วิธีชำระหนี้สงฆ์

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย carton, 18 กรกฎาคม 2010.

  1. carton

    carton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +159
    ต้องทำอย่างไรถึงชำระหนี้สงฆ์ครับ แล้วเขาต้องพูดว่าอย่างไรบ้าง
     
  2. Everton12

    Everton12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +567
    ของผมเป็นวิธีง่ายๆ ครับเวลาใส่บาตรให้ใส่ซองปัจจัยซักประมาณ 20 บาททุกครั้งแล้วเขียนหน้าซองว่าชำระหนี้สงฆ์ครับ ขออนุโมทนา ขอบคุณครับ
     
  3. kratair

    kratair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +781
    ชำระหนี้สงฆ์ คืออะไรคะ
     
  4. oamiamgod

    oamiamgod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +3,223
    การชำระหนี้สงฆ์ (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)

    <!-- Main -->ผู้ถาม : " ทำกรรมอะไรถึงลงอเวจีคะ ... ? "

    หลวงพ่อ : " อเวจีนี่ทำกรรมหนักมากมันจึงจะลง ก็มี อนันตริยกรรม อาจิณกรรม ขโมยของสงฆ์ ของสงฆ์นี่แตะนิดเดียวลงอเวจีเลยนะ แม้แต่เศษเล็ก ๆ "
    ( เรื่องอนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ยุให้สงฆ์แตกกัน เป็นต้น พระยายมมาบอกหลวงพ่อว่า "ทุกคนอย่าได้ทำเด็ดขาค ท่านช่วยไม่ได้เลย" ส่วนอาจิณกรรม เช่น แม่ครัวทุบหัวปลาแกงเป็นประจำ เป็นต้น สำหรับขโมยของสงฆ์ หลวงพ่อได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้ )


    มีญาติพระ เจ้าพิมพิสารเป็นทายก ในตอนต้นก็ดีซื่อตรงต่อการบุญการกุศล แต่มาตอนกลาง ๆ มือถึงเท้ามือไม่ค่อยดี เริ่มหยิบแล้ว ทีแรกเป็น ทายก ต่อมาก็เลยเป็น ทายัก ของอะไรดี ๆ ก็ยักเอาไปเสียบ้าง เอาไว้ให้ลูกเมีย เอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตนเสียบ้าง ของที่เขาจะถวายสงฆ์ เขาตั้งใจจะทำอาหารถวายสงฆ์ เนื้อดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง แกงดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง บางทีไม่ยักของสด ไอ้ของที่สำเร็จรูปที่เขาไม่ทันจะถวายพระ ก็ยักเอาไว้เสียบ้าง

    ญาติของพระเจ้าพิมพิสารเป็นทายักแบบนี้ ตายแล้วลงนรกสิ้นระยะเวลา ๑ กัป พ้นจากนั้นแล้วก็มาตกยมโลกียนรก คือ ผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม แล้วก็มาตกยมโลกียนรกตามลำดับ มาเป็นเปรต ๑๑ จำพวก สุดท้ายก็เป็นเปรตพวกที่ ๑๒ สมัยพระพุทธเจ้าของเรานี่

    และอีกเรื่อง หนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็นกาแย่งข้าวในขันที่จะนำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้ว กรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายแล้วไปลงอเวจีแล้วแถมมาเกิดเป็นเปรต "

    ผู้ ถาม : " หลวงพ่อครับ คนที่กินข้าวที่พระอนุญูาตแล้ว ทำไมถึงตกนรก และพระท่านก็ต้องตกนรกด้วยครับ ... ? "

    หลวงพ่อ : " ถ้าอาหารที่พระให้ ต้องเป็นของที่ญาติโยมถวายเฉพาะองค์นั้น ไม่มีโทษแน่ แต่ที่เป็นอย่างนี้ต้องเป็นอาหารที่เขาถวายเป็นส่วนกลาง คือเป็นของสงฆ์ ของสงฆ์นั้นพระองค์ใดองค์หนึ่งไม่มีสิทธิ์ให้ นอกจากสงฆ์จะประชุมตกลงให้พระองค์นั้นเป็นผู้จ่ายแทนสงฆ์ ตัวอย่างของสงฆ์ เช่น อาหารวันพระ ที่มีข้าวใส่บาตรเหลือมาก ๆ แล้วทายกใส่ถ้วยเอาไปบ้าน โดยที่คณะสงฆ์ไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างนี้แม้แต่เจ้าอาวาสเองยังไม่มีสิทธิ์ให้ตามลำพัง
    บางทีกินอาหารที่ พระฉันเหลือ ถ้าพระอนุญาตแล้วไม่มีโทษ ( สำหรับญาติโยมที่ไปในงาน ทางวัดเขาตั้งใจเลี้ยงก็ไม่เป็นไร ) แต่บางท่านก็หยิบของที่พระฉันแล้วเอามาเฉย ๆ บางท่านก็ขอเอาดื้อ ๆ ให้หรือไม่ให้ก็ตาม ออกปากขอแล้วยกไปเลย พระยังไม่ทันอนุญูาต ท่านทายกประเภทนี้ ท่านช่วยยกคนที่กินกับท่านลงอเวจีแบบสะดวก เมื่อจะขอต้องดูว่าอาหารมากไหม ถ้ามากจนเหลือเฟือ ก็ขอให้พระท่าน ให้ตามความพอใจของท่าน เพราะท่านอาจจะมีกังวลนำอาหารไปให้ใครก็ได้ที่ท่านมีภาระต้องเลี้ยง ถ้าถือเอาตามความพอใจก็ต้องถือว่าแย่งอาหารจากพระมีโทษ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

    และ อาหารถวายพระพุทธรูปก็เหมือนกัน อาหารประเภทนี้ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อล่อให้ทายกลงอเวจีสะดวกสบายมาก อาหารที่เขานำมาวัด เขาตั้งใจถวายพระสงฆ์ การนำไปถวายพระพุทธรูปนั้นเป็นความดี เพราะเป็นพุทธานุสสติด้วย เป็นพุทธบูชาด้วย แต่อาหารประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มาก เพราะพระพุทธรูปไม่ได้ฉัน ท่านจะฉันหรือไม่ฉันก็ตาม อาตมาคิดว่าทายกทายิกาไม่มีสิทธิ์จะกิน หลายวัดหรือส่วนใหญ่ ทายกมักจะเอาอาหารดี ๆ และมาก ๆ ไปทุ่มเทถวายพระพุทธรูป เมื่อพระฉันเสร็จแล้ว ต่างก็ยกเอามากิน ตอนนี้ไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง ต้องเอาไว้ถวายพระตอนเพลจึงจะถูก ทายกทายิกาจะกินได้เฉพาะอาหารที่เหลือเป็นเดนจากพระฉันเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์สถาปนาตนเองเป็น "ลูกศิษย์พระพุทธรูป" แต่ประการใด

    รวม ความว่า ของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือ ของในวัดทุกประเภทที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว(ถ้าเราไปเอามา หรือไปใช้จะเป็นหนี้สงฆ์) แม้แต่ดอกไม้ผลไม้ในวัด เศษไม้ที่คิคว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง จงอย่าคิดว่าไม่บาป แม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้วก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน เว้นไว้แต่ดอกไม้ผลไม้ที่พระหรือท่านผู้ใดปลูกในวัดถ้าท่านเจ้าของยังอยู่ไน เขตวัดนั้นและท่านอนุญาต อย่างนี้เอามาได้ไม่บาป ด้วยท่านเจ้าของมีสิทธิ์สมบูรณ์ ให้ได้ รับมาได้ไม่มีโทษ ถ้าท่านผู้ปลูกออกไปจากวัดนั้นหรือตายไปแล้ว ของนั้นเป็นของสงฆ์โดยตรง ไปเอามามีโทษตามกำลังบาปขโมยของสงฆ์

    และอีกประการหนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่มีสภาพเป็นวัด กับที่ของสงฆ์ที่เป็นไร่นาไปแล้ว ไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าเราไปนำมานิดเดียวแม้แต่หญ้าต้นเดียว เขาถือว่าเป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก สมัยหลวงพ่อปาน ท่านก็แนะนำให้คนชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาท สลึงสองสลึง บางคนไม่มีเงินเอามาทำงานแทน ทำอะไรได้ไม่บังคับ คือ ดายหญ้าก็ตามไม่เอาค่าแรง "

    (ใครก็ตามได้รู้อย่างนี้ก็ใจเสียแล้ว เวลาไปเอามาไม่รู้เท่าใหร่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็มีคนหัวดี กล้าถามหลวงพ่อว่า ถ้าจะชำระหนี้สงฆ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่เคยทำมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันนี้จะทำ อย่างไร เราจึงได้รู้เรื่องการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ขึ้นมา )

    การ สร้างพระชำระหนี้สงฆ์

    ผู้ถาม : " แล้วเรื่องพระชำระหนี้สงฆ์มีความเป็นมาอย่างไรครับ ... ? "

    หลวงพ่อ : " เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ฉันไปที่ศรีราชา ญาติโยมเขาถามเรื่องชำระหนี้สงฆ์ ถ้าหลาย ๆ ชาติเราไม่รู้เอาอะไรมาบ้าง ถามว่าจะทำอย่างไร ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พอตอบไม่รู้ ก็เห็นพระท่านลอยมาท่านบอก
    "ถ้าจะชำระ ให้ครบถ้วน เป็นเงินเท่าไรก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก"

    พระ หน้าตัก ๔ ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้ว ๆ มาถือเป็นการหมดกันไป" ฉันพูดแล้วก็กลับมาวัด ต่อมาพวกนั้นก็มาถามใหม่ว่าผู้สร้างพระองค์เดียว ได้คนเดียวหรือกี่คน" ฉันไม่รู้อีกซิก็นึกถึงท่านท่านก็มาใหม่ ท่านก็บอกว่า

    "ถ้าไม่ปิดทอง ได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ"

    คำว่า "คณะ" หมายความว่า บุคคลหลายคนก็ได้ตัดบาปเก่า ถ้าสร้างใหม่เอาอีกนะ สร้างหนี้ใหม่ต่อ เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ "

    ผู้ถาม : " ถ้าหากว่าเรามีสตางค์น้อย ๆ แล้วถวายพระจะได้ไหมครับ ... ? "
    หลวงพ่อ : " ถ้าเรามีสตางค์น้อย ๆ ก็ใส่ซองเขียนหน้าซองว่า "ชำระหนี้สงฆ์" คือว่าไม่ได้จำกัด ทำไปเรื่อย ๆ ให้ไจสบาย บาทสองบาทตามกำลังที่จะพึงทำได้ เขาไม่ได้เกณฑ์ว่าจะสร้างพระ หลวงพ่อปานท่านทำอย่างนี้มาก่อน เรื่องสร้างพระนี่เขาถามก็บอก ท่านมาบอกอัตรานี้โละกันเลยนะ คือ ไม่ใช่จะไปกะเกณฑ์ให้ไปสร้างพระ เพราะทุนไม่พอใช่ไหม เราก็ทำไปเรื่อย ใจสบาย มีสตางค์รับเงินเดือนมาทีทำ ๕ บาท ใส่ซองถวายพระบอก "ขอชำระหนี้สงฆ์" ท่านไม่รู้ท่านใช้ผิด ท่านลงนรกเองไม่ต้องห่วง ถ้าไปกินเป็นส่วนตัวละเรียบร้อย เงินชำระหนี้สงฆ์มันมีค่ากว่าเงินสังฆทานและวิหารทาน ถ้าไปใช้เป็นส่วนตัวไม่ได้ ต้องใช้เป็นส่วนกลาง อันตรายกับพระ แต่ช่างท่านเถอะ ถ้าบวชแล้วอยากโง่ไห้ลงนรกไป ใช่ไหม... "

    ผู้ถาม : " ถ้ามีญาติโยมเอาเงินไปถวายพระ แต่ก็เอาเงินไปปลูกบ้านบ้าง ให้ญาติโยมไปออกดอกออกช่อบ้าง อยากทราบว่าผลบุญที่ลูกได้ทำแล้ว จะมีอานิสงส์สมบูรณ์หรือไม่เจ้าคะ ... ? "

    หลวงพ่อ : " เขาถวายเป็นของสงฆ์ใช่ไหม เขาถวายเข้าไปในวัดใช่ไหม แล้ววัดไม่ได้ทำอะไร แต่คนในวัดเอาไปปลูกบ้าน เงินนั้นไปที่อื่นใช่ไหม เขาถวายอานิสงส์มันได้ตั้งแต่ถวาย มีอานิสงส์ครบถ้วน นั่นเขาครบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลยนะ คนอื่นเอาใช่ไหม อย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ อานิสงส์มันได้ตั้งแต่เริ่มให้
    ยิ่งให้ก็ยิ่งอานิสงส์หนักขึ้น เวลาให้ต้องให้ด้วยตนเองใช่ไหม ขณะที่พระรับก็เกิดธรรมปีติอิ่มใจ อานิสงส์มันเพิ่ม แต่ว่าคนที่นำเอาไปใช้พิเศษนั้นลงอเวจีแน่ "

    ผู้ ถาม : " โอ้โฮ ... หนักถึงขนาดนั้นเลยหรือครับหลวงพ่อ ... ? "

    หลวง พ่อ : " ยังเบานะ ถ้า ๒-๓ คราว ลงโลกันต์ "

    ผู้ถาม : " นี่ดีนะที่สึกออกมาก่อน ไม่งั้นไปอยู่ใต้พระเทวทัตแน่ ๆ "

    หลวงพ่อ : " ใต้เทวทัตน่ะไม่มีความทุกข์นะ ความทุกข์มันอยู่แค่อเวจี ต่ำกว่าอเวจีก็ไม่ถึงโลกันต์ "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  5. คมศักดิ์

    คมศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +886
    บางวัดมีกล่องสำหรับให้ชำระหนี้สงฆ์ก็สามารถใส่ในตู้นั้นได้นะครับ
     
  6. บีน99

    บีน99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยคนจ๊ะ
     
  7. ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก

    ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +634
    "ถ้าไม่ปิดทอง ได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ"

    ขอสอบถามนิดครับ
    "ปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ"
    ทาสีทองหรือทาสีอื่นๆ แทนปิดทองได้ไหมครับ
    สงสัยมานานมากแล้ว
    อนุโมทนาครับ
     
  8. kratair

    kratair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +781
    โมทนาบุญค่ะที่ชี้ทางสว่าง ไขปัญหาข้องใจให้ ทีนี้ข้าพเจ้าจะได้เริ่มหัดชำระหนี้สงฆ์ล่ะทีนี้ เพราะไม่รุว่าผ่านมานานแสนนานเท่าไร หมักไว้มหาศาลแล้วกระมัง เด๋วมีรัยข้องใจจามาถามใหม่เจ้าค่ะ
     
  9. kratair

    kratair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +781
    อ่าอันนี้ก้ออยากรู้เหมือนกันอ่า นู๋ตังไม่มากมาย ถ้าทำหลายคน ปิดทองรึทาทองดีอ่า แระจาได้ไหมมารอคำตอบด้วยคน
     
  10. ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก

    ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +634
    มารอคำตอบครับ ตกไปอยู่หน้า 2 แล้ว
     
  11. kratair

    kratair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +781

    มารอคำตอบค่ะตกไปเด๋วนู๋หาไม่เจอค่ะ
     
  12. takila

    takila สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +21
    ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการหยอดตามในตู้ที่วัดก็ถือเป็นการชำระหนี้สงฆ์นะคะ แต่ควรจะบอกกล่าวว่าชำระหนี้สงฆ์ทั้งอดีตชาติและปัจจุบันชาติค่ะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราเคยติดหนี้อะไรท่านบ้าง แค่เราเข้าวัดเอาทรายติดรองเท้าออกมาหรือแม้กระทั่งอาศัยแสงสว่างของไฟในวัด เข้าห้องน้ำวัดก็เท่ากับว่าเราติดหนี้สงฆ์นะคะ (แม้เราจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม) เราเลยใช้หนี้โดยการหยอดตู้แบบนี้น่าจะช่วยใช้หนี้ได้ค่ะ
     
  13. namonice

    namonice Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +65
    ดิฉันเห็นด้วยกับคุณ takila ค่ะ เพราะเราทุกคนเกิดมาหลายภพหลายชาติ เราไม่ทราบเลยว่าติดหนี้มาตั้งแต่ตอนไหน (ตั้งใจและไม่ตั้งใจค่ะ) ทางที่ดีกันไว้ก่อน ถ้าใส่ตู้รับบริจาคชำระหนี้สงฆ์ พอเงินหลุดจากมือ ให้รีบอธิษฐานเลย (บุญจะเกิดประมาณไม่เกิน 5 วินาที ถ้าไม่อธิษฐานตอนนี้บุญจะลอยขึ้นไปรอเราอยู่บนสวรรค์) เราก็อธิษฐานว่า ขออุทิศบุญนี้เพื่อชำระหนี้สงฆ์ในทุกชาติภพของข้าพเจ้า คิดว่าวิธีนี้น่าจะใช้ได้ผลนะคะ ลองทำดูนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...