อานิสงส์การรักษาศีล โดยหลวงพ่อฤาษี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Ninana, 22 กันยายน 2012.

  1. Ninana

    Ninana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,761
    [​IMG]






    อานิสงส์การรักษาศีล





    ผู้ถาม: “หลวงพ่อคะ หนูขอทราบอานิสงส์ของการรักษาศีล กับ การให้ทานค่ะ...?”
    หลวงพ่อ: “จำที่พระบอกในตอนท้ายได้ไหมล่ะ...

    “สีเลนะ สุคติง ยันติ” การรักษาศีลเป็นปัจจัยให้มีความสุข สุขทั้งชาตินี้ สุขทั้งชาติหน้านะ
    “สีเลนะ โภคสัมปทา” ถ้ามีศีลชาตินี้ทรัพย์สมบัติก็ไม่ฝืดเคือง ชาติหน้าก็มีทรัพย์สมบัติมาก
    “สีเลนะ นิพพุติง ยันติ” ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าถึงนิพพานได้โดยง่าย

    นี่อานิสงส์ของศีล ท่านว่าไว้อย่างนี้
    ส่วนการให้ทาน ท่านบอกว่า “ทานัง สัคคโส ปาณัง” ทานเป็นบันไดให้เกิดบนสวรรค์ การให้ทานมากก็ตามน้อยก็ตาม ผลของทานทำให้เกิดในสวรรค์ ถ้าหากว่าพ้นจากสวรรค์มาแล้วมาเป็นคนก็ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่ว่าจะรวยเท่าไหร่นั้นเป็นเขตของทานนะ ท่านเรียกว่า “ปุญญักเขตตัง” เป็นเนื้อนาบุญ ถ้าเราให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์มากเราก็รวยมาก ให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์น้อย เราก็มีทรัพย์สินน้อย แต่คำว่าอดตายไม่มีสำหรับคนให้ทาน

    ผู้ถาม: “แล้ว ศีล กับ ทาน อย่างไหนจะอานิสงส์มากกว่าคะ”
    หลวงพ่อ: อ้าว...มันคนละคนนี่หนู ต่างคนต่างแกต่างคนต่างกล้า ทานเขาก็ให้ผลไปอย่างหนึ่ง ศีลก็ให้ผลมีกำลังอย่างหนึ่ง แต่ว่าทั้ง ๒ อย่างต้องร่วมกันนะ ถ้าแยกกันเมื่อไหร่ก็พังเมื่อนั้นแหละ เรามีแต่ทานอย่างเดียว แต่บกพร้องในศีลทั้ง ๕ ข้อ หรือข้อใดข้อหนึ่ง เราก็ตกนรก ต้องพ้นจากนรกมาก่อนแล้วจึงจะรวย ถ้าเรามีศีลอย่างเดียว ไม่มีทาน เกิดชาติหน้าอายุยืน หน้าตาสวย แต่อดตายเอาซิ เอาอย่างไหนล่ะ เอาไงดี...?”

    ผู้ถาม: “หมายความว่าต้องทำคู่กันใช่ไหมค่ะ...?”
    หลวงพ่อ: “ต้องคู่กันไปหนู หนูไม่มีข้าวกินมาที่นี่ได้ไหม...?”

    ร่างกายดี รูปร่างหน้าตาสวยเพราะ ศีลข้อที่ ๑

    รักษา ศีลข้อ ๒ ได้ ทรัพย์สินไม่เสียหายเพราะไฟเพราะน้ำ เพราะโจร

    รักษา ศีลข้อ ๓ ได้ คนที่อยู่ในปกครองว่าง่ายสอนง่าย พวกที่มีลูกดื้อหลานดื้อเพราะพลาดศีลข้อที่ ๓

    ถ้าทรง ศีลข้อที่ ๔ ได้ เป็นผู้ที่มีวาจาไพเราะ พูดแล้วคนอื่นชอบฟัง

    รักษา ศีลข้อที่ ๕ ได้ ไม่เป็นโรคเส้นประสาท ไม่เป็นโรคบ้า

    แต่ว่าอด ไม่มีข้าวกินไหวไหม...?” ดี ๕ อย่าง แต่ไม่มีอาหารจะกิน ไม่มีผ้าจะนุ่ง มันต้องคู่กันหนู จะว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากันมันก็ไม่ควร ทาน ศีล ภาวนา เป็นบุญกิริยาวัตถุ และพระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่เข้าถึงบุญกุศลก็คือ
    ๑. การให้ทาน
    ๒. การรักษาศีล
    ๓. เจริญภาวนา ภาวนานี่หมายถึง สมถภาวนา หรือ วิปัสสนาภาวนา คือใช้ปัญญาคิดอยู่

    ทานนั้นเป็นปัจจัยตัดโลภะ ความโลภ เป็นก้าวหนึ่งที่จะถึงนิพพาน
    ศีลเป็นเหตุตัดโทสะ ความโกรธ เป็นก้าวที่สองที่จะทำให้ถึงนิพพาน
    ภาวนาเป็นตัวตัดกิเลสตัวสำคัญทั้งใหญ่และเล็ก เป็นปัจจัยให้กิเลสหมดจริง เข้าถึงนิพพานแน่นอน

    แล้วทั้ง ๓ อย่างนี้ จะถืออะไรสำคัญกว่ากันไม่ได้เลย ต้องถือว่าสำคัญเท่ากัน ถ้าเราขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะถึงนิพพานไม่ได้

    เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อาการการบริโภคมีความสำคัญในการครองชีพ ร่างกายเราจะทรงตัวได้เพราะศีล ถ้าเรามีแต่อาหาร แต่ไม่มีร่างกายก็ไม่เป็นประโยชน์ใช่ไหม...เรามีร่างกายดี มีอาหารดี แต่ไร้ปัญญาก็เป็นเหยื่อของคนฉลาด เพราะตัววิปัสสนาญาณและตัวภาวนาเป็นตัวทำให้เกิดปัญญา

    รวมความว่า ๑.เรามีอาหาร ๒. มีร่างกาย ๓. มีปัญญา ทั้ง ๓ อย่างนี้ต้องประกอบกัน หนูจะเลือกเอาอย่างไหนโดยเฉพาะล่ะ? เอาแต่ปัญญาดี ไม่มีร่างกาย ไม่มีอาหาร ดีไหม...? เอา ๓ อย่างเลยสบายๆ”

    ผู้ถาม: “รักษาศีล ๘ ดู ที.วี. ได้หรือเปล่าคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ดู ที.วี. ได้ แต่ห้ามเต้นตาม ที.วี. “เดี๋ยว ๆ อีหนู เอ้า อย่ารำคนเดียวซิ ข้าจะช่วยรำ” เสร็จ เต้นไปเต้นมาที.วี.เลิกเมื่อไรก็ไม่รู้เต้นเพลิน”
    “ดู ที.วี. ความจริงก็ไม่เป็นไร ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติกรรมฐาน ดูได้ทุกอย่าง ดูอย่างนักกรรมฐานดูนะ ถ้าเป็นละครชีวิต มีสุขบ้างทุกข์บ้าง ทะเลาะกันบ้าง ก็ดูว่าภาวะอันนี้เป็นความจริงของโลก คนที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าเราเกิดมามันต้องประสบอาการอย่างนี้ เวลานี้เขาทะเลาะกันให้เราดู เขาแสดงการทะเลาะ เรายังไม่ได้ทะเลาะ สักวันหนึ่งข้างหน้าเราอาจจะทะเลาะกับใครก็ได้ อย่างที่เขาเรียกว่า ดูเป็นกรรมฐาน

    ผู้ถาม: “ถ้าเราเดินไปเหยียบสัตว์เล็กๆหรือปัดยุงแล้วไปโดนยุงตาย อย่างนี้ศีลจะขาดไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ถ้าเป็นสัตว์เล็กๆ เดินไปเราไม่เห็น บังเอิญเราไปเหยียบตาย อย่างนี้ศีลไม่ขาด หรือสัตว์เล็กๆ มันมาเกาะกินเลือดของเรา เราไม่คิดจะฆ่ามัน ถ้ามันเกาะนานเกินไปก็ค่อยๆ เอามือลูบให้มันหนีไป แต่บังเอิญมันหนีไม่ทัน ไปถูกมันตาย อย่างนี้ศีลไม่ขาดเพราะไม่มีเจตนาจะฆ่า”

    ผู้ถาม: “หลวงพ่อคะ คนที่มีศีล ๕ ไม่บริสุทธิ์ ถ้าจะเจริญพระกรรมฐานจะได้ผลไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ถ้ามีศีล ๕ ไม่บริสุทธิ์เจริญไปก็ไม่มีผล ถ้าถามว่าทำไมก็เพราะว่า ยังลงนรกอยู่ เจริญสมาธิเท่าไรมันก็ไม่พ้นนรก เพราะศีล ๕ นี่มันปิดทางนรก ถ้าขาดข้อใดหนึ่งตัวที่ขาด นี่มันจะเข้ามาขวางเวลาที่เราจะตายเป็นกรรมที่เป็นอกุศล”

    ผู้ถาม: “ฆราวาสถือศีล ๖ ได้ไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ได้ ศีล ๑ ยังได้เลย ศีลข้อที่ ๖ อะไรล่ะ?”
    ผู้ถาม: “วิกาลโภชนา ค่ะ แต่ว่าหนูทำงานเลิกเที่ยงแล้วอย่างนี้จะรักษาศีลข้อนี้ได้ไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ถ้าเที่ยงแล้วเรายังไม่เลิกงาน ก็ถือว่าเราจะกินข้าวไม่เกินบ่ายโมง หรือ บ่ายสองโมง ตั้งเวลาไว้เลยใช้ได้ ไม่ใช่ ๒ ชั่วโมงกินๆ ก็ต้องคิดเหมือนกัน”
    ผู้ถาม: “ถ้าหากเป็นพระ ฉันอาหารเลยเที่ยวได้ไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “เวลาเดิมของพระจริงๆ ตามวินัยนี่ มันไม่ใช่เลิกฉันเที่ยง พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าพระอาทิตย์ตรงศีรษะ เริ่มฉันได้ แต่อย่าให้ เงาพระอาทิตย์เลย ๒ นิ้ว ความจริงท่านสั่งฉันเที่ยง แต่เงาเลยไป ๒ นิ้วไม่ได้ ๒ นิ้วไม่ใช่น้อยนะ มาตอนหลังเลื่อนเข้ามาฉัน ๕ โมง เลิกเที่ยง เวลานี้ไปถือตามพระวินัยแบบนั้น ชาวบ้านเขาถือว่าเลยเที่ยงไปแล้วฉันไม่ได้ หาว่าพระกินเลยเวลา”
    ผู้ถาม: “ที่จริงหนูอยากจะถือเพิ่มอีกหนึ่งข้อ คือข้อ นัจจคีตะวา แต่ว่าหนูยังชอบดู ที.วี. อยู่ค่ะ”
    หลวงพ่อ: “ดูที.วี. ก็ดูอย่าง พระโมคคัลลาน์พระสารีบุตร ดูมหรสพซิ ดูไปก็คิดว่าไอ้นี่มันทุกข์ ชีวิตของมนุษย์เต็มไปด้วยความทุกข์ พยายามพิจารณาบ่อยๆ ถ้าจะให้ดีก็ถือให้ครบเลย ๘ เลย เพิ่ม ข้อมาลาคันธะ ไปด้วย”
    ผู้ถาม: “รู้สึกว่าหนูจะทำไม่ได้ค่ะ เพราะว่ายังแต่งตัวทาหน้าอยู่ค่ะ”
    หลวงพ่อ: “ก็ให้ถือว่า การเอาแป้งทาหน้า น้ำหอมใส่ตัวนี่เราทำเพื่อสังคม ถ้าในสังคมนั้นๆ จำจะต้องแต่งตัวกันอย่างนั้นก็แต่งไป เราไม่แต่งเพื่อกิเลส เราแต่งเพื่อความเหมาะสมในสังคม เพื่อความไม่เก้อเขิน ถ้าจิตเราตั้งอยู่แบบนี้ ศีลมันไม่ขาด”
    ผู้ถาม: “แล้วข้อที่ห้ามนอนที่นอนสูงใหญ่ แต่ว่าพื้นที่นอนเป็นหินอ่อน เราเอาผ้าห่มรองตัวอย่างนี้ได้ไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ได้...ที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ยัดด้วยนุ่นและสำลี อันนี้เขาป้องกันความลุ่มหลง ความฟุ่มเฟือย ถ้าจิตมันไม่คิดไปในด้านกิเลส ฉันว่าทำได้ ไม่เห็นแปลก”

    ศีล ๘ นี่เป็นตัวธรรมมะเสีย ๔ ข้อ เป็นตัวศีลเสีย ๔ ข้อ ถ้าผิดข้อปาณา, อทินนา, มุสา, สุรา, ลงนรกแน่ แต่ตัวธรรมมะ คือ อพรัหม, วิกาล, นัจจคีตะวา, มาลาคันธะ, อุจจาสยนะ ถ้าพลาดมันไม่ลงนรกนะ

    ข้ออพรัหมจริยา เวรมณี ถ้าเราละเมิดเฉพาะสามีภรรยาของเรา ไม่ได้ประพฤติล่วงเกินสามีภรรยาผู้อื่น ไม่ได้ขาดกาเมตัวนี้เป็นธรรมมะ

    ข้อวิกาลโภชนา เวรมณี ข้อนี้เราไม้ได้ฆ่าสัตว์ มันบาปที่ไหนล่ะ

    ข้ออุจจาสยนะ คือไม่นอนในที่นอนสูง ที่นอนใหญ่

    ข้อมาลาคันธะ คือไม่ทัดดอกไม้และของหอม อันนี้ไม่ได้ทำอะไรใคร

    ผู้ถาม: “หลวงพ่อคะ ขโมยเงินพ่อแม่นี่บาปไหมคะ มีคนเขาบอกว่าขโมยเงินพ่อแม่นี่ไม่บาป เพราะพ่อแม่ต้องจ่ายอยู่แล้วค่ะ”
    หลวงพ่อ: “ไอ้บาปนี่แปลว่าชั่ว การขโมยเงินมันก็บาปทั้งหมด ถ้าเราขโมยท่าน ท่านไม่ชอบใจ ท่านก็ทำเฉย การขโมยของพ่อแม่ท่านชอบไหมล่ะ การกระทำอย่างนี้ชั่ว ฉะนั้นจึงบาป”
    ผู้ถาม: “ถ้าหากท่านเห็นเล่าคะ แล้วเราหยิบไปเลย อย่างนี้บาปไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “ก็สาธุก็แล้วกัน ดีแล้วที่ไม่ว่าฉัน”

    “ถ้าเราหยิบไป ท่านเห็นแล้วท่านไม่ห้ามปราม ไม่ว่าอะไรก็ไม่เป็นไร ถ้าหากท่านไม่ให้ ท่านห้ามเราก็ไม่หยิบก็หมดเรื่องไป การขโมยนี่จิตมันเริ่มชั่ว ตั้งแต่ก่อนที่จะกระทำ คิดจะขโมยน่ะ จิตมันชั่วแล้วนะ”

    ผู้ถาม: “หลวงพ่อคะ ดิฉันไปซื้อดอกไม้แถวสนามหลวงราคา ๑๕๐ บาท พอกลับมาถึงบ้าน บอกกับสามีว่าต้นไม้ราคา ๕๐ บาท ที่บอกอย่างนั้นเพราะเกรงว่าสามีจะดุเอา ตอนหลังมานึกดูรู้สึกเสียใจค่ะ ไม่น่าโกหกเขาเลย อย่างนี้ศีลจะขาดไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ: “อย่างนี้เป็นการรักษาประโยชน์ไว้ไม่ได้ทำลายประโยชน์ของบุคคล ข้อมุสาวาท จะขาดมันต้องทำลายประโยชน์ของบุคคลอื่น แต่นี่เป็นการพูดเพื่อรักษากำลังใจเขา มันมีประโยชน์แต่ว่าไปโกหกอย่างอื่นเอาเรื่องนะ อย่างเช่นของเลวบอกว่าของดี ของราคาถูกบอกของราคาแพง อันนี้มันทำลายประโยชน์”

    ผู้ถาม: “หลวงพ่อครับ การเป็นตัวแทนจำหน่ายสุรา ศีลขาดไหมครับ...?”
    หลวงพ่อ: “สุรา เขาห้ามกินนะ แล้วคุณกินหรือเปล่าล่ะ...?”
    ผู้ถาม: “เปล่าครับ”
    หลวงพ่อ: “ไม่กินก็ยังไม่ขาด พระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็น มิจฉาวณิชชา แปลว่า ไม่ควรขายของที่มันผิดศีล

    ผู้ถาม: “และถ้าหากว่า ค้าขายอาวุธ ศีลจะขาดไหมครับ...?”
    หลวงพ่อ: “ถามว่าศีลขาดไหม ก็ขอตอบว่า ศีลไม่ขาด ถ้าเป็นอาวุธเราไม่ได้ไปฆ่าเขา คนอื่นเขาเอาไปฆ่าก็เป็นเรื่องของเขา แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควร”

    ผู้ถาม: “หลวงพ่อครับ ถ้าหากเอาเหล้ามาผสมเพื่อเป็นกระสายยา ดื่มเข้าไปแล้วศีลจะขาดไหมครับ...?”
    หลวงพ่อ: “อย่างเอามาผสมเป็นกระสายยานี่ ถ้าไม่ปรากฏรสปรากฏกลิ่น นี่ไม่มีโทษ แต่ประเภทกินยาดองใช้ยา ๑ ช้อนกาแฟ ผสมเหล้า ๑ ไห อย่างนี้ไม่ผิดศีล ชนศีลพังไปเลย อย่างนี้ให้อภัยไม่ได้”
    ผู้ถาม: “ถ้าหากว่าผสมตามสูตรเล่าคะ คือว่าไม่ใช้ยา ๑ ช้อน เหล้า ๑ ไห นะคะ”
    หลวงพ่อ: “ทำตามสูตรเขาไม่เป็นไร ไม่ผิดโยม พระเขายังไม่ห้ามเลย แต่ว่าต้องไม่ปรากฏรส ปรากฏกลิ่นนะ”

    การถือศีล ถ้าเคร่งเกินไปก็เดือดร้อน พระพุทธเจ้าท่านให้ปฏิบัติทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฎิปทา อย่าให้มันเป็น อัตตกิลมถานุโยค คือเบียดเบียนตนเกินไป ต้องดูแต่พอเหมาะพอดีพอควร

    ในอุทุมพริกสูตร พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับนิโครธปริพาชก บอกว่า “จงอย่าทำลายศีลด้วยตนเอง อย่ายุยงส่งเสริมบุคคลอื่นให้ทำลายศีล และจงอย่ายินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว” ท่านแนะนำอย่างนี้นะ

    ผู้ถาม: “ผลที่เห็นชัดๆ ว่าเราถือได้ ศีลบริสุทธิ์แน่ๆ เราพอจะรู้ไหมครับว่าตอนไหน...?”
    หลวงพ่อ: “เมื่อเราตั้งใจเว้นแล้ว เราก็เว้นจริงๆ ไม่ทำ อย่าง

    ข้อที่ ๑ ปาณาติบาต สัตว์ที่ควรจะฆ่าไม่มีจิตคิดจะฆ่า ถ้าเรารักษาได้จะเป็นปัจจัยให้เกิดเป็นคนสวย เพราะศีลข้อนี้เราจะรักษาได้ก็ต้องอาศัย เมตตา เป็นปัจจัย และศีลข้อนี้นี่แหละ จะทำให้เรามีโรคภัยไข้เจ็บน้อย เพราะว่ามันเว้นจาการเบียดเบียนสัตว์ ที่ว่าน้อยเพราะว่าเราเคยเบียดเบียนกันมาบ้าง เมื่อเข้ามาในเขตรักษาศีล บางทีเราเผลอไปบี้มดเข้าบ้างนั่นเป็นเรื่องของการเผลอ เป็นอาการของความเคยชิน แต่ว่าอารมณ์ส่วนใหญ่เราระมัดระวังอยู่ในศีล นอกจากดังที่กล่าวมาแล้ว การรักษาศีลข้อที่ ๑ ผู้ที่รักษาได้จะทำให้เป็นคนที่มีอายุยืนยาวนาน อาจจะเต็มอายุขัยหรือเลยอายุขัยไปนิดหน่อย

    ข้อที่ ๒ เห็นของที่ควรจะขโมยได้ เราก็ไม่ขโมย ถ้าเรารักษาได้ จะมีอานิสงส์เป็นพิเศษกว่าปกติ หรือทรัพย์สินของท่านทั้งหมดที่มีอยู่จะไม่มีภัยจากไฟไหม้ จากน้ำท่วม จากโจรขโมย แล้วก็หาความยากจนไม่ได้

    ข้อที่ ๓ เห็นโอกาสที่เราจะทำกาเมสุุมิจฉาจารได้ เราก็ไม่ทำ ถ้าเรารักษาไว้ได้ คนในปกครองหรือในคณะทั้งหมด จะเป็นคนที่อยู่ในโอวาท คือไม่ว่ายากสอนยาก คนในบังคับบัญชาจะไม่ล่วงละเมิดในแบบแผน หรือกฎระเบียบมราเรามีอยู่

    ข้อที่ ๔ เราจะโกหกได้ เราก็ไม่โกหก ถ้าเรารักษาได้ตามพระบาลีท่านบอกว่า จะเป็นคนปากหอม (แต่อย่าไปดมเข้านะ ถ้าแกลืมแปรงฟันละก็หงายท้องเชียวนะ) คำว่าปากหอมในที่นี้หมายความว่า พูดแล้วมีคนอยากฟังอยากเชื่อ

    ข้อที่ ๕ มีเหล้ากิน มีสุราดื่ม เราก็ไม่กิน ถ้าเรารักษาได้ ก็จะกลายเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

    เมื่อเราะประสบแล้วเราไม่ทำ คือเว้นได้จริงๆ ตอนนี้บริสุทธิ์แน่ และจะได้รับอานิสงส์ดังที่กล่าวมาแล้ว

    ผู้ถาม: “ถ้าอย่างนี้ การสมาทานศีล หรือรับศีลเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่บริสุทธิ์ใช่ไหมครับ ...?”
    หลวงพ่อ: “การสมาทานศีล ไม่ได้หมายถึงศีลบริสุทธิ์นี่คุณ นั่นเป็นคำขอ จะบริสุทธิ์ได้ต่อเมื่อจิตตั้งใจงดเว้นจริงๆ ตัวตั้งใจงดเว้นตัวนี้แหละเป็นตัวศีล

    ผู้ถาม: “แล้วอย่างชาวประมงที่เขามีอาชีพหาปลา โดยตรงจะทำยังไงล่ะครับ...?”
    หลวงพ่อ: “อาชีพเขาจริง แต่ว่าเวลาที่ก่อนจะตาย เขาคิดถึงบุญกุศล อย่าง ท่านสุปติฎฐิตะเทพบุตร เห็นไหม ทำชั่วทุกประตูเลย วันดีไม่ละวันพระไม่เว้น พอจะตายขึ้นมา นึกถึงพระพุทธเจ้าขึ้นมา ไปเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ แล้วก็พบพระพุทธเจ้าอีกทีหนึ่ง ฟังเทศน์จบเดียวเป็น พระโสดาบัน


    จาก หนังสือ “หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑” หน้า ๓๗-๔๗
    หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ (พระมหาวีระ ถาวโร)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2012
  2. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    แก้ข้อ 4 ไม่ได้เลย ติดเป็นนิสัยละ
     
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    <STRONG>เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    <TABLE id=post6707588 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6707588 class=alt1>โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ


    ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา






    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
    พระคาถาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("6707588")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ



    ลูกหลานกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพยิ่งแล้ว ขอรับ __^/|^__

    ขอบคุณเจ้าของกระทู้กับบทคามดีๆ ด้วยครับ

    ______________________________
    [​IMG]
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน
    แจกไฟล์รูปภาพพ่อแม่ครูบาอาจารย์-เพื่อเป็นสิริมงคล<!-- google_ad_section_end -->
    กลุ่มแสงธรรม<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  6. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    อนุโมทนาบุญครับ

    ร่วมกันตั้งใจขอพระบารมีแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    โปรดนำบุญกุศลของเราทั้งหมดมารวมตัวกัน และถวายบุญนี้
    แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระสยามเทวาธิราชทุกพระองค์
    ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ขอพระบารมีปกปักรักษาประเทศไทยให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง

    --------------------------------------------------------------
    จองด่วน3พ.ย.55กฐินกองละ2000เพื่อสร้างฆณฑปครอบรอยพระพุทธบาทผุด<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. CHOLPRATAN319

    CHOLPRATAN319 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +2,552
    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านเป็นอย่างสูง
    ที่ได้ทำบุญในทุกกระทู้เข้ามาเข้าประชาสัมพันธ์ ในหมวดประชาสัมพันธ์
    และข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่เอาธรรมะที่เป็นสัมมาทิฐิมามาโพสเผยแผ่ในเว็ปพลังจิต<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  8. vannipa

    vannipa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +222
    กราบ นมัสการ หลวงพ่อที่เคารพรักศรัทธาอย่างสูงยิ่ง เพราะหลวงพ่อทำให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรมและเกิดสัมมาทิฐิ โมทนาสาธุ...สาธุ...สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...