เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. ปืนนาป่า

    ปืนนาป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +1,072
    กราบหลวงปู่ทิม ลุงสาย สวัสดี อ.แก้วสว่าง คุณโต้ง น้าต๋อย และพี่ๆ ทุกคนครับ..... กทม. ฝนตกครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ พี่ๆ ทุกคนครับ...:cool:
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  2. R-LEK

    R-LEK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    437
    ค่าพลัง:
    +1,627
    วันนี้ได้โอนไปร่วมบุญ 2,100 บาทครับ ที่อยู่เดิมครับพี่รัก
     
  3. nateeput

    nateeput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +978
     
  4. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ผมขอนำเอาประสบการณ์เล็กๆน้อยๆจากสมาชิกในกระทู้มาให้อ่านกันครับ....

    ข้อความดั้งเดิมจากคุณ.....
    ผมต้องการพระพุทธไว้แขวนบูชาครับน้าต๋อย ตอนนี้มีลูกอมของหลวงปู่ทิมอยู่แล้วครับตอนที่แจกรอบแรก แต่อยากได้พระพุทธของหหลวงปู่ทิมไว้บูชาด้วยครับ จะได้ใช้คู่กัน ผมศรัทธาหลวงปู่ทิมก็จากได้อ่านบทความของอาจารย์แก้วสว่างนี้และครับ และจากที่มีลูกอมของหลวงปู่ทิมติดตัว รู้สึกเวลาไปไหนอุ่นใจมากครับ อาจจะเป็นความเชื่อส่วนตัวของตัวเองก็ได้ เวลาทำบุญผมจะอุทิศส่วนกุศลให้หลวงปู่ทิมและภูตพรายกุมารด้วยทุกครั้งครับ ซึ่งมีส่วนทำให้ผมได้ทำบุญมากขึ้นโดยไม่รูตัว แต่ก่อนได้ใส่บาตรบ้างเป็นครั้งคราว แต่ตอนนี้จะใสบาตรให้ได้เกือบทุกเช้าครับเลยครับ ^^ และแล้วผมก็ได้พระหลวงปู่แล้วเมื่อวันก่อนครับ รีบเอาไปเลี่ยมทันทีเลยครับ
    เย็นวานผมรีบเอามาอาราธนาแขวนทันทีครับ เกิดประสบการณ์ทันทีครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมมีเรื่องไม่เข้าใจกับแฟนมาประมาณจะเดือนแล้วครับ ระหองระแหงกันตลอด แต่พอเมื่อเย็นวานผมขอหลวงปู่ทิมช่วยลูกด้วยเถอะ อย่าให้ต้องมีเรื่องกับแฟนอีกเลย เห็นผลครับ! แฟนผมคุยกับผมดีขึ้นมาทันทีครับ คุยเข้าใจกันดีเลยครับ ^^ เกิดศรัทธาสุดๆๆ ครับ เชื่อเต็มอก หลวงปู่ช่วยลูกหลานจริงๆๆๆ

    [​IMG]
     
  5. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ยามค่ำคืนนี้ผมขอหยิบยกนิทานสอนใจดีๆมาให้อ่านกันอีกครับเรื่อง.......หมากสีแดง

    ครอบครัวหนึ่งมีลูกชายสองคน ลูกชายคนโตชื่อว่า ชาญชัย ส่วนลูกชายคนเล็กชื่อว่า โชติช่วง

    ชาญชัย เป็นพี่ที่มีนิสัยรักสงบ และชอบนั่งสมาธิสวดมนต์อยู่เป็นนิจ ส่วนโชติช่วงคนน้องนั้น รักความสนุกสนาน ชอบพบปะผู้คน และนิยมความเจริญก้าวหน้าในชีวิต

    เมื่อ ชาญชัยและโชติช่วงเติบโตเข้าสู่วัยหนุ่ม พ่อกับแม่ก็ให้ทั้งสองแยกเรือนออกไปลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง ชาญชัย จึงเปิดร้านเล็กๆ ในหมู่บ้าน ขายของกินของใช้ทั่วๆ ไป พอที่จะเลี้ยงตนเองได้ไม่ขัดสน ส่วนโชติช่วง คิดการใหญ่กว่าพี่ชาย เขามองเห็นลู่ทางทำเงินมากมายรออยู่ตรงหน้า ดังนั้น เขาจึงลงทุนทำการค้าหลายๆ แบบ และทุ่มเทตนเองในการทำงานอย่างหนัก โดยแทบไม่ยอมพักผ่อน ซึ่งกิจการของเขาก็โตวันโตคืนและทำกำไรให้เขาอย่างงดงาม

    ชาญชัยแม้จะเห็นน้องชายเจริญก้าวหน้า ก็หาได้มีใจริษยาไม่ เขายังคงดำเนินชีวิตของตนเองไปเหมือนดังเช่นทุกวัน คือ ตื่นนอนตอนตีสี่มานั่งสวดมนต์ทำสมาธิ จากนั้นกินข้าวเช้าแล้วออกไปเปิดร้าน เมื่อถึงเวลาเย็นก็ปิดร้านมานั่งอ่านหนังสือธรรมะ และคำสอนในศาสนา ก่อนจะเข้านอนก็สวดมนต์ทำสมาธิอีกครั้ง และตื่นอีกครั้งตอนตีสี่ เป็นเช่นนี้ทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลง จนชาวบ้านพากันซุบซิบนินทาไปทั่ว ดังนั้นในวันหนึ่ง พ่อกับแม่จึงเรียกให้ชาญชัยไปหาที่บ้าน

    “พ่อกับแม่มีอะไรจะคุยกับฉันอย่างนั้นหรือ” ชาญชัย เอ่ยถาม

    “พ่อกับแม่ไม่สบายใจเรื่องที่ชาวบ้านพูดคุยและว่าร้ายกันเกี่ยวกับลูกน่ะสิ” พ่อบอกด้วยสีหน้าวิตกกังวล

    “ชาวบ้านว่าอะไรฉันล่ะ” ชาญชัย ถามอีก

    “เขาว่าลูกขี้เกียจสันหลังยาวนัก เปิดร้านออกมานั่งเฝ้าอยู่เดี๋ยวเดียวก็ปิดไปนั่งอ่านหนังสือสบายใจอยู่ใน บ้านเสียแล้ว” แม่ของชาญชัยบอกลูกชาย

    “แล้วเขาก็ยังว่าลูกเป็นคนโง่ที่ขี้อวดอีกด้วย เขาว่าลูกมีเงินอยู่นิดหน่อย แต่ชอบให้เงินแก่ขอทาน และคนยากจน เขาว่าลูกอยากให้ใครๆ มองว่าตนเองเป็นคนมั่งมีจึงทำเช่นนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วการค้าของลูกได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” พ่อของชาญชัย ว่า

    “ทำไมเป็นเช่นนั้นล่ะลูก ไยเจ้าไม่เอาอย่างน้อง ลองไปดูสิ ตอนนี้กิจการของน้องขยายใหญ่โตไปถึงต่างเมืองแล้ว น้องเอาแต่ทำงานไม่ได้หลับได้นอนเพื่อหาเงินหาทองให้ได้มากๆ...แต่ดูเจ้าสิ หลายปีผ่านไปแล้วยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แล้วอย่างนี้เมื่อไรเจ้าจะรวยเหมือนน้องสักทีเล่า” แม่ของชาญชัย กล่าวอย่างเป็นห่วง

    “พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แม้ฉันจะไม่ได้ร่ำรวย แต่มีความสุขมาก ฉันชอบนั่งสมาธิและสวดมนต์ เพราะนั่นทำใจฉันสงบ และมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่เจ็บไม่ไข้ ฉันชอบอ่านหนังสือธรรมะ เพราะมีประโยชน์ ทำให้ได้ขบคิดถึงความจริงของชีวิต และนำมาปรับใช้กับตนเองได้ ถึงแม้จะไม่มีเงินมากมาย แต่ฉันก็ชอบช่วยเหลือคนยาก เพราะทำแล้วสบายใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ชีวิตฉันไม่ต้องการอะไรมาก เท่าที่เป็นอยู่นี้ก็ทำให้ฉันเกิดความสุขมากพอแล้ว ฉันไม่ขวนขวายในสิ่งที่ใหญ่โตแต่ทำลายความสุขอันแท้จริงของชีวิตหรอกจ้ะ”

    หลายปีผ่านไป โชติช่วง ซึ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีไปแล้วได้รับเลือกให้เป็นกำนันดูแลหมู่บ้าน กำนันโชติช่วง นั้นเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพี่ชายแล้ว ก็รู้สึกขัดหูขัดตาเป็นกำลัง ด้วยความรู้สึกว่าไยมหาเศรษฐีอย่างเขา จึงมีพี่ชายที่แลดูกระจอกงอกง่อยเช่นนี้ ดังนั้น วันหนึ่ง โชติช่วงจึงให้คนไปตามชาญชัยมาพบ

    เมื่อชาญชัยมาถึง โชติช่วงก็พาพี่ชายเดินชมบ้านไม้สักอันใหญ่โตโอ่อ่าของเขาอย่างภาคภูมิใจใน ฐานะของตน เมื่อได้ชมบ้านจนทั่วแล้ว ชาญชัยกับโชติช่วงจึงได้นั่งคุยกัน

    “บ้านของฉันใหญ่โตหรูหราดีไหมเล่า ดูสิพี่ นี่คือ น้ำพักน้ำแรงของน้องชายพี่ทั้งนั้นล่ะ”

    “บ้านจะใหญ่โตหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าอยู่แล้วมีความสุขหรือเปล่า” ชาญชัยพูด

    “ต้องมีอยู่แล้ว! ฉันมีเงินทองมากมายไว้ใช้จ่าย มีบริวารรายล้อมคอยรับใช้อยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น นี่แหละคือความสุขล่ะ แต่ก็ช่างเถอะฉันไม่ได้เรียกพี่มาพบ เพราะเรื่องนี้หรอกนะ ฉันอยากพูดให้พี่สำนึกได้เสียที ว่า พี่ก็อายุมากขึ้นทุกๆ วัน น่าจะคิดทำอะไรอย่างฉันบ้าง จะได้มีความเป็นอยู่ที่น่าดูกว่านี้ อยู่ให้สมกับที่เป็นพี่ชายกำนันอย่างไรล่ะ”

    “ไม่ล่ะ พี่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ตอนนี้แล้ว เจ้าก็เช่นกันขวนขวายมากเกินไปสุดท้ายอาจก่อให้เกิดผลร้ายต่อตนเองได้นะ” ชาญชัย เตือนสติน้อง แต่นั่นทำให้โชติช่วงโกรธมาก เขาตบโต๊ะอย่างแรง แล้วหยิบหมากสีแดงที่วางอยู่ในถาดข้างๆ ขว้างใส่หน้าพี่ชาย

    “พี่เป็นคนโง่ ดังนั้น อย่าได้บังอาจเอาความโง่ของตนเองมาสั่งสอนคนอื่นเลย หมากสีแดงนั่นฉันมอบให้พี่ ในฐานะที่เป็นคนโง่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา ถ้าวันใดพี่เจอคนโง่กว่าตนเอง ก็จงมอบหมากสีแดงนี้ให้เขาไปแทนเถอะ” โชติช่วง ตะโกนใส่พี่ชายด้วยอารมณ์มุทะลุดุดัน แต่ชาญชัยไม่ได้กล่าวว่าอะไรน้องชาย เขาเก็บหมากสีแดงใส่กระเป๋าเสื้อแล้วจึงกลับบ้าน

    3 ปีผ่านไป ชาญชัยได้รับข่าวว่า กำนันโชติช่วงกำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งขั้นรุนแรง มีความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และกำลังจะเสียชีวิตในอีกไม่กี่วันนี้ ชาญชัยจึงรีบเดินทางไปเยี่ยมน้องชายที่บ้านไม้สักอันใหญ่โตหรูหราของเขา และเมื่อได้พบกับน้องชาย ชาญชัย ก็พบว่า โชติช่วงผอมซีดเซียวเป็นอย่างมาก

    “เป็นอย่างไรบ้างโชติช่วง” ชาญชัยถามน้องชาย

    “เจ็บปวดทรมานมาก คิดว่าคงใกล้จะไปเต็มทีแล้ว” โชติช่วงตอบอย่างคนหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

    “แล้วเจ้าเตรียมการไว้พร้อมหรือยัง ว่า จะเอาเงินทองติดตัวไปด้วยมากเท่าไร” ชาญชัยถาม โชติช่วงฟังคำถามพี่ชายก็งวยงง แต่ก็ตอบกลับไปว่า

    “เมื่อตายแล้วจะเอาไปอย่างไรล่ะพี่ แม้แต่สลึงเดียวก็ไม่มีทางเอาไปได้หรอก”

    “แล้วสั่งบริวารให้ไปคอยต้อนรับเจ้าที่นั่นหรือไม่ ลูกเมียเจ้าล่ะ ให้ตามไปด้วยหรือเปล่า” ชาญชัย ยังคงป้อนคำถามต่อ

    “ที่พี่พูดมานั่น...ฉันเอาอะไรไปด้วยไม่ได้เลยสักอย่าง” โชติช่วงตอบ

    เมื่อได้ยินดังนั้น ชาญชัย ก็หยิบหมากสีแดงที่โชติช่วงเคยให้ ส่งคืนแก่เขา โชติช่วงมองหมากสีแดงอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกออก

    “อะไรกัน พี่เอาหมากสีแดงมาให้ฉันทำไม” โชติช่วง ร้องอุทานด้วยความตกใจ ชาญชัยจึงกล่าวแก่น้องชายว่า

    “เพราะ เจ้าคือผู้ที่โง่เขลากว่าพี่น่ะสิ...ทั้งๆ ที่เจ้าก็รู้ดีว่า คนเราเมื่อถึงคราวต้องจากโลกนี้ไป จะไม่มีทางเอาอะไรไปได้เลยแม้แต่อย่างเดียว แต่เจ้าก็ยังขวนขวายทำงานหนัก จนสุขภาพทรุดโทรม และส่งผลถึงชีวิตในวัยนี้ เหล่านี้คือการกระทำที่โง่จริงๆ พี่จึงต้องมอบหมากนี้คืนกลับเจ้าไป”

    เมื่อโชติช่วงได้ฟังดังนั้น ก็คิดได้ทันที เขาได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญของชีวิต ว่า แทนที่จะมุ่งมั่นศึกษาธรรมะเพื่อความสุขอันแท้จริง เขากลับสูญเสียเวลาไปมากมายกับสิ่งที่หาได้เป็นความสุขอันแท้จริงไม่ และเมื่อตายไปก็เอาสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้เลยสักอย่าง เสมือนว่า ที่เหนื่อยมาทั้งชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่สูญเปล่าไปโดยสิ้นเชิง

    อย่างไรก็ตาม สำหรับโชติช่วง กว่าที่เขาจะได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญในชีวิตบทนี้ ก็เป็นเวลาที่สายเกินไปเสียแล้ว

    บทสรุป.......

    อย่าให้ชีวิตต้องเรียนรู้บทเรียนที่สำคัญของการใช้ชีวิตเมื่อสายไป แล้วดังเช่นโชติช่วงเลย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้นจะยืนยาวสักเท่าไร วันนี้อาจจะยังยิ้ม เดิน เล่น หรือหัวเราะกับคนรอบข้างอย่างขบขัน แต่พรุ่งนี้อาจจะต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่มีใครคาดคิด ...ความไม่แน่นอนนี้แหละ คือความจริงของชีวิตที่ต้องระลึกไว้เสมอ

    ดัง นั้น อย่าเสียเวลาอันมีค่าในชีวิตไปกับสิ่งที่หาประโยชน์ไม่ได้ แต่จงใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าอยู่เสมอ การสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เธอควรหมั่นฝึกฝนเอาไว้ เพราะสิ่งนี้จะติดไปกับวิญญาณของเธอ และเป็นเสมือนทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่จะนำไปใช้ในชีวิตหลังความตายได้

    [​IMG]
     
  6. ลิปโป้

    ลิปโป้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +1,430
    ช่วงนี้สัมผัสได้ถึงสิ่งดีๆมากมายครับ :cool:
     
  7. kantona

    kantona เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +412
    นำภาพเก่าๆ จากหนังสือมาให้รับชมกันต่อครับ
    [​IMG]
     
  8. kantona

    kantona เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +412
    ต่อกันอีก 2 ภาพเมื่อครั้งหลวงปู่ทิมยังมีชีวิตอยู่
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  9. kantona

    kantona เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +412
    ศิษย์หนึ่งในสองคนที่หลวงปู่ทิมท่านสั่งไว้ก่อนมรณะภาพว่า "นี่ขออย่างเดียว ช่วยบวชให้นี่ด้วย" คนๆ นั้นก็คือลุงสาย แก้วสว่าง
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2012
  10. ติ้งลิงติง

    ติ้งลิงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,365
    ค่าพลัง:
    +3,977
    อย่าให้ชีวิตต้องเรียนรู้บทเรียนที่สำคัญของการใช้ชีวิตเมื่อสายไป แล้วดังเช่นโชติช่วงเลย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้นจะยืนยาวสักเท่าไร วันนี้อาจจะยังยิ้ม เดิน เล่น หรือหัวเราะกับคนรอบข้างอย่างขบขัน แต่พรุ่งนี้อาจจะต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่มีใครคาดคิด ...ความไม่แน่นอนนี้แหละ คือความจริงของชีวิตที่ต้องระลึกไว้เสมอ
    ........................
    ตอนเย็นเมื่อวานเพิ่งไปฟังสวดพระอภิธรรมคนที่นับถือที่เสียชีวิตกระทันหันด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ผู้ไปร่วมงานต่างก็แปลกใจระคนกับตกใจด้วยกันทั้งนั้นเพราะผู้วายชนม์นั้นเป็นคนสนุกสนานรื่นเริง และไม่มีอาการป่วยใด ๆ มาก่อนเลย...สัจธรรมข้างบนนี้ช่างจริงแท้แน่นอน...ขออนุโมทนาสาธุกับทุก ๆ บทความดี ๆ ของ อ.แก้วสว่างครับ
     
  11. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    สวัสดีครับทุกท่าน
    ช่วงนี้หลายท่านก็อยู่ในระหว่างเตรียมงานถวายรูปหล่อ ลพ.กราด กันอยู่
    ถือว่าเป็นงานพบปะสมาชิกในกระทู้อีกด้วย มีคณาจารย์ที่นับถือมากมาย
    ร่วมในงาน ซึ่งกล่าวได้ว่า ไม่เล็กเลยสำหรับงานครั้งนี้ มีวัตถุมงคลที่สร้าง
    ถวายแก่วัดชากกอไผ่ และแจกผู้มาร่วมงานอีกมากมาย ขอเชิญชวนทุกท่านที่ไม่
    ติดภารกิจมาร่วมงาน แถมยังได้ไปกราบหลวงปู่ทิมไปอีกทางหนึ่งด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2012
  12. เต้ พระผง

    เต้ พระผง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +9
    รายงานตัวครับผมเด็กใหม่ นครปฐม ขอบคุณครับสาระดีๆ
     
  13. ก้องครับ

    ก้องครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,447
    ค่าพลัง:
    +10,647
    สวัสดีครับ

    ยินดีต้อนรับครับ
     
  14. NEWESTTSEWEN

    NEWESTTSEWEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ขอเข้ามาเล่าประสบการณ์ดีๆ สักเรื่องนะครับ

    ... วันนี้ มีประชุมวา่ระพิเศษ ต้องเข้าไปประชุมที่ประชุมสภาวิชาการของมหาวิทยาลัยที่ผมทำงานอยู่ เพื่อไปตอบข้อซักถามเกี่ยวกับหลักสูตรปริญญาโทของคณะที่จะเปิดสอน ซึ่งต้องผ่านที่ประชุมนี้ก่อนจะส่งไปยังสำนักงานการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) ซึ่งถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่าได้เปิดรับนิสิตนักศึกษาในปีการศึกษา 2556 นี้แน่นอน ซึ่งกว่าจะผ่านมาถึงสภาวิชาการนี้ได้ ต้องผ่านที่ประชุมกลุ่มย่อยมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ละครั้งก็โดนคำถามมากมายจากผู้ทรงคุณวุฒิ ในที่ประชุมสภาวิชาการวันนี้ ท่านอธิการบดีมาเป็นประธาน และมีท่านคณบดีของทุกคณะ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษอีกหลายท่าน ซึ่งมีหลายหลักสูตรจากหลายคณะเข้ามาให้ที่ประชุมพิจารณาเช่นเดียวกัน

    จากบรรยากาศในที่ประชุม ก่อนหน้าจะถึงวาระพิจารณาหลักสูตรที่ผมดูแลอยู่นั้น หลักสูตรอื่นๆ ก็โดนเหล่าคณะกรรมการซักถามและตั้งข้อสงสัยอย่างกว้างขวาง กว่าจะผ่านได้ ผมนั่งฟังอยู่ด้วยก็อดหวั่นใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะผ่านการตอบคำุถามเช่นนี้มาจากการประชุมกลุ่มย่อยก่อนหน้านี้มาแล้ว ก็ยังกลัวว่าจะโดนซักถามเหมือนหลักสูตรอื่นๆ

    ... จึงเอามือจับพระเนื้อผงสีขาว พิมพ์ห้าเหลี่ยม พร้อมอธิษฐานนึกถึงหลวงปู่ทิม และอธิษฐานผ่านทางเสือไม้แกะด้วย โดยอธิษฐานในใจว่า ขอให้หลักสูตรที่ผมดูแล ผ่านไปได้โดยง่าย อย่างสะดวกสบาย ไร้คำถามจากคณะกรรมการ ทีเถอะเพี้ยงงง ..... (แต่ในใจคิดว่า อย่างน้อยก็ต้องโดนถามบ้างล่ะ ไม่มากก็น้อย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่โดนคำถาม)

    ... แต่เชื่อไหมครับ พอมาถึงวาระเพื่อพิจารณาหลักสูตรของผม ท่านอธิการท่านอ่านวาระการประชุมแป็บนึง แล้วท่านก็บอกว่า "... อ้าว! หลักสูตรนี้เพิ่งขอเปิดเหรอ ไม่ใช่เปิดมาตั้งนานแล้วเหรอ นึกว่าเปิดนานแล้ว ... อืม เป็นไง? อาจารย์ที่จะสอนพร้อมแล้วใ่ช่มั้ย .... อืมม.. ถ้างั้นก็ผ่านไปได้นะครับ..." แล้วก็มีมติรับรองหลักสูตรที่ผมรับผิดชอบไปอย่างไร้คำุถามจากคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิไปอย่างง่ายๆ สบายๆ อย่างที่ขอหลวงปู่ไว้เลยล่ะครับ ผมถึงกับหันไปมองหน้าเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกันอย่างประหลาดใจว่า เฮ้ย..มันเป็นไปได้ยังไง มันง่ายเสียจนไม่อยากจะเชื่อ

    ...... เอวัง เรื่องที่จะมาเล่าก็มีเท่านี้ล่ะครับ

    ... มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงปู่ทิมด้วยความเคารพอย่างสูงสุด .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2012
  15. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140


    สวัสดีครับ ศรัทธาและความเชื่อมั่น เป็นบ่อเกิดของเรื่องราวที่เหนือเหตุและผลมากมาย ถ้าเราแปลคาถาของหลวงปู่ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ แล้วค่อยๆๆนึกคิดเอา ได้รู้ความหมาย จะทำให้เราใช้คาถาของหลวงปู่ได้แบบถึงแก่นจริงๆๆ
    อยากให้ถ่ายรูปโชว์พระให้ดูหน่อยครับ
     
  16. naruephan

    naruephan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +42
    กราบหลวงปูทิมครับ สวัสดีครับพี่ๆ ^___^
     
  17. one11

    one11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +586
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทิม ครับ
     
  18. Tkboys

    Tkboys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    617
    ค่าพลัง:
    +3,271
    กราบหลวงปู่ทิม ตาสายแก้วสว่าง
    สวัสดียามเช้าพี่โมทย์ พี่รัก น้าหมู เสี่ยรุ่ง คุณschorlanzและสมาชิกศิษย์หลวงปู่ครับ
     
  19. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "พระพุทธเจ้าทั้งปวง และสัตว์โลกทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นเพียงจิตหนึ่ง นอกจากจิตหนึ่งนี้แล้ว ไม่มีอะไรตั้งอยู่เลย"

    "จิตหนึ่ง ซึ่งปราศจากการตั้งต้นนี้ เป็นสิ่งที่มิได้เกิดขึ้นและไม่อาจถูกทำลายได้เลย"

    "จิตหนึ่งเท่านั้นที่เป็นพระพุทธะ ดังคำตรัสที่ว่า :-

    "ผู้ใดเห็นจิต ผู้นั้นเห็นเรา

    ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม

    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต"

    [​IMG]
     
  20. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    สวัสดียามเช้าครับ
    กระทู้หายอีกแล้ว...
     

แชร์หน้านี้

Loading...