คิดว่า หนุมาน และ ไซอิ๋ว มีตัวตนจริงหรือไม่

ยังอยู่เหรอคุณหนุมาน เห็นไม่ค่อยมาโพสต์เลย

 

ผมคิดว่า :

เรื่องพวกนี้ มีจำนวนไม่น้อยที่น่าจะเคยเป็นเรื่องจริงมาก่อน แต่เมื่อพอเวลาผ่านไปๆ ฝ่ายมืดเขาก็จะพยายามลบประวัติศาสตร์ตั้งแต่ระดับหยาบ จนกระทั่งถึง ระดับละเอียด

(หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไปการจารึกเลือนลางพร้อมกับความทรงจำ และ การใช้พลังจิตตรวจสอบก็ถูกบิดเบือนในระดับละเอียด เพราะฝ่ายมารปิดบัง)

แม้บางวัดในปะเทศไทยเราก็เห็นตรงกันว่าเรื่องรามเกียรติ์ และ หนุมาณมีจริง แต่การเห็นไม่ตรงกับความจริงทั้งหมด เมื่อลองตรวจสอบในสมาธิก็เห็นคล้ายกับเรื่องราวในบทกวีเท่านั้น


เรื่องเห้งเจีย ผมว่ามันไม่เป็นความจริง ผมคิดว่าตัวท่านซ่วนจ่าง(พระถึงซัมจั๋ง) แต่งขึ้นมาจาการเดินทางบนเส้นทางสายไหมที่ยากลำบาก มากกว่า แต่ก็เป็นไปได้ที่ ท่านอาจมีองค์เทพประคับประคองการเดินทางร่วมไปด้วยเป็นระยะๆ เพราะนี่คือบุญใหญ่มหาศาล เหล่าเทพย่อมลงมาร่วมอนุโทนาอยู่แล้ว

เมื่อการเดินทางเริ่มต้น ท่านซ่วนจ่างคงต้องมีญาณสมาธิบ้างไม่เช่นนั้นเอาตัวไม่รอด หรือ ล้มเลิกไปในที่สุด
(สมัยนั้น มีขื่อมีแปร ระหว่างประเทศที่ไหน, ไม่มีแม้แต่ความเป็นรัฐ และ กฏหมายระหว่างรัฐ)

 

รู้แต่ว่าลิงมีจริงครับ คนเราเขาก็ว่าวิวัติมาจากลิง(จริงมั๊ยครับ)
ถ้าหากคนมาจากลิงคนมีอภิญญาได้ ลิงมีอภิญญาแบบไซอิ๋วหรือหนุมานก็น่าจะมีได้

นี้ผมไม่ได้ว่าอภิญญานะครับ อย่าไปคิดว่าอภิญญาเป็นของมีค่าแค่คู่ควรเป็นสมบัติของไซอิ๋วหนุมานนะครับ

คนเราก็อยากมีอภิญญาญาณเป็นสมบัติเหมือนกัน....

แต่คนเราน่าจะแหมะสมกับ อาสวักขยญาณมากกว่า เพราะอาสวักขยญาณนี้ถ้าไม่ใช่มนุษย์ก็หมดสิทธิ์ที่จะทำได้นะครับ

(กระทู้ค้างปี )

 

เชื่อว่ามีจริงนะค่ะ

 

ตอบได้

 

ถ้าทั้งสองเป็นเรื่องในตำนาน ผมเชื่อว่ามีจริง

แต่ถ้าทั้งสอง เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากใครก็ตาม ผมไม่เชื่อว่ามีจริง

อีกแหละพิสูจน์ัยังไง ว่าอันไหนตำนาน อันไหนเรื่องแต่ง?? ;aa29

 

มีจริงซิครับ ตอนนี้ท่านเป็นเทพหลุดพ้นหมดแล้วไม่ได้เป็นหน้าลิง แล้วนะครับ

 

1.ถ้าพระโพธิสัตว์ ที่ขุดลงไป 10 เมตร มีพระกว่า 1000 องค์ รัฐบาลอนุญาติให้เข้าได้ทีล<wbr>ะ 20 คน เพราะคาร์บอนไดออกไซด์ที่เร<wbr>าหายใจจะทำให้สีลอก ต้องจองคิวเป็นเดือน
2.วัดห่านป่าใหญ่ ที่พระถึงซำจังมาแปลพระไตรป<wbr>ิฏกที่นี้ผนังวัดทำเป็นประว<wbr>ัติพระถังจริงๆ ที่ไม่มีหงอคงและปีศาจเหมือ<wbr>นในหนัง กั้นกระจกรอบวัด ยาวเป็นกิโล
3. หุบเขาเพลิง ในตำนานหงอคง พระถังเดินทางมาที่นี้แล้วมาพักที่ทูรูฟานในปัจจุบัน กองคาราวานค้าขายจากเปอร์เซีย นำเรื่องเล่าต่างๆ มา เรื่องหงอคงใช้พัดดับไฟเกิดขึ้นที่นี้
4.มัมมี่ 2000 ปี สภาพดีเพราะดินที่ทูรูฟา เป็นดินปนเกลือสภาพเลยดี เก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ สังเกต ฟัน กับมือให้ดี เหมือนเวมไพร์เป่า มีเขี้ยวด้วยเค้าว่าเป็นปีศาจ แวมไพร์ จริงหรือเปล่าไม่รู้ เรื่องปีศาจกินเนื้อพระถึงซ<wbr>ำจัง คงมีเค้าโครงเรื่องจริงบ้าง<wbr> แต่งบ้าง มัมมี่ตัวนี้เอาไปพิสูจน์ DNA ที่ปักกิ่ง ยังมีเหาเกาะอยู่ หมายถึงสภาพศพยังมีความชื้น<wbr>อยู่แม้เวลาผ่านไป 2000 ปีแล้ว ภาพไม่ชัดเพราะไม่กล้าเข้าไ<wbr>ปถ่ายใกล้ๆ ใช้ซูมเอาน่ากลัวมาก
5.นี่อีกตัวหนึ่งที่ขุดพบ สังเกตหน้าอก ใหญ่มาก ในศพมีบันทึกอ้างถึงหลวงจีน<wbr>พระถึงซำจังที่ิ<wbr>เดินทางมาจากจีนไปอินเดีย แค่ 3 บรรทัด แล้วผู้คนก็เอาไปขยายเติมแต<wbr>่งเป้นเหิ้งเจีย บลาๆๆๆๆๆ
6.เอามัมมี่ไปทำวิธี สแกน แล้วสร้างโครงสร้างมนุษย์ เป็นหุ่นขี้ผึ้งก็ได้โฉมหน้<wbr>าเห้งเจียตัวจริงแบบนี้แหละ<wbr> เป็นทหารมองโกลเลียที่เดินท<wbr>างไปกับพระถึงซำจั่งค่ะ สังเกตไม่กล้ายืนถ่ายใ<wbr>กล้ๆ กลัวหันมาขย้ำ

 

ทางเดินเข้าลอบบี้โรงแรม คำนวนแล้ว เกือบ ครึ่งโล จำต้องผ่านประวัติศาสตร์ก่อ<wbr>นนะ ด้านข้างทำเป็นรูป เรื่อง ไซอิ่ว ตั้งแต่ต้นจนจบ เกือบ 500 ภาพ กว่าจะเช็คอินได้ อ่านไซอิ่วจบพอดี แต่แขกที่มาพักก็เต็มใจนะค่ไม่มีใครบ่น สักคำ เป็นความฉลาดของรัฐบาลเอาประวัติศาสตร์ผสมกับการพ<wbr>าณิชย์ คิดได้ไง ลองเป็นบ้านเรา บ่นตายหา เดินไปถ่ายรูปเพลินจนนึกว่า<wbr>มาเที่ยวพิพิธภัณธ์

 

อันนี้ชอบสุด เป็นตอน ที่พระถังซำจั่งไปเอาพระไตร<wbr>ปิกฎกลับมาจากอินเดีย ผ่านแถวๆ เคชเมียร์ ในเรื่องเล่า ว่ามีปลายักษ์ได้ข่าวอยากกิ<wbr>นพิไตรปิกฎ จึงเขมือบพระไตรปิกฎไปหมด หงอคงจึงต้องลงไปปราบไปเอาพ<wbr>ระไตรฯ มาคืน เข้าไปในท้องปลาแล้วเอากระบ<wbr>องเคาะท้องปลาให้พระไตรปิกฎ<wbr>ก ออกมาทีละอัน ๆ ๆ จนหมด "จึงเป็นที่มาพระสงฆ์ที่ทำพิธี แล้วเคาะ ป๊อก ป๊อก ๆๆๆ เหมือนที่เราเห็นในหนังจีนน<wbr>" ว่ากันว่าปลานี้มีจริง เพื่อนที่นั้นบอกว่าที่ทะเลสาบแ<wbr>คชเมียร์บนภูุขา ชาวบ้านเรียกปลาแดง ตัวเท่ารถบัส ปีหนึ่งมันออกมาพ่นน้ำ 2-3 ครั้ง เคยมีนักท่องเที่ยวมองเห็นจ<wbr>ากภูเขาด้านบนด้วย อุ๊ย

 

ตรงนี้เค้าขุดภูเขาเป็นพิพิ<wbr>ธภัณฑ์ มีเรื่องหงอคง พันกว่าห้อง เดินทั้งวันก็ไม่หมด และบางเรื่องที่เรายังไม่ทร<wbr>าบอีกด้านหลังภูเขาเพลิง ถัดไปเป็นเขาเทียนซาน มีหิมะ เมืองที่นี้ใช้วิธีน้ำแข็งละายจากใต้ดิน อากาศร้อนมากแต่น้ำเย็นเหมือนมาจากตู้เย็นเลย เขามันดูเหมือนไฟกำลังพัดจริงๆ

 

นั่ง ลาโง่ ไป 3 กิโล ก็จะเริ่มเห็นซากเมือง สวยแบบ วังเวิง น่ากลัว จะเห็นเป็นซากเมือง ตลอดระยะทาง เลยน่าทึ่ง สมัยก่อนคงน่าสนุกประมาณ สยาม เซนทรัลเวลิด์ ที่นี้พวกพ่อค้าเปอร์เซีย กับพ่อค้าจีนจะมาพบกัน จึงมีเรื่องราว เล่ากันต่อๆ ไป ภูเขาเพลิงก็อยู่ด้านหลังเค้าก็เอามาประติดประต่อเป็<wbr>นเรื่อง ไซอิ๋ว เริ่ม get แล้ว พระถังโดนกักตัวที่นี้ 2 ปี ก่อนถูกชาวมองโกลตีเมืองแตก

 

ภาพประวัติพระถึงที่วัดห่านป่าใหญ่เก๋สุดตรงเวลาเดินจงกลม ทางวัดเค้าเปิดเพลง คลอ ประมาณ แอนย่า หรือ ชิลมิวสิค เริ่ดสุด ๆ มีวัยร่น เด็ก ๆ มาเข้าวัดมากเป็นวิธีเรียกเ<wbr>ด็กรุ่นใหม่เข้าวัดของเค้า เห็นแล้วอิจฉา เรื่องพระถึงซัมจังมีอีกแยะค่อยมาโพสใหม่ง่วงแล้ว

 

สัญลักษณ์เส้นทางสายไหมมีให้เห็นอยู่ตลอด เป็นม้าที่ทหารมองโกลใช้รบ ว่ากันว่าวิ่งเร็วเหมือนนกนางเอ่น ยังใช้เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวอีกด้วย

 

เส้นทางสายไหม อูรูมูฉี ไป ทูรูฟาน ปัจจุบัน เป็นถนนยาวสุดลูกตาไม่มีบ้านและที่พัก กลางทะเลทราย สมัยก่อนพระถังซำจั๋งเคยเดินผ่านเส้นทางนี้ไปอินเดีย น่าทึ่งมาก

 

ท่านเดินทางด้วยกองคาราวานอูฐ ผ่านทะเลทราย กองโจร และอุปสรรค มากมายท่านได้บันทึกการเดินทาง และเรื่องเล่าตำนานพื้่นบ้าน ซึ่งเป็นข้อมูลสำหรับรุ่นหลังที่ได้แต่งนิยาย ไซอิ๋ว ได้ดีเลยแหละ

 

มีจริงครับ...เมื่อปีที่แล้ว คืนหนึ่งผมนั่งฝึกสมาธิในห้องพระตอน จู่ๆก็เห็นหนุมานในจิตครับ ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรครับ

 

ถ้ามีอยู่จริง แล้วไงอ่ะ!! แต่ถ้าไม่มีอยู่จริง ก้อแค่นั้น!!

 

คิดว่าน่าจะมีตัวตนนะอันนี้ก็เชื่ออยู่ถึงจะเห็นเค้าเอามาแสดงเป็นละครหรือภาพยนต์แล้วก็ตาม

 

ก็ชาวไซย่าไงครับ