อ่าน วิสุทธิมรรค พุทธโฆษาจารย์

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย Samarnl, 18 ตุลาคม 2012.

  1. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    หนังสือ "วิสุทธิมรรค" พุทธโฆสจารย์ โดยสมเด็จพระพุทฒาจาย์ (อาจ อาสภมหาเถร) (8.26*11.69นิ้ว)/ 1268หน้า

    [​IMG]

    คลิ๊ก =>http://namjaidham.net/book/C/c00-e021-01.pdf <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->​
     
  2. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]
    ท่านพระพุทธโฆสะ นำคัมภีร์วิสุทธิมรรค ที่ท่านรจนาแล้ว ๓ ชุด
    ถวายสังฆเถระท่ามกลางชุมนุมสงฆ์คณะ มหาวิหาร

    ภาพจิตกรรม ณ กัลยาณีวิหาร ศรีลังกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 ตุลาคม 2012
  3. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]
     
  4. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]

    คลิ๊ก =>เปิดอ่านตรงนี้ได้เลยครับ http://namjaidham.net/book/C/c00-e021-01.pdf <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 ตุลาคม 2012
  5. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
  6. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ครั้นล่วงเวลาไปได้ ๙๕๖ ปี นับแต่กาลปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคสัมมาสัมพุทธเจ้า พระราชา มีนามว่า มหานาม ทรงครองราชย์ในลังกาทวีป กล่าวกันว่าในชมภูทวีป(อินเดีย)สมัยนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่ง บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหึ่ง ณ ที่ใกล้สถานที่(พระพุทธเจ้า)ตรัสรู้ ในมัชฌิมประเทศ พราหมณ์หนุ่มนั้นเชี่ยวชาญในศีลปะทั้งปวง รู้จบไตรเพท ท่องเที่ยวตลอดหมู่บ้าน นิคม ชนบท และราชธานีทั้งหลาย ในชมพูทวีป ณ ที่แห่งใด มีสมณะและพราหมณ์บัณฑิตพวกอื่นมิสามารถกล่าวแก้ปัญหาที่พราหมณ์หนุ่มนั้นถามได้ แต่พราหมณ์หนุ่มนั้นวิสัชนาปัญหาที่สมณะและพราหมณ์บัณฑิตพวกอื่นถามได้ ด้วยอาการอย่างนี้ พราหมณ์หนุ่มนั้นจึงครอบงำไปตลอดทั้งสากลชมพูทวีปแล้วได้เดินทางมาถึงวิหารแห่งหนึ่ง
    แต่ทว่าในวิหารนั้นมีพระภิกษุอยู่หลายร้อย ท่าพระเรวตะ ผู้เป็นพระสังฆเถระของพระภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น เป็นพระมหาขีณาสพได้บรรลุปฏิสัมภิทา ๔ ผู้ทำลายวาจาทะของฝ่ายอื่น ครั้งนั้นแล พราหมณ์หนุ่ม ร่ายปตัญชลีมนต์ ให้มีปริมณฑลโดยสมบูรณ์บทอยู่ตลอดคืน ครั้นพระมหาเถระใด้ยินเสียงพราหมณ์ (หนุม) สาธยายอยู่ ก็รู้ได้ว่า"พราหมณ์ผู้นี้นั้นมีปัญญมาก เราควรฝึกฝนพราหมณ์หนุ่มผู้นั้นไว้" จึงเรียกพราหมณ์หนุ่มนั้นมาหา แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า "นี่แน่ะพราหมณ์ใครหนอแล ร้องเหมือนเสียงฬาร้อง?" (พราหมณ์หนุ่มถามว่า) ข้าแต่นักบวชท่านรู้เสียงร้องของฬาทั้งหลายด้วยหรือ?" (พระเถระตอบว่า) "จ้ะ ฉันรู้" แต่ว่าพราหมณ์หุ่มนั้นโดยตนเองก็ไม่เห็นนัยของฐานะที่เป็นเงื่องำในไตรเพทซึ่งมีอิติหาสเป็นอันดับที่ ๕ อยู่แล้ว อีกทั้งอาจารย์ของพราหมณ์หนุ่มนั้นก็ไม่เหมือนเช่นกัน พราหมณ์หนุ่มจึงถามพระเถระในฐานะตรงที่เป็นเงื่อนงำเหล่านั้น แท้จริง พระเถระเป็นผู้จบไตรเพทแม้โดยปรกติอยู่แล้ว แต่ ณ บัดนี้ ท่านได้บรรลุปฏิสัมภิทา ๔ อีกด้วยเพราะฉะนั้น ท่านจึงไม่มีความหนักใจในการวิสัชนาปัญหาเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงวิสัชนาปัญหาเหล่านั้นได้ทันทีทันใด แล้วกล่าวกับพราหมณ์หนุ่มว่า"ดูก่อนพรามณ์ผู้เจริญ ฉันถูกท่านถามมานานแล้ว บัดนี้จักขอถามปัญหากะท่านสักข้อหนึ่ง ท่านจะพยากรณ์ปัญหาของฉันได้ไหม ?" (พราหมณ์หนุ่มตอบว่า) "ได้ขอรับ ท่านนักบวช โปรดถามเถิด" พระเถระจึงถามปัญหานี้ ใน (คัมภีร์ยมกตอนจิตตยมกว่า) "จิตของบุคคลใดบังเกิดขึ้น ยังไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นจักดับ จักไม่บังเกิดขึ้นหรือ ? ก็หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จักไม่บังเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นบังเกิดขึ้นอยู่ ยังไม่ดับ....?" พราหมณ์หนุ่มมิสามารถจำเบื้องบนหรือเบื้องล่าง(เบื้องต้นหรือเบื้องปลาย) จึงเรียนถามว่า "ข้าแต่นักบวช นี้มีซื่อว่ากระไร ?" (พระเถระตอบว่า) "ดูก่อนพราหมณ์ นี้มีนามว่า พระพุทธมนต์" (พราหมณ์หนุ่มกล่าวว่า) "ข้าแต่ท่านผู้เจริญ แต่ว่า ท่านสามารถให้พุทธมนต์นี้แก่ข้าพเจ้าได้ไหม?" (พระเถระตอบว่า) เราสามารถให้ได้แก่บุคคลที่ถือบวชอย่างที่พวกเราถืออยู่แล้ว" ครั้นแล้วพราหมณ์หนุ่มก็ขอบรรพชา เพื่อต้องการได้(พุทธมนต์)พระเถระจึงให้พราหมณ์หนุ่มนั้นบรรพชาแล้วให้อุปสมบทแล้วให้เล่าเรียนพระพุทธวจนะคือพระไตรปิฎก พระภิกนั้นได้ปรากฎแล้วในโลกว่า "พระพุทธโฆสะ"

    รออ่านต่อ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 ตุลาคม 2012
  7. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    เมื่อพระพุทธโฆสะอยู่ในวิหารนั้น ได้รจนาปกรณ์ชื่อว่า ญาโณทัย ไว้ในวิหารแล้วเริ่มจะรจนาคัมภีร์ชื่อว่ อัฎฐสาลินี อันเป็นคัมภีร์อรรถกถาของพระอภิธัมมสังคณีปกรณ์ และคัมภีร์อรรถกถาพระปริตต์ ครั้นพระเถระได้เห็นคัมภีร์อรรถกถานั้นแล้วจึงกล่าวอย่างนี้ว่า "ดูก่อนพุทธโฆสะผู้อาวุโส ในชมพูทวีปนี้มีอยู่แต่เพียงบาลีพระไตรปิฎกเท่านั้น หามีมีอรรถกถาของบาลีพระไตรปิฎกนั้นและเถรวาทอยู่ไม่ แต่คัมภีร์อรรถกถาสิงหฬที่ขึ้นสู่ทำสังคายนา ๓ ครั้งแล้ว ซึ่งพระเถรทั้งหลายม่ท่านพระสารีบุตรเป็นต้นรจนาไว้แล้วท่านมหินท์ตรวจตรากถามรรคแล้วรจนาไว้ด้วยภาษาสิงหฬ ยังเป็นไปอยู่ในทวีปสิงหฬ เธอเองจงไปในทวีปสิงหฬ ตรวจตราดูคัมภีร์อรรถกถาทั้งปวงแล้วแปลกลับมาเป็นภาษามคธ อรรถกถา(ที่แปลกลับมา) นั้น จักนำมาซึ่งประโยชน์เกื้อกูลต่อชาวโลกทั้งปวง" ครั้นพระเถระกล่าวอย่างนั้น ท่านพุทธโฆสะก็ถึงกับปิติโสมนัส กราบลาพระอุปัชฌายะและพระภิกษุสงฆ์ แล้วเดินทางมาถึงท่าเรือโดยลำดับ ขึ้นเรือแล่นไป พบท่าพุทธทัตตะเถระสวนทางมา ณ ท่ามกลางมหาสมุทร ทำการสนทนาปราศัยกันแล้วเดินทางต่อไปจนถึงท่าเรือในลังกา ในเวลานั้นพระราชาทรงพระนามว่า มหานาม เสวยราชย์ที่ลังกาทวีปครั้นนั้นแล ท่านพุทธโฆสะไปพบพระภิกษุสงฆ์ในวิหาร ณ กรุงอนุรุธปุระแล้วไปยังสำนักของพระสังฆะปาละเถระ ในเรือนมหาปธาน ได้ฟังอรรถกถาในภาษาสิงฬลและเถรวาททั้งหมดแล้ว ทำความตกลงใจว่า "นี้เป็นพระบรมพุทธาธิบายขององค์พระผู้เป็นเจ้าของพระธรรม" จึงไปยังที่ประชุมสงฆ์ในวิหารนั้น แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า "ข้าแต่สงฆ์ผู้เจริญ ขอโอกาส โปรดให้คัมภีร์ทั้งหลายแก่กระผม เพื่อรจนาอรรถกถาพระ(ไตร)ปิฎกด้วยเถิด"
    ครั้งนั้นแลเพื่อทดสอบความสามารถของท่านพระพุทธโฆสะนั้น พระภิกษุสงฆ์จึงมอบพระคาถาให้ ๒ พระคาถา แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า "ขอท่านจงแสดงความสามารถใน ๒ พระคาถานี้ก่อน เราเห็นความสามารถของท่านแล้ว จะมอบคัมภีร์ให้แม้ทั้งหมดเลย" ครั้งนั้นแล ท่านพุทธโฆสะตรวจดูบาลีพระไตรปิฎกและอรรถกถาของบาลีพระไตรปิฎกนั้นแล้วได้รวบรวมรจนาปกรณ์ชื่อว่า วิสุทธิมัคค ขึ้นไว้ในครั้งนั้น เพื่อประกอบความเชี่ยวชาญของท่านพุทธโฆสะให้ปรากฎในประชาชน เทวดาได้ทำให้คัมภีร์ (ที่ท่านได้รจนาไว้แล้ว) นั้นหายไปเสีย ท่านพระพุทธโฆสะนั้นก็ได้รจนาใหม่ขึ้นอีกคัมภีร์หนึ่ง เทวดาก็ทำให้คัมภีร์นั้นหายไปอีก ท่านก็รจนาใหม่อีกขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ ขณะนั้นเทวดาก็ถวาย ๒ คัมภีร์(เดิม)คืนแก่ท่าน เวลานั้นจึงได้มี(วิสุทธิมัคคปกรณ์)เป็น ๓ คัมภีร์ ครั้นแล้วท่านพระพุทธโฆสะก็ถือเอาคัมภีร์ทั้งสามจบนั้นไปมอบถวายแก่ภิกษุในกาลนั้น พระภิกษุจึงให้อ่านทั้งสามคัณฐะ หรือโดยอักขระ หรือโดยบท หรือโดยพยัญชนะ หรือโดยอรรถ หรือโดยเบื้องต้นและเบื้องปลาย หรือโดยเถรวาทเป็นต้น หรือโดยพระบาลีทั้งหลาย เล่ากันว่า เมื่อท่านพระพุทธโฆสะได้รจนาคัมภีร์ทั้ง ๓ จบด้วยประการฉะนี้ เทวดาทั้งหลายได้ทำสาธุการ อนึ่ง สมัยนั้นแลภิกษุหลายพันรูปร่วมกันประชุมอยู่ในวิหารได้เห็นความมหัศจรรย์นั้น ก็พากันยินดีชื่ชมให้สาธุการ แล้วโฆษณาขึ้นว่า "ท่านองค์นี้เป็นพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์มา(เกิด)เป็นแน่"

    มีต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2012
  8. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ครั้งนั้น ครั้นพระมหาราชาได้ทรงสดับอุโฆษนั้น จึงแวดล้อมด้วยราชบริษัทหมู่ใหญ่ เสด็จออกพระนครไปยังมหาวิหาร ทรงนมัสการพระสงฆ์ แล้วทรงนมัสการพระพุทธโฆสะ ตรัสนิมนต์ว่า "ท่านผู้เจริญขอโอกาส นิมนต์ภิกษาในเคหะของฉัน จนกว่าจะรจนาพระธรรมจบ" ท่านรับนิมนต์โดยดุษณีภาพ ครั้งนั้นแล พระภิกษุสงฆ์ได้มอบคัมภีร์บาลีพระไตรปิฎกพร้อมทั้งคัมภีร์อรรถกถาในภาษาสิงหฬให้(แก่ท่านพุทธโฆสะ) ครั้งแล้วท่านพระพุทธโฆสะได้รับเอาคัมภีร์ทั้งหมด แล้วไปอยู่ในปราสาทแห่งหนึ่ง ชื่อว่า ปธานฆระ ณ ด้านทักษิณของมหาวิหาร แล้วแปลอรรถกถา ภาษาสิงหฬทั้งหมด จรนาเป็อรรถกถาแห่งพระไตรปิฎกในภาษามคธซึ่งเป็นภาษาเดิม
    ความจริง คัมภีร์อรรถกถาในภาษาสิงหฬ มีอยู่ ๓ อย่างคือ

    (๑) มหาอัฏฐกถา
    (๑) ปัจจรียอัฏฐกถา และ
    (๓) กุรุนทีอัฏฐกถา

    (๑) อรรถกถาที่ขึ้นสู่การทำสังคายนาครั้งใหญ่ ซึ่งท่านมหาหินทเถระนำมาแล้วรจนาไว้ในภาษาสิหฬ ชื่อว่า มหาอัฏฐกถา
    (๒) อรรถกถาที่พระภิกษุทั้งหลาย ประชุมกันในเรือนแพ ซึ่งเป็นภาษาสิงหฬมีชื่อ (เรียกเรือนแพ ว่า) ปัจจรีย แล้วรจนาไว้ ชื่อว่า ปัจจรียอัฏฐกถา
    (๓) อรรถกถาที่พระภิกษุทั้งหลาย ประชุมกันในกุรุนทเวฬุวิหาร ซึ่งมีอยู่แล้วรจนาไว้ซื่อว่า กุรุนทีอัฏฐกถา
    วาทะที่พระอาจารย์ทั้งหลาย มีพระอาจารย์ชั้นเป็นพระเถระเป็นต้นในกาลก่อน ถือเอาพระวินัยพระบาลีรจนาไว้ ชื่อว่า เถรวาท

    แท้จริง ท่านพระพุทธโฆสะได้ปริวรรตอัฏฐกถากุรุนทีจากภาษาสิงหฬก่อน แล้วได้รจนาอรรถกถาวินัยปิฎก ชื่อว่า สมันตปาสาทิกา
    ซึ่งเป็นภาษามคธ ซึ่งเป็นภาษาเดิม ต่อจากนั้น ใส่วพระสุตตันตปิฎก ได้ปริวรรตมหาอัฏฐกถา จากภาษาสิงหฬ แล้วเรียบเรียงอรรถกถา
    ทีฆนิกายไว้ชื่อว่า สุมังคลวิลาสินี อีกทั้งได้เรียบเรียงอรรถกถามัชฌิมนิกายไว้ ชื่อว่า ปปัญจสูทนี เรียบเรียงอรรถกถาสังยุตตนิกายไว้
    ชื่อว่า สารัตถัปปกาสินี และเรียบเรียงอรรถกถาอังคุตตรนิกายไว้ ชื่อว่า มโนรถปูรณี ในลำดับนั้นได้ปริวรรตปัจจรียอัฏฐกถา ในอภิธัมมปิฎก
    จากภาษาสิงหฬ แล้วเรียบเรียงอรรถกถาธัมมสังคณีไว้ ชื่อว่า อัฏฐสาลินี ด้วยภาษามคธซึ่งเป็นภาษาเดิม อีกทั้งเรียบเรียงอรรถกถาวิภังคปกรณ์ไว้
    ชื่อว่า สัมโมหวิโนทนี และเรียบเรียงอรรถกถาของปกรณืทั้ง ๕ ชื่อว่าปรมัตถทีปนีไว้ด้วย

    ท่านพระพุทธะโฆสะ ได้ทำอรรถกถาภาษาสิงหฬแม้ทั้งหมดให้เป็นอรรถกถาแห่งพระไตรปิฏก ด้วยภาษมคธ ซึ่งเป็นภาษาเดิมอย่างนี้
    ด้วยประการดังกล่าวนี้แล อรรถกถา(ภาษามคธ) แม้นั้น ได้นำมาซึ่งประเกื้อกูลแก่ชาวต่างประเทศทั้งหลายทั้งปวง เมื่อการแปลอรรถกถา
    พระไตรปิฎกสิ้นสุดลง ได้เกิดแผ่นดินไหว

    ยังมีต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ตุลาคม 2012
  9. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ปัญหาเรื่องศีล
    ๑. อะไรชื่อว่าศีล.................................................................................................................................น. ๙
    ๒. ที่ซื่อว่าศีล เพราะอรรถว่ากระไร..............................................................................................................น. ๑๑
    ๓. อะไร เป็นลักษณะ, เป็นรส, เป็นอาการปรากฎและเป็นปทัฏฐานของศีล....................................................................น. ๑๒
    ๔. ศีลมีอานิสงส์อย่างไร........................................................................................................................น. ๑๓
    ๕. ศีลนี้มีกี่อย่าง.................................................................................................................................น. ๑๕
    ๖. อะไรเป็นความเศร้าหมองของศีล.............................................................................................................น. ๗๒
    ๗. อะไร เป็นความผ่องแผ้วของศีล..............................................................................................................น. ๗๔​


    คลิ๊ก =>เปิดดูตรงนี้ครับ http://namjaidham.net/book/C/c00-e021-01.pdf


    เรื่องกุลูปกภิษุ....................................................................................................................................น. ๔๓
    เรื่องพระเถระถูกโจรมัด...........................................................................................................................น. ๕๓
    เรื่องพระวังคีสเถระ...............................................................................................................................น. ๕๕​
    เรื่องพระจิตตคุตตเถระ...........................................................................................................................น. ๕๖
    เรื่อง พระมหามิตตเถระ...........................................................................................................................น. ๕๗
    เรื่องพระสารีปุตตเถระต้องอาพาธ................................................................................................................น. ๕๙
    เรื่องพระอัมพขาทกมหาติสสเถระ................................................................................................................น. ๖๖
    เรื่องพระมหาสังฆรักขิตเถระ......................................................................................................................น. ๖๗
    เรื่องพระกุฏุมพิยปุตตติสสเถระ...................................................................................................................น. ๖๘
    เรื่องพระมหาเถระรูปใดรูปหนึ่ง....................................................................................................................น. ๖๙
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ตุลาคม 2012
  10. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ปัญหาเรื่องสมาธิ
    ๑. อะไร ชื่อว่าสมาธิ..............................................................................................................................น. ๑๓๔
    ๒. ที่ชื่อว่าสมาธิ เพราะอรรถว่ากระไร.............................................................................................................น. ๑๓๔
    ๓. อะไรเป็นลักษณะ, เป็นรส, เป็นอาการปรากฎ และเป็นปทัฏฐานของสมาธิ...................................................................น. ๑๓๔
    ๔. สมาธิมีกี่อย่าง.................................................................................................................................น. ๑๓๕
    ๕. อะไรเป็นความเศร้าหมองของสมาธิ...........................................................................................................น. ๑๔๔
    ๖. อะไรเป็นความผ่องแผ้วของสมาธิ.............................................................................................................น.๑๔๔
    ๗. สมาธินั้น จะพึงเจริญภาวนาอย่างไร...........................................................................................................น.๑๔๖
    ๘. อะไร เป็นอานิสงของสมาธิภาวนา​

    คลิ๊ก =>เปิดดูตรงนี้ครับ http://namjaidham.net/book/C/c00-e021-01.pdf

    เรื่องพระภิกษุ ๒ รูป................................................................................................................................น.๑๔๘
    เรื่องภิกษุหนุ่ม......................................................................................................................................น.๑๕๐
    เรื่องพระมัชฌิมภาณกเทวเถระ.................................................................................................................... น.๑๕๖
    เรื่องพระนาคเถระ..................................................................................................................................น.๑๕๖
    เรื่องพระจูฬาภยเถระ...............................................................................................................................น. ๑๕๗​

    ปาลิโพธิ ๑๐ อย่าง................................................................................................................................น.๑๔๗
    กัมมัฏฐาน ๒ อย่าง................................................................................................................................น.๑๕๙
    อาจารย์ผู้ให้กัมมฐาน..............................................................................................................................น. ๑๖๐
    ระเบียบเข้าหาอาจารย์ผู้เป็นกัลยาณมิตร..........................................................................................................น. ๑๖๓
    จริต ๖ อย่าง.......................................................................................................................................น. ๑๖๖
    มติมหาพุทธโฆสะเถระแย้งเกจิอาจารย์............................................................................................................น. ๑๗๐
    ธรรมเป็นที่สบายของคนราคจริต..................................................................................................................น.๑๗๘
    ธรรมเป็นที่สบายของคนโทสจริต.................................................................................................................น.๑๗๙
    ธรรมเป็นที่สบายของคนโมหจริต..................................................................................................................น.๑๘๐
    ธรรมเป็นที่สบายของคนศรัทธาจริต...............................................................................................................น.๑๘๑
    แสดงจำนวนกัมมัฏฐาน ๔๐.......................................................................................................................น. ๑๘๒
    อารมณ์ของฌาน..................................................................................................................................น.๑๘๙
    อัชฌาสัย ๖ ประการ...............................................................................................................................น.๑๙๙​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ตุลาคม 2012
  11. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    เลือกหาวัดอันสมควรแก่ภาวนา
    วัดที่ไม่สมควรแก่สมาธิภาวนา..................................................................................................................น.๒๐๔
    วัดที่สมควรแก่สมาธิภาวนา.....................................................................................................................น.๒๑๑
    เจริญปฐวีกสิณที่เป็นเอง........................................................................................................................น.๒๑๔
    ได้อุคคหนิมิต ได้ปฏิภาคนิมิต..................................................................................................................น.๒๑๗
    ได้อุปจารสมาธิ....สมาธิ ๒ อย่าง..............................................................................................................น. ๒๑๘
    วิธีรักษาปฏิภาคนิมิต............................................................................................................................น. ๒๒๐
    ถ้ายังไม่สำเร็จอัปปนาฌานต้องบำเพ็ญอัปปนาโกศล ๑๐ ประการ...............................................................................น.๒๒๓
    ศรัทธากับปัญญาต้องเสมอกัน...สมาธิกับวิริยะต้องเสมอกัน....................................................................................น. ๒๒๖
    ธรรม ๗ ที่เหตุให้ธัมมวิจยะเกิด...................................................................................................................น.๒๓๑
    ธรรม ๑๑ ที่เหตุให้ธัมมวิริยะเกิด..................................................................................................................น.๒๓๑
    ธรรม ๑๑ ที่เหตุให้ปิติเกิด.........................................................................................................................น.๒๓๒
    ธรรม ๑๑ ที่เหตุให้สมาธิเกิด......................................................................................................................น.๒๓๖
    ประคองจิตให้อยู่ในปฏิภาคนิมิต..................................................................................................................น.๒๓๘
    อธิบายการบรรลุปฐมฌาน........................................................................................................................น. ๒๔๑
    องค์ฌาน ๕ เป็นปฏิปักษ์แก่นิวรณ์ ๕ ............................................................................................................น.๒๔๗
    อธิบายวิตก วิจาร.................................................................................................................................น. ๒๔๙
    อธิบายบรรลุแล้วซึ่งปฐมฌาน....................................................................................................................น.๒๕๕​

    คลิ๊ก =>เปิดดูตรงนี้ครับ http://namjaidham.net/book/C/c00-e021-01.pdf


    เรื่องพระวักกลิ.....................................................................................................................................น.๒๒๔
    เรื่องพระโสณเถระ.................................................................................................................................น.๒๒๕
    เรื่องพระติสสเถระ.................................................................................................................................น.๒๕๒
    เรื่องกุลธิดาคนหนึ่ง...............................................................................................................................น.๒๕๒​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ตุลาคม 2012
  12. ans2554

    ans2554 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +14
    พระธรรมคือคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ไม่ต้องรจนาใหม่ ไม่ต้องบัญญัติใหม่ และต้องไม่ล้มล้าง
    ไม่เข้าใจว่า ในโลกนี้ มีพระไตรปิฎกแล้ว ยังจะมีมนุษย์หน้าไหน รจนาได้ดีกว่าพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นธรรมและวินัยที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ดีแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...