ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

การต่อรองเจรจากับเพื่อนจากต่างดาว !!!

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nirvana<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6856344", true); </SCRIPT> สมาชิก

น้า Mythi บอกว่า ขณะนี้ Elite (ผู้นำรัฐบาลมหาอำนาจชาวโลก) พยายามเจรจากับชาวดาวลูกไก่ (Pleiadeans) เพื่อขอร้องให้ CG ช่วยใช้เทคโนโลยีบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติที่กำลังมาถึงด้วย ซึ่ง Elite หวังว่าจะช่วยผู้คนไว้ได้และจะกลับมาเป็นผู้นำโลกต่อไป แต่ทาง CG ไม่เห็นด้วยและต้องการให้ Elite ทั้งหลายกลับมาเป็นสามัญชนคนเดินถนน

ส่วนผู้ที่รอดพ้นจากภัยพิบัติและจะเป็นผู้นำชาวโลกรุ่นต่อไป จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก CG เสียก่อน (คงจับตัวไปสแกนออร่า...อิอิอิ) เพื่อความมั่นใจว่าจะดำเนินการอยู่ในร่องในรอยและมีความสามารถจริง (โดยไม่ต้องดีเบต)

ในความเห็นของน้า Mythi คิดว่าโอกาสที่การเจรจาจะบรรลุผลคงน้อยมาก เพราะเวลาใกล้หมดแล้ว ภัยพิบัติจะเป็นปรากฏการณ์ที่คัดสรร (Filter) มนุษย์ที่ดีและเลวออกจากกันเหมือนอย่างเช่น การแยกเมล็ดข้าวออกจากรวง

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนถ่ายจากระดับ 0 ไปยังระดับ 1 จำเป็นจะต้องมีอาสาสมัครชาวโลกประมาณ 250 คน เป็นตัวเชื่อมต่อประสานงานระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยนที่จะลงมาช่วยชาวโลกหลังภัยพิบัติ

สมาชิกท่านใดที่สนใจงานอาสาสมัครแบบนี้ซึ่งคงได้กระทบไหล่เอเลี่ยนตัวจริง มีโอกาสได้ไปขี่ยานอวกาศเล่นๆเป็นการปรับความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแตกต่างกัน ก็ขอให้ท่านเจริญจิตภาวนาสั่งสมความสว่างของออร่าในตัวท่านไว้คอยท่า เดี๋ยวเชื่อว่าท่านคงได้รับเลือกในเวลาไม่ช้านานนัก..55555

ปล. อ่านตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ ภัยพิบัติของจริงยังไม่ได้เริ่มแสดงผล
ยังไม่มีใครมารับประกันความปลอดภัยของทุกท่าน ฉะนั้นช่วงนี้ก็รีบแปลง
ทรัพย์สินเป็นบุญ....ด่วน

ใช้สติปัญญาหาทางเอาตัวรอดแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ไปด้วย นะครับ

ที่มา http://palungjit.org/threads/ดาวหาง-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-70

 

5555555555555
ปล. อ่านตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ ภัยพิบัติของจริงยังไม่ได้เริ่มแสดงผล
ยังไม่มีใครมารับประกันความปลอดภัยของทุกท่าน ฉะนั้นช่วงนี้ก็รีบแปลง
ทรัพย์สินเป็นบุญ....ด่วน

ใช้สติปัญญาหาทางเอาตัวรอดแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ไปด้วย นะครับ

ที่มา ดาวหาง Elenin / Nibiru (planet X) - Elenin - Events<!-- google_ad_section_end -->
ชอบตรงแปลงสินทรัพย์เป็น บุญ สินทรัพย์เอาลงที่ไหนดีละ รวยอีกแล้ว

 

ปฏิทินขอม vs มายา พิสูจน์อวสาน (1) ชิมลาง..โลกยังปกติ!

’ปฏิบัติการวันสิ้นโลก 2012 ท้าพิสูจน์ที่ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร (Operation Doomsday 2012 at Prasat Phupek Sakon Nakhon)“ นี่คือชื่อปฏิบัติการพิสูจน์เรื่องวันสิ้นโลกที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย โดยกลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า ทีมงาน “พยัคฆ์ภูเพ็ก” ซึ่งมีแกนนำประกอบด้วย...นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์, สรรค์สนธิ บุณโยทยาน นักพิภพวิทยา, ฤาษีเอก อมตะ - วรวิทย์ ตงศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณและศาสตร์ลึกลับ, บุปผา ดวงมาลย์ ผู้รู้จักปราสาทภูเพ็กทุกซอกทุกมุม........................................

อ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ ปฏิทินขอม vs มายา พิสูจน์อวสาน (1) ชิมลาง..โลกยังปกติ! | เดลินิวส์

 

แปลงทรัพย์สินบางส่วนเป็นเมล็ดพันธุ์พืช อุปกรณ์ยังชีพ ทองคำ เหมาะสมกว่า การสร้างบุญใช้วิปัสสนากรรมฐานสร้างดีที่สุด ดีกว่าสวดมนต์ และทำบุญทำทานอีก ไม่ต้องใช้เงินด้วย

 

ข้อความบางส่วน :

ทั้งนี้ จากการที่ ทีม “พยัคฆ์ภูเพ็ก” ได้เริ่มตรวจสอบพิสูจน์เป็นการชิมลางในยกอุ่นเครื่อง ก่อนจะเริ่มยกแรก การตรวจสอบเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2555 ซึ่งถ้าความเร็วของการหมุนรอบตัวเองของโลกต่างออกไป ไม่ว่าจะช้าลง หรือเร็วขึ้น เงาดวงอาทิตย์บนนาฬิกาแดดจะไม่สัมพันธ์กับสมการแห่งเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาข้อมือ แต่ผลการตรวจก็พบว่า นาฬิกาแดดและนาฬิกาข้อมือให้ข้อมูลตรงกับสมการเวลา แสดงว่า ไม่ผิดปกติ

และจากการตรวจสอบพิสูจน์ในวันที่ 10 ก.ย. 2555 ผลการคำนวณก็พบว่า โลกยังคงหมุนที่อัตรา 15 องศาต่อ 1 ชั่วโมง เป็นปกติ โดยในวันที่ 10 ก.ย. 2555 เวลา 12.00 น. ทั้งนาฬิกาแดดและนาฬิกาข้อมือชี้ตำแหน่งเดียวกัน จึงยืนยันได้ว่า ณ วันดังกล่าวนี้ การหมุนรอบตัวเองของโลกยังคงไม่มีอะไรบิดเบี้ยว!!

 

ลำดับเหตุการณ์การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3​

<CENTER style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/20px Arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(249,249,249); outline: 0px; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></CENTER>
สาส์นข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

อนึ่งผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากคุณ สนธิ สารธรรม จ่าหน้าว่า "สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระที่ฟาติมา" ผมจะขอคัดข้อความส่วนที่กล่าวถึงการทำนายมาลงในที่นี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความชิ้นแรก ที่ผมได้อ้างมาแล้วในตอนต้น

"หลังจากที่สมเด็จพระสันตปาปายอห์น ปอล ได้ทรงอ่านทำนายข้อที่ 3 แล้วก็เช่นเดียวกันพระองค์ทรงโทมนัสมากจากข้อความในสาสน์นั้น และทรงอนุญาตให้เปิดเผยบางส่วนให้โลกได้รับทราบในปี ค.ศ.1983-1985 พระองค์ทรงทำดังนี้เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว"

"เสียงจากพระแม่ได้ตรัสกับลูเซียว่า........ลูกที่รักของเราจงไปและบอกให้โลกได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ฟังคำสั่งที่พระเป็นเจ้าทรงวางไว้ต่อหน้าพวกเขา ปีศาจจะปกครองโลกและมันกำลังทำให้คนทั้งหลายเกลียดชังกัน อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นก็สามารถทำลายโลกได้ในเวลาเพียงนาทีเดียว ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ชาติจะถูกทำลาย พระศาสนาจักรเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความชั่วร้าย จนว่าไม่มีมนุษย์สักคนเข้าใจดีกันได้และมนุษย์จะสูญเสียความเชื่อ.......

แผ่นดินไหวจะทำลายแนวเส้นแบ่งของโลก (เส้นศูนย์สูตรของโลก) ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะตาย บุคคลเหล่านี้เป็นพวกที่ชีวิตของเขามีรากฐานอยู่บนวัตถุสิ่งของ คนหลายล้านคนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนพวกที่มีชีวิตรอดก็ปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในหมู่ผู้ตาย (อยากตาย) สภาพของโลกที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นเป็นสภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สิ่งนี้จะมาอย่างแน่นอน พระเป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับพระองค์ พวกที่เชื่อและสัตย์ซื่อต่อพระองค์จะมีชีวิตรอดและจะมีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น"

ลูเซีย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้กลายเป็นแม่ชี และเคยกล่าวเอาไว้ว่า

".........แม่พระทรงโทมนัสมาก เพราะไม่มีใครสนใจในสาสน์ปี ค.ศ.1917 ของพระแม่ จงเชื่อเถิดว่าการลงโทษกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ และมีวิญญาณมากมายจะประสบความพินาศ หลายชาติจะหายไปจากโฉมหน้าของโลก ในระหว่างนี้ถ้ามนุษย์กลับตัวกลับใจโลกก็จะปลอดภัย........ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเริ่มภาวนา ทำการใช้โทษบาปและส่งสาสน์นี้ให้แพร่หลายต่อไปยังครอบครัวญาติมิตร "

"การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

"ในคืนที่มีอากาศหนาวจัด เมื่อเวลา 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง นี่คือสัญญาณที่ 3 ซึ่งแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองโลก คนดีและผู้ที่ได้เผยแพร่สาสน์ของพระแม่จะไม่ต้องหวาดกลัวเลย จะต้องทำอะไรเล่าจงคุกเข่าและภาวนาวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า จงอย่าออกไปข้างนอกจงอย่ายอมให้ใครก็ตามเข้าไปในบ้านของท่าน คนดีเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดจากหายนะครั้งนี้ ส่วนคนชั่วจะตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจ "

แม่ชีลูเซียได้แนะ "ทางรอด" ให้แก่ผู้ที่เตรียมตัวพร้อมเอาไว้ดังนี้ว่า

" ดิฉันขอให้เครื่องหมายเหล่านี้ คือคืนนั้นจะหนาวมาก ลมจะพัดแรงและในช่วงเวลาอันสั้นโลกจะเริ่มสั่นสะเทือน ที่บ้านของท่านจงปิดหน้าต่างทุกบานและอย่าพูดกับคนหนึ่งคนใดนอกจากคนในบ้าน อย่ามองออกไปภายนอก อย่าอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นพระพิโรธของพระเป็นเจ้า จงจุดเทียนเสกเพราะจะไม่มีแสงสว่าง ในรูปแบบอื่นส่องแสงได้เป็นเวลา 3 วัน คุกเข่าต่อไม้กางเขนแล้วภาวนา.....

เมื่อโลกหยุดสั่นสะเทือนแล้ว ท่านจึงมองออกไปภายนอกได้ แต่อย่าได้แตะต้องหรือนำสิ่งใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นพิษ มิฉะนั้นตัวท่านจะได้รับพิษนั้นด้วย ทุกคนที่ไม่เชื่อและไม่ฟังจะตาย ลมจะพัดเอาอากาศธาตุ (ก๊าซ) มาและแผ่กระจายไปทั่วโลก ในคืนที่ 3 แผ่นดินจะหยุดสั่นสะเทือน มันจะอยู่ในสภาพนิ่ง ดวงอาทิตย์จะปรากฎมา บรรดาทูตสวรรค์จะมาจากฟ้าและอวยพรแผ่นดินโลกอีกครั้งหนึ่ง "


(คัดลอกมาจาก หนังสือ เทพอวตาร เขียนโดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)​

 

อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน…
การทำนายอาจจะผิดไปก็ได้เช่นกัน !!!

​

อากาศเย็น...การเมืองร้อน...
<O</O
อุณหภูมิทางการเมืองเริ่มจะร้อนขึ้นมาบ้างแล้วในขณะนี้ และจะเพิ่มมากขึ้นๆตั้งแต่เดือน..“พฤศจิกายน”..เป็นต้นไป ยิ่งเข้าเดือน..“ธันวาคม”..คิดว่าคงจะเป็น..”จุดเดือด”..ของการเมืองไทย หลังวันที่ 10 ธ.ค. 2555 เป็นต้นไป อาจจะเริ่มเห็นบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เป็นไปได้ทั้งสองทางคือ..ในทางที่สงบ และ ในทางที่รุนแรง..แต่ดูแนวโน้มแล้วโอกาสที่จะเกิดความ..”รุนแรง”..มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากทีเดียว ถ้าหากว่ามองไปในทางสงบก็เห็นมีอยู่เพียงทางเดียวเท่านั้นคือ...รัฐบาลนี้ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ (แต่จะมีการเลือกตั้งหรือ?...ถ้ามองในแง่ว่ามีการเลือกตั้ง)..

ถ้ามีการลาออกหรือยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่...”พรรคเพื่อไทย”...ก็ยังได้ สส. เข้าสภาจำนวนมาก และยังได้เป็นรัฐบาลอยู่ดี...มองไม่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสได้เข้ามาเป็นรัฐบาลเลย แม้แต่...”ฝุ่น”...ก็มองไม่เห็นด้วยซ้ำ...นี่ว่ากันตามดวงของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะดวงของ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบากเหมือนตูดนั่งอยู่บนเก้าอี้ตะปูที่แหลมคมเลยทีเดียว...ดวงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องบอกตามตรงว่า..”บอดสนิท”..มืดยิ่งกว่าอยู่ในถ้ำแถมยังถูกปิดปากถ้ำอีกด้วย.....

โอกาสที่รัฐบาลนี้จะยุบสภาหรือลาออกนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงเหลืออยู่ทางเดียวคือความนั่นคือ...”ร้อนแรงทางการเมือง”...ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่อดทนต่อการบริหารประเทศชาติ-บ้านเมือง ของคณะรัฐบาลนี้ไม่ได้ เพราะมองไปทางไหน จุดไหนก็มีแต่การทุจริต-คอร์รัปชั่นกันอย่างมโหฬาร มิหนำซ้ำองค์กรอิสระต่างๆก็ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ปล่อยให้บ้านเมืองตกอยู่ในกำมือของนักการเมือง(อันธพาล) “เถื่อนๆ”เข้ามานั่งบริหารประเทศบ้าง รัฐมนตรีที่ไม่มีฝีมือมาทำงานบ้าง และอีกหลายๆอย่างของรัฐบาลนี้ที่เป็น...”จุดอ่อน และเป็นจุดตาย”...ของรัฐบาลนี้ทั้งสิ้น .

การเมืองเริ่มเข้าสู่ทางตัน เพราะนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ ถือว่าเป็น...”จุดตาย”...ของรัฐบาลนี้เช่นกัน เพราะความดื้อรั้นไม่ยอมรับฟังความเห็นของนักวิชาการส่วนหนึ่ง...ไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านจากหลายๆฝ่ายส่วนหนึ่ง...นโยบายของรัฐบาลนี้เหมือนเป็นการ...”จำนำประเทศ”...เลยทีเดียว เพราะรัฐบาลนี้ต้อง..กู้เงินจำนวนมหาศาล...”นับล้านล้านบาท”...มาละเลงไปกับโครงการต่างๆแต่ละแห่ง แต่ละโครงการก็ปรากฏว่ามีการทุจริต-คอร์รัปชั่นกันอย่างมากมาย เฉพาะโครงการรับ..”จำนำข้าว”..เพียงอย่างเดียว ประเทศต้องสูญเสียเงินไปเป็น..”แสนๆล้านบาท”...เงินที่สูญไป ไปตกอยู่ในกระเป๋าของใครบางคนใช่หรือไม่?...

จะมีชาวนาสักกี่คนที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้โดยตรง...แทบจะนับหัวได้ นอกนั้นล้วนเป็นการทุจริตเงินจากโครงการนี้ นำเงินเข้ากระเป๋าของนักการเมืองบางคนและพวกพ้องมากกว่า ข้าวที่นำมาจำนำส่วนมาก เป็นข้าวเกรดต่ำที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาสวมสิทธิ์เป็นส่วนมาก อีกทั้งยังมีการนำข้าวที่เคยรับจำนำเอาไว้แล้ว มาเวียนเทียนจำนำอีกรอบหนึ่ง คงหนีไม่พ้นคนของรัฐบาลที่ร่วมมือกับ พ่อค้าโรงสีต่างๆที่สมรู้ร่วมคิด ร่วมทำกันเป็นทีม รัฐบาลจะมาอ้างอย่างไรประชาชนทั้งประเทศคงไม่เชื่อ รัฐบาลนี้ยังทำให้ประเทศไทยเสียแชมป์การส่งออกข้าว ไปให้กับประเทศเวียตนามอีกด้วย หลายๆอย่างที่รัฐบาลนี้บริหารประเทศผิดพลาด จะด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่มีฝีมือก็ดีจุดนี้แหละที่จะทำให้...”ประชาชนทนไม่ได้”...จะออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล...

การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้...”ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย” ต้องการล้างนักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรค ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้หมดไป...ถ้าประชาชนสามารถขับไล่รัฐบาลนี้ออกไปได้สำเร็จ...ประชาชนจะไม่ยอมรับพรรคการเมืองใดๆที่มีอยู่ ในปัจจุบันให้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกต่อไป...ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม...ก็ไม่มีโอกาสที่จะมาเป็นรัฐบาลได้อีกอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อก็คอยดูต่อไป
<O</O
ถ้าประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลนี้เมื่อไหร่วันไหนก็ตาม..แกนนำคนเสื้อแดงจะเกณฑ์มวลชนคนเสื้อแดง ออกมาประจันหน้าประชาชนทันทีเช่นกัน...หากเป็นไปตามที่ผมว่ามานี้ ถ้าคนมีอำนาจในบ้านเมืองไม่รีบออกมาตัดไฟแต่ต้นลม...”ความหายนะ”...จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงในบ้านเมือง การต่อสู้กันจะเกิดขึ้นจนบานปลายกลายเป็น....”สงครามประชาชน”.... เพราะอันธพาลจะถูกเกณฑ์ออกมากันเต็มบ้านเต็มเมือง คงไม่ต้องบอกว่าฝ่ายไหน...”อหิงสา”...ฝ่ายไหน...”อันธพาล”...แต่ถึงตอนนั้นคงจะไม่มีใครกลัวใครกันแล้ว..อันธพาลก็อันธพาลเถอะ...”ประชาชนทนไม่ไหว”...ก็จะสู้อย่างไม่ถอมถอยเช่นกัน ประเทศไทยคงจะเหมือนประเทศ..ตูนิเซีย..ลิเบีย..อียิปต์..เลือดจะนองแผ่นดินครั้งใหญ่...

คนไทยจะห้ำหั่นกันเองเพราะนักการเมือง รัฐบาลและคนในรัฐบาลจะเป็นผู้หนุนหลังคนเสื้อแดงออกมาปกป้องอำนาจ ที่พวกเขาครอบครองอยู่ในปัจจุบันนี้..เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ประชาชนจะเห็นตำรวจเป็นพวกของ “เขาคนนั้น” หรือเป็นตำรวจเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกลายเป็นศัตรูกับประชาชนในที่สุด สุดท้ายตำรวจจะไม่กล้าสวมใส่เครื่องแบบไปอีกนานเลยทีเดียว จะต้องมีการจัดระบบข้าราชการใหม่ทั้งหมดทั่วประเทศ ทุกองค์กร ทุกหน่วยงานจะถูกประชาชนรื้อระบบ แล้วจัดโครงสร้างใหม่...ในขณะนี้เห็นทุกอย่างในบ้านเมืองสงบเหมือนทะเลไร้คลื่นลม แต่ความจริงแล้วภายในลึกๆน่ากลัวมาก เพราะมีพรรคการเมืองหนึ่งได้ซ่องสุมทั้งอาวุธ และกำลังคนเอาไว้มากมาย กระจายไปอยู่ทุกแห่งใกล้ๆจุดสำคัญของประเทศทั้งนั้น...

”เขาคนนั้น”...เคยได้รับบทเรียนราคาแพงมาแล้วในชั่วโมงนี้...”เขาคนนั้น”...ฉลาดขึ้นเยอะอีกทั้งยังมี..กุนซือ..ที่ฉลาดล้ำลึกสุขุมรอบคอบ...มีทั้งเกมรุกและเกมรับอยู่ในตัว...เกมรุก คือในตอนนี้ พรรคของ...เขาคนนั้น...กำลังมีอำนาจและกุมองค์กรสำคัญต่างๆเอาไว้หมดแล้วทุกองค์กรในประเทศ จึงพยายามหาช่องทาง...กู้เงิน...ให้มากที่สุดเท่าที่จะกู้ได้... ส่วนหนึ่งเอาไปอัดฉีดนโยบายประชานิยมเพื่อเป็นการหล่อเลี้ยงฐานเสียง อีกส่วนหนึ่งก็เข้ากระเป๋านักการเมือง (เงินส่วนมากเข้ากระเป๋านักการเมืองไม่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว) กุนซือของ “เขาคนนั้น”

และตัวของ “เขาคนนั้น” เองดูเหมือนตั้งใจ จงใจที่จะทำให้ประเทศไทยมีหนี้ท่วมหัวให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...จึงกู้คราวละเป็น...ล้านล้านบาท...เหมือนจงใจจะให้ประเทศชาติล่มจมไม่มีผิดเหมือนเอา...”ประเทศไทยไปจำนำ”...นี่คือ...”เกมรุก”...เพื่อทำให้ประเทศ และประชาชนทั้งประเทศต้องผจญกับความเสี่ยงที่จะต้องล้มละลายในที่สุด “เขาคนนั้น” พยายามจะทำให้ประเทศไทยเหมือนประเทศ อาเจนติน่า และ ประเทศ กรีซให้ได้ในยามที่พรรคการเมืองของ...”เขาคนนั้น”...มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในขณะนี้..

ส่วน..”เกมรับ”...ของเขาคนนั้นและบรรดากุนซือของ...”เขาคนนั้น”...วางเอาไว้คือ กองกำลังติดอาวุธและ มวลชนคนเสื้อแดงที่มีความสามารถสูง มีความพร้อมตลอดเวลา ถ้าทหารออกมาเมื่อไหร่ กองกำลังติดอาวุธของ...”เขาคนนั้น”....จะออกมาลุยกับทหารทันทีเช่นกัน....ถามว่าทหารกลัวไหม?...คงต้องตอบว่า..”กลัว”..ทหารต้องกลัวอย่างแน่นอน...เพราะถ้าหากกว่าทหารทำผิดพลาดเพรี่ยงพร้ำไป...ประเทศไทยจะไม่เหลืออะไรให้พวกเรา..”เคารพรัก”..อีกต่อไป ถ้าคนไทยทุกคนในชาติปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ประเทศไทยจะตกอยู่ในกำมือของ..”เขาคนนั้น”..อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น...“ทหาร”...จึงประมาทไม่ได้เลย ต้องคิดและวางแผนให้รอบคอบอย่าประมาทกับศัตรูของชาติตัวฉรรจ์เป็นอันขาด งานนี้เป็นศึกใหญ่มากสำหรับคนไทยและทหารไทยที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันของชาติ
<O</O
ถ้าทหารไม่ทำอะไรเลย?...ประชาชนไม่ทำอะไรเลย?...ประเทศไทยก็คอยวันล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา...อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นเช่นกัน จะช้าหรือเร็วเท่านั้น รับรองได้เห็นอย่างแน่นอน...คนไทยทั้งประเทศจะพากันเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า (ยกเว้นพวกเศรษฐีคนมีเงินเท่านั้น) บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยโจรปล้นชิง ปล้นฆ่าอย่างชุกชุม เด็กผู้หญิงจะต้องขายตัวแลกกับอาหารประทังชีวิต เมื่อถึงวันนั้นไม่เชื่อคอยดูต่อไป..........ถ้าทุกฝ่ายไม่ทำอะไรเลยสักอย่างเหมือนทุกวันนี้ อีกไม่นานเกินรอลูก-หลานของแต่ละคนจะลำบากสุดๆ..พรรคการเมือง และนักการเมืองทุกๆพรรคมีแต่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติ และเข้ามาแสวงหาอำนาจกันทุกพรรค ทุกคน

คงอีกไม่นานนี้...”จุดเปลี่ยนประเทศไทย”...ใกล้ความจริงแล้ว...”งานล้างป่าช้า”...จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยทีเดียว สำนักข่าวต่างๆทั่วโลกจะรายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศไทยที่เกิด...”กลียุค”...ขึ้นในบ้านเมืองของไทย
<O</O
นิ่งก็เสีย...คงต้องบอกว่าถ้าประชาชนทุกคนต่างอยู่นิ่งเฉยไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ...บ้านเมืองก็ไม่มีวันที่จะสะอาดได้ ต่างก็ต้องทนอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เป็น..”มลพิษ”..ทั้งความมั่นคงของ...ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์...ก็จะหาไม่ได้อีกเลย เหมือนทุกคนนั่งรอวันตายผ่อนส่งไปวันๆเท่านั้น ปล่อยให้อันธพาลมาปกครองประเทศชาติ-บ้านเมืองซึ่งในที่สุดก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่ดี...ผมไม่มีสิทธิที่จะไปบอกหรือไปบงการอะไรใครได้...ขอให้ทุกคนเอาไปคิดเป็นการบ้านกันดีกว่า...จะเอายังไงก็ตามใจ หรือจะปล่อยไว้อย่างนี้ก็เป็นเรื่องของท่าน?....หน้าที่ปกป้องประเทศชาติ-บ้านเมือง และพระมหากษัตริย์...เป็นหน้าที่ของใคร?...ถ้าคนไทยทุกคนยังเกี่ยงกัน คิดว่าธุระไม่ใช่คงอีกไม่นานก็จะรู้สึก แต่มันสายไปเสียแล้ว
<O</O
“ทำก็เสี่ยง”.....ถึงแม้ว่าต้อง...”ทำ”..คงต้อง ทำใจด้วยเพราะยังไงก็หลีกไม่พ้นความสูญเสีย ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ...การกระทำ...เป็นหลักถ้าทำแบบ...มาเร็ว...เคลมไว...ก็คงสูญเสียน้อยหน่อยแต่ถ้า...ทำอย่างเชื่องช้า-ลีลามากเกินไป...ความฉิบหายจะมาเยือนเต็มๆอย่างแน่นอน...จึงขอให้นำไปคิดเป็นการบ้าน ตามหลักของยุทธวิธีการรบนั้น ไม่ทราบว่าในตำรามีเรียนกันหรือไม่ หรือเคยอ่านกันบ้างหรือไม่?....ที่ว่าจะ...จับขุนศึกต้องยิงม้า...?
<O</O
ในใจส่วนลึกของผมนั้น ผมยังคิดว่ามันจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในบ้านเมืองอย่างแน่นอน...จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรือเลวลง ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนในประเทศต้องมีส่วนร่วมด้วยถึงอย่างไรก็ตามโอกาสที่จะเกิดเป็น....”สงครามประชาชน”....มีสิทธิเป็นไปได้สูงมากทีเดียว ไม่ว่าฝ่ายไหนจะแพ้ หรือ ชนะ ก็ตามบ้านเมืองก็หลีกไม่พ้นที่จะต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน...ถึงแม้ว่าประชาชนจะต้องออกมาห้ำหั่นกันเอง...สุดท้ายก็หนีไม่พ้นที่...”ทหาร”...จะต้องออกมาในที่สุด...ในปัจจุบันประเทศไทยไม่มีทางที่จะขาด...ทหารของพระราชา...ถึงอย่างไรในที่สุด....”ทหารของพระราชา”...จะชนะเหล่าศัตรูของชาติไปได้อย่างแน่นอน...

เพียงแต่ศึกครั้งนี้มันใหญ่หลวงนัก เพราะรัฐบาลชุดก่อนที่ผ่านมา ปล่อยให้ศัตรูบ่มเพาะกำลัง และเสริมเขี้ยวเล็บมานานเกินไป...เหมือนเลี้ยงลูกเสือ-ลูกจระเข้ ให้ใหญ่ขึ้นและมีพละกำลัง-มีอำนาจมากขึ้น เมื่อถึงเวลาก็แว้งมา ขยี้กัดกินเจ้าของประเทศคือผู้เลี้ยงนั่นเอง….”ประเทศผู้นำ”…คนต่อไปไม่ใช่มาจากพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน..ประชาชนทั้งประเทศพร้อมใจที่จะ...”ถวาย....................?”การเลือกตั้งต้องหยุดไปอย่างน้อย 5 ปี...จะมีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง...กฎหมายจะต้องมีการแก้ไขหลายอย่าง...นักการเมืองหลายคนจะหนีออกนอกประเทศ บางคนต้องติดคุก บางคนถึงตาย.....จบ อวสาน
<O</O
ผมไม่ได้เขียนเรื่องการเมืองมาลง ในเวปไซต์นี้มานานพอสมควรแล้ว วันนี้พอมีเวลาว่างหน่อย จึงเขียนมาให้ท่านอ่านเล่นสนุกๆ อย่าไปคิดและเครียดกับเรื่องที่ผมเขียนวันนี้ เพราะอะไรๆมันก็ไม่แน่นอน…การทำนายอาจจะผิดไปก็ได้เช่นกัน<O</O
<O</O

ด้วยความเคารพ<O</O
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
15 ต.ค. 2555

ที่มา .'*'.++

 

จากข้อความคุณเกษมข้างบน
อ่านแล้วรู้สึก โ-ก๊-ะ-ม-า-ก-ๆ เลย
มันจะเป็นแบบนั้นเลยหรือ?
เมื่อวานก่อนผมก็ไปทำบุญมา อธิฐานให้กับประเทศเรา
จะเป็นอย่างไรต่อไปไม่รู้

 

เคยอ่านคำทำนายบอกว่าจะไม่ทำนายอีก เห็นพูดทุกเดือน

 

หมอนิดก็บอกแล้วว่าเขา อาจจะทำนายผิดไปก็ได้

เพราะฉะนั้นอย่าได้ถือเอามาเป็นอารมณ์ ให้ขุ่นเคืองใจไปเลยครับ

กระทู้นี้ผมจะรวบรวมข้อมูล มาจากผู้รู้ทุกๆแหล่งเท่าที่พอจะหามาได้

เพื่อให้การวิเคราะห์เหตุการณ์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นใกล้เคียงกับความจริง

ให้ได้มากที่สุด เปรียบได้กับการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์

หากเราป้อนข้อมูลไม่ครบ หรือป้อนข้อมูลแต่เฉพาะในเรื่องที่เราพอใจ

การประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็จะผิดพลาดคลาดเคลื่อน

ไปจากความเป็นจริง แต่ถ้าเราอยากได้คำตอบที่ตรงกับความจริงมากที่สุด

ก็จะต้องป้อนข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน ไม่ว่าข้อมูลนั้นเราจะชอบหรือไม่ชอบ

ก็จำเป็นต้องป้อนเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดครับ

 

"ภัยจากน้ำมือของมนุษย์"​

ฮั้วโต๋ สมาชิก

อาจารย์ขอนำผลประชุมที่เทวสภารอบที่ 2 มาบรรยายให้ได้ทราบกัน...

..ก่อนขึ้นประชุมนั้น สัญญาณฟ้าขึ้นหมายถึง "ภัยจากน้ำมือของมนุษย์"ที่ยังมีความรุนแรงในระดับ 4 นั้น ผลของการประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์ ยืนยันในระดับ 4 เช่นเดิม.เพราะมนุษย์ชอบให้มีปัญหา-มีความขัดแย้ง-ชิงอำนาจกันเอง-มีความโลภ-มีความโกรธในจิตแบบแกะไม่ออกล้างไม่ได้-มีความอาฆาตพยาบาท-อิจฉาริษยากัน..

ที่รุนแรง-ต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะ-ชิงดีชิงเด่น-ไม่ปรองดองกันรักกัน-ไม่ให้อภัยกัน-ฆ่ากันเองตายในแต่ละวันก็มาก-เอารัดเอาเปรียบโกงกันทุก ๆ วัน-ด่ากันด้วยคำหยาบคายทุก ๆ วัน-ผลของการกระทำนี้สะสมเพิ่มพูนมากขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน จนยากที่จะเยียวยาได้ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เกิดภัยจากน้ำมือมนุษย์(ยักษ์นอกศาสนารบกัน)ในระดับ 4 ยืนยันตามเดิมไม่ลดระดับ แต่อาจมีเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นได้ ถ้ามนุษย์ยังไม่พัฒนาจิตตนให้สูงขึ้น...

การเริ่มต้นด้วยภัยจากน้ำมือของมนุษย์ มีผล-ส่งผลทันทีเมื่อปิดการประชุมที่เทวสภา..และการประชุมในเรื่องนี้ปิดการประชุมแล้ว เมื่อวันที่ 18-10-2555 เวลา ตี 4.00 น. เมื่อส่งผลทันทีในโลกมนุษย์ก็อาจจะมีผลตั้งแต่ 7-15 วันเป็นต้นไปก็นับจากวันที่ 18-10-2555 ไปอีก 7 วันไม่เกิน 15 วันนับจากนี้ ให้คอยดูสถานการณ์ของประเทศ-ของโลกด้วยว่าเป็นเช่นไร...สุขสงบดีหรือเริ่มมีเรื่องวุ่นวาย-เดือดร้อน-ทุกข์ร้อน เกิดขึ้น จากเล็กไปใหญ่ จากน้อยไปหามาก..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-413

 

ผมว่าหมดนิดทำดีแล้วครับ ชอบหมดนิด ที่ให้ข้อมูลที่ดี
ส่วนที่หมอนิดแกกร่นถึงแรงๆบางเรื่องก็น่าเบื่อเหมือนกัน

ตอนนี้มันเต็มเกือบแบบเต็มที่แล้วจริงๆ พลังงานเคลื่อนย้ายไปมาๆตลอดเวลา ใครที่เป็นผู้ครองอำนาจยิ่งใหญ่คนนั้นก็ถือครองสัดส่วนพลังงานมาก เป็นแบบนั้นตามลำดับๆ..ๆ จนกระทั่งจะมีคนเริ่มต้น (...) คราวนี้ก็อาจไม่สนุกแล้วล่ะ

การใช้หมอดูตาทิพย์เช่นหมอดูตาทิพย์เช่นหมอนิด หรือ ท่านอื่นๆ เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด ตรงชั่วคราวแต่เร็วทันใจ

 

20 ต.ค. 55

อย่าเอา อารมณ์ คนเกลียด
ยัดเยียด ฝังจิต ใส่ใจ
ไม่เป็น ผลดี กับใคร
อ่านไว้ แค่พอ รู้ความ

ให้นำ มาตรึก นึกตรอง
เรื่องร้อน นั้นเป็น เพราะใคร
เป็นเพราะ นำมา ใส่ใจ
ว่าใคร ไม่ได้ จริงจริง

ให้นำ เรื่องเก่า เล่าใหม่
บอกไว้ ให้ยืน ตรงกลาง
อย่าเชื่อ หลุมดำ อำพราง
เขาวาง ให้หลง กลตัว

มหาประชาบดี ๙๗

 

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7996 ข่าวสดรายวัน งกขั้นเทพ เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์ เกลือ เค็มๆ คงเรียก เคย์ ฮาชิโมโตะ สาวนักบัญชีแห่งแมนฮัตตันว่า "พี่" หลังจากเธอเผยเคล็ดลับการออมเงินในรายการ "เอ็กซ์ ตรีม ชีปสเก็ต" ไม่ ว่าจะเป็นการคุ้ยขยะหาอาหาร ไม่ใช้ทิชชู 10 ปี เสื้อผ้าใส่ชุดเดิมตลอด หรือจะซักผ้าระหว่างอาบน้ำ และวิ่งไปทำงาน รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมทดลองยารักษาโรคแลกค่าจ้าง เพื่อเก็บเงินให้ได้ 250,000 ดอลลาร์ หรือ 7.5 ล้านบาทภายในปีหน้า สาวคนนี้ให้เหตุผลว่าเป็นคนงกอยู่แล้ว แต่ถูกไล่ออกช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ จึงต้องใช้ชีวิตแบบนี้เผื่อโดนเด้งอีก ถึง เจ๊เกลือ...เอ๊ย เจ๊เคย์จะดูประหลาด แต่นิสัยสุดงกก็ช่วยให้เจ๊แกครอบครองคอนโดฯ ย่านฮาเลมสุดแพง โดยใช้เวลาจ่ายค่างวดเพียง 9 เดือนเท่านั้น!!! กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสั่งรับมือภัยหนาว-เหนือยังยะเยือก เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ส่วนมาตรการรับมือภัยหนาวในหลายจังหวัด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้พื้นที่ตอนบนของประเทศเริ่มมีอากาศหนาวเย็น ขณะที่ภาคใต้เข้าสู่ฤดูมรสุม ทำให้มีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยดังกล่าว ปภ.จึงเตรียมความพร้อมรับมือและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประสานจังหวัดที่คาดว่าประสบภัยหนาวจัดทำแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่งเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาว โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นหลัก ที่ จ.เชียงราย สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดตรวจวัดสภาพอากาศใน ต.บ้านดู่ อ.เมือง พบมีอุณหภูมิอยู่ที่ 22.5 องศา และยังคงอยู่ในระดับที่เย็นตลอดทั้งวันและหนาวในช่วงกลางคืน ขณะที่ตามพื้นที่ภูเขาสูง อาทิ ภูชี้ฟ้า ผาตั้งและดอยตุง มีอุณหภูมิในช่วงกลางคืนลดต่ำลงมาก โดยบางจุดถึงระดับ 10 องศา รวมทั้งมีหมอกลงจัดในช่วงเช้ามืด ทำให้ผู้ใช้รถสัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวัง ที่ จ.ลำปาง นายทิวา พันธุ์ไม้สี ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด เผยว่า รายงานอุณหภูมิต่ำสุดช่วงเช้าใน อ.เมือง อยู่ที่ 21.2 องศา ทำให้มีนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการและประชาชนต่างพากันเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองจำนวนมาก เพราะคาดว่าหากเข้าสู่ฤดูหนาว เสื้อผ้ากันหนาวอาจขาดตลาดและปรับราคาสูงขึ้น ที่ จ.แม่ฮ่องสอน สภาพอากาศในจังหวัดเริ่มหนาวเย็นลง โดยเฉพาะบริเวณยอดเขาและเทือกเขาห่างไกลจะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าตัวเมือง ซึ่งตอนเช้าจะมีหมอกปกคลุมหนาทึบ ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมา นายพี รัตน์ เรืองสุกใส ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด เผยว่า ปัจจุบันร่องความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านลงจากภาคเหนือแล้ว ลักษณะดังกล่าวทำให้สภาพอากาศของจังหวัดเย็นลง และคาดว่าปลายเดือนต.ค.สภาพอากาศจะหนาวเย็นและอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 20 องศา อีกทั้งบางพื้นที่ยังมีฝนตกลงมา ทำให้ประชาชนและสัตว์เลี้ยงล้มป่วยจำนวนมากเช่นกัน อีสานแล้งหนัก! เขื่อนใหญ่วิกฤต วอนช่วย - แนวตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่หมู่ 6 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง พังทลายเป็นแนวยาว บางจุดห่างจากตัวบ้านเรือนประชาชนไม่ถึงเมตร ขณะที่หลายหลังรื้อหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว แล้ง ลามอีสานหนัก "เขื่อนอุบลรัตน์" ระดับน้ำแห้งขอดเหลือไม่ถึงครึ่ง ผู้ว่าฯขอนแก่นเร่งถก-วางมาตรการแก้ไข"เขื่อนลำปาว" ก็ยังเหือด นาข้าว- นากุ้งเสียหายนับพันล้าน"โคราช" นาขาดน้ำยืนต้นตายกว่า 3 แสนไร่ น้ำน่านลดฮวบเหลือแค่เมตร แพแห่เกยตื้นอื้อ"ประจวบฯ" แล้งหนักรอบ 10 ปี อ่างเก็บน้ำทำน้ำประปาเหลือแค่ 1.7% ขณะที่ปภ.เตรียมรับมือภัยหนาว"เชียงราย" ยะเยือก-เหลือ 10 องศา"แม่ฮ่องสอน" เสือลายเมฆติดหวัดตาย นครนายกวอนประหยัดน้ำ เมื่อ วันที่ 19 ต.ค. สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งในต่างจังหวัด ที่จ.นครนายก นายสมัย ธรรมสัตย์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนขุนด่านปราการชล กล่าวว่า ถึงแม้ฝนจะตกปริมาณมากแทบทุกวัน ตั้งแต่เดือนมิ.ย. แต่น้ำในอ่างเก็บน้ำยังมีน้อย จึงขอให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอทำการเกษตรถึงปีหน้า ทั้งนี้ ยังคาดหมายว่าช่วงปลายปีอาจเข้าสู่ภาวะเอลนินโญ ทำให้เกิดความแห้งแล้งบางพื้นที่ รวมไปถึง จ.นครนายกอาจประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง และส่งผลต่อพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานจะมีผลกระทบรุนแรง เพราะแหล่งน้ำธรรมชาติมีอยู่น้อย

 

​

Aunyasit สมาชิก

คุณ suvimon :- หากเดินทางจาก กทม. แนะนำให้ขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิตครับ ถึงที่ขนส่งในเมืองหนองคายแล้วค่อยหารถโดยสารไปที่พุทธสถาน มีรถบัสประจำทางจากหนองคาย-โพนพิสัย หรือจะไปรถสามล้อจากขนส่งไปที่พุทธสถานก็สะดวกดีครับ(ค่ารถประมาณ 250-300)ครับ ในหนองคายมีรถแท็กซี่ด้วยแต่มีจำนวนน้อยไปหน่อย หากคุณ suvimonไปถึงหนองคาย เช้าวันที่ 30 ต.ค. วันนั้นคนจะเยอะเพราะเป็นเทศกาลที่คนเขาจะไปดูบั้งไฟพญานาคกัน แผนที่แบบคร่าวๆอยู่ข้างล่างครับ

ท่านที่วางแผนจะไปดูบั้งไฟพญานาค ปีนี้ก็ต้องทำใจครับ คาดว่าปีนี้ในวันที่ 30 ต.ค.บั้งไฟอาจจะขึ้นน้อย เนื่องจากวันออกพรรษาของไทยในปีนี้ตรงกับวันที่ 30 ต.ค. ส่วนวันออกพรรษาของลาวตรงกับวันที่ 31 ต.ค. เท่าที่สังเกตจากหลายปีที่ผ่านมา บั้งไฟมักจะขึ้นตรงกับวันพระ 15 ค่ำของลาวมากกว่าครับ ในปีที่วันออกพรรษาตรงกันทั้งสองฝั่งก็จะมีบั้งไฟพญานาคขึ้นมากตามปกติครับ

ใครมีโอกาสไปทำบุญใหญ่ที่ไหนในช่วงปลายปีนี้ก็ทำกันให้เต็มที่เพราะภัยพิบัติเข้ามาใกล้ตัวไปเรื่อยๆ อำนาจแห่งบุญกุศลจะทำให้เราสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ครับ

ที่มา http://palungjit.org/threads/เรียนทุกท่านที่ครอบครองแก้วพระรัตนตรัย.343175/page-22

หมายเหตุ

โดยความเชื่อส่วนตัวของผมแล้ว คิดว่าพุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์แห่งนี้ จะเป็นสถานที่หลบภัยที่มีคนพากันอพยพ ไปขออาศัยนับเป็นแสนๆคนในยามที่เกิดภัยพิบัติ (เพราะมีรัศมีของพระคุ้มครองโดยรอบถึง 5 กิโลเมตรจากพุทธสถานฯ) ทุกๆท่านจึงควรจะเก็บแผนที่นี้เอาไว้ให้ดี เพื่อใช้เดินทางไปขอหลบภัยในอนาคตครับ -เกษม-

 

ยุทธศาสตร์ดีมากๆๆ...แต่คนเยอะนี่สิ...ปัญหายิ่งเยอะ(เยอะมากๆๆด้วย)

ใกล้ๆกันก็มีนะ...สัพพายะกว่ามีประตูมิติคลุมไว้.....แต่ขึ้นอยู่แรงบุญแรงกรรมที่ทำ....ส่วนใหญ่ที่นั่นคือสายตรง

 

ข้อความจากชาวดาวซีรีอุส (Sirius)​

​

Chayutt สมาชิก

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตมาจาก ชาวดาวซีรีอุส (Sirius) แห่งสหพันธ์กาแล็กซี่ (Galactic Federation)วันที่: 4 พฤษภาคม 2010 สถานที่: ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้รับการสื่อสาร: นาย Sheldan Nidle

ขอส่งคำทักทายถึงทุกคน พวกเรามาอีกครั้ง พร้อมกับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะมาสนทนากับพวกคุณ โครงสร้างเก่าๆของโลกคุณกำลังจะล่มสลาย และเพราะว่าโครงสร้างเหล่านี้ มันเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของโลกของพวกคุณ ดังนั้นการล่มสลายของพวกมันจึงส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกของพวกคุณ ที่พวกคุณเคยเชื่อมั่น และเชื่อถือ กระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆตัวคุณอยู่ในขณะนี้ สามารถที่จะรับรู้และสัมผัสได้อย่างง่ายดาย และมันก็เป็นลางบอกเหตุว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้น

พันธมิตรของพวกเราที่อยู่บนโลก กำลังมาถึงระยะสุดท้ายของการปิดฉากเกม ซึ่งได้ดำเนินมายาวไกลมากเกินไปแล้ว กลุ่มพลังจากโลกมืด กำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมไม้ตายทุกอย่าง เพื่อจะรักษาผลิตผลแห่งความชั่วร้ายของพวกเขาเอาไว้ต่อไป ตอนนี้พวกเรากำลังติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่า ฝ่ายมืดนั้นจะทำอะไรต่อไป แต่ถึงแม้ว่าเล่ห์กลของพวกเขา จะกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็วอยู่ก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมจำนนง่ายๆ พวกเรายังคงพบปะกับรัฐบาลหุ่นเชิดของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจ ให้กับเหล่าผู้นำที่เย่อหยิ่งเหล่านี้ ในขณะที่ ความแตกแยกก็เริ่มขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เร็วขึ้นๆ และกำลังเข้าไปถึงจุดที่เรียกได้ว่าเป็นทางตันแล้ว

แบบแผนทางการเงินที่ฉ้อฉนทั้งหมด ที่เพิ่งมีขึ้นเมื่อไม่กี่ทศวรรษมานี้ ตอนนี้พวกมันกำลังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึง ความหายนะของฝ่ายมืดอยู่ว่า มันเป็นการเปล่าประโยชน์ ที่พยายามจะค้ำจุนคานรับน้ำหนักที่ใช้การไม่ได้เหล่านี้เอาไว้ต่อไป การเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐานของพวกคุณ ตอนนี้มันได้มาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆเสียแล้ว ในขณะที่งานทั้งหมดนี้กำลังดำเนินไปบนวิถีของมัน ดาวเคราะห์โลกก็กำลังรักษากำหนดเวลาของเธอเองเอาไว้ด้วย เธอมีความปรารถนาอย่างสุดซึ้ง ที่จะให้พวกคุณตื่นรู้อย่างเต็มที่ และยอมให้ตัวเธอเอง สามารถเปลี่ยนรูปแบบครั้งยิ่งใหญ่นี้ได้สำเร็จ

ในขณะนี้ อาณาเขตของดาวเคราะห์โลก ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ;

1). ส่วนที่อยู่ภายนอก ซึ่งเป็นอาณาเขตของชาวพื้นผิวโลก ที่มีระดับจิตสำนึกที่ถูกจำกัดอยู่ในมิติที่ 3

2). ส่วนที่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นอาณาเขตของชาวโลกที่มีระดับจิตสำนึกที่อยู่ในมิติที่ 5

การรวมอาณาเขต ทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเธอ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ตอนนี้เธอถึงเตือนมนุษย์ที่อยู่บนพื้นผิวโลก ให้หันมาใส่ใจกับเธอ และให้มนุษย์เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของตนเองเสียที ดาวเคราะห์โลกนั้น ปรารถนาและต้องการให้พวกคุณกลับไปสู่สภาวะของการตระหนักรู้ในมิติที่ 5 อย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้พวกคุณสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ในช่วงเวลาแห่งการสิ้นยุคนี้ สภาการปกครองแห่งอาการ์ธาน (Agarthan-เมืองใหญ่และสำคัญที่อยู่ใต้พื้นโลก - ผู้แปล) ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของพวกเขา ที่จะถูกส่งมาให้แอบแฝงตัวปะปนอยู่กับผู้คนบนพื้นผิวโลก มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ซึ่งทูตเหล่านี้ จะทำหน้าที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ให้กับชาวโลกที่อยู่บนพื้นผิวทุกๆคนที่พวกเขารู้จัก พวกเขามาเพื่อสังเกตการณ์ และมาเพื่อกระตุ้นให้พี่น้องที่อยู่บนพื้นผิวโลกของพวกเขา เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กำลังจะมาถึงและมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

การตื่นรู้ของพวกคุณ กำลังดึงเอาความเป็นนักกิจกรรมของชาวอาการ์ธาออกมามากขึ้น และพวกเขาก็มีความมุ่งมั่นที่จะ “จุดประกายไฟ” ให้กับมนุษย์บนพื้นผิวโลกทั้งหลาย ซึ่งประกายไฟดังกล่าวนี้ จะไปเผาไหม้สภาวะการถูกบงการและการถูกครอบงำของชาวโลกที่อยู่บนพื้นผิวโลก ที่จะมาเป็นตัวขัดขวางไม่ให้การปฏิวัติเงียบที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ ระบบเครือข่ายต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกของพวกคุณในตอนนี้ ถูกจัดวางเอาไว้ เพื่อให้พวกมันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระบบการเงิน และระบบการเมืองเก่าๆของพวกคุณ เพื่อให้ได้กลุ่มคนที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก เข้ามาแทนที่ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ จะสามารถนำพาสังคมของพวกเขาไปสู่ความเจริญและความมั่งคั่งต่อไปได้

ระบบเครือข่ายเหล่านี้ มีการติดต่อสื่อสารถึงกันและกันอยู่ และมีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมามากมาย และพร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรที่อยู่บนโลกของคุณด้วย กลุ่มต่างๆเหล่านี้มีบุคลากรที่มีขีดความสามารถที่สำคัญต่อการเปลี่ยนรูปแบบ (Transformation) ของโลกคุณอย่างมาก เมื่อใดที่ประชาชนระดับรากหญ้า เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปอย่างแรงกล้า เมื่อนั้นความเคลื่อนไหวอันทรงพลังไร้ขีดจำกัด ก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่การเคลื่อนไหวเหล่านี้จะต้องคงไว้ซึ่งความสงบ จึงจะทำให้จุดประสงค์ของพวกเขามีความชัดเจนและแน่นอนได้

เหล่าพันธมิตรบนโลกของพวกเรา มีความยินดีต้อนรับพัฒนาการทั้งหลายเหล่านี้ เพราะว่ามันเป็นเครื่องยืนยันถึงช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองของโลกใหม่ การพัฒนาในครั้งนี้ จะไปกระตุ้นผู้คนในสังคมต่างๆ และจะทำให้มันมีความเป็นไปได้ ที่จะนำพาความหวัง และความฝัน เกี่ยวกับ สิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับพวกเขาและสำหรับ โลกใบนี้ ของผู้คนมากมายกลับคืนมาใหม่อีกครั้ง นี่คือสิ่งที่ชาวอาการ์ธากำลังกระตุ้น และกำลังนำมาใช้ เพื่อทำให้เกิดโลกใหม่อยู่

ดาวเคราะห์โลก กำลังถูกกระตุ้นโดยชาวอาการ์ธาอยู่ และเพราะว่าเงื้อมมือของฝ่ายมืด ที่ยึดโลกของพวกคุณอยู่นี้ กำลังลื่นไถลและหละหลวมขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง พวกเราเองจึงทยอยส่งกำลังพลของพวกเรา เข้าไปเสริมอย่างต่อเนื่องด้วย เมื่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองครั้งใหญ่มาถึง มันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่องค์กรทางสังคมทั้งหลายของพวกคุณ จะใช้สิ่งที่พวกเขามีอยู่-เป็นอยู่ มาช่วยสนับสนุนและช่วยสื่อสารอย่างถูกต้องว่า อะไรกำลังเกิดขึ้น มันเป็นอีกอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มันเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จด้วยดี

พวกเราได้เฝ้าคอยจับตาดูพวกอนุนากิ (Anunaki) มาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ที่พวกมันคอยแต่จะสร้างความหายนะแบบไม่จบไม่สิ้น ให้เกิดขึ้นบนโลกอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นสงคราม, โรคติดต่อ, ความเกลียดชัง และพวกเราก็ได้เห็นแล้วว่าสิ่งเหล่านี้ สามารถแบ่งแยกพวกคุณออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ได้อย่างไร พวกคุณเคยชินอยู่กับความแตกแยก จนทำให้พวกคุณเชื่อไปแล้วว่า เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของโลก แต่บัดนี้ พวกคุณกำลังถูกร้องขอให้หันมายอมรับความเป็นปกติธรรมดา ซึ่งได้แก่สันติสุข, ความเจริญรุ่งเรือง,และความรัก ที่สวรรค์กำลังจะประทานให้แก่พวกคุณทั้งหลาย

ของขวัญเหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการโหมโรง สำหรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการครั้งใหญ่ของพวกเรา บนโลกของพวกคุณ หลังจาก นั้นพวกเราก็จะเริ่มต้นกระบวนการแห่งการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณ จากสภาวะที่มีจิตสำนึกที่จำกัด ไปสู่สภาวะแห่งการมีจิตสำนึกที่เต็มเปี่ยม และแน่นอนว่า กระบวนการในตอนท้ายๆ ก็จะเป็นกระบวนการเพื่อประสานรวมมนุษย์โลกจากทั้ง 2 ส่วน คือมนุษย์บนพื้นผิวโลก และมนุษย์จากใต้พื้นพิภพ ให้รวมเข้าด้วยกัน สิ่งที่พวกเรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ก็คือ “การปฏิวัติด้านจิตสำนึก”

ซึ่งมันไม่เกี่ยวว่าจะเป็นเชื้อชาติใด หรือสัญชาติใด แต่มันจะเป็นการสิ้นสุดของอุปสรรคทั้งหลาย ที่กีดกั้นชาวโลกจากการมีเสรีภาพในการพูดจากัน และจากการถือครองทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเข้าถึงศักยภาพภายในของตัวเองเอาไว้ เมื่อพวกเรามองดูพวกคุณ พวกเรามองเห็นคนที่เริ่มจะระลึกรู้ถึงศักยภาพภายในอันยิ่งใหญ่ของตนเองได้ บ้างแล้ว และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม มันจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำให้พวกคุณมองข้าม โรคหวาดกลัวชาวโลกด้วยกันเอง เพียงแต่ต่างเชื้อชาติกันเท่านั้น ไปให้จงได้ และพวกเรามองเห็นพวกคุณ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของมนุษยชาติ ที่มีกระจายอยู่ทั่วกาแลคซี่นี้

ยิ่งพวกคุณทำได้แบบนี้มากเท่าไหร่ ความกังวลใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ที่ปกคลุมพวกคุณอยู่ ก็จะยิ่งค่อยๆจางหายไป ภาพลักษณ์ใหม่ของตัวคุณเองก็จะกำเนิดขึ้น ซึ่งรวมถึงกฎประเพณีแห่งความเป็นเอกภาพทั่วทั้งจักรวาล ด้วยกรอบความคิดแห่งความเป็นเอกภาพนี้ จะขึ้นอยู่กับสัตยาบันด้านการหยั่งรู้ที่เต็มเปี่ยม ว่าพวกคุณกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างแท้จริง และว่าพวกคุณเป็นส่วนหนึ่งของส่วนที่ใหญ่กว่าทั้งหมด เมื่อพวกคุณเห็นยานอวกาศของพวกเราบนท้องฟ้า จงรู้ไว้ว่า พวกเราระลึกรู้อยู่เสมอว่าพวกคุณคือพี่น้องอันเป็นที่รักของพวกเรา!

การมุ่งหน้าไปสู่ความเป็นเอกภาพในครั้งนี้ เป็นทั้งการเปลี่ยนระดับของจิตสำนึก และการเปลี่ยนระดับของมิติของโลก ดังที่พวกเราได้พูดมาเสมอว่า มนุษย์โลกทุกๆคน ที่อาศัยอยู่ในที่ใดๆบนโลกใบนี้ ล้วนมีส่วนช่วยทำให้มันเกิดขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มากก็น้อย ความเป็นจริงของโลกในมิตินี้ สามารถยืดหยุ่นได้ คือความถี่พื้นฐานของมันสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนโลก และการเปลี่ยนระดับเหล่านี้ ก็กำลังถูกสังเกตการณ์โดยสรวงสวรรค์และแผนการอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ ซึ่งโลกในมิติที่ 5 ของพวกเราก็เป็นแบบนี้ด้วยเช่นกัน

หนึ่งในบทบาทของพวกเราที่โลกใบนี้ก็คือ เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกอย่างลึกซึ้งขึ้น และในช่วงระยะเวลาหลายพันปีมานี้ พวกเราก็ได้ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นด้วยโดยทางอ้อม แต่บัดนี้ พวกเราถูกเรียกร้องให้มาเป็นผู้ดำเนินการโดยตรง การติดต่อกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก (First contact) ระหว่างพวกเรากับชาวโลกนั้น กำลังได้รับการสนับสนุนจากคณะบุคคลระดับสูงในคณะรัฐบาลอยู่ และพวกเราก็อยู่ในสถานะที่ จะช่วยให้พวกคุณสามารถสร้างโลกใหม่ขึ้นมาได้

โลกใหม่นี้ใกล้เข้ามาแล้ว และเหตุการณ์ต่างๆทั้งหลาย ที่กำลังเริ่มปรากฏให้เห็นอยู่นี้ จะทำให้โลกใบเก่าที่พวกคุณเคยรู้จัก เกิดการเปลี่ยนรูปแบบ (Transform) ไปอย่างรวดเร็ว ดาวเคราะห์โลก กำลังทำงานของเธออยู่อย่างขยันขันแข็ง เพื่อที่จะเพิ่มระดับความถี่ของตัวเองให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงจุดที่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ แผ่นเปลือกโลก จำนวนมาก ที่เป็นส่วนประกอบของพื้นผิวโลก กำลังมีการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง ไปสู่ “ตำแหน่งที่ล็อกไว้” และนี่จึงเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ขึ้นไป ที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งในช่วง 5 ปีมานี้

และก็จะเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงยิ่งกว่านี้ ที่กำลังจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆในอนาคตนี้ด้วย ภูเขาไฟระเบิด ก็ดูเหมือนว่ากำลังมีมากขึ้นด้วย และเหตุการณ์การพ่นเปลวไฟขึ้น ของภูเขาไฟในไอซ์แลนด์เมื่อเร็วๆมานี้ ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลพวงของเหตุการณ์เหล่านี้เท่านั้น ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์การปะทุของภูเขาไฟในทะเลเมติเตอร์เรเนียน, มหาสมุทรแปซิฟิก, และในมหาสมุทรอินเดียด้วย การปะทุทุกๆครั้งที่เกิดขึ้นใต้พื้นทะเล โดยปกติแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะแวดล้อมเสมอ

ดาวเคราะห์โลกได้ตัดสินใจที่จะพิสูจน์ให้พวกคุณเห็นว่า โลกใบนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิม ไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่ดีขึ้นอย่างมาก สภาวะของโลกใบใหม่นี้ จะขึ้นอยู่กับ การเปลี่ยนแปลงของพวกคุณทุกคน เพื่อกลับไปสู่ความเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสำนึก พวกคุณก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับดาวเคราะห์โลกของคุณ พวกคุณจำนวนมากตอนนี้ก็คงกำลังรู้สึกปวดและเจ็บบริเวณหัวใจ, ต่อมไทมัส, กะบังลม. และตรงกลางกระหม่อมหรือตรงจักระที่ 7 อยู่ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ยังทำให้เกิดอาการปวดหลังอีกด้วย เพราะว่าระบบเส้นประสาทใหม่ จำนวนมากมายมหาศาลถูกกระตุ้นให้ทำงานแล้ว

แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ก็จะแค่ทำให้อวัยวะหลายๆส่วนของร่างกายของพวกคุณ ซึ่งเคยหยุดการเจริญเติบโตไปแล้วชั่วคราว เพราะความมีระดับจิตสำนึกที่จำกัดของพวกคุณ กลับมามีชีวิตชีวาใหม่อีกครั้งหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่พวกคุณจะทำได้ก็คือ นำเอาจินตนาการของตนเองออกมาใช้ เพื่อช่วยลดความตึงเครียด และความเจ็บปวดเหล่านี้ ในเวลาที่มันมีอาการขึ้นมา อาการผิดปกติจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจออกมาในรูปแบบของ การปวดหัว, การสูญเสียความทรงจำ (ขี้หลงขี้ลืม – ผู้แปล),มี อาการเฉื่อยชา-ซึมเซา, และนอนไม่หลับ

จงใช้ศักยภาพจากภายในที่พวกคุณมีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์ และใช้เทคโนโลยีใดๆก็ตามที่คุณมี เกี่ยวกับการรักษาตัวเอง มาใช้เพื่อรักษาตัวคุณเอง และจงทำจิตใจให้ร่าเริงอยู่เสมอ พร้อมทั้งระลึกไว้เสมอว่า อาการเหล่านี้ เกิดจากสาเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อไปสู่เป้าหมายที่สวยสดงดงามยิ่งกว่า วันนี้พวกเราก็ได้กล่าวไปแล้วว่า ดาวเคราะห์โลกกำลังมุ่งหน้าไปสู่การแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่างมิติผสม ของชาวโลกทั้งสองส่วนอย่างไร คือ ชาวโลกที่อยู่ในมิติที่ 3 บนพื้นผิวโลก และชาวโลกที่อยู่ในมิติที่ 5 ที่อยู่ใต้พื้นโลก และพวกเราก็ได้กล่าวไปแล้วด้วยว่า ระบบเครือข่ายต่างๆในสังคมของพวกคุณมีการรวมตัวกันขึ้น เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่กำลังใกล้จะมาถึงนี้อย่างไรบ้าง

ชาวโลกที่รักทั้งหลาย จงรับรู้ไว้ในกลางของหัวใจของพวกคุณเถิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณต้องการ และความเจริญรุ่งเรืองแบบไม่รู้จบแห่งสรวงสวรรค์ มันเป็นของพวกคุณอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น จงเป็นมัน จงรู้สึกถึงมัน! Selamat Gajun! Selamat Ja! (ภาษาไซเรียน แปลว่า “จงเป็นหนึ่งเดียว และจงมีความสุข!)

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-6

 

เหตุมาจากอะไรหรือ คุณJohn Lee

พอจะเล่าให้ฟังทาง PM ได้ไหม (^^)

 

ช้อความจากเพื่อนมนุษย์ใต้พื้นพิภพ !!!​

​

อดามะ (Adama)​

Chayutt สมาชิก

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักท่านอดามะมาก่อน ผมจะบอกคร่าวๆให้ว่า ท่านอดามะคือนักบวชชั้นสูงคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในเมืองทีลอส เมืองที่ตั้งอยู่ใต้พื้นพิภพของเรานี่แหละ เพราะว่าเขาบอกว่าภายในโลกของเรานี้ “กลวง” ไม่ได้ทึบตันอย่างที่พวกเราเคยถูกสอนกันมา และภายใน “โพรงกลวง” ของโลกใบนี้ ก็มีเมืองที่มีความศิวิไลน์ มีเทคโนโลยีล้ำยุค และผู้คนก็มีระดับจิตวิญญาณสูงส่ง และเป็นอมตะอีกด้วย - ผู้แปล)

เสียงเรียกปลุกให้ตื่น – โดย อดามะ (Adama) สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาง Aurelia Louise Jonesสถานที่ : USA ปรับปรุงครั้งสุดท้าย : 23 พฤษจิกายน 2004


เราขอส่งคำทักทายมาจากเมืองทีลอส (Telos) มายังพี่ๆน้องๆอันเป็นที่รักทั้งหลายของเรา เราคืออดามะ ผมมีความยินดีที่ได้ติดต่อกับคุณอีกครั้งหนึ่ง สวัสดีทุกๆคน พวกคุณหลายคนคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องแถบโฟตอน (Photon Belt) กันไปต่างๆนาๆใช่ไหมครับ ซึ่งมุมมองของบางคนอาจจะถูกต้อง ส่วนของอีกหลายคนอาจจะไม่ใกล้เคียงความจริงด้วยซ้ำไป

ตอนนี้ผมขออธิบายความจริงอีกด้านหนึ่งของมันให้ทราบกันสักหน่อยนะครับ และโปรดจำไว้ว่า นี่เป็นเพียงด้านหนึ่งในจำนวนหลายๆด้านของมันเท่านั้น เรื่องของ Photon Belt เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะมาก ในตอนนี้ ผมขอแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคุณเพียงด้านเดียวของมันก่อน ซึ่งเป็นด้านที่มีความสำคัญมากๆสำหรับพวกคุณทุกๆคน ผู้คนที่อาศัยอยู่บนพื้นผิวโลกพากันขบคิดกันใหญ่ เกี่ยวกับว่า Photon belt นี้คืออะไร และดาวเคราะห์โลกได้โคจรเข้าไปอยู่ หรือกำลังจะโคจรเข้าไปอยู่ใน Photon belt นี้เมื่อไหร่

จงรู้ไว้ว่าดาวเคราะห์โลก ได้โคจรเข้าไปอยู่ในแถบโฟตอนนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 1998 โน่นแล้ว Photon belt นี้ ประกอบด้วยแถบกระแสพลังงานแห่งแสงสว่างที่เข้มข้นและหมุนวนขนาดมหึมา (gigantic vortexes of intense Bands of Light) อยู่จำนวน 12 แถบ ซึ่งแต่ละแถบ vortex ก็จะส่งผลกระทบต่อโลกและระบบสุริยะจักรวาลของเราแตกต่างกันไป ในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของมันเอง และกระบวนการทั้งหมด ก็จะถูกตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สอดคล้องและสมดุลกัน มันเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยมาก และมันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว

บางคนอาจจะพูดว่าแสงสว่างใน photon belt ประกอบไปด้วยคลื่นความถี่ที่สูงและละเอียดอ่อน และเมื่อร่วมกับคุณลักษณะอื่นๆแล้ว สามารถทำให้เกิดการเลื่อนระดับขึ้นอย่างมีคุณภาพได้ นี่ไม่ได้หมายความว่า ก่อนเดือนพฤษภาคม 1998 ดาวเคราะห์โลกไม่เคยได้รับอิทธิพลจากมันมาก่อน ที่จริงแล้วโลกเคยได้รับอิทธิพลจากมันมาก่อนหลายปีแล้ว คลื่นแสงจาก photon belt ได้ถูกปลดปล่อยมายังโลกเป็นระยะๆทุกปี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงวันที่มีเวลากลางคืนและกลางวันยาวเท่ากันของปี (Equinox) และช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด (Solstice)

ในแต่ละปีแสงสว่างจะถูกปลดปล่อยออกมาในปริมาณและความถี่สูงขึ้นและสูงขึ้น เรื่อยๆ พวกคุณจำเป็นต้องปรับตัวให้ชินกับสภาพภูมิอากาศ เพราะว่าแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่านี้กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1998 เป็นต้นมา เมื่อดาวเคราะห์โลกได้โคจรเข้าไปสู่ vortex แรกของ photon belt แล้ว มันไม่มีทางหวนกลับ ภายใน 12 ปีข้างหน้านี้ ดาวเคราะห์โลก จะโคจรผ่านเข้าไปในแถบ vortex แต่ละแถบทั้ง 12 แถบ ของ photon belt นี้ ซึ่งระดับความเข้มข้นของพลังงานแสงสว่างเหล่านี้ จะช่วยชำระโลก และช่วยเตรียมความพร้อมให้กับโลก ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ด้วย

ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา พลังงานแสงสว่างจาก photon belt ที่มีคลื่นความถี่และความเข้มข้น ที่แตกต่างกันจำนวนมากมาย ก็ไม่ถูกปลดปล่อยออกมายังโลกเป็นระยะๆเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้ มันได้ถูกกระหน่ำลงมายังโลกด้วยความเข้มข้นที่สูงขึ้นอย่างมาก และคงที่มากขึ้นด้วย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องได้รับการปรับปรุง ในระหว่างที่ยังอยู่ในแถบ vortex แถบนี้ ก่อนที่พวกเราจะเคลื่อนเข้าไปสู่แถบ vortex แถบต่อไป มนุษยชาติทั้งหมด ในรูปกายแบบไหนก็ตาม กำลังรับรู้ได้ถึงผลกระทบของพลังงานใหม่ ของการชำระล้างระดับลึกในครั้งนี้อยู่ ทุกๆคนบนโลก กำลังจะต้องทำในสิ่งที่จำเป็น

เพื่อปรับระดับจิตสำนึกของตนเองให้สูงขึ้น และจำเป็นต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นขึ้นในตนเอง เพื่อให้ตนเองสามารถเคลื่อนผ่านไปได้ และให้ตนเองสามารถถูกเปลี่ยนรูป (transform) โดยพลังงานแสงสว่างนั้นได้ ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว มันไม่มีทางย้อนกลับ ตอนนี้คุณกำลังจะได้ตัดสินใจด้วยตัวของคุณเองว่า คุณต้องการโต้คลื่นแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้ ไปพร้อมกับโลกหรือไม่ คุณต้องการถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่หรือไม่ คุณต้องการมีชีวิตที่เป็นอมตะหรือไม่ และคุณต้องการเลื่อนระดับขึ้น ไปอยู่ในระดับจิตสำนึกใหม่ของโลกใหม่ในมิติที่ 5 หรือไม่

หรือว่าคุณเลือกที่จะถูกบีบอัด ถูกบดขยี้จนตาย ด้วยคลื่นความถี่เหล่านี้ แล้วยังคงอาศัยอยู่ในมิติที่ 3 นี้ต่อไป เพื่อรอการเกิดใหม่อีกรอบ ทางเลือกเป็นของคุณแต่ผู้เดียว แต่โอกาสเป็นของทุกๆคน ชาวโลกผู้ที่ต่อต้านพลังคลื่นแห่งแสงสว่าง และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากแสงสว่างนี้ จะไม่สามารถรอดชีวิตผ่านพ้นแถบ vortex ทั้ง 12 แถบใน photon belt นี้ไปได้ พวกเรารู้ดีว่าจะมีชาวโลกมากมายที่เลือกที่จะมีระดับจิตวิญญาณเดิม และ/หรือมีระดับจิตสำนึกเดิม และยอมตายจากร่างกายเนื้อนี้ไป แทนที่จะยอมปลดปล่อยความกลัว อุดมการณ์ที่มีอคติ และกฎระเบียบส่วนบุคคล ที่ไม่เอื้อประโยชน์สูงสุดใดๆเลยออกไปจากใจเสีย

จะมีก็แต่ความรักความเมตตาเท่านั้น ที่จะนำพาพวกเขาให้ผ่านพ้นก้าวย่างที่สำคัญแห่งการเปลี่ยนรูปนี้ไปได้ และก็จะมีชาวโลกอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พร้อมที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับโลก แต่เพราะว่าพวกเขามีอายุมากแล้ว พวกเขาจึงจะเลือกที่จะเปลี่ยนรูปหลังจากการตาย ซึ่งในกรณีนี้ ทางเลือกนี้ก็เป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริง และพวกเราขอให้คุณอย่าเป็นกังวลกับบุคคลอันเป็นที่รักเหล่านี้เลย ปล่อยให้พวกเขาเลือกทางนี้เถิด พวกคุณหลายคนอาจจะเริ่มรู้สึกและสังเกตได้ว่า ในระดับเซลและระดับพันธุกรรมของร่างกายเนื้อ และอารมณ์ของพวกคุณ กำลังได้รับผลกระทบจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้แล้ว

หลายคนอาจจะรู้สึกมีอาการไม่สบายทางกายแบบแปลกๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น ปวดหัว เจ็บหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ อิดโรยแบบเรื้อรัง เวียนศรีษะ คลื่นไส้ นอนหลับไม่เป็นปกติ มีเสียงแปลกๆในหู สายตาพร่ามัว และอื่นๆ และพวกคุณอาจจะสังเกตได้ว่ากำลังมีอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นร่วมด้วย เพราะร่างกายเนื้อของพวกคุณ กำลังค่อยๆพัฒนา และชำระตัวมันเอง อารมณ์ด้านลบที่หมดสมัยและไม่ดีทั้งหลาย รวมถึงวิธีการคิด และทัศนคติ ที่ไม่ดีทั้งหลาย กำลังผุดขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิว เพื่อถูกวินิจฉัย ถูกชำระให้บริสุทธิ์ และถูกแปรสภาพ

หลายคนอาจจะรู้สึกสับสนทางอารมณ์ หลายคนอาจจะรู้สึกไม่สบาย แต่ผมขอบอกพวกคุณว่า สิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นและตั้งอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น จงอดทนไปสักหน่อย และรักษาระดับการสั่นสะเทือนแห่งความรัก สำหรับตนเองและผู้อื่นเอาไว้ตลอดเวลา เดี๋ยวมันก็จะหายไปเอง เวลานี้เป็นเวลาที่พวกคุณต้องกำจัดความกลัวทั้งหมด และพฤติกรรมด้านลบทั้งหมดออกไป เพราะว่ายังไงๆคุณก็ไม่สามารถนำมันไปกับคุณด้วยได้อยู่แล้ว เพราะที่ๆพวกเรากำลังจะไปกันนั้น ที่รักทุกท่าน มันเป็นที่ๆมีเฉพาะแต่ความรักความเมตตา มันไม่ใช่ที่ๆความกลัว หรือสิ่งที่เป็นด้านลบใดๆจะสามารถอยู่ได้

คุณจะทำยังไงเมื่อไปถึงประตูทางเข้าของมิติที่ 5 แล้ว หากคุณยังหอบหิ้วสัมภาระแห่งความกลัว และความไม่ดีทั้งหลายไปด้วย ระดับความสั่นสะเทือนของความกลัวและความไม่ดีทั้งหลาย มันจะไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่มิติที่ 5 ได้ หรือว่าคุณจะเลือกที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในมิติที่ 3 นี้ แล้วรอไปเกิดใหม่ในรอบถัดไป เพียงเพราะว่าคุณยังพอใจที่จะหอบหิ้วพวกมันเอาไว้ต่อไปอยู่ คุณยังอยากที่จะหอบหิ้วพวกมันไปกับคุณด้วย ตลอดเส้นทางที่จะต้องผ่านแถบ vortex ทั้ง 12 ของ photon belt นี้ เพื่อไปสู่ประตูทางเข้าของมิติที่ 5 เพียงเพื่อที่จะถูกแจ้งให้ทราบว่า สัมภาระแห่งความกลัวและความไม่ดีทั้งหลายที่คุณนำมาด้วยนี้ ไม่สามารถจะนำติดตัวไปด้วยได้ อย่างนั้นหรือ ?

หรือว่าคุณอยากที่จะเริ่มต้นโยนพวกมันทิ้งไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย เพื่อทำให้ตัวคุณเองเป็นอิสระจากการมีภาระ และข้อจำกัดดีหละ ? เพราะว่ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว การเปลี่ยนรูปของเผ่าพันธุ์มนุษย์บนดาวเคราะห์โลก ได้เริ่มเป็นไปอย่างช้าๆมาประมาณ 30 ปีมาแล้ว มันเพิ่งถูกทำให้รุนแรงมากขึ้น เมื่อประมาณปี 1987 นี้เอง และก็รุนแรงขึ้นอีกในปี 1994 ตั้งแต่วิสาขบูชา ปี 1998 เป็นต้นมา พลังงานเหล่านี้ ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงขึ้น ในร่างกายมนุษย์ทุกคน ใน 4 ระบบด้วยกัน

พลังแสงสว่างแห่งจักวาลอันยิ่งใหญ่จาก photon belt นี้ ตอนนี้ ได้แผ่ปกคลุมพวกเราทุกคนอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าคุณจะต้องการมันหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่มีใครสามารถหลบลี้จากมันไปให้พ้นได้ มันขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคุณเอง ว่าคุณจะเลือกที่จะใช้มันเพื่อขยายขอบเขตจิตวิญญาณของคุณ ใช้มันเพื่อการเปลี่ยนรูป และฟื้นฟูสภาพร่างกายเนื้อของคุณ แล้วเดินร่วมทางไปกับดาวเคราะห์แม่ อันเป็นที่รักของพวกเราดวงนี้ บนเส้นทางแห่งการเลื่อนระดับขึ้น ไปสู่มิติที่ 5 นี้หรือไม่

ดาวเคราะห์โลกและมวลหมู่มนุษยชาติ จะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมๆกัน ดั่งครอบครัวใหญ่ พวกเราที่อยู่ในนครทีลอสแห่งนี้ ก็จะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลกด้วยเช่นกัน พวกเราไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาได้ว่า กระบวนการนี้จะเป็นที่สะดวกสบายตลอดเส้นทาง สำหรับทุกๆคนหรือไม่ เพราะว่ามนุษย์แต่ละคน มีสิ่งที่จะต้องปรับปรุงมากมาย พวกคุณจะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นอมตะ มนุษย์ที่ไร้ขีดจำกัด และจะได้อาศัยอยู่บนโลกใหม่ โลกที่เต็มไปด้วยความรักความเมตตาอันศักดิ์สิทธิ์ โลกที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์อันไร้ขีดจำกัด โลกที่สวยสดงดงามและสงบสุขชั่วนิจนิรันดร์

คุณสามารถเลือกได้ว่าจะร่วมทางไปด้วยหรือจะอยู่ที่เดิม เพียงแต่ว่าคุณจะเลือกที่จะอยู่ระหว่าง 2 โลกนี้ไม่ได้เท่านั้น โลกใบใหม่จะเนรมิตความรุ่งเรืองและความสมบูรณ์แบบ มากมายเกินกว่าที่คุณจะฝันถึงได้ ดาวเคราะห์โลกดาวแม่ดวงนี้ กำลังร่วมอยู่ในกระบวนการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคุณอาจจะเลือกที่จะกลับมาเกิดใหม่อีกไม่กี่ภพชาติในภายหลัง แล้วในที่สุดคุณก็อาจจะสามารถไปถึงที่นั่นได้เช่นเดียวกัน แต่ผมกำลังพูดถึงการไปที่นั่นในตอนนี้เลย

ไม่ใช่ในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า แต่ว่าการสิ้นสุดวงจรของกระบวนการนี้ จะเสร็จสิ้นลงราวๆปลายปี 2012 นะ แล้วคุณจะเลือกทางไหนหละ?

ชาวโลกส่วนใหญ่อาจจะบอกว่า พวกเขาอยากไปตอนนี้เลย แล้วผมก็จะบอกคุณว่า “คุณจะต้องเตรียมความพร้อม และทำบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็น เพื่อให้ผ่านพ้นขั้นตอนของการเปลี่ยนรูปไปให้ได้นะ” เพราะมันไม่ใช่การเดินทางไปแบบฟรีๆ คุณก็รู้ แม้ว่าตอนนี้คุณจะได้รับความช่วยเหลือ จากรูปธรรมชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงมากมาย อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอยู่ก็ตาม แต่คุณก็จะต้องทำในส่วนของคุณเองด้วย ถ้าคุณอยากไปด้วย ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ที่นี่เหมือนเดิม พวกเราก็จะเคารพการตัดสินใจอันนั้นของคุณ

แล้วคุณก็จะได้ไปเกิดใหม่อีกครั้ง ในสถานที่ที่เหมาะสมกับระดับจิตสำนึกของคุณพอดี มันจะไม่มีการตัดสินการตัดสินใจของคุณว่าถูกหรือผิด เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทาน “ทางเลือกอิสระ” เอาไว้ให้คุณเสมอในดาวเคราะห์โลกใบนี้ และทางเลือกอิสระนี้ ก็จะไม่ถูกริบคืนไปจากคุณด้วย แล้วคุณจะเลือกทางไหนหละ? มิติที่ 3 และมิติที่ 4 บนดาวเคราะห์โลกใบนี้ ได้ถูกวางกำหนดการไว้แล้วว่า จะต้องถูกยุบทิ้งไปในที่สุด หากคุณเลือกที่จะอยู่โลกแห่งมายา ที่เรียกว่า “เขตแดนที่คุ้นเคย” ของแบบจำลองเก่าของมิติที่ 3 นี้

คุณจะไม่ได้ร่างกายที่เป็นอมตะ นั่นหมายความว่า ไม่ช้าไม่นานคุณก็จะต้องตายจากร่างกายเนื้อนี้ไป แล้วไปเกิดในร่างใหม่อีก ในดวงดาวอื่นๆที่อยู่ในมิติที่ 3 เหมือนๆกัน และคุณก็จะได้เพลิดเพลินอยู่กับความกลัว ความรุนแรง การถูกควบคุม การถูกบังคับจัดการ สงคราม ข้อจำกัด ความหมกมุ่น และ ความชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณไม่ต้องการกำจัดมันทิ้งไปในตอนนี้อยู่ต่อไป ที่ผมบอกคุณไปอย่างนี้ ก็เพราะว่าความรักที่ผมมีต่อคุณ และเพราะว่าความรักที่พระผู้เป็นเจ้ามีต่อคุณ ผมไม่ได้ต้องการขู่ให้คุณกลัวแต่อย่างใดเลย ผมเพียงแต่กำลังอธิบายเหตุผมให้คุณเข้าใจ

โดยหวังว่าจะช่วยปลุกให้คุณตื่นขึ้นมาจากความเฉื่อยชาซึมเซา ความหลับใหลทางจิตวิญญาณ และตื่นขึ้นมาจากมายาแห่งกิเลสตัณหาเก่าๆซะที สำหรับทุกคนที่ได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่า มันเป็นความประสงค์ของจิตวิญญาณชั้นสูง ที่มีต่อดาวเคราะห์โลกดวงนี้ เพื่อต้องการให้ทุกๆชีวิตสามารถเลือกทางเลือก ที่ได้ “แจ้งให้ทราบ” ไปแล้วนั้นได้ พวกเราหวังด้วยใจจริงๆว่า คุณจะเลือกที่จะไปด้วยกัน เพราะว่าพวกเราคือครอบครัวใหญ่ และพวกเราทุกๆคนก็รักพวกคุณจริงๆ

ทุกคนที่รัก คุณอาจจะเคยได้ยินมาแล้วเกี่ยวกับ “สถานที่ที่ถูกเตรียมไว้” ที่ในพระคัมภีร์ของพวกคุณได้กล่าวถึง นั่นแหละ มันเป็นสถานที่ที่พิเศษจริงๆ ไม่ใช่ที่ไหนอื่น แต่คือจิตสำนึกแห่งมิติที่ 5 นั่นเอง ความกังวลลึกๆของพวกเราก็คือ สิ่งที่พวกเรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมันใกล้เคียงกับเมื่อตอนปี 2000 เหลือเกิน คือผู้คนบนพื้นพิภพอันเป็นที่รักของพวกเราจำนวนมากมาย ที่สามารถไปถึงประตูทางเข้าของมิติที่ 5 ได้อย่างง่ายดาย และถูกยอมรับแล้ว แต่พวกเขายังคงดำเนินชีวิตอยู่แบบหุ่นยนตร์ ที่ไร้จิตสำนึก และไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบต่อการสร้างสรรค์โลกอนาคตของตนเองเลย

พวกเขาไม่ต้องการรับรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น หรือไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองดูชีวิตของตัวเองอย่างจริงๆจังๆเลยว่า ตนเองกำลังจะมุ่งหน้าไปทางไหน ผมไม่สามารถเน้นย้ำถ้อยคำสำคัญที่อยากจะพูดถัดไปได้มากนัก เวลาที่จะดำเนินชีวิตอยู่อย่างหุ่นยนตร์นั้น หมดลงแล้ว มนุษย์ได้ดำเนินชีวิตอยู่แบบนี้ มานานหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้ว แล้วมันก็ได้ทำให้พวกคุณทุกข์ทรมานมาขนาดไหนแล้ว กับความโศกเศร้าเสียใจ ความยากจน ความเจ็บไข้ได้ป่วย และกับปัญหาทางสังคมและปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งหลาย ที่มนุษย์ต้องเผชิญมานับพันๆปี

ตอนนี้หนทางสู่การปลดปล่อยตัวคุณเองได้เปิดขึ้นแล้ว คุณในฐานะที่เป็นจิตวิญญาณที่มาวิวัฒนาบนดาวเคราะห์โลกใบนี้ สามารถเป็นอิสระได้ เพียงแต่คุณเลือกอย่างมีจิตสำนึกที่จะเป็นอิสระเท่านั้น แล้วก็ทำให้เป็นทางเลือกที่สำคัญ และเร่งด่วนมากที่สุดในชีวิตของคุณ มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยการยังคงดำเนินชีวิตอยู่แบบหุ่นยนตร์ต่อไป มันจะเกิดขึ้นได้กับเฉพาะ ผู้ที่โอบกอดด้วยจิตสำนึกอันสูงส่งดีงาม และเริ่มต้นคิดและทำ ด้วยจิตใจที่สูงส่งดีงาม และด้วยความรักความเมตตาเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลือจากเบื้องบนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างแทนคุณได้ คุณจำเป็นจะต้องยอมให้ความปรารถนานี้ถูกจุดประกายขึ้นภายในใจคุณ เพื่อพัฒนาจิตสำนึกของคุณไปสู่ระดับที่คุณต้องการ

ผมคืออดามะ คุรุผู้รู้แจ้งแล้ว และนักบวชชั้นสูงแห่งเมืองทีลอส พี่น้องทั้งหลายของผมในเมืองทีลอสแห่งนี้ กำลังร่วมกับผมส่งความรัก มิตรภาพ และความช่วยเหลือมาถึงพวกคุณทุกๆคนอยู่ พวกเราตระหนักถึงความยากลำบากที่พวกคุณกำลังเผชิญอยู่ดี และพวกเราก็รับรู้ว่าพวกคุณมากมายเพียงใดที่ประสบความก้าวหน้าอันงดงามมากขึ้น จงรู้ว่าพวกคุณกำลังจะทำในสิ่งที่แตกต่าง พวกเราขอส่งความรักและแสงสว่างมาถึงพวกคุณ.

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-6

 

​

สงครามนิวเคลียร์ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ด้วยการตัดสินใจชำระล้างโลกเสียใหม่ !!!​

​

​

​

​

​

Akira สมาชิก

อ่านขำๆ นะอย่าคิดมาก อ้างอิงจากเว็บ the lion of Judah เกี่ยวกับนิมิตจุดจบของอเมริกา, Share ให้อ่านนิดนึงขำๆ พวกนับถือคริสต์บางกลุ่มเชื่อว่าวันพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว โดยในปี 1979 (2522) มีผู้หญิงคนนึงเขาเห็นนิมิตวันโลกาวินาศ แล้วได้บอกเล่าต่อในวันสัมมนาในโบสถ์คริสต์ที่เขานับถือ ก่อนที่จะทำอัตวินิบาต โดยทิ้งปริศนาว่าตนเองจะกลับมาใหม่พร้อมพระเจ้าในวันนั้นเอง...

สรุปคร่าวๆ ดังนี้ครับ (อ่าน ชิลๆ นะอย่าคิดมาก ถือว่านิทานกลางวัน)

• ก่อนหน้าสงครามเริ่มเห็นตึกถล่มที่นิวยอร์ก กลุ่มควันพวยพุ่งมากมาย
• สัญญาณต่อมาคือ มีนิวเคลียร์ยิงมาจากลิเบีย ถล่มอิสราเอลย่อยยับ ในนิมิตเค้าบอกว่ามาจากนิวเคลียร์ผลิตจากอิหร่าน แต่ไปซุกซ่อนไว้ยิงจากลิเบีย
• มีอเมริกามีนิวเคลียร์กล่มเมืองใหญ่ๆ บางเมืองที่ไม่มีระเบิดจากฟากฟ้าก็จะมี Car Bomb (เพราะในนิมิตไม่เห็นวิถีจรวดจากฟากฟ้า เห็นแต่ระเบิดไปแล้ว) และโรคระบาดจากอาวุธชีวภาพ มีคนเอาเหมือนน้ำยามาหยอดลงดิน แล้วเดินหนีไป จากนั้นจะมีการระบาดของเชื้อร้าย ทำคนตายได้ใน 24 ชม. จะมี 2 โรค คือโรคแผลพุพอง และโรคเกี่ยวกับเลือดออกทางทวารทั้งหมด
• ในเวลาเดียวกันนี้ทั่วโลกโกลาหลหมด ระบบเครือข่ายโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ ล่มสลาย เศรษฐกิจล่มสลายหมด โดยเฉพาะในนิมิตของอิสราเอล และอเมริกา
• ที่อเมริกาไม่มีตำรวจหรือทหารควบคุม(คงไปทำสงครามต่างแดนหมด) เกิดโกลาหลของการอพยพย้ายหนีออกนอกเมือง ของกลุ่มคนจากในเมืองขนานใหญ่
• เกิดความโกลาหลของคนในเมือง จี้ ปล้น ข่มขืน ฆ่า บ้าคลั่ง ขาดสติ บางคนขโมยโทรทัศน์ทั้งๆที่ใช้ไม่ได้ บางคนไปทำลายครอบครัว ฉุดคร่า ข่มขืน และฆ่า วุ่นวายมากในอเมริกา
• ไม่มีอาหาร และน้ำสะอาด ไม่มีพลังงาน ฆ่ากันเพื่อเป็นอาหาร และความสนุกเพราะคลุ้มคลั่ง บางคนต้องขุดหนอนจากดินเพื่อกินสดๆ ประทังชีวิต บางคนกระหายน้ำ ต้องดื่มน้ำตามแหล่งน้ำที่มีสารพิษและเชื้อโรคร้ายแรง แต่ต้องดื่มและตายไปเพราะไม่มีน้ำดื่ม และติดโรค
• เกิดระเบิดดอกเห็ดทั่วโลก เกิดหมอกควันพวยพุ่ง ปกคลุมทั่วโลก มืดมิดไปหลายวัน ในอเมริกา ีคนบางกลุ่มเท่านั้นก็รวมกันเพื่อปฏิบัติภาวนา และอยู่ตามหมู่บ้านชนบท เหมือนมีการรู้และเตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว บางกลุ่มมีขนาดร้อยหรือพันคน โดยจะมีจุดดวงไฟ ทางตะวันตกของ US สัก 10 กว่า กลุ่ม ทางตะวันตกสัก 3, 4 กลุ่ม (แถวบ้านเรียกรอดน้อย) กลุ่มพวกนี้จะไม่มีคนกล้าทำร้าย เพราะมีการจัดระเบียบและเตรียมการที่ดี มีความเข้มแข็ง
• ตึกถล่มทั่วไป ไฟไหม้ มีสงครามนิวเคลียร์ที่ยิงมาจาก รัสเซีย และจีน (โดยระบุว่าสุดท้าย รัสเซียและจีนก็ยังคงพ่ายแพ้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด)
• คนที่รอดจะต้องคอยเก็บศพเละๆ เพื่อส่งลงหลุมแล้วเผา กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนมาก กันเชื้อแพร่กระจาย แต่ทำยังไงก็ไม่สะอาดเพราะเยอะเหลือเกิน
• ประเทศริมหาดจะโดย Tsunami ซัดอย่างรุนแรง คลื่นสูงไม่ต่ำกว่า 20 ฟุต เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากทั่วโลก และเกิดเพียงครั้งเดียวทั่วโลก ไม่ได้ค่อยๆเกิดทีละจุดแต่เกิดพร้อมกัน ในนิมิตยังเห็นว่าพื้นที่ Salt lake ที่อ้างว่าไม่ควรมีทางต่อไปยังทะเลยังมีแผ่นดินแยกจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ประเทศอเมริกาจะแยกเป็นสองส่วน น้ำจะพุ่งจากใต้พื้นดินเข้าท่วมบางส่วนไม่ได้เฉพาะมาจากริมทะเล อะไรไม่เคยเห็นจะได้เห็นก็คราวนี้เอง
• เมื่อพ้นสิ่งเหล่านี้แล้วจะปรากฏพระเจ้าอีกครั้ง(ตามความเชื่อคริสต์) โดยมีแสงทองครอบคลุมทั่วโลก และปรากฏพระองค์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่รอด

เอาว่าผมอ่านแล้วคล้ายกับ ดร กัญจีรา หรือใครๆ ที่บอกข่าวให้เตรียมตัว ที่บอกฟ้าจะมืด 49 วัน น้ำท่วมโลก อะไรเนี่ย อ่อ มันคงเกิดจากนิวเคลียร์นี่เอง...นี่เค้าเห็นจากนิมิตตั้งแต่ปี 2522 นะครับ มิน่าอเมริกามันจึงหวาดระแวงอิหร่านมาก เหตุการณ์น้ำทะเลท่วมนี่คงไม่ได้เกิดจาก Green house effect หรอก แต่คงเกิดจาก Pole shift เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโลก และอาวุธนิวเคลียร์ทำให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้กระทันหัน

กราบนมัสการ พระศรีอารย์ คงได้พบเจอกันเร็วๆ นี้ ติดตามกันต่อไป... หวังว่าท่านจะเมตตา
21-11-2006, 05:26 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/จับตาม...ั่วไหลของกัมมันตรังสี.52969/page-4#post385429

อนาคตของโลกได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากคำทำนายเดิม !!!

สำหรับมนุษย์ที่กำลังหวั่นกลัว ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามคำพยากรณ์ในยุคพลังงานเก่า จงรับรู้ไว้ด้วยว่า โรงเรียนโลกใบนี้มิได้โดดเดี่ยว โดยปราศจากผู้ดูแลอย่างการคิดแบบจิตมนุษย์เลย จิตจักรวาลและรูปธรรมชั้นสูงในมิติคู่ขนาน จะไม่มีวันปล่อยให้ผู้มีจิตวิญญาณอธรรม กระทำการเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขากำลังจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะถูกชำระในอีกไม่นาน ด้วยมหันตภัยธรรมชาติที่พวกเขาคาดไม่ถึง ซึ่งอำนาจที่เขามีอยู่จะไม่วันเอาชนะพลังอำนาจ แห่งธรรมะที่เป็นพลังงานด้านบวกได้

บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จักรวาลจำเป็นจะต้องปิดมิติ ด้วยการชำระจิตวิญญาณของพวกเขาอีกครั้ง เนื่องจากจักรวาลหยั่งรู้อนาคตได้ว่า บทสรุปของมันคืออะไร ถ้าไม่ใช่มหันตภัยของมนุษย์ทั้งโลกและจักรวาลอื่น จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ ด้วยความรักแท้จริงต่อมวลมนุษยชาติ ภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่าแน่นอน

นับจากโลกเปลี่ยนสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสมันจะไม่เป็นจริง ไม่แม่นยำอีกต่อไป เนื่องจากมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ทุกคน จะถูกเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่แตกต่างไปจากเดิม จักรวาลยืนยันว่า สงครามอันเลวร้ายที่จะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และทำลายโลก มันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว ภัยธรรมชาติที่จะทำให้โลกแตกดับ มันก็จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นดั่งคำทำนายของใครอีกต่อไปเช่นกัน

ขณะที่สื่อคลื่นความคิดรู้ เป็นผลึกคิดรู้อยู่ในขณะนี้ มนุษย์โลกพึงรู้ว่าความเป็นไปทุกอย่างในระบบโลก ได้รับการควบคุมดูแลโดยรูปธรรมนับแสนตนในจักรวาลเรียบร้อยแล้ว

ที่มา:- คัดลอกบางส่วนจาก :: หนังสือวันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายะโลก ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL MBA .,M.S.

หมายเหตุ

เป็นที่น่าสนใจมากว่าหลายๆคำทำนาย กำลังจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เช่นคำทำนายเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะถ้ามาดูข้อมูลจากจิตจักรวาลและเพื่อนต่างดาวต่างๆ กลับบอกว่าคำทำนายเหล่านั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ด้วยการตัดสินใจชำระล้างโลกเสียใหม่ แบบกระทันหันและไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน ด้วยการให้ดาวเนบิรุ มาทำการกวาดล้างคนชั่วคนบาปทั้งหลายให้หมดไปจากโลกนี้

และทำการปรับปรุงระดับพลังงานสนามแม่เหล็กของโลกนี้ จากมิติที่ 3 ไปเป็นมิติที่ 4 และมิติที่ 5 ซึ๋งจะทำให้คนบนโลกนี้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น และมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้น กว่าในโลกยุคพลังงานเก่าซึ่งถ้าเป็นจริงตามที่เพื่อนต่างดาวของเราได้บอกมานี้ ผมมาลองวิเคราะห์ดูแล้วก็เห็นจริงตามนั้นว่า ถ้ามีภัยพิบัติขั้นรุนแรงถึงขนาดทำให้คนบนโลกนี้ต้องล้มตายไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วคน 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ จะมาทำสงครามกันไปอีกทำไม? เพราะทรัพยากรทางธรรมชาติต่างๆ ก็จะมีเหลือเฟือสำหรับคน 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่นี้

อีกทั้งคำทำนายในศาสนาคริสต์เรื่องพระคริสต์เทียมเท็จ จะมาปกครองโลกนี้ 3 ปี ก็ดูเหมือนว่าจะถูกยกเลิกไปแล้วเช่นเดียวกัน(เพราะกลุ่มอิลูมินาติกำลังถูกทำลาย โดยมนุษย์ต่างดาวฝ่ายดี) การตัดสินใจชำระล้างโลกนี้เสียใหม่ แบบกระทันหันและไม่มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน ทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ก็ต้องคอยจับตาดูว่าดาวหางมรณะเนบิรุ จะมาปรากฏให้เห็นแบบหมดข้อสงสัยกันใน เดือนธันวาคม 2555-กุมภาพันธ์ 2556 นี้จริงหรือไม่ เท่านั้นเองครับ

ปล.ถึงจะไม่มีสงครามนิวเคลียร์แล้ว แต่ก็ยังมีภัยจากรังสีนิวเคลียร์รั่วไหลอยู่ดี เพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และสถานที่กักเก็บระเบิดนิวเคลียร์หลายๆแห่งในโลกนี้ จะถูกภัยพิบัติทางธรรมชาติทำลาย จึงต้องคอยระวังรังสีนิวเคลียร์แพร่กระจาย มาทางอากาศและน้ำทะเลอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนต่างดาว ปัญหารังสีนิวเคลียร์ก็จะหมดไปครับ -เกษม-