จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ตอนแรกว่าจะพูดอะไรสักหน่อย แต่ไม่พูดแล้ว เพราะที่นี่ได้มอบเครื่องมืออากิน และได้แนะวิธีใช้เครื่องมือไปหมดแล้ว จงเชื่อสติ จงเชื่อปัญญาของตนเองนะ อย่าได้ผมหรือคนอื่นเลย เพราะพระพุทธองค์ท่านก็ทรงตรัสไว้เช่นนั้น พระพุทธองค์ สมเด็จองค์ปฐม หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านมีจิตใจสูงยิ่งนัก อย่าได้นำธรรมะของท่านมาห่ำหั่นกันเองนะ ถ้าพวกเราเป็นลูกหลานท่านจริงๆ ขอให้เกรงใจท่าน พวกเราอย่าทะเลาะกัน อย่าได้นำพระธรรมหรือคำสั่งสอนมาห่ำหั่น หรือถกเถียงกันเลย เพราะไม่มีประโยชน์อันใด ขอให้น้อมจิตมาปฎิบัติให้ได้ ยกธรรมะมาเพื่อเป็นธรรมทานได้ แต่อย่าได้ยกคำสั่งสอนมากาลเช่นนี้ ขอให้ผู้ปฎิบัติทุกท่านจงกลับ ณ ที่ตั้งเดิม ก็คือ ตรวจตราดูแลจิตตนเองว่าอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายที่เป็นบุญกุศลหรือไม่ จงตรองดูเถิด ตราบใดเรามิได้อยู่บนพื้นโลกนี้เพียงคนเดียว ลิ้นกับฟันก็อาจจะล่วงเกินกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา จิตใครจะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสมมุตินี้ มิใช่ง่าย บอกแล้วธรรมะแค่อ่านฟังไม่เพียงพอ นอกจากสัพพัญญู คือ ผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ได้แก่ พระพุทธเจ้า เราไปเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้หรอก แค่เปลี่ยนดวงจิตตนเองก็แย่แล้ว และมีอยู่ทางเดียวที่จะเปลี่ยนจิตผู้นั้นให้ดีได้ก็คือ การเจริญสติภาวนา หรือเจริญสมถและวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น นอกนั้นไม่มี เจริญสตืภาวนาจะต้องทำให้สำเร็จและรู้จริงๆกันด้วยนะ ตราบใดถ้าผู้ปฎิบัติเข้าไปไม่ถึงกระแสจิตของตนเองเป็นเบื้องต้นแล้ว ต่อไปก็ไม่สามารถเข้าไปถึงกระแสธรรมกันได้ ผมไม่ได้มาสอนธรรมใคร แต่มาแนะนำ ผมไม่ต้องให้คนมานับหน้าถือตา เพราะจิตปฎิบัติโลกธรรมไปแล้ว จิตถึงนิ่งได้ ถ้าเป็นเมื่อไม่แน่ เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อน เป็นคนลูกสุดท้องด้วย แต่มาถึงวันนี้ได้ ต้องขอบใจครูเพ็ญมากที่ท่านสอนสั่งธรรมให้ ถ้าไม่อย่างนั้น ที่พาลๆกันอยู่นะ ไม่ได้เสี้ยวของผมหรอก เวลาผมจะเป็นอะไรจะต้องเป็นสุดๆ เช่นเลวบริสุทธิ์ ฮ่าๆ ดีก็ต้องดีให้สุด แต่ไม่ได้ไปเปรียบเทียบใครนะ ผมถึงบอกแล้วไงว่าได้โปรดอย่านำธรรมะอันสูงยิ่ง อันละเอียดนี้มาห่ำหั่น มาถกเถียง มาทะเลาะเลย ผมยอมรับกับคนที่เห็นต่างได้นะไม่มีปัญหา ผมถือว่าจิตฝึกมาดีเหมือนกัน ผมไม่ได้เปรียบเทียบใคร ผมเปิดกระทู้เพื่ออะไร เพื่อมาหาศัตรูอย่างนั้นหรือ มีกาลเดียวก็คือ เปิดเพื่อยกระดับจิตของพวกเรา แต่อย่ามาดูว่าจิตผมระดับไหน ผมไม่เคยไปเปรียบกับพระพุทธเจ้าหรืออริยเจ้าองค์ใดเลย อันนั้นผมเอาไว้เหนือเศียรเกล้าตลอดเวลา พวกเรารักเคารพ ศรัทธาและเลื่อมใสเหมือนกันทุกคน แต่มันแตกต่างที่ภายในเท่านั้น นั่นก็คือ จิต แต่ถ้าเราต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างปฎิบัติ หรือถ้าเข้าถึงธรรมกันจริงๆนะ ภายในเขาจะเยือกเย็น นิ่งเฉย นิ่งรู้อยู่ภายใน แต่ต้องขอบใจพวกเหล่านั้นมากๆ ผมไม่ถือว่าเขาเป็นมารนะ แต่เป็นอาจารย์มาร ฮ่าๆ ขอบใจนะที่มีสิ่งทดสอบ ตรงนี้แหล่ะพวกเราเป็นธรรมะอันยิ่งใหญ่เลยที่พวกเรายกจิตทำไม ก็ขอให้ดูวันนี้ว่า รู้สึกหรือมันกระทบแล้ว มันเข้าไปถึงจิต มันทำร้ายจิตของตนเองได้ไหม๊? ไม่ต้องมาพูดเรื่องปฎิฆะ หรือสติแตกกับผมหรอก ผมแตกมามากต่อมากแล้ว แต่ถ้าผมแตกจริงๆหรอ ป่านนี้กระทู้นี้อยู่ไม่ได้แล้ว ผมตามตรงไม่ใช่นิสัย จิตพัฒนาย่อมไม่หวั่นไหว เป็นเรื่องของโลก จิตไม่มีทางวิ่งตามแน่นอน ถ้าผมสอบไม่ผ่านเรื่องจิตนะ ผมปิดกระทู้หนีไปดีกว่า เพราะอายคนเขา ผมมีแต่ให้ ใครด่าก็ช่างเขาปะไร คนทำแบบนั้นเขาก็อยู่ไม่เป็นสุขเองแหล่ะ อย่าลืมกรรมมันทำหน้าที่ทุกขณะจิต ไม่มีใครไปช่วยบันทึกกรรมให้กัน แต่จิตตนเองนั่นแหล่ะ จะเป็นผู้บันทึกเอง บอกแล้วธรรมะไม่ต้องไปสอนกันแล้วรุ่นี้ คนที่มาที่นี่ จิตเขาพร้อมมากจริง ศีลต้องผ่าน และต้องเอาจริงเอาจัง แต่ถ้าไม่ผ่านสองอย่างนี้ ก็อย่ามาปฎิบัติ ที่นี่รับเฉพาะคนจริง หรืออยากปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น ที่นี่ปฎิบัติกันแบบหน่อมแหน้ม หรือปัญญาอ่อน เราฝึกเน้นสร้างสติ สร้างสมธิ สร้างปัญญา พอผู้ปฎิบัติมีสติสัมปชัญญะแล้ว มีปัญญาเป็นของตนเองแล้ว ผมไม่เป็นห่วงแล้ว เพราะคิดได้เองแล้ว ที่นี่ไม่ได้มานั่งตามใจผู้ปฎิบัตินะจะบอกให้ ที่นี่มีแต่ให้และมิต้องการสิ่งใดตอบแทนด้วย ที่นี่เน้นการทำบุญภายใน น
    ส่วนภายนอกไปทำกันเอง ที่นี่เน้นพัฒนาจิต(ยกจิต) ส่วนจิตผู้ปฎิบัติท่านใดได้มรรค ผล หรือนิพพานก็เป็นเรื่องผลพลอยได้ เรามิได้ให้ความสนใจในคำสมมุติ อย่าไปสนใจคำว่า จิตอรหันต์หรือไม่ อย่าไปสนใจ ผู้ที่ปฎิบัติจะต้องทำหน้าตอบตนเอง มิใช่ผม หรือครูฝึกสอนจิตเกาะพระผมในฐานะเจ้าของกระทู้อันสมมุตินี้ ผมขอกล่าวขมากรรมแทนตนเองและผู้อื่นในกระทู้นี้ ที่อาจจะล่วงเกินจิตกัน ผมขอรับผิดทั้งหมด แต่เพียงผู้เดียว อะไรไม่ดียกมาไว้ที่ผมคนเดียว แต่เรื่องดีๆผมยกให้ทุกๆท่าน แม้นกระทั่งผู้ที่มีความเห็นต่าง ผมยอมรับทุกปัญหา ยอมรับทุกความคิด ผมให้เกียรติทุกดวงจิต แม้นกระทั่งศัตรูตนเอง ผมก็ให้อภัยได้ ผมทำให้เบื้องบนเห็น ผมไม่ต้องการให้คนเราเห็น แม้นกระทั่งทางบ้านญาติพี่น้อง ลูกๆและเพื่อนๆผมก็ยังไม่รู้ว่าผมมาทำงานตรงเลย ผมปฎิบัติธรรมก็ไม่เคยอวด ผมไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเปลือกทั้งนั้น ผมไม่สงสัยเลยว่า ผู้ปฎิบัติธรรมนั้นมีเยอะ แต่ปฎิบัติให้ถึงใจ ถึงแก่นนั้นมจึงมีน้อยมาก แต่มิได้ไปตำหนิใคร บอกตามตรงผมมีเมตตาพอ มีขันติพอ มีอุเบกขาพอ เอาหล่ะผมจะไม่ออกมาพูดบ่อยกับเรื่องนี้แล้วนะ ขอให้ผู้ปฎิบัติดูจิตตนเองต่อไป ผู้ที่จบกิจแล้วก็ขอนำจิตทรงฌาน เกาะพระ เกาะพระนิพพานไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ แต่ถ้ายังไม่หมดลมหายใจ ก็ขอให้แยกกาย แยกจิตออกจากกันให้สิ้นเซิง อย่าได้นำมาปะปนกัน คอยระวังมิให้จิตไปสนใจแต่เรื่องที่มิใช่บุญหรือกุศล ส่วนใครจะดีหรือว่าเลวกว่าตัวเรา เราก็อย่าไปเปรียบให้เราหรือเขาถ้อแท้ใจเลย ขอให้มุ่งปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น หรือไร้ทุกข์ ไร้สุขทางโลก ก็น่าจะเพียงพอแล้ว อย่าไปสนใจหรือบ้า คำว่า จิตอรหันต์ เพราะผู้ปฎิบัติเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายที่ตอบตนเองได้ แต่ถ้าตอบตนเองไม่ได้ แล้วต่อไปเราก็ตอบกับผู้อื่นไม่ได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นสำหรับผู้ที่มีอินทรีย์อ่อน ขอให้สร้างสติตนเองให้มาก เดี๋ยวปัญญามากตามไปเอง เมื่อพวกเราเข้าใจถึงแก่นธรรม ว่าคืออะไรแล้ว ทุกอย่างก็คือเปลือกแทบทั้งสิ้น และจิตตนเองนี่แล จะเป็นผู้เลือก หรือแยกแยะว่าดีหรือชั่วเองแหล่ะ แต่จะรู้ได้นั้น พวกเราที่กำลังปฎิบัติกันอยู่นี้เอง มันมีขั้นตอนเยอะ ไม่ใช่ให้เรามานั่งจำพระแล้วได้ตั๋วพิเศษไปพระนิพพานกัน ถ้ามันง่ายนะ ป่านนี้มีจิตอรหันต์ฝ่ายฆราวาสเต็มไปหมดแล้ว เอ่อ ผมพูดสั้นไปหรือเปล่า อิอิ แต่ถ้าสั้นไปนั้น ก็ตัวปลอม....อิอิ
    ว่าแต่ว่า มหาพายุสุริยะมันพัดผ่านไปแล้วหรือยัง ดูหรือสำรวจจิตตนเองเข้าไว้นะ อย่าไปหลงดูจิตหรือจริยาผู้ปฎิบัติท่านอื่น ผู้เข้าถึงการปฎิบัติบูชากันจริง เขาจะไม่มีทุกข์ ไม่ไปวุ่นวายกับใครหรอก มันสงบอยู่ภายใน เพราะจิตเป็นผู้ดู จิตเป็นผู้รู้ทุกธรรม อย่างมากกระทบแค่อายตนะภายนอกเท่านั้น แต่ไม่ถึงภายในจิต จิตมันยังนิ่งสงบดี นี่แหล่ะตัวทดสอบอย่างดี มิใช่พวกที่ชอบนั่งหรือทำสมาธิหลับตาปี๋ ไม่นำจิตไปชนกิเลสเลย แล้วมันจะรู้ไหม๊ว่า ที่ว่าเราปฎิบัติมานั้น มันจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน ตรงนี้คือหังใจของผู้ปฎิบัติที่คิดว่าตนเองจบกิจ หรือผู้มีดวงตาเห็นธรรมแล้ว จิตมันไม่มีทางจะไปวิ่งตามกระแสโลกเลย กิเลมีอยู่ครบ ความโกรธมีอยู่กับขันธ์๕ เท่านั้น แต่มันไปไม่ถึงจิตแล้ว จิตยกเหนือขันธ์๕ แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องที่มากระทบจิตทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของชาวโลก จิตที่ถึงโลกุตตระจริงๆนั้น มันไปไกลแล้ว ได้แต่รู้ แต่ไม่สามารถทำร้ายจิตใจได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว ผมมิได้แสดงธรรมอวดใคร แต่มันเป็นหน้าที่ของผม ใครจะว่าอย่างไรก็ตามแต่ใจเขาปะไร ที่นี่ผมมิได้ไปบังคับจิตใครให้มาปฎิบัติ จิตใครพร้อมพระท่านก็ส่งมาเอง หรือผมไม่ไปยึดลูกศิษย์ด้วย ผมไม่มีทางหลงตนเองแน่ และผมเคยบอกกับผู้ปฎิบัติเสมอๆว่า อย่ามายึดผม อย่ามาชมผม อย่ามายกหางผม อย่ามายกตำแหน่งชื่อเสียงให้ผม อย่ามาเชื่อหรือมารักเคารพ ศรัทธาและเลื่อมใสผม แต่ขอให้ไปรักเคารพ ศรัทธาและเลื่อมใสในพระรัตนตรัย....จบ
     
  2. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    เอ่อ ผมพูดสั้นไปหรือเปล่า อิอิ แต่ถ้าสั้นไปนั้น ก็ตัวปลอม....อิอิ
    ----------------------------------------------------------------------------

    อ้อ ... ค่อยยังชั่ว ตัวจริง ตัวจริง แต่ไม่ใช่ตัวเป็นๆ อิอิ(deejai)
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ผู้ปฎิบัติจะต้องมีวินัย ก็คือ ตามดู ตามรู้เฉพาะจิตของตนเองเท่านั้น แต่กว่าเราจะมองเห็นเกิด-ดับของเจตสิกของตนเองกับสิ่งที่มากระทบนั้น เราจะต้องอาศัยการเจริญให้มาก ที่พวกเรากำลังระลึกถึงพระกันอยู่นี้ ก็คือ เป็นการสร้างสติอย่างดี หรือที่เรียกกันอยู่ทั่วไปก็คือ พุทธานุสสติ นั่นเอง เพราะการเจริญสติมากกันนี้ก็เพื่อทำให้จิตของเรานิ่ง นั่นเอง พอจิตเรานิ่งได้ จิตก็จะเกิดปิติก่อน แล้วถึงจะกลายมาเป็นสมาธิล้วนๆหรือสมาธิลึก(ฌาน) เดี๋ยวปัญญาของตนจะตามาเอง

    นอกจากจิตกาะพระนี้จะเน้นเรื่องสติกับจิตเป็นหลัก ในการเดินมรรคผลนิพพานนี้ เมื่อจิตทรงฌาน(ทั้งหลับตาและลืมตา) ก็ไม่ให้ผู้ปฎิบัติติดสุขจากฌาน และจุดตรงนี้แหล่ะ เป็นจุดอ่อนสำหรับนักภาวนาทั่วไป นอกจากจิตหลงไปสนใจนิมิตกันแล้ว แต่จะเน้นผู้ปฎิบัติให้นำจิตในขณะที่ทรงฌานอยู่นั้น ไปพิจารณาธรรม หรือสิ่งที่กำลังกระทบจิต อยู่ทุกขณะจิต หรือปัจจุบัน นั่นเอง
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จักกะดึ๋ย!(ขอยืมภาษาครูดัชชี่หน่อย ท่านมีเยอะจริงๆศัพท์แสลงเนี๊ย) เธอไปอยู่ที่ไหนมา โซนยุโรปโดนมหาพายุสุริยะจักวาลด้วยรึยังปล่าว? เธอยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ ฮ่าๆ ขอยาดม ยาอม ยาทา และขอยากันอ๊วกด้วยนะ...คริคริ

    อ๊าวจิตใครมายกแข่งกับมหาพายุสุริยะจักวาลได้ละเนี๊ย เอิ๊กๆ เดี๋ยวก่อน รีบไปโมทนาก่อน เดี๋ยวครูเพ็ญนอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กันยายน 2012
  5. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ลินดา อยู่เวอร์จิเนียร์ ยู.เอส.เอ นี่เอง พายุมาถึงแต่ทำไรไม่ไดหรอกค่ะแค่ หาวพายุก็ม้วนกลับแล้ว..อันนี้โม้(สำนวนคุณภูแหละ) แหะๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cat.jpg
      cat.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.8 KB
      เปิดดู:
      60
  6. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญ ดวงที่ ๘๑,๘๒,๘๓ แลครูจิตบุญทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาบุญกับ...
    คุณทิตย์พิชัย จิตบุญ 82
    คุณน้อง จิตบุญ 83
    คุณจุ๋ม จิตบุญ 84
    และขอโมทนาสาธุ กับคุณครูทุกท่านที่เกี่ยวข้องไม่มีสิ้นสุด ไม่มีประมาณครับ

    คุณทิตย์พิชัยฯ ท่านนี้ผมสนใจมากเลย และคนอื่นก็สนใจเหมือนกัน เพราะทุกคนทราบจิตของท่านเป็นอย่างดี ดูสิว่าท่านจะผ่านได้ไหม๊? ผมทายผิดไปสามวันเอง อาจจะยกนานแล้ว แต่รอท่านรายงานครูเพ็ญเป็นครั้งสุดท้าย อาจจะติดวันหยุดด้วย ท่านนี้เรียนรู้ไว จบไวจริงๆ น่านับถือ เพราะอินทรีย์ท่านแก่กล้ามาก จิตพร้อมมากจริง ผมไม่ต้องอธิบายมาก อยากให้้เจ้าตัวมาพูดเองดีกว่า
    คุณน้องนี่จบได้สักทีนะ ผมหมดห่วงแล้ว เห็นท่านเกาะมานานมาก แต่ก็ทำจนสำเร็จ น่านับถือๆ เก่งมาก
    คุณจุ๋ม ที่คุณสุภาทรแนะนำมาก็ไม่พลาดเช่น ปลื้มใจแทนคุณสุภาทรเลย สายบุญท่านยกไปแล้ว สองคน ถ้าจำไม่ผิดนะ

    โมทนาสาธุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กันยายน 2012
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    "เอ็งคิดถึงข้าข้าก็คิดถึงเเก เเกไม่คิดถึงข้าข้าก็คิดถึงเเก"

    ฮ่าๆ สำนวนนี้ของหลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ พระผู้เมตตาแห่งกรุงศรีอยุธยา มิใช่ของพี่ภู พี่ภูไม่มีสำนวน มีแต่สำเนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เพราะธรรมะท่านถูกจริตผมมาก แนวดุดุ แต่ใจดี แต่ใจดีเฉพาะผู้ที่มีศีล มีธรรม หรือผู้ที่น้อมนำเอาธรรมะของท่านมาปฎิบัติตามให้ได้ด้วย แต่ถ้าใครนำธรรมะไปสั่งสอนผู้อื่น แต่ถ้าไม่ปฎิบัติตาม อันนี้สมควรโดนหลวงพ่อด่า เพราะหลวงพ่อท่านสั่งสอนเพื่อให้ดูแต่จิตตนเองฝ่ายเดียว อย่าไปดูจิตของผู้อื่น ไม่ว่าเขาจะดีหรือว่าเลวกว่าเรา เพราะมันไม่เกี่ยวกับตนเอง เพราะมันเสียเวลาในการปฎิบัติ ในมรรคผลนิพพาน ท่านสอนว่าถ้าบอกแล้วไม่เอาไหน หรือแบบเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ อันนี้หลวงพ่อจะไล่ตะเพิดออกนอกวัดเลย แต่ในจณะที่ท่านยังไม่ละสังขารผมไม่มีโอกาสไปกราบไหว้ท่านสักที เคยกราบท่านแต่ในนิมิเท่านั้น ถึงแม้นผมจะไม่มีโอกาสได้พบเจอท่านในขณะที่ยังไม่ได้ละสังขาร ก็ไม่เป็นไร แต่ผมก็รักเคารพ ศรัทธาและเสื่อมใสในท่านที่เป็นพระสุปฎิปันโน
     
  9. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=I_ZvZQT81OY&feature=related"]What a wonderful world LOUIS ARMSTRONG With David Attenborough BBC One - YouTube[/ame]

    ฝากเพลงนี้ให้ทุกๆท่านก่อนนะคะ รายงานกำลังปั่นค่ะ
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,308
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    [FONT=times new roman, new york, times, serif]กราบสวััสดีค่ะ ท่านอาจารย์ภู ครูุเพ็ญ ครูวิทย์ื ครูุพี่ต้อยและครูจิตบุญ จิตบำเพ็ญทุกๆท่าน[/FONT]

    [FONT=times new roman, new york, times, serif]
    [/FONT]
    [FONT=times new roman, new york, times, serif]เมื่อคืืนหลัังจากสวดมนต์ื สมาทานศีลแล้ว ล้้มตััวลงนอนพร้อมๆกับ
    กำหนดภาพพระ เห็นท่่านใสสว่่าง มองท่านไปจนเริ่มเคลิ้มหลับ มีความรู้สึกว่ามีมือมาดึ
    <wbr>งเราออกไป ออกไปจากเราอีกคนนึึงทีี่่<wbr>นอนอยู่ ไปไหนก็ไม่รู้ มีพระเต็มไปหมด..พระสวยๆทั้งนั<wbr>้นเลย มีสีขาว สีทอง สีใสสว่่าง...


    เช้้าวัันนี้พอรู้สึกตัว รู้้ว่่าเปลือกตาขยัับ แต่ยังไม่ลืืมตา
    มองหาพระแต่่ไม่เห็นท่าน นึึกอาราธนาท่านในใจ อธิษฐานขอพรท่าน
    แล้วแผ่่เมตตาให้สรรพสัตว์ืโลก.
    <wbr>..



    ลุกขึ้นทำกิิจวััตรประจำวัน กำหนดอิิริยาบทไปด้วย... อารมณ์ืใจเฉยค่ะ
    แต่เฉยแบบแข้มแข็ง แบบมั่นใจ เหมือนจะไปออกทัพจับศึกงั้
    <wbr>นแหละ..55555


    2-3 วันมานี้้คิดถึงความตาย เลยถามตัวเองว่า "กลัวไหม"?

    คำตอบคือ"ไม่กลัว".. (กลัวก็ตาย ไม่กลััวก็ตาย)

    ทำไมไม่กลััว?.. ตอบด้วยความมั่่นใจเต็มล้านว่า "ถ้าตายแล้ว เรามีที่ไปที่ดี"



    วันจันทร์ตอนสายๆจุ๋มมีเรี
    <wbr>ยนภาษาอังกฤษภาคฟื้นฟู เพราะภาษาอังกฤษข้าน้อยพังพิ<wbr>นาศหลังจากเรียนภาษาด้อยช์มาถึง 3 ปี......ฮาาๆๆๆๆ สััญญามัันไม่เที่ยง..
    จัดกระเป๋าเรียนแล้ว เหลือเวลานิดหน่อย เปิิดดู mail ครูวิทย์ท่านส่งมาบอกว่า "รายงานอารมณ์ด่วนเลยครับ"....
    <wbr>งง!!ค่ะ อ่านผิดเป่าเนี่ย!!จิตเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร คิดแต่เพียงว่า ทำต่อไปๆ ยังไม่ไช่เราหรอก

    เพียงแค่คิดภาพพระใสก็ผุดขึ้
    <wbr>นมาลอยเด่นทั้งองค์ื...ขนลุกซู่<wbr>อยู่นาน
    คิดได้ว่าต้องไปโรงเรียนแล้ว แต่ต้องหยุดกึก มีเสียงบอกว่า "ความรู้ทางโลกก็เป็นไปอย่
    <wbr>างโลกๆ"

    เปลี่ยนใจนะบัดนาว ไม่ไปซักวัน คุณครูคงไม่ตีหรอก เพราะท่านไม่่มีไม้
    หน้าสาม (จุ๋่มเปล่าแซวครูลินดานะคะ)...
    <wbr>^^


    จากนั้นทำงานบ้านต่่อ ทำความเพีียรไปด้้วย เห็นพระแแก้วใสตลอดเวลา ตอนเย็นพยายามจิ้มๆโดยไม่มี
    <wbr>เมาส์ส่งมาบอกครูวิทย์ว่า..."พิ<wbr>มพ์ไทยใช้ได้อยู่แต่เม้าส์หนูพั<wbr>ังค่า"...


    ครูวิทย์ให้โทรหา ให้รายงานอารมณ์ เลยกดหาครู ท่านสอบอารมณ์
    ถามมา เราก็ตอบไป สุดท้ายท่านบอกว่า คุณจุ๋มจิตยกแล้วนะ รู้มั้ย?
    ไม่รู้ค่ะ..... (กำลังโดนน้องเอ๋อ เล่นงาน)....[​IMG]...ถึงตอนนี้น้
    <wbr>องเอ๋่อก็ยังเล่นงานไม่เลิก..<wbr>555
    ตอนครูวิทย์ท่่านบอก น้ำตาใหล ขนลุกพูดอะไรไม่ถูกเป็นอยู่
    <wbr>นานจนกระทั่งวางหูจากท่านไป ดีใจมั้ย? รู้สึกเฉยๆนะคะ มีีแต่อิ่มใจ ปลอดภัย...และจะเดินหน้าทำต่อไป ไม่หยุดค่ะ


    จุ๋มเรียนจิตเกาะพระตั้งแต่วั
    <wbr>นที่31 สิงหาคม (ก่อนครูพี่ต้อยยกจิต 1วันค่ะ)

    รวมเวลาทั้งหมด24 วันค่ะ



    สุดท้ายนี้ลูกขออาราธนาบารมีอั
    <wbr>นไม่มีประมาณของสมเด็จพ่อองค์<wbr>ปฐม
    และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์นั
    <wbr>บอสงไขยไม่ถ้วนพระปัจเจกพระพุ<wbr>ทธเ้จ้า
    และพระอรหันต์เจ้า ขอได้โปรดทรงดลบันดาล ให้ผลบุญกุศลทั้งปวงที่
    ข้าพเจ้าได้กระทำมาไว้ดีแล้ว ตั้งแต่ต้นภพต้นชาติที่ได้เกิ
    <wbr>ดเป็นมนุษย์
    จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ณ วันนี้ ขอจงแผ่ไไปกับพระฉัพพรรณรังสี
    <wbr>ไปทั่ว
    ทั้งสามโลก และจงสำเร็จแด่บิดามารดาของข้
    <wbr>าพเจ้า แก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย แด่ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า คุ<wbr>ณแม่สุมาลี ท่านอาจารย์ภู ครูเพ็ญ ครูวิิทย์ ครูพี่ต้อยและครูจิิตบุญทุกๆท่<wbr>าน รวมทั้งจิตบำเพ็ญ จิตในขอบและนอกขอบกระทู้ ขอให้ทุกท่านจงมีีความสุข ปราศจากทุกข์ คิดสิ่งใดอันเป็นไปโดยธรรม ขอจงสำเร็จแด่ทุกๆท่านเทอญ


    จุ๋มค่ะ.[​IMG]














    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2012
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,308
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    คุณน้องจุ๋มส่งมาเพราะที่พิมพ์ยังใช้ไม่ได้ค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับจิตบุญที่๘๑ ๘๒ ๘๓ ๘๔ ด้วยค่ะcatt1
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เขียนมา...อ่านไป(ตามใจ)

    ก่อนที่พี่ภูจะมาปฎิบัติธรรม ก็เคยสงสัยเหมือนกันว่า...ทำไมต้องปฎิบัติ ปฎิบัติทำไม
    บางท่าบอกว่า ปฎิบัติเพื่อมีสติ อ๊าวแล้วคนเราทุกวันนี้มันเป็นบ้ากันหรอ เพราะเคยจำมาแบบผิดๆว่า คนบ้าก็คือ คนที่สูญเสียสติ พอกลับมาสำรวจตนเองว่า เราก็มีสตินี่ เพราะเรารู้สึกตัวดี ประสาทก็ดี อะไรดีหมดว่างั้นเถอะ
    วันๆเอาแต่สงสัย สงสัยเมื่อไหร่ก็จะถามผู้คนไปเรื่อย เรียกว่า วู๊ดดี้เกิดมาเพื่อคุย แต่ผมเกิดมาเพื่อถาม ถามลูกเดียวถามจนงง ถามจนไม่รู้เป็นตอบ เพราะเอาคำตอบคนนี้ไปถามอีกคนนึงอะไรประมาณ นึกๆไปเมื่อก่อนท่าบ้า ไอ้หมอนี่ ตอนเรียนถามครูจนครูบอกว่าเอ๊าหมดชั่วโมงพอดีไม่ต้องเรียนกันแล้ว มัวมาตอบคำถามเธออยู่นี่ เพื่อคุณครูจะรู้ตัวก็เกือบๆจะหมดชั่วโมงจริงๆ นี่แหล่ะเหมือนคนเดินหลงทาง ซึ่งหาทางออกก็ไม่เจอ เหมือนคนทุกวันนี้ โดยเฉพาะคนที่ไม่รักษาศีล ไม่ทำภาวนา บางคนรักษษศีล ศีลก็ขาด ก็พร่อง นานๆไปไม่รักษามันแล้ว หรือบางคนทำภาวนาๆไป พอไม่เห็นจะเกิดผล คือเห็นเขาปฎิบัติได้ แต่ตนเองปฎิบัติไม่ได้ก็เลิกล้มไป หมดโอกาสจิตพบเห็นความจริงแท้ของโลกมายาเลย ก็หลงไปวิ่งตามคนอื่น วิ่งตามกระแสโลก

    ต่อมาภายหลัง นับตั้งแต่จิตมองเห็นทุกข์ เวลาคนเราเห็นจะมีทางไปอยู่สองทาง ทางแรกก็คือ เลือกไปที่มืด ได้แก่ ไปดื่มเหล้า ไปเสพยา เลือกคบคนชั่ว หรือมากไปกว่าก็คือ ฆ่าตัวตายซะเลย เป็นต้น ทางที่สองเลือกไปทางสว่าง ได้แก่ หันหน้าเข้าหาธรรมะ หรือไปปฎิบัติธรรม เป็นต้น คนที่ไม่ได้ปฎิบัติธรรม หรือปฎิบัติธรรมแต่ไปไม่ถึงธรรม เพราะอะไร ก็เพราะว่านึกว่าเอาตัวเอง(ขันธ์๕)ไปปฎิบัติ แต่ลืมไปว่าจะต้องนำจิตหรือดวงจิตไปปฎิบัติธรรม มิใช่ตัวเอง เมื่อก่อนผมก็เข้าใจผิดอย่างนี้มาก่อนแล้ว ผมถึงบอกได้นี่ไง ประสบการณ์ล้วน ธรรมะที่ได้มานี้ก็ปฎิบัติล้วน(ภาคสนาม) แต่อินทรีย์ไม่แก่กล้าเหมือนดั่งพระอรหันต์ หรือนักบวชอาชีพ แต่เราแค่ฆราวาสทำได้แค่นี้ก็ดีถมไป ผมชอบปฎิบัติธรรม เพราะชอบความสงบ ปลีกวิเวก ถ้าผมจะบวชก็ขอเลือกสายพระป่า แต่ผมไม่ชอบคนเยอะๆ ไม่ชอบอยู่ในเมือง ไม่ชอบความเจริญ สรุปแล้วผมก็คือ พี่โบ ฮ่าๆ ผมสงสารคนสมันนี้นะ ต้องตามกระแสเกือบทุกอย่าง เพราะความเจริญของโลกพาจิตแกว่งวิ่งไปหาเสี้ยน ไปหาทุก ได้แก่ ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนแค่หมื่อนกว่าบาทไม่ถึงสองหมื่น แต่มีค่าใช้จ่ายต่างๆนาน ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าที่เรารักที่เราชอบ เรากำลังดำเนินชีวิตบนเส้นแห่งความประมาทก็ไม่รู้สึกตัว เดี๋ยวนี้เป็นเอามาก ตั้งแต่เด็กไปจนแก่เฒ่า สมัยก่อน มีแต่สวมใส่เสื้อเพียงอย่างเดียว เผลอๆบางคนกกน. หรือยกทรงก็ไม่ใส่กัน แต่พอมาเดี๋ยวนี้ เอาแต่เครื่องประดับภายในกายก่อน แต่ยังไม่ได้นับสิ่งของภายนอกนะ ได้แก่ นาฬิกา แหวน สร้อย มือถือ แทบเล็ต โน๊ตบุ๊ค เจาะรูตามทั่วร่างกาย เสริมกันเข้าไปไม่รู้จักคำว่าพอๆ สังคมมีอะไรเราก็ต้องมี กลัวเหลือเกิน กลัวตกเทรน กลัวรถตกรุ่น มือถือตกรุ่น ทำกันไม่ทัน เปลี่ยนกันไม่ทัน อะไรเปลี่ยนว่า แต่เปลี่ยนใจนี่ไวกันจัง สามีหนึ่งไม่พอ เมียหนึ่งไม่พอ มีกิ๊ก มีกั๊ก มีกิ๊กๆกั๊กๆ บานพระทัย เมื่อก่อนเจ้าชู้นนะผมง่ะ หล่อเลือกได้เมื่อก่อนหลงตัวเองมาก(เดี๋ยวนี้หลงดูจิต โดยเฉพาะมีสิ่งกระทบจิต ชอบดูว่าเรายังมีกิเลสตัวอีกหรือไม่) มั่นใจตนเองมาก(เดี๋ยวนี้เชื่อปัญญาของตนเองตามพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนมา ต้องปฎิบัติตามให้ได้) ใครสอนไม่ได้(แต่เดี๋ยวนี้ให้สอน) เมื่อก่อนใจร้อน(แต่ตอนนี้จิตเฉย คือจิตรู้+คิดตาม+แล้วหัวเราะ เห่อๆข้ารู้แล้ว ข้าเห็นแล้ว สงสัยจิตมันเป็นพ่อมด...เอิ๊กๆ) เมื่อก่อนพูดไม่ค่อยคิดคิดแซวดะพูดสนุกปาก(สำรวมเป็นแฮ๊ะ) เมื่อก่อนสวดมนต์ไม่เอา ภาวนาไม่ทำ(เดี๋ยวนี้เอาหมด) เมื่อก่อนจิตแยกแยะดีหรือชั่วไม่ชัด(แต่เดี๋ยวนี้ นอกจากจิตแยกแยะได้แล้ว เดี๋ยวนี้มันจะเอาแต่ฝ่ายบุญกุศลแถมบารมีนิดนึงเพียง อย่างเดียวเลย อย่างอื่นจิตมันรู้มันแยกก่อนที่เราจะไปรับรู้แล้ว) บางทีเจอหน้าคนอ่านจิตเขาได้แล้ว แต่ไม่สนใจเท่านั้นเอง เหมือนเรารู้กรรมคนอื่นแต่ก็พูดไม่ได้ เดี๋ยวไปก้าวลำกฎแห่งกรรมจะเข้าตัวเอา และผมไม่ไปสงสัยว่าผู้ที่ไม่รักษาศีล ไม่ทำภาวนาแล้ว เพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนั้น นี่ไงผมถึงเข้าใจ คำว่า กำลังใจ(บุญหรือบารมี) มีผลต่อคนที่จะทำให้คนนั้น อยากจะปฎิบัติธรรมหรือไม่ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่รักษาศีล บุญอย่างมากที่เขาจะทำกันได้ก็แค่ สร้างบุญภายนอกเท่านั้น เพราะคนที่จะเข้ามาสายของการปฎิบัติธรรมนี้กันได้ ก็จะต้องอาศัยตัวนี้เท่านั้น แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ไม่มีที่ใครจะก้าวกระโดดมาปฎิบัติธรรมเลย ไม่มีหรอก เป็นไปไม่ได้ด้วย

    ผมขอยกตัวอย่าง พระอาจารย์ชัชวาล คุณTPC ทำไมท่านถึงได้ยกจิตไวนัก หนึ่ง ก็คือ จิตท่านพร้อม(ศีลครบบริบูรณ์+บุญบารมีใกล้จะเต็ม) สอง ก็คือ ติดวาระกรรม โดยเฉพาะกรรมไม่ดี นับตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน จะขอเน้นกรรมหนักก่อน ได้แก่ กรรมล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย กรรมล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณ กรรมทุกอย่างที่คนไปเกี่ยวข้องกับการทำแท้ง เป็นต้น ผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระรีบไปตามแก้ไขกันเสียแต่เนิ่นๆ มิฉะนั้นแล้ว กรรมไม่ดีเหล่านี้จะมีผลระยะเวลาในการยกจิต นอกจากศีลไม่ครบ พวกไม่สนใจศีลนี่ก็ยิ่งเป็นเหตุสำคัญสำหรับผู้ปฎิบัติไม่ค่อยเจริญก้าวหน้าในธรรม เป็นต้น เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ไม่รักษาศีลบอกว่า คำว่าพระโสดาบันนั้นดูมันช่างห่างไกลเหลือเกิน แต่อย่าเพิ่งไปพูดถึง พระนิพพานกันเลย มีหลายท่านก่อนจะมาปฎิบัติจิตเกาะพระกันนะ คิดเหมือนกันหมดเลย แต่พอปฎิบัติมาถึงพระโสดาบัน(ละสังโยชน์สามข้อแรก)ได้แล้ว ชักจะโลภมาก(ติดดีเพื่อละเลวก่อน เราต้องรู้จักคำว่ายึดเสียก่อน แล้วค่อยมารู้จักคำว่าปล่อยวางทีหลัง หรือคนเดินบันไดต้องเกาะราวไปก่อน เมื่อถึงชั้นบนสุดแล้วก็ต้องปล่อยไป หรือพายเรือถึงฝั่งแล้ว เราจะต้องทิ้งเรือไป ไม่มีใครแบกเรือขึ้นฝั่งสักคน คือเข้านิพพาน หรือค่อยสลัดสุขหรือดีทิ้งไป เช่น ฌาน อภิญญา เป็นต้น)

    ปล. การบ่นไร้สาระ(ที่ไม่ใช่ธรรมะ คือพร่ำแต่ทางโลก อันนี้พูดไม่นานเดี๋ยวมีเรื่อง แต่พูดเรื่องธรรมะ พูดได้ทั้งวัน ไม่มีใครขัดแย้งกัน มีแต่จะช่วยกันปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้เป็นถูกต้อง)เขาถึงจะเรียกว่า ปฎิฆะ(สิ่งที่มากระทบจิตแล้วเป็นยังไง มันโง่ตามกิเลสมั๊ย พูดให้เหน็บซะงั้น แต่ถ้ามีสิ่งใดกระทบจิตของเราแล้ว มันวิ่งตามหรือไปโกรธตามคนที่มายุเย้า กวนอารมณ์ของตนหรือไม่ โปรดเข้าใจคำนี้ให้ถ่องแท้ อย่าเอาแต่ปากคาบตำราแล้วมือทำชัว คิดชั่ว) หรืออุทธัจจะ(กิเลสของอริยบุคคลความหมายสังโยชน์เบื้องสูง ข้อที่๙ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน ความรำคาญใจ) แต่พร่ำแต่ธรรมะนั้น เขาเรียกว่าฝนสติปัญญา เหมือนคนจะขับรถเก่งๆมันไม่เกี่ยวกับขับรถยี่ห้ออะไร รถป้ายแดง รถสีอะไร มันเกี่ยวกับคุณขับรถบ่อยมากแค่ไหน คนที่พูดธรรมะได้ทั้งวันก็เหมือนกัน หรือครูที่กำลังฝึกจิตเกาะพระก็เหมือนกัน อย่าทำเป็นดาบคมในฝัก พอจะนำมาใช้ประโยชน์บางนั้นก็หายคมไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วยิ่งผู้ปฎิบัติ จึงอย่าหลงเข้าใจผิดว่า จะต้องไปนั่งหลับตาปี๋เพื่อทำสมาธิทุกคืนก็ได้ จิตจะยกจิตจะพัฒนาให้สูง โดยฌแพาธจิตจะเจริญวิปัสสนากรรมฐานกันได้นี้ นอกจากจะอาศัยจิตที่ทรงฌานแล้ว คือจะต้องทรงฌานได้ต่อเนื่อง นี่ไงที่ผมบกว่า คือจุดอ่อนของนักภาวนาโดยทั่วๆไป ผมมิได้หมายถึงไปตำหนิ หรือไปว่าเขานะ เพราะผมทำมาก่อนแล้ว หลงไปตามหาจุดยืน ตามหาจริตมานาน แต่ถ้าไม่ได้พบเจอแบบบังเอิญนะ จะไม่มีทางที่จิตจะพัฒนาได้ขนาดนี้ อย่าไปพูดถึงมันว่าสูงแค่ไหน เดี๋ยวจะไปสกิดต่อม เดี๋ยวนี้จะอ้าปากพูดอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังก่อน เกรงว่าจะไปกระทบจิตผู้อื่นอีก กระทบจิตผู้ที่จิตเจริญแล้วไม่ว่า เพราะท่านไม่สนใจหรอก ด่าเขาก็ไม่โกรธ คนที่โกรธน่ะพวกท่านรู้ไหม๊เป็นเพราะอะไร แต่ถ้าไม่ใช่ คำว่า อัตตา มานะ สองตัวนี้แหล่ะที่จิตเราไปหลงว่าคนอื่น ไปโกรธคนอื่น อันนี้ผมพูดถึงคนทั่วๆไป ผมไม่ได้เจาะจง แต่ดันบังเอิญทำให้ผู้อ่านเกิดความไม่พอใจ ผมก็ขอกราบขอขมาท่านมาณ ที่นี้ด้วย ผมน่ะหยุดสร้างกรรมกับผู้อื่นแล้ว กรรมตัดได้ ที่ใจของเราเองนี้ จิตของเราเท่านั้นที่พอจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่จิตคนอื่นเราไปเปลี่ยนแปลงเขาไม่ได้หรอก จิตใครจิตมัน เราจะต้องดูแลกันเอง การปฎิบัติธรรมก็เหมือนกัน ใครกินใครกินอิ่ม ศีลก็เหมือนกันดูแลกันเอง ไม่มีใครเขาไปดูแลศีลให้กันและกันหรอก เอ้าจบแล้ว พร่ำยาวๆต้องพี่ภู ไม่งั้นตัวปลอม ฮ่าๆ ออกมากันได้แล้ว พายุหมดแล้ว แต่ไม่ทราบจะมีอีกไหม(พายุอารมณ์) พี่ภูพูดสนุกๆเด้อ อย่าไปคิดมาก
     
  13. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    โมทนากับจิตบุญดวงที่ ๘๔
    และครูผู้สอน ครูสุภาทร และครูวิทย์ด้วยค่ะ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    น้องจุ๋มแค่อิ่มใจ สุขใจ แต่ปรากฎว่ามีคนที่เป็นอิ่มใจ สุขใจยิ่งกว่าสองสามเท่านั้น เห็นจะมีแต่คุณพี่สุภาทร เพราะจุ๋มเป็นdown line ของท่าน..อิอิ รักหรอกจึงยอกเล่น ฮ่าๆ
     
  15. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    (k) ครูปลื้มน่ารักจิ้ง ๆ ๆ ทำประกันชั้นหนึ่งให้ด้วย..
    แฮ่ม ๆ ๆ แถมมีครูวิทย์บอก เรือนี้จะไม่จม..แอบ..วิ๊ววส์ ๆ ๆ ..หน่อย
    น่ารักทั้งทีมเจง ๆ ยังครูบัวอีก..คุณเอ๋..เพียรเร่งปฏิบัติเลยนะคะ..
     
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    **นี่แหล่ะเหมือนคนเดินหลงทาง ซึ่งหาทางออกก็ไม่เจอ เหมือนคนทุกวันนี้ โดยเฉพาะคนที่ไม่รักษาศีล ไม่ทำภาวนา บางคนรักษาศีล ศีลก็ขาด ก็พร่อง นานๆไปไม่รักษามันแล้ว หรือบางคนทำภาวนาๆไป พอไม่เห็นจะเกิดผล คือเห็นเขาปฎิบัติได้ แต่ตนเองปฎิบัติไม่ได้ก็เลิกล้มไป หมดโอกาสจิตพบเห็นความจริงแท้ของโลกมายาเลย ก็หลงไปวิ่งตามคนอื่น วิ่งตามกระแสโลก

    ต่อมาภายหลัง นับตั้งแต่จิตมองเห็นทุกข์ เวลาคนเราเห็นจะมีทางไปอยู่สองทาง ทางแรกก็คือ เลือกไปที่มืด ได้แก่ ไปดื่มเหล้า ไปเสพยา เลือกคบคนชั่ว หรือมากไปกว่าก็คือ ฆ่าตัวตายซะเลย เป็นต้น ทางที่สองเลือกไปทางสว่าง ได้แก่ หันหน้าเข้าหาธรรมะ หรือไปปฎิบัติธรรม เป็นต้น คนที่ไม่ได้ปฎิบัติธรรม หรือปฎิบัติธรรมแต่ไปไม่ถึงธรรม เพราะอะไร ก็เพราะว่านึกว่าเอาตัวเอง(ขันธ์๕)ไปปฎิบัติ แต่ลืมไปว่าจะต้องนำจิตหรือดวงจิตไปปฎิบัติธรรม มิใช่ตัวเอง...


    สาธุ ๆ ๆ กับธรรมะยามเช้า อาจารย์ภูค่ะ..
     
  17. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,086
    ค่าพลัง:
    +10,246
    _/\_ สาธุ
    ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๘๔ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่ 84 และครูพี่เลี้ยงจ๊ะ
     
  19. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุค่ะ พี่ภู สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    อั่ยย๋ะ หาวแล้วพายุกระจายสลายไปเลยนะเนี่ย
    แห๊ม...ออกมาทีไร ได้ฮากันกระจายเลยนะคุณลินดาเนี่ย
    55555555
     

แชร์หน้านี้

Loading...