ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. light worker

    light worker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +446
    ผมเพิ่งดูคลิบนี้จบ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=NGMSua4CdfM&feature=g-vrec]วันสิ้นโลก-NOSTRADAMUS - YouTube[/ame]

    แล้วผมเข้ามาอ่านข้อความจากท่านซาลูซ่าด้านบนที่คุณ Mr empty แปลไว้พอดี ตอนนี้จิตใจของผมลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วครับ
     
  2. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155
    ท่านซาลูซ่ายืนยันมาแล้วจากโพสล่าสุดของคุณ emty ว่า "ทวิภาวะได้มาถึงจุดจบแล้ว" รวมถึง "จะยกระดับคุณขึ้นสู่มิติอื่น"


    พรุ่งนี้ถึงกำหนดแล้ว ดูสิจะเกิดอะไรขึ้น


    ขอขอบคุณผู้แปลทุกคนนะครับที่อุทิศตัวเองมาอย่างยาวนานหลายปีกับงานนี้ ขอให้ทีมงานแปลทุกคนรวมถึงเพื่อนๆที่ได้ติดตามเรื่องราวทุกคนโชคดีกับการเลื่อนระดับที่จะเกิดขึ้นนะครับ


    ขอให้ชาวโลกพบกับแสงสว่างนะครับ
     
  3. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155
    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เรากำลังจะได้ตื่นจากการฝันอันยาวนานของเรากว่าสองหมื่นหกพันปีแล้ว


    การทดลองจบแล้ว


    ใครที่เคยถามว่า "เมื่อไหร่จะจบซะที"
    หวังว่าไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าที่จะถึงนี้คงจะได้รับคำตอบกันแล้ว

    มหาเทพไมเคิลบอกว่า "แค่กระพริบตาเท่านั้น"


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ผมมีข้อความใหม่ของท่านมิคาเอล รวมถึงเทคนิกต่างๆ
    เพื่อช่วยในการเลื่อนระดับขึ้นของเราจากท่าน มาฝากด้วยนะครับ
    ในกระทู้ข้างล่างนี้ แม้ว่าในขณะนี้ ข้อมูลจะยังไม่สมบูรณ์ทั้ง 100% ก็ตาม

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยในการยกระดับขึ้นจากท่านมหาเทพมิคาเอล.403530/

    ...................................
     
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความสื่อสารจาก HILARION
    December 16-23, 2012,
    ที่มา HILARION 2012 - The Rainbow Scribe

    ผู้อันเป็นที่รักทั้งหลาย

    ในช่วงเวลานี้ พวกคุณหลายๆคนกำลังประสบกับความรู้สึกที่ว่า
    ปัญหาและความท้าทายต่างๆทั้งหมดของพวกคุณ
    ที่พวกคุณเคยพยายามที่จะแปรเปลี่ยนให้มันกลายเป็นความสร้างสรรค์
    เพื่อการขยายขีดความสามารถของพวกคุณเองในการที่จะรักตนเองและผู้อื่น
    ด้วยความเห็นอกเห็นใจและมีการยอมรับได้มากขึ้น นั้นได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว


    พวกคุณกำลังข้ามพ้นมุมมองอันจำกัดที่พวกคุณเคยมีมาก่อนหน้านี้
    และพวกคุณก็กำลังเปิดสนามพลังงานของพวกคุณออกไปสู่เส้นทางแห่งความน่าจะเป็น
    และเส้นทางที่เป็นไปได้อื่นๆมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
    ทุกครั้งที่พวกคุณทำเช่นนี้ พวกคุณก็ได้เปิดรับแสงสว่างให้เข้ามาสู่ตัวพวกคุณเองได้มากขึ้นอีกด้วย
    บัดนี้ พวกคุณพร้อมแล้วที่จะย้ายไปสู่ขอบฟ้าแห่งใหม่
    ซึ่งกวักมือเรียกพวกคุณอยู่นอกขอบเขตในการรับรู้ของพวกคุณเท่านั้นเอง


    จงคงรักษาวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุดเอาไว้และเบิกบานไปกับชีวิตที่มีความสุขที่สุด
    เท่าที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการได้
    จงมองเห็นตัวเองกำลังใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นจริงๆ
    ฝันให้ใหญ่และสร้างภาพฝันแห่งชีวิตอันสมบูรณ์พร้อมของพวกคุณขึ้นมา
    วาดรายละเอียดทั้งหมดของทุกๆสิ่งที่พวกคุณจะสามารถมองเห็นได้และมีประสบการณ์ไปกับชีวิตในอุดมคติเช่นนี้
    แต่งเติมองค์ประกอบ, สีสัน และถักทอมันทั้งหมดขึ้นมาด้วยจินตนาการของพวกคุณเอง
    เพื่อให้เป็นการสร้างสรรค์ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พวกคุณจะนึกออก


    จงเปลี่ยนแปลงหรือแต่งเติมจินตนาการนี้ในขณะที่วิญญาณของพวกคุณขับเคลื่อนพวกคุณไป
    จนกว่าพวกคุณจะรู้สึกพึงพอใจและเบิกบานไปกับการสร้างสรรค์ของพวกคุณอย่างเต็มที่
    จงมองเห็นตัวเองคือทั้งหมดและเพียบพร้อม
    และจงมองให้เห็นว่าผู้อื่นที่อยู่รอบๆตัวของพวกคุณกำลังสนุกสนานไปกับความฝันที่ดีที่สุดของพวกเขา
    ที่เผยออกมาอย่างที่พวกคุณออกแบบเอาไว้สำหรับชีวิตของพวกคุณเอง
    นี่คือโลกแห่งกระบวนการสร้างสรรค์ที่พวกคุณอยู่
    ที่ที่ทุกๆคนจะมีทุกๆสิ่งที่พวกเขาปรารถนาสำหรับความสงบ
    ความสุข ความสมหวัง มีอิสรภาพและความเบิกบาน


    ความสับสนอลหม่านที่อยู่รอบๆตัวของพวกคุณคือสัญญาณบ่งบอกว่ามันมีปริมาณแสงสว่างเข้ามามากขึ้น
    ยังมีพวกคุณหลายๆคนที่กำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยึดกระบวนทัศน์เก่าๆที่ถูกครอบงำด้วยความปลิ้นปล้อน
    ความหลอกลวง การปิดบังอำพราง ความกลัว และ การทำร้ายกันในทุกวันนี้เอาไว้อยู่
    มันถึงเวลาแล้วและมันจำต้องอาศัยเหล่า Lightworker ทั้งหลายอันเป็นที่รักของพวกเรา
    ที่จะคงแสงสว่างนี้เอาไว้ให้มั่นคงด้วยพลังอำนาจและแสงสว่างทั้งหมด
    ที่พวกเขาจะสามารถรวบรวมขึ้นมาได้ในแต่ละวัน
    เพื่อที่จะนำความสมดุลและนำคำบัญชาอันศักดิ์สิทธิ์มาสู่โลกในส่วนของพวกเขา

    จงส่งพลังแห่งความรักไปยังผู้คนและสถานที่ต่างๆบนโลก
    ที่ยังอยู่ในความเจ็บปวดด้วยความทุกข์ทรมานและความตื่นตระหนก
    จงจำไว้ว่าพวกคุณนั้นมีพลังอำนาจ และพลังนั้น นั่นก็คือความรัก
    มันทำงานด้วยวิธีนี้ วิธีที่จะทำให้แสงสว่างนั้นดำรงอยู่ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป


    จงยอมให้มีการปรับจูนและปรับแต่งค่าใหม่ ทางกายเนื้อ กายทิพย์ กายแห่งจิตใจ และกายแห่งอารมณ์ของพวกคุณขึ้น
    เพื่อให้พวกมันเกิดการอัพเกรดต่อไปอย่างต่อเนื่อง
    ในขณะที่ template ของความเป็นมนุษย์อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ
    ก็กำลังจะเปลี่ยนไปเป็นรูปร่างของภาวะที่แวดล้อมอยู่รอบๆตัวของพวกคุณ

    พวกคุณกำลังจะได้มีช่วงเวลาแห่งความสงบและความสบายอกสบายใจ
    พร้อมกับมีความเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่เรียบง่ายของพวกคุณเองได้มากขึ้น
    จงหยุดพักให้บ่อยๆเท่าที่พวกคุณต้องการเพื่อทะนุถนอมตัวพวกคุณเอง
    ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามที่พวกคุณรู้สึกว่าพวกคุณถูกชี้นำ
    หล่อเลี้ยงจิตคิดและอารมณ์ของพวกคุณด้วยรูปแบบความคิดของคลื่นความถี่สูงๆเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
    ให้อยู่ในรูปแบบมโนภาพในจินตนาการของพวกคุณ ด้วยการปฏิญาณตน
    ด้วยคำประกาศิต ด้วยการสวดภาวนาและการทำสมาธิ
    นี่เป็นกุญแจสำคัญในการที่จะอยู่เหนือความเป็นไปทั้งหลายแหล่ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ในมิติที่ต่ำกว่า


    จงรู้ไว้ว่า ในขณะที่พวกคุณเรียกหาโลกที่สมควรจะเป็นของพวกคุณ
    และเป็นโลกที่พวกคุณปรารถนาทั้งในระดับส่วนบุคคลและส่วนรวม
    เพื่อตัวพวกคุณเอง เพื่อผู้อันเป็นที่รักของพวกคุณทั้งหลาย และเพื่อมวลมนุษยชาติ


    พวกเรา ครอบครัวแสงสว่างของพวกคุณและกองทัพแสงสว่างแห่งทวยเทพจะเข้าร่วม
    และจะขยายกำลังให้กับทุกๆคำร้องขอที่ถูกขอขึ้นจากความดีงามสูงสุดทั้งปวงนั้นออกไปอีกเป็นพันๆล้านๆเท่า
    พวกเราอยู่ในการเปลี่ยนแปลงและการแปลงร่างอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยกัน
    เพราะในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปนั้น
    ทั้งมนุษยชาติและมิติแสงสว่างที่สูงขึ้นนั้นก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหมือนกัน


    ทั้งหมดนั้นกำลังทำงานร่วมกัน ด้วยวัตถุประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์และอยู่ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ร่วมกันอีกด้วย
    พวกเรา ครอบครัวแสงสว่างของพวกคุณรู้สึกยกย่องและชื่นชมต่อบทบาททั้งหลาย
    ที่พวกคุณได้เลือกมาแสดงในช่วงเวลาเหล่านี้


    พวกเราอยู่ที่นี่ ตรงนี้และพวกคุณก็ไม่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวเลย


    จนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้า

    I AM Hilarion


    ©2012 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace

    Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
    and nothing has been changed, or altered in any way
    and Scribe's credit, copyright and website is included. WELCOME! - The Rainbow Scribe

    Thank you for including the above website link when posting this message
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]



    เข้าสู่วันที่ 21-12-12 แล้ว
    มาต้อนรับเพื่อนๆเข้าสู่เส้นทางใหม่ของโลกด้วยกันครับ
    เช้านี้หลายคนคงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความความรู้สึกที่ว่า...
    เรากำลังหลุดเข้ามาสู่มิติใหม่แล้วหรือนี่? จะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรที่สัมผัสได้รึเปล่านะ?
    เราจะให้ความสำคัญกับวันนี้แค่ไหน ก็สุดแล้วแต่ครับ
    แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ใช่น้อยเลยนะครับ

    มีอีกหลายคนที่ไม่่เคยรับรู้เรื่องราวเหล่านี้
    และอาจคิดว่าพวกเราเป็นโรคจิตที่มาจดจ่อกับเรื่องพวกนี้ อิอิ
    เป็นธรรมดาหล่ะครับ เพราะคนที่ยังไม่พร้อมมีอยู่ไม่ใช่น้อย
    ไม่แม้แต่จะอ่านวรรณกรรมที่มีประโยขน์เหล่านี้เลย
    เชื่อว่าเค้าจะค่อยๆได้ยิน ได้ฟัง และรับข้อมูลเหล่านี้ในภายหลัง
    ต้องใชเวลาในการบ่มเพาะสักระยะนึง เพราะเป็นเรื่องทางเลือกของแต่ละคนครับ

    กิจกรรมข้ามมิติเริ่มขึ้นแล้ว การเดินทางกำลังเริ่มต้นบนถนนที่ยาวไกลสำหรับหลายๆคน
    ทุกคนได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักที่เป็นกุญแจไขทุกสิ่งทุกอย่าง
    ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขสงบจากภายใน เต็มไปด้วยความรักและแสงสว่าง

    เปิดห่อของขวัญ เพื่อต้อนรับรุ่งอรุณแห่งจิตสำนึกของมวลมนุษย์ด้วยกัน...
    และขอขอบคุณทีมแปลทุกๆท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาทำหน้าที่ตรงนี้ด้วยครับ




    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  7. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ลาก่อนโลกของพลังงานเก่า

    พลังงานเก่าหมดสิ้นดับสูญ

    เหมือนทุกอย่างจะเงียบ ลง และ เงียบ ลง

    พลังวิเศษ ก่ จะดับสูญด้วย เพราะเป็นพลังงานเก่า

    สวัสดีขอต้อนรับยุคใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  8. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มนุษย์ได้เริ่มต้นพัฒนากลายพันธ์

    แล้ว และจะไปสิ้นสุดหรือกลายพันธ์เสร็จสิ้น

    สำหรับยุคที่เปลี่ยนแปลงไป

    เหมาะสมสำหรับยุคใหม่ พลังงานใหม่

    ใช้เวลาไปอีก 3 เดือน .... เมื่อ

    ครบกำหนด ก่ คงจะมีอะไรมาให้

    ตื่นเต้น กันอีกรอบ

    อีก 3 เดือน คือ สิ้นสุดเดือน มีนาคม

    และระหว่าง เมษ และ พค โดยประมาณ

    ก่ จะมีอะไรแปลกเกิดขึ้นอีก แต่อันนี้

    ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร จะเห็นด้วยตาเปล่า

    เลยหรือไม่ ......
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การกลายพันธ์ ส่งผลอย่างไร

    หมายความว่า ตอนนี้ มนุษย์ได้เริ่มมีการพัฒนา

    ตนเองตามแบบฉบับของแต่ละยุคแล้ว

    ดังนั้น การพัฒนาเผ่าพันธ์ ให้สามารถดำรง

    ไปสู่ความเจริญงอกงามทางจิตใจ ก่ จะต้อง

    เปลี่ยนแปลงวิธีการด้วย เปลี่ยนแปลงด้วยวิธี

    ทางตรง รวดเร็ว และได้ผล

    การพัฒนาจิตใจเพื่อนำไปสู่การหลุดพ้น

    การเป็นอิสระ จากอวิชชา

    วิธีการที่จะปฏิบัติ นั้นจะ เกิดขึ้น

    จะปรากฎ .... เงื่อนเวลา ยังไม่ได้ตรวจสอบครับ

    จะเกิดขึ้นอย่างไร รอดูอีกทีครับ คืบไปทีละนิด

    (โดยส่วนตัวเองก่ ต้องพัฒนาไปด้วย.... จึงจะรู้
    เรื่องราวอันดับต่อไปของเหตุการณ์ภายหน้า)
     
  10. บัวบูชา

    บัวบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2005
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +313
    ตื่นเต้นเหมือนกัน เฝ้าจรดจ่อตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ขอบคุณพลังงานใหม่ เราจะพูดดีคิดดี ทำดี ตลอดไป..
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เมื่อหลายวันก่อน ผมเคยเอาข้อความนี้มาโพสต์
    และมาวันนี้ VDO เขาทำเสร็จแล้วนะครับ
    เชิญชมกันได้นะครับ..


    Agents of Creation - Biggest Planetary Secret Revealed! - YouTube

    ..มีคุณ mead ด้วยนะ อยู่นาทีที่ 4:22
    ส่วนของผมและน้องๆที่ทำงานจะอยู่นาทีที่ 4:46,5:39,5:48
    ส่วนของท่านอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก ก็ลองหากันเอาเองนะครับ

    .......................................................
     
  12. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    (ตอนต่อจากข้อความที่ 6590 หน้าที่ 330)

    MYTRE AND THE MOTHERSHIP PART XIII

    Mytre’s Experiences of Ascension 3

    By Suzanne Lie – DECEMBER 15, 2012
    http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/


    Highest Dimensions of the Mothership

    MYTRE CONTINUES:
    As I was released from the hologram at the conclusion of the Arcturian Ascension, I realized that my inner, wounded warrior was finally healed. Furthermore, I felt my energy field expand far beyond the Holosuite and into the Core of the Mothership’s seventh dimensional Oversoul.


    เมื่อผมถูกปลดปล่อยจากโฮโลแกรมตรงบทสรุปของการยกระดับของชาวอาร์คทูเรี่ยน, ผมรู้ว่าภายในของผม, นักรบผู้บาดเจ็บได้รับการรักษา. ยิ่งไปกว่านั้น, ผมรู้สึกว่าสนามพลังของผมขยายออกไปเกินกว่าห้องสามมิติ และเข้าสู่แก่นของวิญญาณระดับสูงมิติที่เจ็ดของยานแม่.

    When I first entered the Oversoul, the feelings of bliss and unconditional love overwhelmed me. However, I could only perceive a sparkling cloud around me, and I could only hear the Silence. Yes, the Silence did have a sound, but it was not experienced through the sense of hearing or even clairaudience.

    เมื่อผมเข้าสู่วิญญาณระดับสูงเป็นครั้งแรก, ความรู้สึกของการอวยพรและความรักที่ไม่มีเงื่อนไขได้ท่วมทับผม. อย่างไรก็ตาม, ผมสามารถรับรู้ได้เพียงเมฆที่มีประกายรอบๆตัวผม, และผมได้ยินเพียงเสียงความเงียบ. ใช่, ความเงียบมีเสียง, แต่มันไม่ได้มีประสบการณ์ในลักษณะของการได้ยินหรือแม้แต่หูทิพย์.

    The Silence was experienced as a vibration of total harmony and unity. In fact, as I began to calibrate my perceptions to this frequency of reality, I realized that I sensed that I was surrounded by every experience of form I had ever had. In fact, I saw EVERY body that my Multidimensional SELF had worn in any incarnation into form.

    ความเงียบเป็นประสบการณ์คล้ายกับความถี่ของความสอดคล้องกันและเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์. อันที่จริง, เมื่อผมเริ่มปรับการรับรู้ของผมสู่ความถี่นี้ของความเป็นจริง, ผมรู้ว่าที่ผมรู้สึกว่าผมแวดล้อมไปด้วยประสบการณ์ของทุกๆรูป(ร่างกาย)ที่ผมเคยมี. อันที่จริง, ผมเห็นทุกๆร่างกายที่ตัวตนหลากมิติของผมเคยสวมใส่ ในชาติที่เกิดมาอยู่ในรูป.

    First, I experienced my seventh-dimensional SELF in a wavering, ever-changing form of glistening light. With my multidimensional perceptions fully activated, I could see the myriad expressions of any particular component of my Oversoul as it moved into the lower dimensions. Hence, I could perceive generation after generation of the expressions of that expression of my SELF.

    ตอนแรก, ผมมีประสบการณ์ตัวตนมิติที่เจ็ดของผมวูบวาบ, รูปที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของแสงระยิบระยับ. ด้วยการรับรู้หลากมิติของผมที่ตื่นเต็มที่, ผมสามารถเห็นการแสดงออกนับไม่ถ้วนของส่วนประกอบต่างๆของวิญญาณระดับสูงของผม เมื่อมันเคลื่อนที่เข้าสู่มิติระดับต่ำ. ดังนั้น, ผมสามารถรับรู้จากรุ่นสู่รุ่นของการแสดงออกของตัวตนของผม.

    Each of the progressions from Oversoul that traveled down into the lower worlds came from a certain “Originator” of that line of incarnations. The descendants of that Originator multiplied more and more as I looked down the dimensional scale to see the myriad off-springs of that Originator. By the third/fourth dimension there were thousands of expressions of that particular Originator of Oversoul descendants.

    แต่ละความก้าวหน้าจากวิญญาณระดับสูงที่เดินทางลงมาสู่โลกระดับต่ำ จากแหล่งกำเนิดของสายการเกิด. การลดระดับของแหล่งกำเนิดแตกตัวมากขึ้นและมากขึ้น เมื่อผมมองลงมาดูในระดับมิติ เพื่อเห็นตัวตนจำนวนมากมายที่แตกแขนงแยกย่อยออกมาจากแหล่งกำเนิดนั้น. ด้วยมิติที่สาม-สี่ มันมีนับพันของการแสดงออกของส่วนประกอบแหล่งกำเนิดของวิญญาณระดับสูงที่ลดระดับลงมา.

    Furthermore, I had many Oversouls. I had a Pleiadian Oversoul line, an Arcturian Oversoul line, a human Oversoul line, a Tau Ceti Oversoul Line, a Sirian Oversoul Line and even an Antarian Oversoul Line. Then, each Oversoul Line had many Originators of expressions with innumerable expressions as each Originator’s descendants occupied forms in the lower dimensions.

    ยิ่งไปกว่านั้น, ผมมีวิญญาณระดับสูงมากมาย. ผมมีสายวิญญาณระดับสูงของชาวพลีอาเดี้ยน, สายวิญญาณระดับสูงของชาวอาร์คทูเรี่ยน, สายวิญญาณระดับสูงของมนุษย์, สายวิญญาณระดับสูงของ Tau Ceti, สายวิญญาณระดับสูงของชาวไซเรี่ยน และแม้แต่สายวิญญาณระดับสูงของแอนทาเรี่ยน. จากนั้น, แต่ละสายวิญญาณระดับสูงก็มีหลายแหล่งกำเนิดของการแสดงออกด้วยการแสดงออกนับไม่ถ้วน ซึ่งการลดระดับของแต่ละแหล่งกำเนิดได้มาอาศัยรูปในมิติระดับต่ำ.

    Additionally, many of the countless descendants from each Oversoul Line for different Star Systems were intertwined further down the dimensional realities. For example, within my current expression of Mytre, I could perceive the Essence of Pleiadian, Arcturian, Sirius and Earthling. I was just beginning to recognize my many expressions of Oversoul when I felt my loose, seventh-dimensional body release it’s form.

    ยังมีอีก, การลดระดับนับไม่ถ้วนจากแต่ละสายวิญญาณระดับสูงสำหรับระบบดาวต่างๆ ก็เกี่ยวพันกันลงมาสู่มิติของความเป็นจริง. ยกตัวอย่างเช่น, ภายในการแสดงออกปัจจุบันของผม Mytre, ผมสามารถรับรู้สาระสำคัญของชาวพลีอาเดี้ยน, อาร์คทูเรี่ยน, ไซเรี่ยน และชาวโลก. ผมเพียงแค่เริ่มต้นรับรู้ถึงการแสดงออกของวิญญาณระดับสูงมากมายของผม เมื่อผมรู้สึกถึงอิสระของผม, ร่างกายมิติที่เจ็ดที่ปลดปล่อยรูปของมัน.

    I experienced a huge rush of energy, as if I were shifting into faster-than-light speed without any sense of movement. It was a very unique experience. I knew that I was greatly accelerating, but there was no time or space to serve as a maker of how fast or where I was going. Therefore, I just relaxed into this glorious feeling.

    ผมมีประสบการณ์การพุ่งของพลังงานอย่างมาก, ราวกับผมยกระดับเข้าสู่ความเร็วที่เร็วกว่าความเร็วแสงโดยปราศจากความรู้สึกของการเคลื่อนที่ใดๆ. มันเป็นประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก. ผมรู้ว่าผมเร่งความเร็วอย่างมาก, แต่มันไม่มีเวลาหรือพื้นที่ที่เป็นจุดบ่งชี้ว่าผมไปสู่ที่ต่างๆด้วยความเร็วเท่าใด. ดังนั้น, ผมก็เพียงแค่ผ่อนคลายเข้าสู่ความรู้สึกของความภาคภูมิใจ.

    Then, just as quickly as that feeling began, it ceased. Instinctively, I knew that I had merged with the ONE of the NOW in the group consciousness of the eight through tenth dimensions. I felt the Arcturians welcome me to their section of the Mothership.

    จากนั้น, รวดเร็วพอๆกับที่ความรู้สึกนั้นเริ่มขึ้น, มันยุติลง. โดยสัญชาติญาณ, ผมรู้ว่าผมได้รวมเข้ากับความเป็นหนึ่งเดียวกันของขณะนี้ ในกลุ่มของความตระหนักรู้ของมิติที่แปดถึงสิบ. ผมรู้สึกว่าชาวอาร์คทูเรี่ยนต้อนรับผมสู่ส่วนของยานแม่ของพวกเขาส่วนนี้.

    I was in total unity with limitless expressions of Arcturian consciousness. I “knew,” (which is the only way I can translate this form of communication into 3D language) that they were reminding me there were other energy life-streams within this frequency besides that of the Arcturians.

    ผมอยู่ในความเป็นหนึ่งเดียวกันพร้อมกับการแสดงออกที่ไม่จำกัดของความตระหนักรู้อาร์คทูเรี่ยน. ผม “รู้” (ซึ่งมันเป็นหนทางเดียวที่ผมสามารถแปลให้เข้าสู่รูปแบบการสื่อสารของภาษามิติที่สาม) ว่าพวกเขาย้ำเตือนผมว่ายังมีกระแสพลังชีวิตอื่นภายในความถี่นี้นอกจากของชาวอาร์คทูเรี่ยน.

    I could feel those differing energy patterns that inter-twined with the Arcturian energy-patterns much like many instruments blend within an orchestra. Each energy pattern was distinct, yet totally intermingled within the whole. Being totally free of any form and experiencing complete unity with Cosmic Consciousness was almost more than my consciousness could absorb.

    ผมสามารถรู้สึกถึงรูปแบบพลังงานที่แตกต่างเหล่านั้น ที่เกี่ยวพันกันกับรูปแบบพลังงานของชาวอาร์คทูเรี่ยน คล้ายกันมากกับเครื่องดนตรีต่างๆที่ผสมผสานกันในวงออเคสตร้า. แต่ละรูปแบบของพลังงานแตกต่างจากกัน, ผสมผสานกันอย่างเต็มที่ภายในทั้งหมด. เป็นอิสระจากรูปใดๆอย่างเต็มที่ และกำลังมีประสบการณ์ความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ กับความตระหนักรู้จักรวาลที่แทบจะเกินความสามารถของความตระหนักรู้ของผมที่จะดูดซับไว้ได้.

    On the other hand, extracting myself from this energy field seemed impossible, which indeed, it was. In other words, I was NOT extracted from it. However, I “knew” that I could alter the focus of my perception into the lower frequencies of reality when I was ready. However, I could not imagine ever being ready to leave this experience.

    ในอีกด้านหนึ่ง, การแยกตัวตนของผมออกจากสนามพลังงานนี้ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้, ซึ่งอันที่จริง, มันเป็น. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, ผมไม่ได้แยกจากมัน. อย่างไรก็ตาม, ผม “รู้” ว่าผมสามารถเปลี่ยนการรับรู้ของผมเข้าสู่ความถี่ของความเป็นจริงระดับที่ต่ำกว่า เมื่อผมพร้อม. อย่างไรก็ตาม, ผมไม่สามารถจินตนาการได้แม้แต่ความพร้อมที่จะออกจากประสบการณ์นี้.

    “Once you have remembered this expression of SELF, you never need to forget it. That is unless you re-enter a third-fourth dimensional world. The EM field around that frequency of reality instantly mutes your access to these higher memories. This electromagnetic firewall, protects the lower worlds from information that would literally short circuit their brains.”

    เมื่อคุณจำได้ถึงตัวตนนี้ของคุณ, คุณจะไม่ต้องการที่จะลืมมัน. นั่นคือถ้าคุณเข้าสู่โลกมิติที่สาม-สี่อีกครั้ง. สนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้ารอบๆความถี่ของความเป็นจริงนั้นจะบดบังการเข้าถึงความทรงจำระดับสูงเหล่านี้ในทันที. กำแพงสนามแม่เหล็กไฟฟ้านี้, ป้องกันโลกระดับต่ำจากข้อมูลที่อาจจะช้อตวงจรสมองของพวกเขา.

    Yes, now I understood why I had to release my Warrior SELF before I could resonate to this frequency of reality.

    ขณะนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม ผมจึงต้องปลดปล่อยตัวตนนักรับของผม ก่อนที่ผมจะสามารถสะท้อนกับความถี่ของความเป็นจริงนี้.

    “Are you ready to visit the eleventh-twelfth dimensional expression of the Mothership? We say visit, as your energy field is not ready to do more than merely peak into this frequency.”

    คุณพร้อมหรือยังที่จะไปเยือนมิติที่สิบเอ็ด-สิบสองของยานแม่? พวกเราพูดว่าไปเยือน, ซึ่งสนามพลังของคุณไม่มีความพร้อมที่จะทำอะไรมากไปกว่ายกระดับเข้าสู่ความถี่นี้.

    “Yes,” I said, a bit too confidently.

    “ใช่”. ผมพูด, ด้วยความมั่นใจมากเกินไปเล็กน้อย.

    Instantly, I was inside of the beginning, as that is the only world that I can imagine using. I felt pulled into a million, billions segments of anti-matter swirling in unity and simultaneously exploding into each other. With each explosion a Universe was born.

    ทันใดนั้น, ผมก็อยู่ภายในจุดเริ่มต้น, ซึ่งมันเป็นเพียงโลกเดียวที่ผมสามารถใช้จินตนาการได้. ผมรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ส่วนของปฏิสสารนับล้านหรือนบพันล้านที่หมุนอยู่ในความเป็นหนึ่งเดียวกันและระเบิดพร้อมๆกันเข้าสู่ซึ่งกันและกัน. แต่ละการระเบิดจักรวาลก็เกิดขึ้น.

    Whatever reality I was visiting was inside of me, above me, behind me, but yet, I had no form. I had no substance, no knowing. I was existence that was not yet created and the beginning of the ending that was completed. All these sensations were overwhelming, and my consciousness was unidentifiable. I was in awe of this experience, but was loosing all sense of SELF.

    ความเป็นจริงใดๆก็ตามที่ผมกำลังไปเยือนก็อยู่ภายในตัวผม, เหนือผม, ข้างหลังผม, แต่ ผมไม่มีรูป. ผมไม่มีสสาร, ไม่มีความรู้. ผมดำรงอยู่ที่ไม่แม้แต่การสร้างและการเริ่มต้นของจุดจบที่สำเร็จไปแล้ว. ความรู้สึกทั้งหมดนี้กำลังครอบงำ, และความตระหนักรู้ของผมก็ไม่สามารถระบุได้. ผมอยู่ในความรู้สึกหวาดหวั่นกับประสบการณ์นี้, แต่สูญเสียความรู้สึกของตัวตนทั้งหมด.

    Suddenly, I felt the Arcturian inside of me, while I was also inside of it. Everything began to spin faster and faster. The Silence became so loud that I was deafened and the light so bright that I could not see. I was expanding and contracting, while remaining totally still. I could feel myself blinking out of all reality, then I as gone.

    ทันใดนั้น, ผมรู้สึกถึงชาวอาร์คทูเรี่ยนภายในตัวผม, ขณะที่ผมก็อยู่ภายในเขา. ทุกๆสิ่งเริ่มหมุนเร็วขึ้นเร็วขึ้น. ความเงียบกลายเป็นเสียงดัง. ผมหูหนวกและแสงสว่างก็สว่างมากจนผมไม่สามารถเห็นอะไรได้. ผมกำลังขยายออกและกำลังหดตัว, ในขณะที่ยังคงอยู่กับที่. ผมสามารถรู้สึกถึงตัวเองกระพริบออกจากความเป็นจริงทั้งหมด, แล้วผมก็หายไป.

    ***

    I slowly opened my eyes to find myself in my Quarters with the Arcturian and Mytria guarding my body. I blinked a few times, smiled and said, “I am still alive!”


    ผมลืมตาขึ้นอย่างช้าๆเพื่อหาตัวเองในส่วนของผมบนยานแม่ พร้อมกับชาวอาร์คทูเรี่ยนและ Mytria ที่ปกป้องร่างกายของผม. ผมกระพริบตาสองสามครั้ง, ยิ้มแล้วก็พูดว่า, “ผมยังมีชีวิตอยู่!”


    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
    (ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของผมแล้วครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    เมื่อเช้าผมสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ผ่านเข้ามายังโลก เข้ามากระทบกายและใจได้อย่างชัดเจน เหมือนเรากำลังเดินทางอย่างรวดเร็ว ก้าวผ่านสิ่งต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับโลก ^^
     
  14. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155
    .................


    ................



     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความส่วนตรงนี้ ตรงกันกับประสบการณ์ของนาย Benedict
    ที่ตายแล้วฟื้น และได้มีโอกาสไปรู้ไปเห็นมิติที่สูงๆแบบนี้เหมือนกัน

    http://palungjit.org/threads/โลกหลั...ณ์ตายแล้วฟื้นของนาย-mellen-t-benedict.264647/

    และพออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มันทำให้ผมหายสงสัยทันทีเลยว่า
    ทำไมประสบการณ์ตายแล้วฟื้นของแต่ละคน จะมีส่วนที่ทั้งคล้ายกัน
    และมีส่วนที่แตกต่างกันอย่างมากมายด้วย

    ส่วนหนึ่งผมเข้าใจว่า มันมาจากความเชื่อของคนๆนั้น ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ตายด้วยแหละ
    ว่าความเชื่อของเขาเองจะไปสร้างโลกแห่งความเป็นจริงแบบไหนให้เขาได้เห็น

    และอีกส่วนหนึ่งก็คือ น่าจะขึ้นอยู่กับว่า จิตวิญญาณของเขา ได้พาเขาไปรับรู้มิติไหน
    เช่น กรณีของนาย Benedict และของ Mytre นี้ ที่ไปถึงมิติที่ 11-12 แล้ว
    ก็จะไปเห็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง ไปเห็นการเกิดและการดับของทุกสรรพสิ่ง
    ที่มันกำลังเกิดขึ้นพร้อมๆกันอยู่ ในเวลาเดียวกันแบบนี้แหละครับ

    .................................................
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=YE5ANjASnCs&feature=player_embedded]Moving Fearlessly Through 2012 - YouTube[/ame]
     
  17. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ศิษย์พี่มี๊ด...พอดูคลิปนี้แล้วเรานึกถึงความฝันเมื่อเร็วๆนี้
    เราฝันว่าเจอเสือโคร่ง คนอื่นวิ่งกระเจิงไปหมดแล้ว
    เหลือแต่เรา เราเดินเข้าไปกอดเค้าแล้วบอกเค้าว่า
    You are so cute แล้วเสือก็ยิ้มให้เราด้วยอะ
    เรารู้สึกว่าเค้าก็เหมือนๆกะเรานี่หละ กอดแล้วรู้สึก
    อบอุ่นดีมากๆด้วย อีกวันก็ฝันว่าพลังความคิดของเรา
    กลายเป็นสายฟ้าเล็กๆไปรวมกับโครงข่ายสายฟ้า
    ที่ครอบคลุมโลกเราเอาไว้ แล้วพลังงานนี้ก้กระจาย
    ออกไปทั้งจักรวาลเลยด้วย ประมาณว่าคิดไรอยู่เค้าก็รู้
    กันหมดทั้งจักรวาลอะนะ มีแต่เจ้าตัวอะที่ไม่รู้ว่าคนอื่น
    เค้ารู้กันหมดแล้วนะ แล้วก็มีเสียงพากษ์คอยสอนเราตลอด
    เค้าสอนเราว่า...

    จักรวาลตอบกลับและขอบคุณพลังงานดีๆของเราอยู่เสมอ
    แต่ประสาทสัมผัสของเราเองต่างหากที่ไม่ละเอียดพอที่จะ
    จับต้องมันหรือรับรู้ได้ เหมือนเราเล่นละครอยู่หน้าฉากตามบท
    แต่ของขวัญจากคนดูนั้นได้ถูกส่งไปรออยู่หลังเวทีเรียบร้อยแล้ว


    แล้วเราก็ตื่นหลังจากหลับไปได้แค่ชั่วโมงเดียวแล้วก็นอนต่อ
    แล้วก็ฝันแบบเดิมอีก แต่ฉากชีวิตมันเปลี่ยนไปเหมือนกับว่า
    มันเป็นไปตามที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกๆวัน ไม่มีวันไหนที่เหมือนกัน
    แต่เสียงนั้นก็ยังคงสอนเราในเรื่องเดิม เราหลับสลับกับตื่น
    เป็นแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง ตอนตื่นเช้าขึ้นมากลับรู้สึกสดชื่นมากเลย
     
  18. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    !!!เงียบจังเลย!!!
    เหมือนกลั้นใจ ก่อนกระโจน
    rabbit_run_away:boo:;k01pig_cryy
     
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่เงียบเพราะว่ามันยังไม่มีคนใหม่อาสาเข้ามาช่วยแปลหนะครับ
    ข้อความที่น่าสนใจยังมีอีกมากมายครับ เช่น

    HILARION 2012 - The Rainbow Scribe

    Communion with God Will Hold the Resonance Needed for the Shift > Circle of Light

    ส่วนผมเองก็กำลังงมอยู่กับข้อความเก่าของท่านมิคาเอลหนะครับ
    แต่ผมก็เชื่อว่า จะต้องมีคนอาสามาช่วยอีกแน่นอน
    เพราะว่าเมื่อคืนฝันเห็นแล้ว..ยังไงก็จะต้องมีแน่นอนครับ
    อดใจรออีกหน่อยนะครับ..

    ลำพังตัวผมเอง และคุณเดรด ก็ไม่อาจจะแปลข้อความที่มาอย่างต่อเนื่อง
    พวกนี้ได้ทันหรอกนะครับ ดังนั้น พวกเราก็เลยคัดเลือกเฉพาะ
    ที่เห็นว่าน่าสนใจจริงๆมาแปล และแบ่งปันให้ท่านได้อ่านด้วยเท่านั้น

    แล้วก็..อย่าเข้าใจไปว่า พอผ่านวันที่ 21/12/12 แล้ว ทุกคนจะหนีหายกันหมด
    เพราะว่า ผมและทีมแปลของผม ยังไม่มีใครหนีไปไหนอย่างแน่นอน
    เพียงแค่สลับสับเปลี่ยนกันลุกขึ้นมาเป็นตัวหลักในการแปลเท่านั้นเอง
    เพราะว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงในตอนนี้ และในอนาคตด้วย
    พวกเราเองก็กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการ clearing & Cleansing
    อยู่เช่นเดียวกันกับชาวโลกผู้ที่เลือกที่จะเลื่อนระดับขึ้นคนอื่นๆด้วย

    ดังนั้น บางครั้ง กระบวนการ cleansing ที่ว่านี้ มันก็หนักหน่วง - เผ็ดร้อน
    หรือไม่ก็เจ็บปวดรวดร้าวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ฮิฮิ..

    ดังนั้น บางครั้งพวกเราเองก็ต้องขอตัว "พัก" ซักครู่
    หรือไม่ก็ "อยู่เงียบๆ" ซักระยะหนึ่ง เพื่อปรับตัว-ปรับใจของตัวเองก่อน
    อะไรแบบนั้นหนะครับ..

    โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ผมรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนยุคนี้ดีพอสมควรอยู่นะครับ
    และผมก็ "เลือกที่เชื่อ" แหล่งข้อมูลของผม คือข้อมูลจากต่างมิติ
    ที่ผมเลือกเอามาแปลให้ท่านได้อ่านด้วยนี้แหละครับ เป็นหลัก

    ดังนั้น ผมถึงไม่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลก และก็ไม่เชื่อเรื่องภัยพิบัติใหญ่
    อย่างที่กลุ่มอื่นๆเขาอาจจะเชื่อกัน และผมก็ไม่เชื่อเรื่อง 3 วันแห่งความมืดมิดด้วย
    เพราะว่าแหล่งข้อมูลเหล่านี้ ที่ผมเลือกที่จะเชื่อนี้ พวกเขาเคยพูดอยู่บ่อยๆว่า
    มันจะไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหรอก และพวกเขาก็ยังบอกอยู่เสมอว่า
    มันจะไม่มีอะไรพรวดพราดตูมตามเกิดขึ้น ในวันที่ 21/12/12 ที่ผ่านมานั้นหรอก
    เพราะว่าทุกๆอย่างจะค่อยๆเป็นไป อย่างนิ่มนวลที่สุด แต่มันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่จริงแท้แน่นอน
    แม้ว่าชาวโลกส่วนใหญ่จะไม่ตระหนักรู้ หรือไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม

    ดังนั้น ก็อย่างที่นาง Ronna Herman ชวนพวกเราไว้ว่า ให้มาช่วยกันทำให้
    ปี 2013 นี้ เป็นปีแห่งปาฏิหาริย์ของพวกเรากันเถอะ
    โดยใช้พลังแห่งความรักและความเมตตานี่แหละ ดังนั้น โดยส่วนตัวผมแล้ว
    ผมก็เชื่ออยู่ลึกๆว่า ปี 2013 นี้แหละ ก็จะเป็นปีแห่งปาฏิหาริย์ของตัวผมเองด้วย

    เพราะว่าเลข 13 คือเลขพิเศษสำหรับผม คือเลขแห่งปาฏิหาริย์
    และการเริ่มต้นใหม่สำหรับผม และคือเลขที่มีความเกี่ยวพันกับผมมาโดยตลอดด้วย

    ประกอบกับความฝันของทั้งตัวเอง และ ผู้อื่น ที่มีหลายต่อหลายครั้ง
    ที่ฝันว่าตัวผมเอง "ตาย" หรือ "กำลังจะตาย" ในต้นปีหน้านี้ ผมเลยเชื่อว่า
    นั่นแหละคือนิมิตรหมายที่ดีหละ เพราะว่า ผมเองก็อยากจะ
    "ตายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงภายในแบบเก่าๆ" ของตัวเองนานแล้วเหมือนกันครับ
    จะได้กลายเป็นคนใหม่ ที่มีระดับความตระหนักรู้แแบบใหม่ มีจิตสำนึกใหม่
    และมีระดับความสั่นสะเทือนของกายและจิตที่สูงกว่าเดิมซะที

    [​IMG]

    [​IMG]


    ปล. เทศกาลคริสต์มาส แม้ว่าจะเป็นของชาวตะวันตกเขา
    แต่ว่าถ้ามันเป็นเทศกาลแห่งการแบ่งปัน
    ถ้ามันเป็นเทศกาลแห่งสายธารน้ำใจของชาวโลก
    ที่จะหลั่งไหลจากผู้ให้ไปสู่ผู้รับแล้วหละก็..
    ผมว่า มันก็เป็นสิ่งที่ดี และผมก็ชอบนะครับ

    เมื่อวานก็เลยชวนเพื่อนฝูง และน้องๆในที่ทำงาน
    ไปแบ่งปันอาหาร ขนม และของขวัญ ให้กับคนชรา
    และเด็กกำพร้ามาหนะครับ..

    ดูเด็กคนที่พวกเราอุ้มนี่สิครับ..น่ารักมากกกกกเลย


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ..................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2012
  20. pisan97

    pisan97 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +129
    เห็นภาพและข้อความแล้ว รู้สึกมีพลัง มีกำลังใจดีขึ้น สดชื่นขึ้นอย่างแปลกประหลาด
    หลังจากที่จิตตกหลุมอากาศมาหลาย ๆ วัน อนุโมทนาด้วยครับ
    ผมเห็นว่า กลุ่มของท่านมาถูกทางแล้ว ขออนุญาติยึดไว้เป็นที่พึ่งตลอดไป....
    < ของจริงเท่านั้น ที่จะผ่านการทดสอบในทุกกรณี ครับ. >
     

แชร์หน้านี้

Loading...