ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ข่าวเย็นนี้

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2555
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนในวันพรุ่งนี้
(23 ธ.ค. 55) ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันที่ 24 ธันวาคม 2555 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4–7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 22–25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปสูง 2–3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


16:00 นสพ เสียงใต้รายวัน รายงาน คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่มีกำลังแรงเริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งทะเลจ.สงขลา โดยคลื่นได้ซัดกระหน่ำถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.5004 ของกรมทางหลวงชนบท เส้นทางสายสงขลา – นาทับ พื้นที่ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง ระหว่างกิโลเมตรที่ที่ 6 – 7 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างอ.เมืองกับอ.จะนะ ทำให้ถนนพังเสียหายไป1 ช่องจราจรระยะทางเกือบ10 เมตร ถนนยังมีโอกาสยุบตัว ให้ประชาชนระมัดระวัง



16:30 หาดใหญ่เตรียมเฝ้าระวังฝนหนักน้ำท่วม ผ่านกล้อง IP โดยสามารถดูผ่านมือถือได้โดยใช้ link นี้ http://hatyaicityclimate.org/m

ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

10 อันดับ ภัยธรรมชาติรุนแรงแห่งปี 2012

อินเดียจัดอันดับให้ มหันตภัยเฮอริเคนแซนดี้ สหรัฐอเมริกา ครองที่ 1 ใน 10 อันดับ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แห่งปี 2012 ขณะที่พายุไซโคลนที่พัดถล่มอินเดีย เป็นอันดับที่ 2

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา เว็บไซต์ฮินดัสแตนไทม์ ประเทศอินเดีย ได้ประกาศผลจัดอันดับ 10 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2012 โดยภัย
พิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาก็คือ มหัตภัยเฮอริเคนแซนดี้ ที่พัดถล่มสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ชาวนิวยอร์กต้องดิ้นรนในการฟื้นฟูสาธารณูปโภคพื้นฐานและเก็บกวาดซากปรักหักพังทั้งหมด อีกทั้งบ้านเรือนและภาคธุรกิจว่า 8 ล้านแห่งในแคโรไลน่าก็ต้องเผชิญกับภาวะไฟดับและขาดแคลนอาหาร

ส่วนภัยพิบัติที่รุนแรงเป็นอันดับที่ 2 ก็คือ พายุไซโคลนนิลาม ที่เพิ่งพัดเข้าถล่มประเทศอินเดีย เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักและไฟฟ้าดับในเมืองเชนไน รัฐบาลท้องถิ่นต้องสั่งปิดสถานศึกษา และหยุดการบริการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ นอกจากนนี้ยังทำให้เรือบรรทุกน้ำมัน "ประทีป โคธาวารี" ต้องอับปางลงและคร่าชีวิตลูกเรือไป 5 ชีวิตอีกด้วย

ทั้งนี้ ภัยธรรมชาติทั้ง 10 อันดับ มีดังนี้

1. เฮอริเคนแซนดี้ พัดถล่มประเทศสหรัฐอเมริกา



2. พายุไซโคลนนิลาม พัดเข้าถล่มประเทศอินเดีย



3. พายุไต้ฝุ่นบูพา พัดถล่มหมู่เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์



4. แผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์ ในประเทศอินโดนีเซีย



5. แผ่นดินไหว ในประเทศพม่า



6. อุทกภัย ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย



7. แผ่นดินไหวในประเทศอิหร่าน



8. อุทกภัยในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย



9. อุทกภัยในปักกิ่ง ประเทศจีน



10. อุทกภัยในประเทศปากีสถาน



ที่มาจาก http://www.kapook.com/

 

ยังไม่ครบ 10 เลยค่ะ

 

ต้องค่อยๆทยอยอัพครับ กลัวเข้าเว็บไม่ได้ ต้องกลับมาทำอีกรอบครับ

 

ทำไมกลัวเข้าไม่ได้ล่ะทั่น

 

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรเฉพาะเว็บนี้ ตอนกลางคืนบางทีกำลังอัพข้อมูลอยู่ พอกดส่งข้อความแล้ว มันก็ไม่กลับมาหน้าเดิม Server ปิดซะงั้น

 

ข่าวเช้านี้ 23-12-2012 เวลา 07.00 น.


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4–7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง
สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23–25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 05.00 น.



(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


ไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 4–7 องศา

ช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4–7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง

ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4–7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23–25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ที่มาจาก http://www.posttoday.com/

ปี56คนไทยมีสิทธิชมดาวหางแห่งปีด้วยตาเปล่าถึง 2 ดวง


สมาคมดาราศาสตร์ไทย เผยปีหน้าไทยคนไทยมีสิทธิชมดาวหางแห่งปี โดยสว่างสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าถึง 2 ดวง



วันนี้( 22 ธ.ค.) นายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ในปี 2556 นี้ จะมีปรากฎการณ์ ดาวหางที่น่าสนใจ ถึง 2 ดวง โดยนักดาราศาสตร์คาดว่าอาจจะสว่างจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งดวงแรกคือดาวหางแพนสตาร์ส ที่ค้นพบเมื่อปี 2554 โดยจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 10 มี.ค. 2556 ดาวหางดวงนี้จะเริ่มสว่างจนเห็นด้วยตาเปล่าตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. สังเกตได้ดีในซีกโลกใต้ส่วนประเทศไทย ช่วงที่สามารถเห็นดาวหางดวงนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุดคือช่วงเวลาหัวค่ำของวันที่ 9-17 มี.ค. 2556 โดยสังเกตได้ตั้งแต่หลังดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว 30 นาที


สำหรับดาวหางอีกดวงคือ ดาวหางไอซอน ซึ่งค้นพบเมื่อดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยดาวหางดวงนี้ เป็นที่สนใจของนักดาราศาสตร์ทั่วโลก เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มดาวหางที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ขณะที่ดาวหางสว่างที่สุดในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28-29 พ.ย. 2556 หากไม่เกิดการแตกสลายไปเสียก่อน คาดว่าจะมีความสว่างเกือบเท่าดวงจันทร์วันเพ็ญ และถือว่าเป็นดาวหางที่สุกสว่างที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา


นายอารี กล่าวอีกว่า ปรากฎการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ในปีหน้านอกจากดาวหางทั้งสองดวงแล้ว ยังมีปรากฎการณ์พายุสุริยะที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. แต่อย่างไรก็ดียืนยันว่า เป็นปรากฎการาณ์ที่เกิดขึ้นตามปกติ และไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวใด ๆทั้งสิ้น



ภูพิงคราชนิเวศน์ประสบความสำเร็จเพาะพันธุ์กุหลาบสายพันธุ์ใหม่






วันนี้ ( 22 ธ.ค.) นายอำนาจ เดชะ ผู้ดูแลพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่หลังสามารถผสมพันธุ์ดอกกุหลาบได้ 7 สายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกของประเทศไทย

นายอำนาจ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2547 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎรในภาคเหนือของไทย ในช่วงเดือนมกราคม ถึงมีนาคม ดังเช่นทุกปี ซึ่งกุหลาบในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ช่วงนั้น เป็นช่วงที่กุหลาบสมบูรณ์ให้ดอกที่มีความสวยสดงดงามที่สุด สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ระหว่างทรงพระราชดำเนินชมสวนกุหลาบในพระตำหนักว่า "ให้ทดลองทำการผสมพันธุ์ดอกกุหลาบในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เผื่อจะได้พันธุ์กุหลาบใหม่ๆ ที่สวยๆ เพิ่มขึ้นในประเทศไทย"

ทางตนจึงได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชเสาวนีย์ มาดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมโดยได้คณะทำงาน ทดลองผสมพันธุ์กุหลาบขึ้นและมอบหมายให้นายนิวัฒน์ ตรุปุณโณ หัวหน้างานกุหลาบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการศึกษา ทดลอง ปรับปรุงพันธุ์กุหลาบโดยการผสมเกสรจากดอกกุหลาบประดับสวนประเภทดอกใหญ่ (Hybrid Tea) ที่ปลูกในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งได้เริ่มทำการศึกษา ทดลองในปี 2550 โดยมุ่งเน้นคุณลักษณะของกุหลาบดอกใหญ่ มีจำนวนกลีบมาก มีหนามน้อยและมีกลิ่นหอม โดยดำเนินการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ในพันธุ์กุหลาบที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดเป็นพิเศษ จนได้กุหลาบลูกผสมพันธุ์ใหม่เป็นผลสำเร็จในปี 2555 ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา รวมใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

กุหลาบลูกผสมใหม่ที่ได้ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะมีลักษณะที่ดีตามหลักการคัดเลือกกุหลาบ เช่น ดอกมีขนาดใหญ่ สีดอกสวย มีกลิ่นหอม ให้ดอกดก ต้นแข็งแรง มีการเจริญเติบโตที่ดี ซึ่งกุหลาบที่ผ่านการคัดเลือกตามลักษณะดังกล่าว คือกุหลาบภูพิงค์ 1 ที่ได้พ่อพันธุ์คือสายพันธุ์จัสโจอี้ (Just Joey) และแม่พันธุ์ อซูซี (Azure Sea) ซึ่งลูกกุหลาบที่ได้จะมีสีม่วงเข้มออกแดง ขนาดดอกใหญ่ เส้นผ่าศูนย์ดอก 5 - 5.5 นิ้ว กลีบซ้อน 50 - 55 กลีบ ทรงพุ่มสูง 1 - 1.5 เมตร มีกลิ่นหอมแรง มีสีเด่นสะดุดตา กลีบดอกออกกำมะหยี่ ขอบกลีบม้วนเล็กน้อย ดอกแย้มจนถึงบานเต็มที่สวยงามมากก้านดอกยาว 40 - 50 เซนติเมตร ส่วนภูพิงค์ 2 ได้พ่อพันธุ์จากสายพันธุ์พีช (Peace) แม่พันธุ์ แอนนี มอร์โร ลินเบิร์ธ (Anne Morrow Lindbergh) ลูกกุหลาบที่ได้ออกมามีสีส้มอมชมพู เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 4.5 - 5 นิ้ว กลีบซ้อน 25 - 27 กลีบ ทรงพุ่มสูง 1 - 1.5 เมตร เป็นกุหลาบที่มีฟอร์มดอกขนาดกลาง กลีบดอกซ้อนไม่แน่นมาก เมื่อดอกบานเต็มที่จะเห็นเกสรอย่างชัดเจน และภูพิงค์ 3 ใช้พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์เดียวกับภูพิงค์ 1 แต่ลูกกุหลาบที่ได้มีสีส้ม เส้นผ่าศูนย์ดอกขนาด 5 - 5.5 นิ้ว กลีบดอกซ้อน 40 - 50 กลีบ มีกลิ่นหอม ทรงพุ่มสูง 1.2 - 1.6 เมตร กลีบดอกหยักสวย ก้านดอกยาว 40 - 50 เซนติเมตร และภูพิงค์ 4 พ่อพันธุ์ฟาร์มิ่ง พีช (Plaming Peace) แม่พันธุ์ แอนนี่ มอร์โร ลินเบิร์ธ (Anne Morrow Lindbergh) ได้ลูกกุหลาบเป็นสีเหลืองเหลือบ เส้นผ่าศูนย์ดอกขนาด 5 - 5.5 นิ้ว กลีบดอกซ้อน 30 - 35 กลีบ มีกลิ่นหอมอ่อน ทรงพุ่มสูง 1 - 1.20 เมตร เป็นกลุ่มหลาบที่มีดอกขนาดใหญ่ สีดอกออกเหลืองและเหลือบเหลืองอ่อนถึงปลายกลีบ ขอบกลีบม้วน กลีบชั้นนอกติดกลีบเลี้ยงจะมีสีเหลืองอมเขียว ฟอร์มดอกแย้มถึงบานสวยมาก ดอกบานเต็มที่จะเห็นเกสร ก้านดอกยาว 30 - 40 เซนติเมตร

สำหรับภูพิงค์ 6 ได้พ่อพันธุ์จากพันธุ์ พีช (Peace) แม่พันธุ์ แอนนี มอร์โร ลินเบิร์ธ (Anne Morrow Lindbergh) ลูกดอกกุหลาบที่ได้มีสีเหลืองเหลือบ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 4.5 - 5 นิ้ว กลีบดอกซ้อน 30 - 35 กลีบ มีกลิ่นหอมแรง ทรงพุ่มสูง 1 - 1.50 เมตร ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกซ้อนกลีบชั้นนอกมีขนาดใหญ่ กลีบซ้อนไม่แน่นมาก ดอกสีเหลืองเหลือบออกขาวปลายกลีบ ดอกแย้งถึงบานสวย ก้านดอกยาว 40 - 45 เซนติเมตร และภูพิงค์ 8 ได้พ่อพันธุ์จากพันธุ์ ฟาร์มิ่ง พีช (Flaming Peace) แม่พันธุ์ ลา มาเซเลส (La Marseillaise) ลูกกุหลาบที่ได้มีสีแดงเหลือบ เส้นผ่าศูนย์ดอกขนาด 5 นิ้ว กลีบซ้อน 30 - 35 กลีบ มีกลิ่นหอมอ่อน ทรงพุ่มสูง 1 - 1.30 เมตร ดอกขนาดใหญ่ กลีบดอกเรียงซ้อนกันสวยมาก ฟอร์ดอกคล้ายดอกบัว กลีบดอกเหลืองสีแดงและเข้มขึ้นเมื่อดอกบานเต็มที่ ดอกใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเหลือบขาวที่ปลายกลีบสวยงามมาก สีดอกจะเปลี่ยนไปตามระยะการบานของดอก ขอบกลีบม้วนแหลม ก้านดอกยาว 30 - 40 เซนติเมตร และสุดท้ายคือภูพิงค์ 10 ได้พ่อพันธุ์จากพันธุ์ จัส โจอี้ (Just Joey) แม่พันธุ์ แอนนี มอร์โร ลินเบิร์ธ (Anne Morrow Lindbergh) ลูกกุหลาบที่ได้มีสีชมพูอมส้ม เส้นผ่าศูนย์ดอกขนาด 5 - 5.5 นิ้ว กลีบซ้อน 30 - 35 กลีบ มีกลิ่นหอมแรง ทรงพุ่มสูง 1 - 1.5 เมตร เป็นกุหลาบที่มีฟอร์มดอกขนาดใหญ่ กลีบดอกใหญ่ซ้อนไม่แน่นมาก ด้านหน้ากลีบออกสีชมพูกำมะหยี่หม่นกลางถึงปลายกลีบ ด้านหลังกลีบออกสีม่วงแดง ฟอร์มดอกแย้มถังบานสวยมาก ดอกบานเต็มที่จะเห็นเกสรชัดเจน ก้านดอกยาว 40 - 45 เซนติเมตร

นายอำนาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การคัดเลือกสายพันธุ์และการตั้งชื่อนั้น เป็นการตั้งชื่อในเบื้องต้นเพื่อแยกประเภทของกุหลาบที่ได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางภูพิงคราชนิเวศน์ ได้นำทูลเกล้าฯ ถวายในวโรกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และขอพระราชทานนามแก่กุหลาบลูกผสมที่ได้เพื่อจะได้ประกาศเป็นกุหลาบสายพันธุ์ใหม่ของประเทศไทยต่อไป


ที่มาจาก เดลินิวส์

 

อัพเดทช่วงเทื่ยงวัน

สองวันนี้มีกระแสลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดแรงในภาคใต้ฝั่งตะวันออก บางครั้งพัดเกิน 9 น็อต ริฝั่งทะเลมีลมแรงจัด น้ำทะเลอาจซัดบ้านเรือนและถนนคล้ายพายุ แต่ไม่มีพายุใดๆในอ่าวไทยทั้งสิ้น มีเพียงกระแสลมแรงจากความกดอากาศ อย่างไรก็ตาม ให้ประชาชนระมัดระวัง

อินโดนิเชีย – คนหลายพันอพยพหนีการปะทุของภูเขาไฟ Rokatenda ในเกาะปาเลา



กระแสลมตะวันออกเฉียงเหนือแรงถึง 12 น็อตพัดถล่มภูเก็ตแต่เช้า เตือนประชาชนออกห่างชายจากชายฝั่ง ระวังการขับรถเลียบทะเล



เกิดการปะทุของภูเขาไฟโคปาฮุย Copahue ที่ชายแดนชิลี/อาเจนตินา ทางการยกระดับเตือนภัยจากสีเขียวไปที่สีส้มแล้วในขณะนี้



09:30 พบการก่อตัวใหม่ของพายุโซนร้อน TS04A ในมหาสมุทรอินเดีย ทิศทางมุ่งตะวันตกจะไปขึ้นฝั่งที่ประเทศโซมาเรีย




ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

ที่ภูเก็ต อ.ถลาง ไม่มีแดดมาหลายวันแล้ว ไฟรั้วหน้าบ้านตอนกลางวันไม่ดับเลยค่ะ (พลังงานแสงอาทิตย์)

 

ลองเปลี่ยน browser เป็น Firefox หรือ chrome ซิท่าน
:boo:

 

4 เครี่องของผมมี browser ทุกตัวครับ เหมือนกัน ถ้ามีคนเข้าพันขึ้นไปละก็แป่วๆๆๆ

 

อุตุฯ ประกาศเตือน ฉ.8 อากาศหนาวเย็น


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับ
จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ในช่วงวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบน จะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4 - 7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูง จะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23 - 25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป ควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ที่มาจาก INN

ภูเขาไฟโคปาฮูปะทุ เตือนประชาชนอพยพ



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าภูเขาไฟโคปาฮูได้เกิดการปะทุขึ้น โดยเถ้าถ่านและก๊าซปกคลุมและก่อให้เกิดอันตรายต่อหลายเมืองในประเทศอาร์เจนติน่าและชิลี
รายงานกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศได้ประกาศเตือนประชาชน โดยมีประชาชนจำนวนมากได้อพยพจากพื้นที่เพื่อความไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางการได้ยกระดับการเตือนภัยจากสีเขียวไปเป็นสีส้ม ซึ่งเป็นความรุนแรงระดับสองในทั้งสองประเทศแล้ว ขณะเดียวกันเถ้าจากภูเขาไฟได้ปกคลุมหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ เช่น โคปาฮู คาเวียฮู และซาปาลาในอาร์เจนติน่า สำหรับประชาชนที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ได้รับการเตือนให้คอยสังเกตสถานการณ์และเตรียมอพยพตลอดเวลา
ข้อมูลกล่าวว่าภูเขาไฟโคปาฮูมีความสูง 3,000 เมตร อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอาร์เจนติน่า ในเขตนิวเคว็น ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างเมืองบิโอบิโอของชิลี
รายงานเพิ่มเติมกล่าวว่าเมื่อปีที่แล้วเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องยกเลิกเนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟปูเยฮูในชิลี —ISN 02


ยูเครนหนาวจัดติดลบ 23 องศาเสียชีวิตแล้ว 83 ศพ



สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอากาศที่หนาวจัดในประเทศยูเครนอย่างน้อย 83 คนแล้ว โดยอุณหภูมิลดลงต่ำถึง -23 องศาเซลเซียสและมีหิมะตกหนัก ทำให้ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนและทั่วประเทศถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่หนาและหนาวจัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางภาคตะวันตกของประเทศมีรถติดยาวเป็นระยะทาง 20 กม.เป็นเวลา 3 วันแล้วนอกจากนี้สภาพอากาศที่เลวร้ายยังส่งผลกระทบถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่บัลกาเรียและโรมาเนียมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน ด้านนักอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาเตือนว่าสภาพอากาศที่หนาวจัดในภูมิภาคจะยังคงมีต่อไปและอุณหภูมิจะลดลงต่ำยิ่งกว่าเดิม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานายโวโลเดเมียร์ ยูร์เชนโค เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงสาธารณสุขของยูเครนกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจำนวน 83 คนที่ตายด้วยความหนาวเย็นส่วนใหญ่ถูกพบบนท้องถนน ขณะเดียวกันประชาชนกว่า 500 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และเกือบ 100 เมืองและหมู่บ้านทั่วประเทศยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งหน่วยฉุกเฉินยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และทางกองทัพก็ได้ส่งทหารมาช่วยล้างหิมะออกจากมอเตอร์เวย์สายหลักหลายสายด้วย
รายงานกล่าวว่ารัฐบาลได้จัดตั้งสถานสงเคราะห์ฉุกเฉินในพื้นที่จำเป็นสำหรับคนเร่ร่อนและผู้สูงอายุ โดยจะมีอาหารร้อนๆ และที่นอนอบอุ่นให้บริการ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ล่าช้าสำหรับสภาวะอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการดูแลและยังมีคนเร่ร่อนจำนวนมากที่ไม่รู้ข่าวเกี่ยวกับสถานสงเคราะห์ฉุกเฉินรายงานเพิ่มเติมกล่าวว่าเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วมีประชาชนกว่า 100 คน เสียชีวิตจากอากาศที่เลวร้ายในยูเครน —ISN 04


พัทลุงน้ำท่วมชาวบ้านกว่า 970 หลังคาเรือนเดือดร้อน




วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดพัทลุง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ไหลผ่านลำคลอง ได้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน นาข้าว สวนยางพารา และสวนปาล์มในพื้นที่ตำบลชะรัด จำนวน 2 หมู่บ้าน และอีก 5 หมู่บ้าน ของตำบลนาโหนด สูงกว่า 1 เมตร
นอกจากนี้ ยังเข้าท่วมถนนในหมู่บ้านรอยต่อ หมู่ 8 และหมู่ 3 ตำบลนาโหนด ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ถนนหลายสายถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาด ชาวบ้านกว่า 970 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก แต่เนื่องจากทางจังหวัดยังไม่ประกาศเขตภัยพิบัติ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้
ขณะที่บรรยากาศที่หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้เกิดคลื่นลมแรงซัดเข้ามาฝั่ง ทำให้ชาวประมงขนาดเล็กต้องหยุดออกหาปลาในช่วงนี้ เช่นเดียวกับประชาชนที่งดออกมาเที่ยวตามแนวชายหาด
โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และเตือนไม่มีประชาชนลงไปเล่นน้ำทะเลเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไปใน จ.ปัตตานี เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 แล้วทำให้น้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ลุ่มมีการขนย้ายสิ่งของขึ้นอยู่บนที่สูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน —ISN 04


ที่มาจาก ISN


16:00 มีลมกรรโชกแรงตลอดชายฝั่งตะวันออกของภาคใต้ เรือประมงและเรือท่องเที่ยวไม่ควรออกจากฝั่ง ลมเกิน 10-12 น็อตในหลายจุด

17:30 พายุโซนร้อน TS04A ในมหาสมุทรอินเดีย ทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางจาก 35 ไปที่ 40 น็อต ทิศทางยังตรงไปหาประเทศโซมาเลีย



17:50 อ.เมืองนราธิวาส ฝนตกหนักมาก


ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส
กับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง
สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 22.30 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2555
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 24-26 ธันวาคม 2555 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง

โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณยอดเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

 

ขุ่าวเข้านี้ 24-12-2012

ลมหัวด้วนพัดถล่มพัทลุงกลางดึกทำบ้านพัง



ลมหัวด้วน พัดถล่มบ้านพังเสียหายกลางดึก อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

เกิดลมพายุหมุน หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ลมหัวด้วน พัดถล่ม บ้านพังเสียหาย ก่อนที่ฝนจะตกลงมาซ้ำอย่างหนัก โดยเหตุเกิดในท้องที่ หมู่ 5 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งในที่เกิดเหตุพบบ้านของ นางหวน พ่วงคง เลขที่ 8 ม.5 ต.มะกอกเหนือ บ้านของ นายทรงกรด พ่วงเพชรคง เลขที่ 167 ม.5 ต.มะกอกเหนือ บ้านของ นายสมยศ พ่วงคง เลขที่ 121 ต.มะกอกเหนือ บ้านของ นายชมชิด นิ่มกอน เลขที่ 9 ม.5 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทั้งหมด 4 หลัง หลังคากระเบื้องปลิวว่อนแตกกระจายจนได้รับความเสียหายทั้งหลังและบางส่วน

โดยชาวบ้าน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้เกิดเสียงลมหัวด้วนพัดเร็วและแรงประมาณ 1 นาที ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน 4 หลัง กระเบื้องปลิวหาย ก่อนที่จะมีฝนตกซ้ำ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต

นอกจากนั้นแล้ว แปลงต้นมะละกอ ต้นขนุน บริเวณริมถนนหน้าบ้าน ก็ถูกกระแสลม พัดล้มระเนระนาด และต้นอ้อย พัดลอยไปติดกับสายไฟฟ้า จนทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน

ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าของบ้าน ที่ได้รับความเสียหาย ต้องไปอาศัยหลับนอนตามบ้านญาติ เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถใช้เป็นที่หลับนอนได้

ดินไหว5.8Rใต้ทะเลใกล้เมืองโซชิรัสเซีย



แผ่นดินไหว ขนาด 5.8 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลดำ ประชาชนแตกตื่น เผ่นหนีลงมาบนถนน
สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเหตุแผ่นดินไหวในระดับปานกลาง วัดได้ 5.8 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 20.31 น. คืนวันอาทิตย์ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลดำ และห่าง 46 กม.จากชายฝั่งของภูมิภาคอับคาเซียของประเทศจอร์เจีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ รวมทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว สามารถรับรู้ได้ในเมืองโซชิ เมืองท่าตากอากาศริมฝั่งทะเลดำของรัสเซีย ซึ่งกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาว ปี 2557 ทำให้ประชาชนแตกตื่น เผ่นหนีลงมาอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย

ที่มาจาก


จีน-ภาคตะวันตกยังป่วนหนักจากพายุหิมะ



จีนยังต้องเผชิญกับกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจากการพัดกระหน่ำของพายุหิมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อังกฤษฝนตกหนัก และน้ำท่วมหลายพื้นที่

โดยเฉพาะที่เมืองอูรมฉี เขตปกครองตนเอง ซินเจียง อุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เจอทั้งหิมะตกหนักและกระแสลมพัดรุนแรง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุให้เข้าไปช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถยนต์ ราว 40 คัน บนถนนบนทางด่วนสายอูรุมฉี-คุยตัน ที่เต็มไปด้วยหิมะหนาทึบ และกระแสลมที่พัดแรง 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ทัศวิสัยเหลือไม่ถึง 10 เมตร ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงติดลบ 30 องศาเซลเซียส

ที่อังกฤษ ปรากฏว่าต้องเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมอังกฤษ ออกมาเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอุกภัยครั้งรุนแรง ที่จะเกิดในหล่ายพื้นที่ตั้งแต่คอร์นวอลล์ไปจนถึง นอร์ธ ยอร์คเชียร์ และท่วมหนักอีก 4 พื้นที่ ในเมืองเดว่อนและคอร์นวอลล์ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้การจราจรปั่นป่วน ขณะที่บ้านเรือนประชาชน และย่านธุรกิจทางตะวันตกเฉียงใต้ถูกน้ำท่วมหนัก


สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้



สถานการณ์ฝนตกหนักในภาคใต้ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ ที่จังหวัดนราธิวาส เกิดน้ำท่วมระลอกแรกแล้ว ส่วนที่จังหวัดพัทลุงน้ำป่าขยายวงกว้างท่วม 4 อำเภอ ทหารเร่งช่วยอพยพชาวบ้าน สิ่งของ และสัตว์เลี้ยง


ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนราธิวาส ว่าหลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ติดต่อกัน 7 วัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำบนเทือกเขาสันกลาคีรีไหลทะลักลงไปสมทบกับแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลักที่มีปริมาณน้ำฝนเต็มตลิ่ง จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตลอดแนวริมตลิ่ง มีระยะทางยาวกว่า 50 ก.ม.ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ คือ สุคิริน แว้ง สุไหงโก-ลก และ ตากใบ โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆในที่ราบลุ่ม ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซ.ม. ประชาชนกว่า 50 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน เริ่มขยับขยายขนข้าวของสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำ ไปอาศัยอยู่ตามบ้านของเครือญาติ และนำยานพาหนะซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักยานยนต์หนีน้ำไปจอดไว้บนถนน

อย่างไรก็ตามสภาวะน้ำท่วมครั้งนี้มีแนวโน้มขยายวงกว้าง เนื่องจากฝนไม่มีท่าทีจะหยุดตกแถมปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักอีก 2 สายคือ แม่น้ำสายบุรีและบางนรามีระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เหลือเพียง 80-90 ซ.ม.จะล้นตลิ่ง

ส่วนที่จังหวัดพัทลุง ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าไหลทะลักท่วมขยายวงกว้าง 4 อำเภอ นอกจากนี้ยังทำให้ไฟฟ้าในเขตเทศบาลเมืองดับทั่วเมืองนานกว่า 1 ชั่วโมง ในขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดยังคงไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนยางพารา และนาข้าว สวนปาล์ม ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ในพื้นที่ตำบลชะรัด อำเภอกงหรา, ตำบลนาโหนด ตำบลปรางหมู่ ตำบลชัยบุรี ตำบลพญาขันธ์ และ ตำบลลำปำ อำเภอเมือง ,ตำบลมะกอกเหนือ ตำบลพะนางตุง อำเภอควนขนุน, ตำบลโคกม่วง ตำบลหานโพธิ์ อำเภอขาชัยสน ทำให้ชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าวต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราดตลอดเวลา

ในขณะที่ชาวบ้านหมู่ 11 ตำบลนาโหนด อำเภอเมือง จำนวน 3 ครอบครัว ต้องเร่งอพยพไปอาศัยบ้านญาติเป็นการด่วน เนื่องจากบ้านเรือนมีน้ำไหลผ่านและแเรงขึ้น ขณะที่กองพันทหารช่างที่ 402 พร้อมกำลังพล ออกช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 2,8,11 ตำบลนาโหนด หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 350 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ทั้งสวนยางพารา นาข้าว ไม้ผล และสวนปาล์มน้ำมัน จำนวนมากกว่า 3,000 ไร่

ที่จังหวัดสงขลา จากกรณีคลื่นลมในทะเลมีความรุนแรงทำให้คลื่นซัดถนนเลียบชายทะเล อำเภอเมืองสงขลา ระหว่าง กม.ที่ 6 – 7 ทำให้ถนนพังเสียหายไป 1 เลน รถยนต์ที่ใช้เส้นทางนี้จะต้องวิ่งด้วยความระมัดระวังเข้าไปชิดขอบถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการยุบตัวของถนน เนื่องจากคลื่นที่มีความรุนแรงซัดกระหน่ำดินทรายใต้ท้องถนนอยู่ตลอดเวลา

โดยในวันนี้ นายสมพร พุทธศรี นายช่างโยธาชำนาญงาน ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท ได้เดินทางมาทำการตรวจสอบความเสียหายของถนนที่ถูกคลื่นซัด และกำลังขยายเป็นวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลยังคงมีความรุนแรง ซัดกระหน่ำถนนบริเวณนี้อยู่ตลอดเวลา ทำให้ดินทรายใต้ท้องถนนถูกคลื่นซัดลงทะเล ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะนำหินขนาดใหญ่มาลงเพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะ และนำลูกรังมาอัดทับเพื่อให้รถสามารถใช้ถนนได้ทั้ง 2 เลน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 8 (40/ 2555) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้วทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมาจนถึงจังหวัดนราธิวาส มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักและคลื่นที่อาจกัดเซาะชายฝั่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้ ส่วนคลื่นลมอ่าวไทยมีกำลังแรง อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-4 เมตร ทำให้เรือประมงกลับเข้าฝั่งจอดเทียบท่าหยุดออกเรือทำการประมง

นายสมพร พุทธศรี นายช่างโยธาชำนาญงาน ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท อำเภอนาทวี กล่าวว่า การแก้ไขเร่งด่วนในขั้นตอนแรกก็คือ จะนำหินใหญ่มาลงและเอาลูกรังมาลงอัดทับ เพื่อให้รถสัญจรไปมาได้สะดวก ส่วนการแก้ไขที่ถาวรก็จะต้องทำการป้องกันการกัดเซาะโดยทำการตอกเสาเข็มคอนกรีตเหมือนตัวอย่างที่ได้ทำการก่อสร้างไปแล้วหลายช่วง สามารถป้องกันการกัดเซาะของคลื่นได้เป็นอย่างดี

ที่จังหวัดกระบี่ เรือหางยาวบริการนำเที่ยวกว่า 400 ลำ ที่หาดอ่าวนางและหาดนพรัตน์ธารา จังหวัดกระบี่ ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว และนำเรือไปจอดหลบคลื่นลงป้องกันเรือเสียหาย หลังเกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเรือหางยาว ที่จอดทอดสมอทิ้งไว้บริเวณหน้าหาด ถูกคลื่นซัดพังเสียหายมาแล้วหลายลำ


เชียงใหม่-นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้เมืองหนาว"งานอัศจรรย์ดอกไม้บาน"



นักท่องเที่ยวแห่ชมความงามของพรรณไม้ดอกเมืองหนาวในงานอัศจรรย์ดอกไม้บาน ขณะที่คริสต์มาส-ส่งท้ายปีเก่านี้เตรียมดอกทิวลิปมาลงแปลงอีกรอบรับเทศกาลแห่งความสุข

สำหรับช่วงวันหยุดที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวก่อนช่วงเทศกาลที่จะมาถึง เนื่องจากส่วนหนึ่งหลีกเลี่ยงที่จะมาพร้อมกับคลื่นมหาชนที่จะมาเที่ยวทางเหนือ จึงเลือกที่จะมาเที่ยวก่อน โดยที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ ททท.เชียงใหม่ จัดงานอัศจรรย์ดอกไม้บานประจำปี 2555 ขึ้น ซึ่งได้นำพรรณไม้ดอกไม้ประดับ ดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ มากกว่า 100,000 ต้นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงาม ซึ่งในช่วงนี้ที่เชียงใหม่มีอากาศ หนาวเย็นตลอดทั้งวัน ทำให้ดอกไม้หลากสีสันเบ่งบวนสวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยว และคณะทัวร์ต่างๆ ก็ต้องปรับตารางการท่องเที่ยวมาแวะชมคงามงามของดอกไม้ที่จัดแสดงไว้ในงานอัศจรรย์ดอกไม้บานกันคึกคัก

โดยช่วงนี้แม้ว่าจะไม่ได้ชมดอกทิวลิป ที่นำมาจัดแสดงให้ชมสลับกับดอกไม้ชนิดอื่น แต่ช่วงนี้ก็จะมีการจัดแสดงดอกไม้เมืองหนาวอย่างลิลลี่ กล้วยไม้ และดอกโทนสีสันสดใสอีกหลายชนิด นักท่องเที่ยวต่างก็ประทับใจกับความงามของดอกไม้ และมุมต่างๆ ที่มีการจัดแสดง ตกแต่งไว้ให้ถ่ายภาพ โดยเฉพาะกำแพงดอกไม้ที่หลายคนชื่นชอบเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามในช่วงคริสต์มาส ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็จะมีการนำดอกทิวลิป มาลงแปลงจัดแสดงให้ชมต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขกันอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้เพาะไว้ที่อำเภอแม่ริมอีกกว่า 2,000 ดอก เตรียมจะนำมาลงแปลงในช่วง 1-2 วันนี้ และจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นก็คาดว่าดอกทิวลิปชุดใหม่นี้จะอยู่ให้ชมได้นานเกือบ 1 สัปดาห์

ที่มาจาก

แผนที่อากาศจากกรมอุตุ ความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ลงมาถึงกรุงเทพแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงอน่างรวดเร็ว

 

อัพเดทข่าวช่วงบ่าย 24-12-2012

10:05 นราธิวาส - ฝนตกต่อเนื่อง คลองตันหยงมัส แม่น้ำบางนรา น้ำกำลังล้นตลิ่งในบางพื้นที่ ระดับน้ำที่ สะพานลันตู อ.สุไหงโก-ลก ล้านตลิ่งแล้ว 30 ซม.

11:00 พายุโซนร้อน TC04A ยังเคลื่อนตรงเข้าหาประเทศโซมาเลีย คาดว่าจะขึ้นฝั่งในวันพรุ่งนี้



11:30 กรมอุตุ ออกประกาศเตือนภัย- อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 12


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีลมแรง โดยจะมีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอากาศหนาวจัดได้บางพื้นที่

ประกาศ ณ วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com


สภาพอากาศเลวร้ายทั่วโลก หิมะตกหนัก, น้ำท่วม และภูเขาไฟปะทุ



หลายประเทศ เผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรง ทั้งหิมะตกหนัก, น้ำท่วม และภูเขาไฟปะทุ โดยเฉพาะอังกฤษ เผชิญปัญหาน้ำท่วมหนัก ส่งผลกระทบต่อการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่

พื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ รวมทั้งเวลส์และสก๊อตแลนด์ เกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือน ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้คนในช่วงวันหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่ทางการอังกฤษ ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่มากกว่า 200 เขต และมีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในอีกหลายพื้นในวันนี้ (24 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันคริสต์มาส อีฟ

ด้าน สำนักข่าวสกาย นิวส์รายงานว่า ทางรถไฟสายหลักที่เชื่อมระหว่างกรุงลอนดอนกับเมืองเพนซานซี ในแคว้นคอร์นวอลล์ ต้องหยุดการเดินรถหลังน้ำไหลบ่าเข้าท่วม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมรางรถไฟที่ได้รับความเสียหาย

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของยูเครน เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่หนาวจัดจากอุณหภูมิที่ลดต่ำติดลบ 23 องศาเซลเซียส ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวอย่างน้อย 83 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้านนอนเสียชีวิตอยู่บนถนน และยังมีเมืองและหมู่บ้านอีกกว่า 100 แห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด

ส่วนที่ประเทศจีน เกิดพายุหิมะพัดถล่มพื้นที่ชานเมืองทาตอนใต้ของเมืองอูรุมฉี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ ซินเจียง ส่งผลให้การสัญจรกลายเป็นอัมพาต โดยทางหลวงหมายเลข 216 และทางด่วนสายอูรุมฉี-กุ้ยตุน ปกคลุมไปด้วยหิมะสูง ส่งผลให้รถติดยาว เจ้าหน้าที่ทางหลวงต้องนำรถกำจัดหิมะกว่า 80 คันมากวาดหิมะออกจากถนนเพื่อช่วยเหลือรถยนต์หลายสิบคันที่ติดอยู่กลางหิมะ

ด้านภูเขาไฟโคปาฮิว (Copahue) ซึ่งตั้่งอยู่ทางภาคใต้ของชิลีใกล้พรมแดนติดกับอาร์เจนติน่า เกิดปะทุพ่นเถ้าถ่านและควันออกจากปากปล่อง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตือนภัยในระดับสีแดงหลังภูเขาไฟพ่นเถ้าถ่านออกมาจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้่ยังไม่มีประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่


ผลวิจัยชี้ทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้น-น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น



ผลงานวิจัยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน พบว่า อุณหภูมิของทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้นอย่างมาก ทำให้ธารน้ำแข็งทางตะวันตกของทวีปละลายเร็วขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%

วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า ผลงานวิจัยล่าสุดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ระบุอุณหภูมิของทวีปแอนตาร์กติการ้อนขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจ ทำให้ธารน้ำแข็งทางตะวันตกของทวีปละลายเร็วขึ้นกว่าปกติ และอาจเป็นสาเหตุของการเพิ่มสูงของระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%


นายเดวิด บรอมวิช หนึ่งในคณะผู้วิจัยจากศูนย์วิจัยขั้วโลก เบิร์ด แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ถึงผลการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารธรณีศาสตร์ว่า ทีมงานอาศัยการวิเคราะห์ และหาค่าเฉลี่ยอุณหภูมิบริเวณทวีปแอนตาร์กติการะหว่างปี 2501-2553 ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่า อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.4 องศาเซลเซียส มากกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกถึง 3 เท่า ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ธารน้ำแข็งบริเวณฝั่งตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกา ที่มีความหนา 4 กิโลเมตร ละลายเร็วขึ้นกว่าปกติ และส่งผลต่อเนื่องต่อการเพิ่มระดับน้ำทะเลบนโลกราว 10%


แม้ผลวิจัยที่ออกมาจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลเพียงเบื้องต้น แต่บรอมวิชเชื่อว่า หากไม่มีการตรวจสอบ และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจังเสียตั้งแต่บัดนี้ ธารน้ำแข็งจะละลายมากขึ้นอีกในอนาคต และทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอีกจนไหลเข้าท่วม และสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ชายฝั่งอย่างแน่นอน


รายงานของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ว่าด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก เผยแพร่เมื่อปี 2550 ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลบนโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 18-59 เซนติเมตร ภายในปี 2643 ขณะที่ผลการศึกษาของสภาวิจัยแห่งสหรัฐ เปิดเผยเมื่อเดือนมิ.ย. ระบุการคาดการณ์ระดับน้ำทะเล ว่าอาจสูงกว่าระดับที่ยูเอ็นประเมินไว้ 2-3 เท่า สาเหตุจากการที่ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้น


กัวเตมาลาโอดนักท่องเที่ยวทำโบราณสถาน “มายา” เสียหาย




ทางการกัวเตมาลาพบความเสียหายบริเวณวัดตีกัล ซากอารยธรรมของชาวมายันที่ใหญ่ที่สุด หลังนักท่องเที่ยวที่มาร่วมพิธีฉลอง "วันสิ้นโลก" ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ ปีนขึ้นไปบนยอดวัดจนหินบางส่วนร่วงลงมา


วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ประเทศกัวเตมาลาว่า เกิดความเสียหายบริเวณโบราณสถานวัดตีกัล ซึ่งเป็นซากเมืองโบราณของอารยธรรมมายาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นหนึ่งสถานที่ที่เป็นมรดกโลกแห่งสำคัญ เบื้องต้นทางการกัวเตมาลาเชื่อว่า เกิดจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาร่วมพิธีเฉลิมฉลอง “วันสิ้นโลก” เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.


นายออซวัลโด โกเมซ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโบราณสถานแห่งดังกล่าว เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยพยายามปีนขึ้นไปบนยอดวัดตีกัล 2 ที่มีความสูงประมาณ 38 เมตร ทำให้หินบางส่วนร่วงหล่นลงมา สร้างความเสียหายให้แก่โบราณสถาน แม้ทางการกัวเตมาลาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้สนใจ สามารถเข้ามาภายในพื้นที่โบราณสถานได้ใกล้เป็นพิเศษ แต่เป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ที่คนส่วนใหญ่กลับหลงลืมไปว่า สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การการศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเนสโก ) ให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2522


มีรายงานว่า ประชาชนกว่า 7,000 คน เดินทางมายังโบราณสถานแห่งนี้เมื่อวันศุกร์ เพื่อร่วมชมการประกอบพิธีทางศาสนาของชาวมายันในการบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ต้อนรับการเข้าสู่ศักราชใหม่ของปฏิทินมายา ที่สิ้นสุดลงหลังผ่านมา 5,200 ปี


ชิลีประกาศเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดขั้นสูงสุด



ทางการชิลีประกาศเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดขั้นสูงสุด หลังปริมาณเถ้าถ่าน และกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟโคปาฮิว เริ่มเพิ่มสูงขึ้นจนอาจกลายเป็นการระเบิดอย่างรุนแรง

วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลีว่า ทางการชิลีประกาศเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดในระดับสีแดง ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด เมื่อวันอาทิตย์ หลังพบปริมาณเถ้าถ่าน และกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟโคปาฮิว ที่มีความสูง 2,965 เมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ติดกับอาร์เจนตินา เริ่มเพิ่มสูงขึ้นจนอาจกลายเป็นการระเบิดอย่างรุนแรงภายในเร็ววันนี้


สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของชิลีออกแถลงการณ์เตือนภัยประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบภูเขาไฟ ได้แก่ เมืองโคปาฮิว ที่มีประชากรราว 500 คน เมืองคาเวียฮิว ที่มีประชากรราว 900 คน และชาวพื้นเมืองอีกกว่า 800 คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนมาพูเช อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุถึงการอพยพประชาชนเหล่านี้แต่อย่างใด


ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ย. 2554 ภูเขาไฟปูเยฮิวในชิลีเกิดการปะทุ เถ้าถ่านที่ฟุ้งกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้าส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทัศนะวิสัย และระบบการจราจรทางอากาศทั่วทั้งทวีปอเมริกาใต้จนถึงออสเตรเลีย




ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ข่าวช่วงเย็น

13:00 อุตุฯระบุการก่อตัวของพายุดีเปรสชัน TD27W ที่ฟิลิปปินส์ในแผนที่อากาศเวลานี้



ในขณะที่ทาง JTWC ยังให้เป็นหย่อมความกดต่ำอยู่



ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง




ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรเเปซิฟิคตอนเหนือด้านตะวันตก ทุก ๆ 1 ชั่วโมง



ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)



20:00 ศรีลังกา - ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมใหญ่อยู่ที่ 42 ราย บาดเจ็บ 21 ไร้ที่อยู่ 222,699 ราย บ้านเรือนเสียหาย 3,136 หลัง


ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

ข่าวค่ำคืนนี้


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2555
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยจะมีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่(28 ธ.ค.-2 ม.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอากาศหนาวจัดได้บางพื้นที่

ประกาศ ณ วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2555
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยจะมีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ของภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่(28 ธ.ค.-2 ม.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอากาศหนาวจัดได้บางพื้นที่

ประกาศ ณ วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 22.30 น.


ชิลี - ทางการประกาศยกระดับการเตือนภัยสู่ขั้นสูงสุด (red alert) หลังภูเขาไฟโคปาอวย (Copahue) ซึ่งทอดตัวขนานไปกับแนวชายแดนชิลีและอาร์เจนตินามีการปะทุรุนแรงขึ้นแต่ยังไม่สั่งอพยพประชาชน เนื่องจากไม่มีเมืองใดที่จัดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ภาพข่าวจากรอยเตอร์



ฝนตกหนัก น้ำเอ่อจากแม่น้ำหลายสายเข้าท่วมหลายพื้นที่ในประเทศอังกฤษ สก็อตแลนด์

พัทลุง - น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง, อำเภอเขาชัยสน , อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอควนขนุน ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30 เซนติเมตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 2,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 5,000 ไร่

อินเดีย - ภัยหนาวคุกคาม ชาวอุตตระประเทศ โดนคลื่นความเย็น ตาย 26 ราย

ศรีลังกา - ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมใหญ่อยู่ที่ 42 ราย บาดเจ็บ 21 ไร้ที่อยู่ 222,699 ราย บ้านเรือนเสียหาย 3,136 หลัง

เชียงใหม่ - ทางจังหวัดประกาศภัยพิบัติหนาว 15 อำเภอ จาก 25 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.อมก๋อย ประกาศทั้งพื้นที่ภัยพิบัติหนาวและแล้ง เนื่องจากแวดล้อมด้วยป่าเขา

นราธิวาส - น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอสุคิริน , อำเภอแว้ง , อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆในที่ราบลุ่ม ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-50 เซนติเมตร

ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

ไฟไหม้! โรงงานนิคมอิสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง วอด 100 ล้าน!




เกิดเหตุเพลิงไหม้ บ.บี บราวน์ เมดดิคอล ในนิคมฯอีสเทิร์น ซีบอร์ด จ.ระยอง อาคารพังทั้งหลัง คาดมูลค่าความเสียงหาย 100 ล้านบาท เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

วันนี้ (24 ธ.ค.55) เวลาประมาณ 14.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัท บี บราวน์ เมดดิคอล โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์น ซีบอร์ด เลขที่ 300/32 หมู่ 1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

ล่าสุดเวลา 16.00น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด โดยอาคารต้นเพลิงเสียหายทั้งหมด คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะเกิดเหตุ มีพนักงานทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ได้พากันวิ่งออกมาทัน จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

พ.ต.ท.สิทธิ แสงจันทร์ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง เปิดเผยว่าจากการสอบถามคนงาน เบื้องต้นทราบว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าช็อต และลุกลามวัสดุภายในโรงงาน ทั้งสารเคมี เม็ดพลาสติก และถังแก๊ส ประกอบกับช่วงนี้มีลมพัดแรง ทำให้เป็นอุปสรรคในการควบคุมเพลิง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ไปเร่งฉีดน้ำสกัด ป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังโรงงานใกล้เคียงที่อยู่ติดกัน

คืบหน้าล่าสุด 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า เพลิงยังไม่สงบ แต่ควบคุมไว้ในวงจำกัด ไม่ลุกลาม

23:30 JTWC ยกระดับความกดอากาศต่ำ 93W เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แต่ยังคงไม่ประกาศยืนยันว่าเป็นพายุ

 

ข่าวเช้าวันนี้ 25-12-2012 เวลา 07.00 น.

05:00 ทาง TSR และ JTWC ประกาศการก่อตัวของพายุดีเปรสชัน 27W แล้ว พร้อมแสดงเส้นทางพายุที่ค่อนข้างหวือหวาน่าตื่นเต้น คือข้ามฟิลิปปินส์มาลงทะเลจีนใต้แล้วมาสิ้นสุดใกล้เวียดนาม ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุล่าสุด 30 น็อต พายุนี้จะได้รับการตั้งชื่อตามลำดับชื่อพายุว่า หวู่คง หรือ หงอคง (พญาลิง)



ภาพถ่ายจากดาวเทียม MT-SAT2 ในโหมดอินฟราเรด แสดงกลุ่มเมฆในเวลาล่าสุดด้านฟิลิปปินส์



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"
ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2555
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยจะมีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 25-26 ธันวาคม 2555 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่(28 ธ.ค.-2 ม.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอากาศหนาวจัดได้บางพื้นที่

ประกาศ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น.

น้ำท่วมอังกฤษ และศรีลังกา



ที่อังกฤษต้องเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่วนที่ศรีลังกามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากน้ำท่วมแล้ว 42 คน ประชาชนหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันทำให้หลายพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ตะวันออกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ และเวลส์ จมอยู่ใต้น้ำ เมื่อวานนี้ ที่หมู่บ้าน สโตรก แคนอน ในมณฑลเดว่อน เจ้าของบ้านบางคนต้องอพยพออกจากบ้านเนื่องจากแม่น้ำไหลทะลัก ชาวบ้านบางคนบอกว่าพวกเขาเตรียมใจฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่บ้านพักชั่วคราวแล้ว ขณะที่ทางรถไฟของท้องถิ่นบางสายถูกยกเลิกหรือล่าช้า เนื่องจากน้ำได้ไหลทะลักท่วมทางรถไฟ ซึ่งน้ำท่วมเกิดในช่วงที่ประชาชนต้องใช้ทางรถไฟเพื่อเดินทางในระหว่างเทศกาลคริสต์มาส ขณะเดียวกันระดับน้ำที่เมืองอเบอร์ดีนของสก็อตแลนด์ลดลงแล้ว ประชาชนเริ่มเก็บกวาดบ้าน โดยพบว่าของที่จมอยู่ใต้น้ำมีคราบโคลนติดอยู่ เจ้าของร้านกวาดน้ำออกจากร้านไปยังถนน คนงานต้องช่วยกันสูบน้ำลงแม่น้ำ พยากรณ์อากาศเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมที่มณฑลเดว่อนและคอร์นวอลล์ได้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้

ขณะที่ศรีลังกา ฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งสัปดาห์ในหลายพื้นที่ทางตอนกลาง เหนือ และตะวันออก ส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนไม่มีที่อยู่อาศัย และ มากกว่า 17,000 คน ต้องไปอาศัยในศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมกว่า 100 แห่ง และอ่างเก็บน้ำมากกว่าครึ่งของประเทศราว 71 แห่ง มีระดับน้ำสูงจนต้องเปิดประตูระบายน้ำ ยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมแย่ขึ้นไปอีก โรงพยาบาลบางแห่งต้องสั่งอพยพผู้ป่วย ถนนบบางสายถูกสั่งปิดเนื่องจากดินถล่ม และพื้นที่ทางการเกษตรหลายแสนไร่ได้รับความเสียหาย ล่าสุด เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติรายงานเมื่อวานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน และมีผู้สูญหาย 9 คน


หนาวจัดที่รัสเซีย



หลายประเทศเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันอย่างคึกคัก แต่ที่กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย กลับต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะในช่วงตอนกลางคืน อุณหภูมิลดลงถึงติดลบ 26 องศาเซลเซียส

ในช่วงกลางคืนคนไร้บ้านในกรุงมอสโก ต้องอาศัยโบสถ์เป็นที่หลบภัยหนาว โดยจะมีกลุ่มอาสาสมัครคอยแจกอาหารให้ ซึ่งจะเป็นซุปกับขนมปัง

ชารอน วาเลรี หนึ่งในอาสาสมัคร กล่าวว่าสภาพอากาศหนาวเย็นแบบนี้จะมีคนไร้บ้านเข้ามาขอรับอาหารแจกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยอดผู้เสียชีวิตเนื่องจากอากาศหนาวจัดได้เพิ่มขึ้นกว่า 56 คน แล้ว นับตั้งแต่อุณหภูมิลดต่ำลงที่ลบ 18 องศาเซลเซียสในกรุงมอสโก และลบ 50 องศาเซลเซียสในไซบีเรีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสภาพอากาศหนาว 722 คน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 371 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะป่วยด้วยโรคไฮเปอร์เธอร์เมีย หรืออาการหนาวเย็นสุดขั้ว ซึ่งจะเกิดเมื่ออุณหภูมิในร่างกายลดต่ำกว่าอุณหภูมิปกติจนเป็นเหตุให้ระบบหลอดเลือด หัวใจ ประสาท และสมอง สูญเสียการทำงาน และโรคความเย็นจัดที่เกิดจากเลือดไม่ไปไหลเวียนปลายอวัยวะ ทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายเกิดเนื้อตาย

ไฟไหม้ชุมชนอรัญญิกแหล่งตีมีดโบราณ



เกิดเหตุเพลิงไหม้กลางชุมชนบ้านอรัญญิกเมืองกรุงเก่าเสียหายวอด 1 หลังกว่า 3 แสนบาท

เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 60/2 หมู่ 7 กลางชุมชนโบราณแหล่งตีมีดชื่อดัง บ้านอรัญญิก ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับโรงเรียนและวัดมเหยงค์ ทำให้ชาวบ้านร้านตลาดและเด็กนักเรียนแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก หลังเพลิงโหมไหม้อย่ารุนแรง

ร.ต.ต.สถาพร รักษาดี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท่าช้าง พร้อมด้วยรถดับเพลิงจำนวน 5 คันเข้าฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลากว่า 30 นาที สามารถดับเพลิงลงได้อย่างสิ้นเชิง พบว่าบ้านเสียหาย 1 หลังมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท และในที่เหตุไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ทั้งนี้บ้านต้นเพลิง เป็นของนางสนทอง อรุณเหลือง อายุ 70 ปี ขณะเกิดเหตุเดินทางไปบ้านญาติที่อยู่ห่างไม่ไกลมากนัก และไม่ทราบว่าเพลิงไหม้เพราะสาเหตุใด อย่างไรก็ตามตำรวจเชื่อว่า สาเหตุอาจมาจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะบ้านหลังดังกล่าวเคยถูกน้ำท่วมและมีสภาพเก่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป



พัทลุงอ่วม!ท่วมแล้ว4อำเภอ
พัทลุงอ่วม!ฝนตกหนักน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ 11 ตำบล ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 2,000 ครอบครัว ขณะที่แม่น้ำโก-ลก"ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วบางส่วน

24 ธ.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จากจังหวัดพัทลุงว่า ล่าสุดขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังไม่คลี่คลาย หลังเกิดฝนตกกระจายในหลายพื้นที่ต่อเนื่อง ทำให้น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมแล้ว ใน 4 อำเภอ 11 ตำบล ประกอบด้วย ตำบล เขาเจียก ตำบล ปรางหมู่ ตำบลชัยบุรี ตำบลตำนาน ตำบลพญาขันธ์ และตำบลลำปำ อ.เมือง ต.โคกม่วง และต.หารโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน ตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ และตำบลมะกอกเหนือ และตำบล พนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
ทั้งนี้ โดยระดับน้ำเฉลี่ยสูงประมาณ30 ซม.ถนนในหมู่บ้านหลายสายมีน้ำไหลผ่าน ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 2,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรนาข้าว สวนยางพาราถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 5,000 ไร่
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง กล่าวว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรและรถแบคโฮ ลงขุดเปิดทางระบายน้ำตามจุดที่ชาวบ้านร้องขอโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง อ.เขาชัยสน เป็นการเปิดทางให้น้ำมีการระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา ได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของ อำเภอป่าพะยอม เครื่องจักรกลและชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันขุดลอกและนำเอาวัชพืชขึ้นจากคลองห้วยท้อน ขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 3 กม. เพื่อเปิดทางระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง

น้ำท่วมนราฯถนนตัดขาดดินสไลด์จากภูเขาปิดเส้นทางการจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดในพื้นที่ อ.จะแนะ มีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะเส้นทางระหว่าง ต.ดุซงญอ ไปยังที่ว่าการอำเภอจะแนะ บางช่วงมีน้ำเอ่อล้นมาจากข้างทางเข้าท่วมถนน โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านสะโต ม.5 ต.จะแนะ บ้านเรือนของประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขัง และมีดินสไสด์จากภูเขาปิดเส้นทางการจราจรทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ อ.จะแนะ ต่างนำสิ่งของอพยพหนีน้ำขึ้นชั้น 2 ของบ้าน รวมถึงนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาจอดไว้บนถนนเพื่อป้องกันความเสียหาย
ด้าน พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับกรมทหารพรานที่ 46 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้าตรวจสอบพื้นที่และสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนพร้อมนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขัง ขณะเดียวกันได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถแบ็กโฮเคลียร์เส้นทางในพื้นที่ บ้านสะโต เนื่องจากมีดินสไสด์ปิดเส้นทางสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเคลียร์เส้นทางกว่า 1 ชั่วโมง จนประชาชนสามารถใช้เส้นทางการจราจรได้ตามปกติ

"แม่น้ำโก-ลก"ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วบางส่วน
นายอิสมาแอ ยูนุ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกเริ่มล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรบางส่วนแล้ว และคาดว่าภายในคืนนี้ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงขอให้ราษฎรที่อาศัยในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก อพยพเข้าไปอยู่ที่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย โรงเรียนเทศบาล 4 ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดเตรียมอาคารหลังใหม่ที่มีความพร้อมในเรื่องเครื่องอุปโภค บริโภคสำหรับรองรับผู้ประสบอุทกภัยได้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ ขอให้ประสานไปที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หมายเลขโทรศัพท์ 073-611007 ซึ่ง นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก ได้สั่งการให้เตรียมเรื่องยานพาหนะสำหรับการขนย้ายบุคคลและสิ่งของที่จำเป็นไว้ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านร้อยเอกนฤชิต งามขำ ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 พร้อม กำลังพลได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจระดับน้ำ และเข้าพบปะราษฎรในพื้นที่เสี่ยงที่จะประสบอุทกภัย เพื่อจัดแผนการนำเรือเข้าดำเนินการอพยพราษฎรไปอยู่ในที่ปลอดภัยหลังระดับน้ำ ในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัตตานีอ่วม คลื่นลมแรงน้ำทะเลซัดทำถนนน้ำท่วม



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงมรสุมของภาคใต้ ทำให้สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งคลื่นได้พัดกระหน่ำเข้าหาชายฝั่ง ล่าสุดเริ่มสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ชายฝั่งทะเลปัตตานีแล้ว โดยเฉพาะถนนทางหลวงที่ 2026 ระหว่าง ต.ตะโล๊ะกาโปร์-ต.แหลมโพธิ์ ซึ่งเป็นเส้นทางยาวประมาณ 10 กม. คลื่นทะเลได้ซัดกระหน่ำ น้ำทะเลได้ทะลักท่วมถนนหลายจุดในพื้นที่บริเวณ ม.4 บ้านดาโต๊ะ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง น้ำทะเลท่วมขังถนนเป็นช่วงๆ ยิ่งในช่วงกลางคืน น้ำทะเลได้ซัดเข้ามา ทำให้มีน้ำท่วมถนนสูงประมาณ 20 ซ.ม.การจราจรไปมาลำบาก และยังได้ซัดกระหน่ำเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมทะเล ทำให้ชาวบ้านจำนวน 2 ครอบครัว รวม 15 คน ต้องอพยพหนีไปอยู่กับญาติที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน คือ ครอบครัวของนางยาเราะ เปาะแม และนายอับดุลเลาะ ดะแม
ส่วนบริเวณบ้านตะโล๊ะสะมีแล ม.2 ต.แหลมโพธิ์ ซึ่งมีถนนติดชายฝั่ง เคยถูกน้ำทะเลพัดกระหน่ำจนถนนพังเสียหายถนนขาด ทางราชการได้ซ่อมแซมพึ่งแล้วเสร็จ โดยทำเขื่อนและถนนใหม่ ปรากฏว่า ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ถูกน้ำทะเลซัดมาตลอด ทำให้น้ำทะเลกัดเซาะอีก ส่งผลให้ไหล่ทางเริ่มเป็นหลุมอีกแล้ว เนื่องจากทรายทรุดลงไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังมีคลื่นลมแรงต่อเนื่อง คลื่นสูงอยู่ตลอดเวลา ชาวบ้านเริ่มเตรียมความพร้อมแล้ว เนื่องจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยถูกคลื่นพายุน้ำทะเลซัดเข้าท่วมหมู่บ้านและบ้านพังเสียหายมาจำนวนหลายสิบหลังมาแล้ว ทำให้ชาวบ้านเริ่มกลัว หากยังรุนแรงต่อไป คาดว่าก็จะอพยพไปอยู่ในตัวอำเภอ
ด้านนายมะรอฮิม สาแม ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 บ้านดาโต๊ะ ได้ใช้เครื่องขยายเสียงในหมู่บ้าน ประกาศเตือนให้ระมัดระวัง และฟังข่าวสารพยากรณ?อากาศเป็นระยะๆด้วย ขณะเดียวกัน ได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อเฝ่าดูสถานการณ์ของคลื่นลมและคลื่นทะเล และระดับน้ำที่อาจเข้ามาในหมู่บ้านอย่างฉับพลัน —ISN 06

 

บ้านเรามี วลีที่ว่า บ้านเล็กเท่ารังหนู ตามผมมาผมจะพาท่านไปดูชาวฮ่องกงที่มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานเขาอยู่กันในห้องเท่ารังหนูเองครับ

ชมภาพชุด...อีกมุมหนึ่งของวิถีชีวิตสุดแออัดในฮ่องกง









เมื่อกล่าวถึงเกาะฮ่องกง หลายคนอาจนึกถึงความมั่งคั่ง เนื่องจากเกาะฮ่องกงถือเป็นเมืองที่ร่ำรวยเมืองหนึ่งของโลก แต่ใครเล่าจะเชื่อว่าในอีกมุมหนึ่งชาวฮ่องกงบางส่วนกลับมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากแออัดเบียดเสียดอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เว็บไซต์ hongwrong.com ได้เปิดเผยภาพชุด "บ้าน" หรือ "กล่องรองเท้า" ซึ่งเผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของวิถีชีวิตสุดแออัดของชาวฮ่องกงที่ไม่ได้ร่ำรวยและหรูหราอย่างที่ทุกคนคิด

สำหรับภาพชุดดังกล่าว ถ่ายทอดโดย เบนนี แลม ช่างภาพฮ่องกง ซึ่งได้สำรวจความเป็นอยู่จากมุมเพดาน พร้อมระบุว่า พื้นที่อยู่อาศัยของเกาะฮ่องกงมีไม่ถึงร้อยละ 7 ของพื้นที่ทั้งหมด ขณะที่ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยต้องรอคอยเป็นเวลาหลายปีเพื่อจะได้อยู่บ้านเคหะของรัฐ และเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น รัฐจึงต้องแบ่งอพาร์ทเม้นท์ ซอยพื้นที่จนเล็กขนาดเท่าที่เก็บรองเท้าก็ว่าได้ จนเกิดการเรียกขานอีกนิยามของบ้านฮ่องกงว่า "กล่องรองเท้า"

ทั้งนี้ จากการสำรวจแฟลตจำนวน 4,045 แห่ง ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ใน 6 เขตพื้นที่ของฮ่องกง เมื่อเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 42 หรือ จำนวน 1,639 แห่ง ได้มีการปรับแบ่งพื้นที่ขนาด 1 ห้อง เป็น 10 ห้องเลยทีเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ห้อง แบ่งเป็น 4.3 ห้อง

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า ค่าเช่ารายเดือนในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 27 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อพื้นที่ 1 ตารางฟุต สูงกว่าอัตราเฉลี่ย ที่ 22.20 ดอลลาร์ฮ่องกง และความหนาแน่นต่อพื้นที่อยู่ที่ 6,936 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร โดยผู้อยู่อาศัยอย่างน้อยร้อยละ 10 ของประชากรเมืองฮ่องกง เป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นฐานยากจน










เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก hongwrong.com

 

ข่าวเที่ยงวันนี้

07.10 น. พื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกมากที่สุดอยู่ที่อำเภอเมืองนราธิวาส วัดได้ 229.8 ม.ม.และ ฝนตกน้อยที่สุดอยู่ในอำเภอแว้ง วัดได้ 180.0 ม.ม. ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำล้นตลิ่ง 90 ซ.ม.แม่น้ำบางนรา มีระดับน้ำล้นตลิ่ง 20 ซ.ม.ส่วนแม่น้ำสายบุรี มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3 เมตร


10:30 พายุโซนร้อน 04A ทางตะวันออกของโซมาเลีย อ่อนกำลังลง อาจสลายตัวก่อนขึ้นฝั่ง



11:00 ดีเปรสชัน 27W ได้ชื่อเรียกว่า “หวู่คง” แล้ว คาดว่าจะขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ใน 12 ชม ข้างหน้านี้



ภาพถ่ายจากดาวเทียม MT-SAT2 ในโหมดอินฟราเรด แสดงกลุ่มเมฆในเวลาล่าสุดด้านฟิลิปปินส์



13:45 เส้นทางพายุหวู่คง หรือ หงอคง เป็นผลคำนวนจากหลายสำนัก



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com