แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    วัดป่าวิเวกธรรม จังหวัดขอนแก่น

    [​IMG]

    “เรามาก็มาด้วยความเป็นอนิจจัง ที่เราจะไปข้างหน้าก็เพราะอนิจจัง เมื่อเขาตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ตัวเราเองตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหนเราก็ไม่รู้.... ความแก่ ความเจ็บ ความตายมันมีประจำกันทุกคน มันน่าสังเวช อยู่กันดี ๆ แล้วก็จากกันไปซึ่ง ๆ หน้า

    โดยไม่มีการปรานีปราศรัย ไม่มีการยกเว้นแก่ใครเลย

    เมื่อถึงคราวของเขา เราจะมีงานหรือสมบัติที่จะต้องรักษาอยู่ก็ตาม เมื่อความตายมาถึง มันก็จัดการไปตามหน้าที่ เราก็อยากอยู่อย่างนี้ไปตลอด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ไม่มีอะไรป้องกันได้เลย เราจะมีเงินทองมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้หนีจากอนิจจังไปได้ เราจึงต้องมาทำความดี มาหาความดีให้ตัวเอง ก่อนที่อนิจจังมาถึง...”

    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    ในการอบรมภาวนาค่ำ 23/5/2555
     
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
    วัดป่าบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    [​IMG]

    "ถ้าตายแล้วก็แล้วกันไป
    ถ้ายังไม่ตายเมื่อตื่นนอนทุกเช้าก็ทำใจไว้ว่า
    วันนี้กับวันที่ผ่านมาแล้วแต่ละวันๆ จะไม่เหมือนกัน
    วันนี้เราจะเจอเหตุการณ์อะไรอีก
    ไม่มีความแน่นอนอะไรเลย เราต้องเตรียมตัวเอาไว้
    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด นี่นักปฏิบัติต้องทำอย่างนี้"


    หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
     
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่

    "..จิตของเรา ถ้ามันเกียจคร้านขึ้นมา มันจะให้เรานอนท่าเดียว ถ้ามันเกิดอย่างนี้ขึ้นมา เราต้องหาอุบายมาข่มขู่ตักเตือน อุบายใดที่ยกขึ้นมาชี้แจงแล้วจิตยอมเชื่อฟัง นั่นแหละคืออุบายที่ควรแก่จิตในลักษณะนั้น และในขณะนั้นๆ ถ้าเราไม่ข่มขู่ชี้โทษโดยอุบายที่ชอบ ใครเขาจะมาตักเตือนเรา

    บางครั้งจิตถ้ามันเกียจคร้านขึ้นมา มันจะวางเฉยในอารมณ์ทั้งหมด ในลักษณะเช่นนี้แหละ เราต้องหาอุบายมาทำให้จิตตื่นให้ได้ เช่นไหว้พระสวดมนต์ หรือยกธรรมบทใดบทหนึ่งขึ้นมาพิจารณา ให้ตั้งอยู่ในความหมั่นความเพียร ในคุณงามความดีของตน

    พยายามเพ่งดูในจิตในใจของเรานี้แหละ ถ้าไม่อาศัยความขยันหมั่นเพียร..ไม่ได้ จิตเรานี้มันมักจะไหลไปสู่อารมณ์ต่างๆ เป็นอดีตอนาคตไป เราต้องหาอุบายมาชี้แจง ให้ตั้งอยู่ในปัจจุบันธรรม.."

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pw.jpg
      pw.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.3 KB
      เปิดดู:
      70
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
    วัดป่าสีห์พนมประชาราม อ.สว่างแดนดิน สกลนคร

    [​IMG]

    ... สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์..และสิ่งใดเป็นทุกข์...ตรงนี้จำเอาไว้ให้ดีว่า

    " สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นไม่ใช่ตน "ถ้ามีแต่ตนของตนล้วนๆอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรอยู่ในนั้น มันไม่มีสุข มันไม่มีทุกข์ มันไม่มีร้อน มันไม่มีหนาว มันไม่มีมืด มันไม่มีสว่าง ถ้าเข้าไปถึงดวงใจจริงๆนั่นล่ะ มันเป็นอย่างนี้ แต่นี่เรามันหลง หลงมายึดกาย กายนี่มันเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้เกิดสุข พาให้เกิดทุกข์ พาให้ร้อน พาให้หนาว พาให้เย็น พาให้วุ่นวาย พาให้เจ็บนั่นเจ็บนี่ ปวดนั่น ปวดนี่ เพราะกายนี่ ถ้ามีแต่จิตล้วนๆมันไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ทีนี้จิตเรามายึดกาย ตรงนี้แหละทำให้เกิดทุกข์ เกิดเวทนา เวทนา ก็มีสุข มีทุกข์ มีเฉยๆ ทำให้เกิดราคะ ตัณหา เกิดโทสะ เกิดโมหะ เกิดอวิชชาตัณหา เกิดความโกรธ ความโลภ ความหลง โกรธเพราะมันมีกาย ถ้าไม่มีกายมันก็จะไม่มีอะไร...

    ...เพราะฉะนั้น ท่านถึงให้มาปฏิบัติค้นคว้า มาดูกาย แยกแยะ ถอนจิตออกจากกาย ทำลายกายออกจากจิต...แยกเป็นส่วนๆ อย่างอาการ ๓๒ แยกเอาผมมากองไว้ที่หนึ่ง เอาขนมากองไว้ที่หนึ่ง เอาเล็บมากองไว้ที่หนึ่ง เอาฟันมากองไว้ที่หนึ่ง เอาหนังมากองไว้ที่หนึ่ง เอาเนื้อมากองไว้ที่หนึ่ง เอากระดูกมากองไว้ที่หนึ่ง เอาตับมากองไว้ที่หนึ่ง เอาไตมากองไว้ที่หนึ่ง เอาม้ามมากองไว้ที่หนึ่ง เอาเอ็นมากองไว้ที่หนึ่ง เอาตับไตไส้พุงเอาไปแยกเป็น กองๆไว้ อาการ ๓๒ นี้ ทั้งน้ำ น้ำดี ก็ไปกองไว้ที่หนึ่ง น้ำเสลดก็ไปกองไว้ที่หนึ่ง น้ำเหลืองก็ไปกองไว้ที่หนึ่ง นำหนองก็ไปกองไว้ที่หนึ่ง น้ำเลือดก็ไปกองไว้ที่หนึ่ง กองให้มันเรี่ยรายออกไป แล้วเราก็ดูกำหนดไปแต่ละอย่างๆ พอกระจายออกไปแล้วทีนี้ก็เอารวมเข้ามาอีก แล้วก็แยกกระจายออกไปอีก เล่นอยู่อย่างนั้นแหละ ให้มันชำนิชำนาญ เมื่อจิตมันทำได้อยู่อย่างนี้ ก็แปล่วา จิตของเราก็เป็นสมาธิอยู่โดยปริยาย พิจารณาอยู่อย่างนี้มันก็เป็นสมาธิอยู่กับการที่เราพิจารณานี้...นี่ท่านเรียกว่า ใช้ปัญญาพิจารณา เมื่อเราพิจารณาดูกายของเราได้ชัดเจนแล้ว ทีนี้ของภายนอกก็อย่างเดียวกัน สัตว์ก็อย่างเดียวกัน ต้นไม่ก็อย่างเดียวกัน...ภูเขาก็อย่างเดียวกัน...เพราะมันเป็นวัตถุอย่างเดียวกัน มีเกิดขึ้นในเบื่องต้น...มีแปรปรวนในท่ามกลาง...และมีแตกสลายในที่สุด...มันเป็นอยู่อย่างนั้น ให้ยกขึ้นมาพิจารณาให้จิตมันรู้ ให้มันเห็น ให้จิตมันถอนออก ไม่ให้จิตมันหลง หลงรัก...หลงชัง...ไม่ให้จิตมันหลงยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ แยกแยะดูกาย

    วันนี้ก็ดู วันหน้าก็ดู...ดูมันอยู่นั่นแหละ จนให้จิตมันถอนออกหรือคลายออก...อันนั้นมันจะเป็นไปของมันเอง เมื่อมันรู้แล้วมันจะวางของมันเอง...วางตรงไหน รู้ตรงไหน...เห็นว่าไม่ใช่เรา...เห็นว่าไม่ใช่ตน เห็นว่ามันเป็นดิน เห็นว่ามันเป็นน้ำ เห็นว่ามันเป็นไฟ เห็นว่ามันเป็นลม...เห็นมันเป็นอาการ ๓๒ อยู่เฉยๆ... มันไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ดูมันอยู่นั่นแหละ ให้มันชำนิชำนาญ...ให้มันเร็วขึ้น พอเห็นรูปปั๊บ ถ้ามันเห็นเกิดความสวยงามขึ้นมา เราก็กำหนดเข้ามา เข้ามาดูกายของเรา เมื่อดูกายของเรามันเห็นอย่างเดิม ที่เราได้พิจารณาค้นคว้าอยู่แล้ว มันก็จะหายจากความกำหนัดยินดีในรูป"

    ธรรมะปฏิบัติ..โดยหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
    วัดป่าสีห์พนมประชาราม อ.สว่างแดนดิน สกลนคร
     
  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
    สวนโมกข์พลาราม จ.สุราษฏร์ธานี

    “เมื่ออยู่ท่ามกลางความตาย ความตายคล้ายหนามยอก
    ก็เอาความตายนั่นแหละเป็นหนามบ่ง
    ความตายของกายในโลงจะมีความหมายอะไร
    ถ้าเราเข้าใจตายเสียก่อนตาย ร่างกายเป็นแต่เปลือกๆ ไม่มีความหมาย
    ...
    เราไม่ปรุงแต่ง เรารู้ว่าเป็นแค่การเปลี่ยนแปลงของเหตุปัจจัย
    ความตาย คือ ความโง่หลงในอวิชชาว่า ตัวกู ของกู”

    หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท
    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

    [​IMG]

    ..ในวันหนึ่ง ๆ ให้ได้ปฏิบัติเถอะ ขี้เกียจก็ทำขยันก็ทำ เราปฏิบัติธรรมะ ไม่ปฏิบัติตามตัวเรา ถ้าปฏิบัติตามตัวเราไม่เป็นธรรมะ ไม่ว่ากลางวันกลางคืน สงบก็ทำ ไม่สงบก็ทำ

    เหมือนกับเราเป็นเด็กไปเรียนหนังสือ จะเขียนไม่สวยในครั้งแรก มันหัวยาว ๆ ขายาว...ๆ เขียนไปตามเรื่องของเด็ก นานไปก็สวยขึ้นงามขึ้นเพราะฝึกมัน การประพฤติธรรมก็เหมือนกัน ทีแรกก็เกะ ๆ กะ ๆ สงบบ้าง ไม่สงบบ้าง ไม่รู้เรื่องมันเป็นไป บางคนก็ขี้เกียจ อย่าขี้เกียจซิ ต้องพยายามทำ อยู่ด้วยความพยายาม
    เหมือนกับเราเป็นเด็กนักเรียน โตมาก็เขียนหนังสือได้ดี จากไม่สวยมาเขียนได้สวย เพราะการฝึกตั้งแต่เด็กนั่นแหละ

    อันนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น พยายามให้มีสติอยู่ทุกเวลา จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน พยายามทำให้มันสม่ำเสมอ เมื่อเราทำกิจวัติ อะไรมันคล่องดีแล้ว เป็นต้น เราก็สบายใจ นั่งก็สบาย นอนก็สบายเมื่อความสบายเกิดขึ้นจากกิจวัตร การนั่งสมาธิก็สงบง่าย เป็นเรื่องสัมพันธ์ซึ่งกันและกันดังนี้

    ฉะนั้น จงพากันพยายาม สิ่งที่ครูบาอาจารย์พาทำนี้ ให้พยายามทำเถอะ ตามความสามารถของเรา นี่เรียกว่า "การฝึก"..

    หลวงปู่ชา สุภัทโท
     
  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา

    [​IMG]

    “สติ” นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราได้หยุดคิดพิจารณา
    ก่อนที่จะทำ จะพูด และแม้แต่จะคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าสิ่งนั้นดีหรือชั่ว
    มีคุณประโยชน์หรือเสียหาย ควรกระทำหรือควรงดเว้นอย่างไร

    เมื่อยั้งคิดได้ก็จะช่วยให้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดประณีต
    และสามารถกลั่นกรองเอาสิ่งที่ไม่เป็นสาระไม่เป็นประโยชน์ออกให้หมด
    คงเหลือแต่เนื้อที่ถูกต้องและเป็นธรรมซึ่งเป็นของควรคิด ควรพูด
    ควรทำแท้ ๆ

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     
  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

    [​IMG]

    ..ลักษณะของ โสดาปัตติผล นั้นดังนี้คือ

    เป็นผู้มี ศรัทธา ความเชื่อ เลื่อมใส ในคุณพระรัตนตรัย อย่างมั่นคง นี้หนึ่ง
    เป็นผู้ที่มี จาคะธรรม ประจำใจ ไม่ประมาท ไม่ลุแก่ความหลง นี้หนึ่ง
    เป็นผู้มี ศีล ที่รักของตน ยิ่งกว่าชีวิต นี้หนึ่ง
    เป็นผู้ไม่มีใจเจตนา ที่จะทำชั่วอันหยาบคาย อีกได้เลย
    แต่ชั่วก็มีอยู่ คือ เป็นของเดิมที่ยังค้างอยู่
    แต่ถึงอย่างนั้น ก็มิได้ให้อกุศลขึ้นหน้าได้อีก

    โสดา แปลว่า เป็นผู้เข้าถึงกระแสธรรม คือปากช่องของพระนิพพานขั้นแรก
    ถ้าจะย่นกล่าวก็คือ เป็นผู้ตัดสังโยชน์ 3 ที่หยาบๆ ได้ขาดเป็นสมุจเฉทประหาร

    อธิบายสังโยชน์ 3 ที่ พระโสดาบัน ละได้นั้น คือ

    1. สักกายทิฏฐิ
    ถอนความคิดเห็นผิด อันเป็นเหตุให้เข้ายึดถือในรูป คือ สกลกาย นั้น ว่า เป็น ตัวตน เสียได้

    2. วิจิกิจฉา
    ถอนความสงสัยลังเลใจในนามรูป และสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้แล้ว

    ใครจะมาคัดค้านว่าความตรัสรู้ไม่มี ปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญาไม่ได้ถึงมรรคผลนิพพานเลยมีใครมากล่าวตู่เช่นนี้ ปัญญาของโสดาเห็นแน่แล้ว ท่านมิได้เชื่อคำเช่นนั้นเลยคือ เป็นผู้มีความเห็นเป็น อกาลิโก มรรคผลไม่มีกาล ปัจจัตตัง รู้เฉพาะตัวอย่างเดียว เชื่อแน่ไม่สงสัย มีความรู้มั่นไม่เหลวไหล

    3. สีลัพพตปรามาส
    ถอนความเชื่อถืออันศักดิ์สิทธิ์แห่งนามรูปภายนอกและภายใน ไม่ลูบคลำศีลพรตของตนอีก (กิริยามารยาท) ทำอะไรย่อมรู้เหตุและผลเสมอ มิได้ทำด้วยความมืด เพราะเป็นผู้เชื่อกรรมการกระทำของตน

    เป็นใหญ่ด้วย กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ตนทำนี้ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นต่อคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ปรากฏในตน ไม่ลูบคลำในศีลของตนอีกต่อไป เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์มิได้เศร้าหมองเลย


    ตัดสังโยชน์ 3 ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ที่กาย วาจา ใจ ดับลง..


    ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
     
  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    "คนเกิดมามีแต่กลัวความตาย แต่หาได้กลัวต้นเหตุคือความเกิดไม่

    พระพุทธองค์จึงสอนให้แก้ตรงจุดเดิม คือผู้เป็นเหตุให้นำมาเกิด
    ได้แก่จิตที่ยังหุ้มห่อด้วยสรรพกิเลสทั้งปวง ให้ใสสะอาด ไม่มีมลทินนั้นแล
    จึงจะหมด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ต้องวุ่นวายอีกต่อไป"

    หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
    วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

    [​IMG]

    คติธรรมพระอุดมญานโมลี

    ถ้าในขณะที่จิตใจของเรามันยังโกรธอยู่ใจยังร้อนรนอยู่
    ในขณะนั้นเราใช้ขันติคืออดไว้ซะก่อนอย่าเพิ่งพูด


    หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จันทา ถาวโร
    วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

    "..ช่วยตัวเองนะ อัตตาหิ อัตตะโนนาโถ (ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน) พึ่งคนอื่นชื่นใจเป็นบางครั้ง ไม่เหมือนดั่งพึ่งตนผลทวี ตนจะเป็นคนดี หนีทุกข์โทษภัย ในวัฏฏสงสาร มีพระนิพพานเป็นที่ไปเบื้องหน้า ก็เพราะตนทำดี สะสมบุญดีให้เกิดมีขึ้น เพราะตนพึ่งตน อันนี้ข้อสำคัญ.."

    หลวงปู่จันทา ถาวโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2015
  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
    วัดธรรมสถิต อ.เมือง จ.ระยอง

    "จิตเห็นจิตตามเป็นจริง เขาก็วางของเขาเอง"

    ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 568.jpg
      568.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.1 KB
      เปิดดู:
      73
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2015
  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระโอวาทธรรมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    วัดบวรนิเวศวรวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร

    [​IMG]

    "แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุรักษาศีล 227 ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อยมานานถึง 100 ปี ก็ยังได้บุญกุศลน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิเพียงให้จิตสงบนานเพียงชั่วไก่กระพือปีก ช้างกระดิกหู"


    วิธีสร้างบุญบารมี

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท
    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

    เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
    เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
    ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งแต่เรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น
    เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราไปหมด
    มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน อารมณ์มาก
    จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง

    หลวงปู่ชา สุภัทโท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2015
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ศรี มหาวีโร
    วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด


    [​IMG]

    ...โดยมาก อย่างปัจจุบันสมัยนี้ โดยมากมีแต่รู้ไปทางอื่น นอกเหนือไปจากตัวของตัวเอง ถ้าหากเป็นนักปฏิบัติธรรม ก็ต้องให้พินิจพิจารณา น้อมเข้ามาพิจารณาตัวเองให้มากกว่าอย่างอื่น ก็หมายความว่า เอาตัวของเรานี้หละเป็นพื้นฐาน เป็นที่ทดสอบ เป็นที่ทดลอง เพราะจิตใจจะไปยึดถือในร่างกายของเรามากกว่าอย่างอื่น จะรู้จักลีลาของจิตใจ...

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    เทศนา เรื่อง การนั่งสมาธิ : ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๖
     
  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


    [​IMG]

    "การแผ่เมตตานี้เป็นการทำกระแสใจของเรา
    ให้กว้างขวางผ่องใส ปราศจากความพยาบาทจองเวร
    มีส่วนช่วยในการภาวนาให้ดีขึ้น"


    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
     
  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    [​IMG]

    "ชีวิตมนุษย์มีขึ้นและมีลง อะไรมีขึ้นก็ต้องมีลง
    เป็นกฎธรรมชาติที่อยู่เหนือความควบคุมของมนุษย์
    อำนาจ เกียรติยศ ชื่อเสียง ก็ไม่พ้นกฎธรรมชาตินี้"


    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
     
  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    "ทุกข์...อยู่ที่หัวใจ
    ใครจะขึ้นบนฟ้าบนอากาศที่ไหน
    กิเลสมันอยู่บนหัวใจ
    ไปอยู่บนฟ้ามันก็เป็นทุกข์อยู่บนฟ้า
    ไปที่ไหนมันก็เป็นทุกข์อยู่
    เพราะจิตใจถูกกิเลสบีบบี้สีไฟอยู่ทุกแห่งทุกหน

    .....ตำบล หมู่บ้าน
    สัตว์โลกอยู่ที่ไหน
    จึงมีความเดือดร้อนอยู่ที่นั่นๆ
    เราจะเอาเงินหมื่น เงินแสน เงินล้าน เป็นกี่ล้านๆ
    ตึกรามบ้านช่อง กี่ห้องกี่หับ กี่ชั้น

    ..เข้ามาล้างก็ไม่ลบ
    ล้างเท่าไรก็ไม่สะอาด
    ถ้าไม่เอาศีลเอาธรรม เอาสติธรรม
    ปัญญาธรรม เข้าไปลบล้าง"

    ที่มา. หนังสือ ๗๗ คำสอนประกาศิต "หลวงตามหาบัว"
    บนหนทางแห่งการสิ้นทุกข์ ๗๗ พรรษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • home31.gif
      home31.gif
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      72
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2015
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุดดา ถาวโร
    วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี


    [​IMG]


    "..มีหนังแผ่นเดียว มีจิตดวงเดียวเท่านั้น ก็หนังแผ่นเดียวมันหุ้มอยู่ทั้งหมดกับทะลุ ๙ ช่อง นะวะทะวารัง ทะลุทางตา ๒ หู ๒ จมูก ๒ ปาก ทวารหนัก ทวารเบา

    หนังแผ่นเดียวนี้ก็ไม่มีเจ้าของ นามรูปไม่มีเจ้าของใช้ได้แล้วเข้าทางแล้ว รูปฌานเป็นเจ้าของไม่ได้ อรูปฌานก็เป็นเจ้าจองไม่ได้

    จับก็จับไปซิ จับแต่หนัง ไม่ได้จับตัว ตัวมีที่ไหนล่ะ พออริยมรรค ๔ อริยผล ๔ ทำงาน พอหมดแล้วไม่มีเจ้าของแล้ว

    หนังแผ่นเดียวมันรักษาง่าย อยู่ในท้องก็มีเท่านี้แหละ ออกจากท้องมาแล้วก็มีเท่านี้แหละ หมดไป ๑๐๐ ชั่วโมง ๑๐๐ วัน ก็มีหนังแผ่นเดียวเท่านี้แหละ ตื่นขึ้นมาก็มีหนังแผ่นเดียว จะดับไปก็หนังแผ่นเดียว

    จะมาเกิดอีกก็มีแค่หนังแผ่นเดียวเท่านี้ ยังไม่เชื่อกัน ไม่เชื่อธรรมะก็ตามใจซิ

    อยากดูหนังก็ให้ดูหนังเรามีให้ดูตลอดเวลา ดูตามนี้ธรรมะดีขึ้น หนังมันดีลง จะไปติดอะไรกับหนัง จะไปเสียดายอะไรกับหนัง แค่กระดาษห่อขนมปังเท่านั้นเอง คนรู้นะ เขาทิ้งกระดาษห่อขนมปังทั้งนั้น


    พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ท่านรู้อย่างนี้ ท่านไม่หลงไม่ลืม แล้วเราจะอวดดีไปหลงไปลืมทำไม.."

    หลวงปู่บุดดา ถาวโร
     
  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระโอวาทธรรมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    วัดบวรนิเวศวรวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร


    "เมตตามีคุณกว้างขวางนัก หาขอบเขตมิได้
    ทุกคนมีสิทธิจะแผ่เมตตาให้ทุกคนทุกชีวิตได้
    และทุกคนมีสิทธิรับเมตตาจากทุกคนได้
    เมตตาที่แท้จริง ไม่มีขอบเขต คือไม่เลือกผู้รับ
    ไม่เลือกของเราของเขา ไม่เลือกชาติ ศาสนา และไม่เลือกมิตรศัตรู"


    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...