263.91972.136416773100452&type=1&l=84a6bd671b

    ผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากพระขรรค์และลูกแก้วได้ประโยชน์เต็มที่คือผู้ทรงพรหมวิหาร 4 (มีศีล 5 บริสุทธิ์)


    อะไรคือ "กาขาว" http://www.facebook.com/whitecrow.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  4. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    ที่คอยนับวันเวลานั้นไม่ได้เจตนาจะทำให้ใครกลัว เพียงแต่ว่า นับจากนี้อีกไม่ถึง 60 วัน เมื่อถึงวันที่ 1 มกราคม 2556 ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่แน่นอนที่สุดว่าจะมีพวกเราบางคนในประเทศนี้ตายด้วยสาเหตุอะไรสักอย่าง เรามีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะเป็นหนึ่งในนั้น เราไม่อาจรู้ได้เลยว่่าปีหน้ากับชาติหน้่าอะไรจะมาถึงก่อนกันและแม้ปีหน้ามาถึงก่อนแต่เราจะได้ฉลองกันหรือไม่ ความจริงที่เราอาจได้เรียนรู้คือชีวิตเป็นของไม่แน่นอน และเราอาจมีชีวิตอีกไม่นาน บางท่านติงว่าเป็นเรื่องผิดเพราะเป็นการไม่อยู่กับปัจจุบัน แต่หากเราทบทวนดูให้ดี ถึงคำตรัสของพระพุทธเจ้าอันเปรียบเสมือนคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของพ่อที่ให้ไว้แก่ลูกคือ "อย่าประมาท" ดังนั้นการมานับวันตายว่าเหลืออีกไม่ถึง 60 วันนั้นก็ผิดจริงๆ แต่ไม่ใช่ผิดอย่างที่บางท่านติง แต่ผิดที่ยังประมาท เพราะแม้พระอานนท์ระลึกถึงความตายว่าจะตายวันนี้ ถึงวันละ 7 ครั้งก็ยังนับว่าประมาทไป เราทุกคนเกิดมาต้องตาย ทุกวันผมไม่สามารถลืมเรื่องนี้ได้เลย ผมไม่อาจลืมได้เลยว่าในที่สุดผมต้องตาย อาจจะก่อนหรือหลัง 60 วันนับจากนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรผมต้องตายแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนี้ผมก็เริ่มจัดลำดับความสำคัญของเรื่องราวต่างๆ และพบว่่าเรื่องทุกข์และเรื่องบาดหมางหลายเรื่องนั้นไร้สาระเกินไป ระบบทุนนิยมหลอกให้เราทำงานและเร่งสะสมเหมือนเราจะไม่มีวันตาย แต่พ่อเราเผยให้เห็นความจริงว่่าทุกคนต้องตายไม่มีเหลือ ผมเริ่มค้นหาว่าอะไรที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับเวลาที่เหลือ ผมพบว่าผมมีความสุขกับการสวดมนต์และนึกถึงพระ หรือการรู้ลมหายใจ และนั่นเองเป็นช่วงเวลาที่ผมเริ่มอยู่กับปัจจุบันจริงๆ คือเมื่อเวลาหลังจากที่เราเริ่มคิดถึงความตาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ผมคงห้ามใครไม่ให้ตกนรกไม่ได้

    เนื่องจากมีกระแสปรามาสเบียดเบียนเสียดสีครูบาอาจารย์ที่ท่านออกมาเตือนเรื่องภัยพิบัติ กระแสดังกล่าวเริ่มรุนแรงมากขึ้นเมื่อภัยพิบัติอาจไม่ได้เกิดรุนแรงตามคำเตือน สิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ไม่ได้ต้องการจะปกป้องครูบาอาจารย์ เพราะเมื่ิอท่านเสียสละยอมเอาตัวและชื่อเสียงเข้าเสี่ยงแล้ว ท่านเหล่านั้นย่อมไม่ประมาท คือมีการประมาณตน ประมาณใจไว้ล่วงหน้ากับผลด้านลบที่จะติดตามมา แต่สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือเตือนสติกัลยาณมิตรที่ติดตามและให้การสนับสนุน "กาขาว" ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาดังนี้ การที่ภัยพิบัติยังไม่เกิดอย่างรุนแรงนั้นขอยกไว้ให้เป็นเรื่องของธรรมชาติและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเชื่อว่ายังมีผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องด้านการยับยั้ง ส่วนผู้มีหน้าที่เยียวยาหลังภัยพิบัตินั้นน่าจะดีใจเพราะได้เวลาเพิ่มในการทำความเพียรเพิ่มความสามารถ แต่อย่าบอกเลยว่าให้ภัยพิบัติรีบเกิดเพื่อให้จบๆไป เพราะท่านว่ามันน่ากลัวกว่าที่มนุษย์คิด คนที่ทำหน้าที่เยียวยาก็กลัวว่าจะยังเตรียมตัวไม่พร้อม เรื่องที่ผมเป็นห่วงคือกัลยาณมิตรที่เริ่มจะคล้อยตามไปกับกระแสการปรามาสครูบาอาจารย์ ผมเข้าไปอ่านการใช้ถ้อยคำแล้ว เชื่อว่าท่านเจ้าลัทธิการปรามาสพระสงฆ์นั้น ไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสอย่างจริงจังถึงข้อวัตรการปฏิบัติของท่าน เป็นแต่เพียงการวิจารณ์แบบคนที่มองอยู่ไกลๆ แล้วคิดเอาเองแบบใช้ปัญญาทางโลก แล้วเรียกเก๋ๆ เท่ๆ ว่าวิทยาศาสตร์ ผมขอเตือนกัลยาณมิตรว่า การที่ท่านคาดการณ์ผิดหรือถูกนั้นเราสามารถพิสูจน์ได้ แต่เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าท่านโกหกหลอกลวง เพราะขึ้นอยู่กับเจตนา หากท่านรู้มาอย่างนั้นแล้วท่านเตือนออกไปตามนั้นแล้วมันไม่เกิดหรือคลาดเคลื่อนไปด้วยเหตุใดก็ตาม แม้เป็นความผิดพลาดแต่จะว่าท่านโกหกนั้นไม่ได้ การทีี่เรามีศีลเพียงศีลห้า (บางคนศีลห้ายังไม่ครบ) แล้วไปปรามาสพระที่ท่านมีศีล 227 ข้อนั้น มีนรกรออยู่ในเบื้องหน้า ต่อให้พระรูปนั้นศีลขาดไปบ้างหากแต่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก คนที่มีศีลห้าก็ไม่ควรไปปรามาสประมาทต่อท่าน เรื่องนี้ไม่ใช่ว่า "กาขาว" จะคิดเอาเองพูดเอาเองโดยใช้ปัญญาแบบทางโลก แต่อ้างอิงจาก "คิริมานนทสูตร" ทีี่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ พระท่านศีลสูงกว่าเรา หากไม่อาบัติถึงขั้นปราชิกแล้วเราไม่ควรไปประมาท ขอให้เป็นหน้าที่ของท่านที่มีศีลเสมอกันเขาจัดการ หรือเราเพียงยื่นเรื่องให้ท่านที่มีหน้าที่จัดการ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เพื่อเตือนเพื่อนกัลยาณมิตร ไม่ใช่ต้องการปกป้องพระท่านเพราะหากท่านมีเจตนาหลอกลวงจริงท่านย่อมได้รับกรรมนั้นเอง และไม่ได้ต้องการโต้เถียงกับท่านเจ้าลัทธิปรามาสพระสงฆ์ แต่ก็พร้อมจะอธิบายเท่าที่ได้สัมผัสและรับรู้มา

    ผมคงไปห้ามใครไม่ให้ตกนรกไม่ได้

    ด้วยความเคารพครับ เราห้ามใครไม่ให้ตกนรกไม่ได้ แต่เราก็ไม่แช่งใคร เจริญเมตตาดีกว่าครับ เขาเป็นผู้น่าสงสาร ถ้าเขารู้เขาคงไม่ทำผิด เหมือนที่เรารู้แล้วเราจึงไม่ทำผิด หลวงปู่ดู่สอนว่า รักทุกคน ไว้ใจบางคน ไม่เกลียดเลยสักคน

    ท่านที่สนใจฟัง "คิริมานนทสูตร" ที่ผมอ้างอิงถึง พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า คนมีศีลห้าไม่ควรไปประมาทท่านที่มีศีลสูงกว่า โดยเฉพาะพระท่านที่ไม่ผิดพลาดถึงขั้นปราชิก ให้เจาะจงฟังไฟล์บรรยายตอนที่ 2.1 และ 2.2 ดาวน์โหลดได้ที่ รวมเสียงอ่านหนังสือ > คิริมานนทสูตร มุตโตทัย พระสารีบุตร พระนางพิมพา

    ติดตามทางเฟซบุ๊ค http://www.facebook.com/whitecrow.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  6. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    เห็นด้วยครับ ปาราชิก ข้อสี่นั้น หากพระท่าน มีฌาน หรือ ญาณจริง หรือตัวพระท่านเข้าใจว่าตัวท่านมีจริงแม้จะอวดก็ไม่เป็นปาราชิก(ไม่มีเจตนาหลอก)แล้วอ่ะครับ (ผมเชื่อว่าท่านจริง)

    ปล.ขนาดคนทั่วไปไม่รู้ไม่เห็นแต่ฟังมายังต้องการบอกคนอื่นให้ระวัง แล้วท่านทราบมาด้วยตนเองย่อมต้องบอกประชาชนแน่นอน(ถ้าท่านบอกได้)
    ส่วนพระอื่นที่ไม่ได้บอก อย่าคิดว่าท่านไม่ทราบ(ท่านอาจจะทราบแต่บอกไม่ได้)
     
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เคยมีคนอ้างคำทำนายว่าเป็นพุทธทำนาย หรือ พุทธพยากรณ์ ทำนายว่า "คนจะเปลี่ยนจากเดินเป็นคลาน" ถึงวันนี้มีบางท่านกล่าวว่าหากพ้นปี 2555 ไปแล้ว ภัยพิบัติยังไม่เกิด คนยังเดินปกติ ศาสนาคงเสื่อมคนนับถือไปมาก ข้อนี้ "กาขาว" หรือ karan20 เคยเขียนอธิบายไว้แล้วในเว็บพลังจิต ตั้งแต่ปี 2553-2554 ขอนำมาชี้แจงโดยย่อว่า ประการแรกจากหลักฐานขณะนี้ เราไม่อาจสามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่่า คำพยากรณ์ดังกล่าวเป็นพุทธพยากรณ์หรือไม่ ยืนยันก็ไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่ได้ บอกได้แต่เพียงว่าไม่มีคำพยากรณ์ดังกล่าวปรากฏในพระไตรปิฎก อย่างไรก็ตามเราต้องเข้าใจว่าพระไตรปิฎกใช้บันทึกคำสั่งสอน แต่ไม่ได้มีหน้าที่บันทึกเรื่องราวทั้งหมด และอาจจะมีคำพยากรณ์ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก เป็นต้นว่า พระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้กับพระผู้ทรงอภิญญาที่ไปเข้าเฝ้าในภายหลังที่ปรินิพพานแล้ว (ศึกษาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และพุทธพยากรณ์) สรุปจึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่าเป็นพุทธพยากรณ์หรือไม่ กล่าวได้เพียงว่า ไม่ปรากฏมีในพระไตรปิฎก แต่การที่คิดว่าตนเป็นผู้รอบรู้ในพระไตรปิฏกแล้วจะรู้แจ้งทุกสิ่งนั้นไม่สมควร พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นผู้ทรงใบลานเปล่า สำหรับผู้ไม่ประมาทเมื่อพิจารณาประกอบกับเหตุการณ์ต่างๆแล้ว จึงควรกล่าวอ้างเวลาที่ต้องการจะพูดถึงแต่เพียงว่า "คำพยากรณ์ที่เชื่อกันว่าเป็นพุทธพยากรณ์" จะได้ไม่เป็นการตู่อ้างคำพระพุทธเจ้า หรือหากไม่เชื่อก็ควรกล่าวแต่ว่า "ไม่น่าเชื่อ" ไม่ใช่กล่าวคำว่า "ไม่ใช่" ขอให้ข้อมูลหลักฐานและกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คือหากเป็นพุทธพยากรณ์จริง ย่อมไม่ผิดพลาด อีกประการหนึ่งคือการนับปีนักษัตรนั้นไม่ได้นับสิ้นสุดที่เดือนธันวาคม แต่นับเริ่มและสิ้นสุดในประมาณเดือนเมษายน หากต้องการให้แน่ชัดต้องเปิดปฏิทินประจำปี อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://palungjit.org/threads/พุทธทำนายปลอม-หรือเปล่า.284425/

    ติดตามทางเฟซบุ๊ค "กาขาว" http://www.facebook.com/whitecrow.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  8. hanky

    hanky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +176
    อ่านบทความแล้วรู้สึกดีมากครับ ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านครับ:cool:
     
  9. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439

    คุณเองก็นะออกมาเตือนตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ละเรื่องที่คุณออกมาเตือนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นซักอย่างแล้วจะยังมาพูดแบบนี้อีกนะ พูดเหมือนว่าตัวเองเป็นคนดีมีศีลธรรมแน่จริงก็ไปยันกันในกระทู้ซิไม่ใช่มาเก่งแต่ในกระทู้แบบนี้ เอะอะอะไรบ้างปรามาส สงสัยจะไม่เข้าใจคำว่า "อวดอุตริมนุษยธรรม" เลิกแถและแก้ตัวแทนได้แล้วครับ กลับไปอ่านคำทำนายดูใหม่ซักร้อยรอบนะ มีการบอกและยืนยันว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนในวันเวลาดังกล่าว(หรือต้องให้ผม capture มาให้ดู) ยื่นยันชัดเจนว่าเกิดขึ้นแน่นอนไม่มีการเลื่อนแน่นอน ประกาศออกมาชัดเจน แล้วบัดนี้วันเวลานั้นมาถึง มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามคำกล่าวอ้าง เรื่องนี้ไม่เท่าไร แต่ประเด็นที่ว่ามีการทำพุทธพาณิชย์เกิดขึ้นประเด็นนี้ต่างหากที่เป็นสาระสำคัญ ไม่มีการออกมาชี้แจงใดๆเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณเองก็ไม่ใช่ผู้เสียหายจะพูดยังไงก็ได้ ลองให้มันเกิดกับตัวเอง พ่อแม่ ญาติพี่น้องของคุณเองบ้างซิแล้วจะพูดไม่ออก จิตคุณมันเมตตาดั่งที่คุณพร่ำมันออกมาแล้วหรือ?

    เลิกบิดเบือนข้อเท็จจริงได้แล้ว ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองใครก็ห้ามไม่ได้ แต่ทุกอย่างต้องมีความเป็นธรรมและยุติธรรมด้วย ไม่ใช่เอะอะอะไรแตะต้องไม่ได้ พระสงฆ์ปลอมที่บวชแล้วอาศัยอยู่ในวัดน่ะมันเยอะ ห่มเหลืองแต่พฤติกรรมไม่ใช่เลย ข่าวก็มีออกมาให้เห็นกับแทบทุกวัน ยุคสมัครเปลี่ยนไปอะไรๆเปลี่ยนไป ยอมรับความจริงได้แล้วโลกไม่ได้สวยเหมือนที่หลายคนหลอกตัวเอง

    เรื่องนี้จะมาอ้างว่าโกหกหรือไม่โกหกไม่ได้ มันชัดเจน "โกหก" แปลว่า พูดไม่จริง แล้วสิ่งที่พูดไปมันจริงไหมล่ะ เกิดขึ้นไหม ผมว่าคุณหยุดเถอะครับ หยุดการเบี่ยงประเด็นได้แล้ว ยิ่งคุณหยิบยกอะไรขึ้นมาอ้างมากๆคุณยิ่งเสียมาก อยู่เฉยๆสบายๆดีแล้ว อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย อยู่ในโลกแห่งความฝันที่คุณอุปทานมันขึ้นมาต่อไปเถิด ขอร้องอย่าลากผู้บริสุทธิ์เข้าไปเกลือกกลั้วด้วยเลย
     
  10. opside

    opside เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +211
    รบกวนคุณ Reflect เล่าให้ละเอียดได้ไหม
    เพราะดูจากเจตนาของ จขกท.(คุณกาขาว)
    ไม่มีทีท่าว่าจะมาหาผลประโยชน์เลย ด้วยความเคารพ
     
  11. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ผมไม่ได้ว่าเค้าหาประโยชน์แค่จะบอกเค้าว่าเรื่องบางเรื่องสมควรว่ากันด้วยเหตุผล ความเป็นจริงไม่ใช่ไปหยิบยกอะไรมาอ้างตลอด หลักฐานทุกอย่างชัดเจน แต่เค้าก็ยังเลือกที่จะปกป้องคนผิด
     
  12. opside

    opside เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +211
    ขอบคุณครับ และต้องขอโทษด้วยเรื่องที่ตีความหมายของคุณผิด
    เพราะที่ผมหาข้อมูลลักษณะนี้(ภัยพิบัติ)ส่วนใหญ่จะแฝงไว้ด้วยผลประโยชน์
    มีน้อยครับ ที่จะออกมาเตือนกันจริงๆ
     
  13. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    เรื่องคำทำนายทั้งหลายแหล่เกิดขึ้นเพราะไปหลงเชื่อว่า ข้อความข้างล่างคือพุทธพยากรณ์ ไม่น่าเชื่อเลยว่า บางท่านก็ดูมีความรู้ทางธรรมมาก จะไม่ฉุกคิดอะไรเลย


    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ ตรงกับ พ.ศ ๒๕๕๕ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ ตรงกับ พ.ศ ๒๕๕๖ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒
    (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉา พยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ใน ศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญ ภาวนาดังนี้

    " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "

    ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์ จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้น ระยะปี ๓๐ ปี พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญ ไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระ
    โพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของอาตมา ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิด ในสมัย ของอาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี

    เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้ เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

    ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไปนับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลาผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่งยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่งให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

    " พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  14. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    เหตุผลที่ข้อความข้างบนไม่ใช่พุทธพยากรณ์คือ

    1.พระพุทธเจ้าจะตรัสเรียกปีแบบปีนักษัตรของไทย ปีมะโรง มะเส็ง ปีกุน ปีจอ จะเป็นไปได้อย่างไร

    2.มีการบอกว่าพระพุทธเจ้าให้จดคาถาแล้วเขียนใส่กระดาษปะไว้หน้าบ้าน, ให้พันหัวไว้ แล้วจะพ้นภัย อันนั้นออกแนวไสยศาสตร์พวกยันต์คุ้มภัยแล้ว ทำนองพวกผ้าประเจียด ยันต์โป๊ยข่วยอะไรแบบนั้น

    3."..." หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "

    ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย...."

    อ่านดูเผินๆจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่จริงๆแล้วยุคของพระพุทธเจ้ายังไม่มีกระดาษที่จะจดบันทึกอะไร พระไตรปิฎกช่วงแรกยังต้องอาศัยการท่องจำกันเอาเองเลย อันนี้บอกว่าพระพุทธเจ้าให้เขียนคาถาใส่กระดาษเหมือนยันต์กันภัยแปะไว้หน้าบ้าน ให้พันหัวไว้ น่าแปลกมาก

    ถ้าจะคิดไปไกลว่าเพราะพระพุทธเจ้าตรัสให้คนในอนาคตฟัง แล้วทำไมถึงมีแต่คำว่ากระดาษโดยไม่เคยปรากฏถึงคำอื่นๆจากอนาคตถ้าเทียบกับเวลาของพระองค์ให้เห็นเลย ไม่ว่าจะในพระไตรปิฎกหรือจารึกอื่นๆ

    ดูเพิ่มเติม: History of paper
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  15. pipatz

    pipatz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    ถามว่าประเด็นภัยพิบัติ เกิดมีขึ้น หรือไม่มีขึ้น หรือรู้ล่วงหน้า หรือไม่รู้ล่วงหน้า แล้วมีประโยชน์อันใด กับทางอันเป็นที่สุดที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้จักกัน(นิพพาน)

    อปมาทะ หรือความไม่ประมาท ที่ได้ยินกันมาว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เป็นคำสุดท้ายก่อนดับขันธ์ ไป ไม่ได้แปลว่าอย่าประมาทนะเดี๋ยวภัยพิบัติจะมา แต่หมายความตามวิสัยของชาวพุทธว่า อย่าประมาทในธรรม ไม่เห็นธรรมชาติเป็นเรื่องแน่นอน อย่าได้ปักใจว่ามันแน่นอน มีเกิดมีตายมีพลัดพราก ไม่ใช่ว่า ภัยพิบัติจะมานะ รีบหลบภัยกัน เร่งสร้างปิรามิดกัน หรือสร้างหลุมหลบภัยกัน ไม่ใช่แบบนั้น แบบนั้นล่ะเรียกว่าประมาทสุด ๆ เห็นผิดคิดไปว่าชีวิตนี้เที่ยง ต้องรอดต้องรอด ไม่ใช่แบบนั้น

    อปมาทะ อย่าประมาท อย่าประมาทในธรรม อย่าประมาท ในความจริงที่ว่า มีเกิดมีแก่มีเจ็บมีตาย เร่งปฏิบัติให้ถึงพร้อมด้วยวิปัสสนากรรมฐาน เพราะอาจไม่ได้เกิดเป็นสัตว์ทีมีสติที่จะปฏิบัติวิปัสสนา ได้มากเหมือนคนอีกนาน
     
  16. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    เข้าใจว่า ความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ที่นับถือท่านพระอาจารย์รัตน์ ควรจะเป็นว่า..
    "โกหก" แปลว่า "เจตนา"พูดไม่จริง

    หวังว่าคงจะเข้าใจความแตกต่างของการมีและไม่มีคำที่ขีดเส้นใต้ไว้นะครับ

    จึงขอแนะนำว่า ถ้าอยากให้คนที่ยังเชื่อถือในพระอาจารย์รัตน์ ตาสว่างในแบบตามความคิดของคุณ คุณจะต้องพิสูจน์ "เจตนา" ของท่านว่าท่าน ตั้งใจพูดไม่จริง ก่อนครับ ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจน แน่นอนว่าย่อมมีคนกลับใจมาเชื่อคุณมากมายเลยทีเดียว ถึงตอนนั้นคุณได้เป็น Hero แน่ๆครับ
     
  17. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    คนเรานี่มันก็แปลกดีนะ ชอบการเอาชนะ เหลือเกิน อยากชนะก็ชนะไป ชนะแล้วมีความสุขก็เชิญตามสบาย คนเราทำอะไรรู้ดีอยู่แก่ใจตัวเอง อยากหลอกตัวเองต่อไปก็เชิญ ชีวิตพวกคุณจะจะเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับผม ไม่ได้ขอให้ใครมาเชื่อ เหมือนที่พวกคุณพยายามทำให้คนอื่นเชื่อในความงมงายของพวกคุณ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อที่ผมสื่อออกไปก็ช่างแมร่ง!!! ไม่แคร์อยู่แล้ว ตัวใครตัวมัน
     
  18. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ลอง Reflect คำพูดของคุณกลับไปที่ตัวคุณดูนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  19. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ในวันหนึ่งมีการจับ "เจ้าคนขี้ขโมย"ภายในวัดได้ และพวกลูกศิษย์ทั้งหลายก็ได้รายงานให้ท่านบันเคอิทราบ พร้อมทั้งขอให้ขับไล่ผู้ที่กระทำความผิดออกไปเสียจากวัดด้วยแต่ท่านบันเคอิปฏิเสธ!.........................ต่อมาไม่นานศิษย์คนนั้นก็ถูกจับได้ในกรณีเดียวกันนั้นอีกและท่านบันเคอิก็ไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับเรื่องนี้อีกเช่นเคย..........................เหตุนี้ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ โกรธแค้นมากและพากันร่างคำร้องขึ้นมา ให้ขับไล่เจ้าคนขี้ขโมยคนนี้ออกไปเสียจากวัดให้ได้ มิฉะนั้นพวกเขาทั้งหมดจะออกไปเสียจากวัดเสียเองเมื่อท่านบันเคอิได้อ่านคำร้องดังกล่าว ก็เรียกประชุมสานุศิษย์ทั้งหมดและกล่าวขึ้นว่า"พวกเธอเป็นคนฉลาดรู้ว่าอะไรถูกอะไรไม่ถูกเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้นหากพวกเธอปรารถนาที่จะไปศึกษาจากสำนักอื่นแล้ว ฉันก็อนุญาตแต่สำหรับเจ้าน้องผู้น่าสงสารคนนี้มันยังไม่รู้เลยว่าอะไรถูกอะไรผิด ใครจะสอนมันล่ะหากว่าฉันไม่สอน?ฉันจะให้มันอยู่ที่นี่ต่อไป...แม้ว่าพวกเธอจะออกไปจากวัดนี้ทั้งหมดก็ตาม"เมื่อท่านบันเคอิกล่าวจบ ศิษย์หัวขโมยก็หลั่งน้ำตาอาบแก้มด้วยความรู้สึกสำนึก...และนับแต่นั้นมานิสัยขี้ขโมยก็อันตรธานหายไปอย่างสิ้นเชิง

    ที่มาจาก อยู่อย่างเซน ละเอียด ศิลาน้อย เรียบเรียง

    คัดลอกจาก http://www.carefor.org/content/view/1175/

    ติดตามทางเฟซบุ๊ค "กาขาว" กาขาว | Facebook
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  20. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ท่าทางว่า ผมคงจะเขียนอะไรที่ดูเกะกะระรานไว้ให้ท่านเจ้าของกระทู้รำคาญใจอยู่ไม่น้อย
    ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...