หมู่บ้านท่อ ขอสู้ภัยพิบัติ

การที่ต้องเลือกจุดปลอดภัยที่พ้นจากการถูกน้ำท่วมเป็น
จุดแแรกนั้นมีความสำคัญครับ เพราะว่าถ้าน้ำท่วมแล้ว
ที่เตรียมการอื่นๆมาก็จะไม่มารถรับมือได้เลยครับ
ดังนั้น ประเด็นที่สำคัญ
ข้อที่ 1 คือการเลือกที่ตั้งให้พ้นแนวน้ำท่วม
ข้อที่ 2 คือเลี่ยงจุดเสี่ยงที่มีแผ่นดินไหวรุนแรง (เช่นทับรอยเลื่อน)
ข้อที่ 3 คือในเขตเมืองที่จะมีการแย่งหาอาหารหรือการแย่งทำลายคนท
ำร้ายคนที่บ้าหลังเกิดเหตุการ
เพราะ ทั้ง3 อย่างนี้ ดูท่าทางจะรับมือยากจากห้องป้องกันอันตรายจาก
ฟ้าและอื่นๆครับ

 

อนุโมทนาบุญค่ะคุณต้น มาติดตามความคืบหน้าด้วยคนค่ะ

 

คุณต้นค่ะ อย่าลืมถ่ายรูปบ้านท่อ หล่อเองให้ดูด้วยนะค่ะ รออยู่น๊ะ...

นำแบบร่างบ้านใต้ดินมาให้เพื่อน ๆ ชม จาก เวป Thainanohouse ค่ะ
เจ้าของเค้าใจดี ร่างมาให้ฟรี เผื่อว่าใครสนใจนำไปต่อยอดได้ค่ะ

Thainanohouse


แบบร่าง บ้านใต้ดิน ก่อสร้างโดยคอนกรีตบล๊อค Thai Nano Eco Block ครับ

ซึ่งมีฟังค์ชั่นการอยู่อาศัยครบ<WBR></WBR> ทั้งเสบียงอาหาร เสื้อผ้า และ พลังงาน ทำครัว นอน และห้องน้ำ อยู่ใต้ดินครับ มีดินปกไว้ประมาณ 1.00 เมตรครับ

 

12 กค กฤษ์งามยามดี
เริ่มหล่อบ้านท่อหลังแรกครับ
สรุปได้อย่างนี้ครับ
1.ขุดหลุม ลงทราย
2.วางไม้แบบ
3.ผูกเหล็ก เทปูนช่วงล่าง
4.ครอบด้วย เมทัลซิสส์ ดัดโค้งชนาด 0.5 mm
5.เทปูน
6. วางด้วยเหล็กตาราง
7.เทปูนทับอีครั้ง รวมหนา 15 Cm
คาดการว่าหลังแรกน่าจะไม่เกิน 1 อาทิตย์น่าจะสำเร็จครับ

 

การเทปูนเพื่อสร้างวัสดุงานที่ทนต่อความเค้นและแรงกดที่มหาศาลจากแผ่นดินไหว ควรจะเทปูนในชิ้นงานให้เสร็จภายในครั้งเดียวและนี่คือความยากที่คุณจะต้องออกแบบและวางแผนให้ดีครับ มันจะได้คุ้มกับเงินที่เสียไป

 

แวะมาทักทายและขอทราบความคืบหน้าจากคุณต้นค่ะ

 

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ ครับหมอ
แต่รูปแบบการออกแบบ จากพี่? ที่ร่างมาให้พร้อมคำอธิบายนั้น
คือการวางโครงสร้างที่ไม่มีเสาทั้งหมดลงบนหลุมทราย
ที่กว้างและลึกพอที่จะช่วยสลายแรงที่จะมากดเค้น
โครงสร้าง การออกแบบเหมือนกับการให้ทรายที่อยู่ในหลุม
ที่ห้องปลอดภัยทรงท่อปูนวางอยู่เป็นตัวสลายแรงเค้นครับ
(ตามแบบที่ผมเคยแนบมาฝากกัน)
กรณีมีแผ่นดินไหวรุนแรงมากๆการอาจมีการเลื่อนไถลบ้าง
แต่ถ้าหลุมยังคงอยู่ก็คงยังไม่มีการเสียหายระดับโครงสร้างครับ

 

ส่วนของหลังคา มีการเทปูนด้วยเหรอค่ะ เห็นในแบบมีการเอากระสอบทรายวางไว้ข้างบนด้วย

 

คุณต้นคะ พอจะบอกเรื่องบประมาณได้ไหมคะว่าสูงหรือเปล่า สนใจเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวคงต้องขอคำแนะนำจากคุณต้นด้วยนะคะ

 

คุณต้นค่ะ รบกวน update บ้านท่อหล่อเอง ให้ทราบความคืบหน้าหน่อยนะค่ะ

 

ไม่ได้กลับบ้านมาหลายเพลาแล้ว
แต่จากข่าวคราวที่ส่งมาจากทางบ้าน
ทราบว่าได้มีการสร้างหลังที่สามแล้ว

แต่ข้อน่ากังวลใจกันก็คือ กลัวรอยปริของพื้นดิน
หวังว่าคงไม่มีโพลงใต้ดินขนาดใหญ่หรือหลุมยุบ
ใต้ที่เราวางแนวหรือหลุมที่เราขุดลงไปวางทรายลงไปก่อน
ถึงเทวางบ้านท่อลงไป นั้น
ฝากพี่น้องควรหาเครื่องมือ ที่ทราบก็มีเจ้าเครื่อง GPR.
ที่พอหาข้อมูลได้ครับ จะได้ไม่ไปวางตำแหน่งตรงปากหลุมพอดี
ถ้าเป็นการไหวขนาดรุนแรงมาก
ถึงการออกแบบที่คำนวณมาจะไม่กระทบโครงสร้างหลัก
แต่ก็กลัวการลื่นไถลของตัวบ้านท่อภายในขอบของหลุมทราย
จนไปชนที่ขอบหลุมทราย ซึ่งถ้ามีระรอกถัดมาเกิดปัญหาแน่
ถ้ามีการไหวมากกว่า 3-5 ระรอก ก็ยังน่าเป็นห่วง
กลัวจะเกิดอาการคว่ำของตัวบ้านครับ

แต่ก็สรุปกันนะครับว่า ในงบประมาณ ประมาณ 30000กว่าบาทแก่ๆ
ก็เพียงพอสำหรับความปลอดภัยระดับนี้ก็โอเคครับ

 

ปัญหาที่คุยกันต่อก็คือ
ความปลอดภัยของบ้านท่อจะมีปัญหา
เรื่องของการป้องกันพวกแมลงงูได้ดีน้อยกว่าตู้คอนเทนเนอร์
แต่ลูงๆป้าๆบอกกันว่า งูมาแมลงมาก็ดี จับเป็นอาหารว่างซะเลย
อ้าวเป็นงั้นไป ผมเลยสบายใจได้นิดหนึ่ง
แต่แย่างน้อยระบบการจัดเก็บอาหาร ยา เชื้อเพลิงพลังงาน
แบตเตอรี่ต่างๆก็แข็งแรงเพียงพอ น่าจะโอเคเหมือนกัน
สำหรับคนที่เงินทองไม่มากนักครับ

 

รบกวนคุณต้นลงรูปในส่วนที่เสร็จแล้วให้ดูด้วยนะคะ

 

คุณต้นกลับเมื่อไรค่ะ ว่าจะแวะไปเที่ยว เยี่ยมชมบ้านท่อหน่อยค่ะ

 

เป็นสิ่งที่ผมคิดเลยครับ ใช้ท่อขนาดใหญ่วางใต้ดิน แล้วเสริมด้วยเหล็กเพิ่มความแข็งแรง แล้วก็โบกด้านนอกด้วยปูนซีเมนต์ใส่สารกันน้ำซึม ทำเป็นห้องไว้เก็บอาหาร น้ำ เชื้อเพลิง ที่หลับนอน จะกลัวก็ภัยแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก น้ำท่วมครับ ว่าไปแล้วผมว่ามันประหยัดกว่าบ้านแบบอื่นๆทั้งระยะเวลาการเตรียม ความแข็งแรงก็เสริมเหล็ก เสริมปูนได้ แต่ภัยจากการปล้นสดมภ์นี่สิครับยังคิดแก้ไม่ตก

เพิ่มเติมครับ หลังจากไปนอนคิดก็คิดออกแล้วครับ ทำแบบคนโบราณคือฝังดิน

ก็ไปซื้อถังพีวีซี ขนาด 1000 - 3000 ลิตร มาตัดออก ใส่ของที่ต้องการใช้ลงไป เชื่อมปิดให้แน่นไม่ให้น้ำเข้า นำไปฝังที่สูงและอำพราง กลบ

อย่างน้อยน่าจะรักษาอะไรต่างๆไว้ได้นานเป็นปีนะครับ สำหรับถังพีวีซีอย่างหนา

 

สวัสดีครับ
เจอแล้วครับคนพม่าที่เชื่อเรื่องภัยพิบัติ อยู่ที่เมืองสากาย
เป็นอาจารย์ชาวมณีปุระ มีเมียเป็นชาวไทยใหญ่
5555 การเตรียมตัวของเขามันมากครับ
เพราะอาจารย์คนที่คุยด้วยที่บ้านเขามีกิจการโรงสีข้าวขนาดกลางๆครับ
เขาทำโดยการทำเป็นตัวบ้านคล้ายๆบ้านท่อของผม
แต่เป็นลักษณะตัวท่อสี่เหลี่ยม เขาได้มาจากที่เขาทางระบายน้ำขนาดใหญ่
แล้วน้มาวางต่อกันซึ่งภาพรวมๆแล้วแข็งแรงน้อยกว่าบ้านท่อของผม
แต่เห็นแบบเขาแล้วน่าประทับใจครับ
เขาวางโดยทำบ้านบนพื้นที่กองแกลบข้าวขนาดมหึมมา
แล้วก็คลุมด้วยพลาสติก ขนาดใหญ่
จากนั้นก็ คลุมด้วยแกลบอีกรอบ(อันนี้เขามีมากจริงๆ)
อันนี้เข้าท่าจริงๆ
ผมอึ้งครับ
คือ
1.แผ่นดินไหวไม่ได้กินเขาแน่ๆ
2.อะไรที่หล่มมาจากฟ้าก็ไม่ได้แอ้มอีก5555
3.แล้วถ้าเกิดหนาวหละ อันนี้ยิ่งสบายครับเพราะมีแกลบเป็นฉนวนอีก
แต่อย่าอย่างเดียวนะครับคือมีใครทะลึ่งมาจุดไฟเล่น55555
ยังไม่พอมีเชื้อเพลิงหุงต้มอีกมากมายจนกว่าจะหมด
ใครที่มีโรงสีก็น่าสนใจนะครับ
เสียดายที่กล้องผมดันเจ๊ง ไอ้มือถือก็ดันเลือกเอาตัวนี้มาถ่ายออกมา
คุณภาพขนาดถ่ายคนเป็นกอลิล่าไปโน้น

 

ช่วงนี้ผมอยู่ที่เมืองสากาย หรือสกายผมไม่แน่ใจสำเนียงเขานะครับ
แต่มีพระครูบาอาจารย์ที่ชาวพม่านับถือกันมากแต่เสียดายครับท่านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
ผมก็ฟังภาษาพม่าไม่รู้เรื่อง เลยได้แต่กราบแล้วก็ได้ทำตาปริบๆ
แต่ที่เห็นความแตกต่างพม่า ก็คือเขาจะเลื่อมใสในการปฏิบัติบูชา
ไม่ยกย่องคนที่ทำอามิจบูชาเท่าไหร่ ยิ่งรอบนอกเท่าไหร่
ที่การปกครองจะมีการแบ่งคล้ายอำเภอจังหวัดแต่คนที่ปกครอง
จะมีอำนาจค่อนข้างมากจริงๆ
แต่ไม่สามารถปิดกั้นกำลังศรัทธาในศาสนาของคนพม่าได้

 

ตามกำหนดแล้วประมาณปลายๆพฤศจิกายนครับ
เพราะต้องไปก่อนวันเกิดผมตอนต้นธันวาครับ
อาจจะได้ฉลองวันเกิดโดยจักรวาลมาจุดพุลฉลอง
แผ่นดินไหวตีกลองสนับสนุน
และน้ำทะเลมาพรมแผ่นดินด้วยน้ำมนต์ให้ครับ
55555

 

อาหารผมใช้ระบบถังพลาสติก(ถังเคมีสีฟ้า)มีขายมากมาย
ตอนนี้หลายๆถังครับเอามาแยกหลายๆอย่างหลายๆชุด
ในแต่ละถังก็เพียงพออยู่ได้ประมาณ 1อาทิตย์ครับ
ถ้ารวมกันกลัวมีอะไรมากๆโครมแล้วเสียหายหมดครับ

 

ไม่ทราบว่าชาวพม่าท่านนี้ไปได้ข่าวภัยพิบัติจากทางไหนครับ