คืนพระแก้วมอระกด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย tuanong, 25 พฤศจิกายน 2012.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เรื่องพระแก้วมรกต จะต้องคืนให้ลาวหรือ กัมพูชาหรือใคร นี่ตอบยากนะครับ เพราะพระพุทธรูป องค์นี้เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทับอยู่หลายประเทศ ทุกประเทศได้เคยเป็นเจ้าของ
    แต่ปัจจุบัน ตกเป็นของไทย และเป็นพระพุทธรูปสำคัญของประเทศไทย ความจริงแล้วทุกอย่างมีเหตุ ผล ต่อเนื่องสืบเนื่องมา เนื่องจากเราไม่สามารถหาหลักฐานมาอ้างอิงได้อย่างชัดเจน พระพุทธรูปพระแก้วมรกต ว่ามีการจดบันทึกไว้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง
    เป็นสมบัติของผู้ใดประเทศใด แต่ปัจจุบันไทยเราได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติอันล้ำค่าและมีความสำคัญกับประเทศไทย และเกี่ยวเนื่องด้วยพิธีกรรมต่างๆของไทยเรา ดังนั้นแล้วท้ายที่สุดนี้ ตามกฏหมายประเทศไทย และสหประชาชาติ ไม่สามารถกลายเป็นอื่นได้แล้วครับ

    อนึ่งด้วยพระแก้วมรกต มีความศักดิ์สิทธิ์ มีบารมีมาก แน่นอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอาราธนาให้อยู่ในสถานที่อันเหมาะสม และคู่ควรแก่มนุษย์ผู้มีบุญบารมี เป็นผู้กราบสักการะบูชาและกระทำพิธี อันเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ชาวพุทธเป็นอันมาก

    ท่านอย่าสงสัยหรือกังวลอีกต่อไปเลย ทุกอย่างเป็นไปตามพรหมลิขิต เทวบัญชาแห่ง
    สวรรค์ อนึ่งหากแม้นประเทศใดผู้ใดถึงพร้อมด้วยบุญบารมีแล้ว และเกี่ยวเนื่องกันกับพระแก้วมรกต ไม่นานหรอกจะมีเหตุให้พระแก้วต้องเสด็จประทับอยู่ณ เมืองนั้น มนุษย์ผู้นั้นจักได้ครอบครองได้สักการะ สร้างบารมีสืบไปครับ

    และหากตรวจดูแล้วในกาลปัจจุบันนี้ หาได้มีมนุษย์ผู้ใด
    ที่มีมีบุญบารมีมากเกินไปกว่าท่านในหลวงผู้เป็นมหาโพธิสัตว์[พระสยามมินทรามหาธรรมาธิราชเทวราชโพธิสัตว์]
     
  2. DookduiDumDeui

    DookduiDumDeui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +89
    มัวขุดอดีตกัน มันไม่จบอ่ะ ถ้าอ้างอย่างนี้ ก็ต้องอ้างแผ่นดินลาวคืนมาสยามด้วย แล้วคิดดูจะวุ่นแค่ไหน อดีตมันจบไปแล้ว มีอดีตไว้ศึกษาเพื่อแก้ปัญหาปัจจุบัน ไม่ใช่เอาปัญหาในอดีตมาเป็นปัญหาปัจจุบัน
     
  3. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

    เป็นแก้วหน่อเนื้อพุทธางกูร ประจำภัทรกัปป์

    คือแก้วหน่อเนื้อพุทธางกูรองค์ปัจจุบัน(พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน)

    การเสด็จไปสู่สถานที่ต่างๆของพระแก้วมรกตนั้นมีปัจจัย 3 อย่างคือ

    1. เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา 2. เกิดกลียุคในประเทศนั้น 3. ด้วยความรัก

    พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล

    พระอริยบุคคลมีในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม

    ทุกอย่างมีเหตุมีปัจจัยเกื้อหนุนกันอยู่ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
     
  4. NARASAWA

    NARASAWA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +408
    คืนพระแก้วมอระกด
    กรุณาสังเกตุ ไม่ใช่ภาษาไทยนะครับ
    จขกท ไม่ใช่คนไทย บทความ Copy มา......ความคิดผมคนเดียวนะ
    รูปที่นำมาเป็นรูปพระพุทธที่ถูกควักดวงตา เอาอัญมณีไปเมื่อครั้งสงคราม?
    ไม่เกี่ยวเนื่องกับบทความ ผมว่าเราเลิกแสดงความคิดเห็นเรื่องเหล่านี้เถิดครับ
    1.ไม่ได้อะไรขึ้นมา มันเป็นการกระทำในอดีต กลับไปแก้ไขไม่ได้
    2.ไม่มีทางให้คืน........
     
  5. tchaikovsky

    tchaikovsky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +360
    แล้วแผ่นดินที่เคยเป็นของประเทศไทยล่ะครับ แถบลาวทั้งประเทศก็เคยเป็นของไทย ต้องคืนด้วยไหม
     
  6. คนกระบี่

    คนกระบี่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +87
    :cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool:
    จริงแท้
     
  7. จันทรสมุทร

    จันทรสมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +329
    ผีรักษาพระบาง กับ ผีรักษาพระแก้ว ไม่ถูกกัน

    เรื่อง ผีรักษาพระบาง กับ ผีรักษาพระแก้ว ไม่ถูกกัน
    ความเชื่อ

    ความเชื่อเรื่องผีอารักษ์ประจำพระพุทธรูปสำคัญของอาณาจักรล้านช้าง ความว่า “ชาวล้านช้างเชื่อถือกันมาแต่โบราณว่า พระพุทธรูปสำคัญย่อมมี “ผี” คือ เทวดารักษาทุกพระองค์ ผู้ปฏิบัติบูชาจำต้องเซ่นสรวงผีที่รักษาพระพุทธรูปด้วย เพราะถ้าผีนั้นไม่ได้ความพอใจ ก็อาจบันดาลให้เกิดภัยอันตรายต่างๆ หรืออีกอย่างหนึ่งถ้าผีที่รักษาพระพุทธรูปต่างพระองค์เป็นอริกัน หากนำเอาพระพุทธรูปนั้นไว้ใกล้กัน ก็มักเกิดอันตราบด้วยผีวิวาทกัน เลยขัดเคืองต่อผู้ปฏิบัติบูชา”[1]
    คติที่กล่าวๆมาประกฎขึ้นในกรุงเทพครั้งแรกเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โปรดให้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานเมื่อ พ.ศ. 2327 ครั้งนั้นโปรดให้อัญเชิญพระบางอันเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหลวงพระบาง แล้วตกไปเป็นของพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตอยู่ ณ เมืองเวียงจันทน์ พระองค์ได้ทรงอัญเชิญลงมาพร้อมกับพระแก้วมรกต เข้ามาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้านันทเสนบุตร พระเจ้าล้านช้างกราบบังคลทูลว่าผีซึ่งรักษาพระแก้วมรกตกับพระบางเป็นอริกัน พระพุทธรูป 2 พระองค์นั้นอยู่ด้วยกันในที่ใด มักมีเหตุภัยอันตรายอ้างอุทาหรณ์แต่เมื่อครั้งพระแก้วมรกตอยู่เมืองเชียงใหม่ กรุงศรีสุตนาคนหุตก็อยู่เย็นเป็นสุข ครั้งพระเจ้าไชยเชษฐาเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงใหม่ไปไว้ด้วยกับพระบางที่เมืองหลวงพระบาง เมืองเชียงใหม่ก็เป็นกบฏต่อกรุงศรีสุตนาคนหุต แล้วพม่ามาเบียดเบียน จนต้องย้ายราชธานีลงมาตั้งอยู่ ณ นครเวียงจันทน์ ครั้นอัญเชิญพระบางลงมาไว้นครเวียงจันทน์กับพระแก้วมรกตด้วยกันอีก ก็เกิดเหตุจลาจลต่างๆ บ้านเมืองไม่ปกติ จนเสียนครเวียงจันทน์ให้กับกรุงธนบุรี ครั้งอัญเชิญพระแก้วมรกตกับพระบางลงมาไว้ด้วยกันในกรุงธนบุรี ไม่ช้าก็เกิดเหตุจลาจล ขออย่าให้ทรงประดิษฐานพระบางกับพระแก้วมรกตไว้ด้วยกัน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระราชดำริว่า พระบางก็ไม่ใช่พระพุทธรูปซึ่งมีลักษณะงาม เป็นแต่พวกชาวศรีสัตนาคนหุตนับถือกัน จึงโปรดให้ส่งพระบางคืนขึ้นไปไว้ ณ นครเวียงจันทน์ หลังจากที่ ร.1 พระราชทานพระบางกลับไปที่เมืองหลวงพระบาง

    ผ่านมาอีก 2 รัชกาล ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งกบฎเจ้าอนุวงศ์
    เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) (ราชทินนามในขณะนั้น)
    ได้นำกองทัพสยามเข้าตีเวียงจันทน์ จนมีชัยชนะ และได้ตัวเจ้าอนุวงศ์มา
    เจ้าพระยาราชสุภาวดีเอง ก็ได้รับการปูนบำเหน็จขึ้นเป็นอัครมหาเสนาบดี ที่สมุหนายก
    ในราชทินนาม "เจ้าพระยาบดินทรเดชา" ดังที่ปรากฏมาจนปัจจุบัน

    จากชัยชนะในครั้งนี้ ได้ืมีการเชิญพระพุทธรูปสำคัญจากล้านช้างมาหลายองค์
    เช่น พระเสริม พระใส พระแซกคำ ที่ได้ประดิษฐานในแผ่นดินไทยมาจนทุกวันนี้
    และที่แน่นอน คือ "พระบาง" ก็ได้รับการอัญเชิญมาด้วย

    แต่ชะรอยว่าล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 จะทรงทราบในความเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว
    จึงได้พระราชทานพระบางนี้ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา
    เชิญไปประดิษฐาน ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส อันเป็นวัดประจำสกุล ซึ่งอยู่ "นอกกรุง"
    (ยังมีวิหารที่เคยประดิษฐานพระบาง ณ วัดจักรวรรดิฯ สืบมาจนปัจจุบัน)

    พระบางประดิษฐานที่วัดจักรวรรดิฯ มาจนถึงรัชกาลที่ 4
    อนุวงศ์ มีความคิดอยากได้พระบางคืน จึงนำเรื่องเล่าคราวเชิญพระทั้งสององค์มาอยู่ด้วยกัน ว่า
    ผีรักษาพระบาง กับ ผีรักษาพระแก้ว ไม่ถูกกัน ถ้าพระสององค์นี้อยู่ด้วยกันแล้วจะนำความ
    วิบัติฉิบหาย อาเพศเหตุร้าย มีประการต่างๆมาสู่บ้านเมืองนั้น แล้วนำเรื่องไปเล่าให้ชาวลาว
    ที่ถูกเทครัว มาอยู่บางกอก ให้แพร่ความนี้ไปในหมู่ประชาชนชาวสยาม ความนั้นแพร่ไปอย่างรวดเร็ว
    ประกอบกับขณะนั้นไทยก็ได้เกิดเหตุพิบัติหลายประการ มีฝนแล้งเป็นต้น ต่อเนื่องกันหลายปี
    ชาวกรุงก็ยิ่งร่ำลือกันว่า ด้วยเหตุที่พระบางและพระแก้วมรกตประดิษฐานไว้ด้วยกัน
    ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ จึงได้พระราชทานพระบางกลับคืนสู่หลวงพระบาง
    และพระบางก็ได้ประดิษฐานเป็นการถาวร ณ เมืองหลวงพระบาง นับแต่นั้นเป็นต้นมา

    มาบัดนี้ลูกหลานเจ้าอนุวงศ์ จะมาหลอกเราชาวสยามอีกครา ถ้าหลงไปตามคำอันเป็นเท็จ
    นั้น มีช้านานเราต้องเสีย พระแก้วมรกต อันล้ำค่าไปอีกแน่นอน

    ถ้าเป็นความจริงตามเรื่อง ที่ผมเล่ามาย่อมไม่สำควรอย่างยิ่งที่เราจะคืนพระแก้วมรกต
    ให้ลาว เพราะขณะนี้พระบางสถิตย์อยู่ที่ลาว ถ้าพระสององค์ไปอยู่ลาวด้วยกัน มิช้านาน
    ลาว ย่อมถึงความเสื่อม วิบัติ ล่มจม ฉิบหายอีกครา
    ตามคำสาป ของ เจ้าศรีโคตรบองได้สาปไว้ว่า

    " แผ่นดินลาวของพวกมึงนี้อย่าได้มีความสงบเท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น " เป็นแน่แท้...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  8. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเห็นไหมตัวอย่างที่อิสราเอล และภาคใต้ของไทย รบราฆ่าฟันกันเพราะอ้างอดีต ทำให้วุ่นวายไม่รู้จบสิ้น ถ้าอยากจะรบกันเกิดสงครามไปทั่วก็ให้อ้างอดีตกันให้มากๆ เรื่องพม่าก็เหมือนกันเราเรียนประวัติศาสตร์ด้านเดียวเลยทำให้เราโกรธพม่า จริงๆไทยเราก็เคยกรีฑาทัพใหญ่ลุยพม่าจนเละมาแล้วเหมือนกัน......
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    วิเคราะห์แล้วว่า......

    กระทู้นี้ไม่สร้างสรร ไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน
    ไม่เป็นสากลในการปฏิบัติและธรรมเนียมระหว่างประเทศ
    เรื่องที่เรียกร้องเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ รังจะเกิดข้อถกเถียง-ขัดแย้งกันในหมู่สมาชิก
    แต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางวิชาการหรือความคิด

    ก็ให้ผู้เจริญใช้วิจารณญานในการเสพบทความ นะครับ
     
  10. Enzo

    Enzo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +60
    "มรกต" ครับ ไม่ใช่ "มอระกด"
     
  11. ไฟสว่าง

    ไฟสว่าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +283
    จิตว่างกันมาก แล้ว. อยู่ๆ ก็ กลับไปค้นหาอดีต ข้อมูลประวัติศาสตร์ อาจมีการแต่งเติม ใครกล้ารับรองว่า ของเธอของฉัน นั้นถูกต้อง. คนบันทึก ก็ตายไปแล้ว. ข้อมูลที่แท้จริงเปนอย่างไร ไม่มีใคร รู้.
    กลับมาสู่ปัจจุบัน ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินดีกว่า. อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องอดีต. ไม่มีประโยชน์ ถ้าทุกคนอิงอดีต. ทุกประเทศทั่วโลก ต้อง เดือดร้อน หาความสงบสุขไม่
     
  12. 9TRONG

    9TRONG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +514
    ไม่มีใครสามารถครอบครอง หรือเป็นเจ้าของสิ่งใดๆได้อย่างแท้จริงครับ
    เรามาทำความเข้าใจตรงจุดนี้กันก่อนดีไหม
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ครับ :cool:

    ถ้าสังเกตดูการประทับขององค์พระแก้วมรกต
    จะสังเกตได้ว่า
    1. จะประทับอยู่เมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่
    2. เมืองนั้นผู้คนเจริญและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
    3. เจ้าผู้ครองเมืองมีเดชานุภาพมาก
    4. องค์พระแก้วจะประทับอยู่ในแต่ละเมืองไม่เกิน 200 ปี ยกเว้นที่กรุงเทพฯ
    5. กษัตริย์น้อย/ใหญ่ในอดีต ต่างหมายปององค์พระแก้วมาประดิษฐานทั้งสิ้น แม้ว่าในแผ่นดินจะมีพระพุทธรูปมากมาย

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่มีเมืองใดผูกขาดการครอบครององค์พระแก้วได้ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับบุญบารมีของผู้ครองอาณาจักรนั้นๆ ฉะนั้นจึงไม่มีผู้ใดครอบครองอย่างแท้จริง เพราะอาณาจักรและแสนยานุภาพย่อมมีความรุ่งเรืองและล่มสลายได้เป็นอนิจจังทั้งสิ้น
     
  14. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    พระเจ้าไชยเชษฐามาเกิดเป็นคนไทยแล้ว พระยาโคตรบอง เป็นลูกหลานพระร่วง มีจิตดวงเดียวกับพระเจ้าไชยเชษฐา และพระเจ้ากือนา และเจ้าอนันตยศลูกพระแม่จามเทวี คำสาปพระยาโคตรบอง จริงๆเป็นวาจาสิทธิ์พระร่วง คือ สุดท้ายไทย ลาว ต้องกลับมาเป็นพี่น้องกันครั้นที่มาจากเมืองมคธ และคำสาปที่เชื่อกันนั้น พญาตาเดียว บางคนเข้าใจว่าเป็นพระองค์ดำ แต่ก็อาจมีนัยน์สองกรณี คือ เจ้าพระยาพิษณุวาธิราช หรือ ออกพระชัยบุรี ซึ่งคือ พระเจ้าไชยเชษฐาในชาติถัดมา พระเจ้าไชยเชษฐานั้น เมื่อได้ไปอยู่เมืองลับแล ซึ่งเวลาต่างกันกับเมืองมนุษย์ ก็ไปจุติเป็นทหารเสือพระองค์ดำ ซึ่งเป็นหลานพระเจ้าจักรพรรดิทันที และ พระชัยบุรี ก็คือ พญาศรีสัตตนาคราช ผู้ที่เป็นนาคราชในการเกี่ยวเนื่องกับภัยธรรมชาติ คือเป็นหน้าที่ ในการล้างคนชั่ว ช่วยคนดี จะเห็นว่าก็เคยต้องล่มเมืองขอมมา ใครอ่านแล้วอาจจะงง แต่ก็เล่าไว้ให้ฟังแล้วกัน ให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
     
  15. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    แม้นแต่เจ้าพระยาบดินทรเดชา ผู้ออกศึกตีลาวนั้น ก็คือ พญาศรีสัตตนาคราชนั่นเอง คือ เขาเชื่อกันว่าลาวนั้นมีพญานาครักษา ก็ถูกต้องตามนั้น แต่พญาศรีสัตตนาคราช ก็คือพญานาครักษาลาวนั่นเอง มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งที่เจ้าอนุวงษ์ต้องรับชะตากรรม คือ ความอยากมีเอกราช ความอยากมีเอกราชนั้นใครก็อยากได้แต่ต้องไม่ลืมถึงพระคุณของผู้เป็นนาย ถ้าผู้ปกครองดี ก็เรียกว่า เข้าข่ายเนรคุณนั่นเอง แต่กรณีนี้เป็นวาระกรรม เจ้าพระยาบดินทรจัดการเมืองลาวเรียบร้อย ลาวก็ไม่ได้ถูกเผาไร หลวงพ่อท่านก็เล่าไว้ ลาวมาเจอปัญหาอีกที คือ ยุคลาวขาวถูกลาวแดงยึดอำนาจ พญานาครักษาบ้านเมืองลาว ก็ต้องมาจุติ ช่วง2518 ซึ่งเป็นปีพระธาตุพนมพังลงมา คือ ไม่มีพระพรหมท่านใดปฎิบัติหน้าที่หลักๆแทนพญาศรีสัตตนาคราช นาคผู้รักษาลาวในช่วงนั้น และแม้นแต่ทุกวันนี้ พญานาคที่ทำหน้าที่แทนพญาศรีก็ไม่ใช่ใคร ใครญาณแจ่มๆจะเข้าใจ
     
  16. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    มีหลายคนเข้าใจว่าหลวงพ่อเสวยพระชาติเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชา แต่หากดูช่วงของเวลา คือเจ้าพระยาบดินทรเดชาเกิดสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี คือ รัชกาลที่1ยังทรงมีพระชนม์มายุอยู่ คือ หลายคนที่ไปอ่านในหนังสือเจอข้อความ ที่หลวงพ่อเล่า เช่นตอนท่านบอกว่า เจ้าพระยาบดินทรเดชาไม่ได้เผาเมือง เพราะลาวเป็นบ้านของภรรยาท่าน ก็เลยทำให้บางคนคิดว่า เจ้าพระยาบดินรเดชา คือ พระชาติหนึ่งของหลวงพ่อ แต่จริงๆเจ้าพระยาบดินรเดชาเคยเป็นลูกท่าน คือ พระอินทราชาที่2 ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ
     
  17. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    พระแก้วมรกตสร้างขึ้นในปี พุทธศักราช 500 โดยพระนาคเสนเถระ วัดอโศการาม กรุงปาฏลีบุตร ในแผ่นดินพระเจ้ามิลินท์ (เมนันเดอร์) สมเด็จพระอมรินทราธิราช พร้อมกับพระวิสสุกรรมเทพบุตร ได้นำแก้วโลกาทิพยรัตตนายก อันมีรัตนายกดิลกเฉลิม 1000 ดวง สีเขียวทึบ (หยกอ่อน) นำมาจำหลักเป็นพระพุทธรูปถวายให้พระนาคเสน ถวายพระนามว่า พระพุทธรัตนพรรณมณีมรกต พระนาคเสนจึงได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงไปในพระพุทธรัตนพรรณมณีมรกต 7 พระองค์ คือพระโมลี พระนลาฏ พระนาภี พระหัตถ์ซ้าย-ขวา และพระเพลาซ้าย-ขวา แต่เมื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานแล้วนั้น เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น พระนาคเสนได้พยากรณ์ว่า พระแก้วองค์นี้ จะเสด็จไปโปรดสรรพสัตว์ในเบญจประเทศ คือ ลังกาทวีป กัมโพชะศรีอโยธยา โยนะวิสัย ปะมะหละวิสัย และ สุวรรณภูมิ
    สุวรรณภูมิ คือ ประเทศไทยในปัจจุบัน สถานที่ที่พระแก้วมรกตจะทรงโปรดเหล่าพระพุทธศาสนิกชน
     
  18. อีกาจอมภู

    อีกาจอมภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +137
    พระแก้วมรกต สร้างขึ้นในปลายรัชสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน โดยช่างพะเยา และแต่งตำนานในสมัยนี้ด้วย เนื่องมาจากการแตกกันของสงฆ์ที่ได้ไปศึกษาพระธรรมจากลังกา ทำให้สมัยนั้นได้แตกออกเป็นสองนิกายในนครพิงค์เชียงใหม่ เหตุผลในการสร้างคือ การแสดงสัญลักษณ์ค่านิยมในศิลปะสลักหินที่กำลังเสื่อมความนิยมพร้อมๆกับนิกายลังกาเดิม (ดิ้นรนจนหยดสุดท้ายในยุคปลายของช่างแกะสลักหิน) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นการนิยมสร้างพระพุทธรูปด้วยโลหะสำริด นิกายลังกาใหม่ที่พระเจ้าติโลกราช ได้ส่งไปศึกษา ซึ่งภายหลังพระองค์นิยมสร้างพระสิงห์ด้วยโลหะสำริด แทนการสลักหิน
    เพราะพระสงฆ์มีอิทธิพลในข่ายขุนนางของราชสำนัก ให้ทั้งคุณและโทษกับผู้บริหารรัฐได้เรียกได้ว่า การดำเนินนโยบายของรัฐในสมัยโบราณ ไม่ว่าชาติใดล้วนใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือด้วยกันทั้งนั้น อย่างแยบยลด้วย

    ส่วนเรื่องคืนพระแก้วมรกตให้ลาวนี้ "ไร้สาระ" เพราะไทย ลาว ล้วนเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน พระแก้วมรกตจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน นอกจากคนที่ต้องการครอบครองแล้วไม่ได้สมดังใจเท่านั้น

    การแต่งตำนานคืนพระแก้วมรกต เรื่องนี้ส่อเจตนาสร้างความแตกแยกปั่นป่วนให้กับความสัมพันธ์ของสองประเทศ ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่ากับเรื่อง "ไร้สาระ" ก็พอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2014
  19. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อย่าไปคิดแทนเขา

    ขออนุญาตครับ

    คนลาวนั้น เขาไม่ได้อนาทรร้อนใจในเรื่องใดๆ
    แม้แต่เรื่องพระแก้วมรกต

    เขาบอกว่า เมื่อถึงเวลา ไทยจะคืนให้เขาเอง

    คิดถึงเรื่องของเราดีกว่า เมืองไทยทำอะไรผิดพลาดมาแล้วบ้าง

    1 นำประเทศเข้าสู่สงครามเวียตนาม ทำให้ อเมริกาหนุนไทยเต็มที่
    ทำให้ประเทศไทย เจริญ แบบก้าวกระโดด เจริญแบบชาติตะวันตก

    2 ปล่อยให้ อเมริกา ยึดครอง แก๊ส น้ำมัน ของไทยเราเอง

    3 ปล่อยให้มีการสัมปทานป่าไม้ โดยไม่มีการปลูกทดแทน

    4 ไม่มีการสร้างรถไฟฟ้าวิ่งทางสายหลักทั่วประเทศ ในเวลาอันเหมาะสม

    5 ปล่อยให้มีการ จดทะเบียน รถจักรยานยนต์ และรถยนต์อย่างเสรี

    6 ปล่อยให้มีการ เก็บค่าบริการ โทรศัพท์มือถือสูงลิ่ว

    7 ปล่อยให้มีการ ฝ่าฝืน ประเพณีที่ดีงาม

    8 ละทิ้งคนจน คนจนกู้เงินดอกเบี้ยถูกไม่ได้

    9 ปล่อยให้ฝรั่งไม่กี่คน มายึดครองการค้าปลีกที่มีกำไรมหาศาล

    10 จะปฏิรูปทั้งที กลับเอาอำนาจสูงสุด ให้คนอื่น

    แล้วจะทำอย่างไรกันล่ะทีนี้

    ถามหน่อยเถอะครับ ถ้าลาวเข้าสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เอง

    เราจะไม่เป็นลูกไก่ในกำมือเขาหรือ?

    เรื่องของตัวเอง คิดบ้างหรือยัง
    หรือมัวแต่จะไปคิดเรื่องของคนอื่น

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  20. อีกาจอมภู

    อีกาจอมภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +137
    "เมื่อถึงเวลา ไทยจะคืนให้เขาเอง" 5+ ตลกละ

    ไร้เหตุผลสิ้นดี ส่งคืนของที่ไม่ใช่ของตัวเอง ส่งคืนของที่ไปเอาของคนอื่นมา แล้วถูกคนอื่นแย่งไปเนี๊ยนะ ถ้าให้ถูกต้องที่สุดก็คือ ต้องส่งพระแก้วมรกตคืนจังหวัดเชียงราย เพราะแห่งแรกที่พบพระแก้วมรกตจริงๆ สถานที่ๆไม่ใช่ตามตำนาน+นิยายปรัมปรา คือ พบพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้วจังหวัดเชียงราย ดังนั้น ควรส่งคืนวัดที่พบครั้งแรกซะจะได้จบเรื่องไร้สาระนี้ แต่ดูๆแล้วทางวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย ก็ยินดีจะให้พระแก้วมรกตคงประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพราะได้จำลองพระแก้วมรกตองค์ใหม่ ที่สร้างจากหยกมาประดิษฐานแทนแล้ว

    พูดก็พูดเถอะครับ พระแก้วเนี๊ย เป็นพระที่นิยมสร้างบรรจุกรุเพื่อสืบทอดพระศาสนากันมาก โดยเฉพาะทางภาคเหนือของไทย จะเห็นได้จากพระแก้วที่สร้างจากหินรัตนชาติต่างๆ รวมถึงหินแก้วจุยเจีย ฯลฯ ที่วงการพระเครื่องนิยมเช่าหากันก็ พระแก้วกรุฮอด ซึ่งสร้างกันจริงๆก็สมัยล้านนาทั้งสิ้น ในภูมิภาคอื่น การสร้างพระด้วยแก้ว หินรัตนชาติ บรรจุกรุไม่พบหรือพบน้อยมากซึ่งโดยมากมักได้มาจากทางเหนือแล้วนำไปบรรจุทั้งสิ้น ศิลปจะเป็นสกุลช่างเชียงแสน พะเยาอีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...