ประวัติ และอภินิหารย์หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม สุพรรณบุรี ศิษย์ 3 ต.

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย hellotawan, 10 กรกฎาคม 2012.

  1. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    กระดาษยันต์สีวลีดวงแก้ว แผ่นนี้เก็บไว้ให้ดีน่ะครับ ท่านสำเร็จ และเจนจบวิชานี้มากครับ ต่อไปจะมีราคาเหมือนใบปลิวของหลวงพ่อกวย
     
  2. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เมื่อเล่าถึงขุนแผนเนื้อดินแล้ว ก็ขอเล่าเกี่ยวกับการสร้างพระเนื้อดินของหลวงปู่ เท่าที่พอจะเปิดเผยได้บางส่วนน่ะครับ ว่าเป็นอย่างไร โดยถ่ายทอดและตัดตอนมาจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่อีกทีนึง

    การสร้างพระเนื้อดินนั้นมีหลายสูตร หลายกรรมวิธี สำหรับในส่วนของหลวงปู่ตี๋แล้วนั้น ในการสร้างพระ และวัตถุมงคลของท่านจะพิถีพิถันมาก เพื่อให้บังเกิดอิทธิฤทธิอย่างสูงสุดแก่ผู้ที่ได้รับไป และวัตถุมงคลส่วนใหญ่มักสร้างแจก มีอะไรพอสร้างอะไรได้ก็จะสร้างอันนั้น ทำให้ได้จำนวนไม่มาก และไม่ได้มีหมุนเวียนมากนัก พระเนื้อดินที่ใช้นั้น มวลสารต่างๆ ที่ใช้ท่านต้องออกธุดงค์ด้วยตัวเอง และเก็บรวบรวมมาเองตลอดชั่วชีวิตที่ท่านออกเดินธุดงค์ ท่านจะอออกเก็บแร่วิเศษต่างๆ ยิ่งผ่านด่านของสัตว์ใหญ่ ไม่ว่าจะเสือ ช้าง กระทิง แล้วมาปักกลดได้ ท่านก็จะเก็บเอาดินบริเวณที่ปักกลดนั้นมาด้วย ๑ กำมือ เพื่อแสดงถึงความแคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งอันตรายจนสามารถปักกลด และออกธุดงค์ต่อได้ ท่านจะทำอย่างนี้เสมอ นอกจากนั้นยังมี ดิน 9 ขุนเขา (เอาเฉพาะะตรงยอดเขามาเขาละ 1 กำ) ดิน 7 ทุ่ง ดิน 7 ท่า ดินโปร่ง ดินขุยปู ดินขุยกบ ดินจากพระธาตุต่างๆ ดินจากสังเวชนีสถาน ดิน 9 ถ้ำ ดินจาก 9 ประเทศ ดินจากใต้พระอุโบสถ ผสมด้วย ผงอธิเจ ผงปถมัง ผงพุทธคุณ ผงจากมวลสารพระเกจิต่างๆ ที่ท่านเก็บรักษาไว้ และได้รับตกทอดมาจากครูบาอาจารย์ เรียกว่าจะหามวลสารสร้างพระก็ต้องออกธุดงค์หากันเลยทีเดียว และออกหาด้วยตัวท่านเองทุกครั้ง เนื่องจากในภายภาคหน้าท่านเป็นห่วงกลัวว่าศิษย์ของท่านจะหาไม่ได้ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกำหนด แล้วจะเสียชื่อไปถึงครูบาอาจารย์ของท่าน

    เมื่อได้มวลสารมาตามสมควรแล้ว ท่านก็จะหาน้ำมนต์จากที่ต่างๆ มาอย่างน้อย 399 วัด เพื่อนำมาผสมพิมพ์พระ จากนั้นท่านจะแกะพิมพ์ กดพิมพ์ด้วยตัวเอง จะเห็นว่าพระในยุคแรกของท่านจะไม่ได้สวยเหมือนพระปั้มโรงงาน แต่มีความเข้มขลังในแบบโบราณ หากศิษย์คนใดจะเข้าช่วยท่านทำพระก็ต้องรับศีล นุ่งขาวห่มขาว ชำระร่างกายเสียก่อนเสมอ เมื่อทุกอย่างพร้อม ท่านก็จะทำการผสมมวลสาร ดินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด เข้ากับน้ำมนต์ และผงวิเศษของครูบาอาจารย์ และกดพิมพ์พระให้ได้ตามเท่าที่จะได้ ปั้มเสร็จก็ต้องนำไปตากแดด ๗ วันให้ครบทุกวัน จากนั้นจึงนำไปเผาด้วยฝืนไม้มงคล เช่น มะยม มะขาม ขนุน ไม้กันเกรา ชัยบาดาล ไม้คูณ ราชพฤก ชัยพฤก ไม้พยุง เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้เลยในการทำวัตถุทงคลของท่านทุกครั้ง คือ ฤกษ์ยามนั่นเอง ทุกครั้งที่จะเริ่มทำพิธีจะต้องถึงวเวลาตามฤกษ์ถึงทำทุกการได้ แม้กระทั่งจะแจกพระที่ทำเสร็จก็ต้องดูฤกษ์ที่จะเริ่มทำการแจกด้วย เพื่อให้เกิดผลแก่ลูกศิษย์ที่นำไปใช้อย่างสูงสุด จะเห็นว่าพระของหลวงปู่ตี๋ ใครมีก็ต่างหวงแหนมาก เพราะมีความยากลำบากในการสร้าง เสก ต้องเข้าตำรา ต้องเข้าฤกษ์ยามทุกขั้นตอน และทำมือเอง มีจำนวนไม่มาก และแจกฟรีเป็นส่วนมาก หลายๆ คนนำไปให้ผู้ทรงภูมิจับพลังก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแรงนัก ขั้นตอนที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ครึ่งเดียวของพิธีกรรมการสร้างเท่านั้น ยังมีอีกหลายส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ครับ ใครที่มีพระท่านก็จงรักษาให้ดีน่ะครับ ท่านจะคุ้มครองทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน คนดีคนไม่ดี ถ้ามีพระท่านท่านจะช่วยคุ้มครองหากไม่เกินกรรมของผู้นั้น

    เล่ามาถึงตรงนี้ก็มีเรื่องเล่าให้ฟังนิดนึงน่ะครับ ในสมัยที่หลวงปู่ท่านมีชีวิตอยู่ มีลูกศิษย์ท่านนึง เป็นคนนิสัยไม่ดีเอาซะเลยชอบขโมยของ ขโมยพระของท่านไปขาย หรือขโมยเงินท่านเสมอ(เรียกว่าทำมานานมาก และทำทีละมากอยู่) วันนึงคงถึงคราวเคราะห์ที่ทำกรรมไว้กับหลวงปู่ เค้าขับรถไปและประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำพังยับทั้งคัน จนซ่อมไม่ได้ แต่ศิษย์คนนั้นไม่เป็นอะไรเลย เมื่อศิษย์ท่านอื่นทราบข่าวก็ถามท่านว่าทำไมเขาไม่ตายละครับ ทำไม่ดีไว้ตั้งเยอะ หลวงปู่ท่านจึงว่า "ไม่ได้ กูปล่อยให้มันตายไม่ได้ ต้องช่วยไว้ มันแขวนพระกูอยู่ ถ้ามันตายก็เสียชื่อครูบาอาจารย์กูหมด" แต่การรอดชีวิตมาคราวนั้นก็ต้องแลกด้วยการไม่มีรถใช้ไปตลอดชีวิต จากกรรมที่เขาเคยทำไว้ จนทุกวันนี้ศิษย์ท่านนั้นก็ยังไม่สามารถซื้อรถ หรือมีรถได้ เมื่อใดซื้อรถ หรือมีรถ รถคันนั้นจะพัง หรือเสีย หรือเฉี่ยวชนจนไม่สามารถซ่อมได้ เปลี่ยนมากี่คัน ซื้อใหม่แค่ไหนก็จะพังจนซ่อมไม่ได้ เรียกว่าซื้อใหม่จนเลิกซื้อไปเลย ทุกวันนี้เลยซื้อรถหรือมีรถไม่ได้ และตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ และนี่คือความเป็นห่วงศิษย์ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีแค่ไหน แต่ท่านก็ยังคุ้มครองไว้ด้วยความเมตตา
     
  3. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หลังจากห่างหายไปนานเพราะงานเยอะ ไปเจอมาเลยนำมาแจ้งไว้เป็นภูมิคุ้มกันตรับ ขณะนี้ได้มีขุนแผนเสาร์ห้าปลอมออกมาแล้วน่ะครับ เช่าหาให้ระวัง
    [​IMG]
     
  4. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]
    credit : dhamsilp

    หลายคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมเหรียญรุ่นสามจึงมีหลายโค๊ต และทำไมมีราคาแพง ก็ขอเล่าเอาไว้ดังนี้ครับ

    เหรียญรุ่นสาม สร้างเมื่อหลวงปู่อายุครบ 7 รอบ อายุ 84 ปี(พ.ศ.2551) โดยเนื้อที่มีการรันตัวเลขไว้ประกอบด้วย เนื้อเงิน เนื้อนวะ เนื้อกระหลั่ยทอง ในส่วนของเหรียนทองแดงนั้น หลวงปู่ให้ตีเป็น 3 โค้ด เพื่อเอาไว้แจก และเมื่อจะแจก ก็จะต้องแลกด้วยการฟันหลังในงานด้วย ในวันที่คณะศิษย์ทำการตีโค้ดนั้นตกลงกันว่าจะตี 3 โค้ดจเป็นจำนวน 500 เหรียน โดยทำการตีทีละโค๊ตจนครบ ได้แก่ โค๊ตที่ 1 โค๊ต ตี๋ โค้ดที่ 2 เป็นค้ดเม็ดงา โค๊ตที่ 3 เป็นโค้ด เลข 1

    แต่ในวันที่ทำการตีโค๊ตทางคณะศิษย์ทำการตีโค๊ตได้ครบ 3 โค๊ตเพียง 300 เหรียญเท่านั้น ฟ้าก็สว่างก่อน และต้องเตรียมตัวอาบน้ำ และนำหลวงปู่ไปวัดท่ามะกรูด เนื่องจากเป็นวันงานทอดกฐิน แล้วคนที่มาด้วย คือ ศิษย์ติดตามอีกเกลือบ 20 คน ต้องเรียงคิวกัน อาบน้ำ ดังนั้น เหรียญ 3 โค้ต จำนวน 300 เหรียญ และที่เหลืออีกจำนวน 200 เหรียญจะเป็น 2 โค้ด นอกจากจำนวน 500 เหรีญดังที่กล่าวมาก็จะเป็นเหรียญทองแดงโค๊ตเดียว

    จำนวนการสร้างเหรียญรุ่นสาม ทั้งหมดดังนี้
    1. เหรียญเนื้อทองคำ 11 เหรียญ
    2. เหรียญโกลน ทองแดง 20 เหรียญ
    3. เหรียญชนวน 46 เหรียญ
    4. เหรียญเงิน 99 เหรียญ
    5. เหรียญนวโลหะ 320 เหรียญ
    6. เหรียญกะไหล่ทอง 550 เหรียญ
    7. เหรียญทองแดง 1 โค๊ต 2600 เหรียญ
    8. เหรียญทองแดง 2 โค๊ต 200 เหรียญ
    9. เหรียญทองแดง 3 โค๊ต 300 เหรียญ

    และด้วยความที่เหรียญนี้มีการสร้างที่แตกต่างจากเหรียญทั่วไปจึงทำให้มีราคาแพง คือเป็นการปั๊มแบบบังคับกระบอก ไม่มีการตัดขอบเหรียญ และหูเหรียญเป็นแบบห่วงเชื่อม จำนวนการสร้างที่น้อยทำให้ราคาพุ่งไปไกล(ส่วนจะมีการปั่นกระแสหรือเปล่าอันนี้ให้ท่านลองพิจารณาเองน่ะครับ) และมีข้อสังเกตอีกนิดนึงว่าเหรียญนี้ปั๊มแบบบังคับกระบอกเหรียญจะบาง การตีโค๊ตจะติดคมชัดทุกรายละเอียดของโค๊ตน่ะครับ ลืมเล่าไปนิดครับว่า บล๊อกได้ทำลายแล้วต่อหน้าหลวงปู่

    [​IMG]
    credit : dhamsilp
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2012
  5. เด็กวังแดง

    เด็กวังแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +3,328
    เมตตาอย่างแรงครับ รูปอาจจะไม่ชัดถ่ายจากมือถือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. hanada9

    hanada9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +9,853
    คุณ hellotawan บอกกล่าวที่มาได้ชัดเจนดี คงใกล้ชิดหลวงปู่หลาย :cool:

    ผมเคยมีวาสนาได้ไปกราบท่านไม่กี่ครั้ง..
    เดี๋ยวขอไปค้นกล่องใส่พระที่บ้านดูก่อนว่ามีอะไรบ้าง
    (เผื่อคุณ hellotawan จะแนะนำบอกได้ว่าชิ้นไหนเหมาะกับผม)
     
  7. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    จริงๆ ผมเองไม่ทันกายเนื้อหลวงปู่หรอกครับ แต่อาศัยว่ารู้จักลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ยุคเก่าๆ หลายท่าน เลยได้ฟังเรื่องราวมามากมาย ก็เลยคิดว่าน่าจะนำเอาสิ่งที่เราได้รับรู้มาถ่ายทอดบ้าง เพราะไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องราว ประวัติ และวัตถุมงคลของหลวงปู่สักเท่าไหร่ อาจเพราะหลวงปู่ท่านปิดตัวเองด้วย เพิ่งจะมาเปิดตัวก็ช่วงท้ายที่ท่านบารมีเต็มแบบสุดๆ แล้ว คนทั่วไปมักรู้จักแต่ ศิษย์สาม ต. ของหลวงพ่อกวย เตี๊ย ตั๊ว ตี๋ แต่ไม่เคยมีคนเอาเรื่องราวท่านมาเล่าเลย เรื่องราวของหลวงปู่ตี๋เองก็มีแต่ที่ซ้ำๆ กันในเว็บ ไม่มีข้อมูล หรือเรื่องราวใหม่ๆ มาเล่าสู่กันฟัง

    วัตถุงมงคลที่ท่านทำไว้มีหลายอย่าง หลายชิดมาก ทาเรียนมาเยอะ แต่ทำครั้งละไม่มาก จึงหายากและไม่ค่อยมีตามตลาดพระเท่าไหร่ จะมีที่ออกเป็นเรื่องเป็นราวก็เหรียญรุ่น 4 เจริญสุข นี่แหละครับ ท่านให้สร้างทิ้งทวนก่อนมรณะภาพ พิถีพิถันรูปแบบ อักขระยันต์ที่อยู่บนเหรียญมีความหมายแฝงหมด รุ่นนี้จึงออกมาสวย เทียบเท่าเหรียญที่พวกศูนย์สมัยนี้ทำเลยทีเดียว รุ่นสุดท้ายท่านปลุกเสกทุกวัน ทั้งกลางวัน กลางคืน บางครั้งท่านจำวัดแล้ว เมื่อถึงฤกษ์ยามดีๆ ในตอนกลางคืนท่านก็ตื่นมาครองจีวรปลุกเสกในห้องนอนของท่าน แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทราบ

    พี่ hanada9 ลองเอาวัตถุมงคลท่านมาโชว์สิครับ เผื่อมีของที่หลายคนไม่เคยเห็น เดี๋ยวผมพอมีเวลาก็จะเอารูปมาทะยอยลงให้ชม
     
  8. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เหรียญแจกทาน

    [​IMG][​IMG]
    ขอบคุณภาพจากพี่ ป้ายแดง

    เหรียญแจกทานนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการมากที่สุด เหตุที่มีการสร้างเหรียญนี้ขึ้นมา เนื่องจาก ในขณะที่ทำการจัดสร้างเหรียญรุ่น ๔ เจริญสุข นั้น หลวงปู่มีดำริว่า น่าจะสร้างเหรียญออกมาอีกสักชุด เพื่อนจะได้เอาไว้แจกจ่ายในงานศพของท่าน ด้วยท่านไม่ต้องการให้มาสร้างเหรียญตายที่ไม่ทันท่านเสก เมื่อท่านไม่อยู่แล้วศิษย์จะได้มีของดีที่ทันท่านเสกไว้ใช้กัน ในขณะเดียวกันก็ใกล้ช่วงเวลาที่รุ่น ๔ จะนำเข้าพุทธาภิเษก ทางคณะศิษย์จึงตกลงที่จะใช้ด้านหน้าเหรียญเป็นบล๊อกเดียวกับรุ่น ๔ แต่ด้านหลังได้แกะบล๊อกเป็นยันต์ขึ้นมาให้ และจัดสร้างเพียงเนื้อเดียว คือ เนื้อทองเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 9999 เหรียญ ด้านหน้าเหรียญจึงมีลักษณะเดียวกับรุ่น ๔ เจริญสุข แต่ด้านหลังจะประกอบด้วยยันต์ที่แตกต่างออกไป และมีเพียงเนื้อเดียว คือ ทองเหลือง

    ด้านหน้าจะตอกโค๊ต ตี๋ สองที่ คือ ที่สังฆาติ และที่ซุ้มด้านล่างเหนือตัว ข. ติดกับเลข ๕๒ ก็จะมีโค๊ตอีกตัว ล้อมรอบด้วยช่อชัยพฤกษ์ ที่เป็นไม้มงคล

    ด้านหลังเหรียญประกอบด้วย ยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ดั่งเดิมที่ใช้มาตั้งแต่หลวงปู่อิ่ม หลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อกวย หลวงปู่ท่านจึงให้นำยันต์นี้มาลงด้านหลังเพื่อเป็นการรำลึกนึกถึงครูบาอาจารย์ของท่านทุกองค์ และยันต์ตรีนิสิงเหจะล้อมด้วย พระคาถา ที่หลวงพ่อมุ่ยท่านชอบใช้ มีใจความว่า ปิตุ อุตถัง ทวารัง ปิตุด้านบนห่วงเหรียญจะเป็นยันต์พัดโบกของหลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นยันต์เพ็ชรหลีก แคล้วคลาด ที่หลวงปู่สุข หลวงปู่อิ่มท่านชอบใช้ ด้านล่างทั้งสองข้างเป็นยันต์ นะม้วนหัว เรียกว่า นะมหาอุด เหรียญนี้จึงล้อมด้วย พระคาถา ที่หลวงพ่อมุ่ยท่านชอบใช้ มีใจความว่า ปิตุ อุตถัง ทวารัง ปิตุ เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญดีครบเครื่อง ที่มีการปลุกเสกมากที่สุด ทาชอบแะรักที่สุด ถึงขนาดบอกว่า ใช้เหรียญนี้เหรียญเดียวก็พอ เพราะท่านเสกทิ้งทวนไว้ให้แล้ว

    พิธีปลุกเสก
    ครั้งที่ 1 วันศุกร์ ที่ 15 ม.ค 2553 ปลุกเสกบนยอดมลฑบ บนยอดเขา วัดหัวเขา ถือเคล็ดที่ว่า ไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าใคร จะทำอะไร ก็เหนือเขา เป็นยอดคน (และเป็นวันสุริยุปราคา-มืดกลางวัน)
    ครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ ที่ 30 ม.ค 2553 ที่วัดหัวเขา บนยอดเขาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้มีอุปสรรค์มากมาย เป็นที่โจษขาน แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี (สว่างกลางคืน) ครั้งที่ 3 ปลุกเสกที่วัดท่ามะกรูด วันศุกร์ ที่ 12 ก.พ 2553 ปลุกเสกจน ฟ้าสะท้าน ดินสะเทือน แสงแดดจ้าแต่ฟ้าร้องตลอดเวลา คล้ายกับว่าฝนจะตก แต่แสงแดดร้อนระอุ เรียกว่าปลุกเสกแบบสุดยอด สมบรูณ์แบบ
    ครั้งที่ 4 ปลุกเษกเมื่อ วันเสาร์ ที่ 20 มี.ค 2553 (เรียกว่าวันเสาร์ห้า) ที่วัดสุทธิสอาด ถนนนิมิตรใหม่
    ครั้งที่ 5 ที่บ้านอาจารย์ปฐวี (มหาตู่) ในงานใหว้ครูตำรา ที่หมู่บ้านอู่ทองเพลส์ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
    นอกจากทั้ง 5 ครั้งนี้แล้ว เมื่อว่างๆ ขณะที่ท่านมาพักรักษาตัวที่บ้านอาจารย์ปฐวี ก็จะลุกมานั่งปลุกเสกอยู่เสมอ ทั้งกลางวันกลางคืน และท่านมักพูดว่า ของๆ ท่านไม่ต้องนิมนต์ใครมาเสก ท่านทำของท่านเอก รับผิดชอบเอง ดีไม่ดี ท่านก็จะรับผิดชอบของท่านเอง

    เหรียญนี้จึงนับว่าเป็นเหรียญที่ดีที่สุด ท่านมีความตั้งใจมากที่สุด ทิ้งทวนจนเต็มอัดไม่เข้า ที่คอลูกศิษย์ทุกคนจะต้องมีเหรียญแจกทานห้อยอยู่ตลอด รองลงมาก็รุ่น ๔ เจริญสุข เพราะถือว่าเป็นเหรียญที่มีความสวยงาม ตั้งใจสร้างทุกขั้นตอน โดยเหรียญแจกทานนี้เป็นเหรียญที่เอาไว้แจก จึงเกิดประสบการณ์มากที่สุด หายากมาก ไม่มีคนเอามาขายเลย ที่ขายก็แพง ท่านใดไปเจอก็เก็บไว้ให้ดี

    ในจำนวนเหรียญทั้ง 9999 เหรียญ มีจำนวน 100 เหรียญ ที่หลวงปู่ท่านจารไว้ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ศิษย์ใกล้ชิดว่า เหรียญรุ่น ๔ เจริญสุข และเหรียญแจกทาน ท่านจะไม่จารให้ใคร ท่านกล่าวว่า เหรียญชุดนี้ทำไว้ดีที่สุดแล้ว ครบที่สุด ไม่จำเป็นต้องจารอีก และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เราจะไม่เจอเหรียญรุ่น ๔ ที่มีจาร รวมทั้งเหรียญแจกทานที่มีจารก็พบน้อย ส่วนมากอยู่บนคอของศิษย์เท่านั้น ไม่ค่อยมีคนเอามาขาย

    และรุ่นนี้ถือว่ามีประสบการณ์มากที่สุด ตั้งแต่รถชนไม่เป็นอะไร ถูกยิงไม่เข้า หมากัดไม่เข้า หรือการเอาไปลองยิง โชคลาภ ค้าขายก็เป็นเยี่ยม เมื่ออธิษฐานขอก็มักจะได้ตามประสงค์เท่าที่หลวงปู่ท่านจะสงเคราะห์ให้ได้ ศิษย์ใกล้ชิด ศิษย์รุ่นเก่าจึงมีแจกทานติดตัวกันทุกตน

    ในขณะที่คนกำลังนิยมเหรียญรุ่น ๓ และยังไม่มีของปลอม ผมขอแนะนำรุ่น ๔ และแจกทานสำหรับคนที่จะมีไว้ใช้แขวนคอ เพื่อคุ้มครองตัวเอง
     
  9. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    มีข่าวประชาสัมพันธ์จากอาจารย์ปฐวี ศิษย์เอกหลวงปู่ตี๋

    ทุกวันนี้ ได้มีศิษย์มากมาย ที่มาพูด และ ขอร้องเสมอ ว่าขอให้เปิดรับศิษย์อีก และ มักมาพูด มาขอร้องผมเสมอ ว่าที่เปิดไป เขาก็ไม่รู้ และ เขามาช้าก็ไม่ได้เรียน ดังนั้น ขอให้ผมเปิดเรียนขึ้นอีกครั้ง เพื่อจะได้เป็นศิษย์ รุ่นที่ 3 แต่ด้วยการเรียน การสอนแต่ระครั้ง ที่ฝึกสอนมา มันเหนื่อยมาก กว่าจะได้แต่ละรุ่น กว่าจะได้มา เพราะต้องอาศัยทั้งการฝึกฝน และ ความรู้ ความสามารถ ของแต่ละคน จึงต้องขอบอกว่า เหนื่อยมากครับ ดังนั้น ผมจึงอยากขอเปิด ปีใหม่ไปแล้ว เป็นการเรียน แบบวิทยาทาน คือ ให้เรียนได้ ท่านละ 9 บท เท่านั้น คือ แค่เรียนไป เอาตัวรอดได้ เรียนไปเพื่อนตัวเองเท่านั้น การที่เรียนไป จะไม่สามารถ ไปเปิดสอน หรือ ไปรับศิษย์ไม่ได้ เพราะการเรียน แค่ 9 บทนี้ เป็นการเรียน ที่เอาแค่ตัวเองรอด และ รักษาตัวเองได้ เท่านั้น ดังนั้น ผมจึงอยากเปิด ให้เรียน ปีใหม่ไปแล้ว เป็นวิทยาทาน แค่ 9 บท เท่านั้น คือ ใครอยากจะเรียนด้านไหน ก็ให้จดกันไปได้ คนละ 9 บท เช่น

    1*** เรียนด้านคงกระพัน
    2***เรียนด้านเมตตา-มหานิยม
    3**เรียนด้านเสน่ห์
    4***เรียนด้านค้าขาย
    5**เรียนด้านสัปเหร่อ....
    6**เรียนด้านคงกระพันธ์
    7**เรียนด้านแคล้วคลาด
    8**เรียนด้านจังงัง - และ ตะบะเดชะ
    9**เรียนด้านป้องกันต้ว
    10**เรียนด้านปลุกเสกวัตถุมงคลแค่รู้ฉะเพราะตน
    11***เรียนด้านหมอเป่า
    12**เรียนด้านมวลสารการทำพระทุกเนื้อ
    13**เรียนด้านสมถะวิธีการปรุงจิตรของวิะ๊การเล่นแร่แปรธาตุ

    ทั้ง 13 อย่างที่ได้นำมาเสนอ ให้แก่ศิษย์ที่อยากจะเรียน เพื่อเป็น วิทยาทาน ให้แก่ศิษย์ หลวงปู่ตี๋ ทุกท่าน ที่ว่ามานี้ ทุกท่านที่สมัครเข้ามา จะเรียนได้แค่ เพียง 9 บท เท่านั้น ดังนั้น จะไม่ให้เรียนเกิดนี้ และ ให้เรียนเอาไป เพื่อรักษาตัวรอด และ รู้ฉะเพราะตัว เท่านั้น ไม่สามารถ จะนำไปช่วยเหลือเกื้อกูลใครได้ นอกจากตัวเรา ที่จะทำให้เห็น รับรู้ ฉะเพราะตนครับ ดังนั้น ท่านที่จะเรียน ต้องมีคุณสมบัติ์ดังนี้

    1. ท่านที่จะสมัครเรียนจะต้องมีสำเนาบัตร ประจำตัวบัตรประชาชน

    2.ดอกไม้สามสี - หมาก 3 คำ บุหรี่ 3 มวน ธุป 5 ดอก เทียน 1 คู่ พร้อมเงิน 12 บาท และ ต้องปฐมนิเทศแต่งขันครูมา วันพฤหัส (แล้วจะนัดมา
    3.ศิษย์ที่จะเรียน จะต้องมาเรียนด้วยตัวเอง -ปากต่อปาก ผม
    4.ศิษย์ที่มาเรียนจะต้องมาเรียนวันอาทิตย์เวลา 10.00.น. ไม่เกิดเที่ยง
    5.ศิษย์ที่เรียนไปจะต้องมาขึ้นครูในงานใหว้ครู ทุกครั้ง ( เท่าที่นาได้ แต่ปีแรกต้องบังคับให้มา )
    6.ศิษย์ที่จะเรียน จะต้องปฏิบัติ์ตามคำสั่งครูบาอาจารย์ เช่น รักษาศิล
    7.ศิษย์ที่เรียนจะต้อง มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    8.ต้องมีความรักและเทิดทูล พ่อ-แม่ และ ครูบาอาจารย์
    9.มีความรัก-สรัทธาต่อ พ่อ -แม่ - ครูบาอาจารย์
    10.จะต้องเชื่อฟังศิษย์พี่ (ในทางที่ดี ) มีความรัก ความสามัคคี เหมือนพี่ - เหมือนน้องกัน
    11.ต้องเรียนอาทิตย์ละแค่ 1 บท (เท่านั้นจนกว่าจะครบ 9 บท 9 อาทิตย์ )
    12.เมื่อเรียนจบจะต้องมาขึ้นครูงานใหว้ครูปีแรก จึงจะถือว่าจบ.
    13.เมื่อเรียนจบแล้ว หากยังไม่รู้เรื่องอะไร ให้มาขอความแนะนำได้ตลอดเวลา คิดว่าเป็นกันเองครับ

    ดังนั้น ปีใหม่แล้วจะเปิด เรียน เป็นวิทยาทานครับ

    และ ขณะนี้ ขอให้เปิดรับสมัครได้ทันที ต่อไปนี้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 5 ธ.ค.55 นี้เท่านั้น เมื่อรับเสร็จ เราก็จะนัดปฐมนิเทศ อีกครั้งหนึ่งนะครับ จึงขอประกาศให้ทราบครับ ไม่รู้ หรือ สงสัย โทรมาได้ที่ 0873373886 อ.ตู่ หรือ ที่ 0877049592 คูณตุ่ม

    ท่านใดอยากมีวิชาติดตัวก็สามารถมาเรียนได้ ก่อนที่อาจารย์ท่าจะไปบวชไม่สึกในปี ๕๙
     
  10. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    แจ้งเพิ่มเติมว่ารับทั้งสิ้น 39 ท่าน ผู้สนใจสามารถมาเรียนได้เพื่อเป็นวิชาติดตัวครับ ลองมาพิสูจน์ได้ครับ ตอนนี้มีแจ้งมาแล้วทั้งสิ้น 20 ท่านแล้วครับ

    ถือว่าเป็นการสอนทิ้งทวน ก่อนที่ท่านจะบวช เนื่องจากในสายวิชานี้มีท่านถือวิชาไว้เพียงคนเดียว ท่านก็ต้องการให้คนอื่นได้รับวิชาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เผยแพร่วิชาให้มาก ท่านถือว่าทำได้ ทำเป็น มีวิชาดี มีครูดี ก็สอนให้คนอื่นได้ดีได้เช่นกัน ไม่ต้องไปหวงมาก ครูบาอาจารย์ท่านเก่ง วิชาดี ทำไมจะสอนคนอื่นให้ได้ดีอย่างครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้ เมื่อครั้งที่หลวงปู่ตี๋ท่านยังดำรงขันธ์ ๕ อยู่ท่านก็เคยปารภกับอาจารย์ให้เปิดสอนหลายครั้ง แต่ท่านไม่เปิด ด้วยครูบาอาจารย์ยังอยู่ จะไม่ข้ามไม่เกินครูบาอาจารย์เด็ดขาด แต่ด้วยว่าสิ้นองค์หลวงปู่ไปแล้ว และอาจารย์ท่านก็จะบวช(ถ้าใครถอดวิชาครบ ต้องบวชตลดชีวิต เพื่อแลกกัน วิชาในสายหลวงปู่อิ่มต้องตายในผ้าเหลืองเท่านั้น) จึงได้สอนให้แก่ผู้สนใจ เมื่อยังเป็นฆราวาส เพราะเมื่อบวชเป็นพระแล้วก็จะสอนลำบาก เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเอาตัวรอดได้ และไม่ถูกคนอื่นหลอกหให้ไปทรงเจ้าเข้าผี ท่านที่เรียนก็จะได้รู้ในสายครูบาอาจารย์ วิชาต่างๆ เท่าที่จำเป็นและสอนได้ รู้ถึงที่มาที่ไปของวิชาคาถา ว่าล้วนแล้วแต่มาจากพระธรรมบท พระธรรมวินัยทั้งสิ้น ท่านใดสนใจเชิญนะครับ

    ไม่เสียค่าใช้จ่าย(นอกจากค่าครู 12 บาท) ไม่มีทรงเจ้า(ไม่รับและไม่ชอบ) ไม่มีรับขันธ์นะครับ มาเรียนปากต่อปากแบบโบราณ และที่สำคัญงานไหว้ครูปีแรกต้องมา เพื่อประสิทธิวิชาเป็นศิษย์เต็มตัวตามแบบโบราณ เมื่อครั้งหลวงปู่อิ่ม หลวงปู่ตี๋ท่านกระทำมา การเรียนครั้งนี้เพื่อให้มีวิชาสามารถเอาตัวรอดได้ รู้เห็นเป็นจริงตามคำครูบาอาจารย์ว่ามีจริง ทำได้ แต่จะไม่สามารถไปรับรักษา อาบน้ำมนต์ สัก เป็นอาจารย์ได้นะครับ(เพราะเรียนแค่ 9 บทไม่เพียงพอ และอาจารย์ท่านยังไม่มีความต้องการเปิดในตอนนี้) และผมก็ไม่ได้เป็นผู้สอนนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน เพียงแต่นำมาประชาสัมพันธ์เท่านั้น เกรงว่าอ่านแล้วจะเข้าใจเป็นอื่นว่า ของแบบนี้สอนกันง่ายๆ เลยหรือ ก็บอกเลยว่า ง่ายๆ แบบนี้แหละครับ เพราะจะได้ไม่ไปโดนหลอก และไม่ได้หวงอะไร ใครทำได้ก็ได้แก่ตัว หวงไปก็หายไปกับพื้นดิน ทำได้ ทำเอง รู้เองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  11. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,342
    ขอบคุณครับ ตกลงสิงห์ปลอมใช่ไหมครับ
     
  12. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ขุนแผมแท้ครับ ห้อยเดี่ยวได้สบายใจ ครบเครื่องที่สุด
    แต่สิงห์ผมสรุปอย่างนี้แล้วกันว่า ไม่เคยพบในวัตถุมงคลที่หลวงปู่เสกและแจกจ่ายศิษย์ แต่อาจจะมีการทำมาจากศิษย์ที่อื่นแล้วเอามาให้เสกก็เป็นได้ครับ
     
  13. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,342
    ขอบคุณมากนะครับ
     
  14. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หลวงพ่อมีนิมนต์หลวงปู่ตี๋เข้าพบ

    มีเรื่องเล่าสูกันฟังอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เมื่อครั้งหลวงปู่ตี๋ไปเสกพระ ที่วัดทับขี้เหล็ก อ.หันคา ชัยนาท ในงานนั้นมีหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยไปด้วย ในระหว่างพิธีศิษย์ที่ติดตามไปด้วยสังเกตเห็นว่าสายสิญจน์ที่หลวงปู่ถือถูกลมพัดไปติดเปลวเทียน สักพักพอลมเปลี่ยนทิศทางสายสิญจน์ก็หลุดออกมาปรากฏว่าสายสิญจน์เส้นนั้นไม่ไหม้ไฟ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้รอยดำก็ไม่มีให้เห็น

    เมื่อเสร็จพิธีหลวงพ่อมี ได้ให้ลูกศิาย์มานิมนต์หลวงปู่ตี๋ เข้าไปพบ และปิดกุฏิคุยกันนับชั่วโมง ในระหว่างนั้นด้วยความสงสัย ศิษย์หลวงปู่ตี๋ที่ติดตามไปด้วยจึงได้สอบถามศิษย์หลวงพ่อมี ที่นั่งรออยู่ด้านนอกด้วยกัน ถึงสาเหตุที่หลวงพ่อมีท่านนิมนต์หลวงปู่ตี๋เข้าพบ ได้ความว่า ตอนที่เสกพระเสร็จหลวงพ่อมีท่านได้ถามกับลูกศิษย์ท่านว่า พระองค์นั้นเป็นใคร มาจากที่ใด เพราะท่านเห็นว่า ในขณะที่เสกอยู่นั้นหลวงพ่อมีท่านเห็นเปลวไฟรอบกายหลวงปู่ตี๋ จากนั้นค่อยๆ รวมกันเป็นลูกไฟลูกใหญ่พุ่งเข้ามายังกองวัตถุมงคลอยู่หลายครั้ง แสดงว่าองค์นี้ต้องสำเร็จกสินไฟ และไม่ธรรมดาแน่ๆ เมื่อเสร็จพิธีหลวงพ่อมีท่านจึงให้ศิษย์นิมนต์หลวงปู่ตี๋เข้าพบ หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงหลวงปู่ตี๋ก็ออกมาและเดินทางกลับ ในระหว่าทางศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ตี๋จึงได้ถามว่า หลวงปู่เข้าไปคุยอะไรกับหลวงพ่อมีเป็นนานสองนาน หลวงปู่ท่านจึงตอบมาเพียงสั้นๆ ว่า เข้าไปคุยและแลกเปลี่ยนวิชากันนิดหน่อย ด้วยเหตุการณ์นี้จึงทำให้เป็นที่ทราบกันในหมู่ศิษย์ว่าหลวงปู่ตี๋ ท่านสำเร็จกสินไฟเป็นแน่ๆ
     
  15. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    กราบหลวงปู่ตี๋

    นำขุนแผนของหลวงปู่มาให้ชมกันครับ


    [​IMG]
    [​IMG]
     
  16. สำนวนไทย

    สำนวนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +1,526
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับจะได้มีวัคซีนป้องกัน
     
  17. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    พระแท้สวยครับ ถ่ายภาพได้สวยทีเดียว
     
  18. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]
    ประสบการณ์จากเว็บเพื่อนบ้าน
    เป็นเครื่องลางของหลวงปู่อีกชิ้นครับที่มีประสบการณ์ด้าน คงกระพัน
    เมื่อประมาณปลายปี53 ผมและเพื่อนได้ไปทอดกฐินที่วัดในต่างจังหวัดแถวอีสาน ก็เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อมีกลุ่มวัยรุ่นแถวนั้นที่จับกลุ่มกินเหล้า มาหาเรื่องกับทางพวกผมด่าสารพัดต่างๆนานเกือบจะมีเรื่องกันตั้งแต่ไปถึงไม่กี่ขั่วโมงแต่ก็คิดว่าเรามาทำบุญเลยไม่คิดอะไร ก็ปล่อยไป แต่ว่ามีเพื่อนในกลุ่มของผมไม่ยอมก็ไปท้าและก็ด่าคืนจนผู้ใหญ่มาห้าม ก็แยกกันไปเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่พอตกกลางคืนกลุ่มนั้นได้มาหาเรื่องอีกและก็รุมกระทืบพวกผมบวกผมด้วย แต่ที่เห็นเพื่อนผมโดนมีดดายหญ้า ฟันเข้าที่กลางหลังและที่ท้ายทอยไม่ต่ำกว่า5 ครั้ง พอเรื่องจบลง มีแต่รอยเสื้อที่ขาดและแผลเลือดออกเพียงแค่ยางบอนทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ยืนงงกันเป็นแถวประมาณเกือบ20ได้
    ที่คอของเพื่อนผมก็ห้อยหนุมาณหลวงปู่ตี๋นี่แหละองค์เดียว และก็ไม่ได้สักอะไรเลย นับเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ
    ขอบคุณเรื่องจาก คุณมหาปราบ
    ที่มา : กลุ่มคนนนท์
     
  19. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    ขอบคุณมากครับ ก่อนหน้าผมได้มาประมาณสัก 9 องค์ได้มั้งครับ แจกเพื่อเผยแพร่บารมีหลวงปู่ท่านไปเกือบหมดแล้ว :cool::cool::cool:
     
  20. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ถ้าได้เยอะน่าจะมาจากช่วงที่แจกผ้าป่ารึป่าวไม่ทราบครับ พระของหลวงปู่ส่วนใหญ่จะสร้างแจก ยิ่งในยุคแนกๆ ก็จะยิ่งหายากมาก เพราะท่านทำมือง่ายๆ ไม่ได้มีทุนอะไรสร้างทีละเยอะๆ ยิ่งช่วงปีต้นๆ 13-15 มีหลวงพ่อกวย หลวงพ่อมุ่ยมาร่วมปลุกเสกด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...