รักษาโรคด้วยตนเอง โดยใช้พลังแสง(โพสต์แรกนะคะ)

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ติงติง, 6 ธันวาคม 2012.

  1. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ข้อมูลจาก/www.prc.ac.th/healthy/p6.htm


    เมื่่อเช้าหลังจากตักบาตรแล้ว

    แวะซื้้อข้าวสาร เมื่อก่อนเงิน 100 บาทซื้อได้ 4 กิโลกรัม

    แต่วันนี้ ซื้อได้เพียง 2 กิโลกรัม เหลือเงินเพียง 22 บาท

    ว่าจะซื้อแกงถุง ก็ได้เพียงถุงเดียวเล็กๆ ทานได้เพียงคนเดียว

    ใส่ผงชูรสเยอะด้วย แถมตักแกงร้อนๆใส่ถุง ก็อันตรายอีก

    เดินมาเจอปลาแห้ง ทำไมมันแดงยังงั้น นึกขึ้นมาได้

    น้องเค้าเพิ่งจะซื้อดินประสิว หรือ โพแทซเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) มีสูตรเคมี KNO3 เป็นดินที่เป็นกรดเกิดจากมูลของค้างคาว โดยการที่นำเอามูลค้างคาวมาต้มเคี่ยว แล้วทิ้งไว้ให้เย็น จะมีเกล็ดสีขาวเกาะอยู่ เรียกว่า “ดินประสิวขาว

    ดินประสิวเป็นสารก่อมะเร็ง สามารถทำปฏิกิริยากับสารเอมีน (amine) ในปลาหรือในร่างกายของมนุษย์ โดยมีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเป็นตัวช่วยทำให้เกิดสารประกอบหลายชนิดที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เรียกว่า "ไนโตรซามีน" สารเหล่านี้บางชนิดไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่บางชนิดจะร้ายแรงมากทำให้เป็นมะเร็ง

    แถมยังถามถึงยาฆ่าหนอนอีกด้วย

    ผักกาดดองก็เหลืองอ๋อย สงสัยจะใส่สีย้อมผ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้

    อาหารที่เสี่ยง
    ปลาแห้ง กุ้งแห้งย้อมสี ลูกชิ้นใส่สี กะปิใส่สี แหนม
    เนื้อเค็มใส่สี ไก่สดย้อมสี ขนมเด็กใส่สี ลูกชุบ
    ข้าวเกรียบใส่สี น้ำหวานใส่สี ผลไม้ดอง หรือแช่อิ่ม
    เป็นต้น

    อันตรายต่อผู้บริโภค
    สีย้อมผ้าจะมีโลหะหนักในปริมาณสูง เช่น
    สารตะกั่ว สารหนู เป็นต้น โดยสารตะกั่ว
    จะมีพิษต่อระบบประสาท อาจทำให้เป็นอัมพาต
    หรือเสียชีวิตได้ ส่วนสารหนูจะสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ
    กระดูก และผิวหนัง ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
    เกิดโลหิตจาง นอกจากนี้สีบางชนิดยังมีผลต่อ
    การแตกตัวของเม็ดเลือดแดง


    การได้รับสีย้อมผ้าแม้ปริมาณน้อย
    แต่ถ้าเป็นระยะเวลานาน
    อาจมีผลทำให้เกิดเนื้องอกหรือมะเร็ง
    ที่อวัยวะในระบบทางเดินอาหารและกระเพาะปัสสาวะได้

    ลูกชิ้นไส้กรอก จะทานดีไหมเนี๊ยะ

    บอแรกซ์
    หรือ น้ำประสานทอง หรือ ผงกรอบ หรือ เพ่งแซ

    อาหารที่มักตรวจพบ
    เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ เช่น หมูสด หมูบด ปลาบด ทอดมัน ลูกชิ้น ไส้กรอก แป้งกรุบ ทับทิมกรอบ ผลไม้ดอง เป็นต้น

    อันตรายต่อผู้บริโภค
    บอแรกซ์ เป็นสารที่มีพิษต่อร่างกาย ความรุนแรงของการเกิดพิษขึ้นกับปริมาณที่ร่างกายได้รับและการสะสมในร่างกาย หากได้รับในปริมาณไม่มากแต่ได้รับบ่อยเป็นเวลานาน จะเกิดอาการเรื้อรัง เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ผิวหนังแห้งอักเสบ หนังตาบวม เยื่อตาอักเสบ ตับ และไตอักเสบ ระบบสืบพันธ์เสื่อมสมรรถภาพ เป็นต้น แต่ถ้าได้รับบอแรกซ์ในปริมาณสูงจะเกิดอาการเป็นพิษแบบเฉียบพลัน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อุจจาระร่วง เป็นต้น บางครั้งอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้

    ถั่วงอก ขิงสด ใส่สารฟอกสีหรือเปล่า

    โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์

    อาหารที่มักตรวจพบ
    ถั่วงอก ขิงหั่นฝอย ยอดมะพร้าว หน่อไม้ดอง น้ำตาลมะพร้าว ทุเรียนกวน กระท้อน

    อันตรายต่อผู้บริโภค
    ทำให้เกิดอาการหายใจขัด ความดันโลหิตต่ำ เวียนศีรษะ ปวดท้อง อาเจียน อุจจาระร่วง ผู้ที่แพ้อย่างรุนแรง หรือผู้ป่วยโรคหอบหืดจะมีอาการช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้

    ข้าวโพดต้มก็น่าทาน

    แต่พี่เค้าใส่ขัณฑสกร Saccharine

    แม้นแต่มันต้ม ถั่วลิสงต้ม ยังใส่เลย

    เข้าบ้านดีกว่า

    ลูกค้ามาซื้อกำมะถันเหลือง ถามเขาว่าเอาไปทำอะไร

    คำตอบที่ได้คือเอาไปรมใบจาก ที่ใช้มวนสูบยาเส้น

    กำมะถันอันตรายมาก เวลาจะขาย ต้องปิดปากปิดจมูก

    แม่ค้าเขาเอาปลาหมึกมาขาย ตัวสวยเชียว แต่มีคนบอกว่าเขาใส่

    ยาฉีดศพ(ฟอร์มาลีน) ระวังไว้ แต่ชาวบ้านมาขายคงไม่เป็นไรนะ

    แต่ปลาหมึกมีโคเรสตอรอลสูงอีก......อย่าทานเลย

    งั้นทำน้ำพริกกุ้งสด ผักลวก ทอดชะอมกับไข่

    แม่ค้าผักเขาใจดีแถม มะอึก มา 2 ลูก

    จะต้มน้ำลวกผักเสียหน่อย

    ว้าย” แก๊ส “ หมด แก๊สก็ขึ้นราคา

    แล้วจะทานอะไรดี........
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ตรวจก่อน รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า

    นอกเหนือไปจากความงามแล้วความสดใส กระปรี้กระเปร่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง คนที่จะมีบุคลิกเช่นนี้ย่อมเป็นคนที่มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายแข็งแรงดี

    สุขภาพของคุณนั้นดีแค่ไหน การตรวจร่างกายจะช่วยบอกคุณได้ เพื่อให้เราได้รู้ความเป็นไป หรือสัญญาณเตือนจากภายในของเรา เพื่อที่จะสามารถดูแล ปรับปรุง หรือจัดการได้ทันท่วงทีก่อนที่โรคต่างๆ จะก่อตัวขึ้นมานั่นเอง ผู้หญิงสมัยนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าแต่ก่อน เพราะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในเชิงป้องกัน ซึ่งการตรวจสุขภาพเบื้องต้นก็เป็นวิธีเชิงป้องกันที่ดี ที่สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพ และจะช่วยให้ตรวจพบโรคหรือความผิดปกติต่างๆ ก่อนที่จะมีอาการ ซึ่งระยะดังกล่าวการรักษาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

    การตรวจสุขภาพชนิดใดบ้างที่จำเป็นสำหรับผู้หญิง

    การตรวจเต้านม
    เต้านมเป็นส่วนสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนหวงแหน การตรวจเต้านมทำได้หลายวิธีแต่พื้นฐานคือการตรวจด้วยมือ แม้ว่าการตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนสามารถช่วยให้ผู้หญิงตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของเต้านมก่อน แต่การตรวจที่ดีที่สุดสำหรับมะเร็งเต้านมคือการตรวจเต้านมทางคลินิก และการทำแมมโมแกรม โดยผู้หญิงควรตรวจมะเร็งเต้านมทางคลินิกทุกๆ 3 ปี ก่อนที่อายุครบ 40 ปี หลังจากนั้นต้องไปตรวจแมมโมแกรม ทุกๆ ปีเมื่ออายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป

    การตรวจแมมโมแกรมเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันเพราะมีความละเอียดสูง สามารถตรวจพบมะเร็งก่อนที่จะรู้สึกว่าเป็นก้อนเนื้อได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี แม้ว่าแมมโมแกรมจะสามารถตรวจพบมะเร็งได้หลายชนิด แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจผิดพลาดตรวจไม่พบได้บ้าง และในอีกทางหนึ่งผลที่ได้จากการตรวจแมมโมแกรมเมื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยวิธีตัดชิ้นเนื้อ ก็อาจพบว่าผลที่ได้เป็นปกติไม่เป็นมะเร็งก็ได้


    การตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap Test)
    การตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap test) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้หญิงไม่ควรพลาด เพราะมะเร็งปากมดลูกเมื่อรู้ก่อน รักษาได้เร็ว มีโอกาสหายได้สูง การตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูก จะเป็นการตรวจภายใน โดยแพทย์จะนำเซลล์จากปากมดลูกไปตรวจหาความผิดปกติของมะเร็งที่ยังไม่แสดงอาการ โดย U.S. Preventive Services Task Force (USPSTF) ได้แนะนำให้ผู้หญิงทำการตรวจมะเร็งปากมดลูกในช่วงประมาณ 3 ปี หลังจากเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หลังจากนั้นควรกลับไปตรวจซ้ำอีกทุกๆ 3 ปี

    สำหรับผู้หญิงอายุมากกว่า 65 ปี ไม่จำเป็นต้องไปตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำเหมือนวัยสาว หากผลการตรวจที่ผ่านมาได้ผลปกติ และไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก ส่วนผู้หญิงที่ได้รับการตัดมดลูกและปากมดลูกออกด้วยสาเหตุที่ไม่เกี่ยวกับมะเร็ง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยเช่นกัน


    การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีคู่นอนมากกว่า 1 คน และหนึ่งในนั้นก็มีคู่นอนอีกหลายคน เชื้อที่ตรวจพบมากที่สุด คือ chlamydia ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจส่งผลทำให้เป็นหมันได้ ส่วนเชื้อตัวอื่นที่พบบ่อยเช่นกัน ได้แก่ หนองใน (gonorrhea) ซิฟิริส โรคเอดส์ (HIV) เริม (HPV) และไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)

    การที่ตรวจพบได้เร็วเท่าไรก็จะทำให้ได้รับการรักษาเร็วขึ้นเท่านั้น หรืออย่างน้อยก็ทำให้ทราบว่าควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปอย่างไร เพราะเชื้อบางชนิดนั้นเมื่อติดแล้วก็จะเกาะกินคุณไปตลอดกระทั่งอาจพรากชีวิตคุณด้วยก็เป็นไปได้ เช่น เชื้อ HIV ต้นเหตุของโรคเอดส์ที่รู้จักกันดี หรือไวรัสตับอักเสบบีที่อาจกลายเป็นมะเร็งตับในอนาคต สำหรับบางคนที่ไม่เคยตรวจมาก่อนแต่ได้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ดังกล่าว แล้วตั้งครรภ์ เชื้อบางชนิดก็อาจถ่ายทอดไปสู่ลูกในครรภ์ได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นอันตรายต่อเด็กทารกอย่างยิ่งยวด และเรื่องสำคัญที่ควรตรวจหาโรคทางเพศสัมพันธ์ก็เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม คือการไม่แพร่กระจายเชื้อนั้นๆ สู่ผู้อื่นต่อไป


    การตรวจเบาหวาน
    ปัจจุบันผู้หญิงมีสถิติเป็นโรคเบาหวานกันมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วน หรือบางคนที่มีไขมันบริเวณหน้าท้องมาก ก็มีงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนน้ำหนักตัวปกติ หรือคนที่มีไขมันบริเวณส่วนๆ อื่นมากกว่าหน้าท้อง โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นเบาหวานในช่วงวัยกลางคน แต่มีแนวโน้มพบมากขึ้นในวัยรุ่น บาหวานชนิดที่เป็นกันมากก็คือ เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากมีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เพียงพอหรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้ตามปกติ

    ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 คือ อายุ ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย และกรรมพันธุ์ พบว่ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบบ่อยในผู้ที่เป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ หรือในกลุ่มอาการที่รังไข่มีถุงน้ำหลายใบ ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง มีความทนทานต่อน้ำตาลบกพร่อง หรือเคยตรวจพบระดับกลูโคสในพลาสมาผิดปกติ

    American Diabetes Association (ADA) แนะนำว่าผู้หญิงควรตรวจโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทุกๆ 3 ปีนับตั้งแต่อายุ 45 ปี ถ้าไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว หรือมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เช่น มีดัชนีมวลกาย (BMI) ระหว่าง 25-29 หรือเป็นโรคอ้วน มีดัชนีมวลกาย 30 ขึ้นไป ควรไปตรวจเร็วขึ้นและถี่ขึ้น


    การตรวจหาโรคหัวใจ
    ทุกวันนี้ต้องยอมรับกันว่ารูปแบบการกินของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก อาหารไทยที่เคยเน้นผัก ปลา น้ำพริก มาเป็นอาหารสำเร็จรูป ฟาสต์ฟู๊ด การรับประทานอาหารไขมันสูงมากขึ้น และที่สำคัญขาดการออกกำลังกาย จึงทำให้เป็นโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อการเป็นโรคหัวใจ เป็นที่สังเกตว่าในผู้หญิงอาจจะไม่รู้สึกถึงอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน แต่ผู้หญิงมักมีโอกาสมากกว่าผู้ชายที่จะมีอาการอาหารไม่ย่อย หายใจลำบาก หรือเจ็บปวดกล้ามเนื้อ แทนที่จะมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างทั่วๆ ไป

    USPSTF แนะนำว่าผู้หญิงอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ควรตรวจความดันโลหิตเป็นประจำ ถ้ามีความดันโลหิตต่ำกว่า 130/80 ควรไปตรวจทุกๆ 2 ปี แต่ถ้าความดันโลหิตสูงมากกว่านั้นหรือมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เช่น มีระดับโคเลสเตอรอลสูงหรือเป็นเบาหวานอยู่แล้วควรไปตรวจให้ถี่มากขึ้น

    ผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจระดับความดันโลหิต และระดับโคเลสเตอรอลเป็นประจำ แต่สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น เป็น เบาหวาน หรือสูบบุหรี่ ควรเริ่มไปตรวจระดับโคเลสเตอรอลตั้งแต่อายุ 20 ปี โดย National Heart, Lung and Blood Institute แนะนำว่าผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็คระดับโคเลสเตอรอลทุกๆ 5 ปี


    การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก
    กระดูกของผู้หญิงมีความหนาแน่นน้อยกว่าผู้ชาย และยิ่งเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเนื้อกระดูกอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อให้เกิดภาวะกระดูกพรุน (osteoporosis) โดยผู้หญิงประมาณครึ่งหนึ่งของกลุ่มที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จะมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะกระดูกพรุนตลอดช่วงชีวิต

    ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนควรควรตรวจหาภาวะกระดูกพรุนเป็นประจำ ส่วนคนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน เช่น น้ำหนักน้อย หรือไม่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน ควรปรึกษแพทย์เป็นการเฉพาะ การทราบผลของภาวะกระดูกพรุนจะช่วยให้แพทย์ได้ทราบว่าควรดูแลคุณต่อไปอย่างไร รวมถึงผู้หญิงที่มีภาวะกระดูกพรุนเองก็จะได้ระมัดระวังป้องกันอุบัติเหตุในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เนื่องจากคนที่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่อเกิดการกระแทกหรือหกล้มก็อาจจะทำให้กระดูกแตกหักง่ายกว่าคนปกติซึ่งเป็นอันตรายพอสมควรถ้าเกิดในตำแหน่งสำคัญ เช่น ข้อมือ หรือสะโพก เป็นต้น

    กระนั้นการป้องกันโรคกระดูกพรุนควรเริ่มตั้งแต่วัยรุ่น โดยการสะสมความหนาแน่นของกระดูกด้วยการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกำลังกายที่มีแรงกดกระแทกอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากเข้าสู่วัยทองแล้วการเสริมความหนาแน่นของกระดูกคงเป็นไปไม่ได้

    การตรวจไทรอยด์
    American Thyroid Association แนะนำให้มีการตรวจเลือดหาระดับฮอร์โมนไทรอยด์ TSH (thyroid stimulating hormone) เพื่อตรวจหาความผิดปกติของไทรอยด์ โดยผู้หญิงควรตรวจหาความผิดปกติของไทรอยด์ ตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป และควรตรวจซ้ำเป็นประจำทุกๆ 5 ปี ทั้งนี้ความผิดปกติของการทำงานของต่อมไทรอยด์ จะนำมาซึ่งความผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย และที่สำคัญในหญิงที่ต้องการมีบุตรก็ควรตรวจไทรอยด์ก่อนคิดตั้งครรภ์ แม้ว่าคุณจะอายุไม่ถึง 35 ปีก็ตาม เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณแม่และคุณลูกเอง


    การตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่
    USPSTF แนะนำว่าผู้หญิงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ถ้ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งที่เกิดจากติ่งเนื้อมากๆ ในลำไส้ หรือมีภาวะถ่ายทอดมะเร็งลำไส้ทั้งแบบไม่สัมพันธ์กับติ่งเนื้อ หรือตนเองมีประวัติเคยเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ก็ควรเริ่มตรวจลำไส้ใหญ่ให้เร็วขึ้น ซึ่งก็สามารถทำการตรวจได้หลายวิธี เช่น การตรวจหาเลือดที่แฝงมากับอุจจาระ การส่องกล้องผ่านทางทวารหนัก (sigmoidoscopy) ที่ใช้กล้องที่ยืดหยุ่นบางๆ เข้าไปตรวจลำไส้ส่วนปลายเพื่อหาก้อนเนื้อก่อนเป็นมะเร็ง การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทั้งหมด (colonoscopy) ที่ใช้กล้องที่ยาวกว่าตรวจสอบทั้งลำไส้เพื่อหาก้อนเนื้อก่อนเป็นมะเร็ง การตรวจเอกซเรย์ barium enema ที่แพทย์จะเอกซเรย์ลำไส้เพื่อหาก้อนเนื้อก่อนเป็นมะเร็ง โดยคุณอาจปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีในการตรวจที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

    และทั้งหมดนี้ก็เป็นการตรวจพื้นฐานเพียง 8 อย่างที่สำคัญเท่านั้นที่จำเป็นสำหรับคุณผู้หญิง ในแต่ละช่วงวัย หรือในภาวะที่ต่างกันออกไป คุณอาจจะรอตรวจพร้อมกับตรวจสุขภาพประจำปี หรืออาจจะไปรับการตรวจเป็นการเฉพาะก็ได้ ปัจจุบันในโรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ก็มีแพคเก็จตรวจสุขภาพหลากหลายแบบให้เลือกในราคาที่ต่างกันออกไป และส่วนใหญ่ก็จะมีการตรวจพื้นฐาน 8 อย่างนี้รวมอยู่ด้วย หากขาดอย่างใดไปคุณก็สามารถขอตรวจเพิ่มได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีก็เพียงเพื่อเมื่อเรารู้ตัวก่อน เราก็จะได้ทันระวังรักษาได้ก่อน และโรคต่างๆ ก็จะได้ห่างๆ ไกลคุณผู้หญิงออกไปไงคะ

    ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ผิวลายจางด้วยครีม

    การรักษาผิวแตกลาย คืนความสวยแห่งผิวลองแก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยมือของคุณเอง...


    แม้การทาครีมบำรุงผิวจะไม่สามารถลบริ้วรอยจากผิวลายที่มีให้เห็นเหมือนร่องคลื่นได้อย่าตรงจุดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่คุณผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า การทาครีมบำรุงผิว ทั้งชนิดที่มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือเป็นพวกโลชั่นทาผิวสำหรับเด็ก ไปจนถึงน้ำมันมะกอกเป็นประจำจะช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้ดี ป้องกันการเกิดปัญหาผิวแตกลายได้ง่าย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ล่วงเข้าสู่เดือนที่ 4 ต้องหมั่นทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำทุกวันหลังอาบน้ำ

    สำหรับครีมบำรุงผิวที่ใช้ ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อที่มีราคาสูง หรือเน้นสรรพคุณรักษาผิวลาย เพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ซึมซาบสู่ชั้นผิวเร็ว และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นอันใช้ได้


    อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวลายนั้นจะลดลงหากผู้ที่เป็นมีน้ำหนักตัวลดลง หรือมารดาซึ่งคลอดบุตรไปแล้ว โดยการทาครีมบำรุงผิวตามคำแนะนำจะเป็นปัจจัยเสริมช่วยให้ริ้วรอยจางลง.

    ที่มา : takecareDD@gmail.com
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    วิธีฆ่าเชื้อโรค
    บ้านไหนที่อยากให้ข้าวของเครื่องใช้สะอาดหมดจด ปราศจากเชื้อโรค วันนี้มีวิธีฆ่าเชื้อโรคมาบอก...

    - ล้างข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำด้วยสบู่และน้ำธรรมดา แล้วล้างอีกครั้งด้วยน้ำร้อน เพียงเท่านี้ก็สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

    - ควรให้ข้าวของเครื่องใช้แห้งอยู่ตลอดเวลา เพราะแบคทีเรียและเชื้อราไม่สามารถมีชีวิตหรือเติบโตได้ในที่แห้ง

    - ใช้บอแรกซ์ครึ่งถ้วยละลายในน้ำร้อน 1 แกลลอน (5 ลิตร) ล้างข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องการฆ่าเชื้อโรค

    ลองนำวิธีที่แนะนำไปใช้กันดูได้

    ที่มา : เดลินิวส์
     
  5. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ขอบคุณที่เข้ามาโพสต์ข้อความครับ มีเพียงโรคเดียวครับที่รักษาไม่หายคือโรคที่บกพร่องทางรูปครับ   พลังแสงนั้นรักษาโรคหายมาทุกรายครับ  
    ส่วนถ้าจะให้อธิบายว่าแสงนั้นไปรักษาโรคได้อย่างไร พลังแสงนั้นเป็นอจิณไตย
    ครับ  จริงแล้วเราจะสอนแต่สมาธิและธรรมภาคปฏิบัติ  เมื่อตอนเริ่มสิบปีที่แล้ว
    มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง{ขอสงวนนาม}ท่านเป็นถึงพระอาจารย์รักษาโรคมานาน ซึ่งท่านป่วย อยู่ดีฯท่านก็ปากเบี้ยวขาเป๋  ตาปิดข้างหนึ่ง และคอเอียงไปข้างหนึ่งโดยที่ไม่ทราบถึงสาเหตุ  พอเราเข้าไปถึงที่วัด พระท่านก็บอกว่าโยม  ช่วยรักษาให้อาตมาหน่อย ซึ่งเราเองก็ไม่เคยรักษาใครมาเหมือนกัน  เมื่อท่านให้เรารักษา เราก็ทำหน้าที่ของเราเพื่อที่จะช่วยเหลือท่าน ตามที่ท่านต้องการ เพียงแต่ใช้มือทั้งสองข้าง แตะไปที่หลังของท่านเป็นเวลาได้สักสามนาที ท่านก็เริ่มร้อนขึ้นมาทันที
    จากนั้นอาการที่ท่านเป็นก็หายเป็นปกติ  โดยที่เราเองยังไม่เคยใช้พลังรักษาใครเลย  จนพระที่จบ ดร.จบมาจากอินเดียเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานซึ่งนั่งอยู่ข้างฯ พอดี ท่านได้พูดกับพระที่เรารักษาขึ้นว่า  พระท่านนี่ก็เเปลกเป็นถึงครูบาอาจารย์ มาให้โยมคมสันต์รักษา พระที่เราได้รักษาท่านนั่งสงบนิ่ง ไม่พูดตอบ
    คำพระดร.ที่จบมาจากอินเดีย จากนั้นมาเมื่อไปทำบุญที่ว้ด หรือไปสนทนาธรรมที่ไดก็จะพบแต่คนที่ป่วย ก็จะสงเคราะห์รักษาให้ตามโอกาส โดยที่เราไม่มีความรู้ทางแพทย์ปัจจุบันเลยแม้นแต่น้อย  แต่คนที่มาให้รักษานั้นไม่ต้องบอกเราว่าเป็นตรงใหน  พลังแสงนั้นจะวิ่งเข้าไปรวมตัวกันตรงที่เป็นโรคอยู่ทันที 
    ที่รักษามามีตั้งแต่ นายแพทย์หมอปัจจุบัน  พระสงฆ์ที่ป่วยหลายท่าน
    ส่วนมากจะพบที่วัดหรือไม่ก็งานทำบุญบ้าน  รักษาให้ฟรีเป็นทานโดยที่ไม่เสีย
    อะไรเลย  ส่วนโรคที่เคยรักษาหายมาแล้ว มี โรคมะเร็งขั้นสุดท้าย
    แพทย์ปัจจุบ้นได้ลงความเห็นว่าจะอยู่อีกไม่นาน เมื่อสองปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ยังมีชีวิตอยู่และไปตรวจดูหลังจากได้รักษาโคยใช้พลังแสงเพียงสามครั้ง ห่างกันสองอาทิตย์ปรากฏว่าไม่มีเชื้อโรคมะเร็งเหลืออยู่เลย โรคภูมิแพ้  และ
    มีอีกหลายฯโรค รวมทั้งโรคที่แพทย์ปัจจุบันหมดปัญญาที่จะรักษา คือหมอ
    ตรวจหาสาเหตุไม่พบครับ  เรามิได้โฆษณาชวนเชื่อ ใครมีบุญที่จะหายก็มารับพลังไป  ถ้าไม่รักษาก็ไม่เป็นไรครับ จึงบอกว่าเป็นแพทย์ทางเลือกครับ
       พลังแสงแห่งอภิญญาฌานบารมีนั้นไม่ใช่จะมีกันได้ง่ายฯครับ
    คงพอจะให้ความกระจ่างได้บ้างมีอะไรที่ยังสงสัยอีกโพสต์ถามมาได้ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ขอบคุณคุณเทวดา ที่กรุณามาแสดงความคิดเห็นนะคะ
    พอดีว่าท่านอาจารย์คมสันต์ ที่เป็นเจ้าของพลังแห่งแสงนี้ ท่านได้กรุณาเข้ามาตอบแล้ว ซึ่งดิฉันอ่านแล้วก็เข้าใจที่ท่านตอบเป็นอย่างดี
    แม้ว่าการรักษาจะได้ผลหรือไม่ก็ตาม
    แต่ดิฉันก็ได้เรียนให้ทราบเป็นเบื้องต้นแล้วว่า เป็นทางเลือกหนึ่งเท่านั้น
    และการรักษาด้วยพลังแสงนี้
    ๑. ไม่ได้บังคับว่าต้องทำ
    ๒. ไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษา
    ๓. ไม่มีโทษภัยใดๆต่อผู้ป่วย

     
  7. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    กาลามสูตร ๑๐
    สิ่งที่ไม่ควรเชื่อ 10 ประการ
    พระพุทธเจ้าแทนที่จะตรัสเหมือนกับสมณพราหมณ์เหล่าอื่นที่เคยพูดมาแล้ว พระองค์ไม่ได้ทรงสรรเสริญคำสอนของพระองค์ และก็ไม่ทรงติเตียนคำสอนศาสนาของผู้อื่นแต่พระองค์กลับตรัสอีกแบบหนึ่ง การพูดแบบนี้เป็นลักษณะของวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน คือพระองค์ได้กล่าวถึงสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ 10 ประการโดยตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงฟัง

    มา อนุสฺสวเนน อย่าเพิ่งเชื่อโดยฟังตามกันมา
    มา ปรมฺปราย อย่าเพิ่งเชื่อโดยถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบๆ กันมา
    มา อิติกิราย อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
    มา ปิฏกสมฺปทาเนน อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา
    มา ตกฺกเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดเดาเอาเอง
    มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
    มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเพิ่งเชื่อโดยตรึกเอาตามอาการที่ปรากฏ
    มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นว่าต้องกับความเห็นของตน
    มา ภพฺพรูปตา อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อได้
    มา สมโณ โน ครูติ อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา

    สรุปแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเหตุ 10 ประการนี้
    ให้ท่านเข้ามาพิสูตรและสัมผัส ด้วยตัวท่านเองครับ  ในพลังแสงแห่งอภิญญาฌานบารมี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04720.JPG
      DSC04720.JPG
      ขนาดไฟล์:
      547.5 KB
      เปิดดู:
      61
  8. ลูล่า

    ลูล่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +60
    สวัสดีอ.คมสันต์กับคุณติงติงนะคะ ขอบคุณที่เอาสิ่งดีๆมาแนะนำ ยังไงจะลองทำตามดูคะ ไม่ทราบว่าอ.คมสันต์ได้มีโอกาสลงมาเมืองไทยบ้างปล่าว อยากจะไปรักษากับอ.ดูบ้าง
     
  9. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณลูล่า
    ขอบคุณที่มาอ่านและทักทายนะคะ
    คุณลูล่า ลองรับพลังจากคลิปแล้ว
    ได้ผล หรือรู้สึกอย่างไร
    ลองมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
    เรื่องการกลับเมืองไทยของท่านอาจารย์คมสันต์
    คุณลูล่ารอท่านมาตอบนะคะ
     
  10. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    สวัสดีครับ  คุณลูล่า ส่วนมากจะไปเมืองไทยช่วงราวฯปลายปีหน้าครับ
    ยินดีที่แวะมาและสนใจ ครับ ยังมีสิ่งที่ดีฯอีกมากมายครับ ลองรับพลังไปก่อน
    สงสัยอะไรโพสต์ถามมาได้ครับ ยินดีเสมอครับ
     
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC05650.JPG
      DSC05650.JPG
      ขนาดไฟล์:
      471.3 KB
      เปิดดู:
      44
  11. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    วันนี้ว่างๆ ก็เลยรับพลังไปแล้ว ๒ ครั้ง
    รู้สึกง่วงจนจะหลับแล้วค่ะ
    ขอบพระคุณท่านอาจารย์คมสันต์ที่กรุณามาตอบคุณลูล่านะคะ
     
  12. ลูล่า

    ลูล่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +60
    ลองครั้งแรกก็รู้สึกว่าฝ่ามือกับนิ้วมีอาการช็อตๆแล้วคะ ยังไงจะลองต่อไปเรื่อยๆนะคะ ถ้าได้ผลยังไงค่อยมารายงาน ขอบคุณคะ
     
  13. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เป็นเหมือนกันเลยค่ะคุณลูล่า ^^:cool:
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    vdoวงจรปิดบันทึกภาพพลังจิตของณาน ๔ เป็นวิทยาทาน

    ภาพจากกล้อง วีดีโอ วงจรปิดโดยบันทึกภาพจากคอมแลปท๊อบ
    โดยใช้โทรศัพท์มือถือ อธิฐานจิต ในเวลา ๔ โมงเย็นของวันที่
    ๓๐ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ กล้องวีดีโอ จับภาพได้ในเวลา
    เที่ยงคืนกว่า ขณะที่มืดสนิท ภาพที่เห็นเป็น พลังจิตของณาน ๔
    จะพบเห็นแสงสว่างสีขาวนวลเกิดขึ้นเอง และมีแถบแสงสีทองวิ่ง
    ลงมาเป็นสาย และวิ่งเป็นแถบสายอิสระเหมือนทางสี่แยก เพื่อ
    เป็นวิทยาทานครับ ผู้เขียนมิได้ มีความประสงค์จะคุยหรือโอ้อวด
    ในอภิญญา หรือ ณานแต่อย่างใด แต่พิจารณาแล้วจะเป็นประโยชน์
    และ เป็นไปเพื่อเจริญศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นกำลังใจแก่
    ผู้ปฏิบัติ ตามภูมิธรรมของท่าน บุญกุศลและอานิสงส์ในวิทยาทานนี้ ขอมอบถวายแด่ หลวงปู่ใหญ่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโมและ อาจารย์เทพ ถาวโร ผู้ซึ่งเป็นครูอาจารย์ของผู้เขียน และ ทุกท่านที่มีส่วนในเว็บพลังจิต จงมีผลใหญ่อานิสงส์ใหญ่ เทอญ
    ส่วนข้อผิดพลาดนั้นที่พึงจะมีในการเขียนนี้ ผู้เขียนขอน้อมรับแต่เพียง
    ผู้เดียวครับ

    (จากข้อเขียนของท่านอาจารย์คมสันต์ค่ะ)
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ NICKAZ

    ความรู้น้อย แต่ขอเข้ามาคุยเป็นการคั่นเวลารอความเห็นอื่นๆ ครับ
    จากภาพที่แสดงเป็นวีดีโอที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด
    ผมพยายามมองดูอยู่ ก็ยอมรับกับตัวเองว่ายังเห็นภาพไม่ชัด
    เหมือนกับความเห็นบางความเห็น แต่ไม่เป็นไร
    เพราะว่าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง จึงให้ความเห็นอะไรไม่ได้

    งั้นขอคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบบคนความรู้น้อยนะครับ
    (แถมยังเป็นพวกสไตล์โบราณ ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่)

    การดูการแผ่รัศมีของกำลังสมาบัตินี้ ผมเคยได้ยินมาจากครูบาอาจารย์เหมือนกัน
    โดยเฉพาะผู้ที่ทรงฌาน จะมีรัศมีที่่ว่านี้แผ่ออกมา
    ลักษณะแตกต่างกันไป แล้วแต่ระดับฌานของผู้ทรงฌานนั้นๆ

    ทีนี้การดูรัศมีของสมาบัติที่่ว่านี้ ก็มีวิธีอยู่สำหรับผู้ที่ฝึกวิชชาสาม
    ในทางทิพยจักขุญาณ นี่จะสามารถกำหนดจิตดูได้ทันที
    สำหรับผู้ที่ทรงจตุถตฌานนี่ กล่าวกันว่ารัศมีกายจะสว่างไสวเป็นพิเศษ
    ยิ่งกว่าผู้ทรงปฐม ทุติย หรือตติยฌาน

    การใช้ทิพยจักขุญาณดูรัศมีของสมาบัติที่่ว่านี้
    จะมีประโยชน์ในการที่ครูใช้สอบอารมณ์กรรมฐานของศิษย์
    จะเห็นว่าครูบาอาจารย์สมัยโบราณ การสอบอารมณ์กรรมฐาน
    ท่านทำกันละเอียดถี่ถ้วนเป็นอย่างยิ่ง
    นอกจากจะใช้เจโตปริญญาณดูสภาวะของจิตแล้ว ยังใช้ทิพยจักขุญาณ
    ดูรัศมีของกำลังสมาบัติกันด้วย อย่างนี้คนไหนได้สมาธิระดับใด
    ได้ถึงไหน ยังไม่ได้อะไร ถูกตีแผ่เปลือยล่อนจ้อนกันหมด
    ปิดครูบาอาจารย์ไม่ได้

    แม้ในสมัยปัจจุบัน ในพิธีการปลุกเสกพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆ
    เวลาที่บรรดาเกจิอาจารย์กำลังทำพิธ๊ หากผู้เข้าร่วมพิธีและฝึกทิพยจักขุญาณมาบ้าง
    จะกำหนดจิตขอดูรัศมีของสมาบัติของเกจิอาจารย์แต่ละท่านก็ย่อมจะทำได้
    แต่ส่วนมากถ้าเรามีภูมิธรรมต่ำกว่าท่านเกจิอาจารย์ มักจะไม่เห็นอะไร
    แต่หากอยากลองดู ควรจะขอบารมีของพระ ให้ท่านสงเคราะห์ให้ได้เห็น
    ก็อาจจะมีโอกาสเห็นรัศมีของสมาบัติที่่ว่านี้ได้เหมือนกัน

    อันนี้ว่ากันทางประสบการณ์ของปรากฏการณ์ทางจิต

    ในทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้ว
    ที่มีการศึกษาในสาขาวิชาปรจิตวิทยา (Parapsychology)
    เขาก็มีการศึกษากันในเรื่องนี้เหมือนกัน
    เคยได้ยินมาว่ามีการสร้างกล้องที่เรียกว่า กล้องเกอเลียน
    ใช้ถ่ายรัศมีของร่างกายในเรื่องพลังจิตกันโดยเฉพาะ
    ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องพวกนี้
    ก็ได้แก้ประเทศสหภาพโซเวียต (ประเทศรัศเซียเดิม)
    แล้วก็ประเทศในกลุ่มยุโรป ส่วนทางฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา
    ไม่แน่ใจว่าวิทยาการด้านนี้ เขาเป็นอย่างไรบ้าง

    ไม่ทราบว่าคุณคมสันต์usa นี่อยู่อาศัยหรือเคยอยู่อาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือเปล่า?
    (ผมเห็นชื่อคุณห้อยท้ายว่า usa ก็เลยเดาไปตามเรื่องว่าคุณคมสันต์usa
    นี่คงจะอยู่อาศัยหรือเคยอยู่อาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกา
    ถ้าไม่ใช่ต้องขออภัยด้วย)
    ถ้าอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ช่วยเล่าให้ฟังเรื่องวิชาการด้านปรจิตวิทยา
    ของที่นั้นให้ฟังบ้าง ก็จะดีไม่น้อย

    คุยกันไปทั้งการศึกษาทางจิตและทางวิทยาศาสตร์
    ก็ไม่มีสิ่งใด นอกจากจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันพอสมควรแก่เหตุ
    อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ได้นำวีดีโอมาเผยแพร่เป็นวิทยาทาน
    นี่ถือเป็นความรู้ใหม่กับผมจริงๆ
    ว่าการจับภาพปรากฏการณ์อย่างนี้
    ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ซับซ้อน เทคโนโลยีสูง
    แบบที่ฝรั่งมังค่าเขาทำกัน ในทางตรงข้าม ใช้อุปกรณ์พื้นๆ หาได้ทั่วไป ก็นำมาใช้บันทึกภาพได้เหมือนกัน
    ก็ต้องขอขอบคุณที่ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับผมได้อย่างมาก
    สำหรับกระทู้นี้ครับ
     
  16. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ขอขอบคุณ NICKAZ สำหรับคำชมครับ
    เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแลกเปลื่ยนความรู้ภาคปฏิบัติ
    เราเองปัจจุบันอยู่ที่ยูเอสเอ และปฏิบัติมารวมเวลากว่า ๒๐ ปี
    ฌาน ๔ นั้น เราได้บารมีที่สร้างมาแต่อดีตชาติ
    จึงไปได้เร็ว เราอยู่ที่ต่างประเทศ ได้เข้าใจมุมมองของศาสนาพุทธ
    ในความเข้าใจของคนต่างชาติ ปัจจุบันโลกสมัยนี้วิทยาศาสตร์และ
    เทคโนโลยี่กำลังเฟื่องฟู เขาจะไม่เชื่อในเรื่องอำนาจลึกลับ
    เมื่อพระพุทธศาสนากล่าวถึง แม้นแต่เป็นศาสนิกชนแท้ฯ ก็ยังไม่เชื่อ
    แล้วจะให้นักวิทยาศาสตร์และคนต่างชาติเขาเชื่อได้อย่างไร ?
    เขาจึงได้แต่ยิ้มเยาะอยู่แล้ว เพราะเขาตั้งหลักเกณฑ์ไว้ว่า
    เขาจะเชื่อก็เฉพาะต่อเมื่อสิ่งที่เขาได้พิสูจน์จนทราบความจริงแน่ชัดแล้วเท่านั้น
    ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้ความเชื่อของเขาไร้เหตุผลครับ
    นี่คือจุดอ่อนของศาสนาพุทธในความเข้าใจของคนต่างชาติ
    เปรียบเหมือนอาจารย์สอนแล้วบอกชาวต่างชาติว่าให้ไปปฏิบ้ติเอง
    เดี๋ยวก็จะรู้เองเขาเลยถามอาจารย์ว่าลองทำให้ดูก่อนครับ
    เท่านั้นเองเป็นอันว่าต้องม้วนเสื่อ จบเเบบไม่เป็นท่า
    เพราะสาเหตุนี้เราต้องหาเครื่องมือทางเทคโนโลยี่เข้ามาเสริม
    เพื่อเราจะช่วยเผยแพร่ศาสนาแบบ
    มีหลักฐานที่สัมผัสได้แบบ ๑๐ ปาก ว่าไม่เท่า ๑ ตาเห็นครับ
    เรียกว่าปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับหลักพุทธศาสนา
    หรือถ้าจะเรียกว่า พุทธศาสนายุคไฮเทค
    ก็พอดูจะเข้ากันดี ส่วนรายละเอียดเรื่องประสพการณ์ในการปฏิบัตินั้นเรา
    จะทยอยลงกระทู้ให้ครับ
    เรื่องการตื่นต้วสำหรับที่ต่างประเทศสนใจกันมาก
    และปฏิบัติ กันพอสมควรครับ

    เจริญธรรมมาด้วยเมตตาจิต


    (ข้อความของท่านอาจารย์คมสันต์ค่ะ)
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    โพสต์ครั้งที่สอง ที่ห้องอภิญญา -X P 035 และ 036
    พลังแสงแห่งอภิญญาฌาน เป็นวิทยาทาน
    แต่ก็ได้หายไปจากกระทู้ตอนที่เว็บพลังจิตมีปัญหาช่วงอัฟเกรด
    เลยไม่ได้ไปตั้งกระทู้ใหม่ มาโพสต์อีกครั้งก็บนกระทู้กลอน
    โดยครูติงเอื้อเฟื้อสถานที่ให้ ครับภาพที่เห็น
    เราไปยืนอยู่ที่ร้านของของพี่ชายในวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา
    ในเวลาราวสองทุ่มตรง เรายืนตรงจุดที่กล้องจับภาพอยู่สักสองนาทีจึง
    ได้กลับบ้าน รัานนั้นจะปิดเวลาสองทุ่มครึ่งทุกวัน และจะปิดไฟมืด หมดทุกดวง
    แต่กล้องวงจรปิดจะจับภาพเฉพาะสิ่งที่เคลื่อนใหวเท่านั้น
    กล้องวงจรปิดนั้นสามารถจับพลังแสงแห่งอภิญญาฌาน ได้ในเวลาสี่ทุ่มครึ่งในวันเดียวกัน ตรงตำแหน่งที่เราได้ยืนอยู่ เห็นว่าจักเป็นประโยชน์
    จึงได้นำมาลงเพื่อเป็นวิทยาทาน
    เพื่อการศึกษา และเป็นกำลังใจ แก่ผู้ปฏิบัติ
    และผู้ที่สนใจ ทั้งสมาชิก และบุคลทั่วไป
    เราจะพยายามใช้ในสิ่งที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้
    ตามแต่ที่โอกาสจะเอื้ออำนวย ครับ เราจึงอนุญาติให้ครูติงไปโพสต์ใว้ที่
    แพทย์ทางเลือกรักษาโรคโดยพลังแสง เพื่อสร้างบุญร่วมกัน ครับ

    (ข้อความจากท่านอาจารย์คมสันต์ค่ะ)
     
  18. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ส่ง ท้าย ปี เก่า ต้อน รับ ปี ใหม่
    ท้าย ให้เกิด ความดี ในปีใหม่
    ปี ใหม่นี้ สุขสันต์ ทุกวันไป
    เก่า จำใว้ สิ่งที่ดี ปีผ่านมา


    ต้อน ความดี ความรัก พักกิเลส
    รับ ที่เหตุ บุญมี ที่สร้างใว้
    ปี ใหม่มา สุขหนา พาสมใจ
    ใหม่ สดใส สิ้นภัยทุกข์ สุขมาแทน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04037.JPG
      DSC04037.JPG
      ขนาดไฟล์:
      579.2 KB
      เปิดดู:
      56
    • 57 flower.JPG
      57 flower.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      62
    • 60 flower.JPG
      60 flower.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      63
  19. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]
     
  20. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    วันนี้ ได้แนะนำให้น้องสาวทางธรรมท่านหนึ่งลองรับพลังแสงนี้ค่ะ
    น้องมีอาการอย่างหนึ่งที่เหมือนกับติง คืออาการปวดท้อง
    ถ้าน้องสาวท่านนี้ สามารถหายจากอาการปวดท้องได้เหมือนติง
    คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากนะคะ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...