พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. เวียงละกอน

    เวียงละกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +391
    อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเลยครับ
     
  2. แผ่นฟ้า

    แผ่นฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +428
    แผ่นฟ้า ขอบพระคุณเจ้าของกระทู้มากๆเลยนะค่ะ ที่เมตตาสละเวลา แจ้งเตือน บอกกล่าวข้อมูลให้ทราบ แผ่นฟ้าอยู่ อ.ย่านตาขาวค่ะ ขอบคุณสำหรับ พื้นที่ปลอดภัยที่แจ้งไว้ให้ทราบ ขอบุญรักษาท่านและครอบครัวนะค่ะ รวมถึงเพื่อนร่วมโลกใบนี้ทุกชนทุกหมู่เหล่า สาธุ
    _/l\_ ขอบคุณน้ำใจงามๆ หากมีบุญวาสนา คงได้เจอกันนะค่ะ
     
  3. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณแผ่นฟ้า ช่วงนี้ไอยประจำการอยู่ที่
    วัดนาเมืองเพชร ติดถนนตรัง-สิเกา ต. นาโต๊ะหมิง
    โดยใช้ที่วัดนาเมืองเพชร เป็นวัดต้นแบบในเรื่อง
    การรับมือพิบัติภัยต่าง ๆ จึงไม่ค่อยมีเวลา up date
    เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ทน ๆ อ่านกันหน่อยนะค่ะ
     
  4. Pa-Ing

    Pa-Ing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +199
    รออ่านต่อ

    รออ่านต่อคะคุณ ไ
     
  5. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    พระธาตุดอยกู่ (ดอยคู่) (พระเกศาธาตุ ๒ เส้น)
    ตำบลเมืองยาว อำเภอห้างฉัตร


    ประวัติและที่มา วัดพระธาตุดอยกู่แก้ว บ.ทุ่งหลวง ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง (พระเกศาธาตุ ๒ เส้น) - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!


    พระธาตุม่อนไก่แจ้ (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลเมืองยาว อำเภอห้างฉัตร


    ตำนานวัดพระธาตุม่อนไก่แจ้
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยฤๅษี 5 ตน ได้เสด็จจาริกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหมายความว่าเข้าเขตตำบลเมืองยาว เพราะกาลปางก่อนโน้นทางตำบลแม่สันปัจจุบันก็ขึ้นอยู่ในเขตตำบลเมืองยาว พระพุทธองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นเขาทั้ง 4 ลูกเรียงกันในท่ามกลางพื้นที่ราบเรียบพอสมควร พระพุทธองค์ทรงทราบนึกถึงในอดีตก่อนปางหลังว่าในอดีตสมัยหนึ่งพระองค์ย่อมรู้ว่า ได้เกิดในสมัยเจ้ามหาวงค์แตงอ่อน พระองค์ได้นำไก่มาตั้งแข่งขันกันที่ดอยม่อนไก่แจ้ และมีสิ่งมหัสจรรย์เกิดขึ้นโดยไก่แจ้ตัวหนึ่งแข่งขันท้าทายอยู่ม่อนดอยตรงกันข้าม ขันคุ้นเขี่ยแล้วก็หายไป แต่เจ้าของไก่ตัวนี้ไม่ยอมแข่งขันกับไก่พระพุทธองค์ จึงวิ่งหนี เตลิดไปแอบอยู่ในเขตอำเภอเมืองลี้ เพราะจะสู้ไก่พระพุทธองค์ไม่ไหวจึงหนีลี้ภัยไปอยู่ ณ ที่โน้น ท่านทั้งหลายและนักปราชญ์ผู้รู้อาจจะสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เมื่อพระพุทธองค์ได้เป็นหน่อโพธิสัตว์ มีนามว่า บัวละ แต๋งอ่อนได้มาม่อนไก่แจ้มาต่อไก่ที่อยู่ในป่า ครั้นเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วจึง เล็งเห็นว่าในขณะนี้สมควรพระจะประดิษฐานพระเกศา จึงได้นำพระเกศาให้พวกตำปิละแล้วสั่งให้เอาไปบรรจุไว้ในภูเขาลูกนี้ และก่อพระเจดีย์ไว้เพื่อสักการบูชาแด่พวกตำปิครั้นต่อมาพระอาจารย์ชมพู เห็นว่าเจดีย์ที่พวกตำปิสร้างไว้นั้นได้ทรุดโทรมจึงชวนพวกทายกทายิกาไปสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดทางทิศใต้ (อยู่ทิศใต้ของวัดแม่ยามเหนือปัจจุบัน) ห่างจากวัดไปประมาณ 2/4 กิโลเมตร ส่วนเจดีย์องค์นี้มีขนาด 12 เมตร สูง 40 เมตร เป็นภูเขาอยู่กลางป่าเป็นเนื้อที่ประมาณ 400 วา และขนานนามว่า “ม่อนไก่แจ้” ณ ที่จังหวัดลำพูน เรียกว่า ม่อนพระยาไก่แก้ว พระเจดีย์ได้สร้างขึ้น พ.ศ. 2404 ตรงกับปีวอก ตามคำพื้นเมืองว่าปีกฎสัน พระเจดีย์องค์นี้ ท่านพระครูบาศรีวิชัย (ครูบาศีลธรรม) เป็นผู้นำในการสร้างพระเจดีย์นี้และก็ได้ตั้งประเพณี สักการบูชาทุกปีในวันเพ็ญเดือน 8 เหนือ ตรงกับเดือน 6 ใต้ แห่งเดือนวิสาขบูชา ต่อมาพระภิกษุ และทายก ทายิกาได้ถวายสักการบูชาทุกปีจนถึงปัจจุบันนี้ (ที่มา : หนังสือตำนานวัดพระธาตุม่อนไก่แจ้)


    ที่มา http://www.nfehangchat.com/library5113/showac5.php?no_pp=845
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    พระธาตุม่อนไก่เขี่ย (พระเกศาธาตุ)
    บ้านป่าเหียง ตำบลแม่สัน อำเภอห้างฉัตร


    พระธาตุดอยแก้ว (พระเกศาธาตุ)
    บ้านหนอง ตำบลน้ำโจ้ อำเภอแม่ทะ


    ที่มา วัดพระธาตุดอยแก้ว บ.หนอง ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง (พระเกศาธาตุ) - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!

    พระธาตุดอยผาปูน (พระเกศาธาตุ)
    บ้านหลุก ตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ


    ที่มา http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta17mini43.html
     
  7. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    วัดพระธาตุสันดอน (พระบรมธาตุส่วนตับ)
    บ้านนาดู่ ตำบลวังเงิน อำเภอแม่ทะ


    ประวัติวัดพระธาตุสันดอน

    ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มา ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาจากทางทิศใต้ ขึ้นมาถึงหัวเขาม่อนดอยที่นี่ เป็นเวลากลางวัน แต่วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยเมฆหมอก พระองค์ก็ได้มาประทับที่ม่อนดอยตรงนี้ เพื่อที่จะฉันเพล แต่ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไร เพราะอากาศมืดมิด พอดีมีเทพยดามาแปลงกายเป็นไก่เผือก ขันขึ้นที่ม่อนไก่แก้ว ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือไม่ไกลจากที่นี่นัก ซึ่งได้ชื่อว่าม่อนไก่แก้วมาจนถึงวันนี้ พอพระองค์ได้ยินเสียงไก่ขัน จึงนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ยังไม่บ่าย ก็จะฉันเพล จึงมีชาวละว้านำข้าวมาถวาย ขณะที่กำลังจะฉัน พอดีแลไปเห็นยักษ์ตนหนึ่งตามมา เมื่อพระองค์ฉันเพลเสร็จก็ถามยักษ์ว่า ท่านต้องการอะไรอยากกินอะไร พระพุทธเจ้าก็เลยล้วงตับของท่านออกมาให้ยักษ์กิน แต่ยักษ์กินไม่ได้เพราะตับมันร้อนเหลือเกิน พระองค์ก็เลยเอาตับฝังไว้ที่นี่เป็นพระธาตุให้ยักษ์รับเอาศีลห้า แล้วมอบให้ยักษ์รักษาพระธาตุนี้ไว้ตลอดห้าพันพระพรรษา และได้ตั้งชื่อพระธาตุนี้ว่า พระธาตุตับตอน (เพราะตับกับกินข้าวตอน) ต่อมากลายชื่อเป็นวัดพระธาตุสันดอนในปัจจุบัน

    พอพระองค์ฉันเพลเสร็จ ก็บ้วนปากไปทางม่อนไก่แก้ว เม็ดข้าวที่บ้วนออกไปกลายเป็นหินแก้ว หรือแก้วเสด็จ ได้ เสด็จไปมาระหว่างพระธาตุตับตอนและม่อนไก่แก้ว ปัจจุบันก็มีให้เห็นปรากฏอยู่นานๆ ครั้งในคืนเดือนเพ็ญ ต่อมามีหม่องชาวพม่าชื่อว่าหม่องป็อก ได้มาก่อสร้างเสริมแต่งองค์พระธาตุนี้ให้ใหญ่โตขึ้น ให้ชื่อว่าพระธาตุสันดอน ต่อมาได้มีโยมแม่ม่ายที่กำลังสร้างวัดบ้านมายอยู่ พอสร้างวัดบ้านมายเสร็จก็ได้มาสร้างอุโบสถขึ้นที่นี่ ในปีพ.ศ.2234 และก็ได้ทำนุบำรุงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
     
  8. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    วัดพระธาตุทันใจ ตำบลคอนไฟ อำเภอแม่ทะ

    วัดดอนไฟ เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 1674 (พ.ศ.ที่ใกล้เคียงที่สุด) จุลศักราช 493 (สคาตเมือง 493 ตัวปี) โดยมีพระสุตตะสมเป็นผู้เริ่มสร้างเป็นองค์แรกซึ่งเดิมทีนั้นย้ายมาจากวัดม่อนดอนขาวง (วัดกลางทุ่ง) มาสร้างใหม่มีชื่อว่า “วัดดอนไฟ” มาตลอดเท่าถึงทุกวันนี้ วัดแห่งนี้นับตั้งแต่เริ่มสร้างมาจนถึงปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2551 มีอายุได้นานถึง 877 ปี (ไม่ได้นับรวมกับโบสถ์และวัดกลาง) วัดดอนไฟ ตั้งอยู่เลขที่ 103 บ้านดอนไฟ หมู่ที่ 7 ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 52150 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือประมาณ 74 เมตร จรดที่สาธารณะ ทิศใต้ 65 ตารางเมตร จรดลำห้วย ทิศตะวันออกประมาณ 95 เมตร จรดที่นา ทิศตะวันตก 85 เมตร จรดถนนที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย วิหาร ศาลาการเปรียญและกุฎิ ปูชนียวัตถุ พระเจ้าทันใจ ฯลฯ และด้วยความงามเก่าแก่ของวัดดอนไฟ ซึ่งสร้างขึ้นมาเป็นเวลาแปดร้อยกว่าปีแล้วการปกครองนับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีเจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งแล้วถึง 40 รูป

    ที่มา http://www.watdonfai.com/activity.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watdonfai2.jpg
      watdonfai2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.7 KB
      เปิดดู:
      55
    • watdonfai1.jpg
      watdonfai1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.2 KB
      เปิดดู:
      47
  9. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุดอยไก่แก้ว (บ่อน้ำทิพย์)
    ตำบลคอนไฟ อำเภอแม่ทะ


    ประวัติพระธาตุดอยไก่แก้ว

    เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาจากทางทิศใต้ ขึ้นมาถึงหัวเขาม่อนดอยพระธาตุตับตอน (วัดพระธาตุสันดอน) เป็นเวลากลางวัน แต่วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยเมฆหมอก พระองค์ก็ได้มาประทับที่ม่อนดอยพระธาตุตับตอน (วัดพระธาตุสันดอน) เพื่อที่จะฉันเพล แต่ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไร เพราะอากาศมืดมิด พอดีมีเทพยดามาแปลงกายเป็นไก่เผือก ขันขึ้นที่ม่อนไก่แก้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระธาตุตับตอน (วัดพระธาตุสันดอน) นัก ซึ่งได้ชื่อว่า ม่อนไก่แก้ว มาจนถึงวันนี้ พอพระองค์ฉันเพลเสร็จก็บ้วนปากมาทางม่อนไก่แก้ว เม็ดข้าวที่บ้วนออกไปกลายเป็นหินแก้ว หรือแก้วเสด็จ ได้เสด็จไปมาระหว่างพระธาตุตับตอนและม่อนไก่แก้ว ปัจจุบันก็มีให้เห็นปรากฏอยู่นานๆ ครั้งในคืนเดือนเพ็ญ


    ที่มา พระธาตุดอยไก่แก้ว ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง (มีบ่อน้ำทิพย์) - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!
     
  10. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุม่อนทรายเหงา (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลแม่ตีบ อำเภองาว


    เป็นวัดเก่าแก่ที่มีตำนานคู่กับวัดม่อนทรายนอนของตำบลหลวงใต้
    อำเภองาว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กัน ประชาชนตำบลแม่ตีบให้ความเคารพนับถือมาช้านาน
    ตั้งอยู่บนเขา หมู่ที่ 3 ตำบลแม่ตีบ ในบริเวณวัดประกอบด้วยพระธาตุพระอุโบสถ
    วัดพระธาตุม่อนทรายเหงาเป็นพระธาตุเก่าแก่คู่กับวัดพระธาตุทรายนอน
    เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเคารพนับถือของชาวตำบลแม่ตีบ และใกล้เคียง
    ทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำเดือนแปด(แปดเป็ง) ประชาชนในตำบลแม่ตีบจะ
    ร่วมใจกันไปทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี มีการพัฒนา ปรับปรุง ดูแล
    ให้คงความเป็นสถานที่เคารพนับถือของประชาชนตำบลแม่ตีบ เป็นป่าไม้และ
    แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในตำบลแม่ตีบ มีการทำบุญถวาย
    สลากภัตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับไปแล้วในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 11
    ก่อนจะถึงวันออกพรรษาของทุกปี เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
    ประชาชนตำบลแม่ตีบทุกคน

    มีประวัติที่เล่าสืบกันมาว่า ....... อดีตกาลที่ผ่านมาเมื่อพระโพธิสัตว์ได้เกิด
    มาเป็นทรายคำ(เนื้อทราย) และถูกนายพรานผู้หนึ่งได้ไล่ล่าเอาชีวิตเพื่อเป็น
    อาหาร เมื่อถูกไล่ล่าจนเหนื่อยอ่อนพระโพธิสัตว์จึงนอนพักที่ภูเขาลูกหนึ่ง
    และคายเม็ดมะม่วงทิ้ง บริเวณนั้นเรียกว่า "ม่อนทรายนอน" ในปัจจุบัน
    ส่วนนายพรานก็ยังไม่ลดละยังไล่เนื้อทรายอยู่ พระโพธิสัตว์จึงได้วิ่งหนีมายัง
    เขาอีกลูกหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตำบลแม่ตีบและเข้าหลบซ่อนในถ้ำแห่งนั้น ณ
    ถ้ำแห่งนี้มีเทวดาชื่อ อาการะเทวดาอาศัยอยู่ จึงเนรมิตรรอยเท้าของ
    พระโพธิสัตว์จากรอยเท้าเข้าเป็นรอยเท้าออก เมื่อนายพรานมาถึงปากถ้ำ
    เห็นรอยเท้าเดินออกจากถ้ำจึงหมดอาลัยและอ่อนระโหยโรยแรง เนื่องจาก
    ไม่ได้กินอะไรจึงเสียชีวิตลงพระโพธิสัตว์เมื่อหายจากอาการเหน็ดเหนื่อยแล้ว
    ก็หลบออกจากถ้ำตอนกลางคืนสถานที่แห่งนี้จึงเรียกว่า "ม่อนทรายเหงา"
    และรีบหนีไปทางทิศตะวันออกข้ามแม่น้ำ(แม่น้ำยม)ไป ต่อมาชาวเวียงทิพย์
    จึงได้สร้างโบราณสถานเพื่อเป็นอนุสรณ์ เรียกว่า "วัดม่อนทรายเหงา"


    ที่มา http://www.thaitambon.com/tambon/ttrvList.asp?ID=520510
    ͺ�.

    วัดพระธาตุม่อนทรายนอน อำเภองาว (พระเกศาธาตุ)

    ที่มา ขอเชิญร่วมงานประเพณีขึ้นดอยไหว้สรงน้ำพระธาตุวัดม่อนทรายนอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง
    (พระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุส่วลำคอและหลัง)
    ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา


    วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย ตั้งอยู่ที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดพระธาตุลำปางหลวงถือเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายได้แก่ พระธาตุลำปางหลวง, วิหารหลวง, วิหารพระพุทธ, ซุ้มพระบาท, กุฏิพระแก้ว, วิหารพระเจ้าศิลา และพิพิธภัณฑ์

    พระธาตุลำปางหลวง ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลู เช่นกัน องค์พระธาตุเจดีย์สูง 22 วา 2 ศอก ฐานกว้างด้านละ 12 วา ก่อด้วยอิฐถือปูน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลให้พระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทอง ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระ อัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่


    ตามตำนานเล่าขาน

    ตามประวัติกล่าวว่า พระมหากัสสปเถระ และพระเมติยะเถระ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาจากประเทศอินเดีย เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช โปรดให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ นำไปประดิษฐานในอาณาจักรต่าง ๆ ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงมอบพระเกศาธาตุให้ชาวลัวะผู้หนึ่งชื่อกอน ลั๊วะ กอนได้สร้างพระสถูปเจดีย์สูงเจ็ดศอก เพื่อบรรจุพระเกศาธาตุไว้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 218 ได้มีพระอรหันต์สององค์คือ พระกุมารกัสสปะ ได้นำเอาพระอัฐิธาตุพระนลาตข้างขวา และพระเมฆิยะ ได้นำเอาอัฐิธาตุลำคอ มาบรรจุไว้ในพระสถูปเจดีย์ไว้อีก พระสถูปเจดีย์องค์นี้ได้มีการสร้างเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง สำหรับองค์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ได้สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2309 โดยเจ้าเมืองหาญศรีธัตถะมหาสุรมนตรี


    ที่มา http://personal.swu.ac.th/students/hm471010083/work05.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. nalovethorfun

    nalovethorfun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณ คุณไอยมากนะคะ

    ขอบคุณ คุณไอยมากนะคะที่เอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาลง ขอให้ความดีที่คุณไอยได้ทำช่วยให้คุณไอยและครอบครัว รอดพ้นจากอุปสรรคทั้งปวงนะคะ
     
  13. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    สวัสดีค่ะ กลับมาถึงบ้านที่ อ. ฮอด จ. เชียงใหม่
    ได้หลายวันแล้ว และขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยเกิ้ง
    เพื่ออัญเชิญพระธาตุข้าวบิณฑ์ ไปที่วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง
    เดินทางไปหลายที่ค่ะ แต่ด้วยความรีบ ลืมของสำคัญไปได้
    เลยไม่มีรูปถ่ายมาฝากกันเลยค่ะ
     
  14. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ตอนขึ้นไปวันแรก คนที่วัดตกใจกันใหญ่ ว่าขึ้นมาได้อย่างไร
    ก็ไม่ให้แปลกใจได้อย่างไรค่ะ เพราะทางขึ้นไปวัดพระธาตุดอยเกิ้ง
    วิบากมาก ขนาดคนพื้นที่ ยังไม่มีใครยอมไปเลยค่ะ
    ไอยก็เลยยืมมอเตอร์ไซด์น้าขึ้นไป กว่าจะขึ้นไปได้ ก็เกือบ 3 ชั่วโมง
    ขนาดมีถนนปูนแล้วนะค่ะ แต่ก็เป็นช่วง ๆ เท่านั้น แถมทางก็เปลี่ยวมาก
    ไม่มีบ้านคนอยู่เลย มีแต่ป่ากับป่าและข้างทางอีกด้านก็เป็นเหว
    ถ้าใครคิดจะขึ้นไป ก็เตรียมรถ 4WD ไปจะดีกว่านะค่ะ และ
    ควรเดินทางตอนหน้าหนาวหรือหน้าร้อน ถ้าไปหน้าฝน รับรองสนุกแน่
    แต่ถ้าจะเฮ้วแบบไอย ก็ห้อมอเตอร์ไซด์ไปได้ค่ะ แต่ต้องรู้จังหวะรถ
    ให้ดีนะค่ะ เพราะทางนั้นขึ้นเขาสลับลงเขาไปตลอด แถมทางขาดเป็น
    ดินลูกรัง ถ้าขับไม่ดีมีสิทธิรถล้มได้นะค่ะ ถ้าขับมอเตอร์ไซด์ไป
    แนะนำว่าให้ขี่คนเดียว ถ้ามีคนซ้อนท้ายไปด้วยจะไปรอดได้ยากนะค่ะ
    เพราะบังคับรถลำบาก นอกจากขี่แข็งจริง ๆ ค่ะ แต่คนในพื้นที่เขาฮ้อ
    กันได้สบาย ๆ แถมขับรถสวนกัน ยังยิ้มเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ
     
  15. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พึ่งจะถึงบ้านเมื่อกี้นี้เองค่ะ ตอนลงมาพระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว
    ขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยเกิ้ง ข้างบนสงบมากค่ะ มองลงไปเห็น
    พื้นที่ด้านล่างและแม่น้ำปิงอยู่ลิบ ๆ ขึ้นไปไหว้ได้สองครั้งแล้ว
    อิ่มบุญจริงค่ะ ๆ สมกับที่สมบุกสมบันขึ้นไปจริง ๆ อยากจะอยู่
    บนนั้นนาน ๆ จังเลยค่ะ ชอบมาก เงียบสงบดี พอไหว้พระธาตุเสร็จ
    ก็ลงมารอครูบาบุญศรี อภิปุณโณ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุดอยเกิ้ง
    อยู่ที่หน้าศาลา ซึ่งท่านก็เล่าประวัติของวัดให้ฟัง รวมถึงเรื่องราว
    ของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นด้วยค่ะ แหมพูดอย่างนี้ผู้อ่านคงอยากทราบ
    แล้วซินะค่ะว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างไรบ้าง
     
  16. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ครูบาท่านพูดถึงเรื่องของภัยพิบัติว่าเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
    เพราะอยู่ในช่วงกึ่งพุทธกาล ซึ่งกึ่งพุทธกาลของพระศาสดา
    แต่ละพระองค์ จะต้องเกิดภัยพิบัติตามวาระของพระพุทธศาสนา
    ดังนั้นภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ย่อมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
    แต่ไม่ขอพูดถึงวันที่จะเกิดภัยพิบัติ ท่านเล่าว่าให้ดูที่คุนหมิง (จีน)
    เกิดแผ่นดินไหวถล่มเมืองคุนหมิงเมื่อไหร่ ให้คนไทยเตรียมตัว
    อพยพหนีได้ทันทีเลย เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็จะลามมาถึง
    ประเทศไทย เพราะในนิมิตท่านเห็นคุนหมิงถล่มทั้งเมือง
    เป็นแผ่นดินยุบลงไป ซึ่งก็ตรงกับที่หลวงเสเคยพูดไว้เหมือนกันว่า
    จะเกิดแผ่นดินยุบทั่วโลก
     
  17. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านจาริกบุญไปทางเมืองจีนเสมอ
    และได้เคยเอ่ยให้พระที่ท่านได้ไปจาริกบุญว่า
    จะเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาสองลูกจะบีบตัวเขาหากัน
    และเมืองที่อยู่ตรงกลางหว่างเขาจะถูกบีบยุบตัวลงไป
    ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง ๆ ตอนที่ประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหว
    และที่สำคัญท่านพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วยค่ะ
     
  18. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ครูบาท่านว่าเชียงใหม่ก็ไม่รอด ไอยก็เลยถามครูบาว่า
    ทีอำเภอฮอดมีคนนำมาลงว่าจะเกิดภูเขาไฟระเบิด
    แต่ไอยว่าไม่น่าจะใช่นะค่ะ ท่านบอกว่าภูเขาไฟไม่ระเบิด
    แต่จะเกิดแผ่นดินแยกตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่มาถึง
    บ้านวังลุง อำเภอฮอด เพราะมีแนวรอยเลื่่อนพาดผ่าน
    ท่านบอกว่าให้ดูตามแนวรอยเลื่อน เพราะแผ่นดินแยก
    ตามแนวรอยเลื่อนนั่นแหละ

    ประเทศไทยมีรอยเลื่อนมีพลังจำนวน 45 รอยเลื่อนได้แก่ รอยเลื่อนเชียงแสน แม่จัน แม่อิง มูลาว หนองเขียว เชียงดาว เมืองแหง แม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาหลวง แม่สะเรียง พร้าว ปัว ดอยหมอก วังเหนือ แม่งัด แม่ปิง ดอยปุย แม่ทา อมก๋อย เมืองปาน แม่หยวก แม่ทะ เถิน แม่วัง ท่าสี งาว แม่ติป สามเงา ผาแดง ดอยหลวง แม่ยม แม่กลอง แพร่ อุทัยธานี อุตรดิตถ์ น้ำปาด เขาดำ ท่าอุเทน ศรีสวัสดิ์ เจดีย์สามองค์ เขาราวเทียน ระนอง อ่าวลึก และ คลองมะรุ่ย

    ที่มา http://www.naturalsoft.com/faults.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • roi1.jpg
      roi1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.8 KB
      เปิดดู:
      89
  19. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ท่านเล่าว่าที่กรุงเทพฯ น้ำไม่ท่วม ก็เพราะมีคนมาบูรณะวัดแห่งหนึ่ง
    ในอำเภอดอยเต่าเอาไว้ จึงทำให้กรุงเทพฯ รอดพ้นจากการจมน้ำ
    ซึ่งจริง ๆ แล้วจะต้องเจอหนักกว่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รอดพ้นหรอกนะ
    เพราะคราวก่อนแค่บททดสอบ คราวหน้าจะหนักกว่านี้อีก
    ดังนั้นทุกคนอย่าประมาทนะค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าจะท่วมสูง
    ประมาณ4-5 เมตรเลยละค่ะ
     
  20. ศิริปัญญา

    ศิริปัญญา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +74
    ยังไม่รู้ว่าท่วมเมื่อไหร่ใช่ไหมคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...