" พระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน ? "

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย newhatyai, 17 กันยายน 2007.

  1. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,204
    พระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน ?
    โดย อาจารย์วรรณสิทธิ์ ไวทยะเสวี
    นโมตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ
    ปัญหาที่ตั้ง ถามขึ้นว่า พระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน ? เพื่อจะได้สำรวจตรวจตราดูว่า พระพุทธศาสนาปัจจุบันนี้มีความเจริญขึ้น หรือมีความเสื่อมไปอย่างไรหรือไม่ จะได้ช่วยกันแก้ไขทะนุบำรุงให้เจริญมั่นคงยิ่งขึ้นต่อไป
    พุทธศาสนิกชนที่นับถือพุทธศาสนากันในปัจจุบันนี้ ส่วนมากนับถือด้วยศรัทธา ที่ยังขาดปัญญาร่วมด้วย
    โดยจะเห็นว่า พุทธศาสนิกชนส่วนมากยังเข้าใจว่า พระพุทธศาสนาอยู่ที่สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง คือที่ประสูตร ที่ตรัสรู้ ที่แสดงปฐมเทศนา และที่ดับขันธปรินิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงพากันไปบูชากราบไหว้สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งนี้เป็นประจำทุกปี บางท่านไปมาแล้ว ๔ - ๕ ครั้ง ก็ยังประทับใจอยู่อยากจะไปอีก
    พุทธศาสนิกชนบางหมู่เหล่าเข้าใจว่า พระพุทธศาสนามีความสำคัญอยู่ที่ พระบรมสารีริกธาตุ มีพระเขี้ยวแก้ว ที่ประเทศศรีลังกา เป็นต้น พากันไปบูชาเป็นหมู่เป็นคณะในประเทศนั้น ๆ
    บางหมู่เหล่าเข้าใจว่า พระพุทธศาสนาอยู่ที่วัดวาอาราม โบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญตลอดจนพระเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือบรรจุพระไตรปิฎกไว้ภายในห้องใต้เจดีย์ก็มี ประชาชนพากันไปกราบไหว้บูชา เห็น ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไป หรือไม่ก็สำคัญว่า พระพุทธศาสนา อยู่ที่พระภิกษุและสามเณร ถ้าวัดวาอารามใดไม่มีพระภิกษุสามเณร ก็จะสำคัญว่า พระพุทธศาสนาเสื่อมไป ต้องเป็นธุระจัดการบวชพระภิกษุบวชสามเณร อุดหนุนมิฉะนั้น พุทธศาสนาก็จะสูญสิ้นไป จึงนิยมพากันจัดการอุปสมบทหมู่ หรือมิฉะนั้นก็พากันไปกราบไหว้พระ ๘ วัด ๙ วัดบ้าง
    ส่วนพุทธศาสนิกชน ที่สนใจในการศึกษาค้นคว้าก็จะเห็นว่า พระพุทธศาสนาอยู่ที่พระไตรปิฎก หรืออยู่ที่ภาษาบาลี จำเป็นต้องเรียนภาษาบาลีให้ได้ประโยคสูงสุด จึงจะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้
    บางหมู่เหล่าเข้าใจว่า พระพุทธศาสนาอยู่ที่พระรัตนตรัย ก็พากันไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็น เป็นการบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อให้พุทธศาสนามั่นคงอยู่ต่อไป หรือไม่ก็เพียงเปล่งวาจา ว่า :-
    พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง และขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง เท่านี้ก็เป็นการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้ดีแล้ว
    พระพุทธศาสนา คือพระสัทธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เกิดขึ้นจากพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสัทธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ล้วนเป็นไปเพื่อละกิเลส เพื่อทำให้พ้นทุกข์ทั้งปวง
    พระสัทธรรม คำสอนของพระพุทธองค์ มีมากมายตลอดเวลา ๔๕ พรรษา ได้แสดงพระสัทธรรมไว้ถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แต่พระพุทธองค์ก็สรุปพระสัทธรรมทั้งหมดลงในอริยสัจ ๔ มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ดังที่ทราบกันแล้วเป็นส่วนมาก แต่ผู้ที่เข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ ๔ ที่เป็นพระอริยบุคคลนั้นหายาก ผู้รู้เข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องแท้จริงนั้น ก็จะมีแต่พระอริยบุคคลที่เรียกว่าเป็น พุทธบริษัท
    พระพุทธศาสนาจึงอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจในความเห็นถูกของพุทธบริษัท พระพุทธองค์ จึงทรงฝากพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัท แม้ผู้มีอำนาจวาสนา เช่น พระราชามหากษัตริย์ ก็ยังไม่ฝากไว้ พุทธบริษัท จึงหมายถึง พระอริยบุคคลผู้รู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ ๔ โดยเห็นโทษของทุกข์และสมุทัย อันเป็นธรรมที่ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดยังไม่พ้นทุกข
    เห็นคุณของนิโรธ และมรรค เพราะเป็นธรรมที่บริสุทธิ์ ที่จะทำให้แจ้งพระนิพพานและพ้นจากทุกข์ได้จริง
    มรรคสัจจะ ได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทาเป็นผู้ทำกิจของอริยสัจ ๔ ให้บริบูรณ์ แต่การเจริญมรรคจะต้องเริ่มต้นจากการเจริญ สติปัฏฐาน ที่เรียกว่าเป็น ปุพพภาคมรรค ปัญญาที่จะให้เห็นอริยสัจธรรมทั้ง ๔ ก็คือการเจริญสติปัฏ-ฐาน ๔ อันใดอันหนึ่ง ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้น
    การเจริญสติ ปัฏฐานนั้น ต้องได้มาจากการเรียนรูปนามที่เป็นปัจจุบันอารมณ์ นับเป็น คันถะธุระ และมีธรรมที่เป็นตัวปฏิบัติที่จะทำให้ปัญญาเห็นรูปนามไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตานั้น เป็นวิปัสสนาธุระนั้น ซึ่งจะต้องได้มาด้วย สติ ปัญญา และความเพียร อันเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะทำลายกิเลสทั้งปวง โดยมีสติเป็นประธาน ในการเจริญสติปัฏฐานนี้
    จึงมีความ สำคัญยิ่งในพุทธศาสนา ดังพระองค์ตรัสไว้ในมหาปรินิพพานสูตรว่า พระสัทธรรมคำสอนของตถาคต จะดำรงคงอยู่ได้ เมื่อพุทธบริษัทยังมีการเจริญสติปัฏ-ฐานกันอยู่ หากพุทธบริษัทมิได้เจริญสติปัฏฐานกัน ในกาลที่ตถาคต ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระสัทธรรมคำสอนของตถาคตก็จะต้องอันตรธานไป
    ทรงเตือนภิกษุ ทั้งหลายเป็นปัจฉิมพุทธพจน์ดังปรากฎในปรินิพพานสูตร มีพระบาลีว่า
    หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิโว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราคถาคต ขอเตือนเธอทั้งหลายให้รู้ว่า รูปนามทั้งหลายที่เรียกว่า สังขารนั้น มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด
    นับเป็นการเตือนที่มีคุณค่าอย่างยิ่งแก่ภิกษุทั้งหลายให้เจริญสติปัฏฐานกัน และยังเป็นการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการทำกิจในการเจริญสติปัฏฐาน อีกประการหนึ่งด้วย ฉะนั้นพระพุทธศาสนาจึงอยู่ที่ การเจริญสติปัฏฐาน นั่นเอง

    จาก http://www.raksa-dhamma.com/
     
  2. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    กราบพระคราวใด อย่ากราบให้ถูกทองเหลือง กระเบื้องหุ่น ก็แล้วกันพระคัมภีร์ พระไตรปิฎก ติดกุญแจแน่นหนา ห้ามเปิดโดยพละการ เดี๋ยวเสื่อมนุ่งห่มโกนหัว ร้องโอเกะ มันใช่ไหมเอ่ย?
     
  3. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    พระพุทธศาสนาอยู่ที่ใจ

    ถ้าพูดอย่างนี้แนวดีมั้ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...