สงครามอิหร่านจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้อย่างไร

แปลมาจาก
The Iran War - How It Will Begin

เจ้าของบทความเขาเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทอากาศยานซึ่งไฮเทคโนโลยีมาก ๆ นะครับ ความเชี่ยวชาญของเขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับด้านการสงครามโดยเฉพาะ โดยสิ่งที่เขาต้องการอธิบายคือ ทันทีที่การโจมตีเริ่มขึ้น ภายใน 48 ชั่วโมง มีโอกาสประมาณ 90% ที่จะกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค. มาดูกันว่าทำมัย

อันดับแรก ฐานติดอาวุธมิสไซล์ ไม่ว่าจะนำวิถีหรือไม่นำวิถี ก็ตามอิหร่านลงทุนเข้าไปติดตั้งในเลบานอนเรียบร้อย ประมาณการณ์กว้างๆ ก็ ตั้งแต่ 40,000 -100,000 ลูก (ซึ่งหมายความว่าอิสราเอลถ้าจะโจมตีอิหร่าน ต้องโจมตีเลบานอนด้วยซึ่งแน่นอนว่าเลบานอน คงไม่เฉยถแน่ แต่ประเด็นคือ เลบานอนติดอิสราเอลครับ เหมือนแค่โยนระเบิดข้ามรั้วบ้านเท่านั้นเอง) ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมที่อิหร่านพ่วงให้คือจรวด Katyusha ซึ่งเป็นแบบไม่นำวิถี แต่ระยะทำการไกลกว่าการเยอะ ครับ ซึ่งอยู่ในมือกองกำลังพิเศษ เฮซบอเลาะห์ครับ

น้อง แคทตี้ (katyusha) เนี่ยระยะทำการ น่ารักมากครับ สามารถติดหัวรบขนาด 30. กิโล มีระยะทำการถึง 30 กิโลเมตร อต่ประเด็นก็คืิอ นั่นเป็นข้อมูลเก่าเมื่อปี 2006 ที่เฮซบอเลาะห์ยิงไป 4,000 กว่าลูก ปัจจุบันน่าจะได้รับการพัฒนาจากอิหร่านให้มีระยะทำการไกลกว่าเดิม นี่ยังไม่รวมจรวด ฟาจาร์ (น้องฟ้า - ชื่อไทย) และ ราอัด ( น้องอวบอัด - นามสมมติ) ซึ่งใช้เชื้อเพลิงเหลวเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งอยู่มีฐานติดตั้งในซีเรีย ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ชาวอิหร่าน

อืมมมม ยังไม่หมดครับ อิหร่านเขาซื้อแฟรนไซส์ไว้เพิ่ม ในฉนวนกาซ่าด้วย ส่วนในอิหร่านเองก็มีมิสไซล์ที่สามารถส่งตรงถึงอิสราเอล ได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนซีเรียเองซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านเองก็ซื้อ จรวดราคาถูกเชื้อเพลิงแข็งมาจากรัสเซียเก็บไว้ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งทางอิหร่านก็ได้ให้การฝึกฝนกลุ่มเฮซบอเลาะห์ให้ทำการสร้างบังเกอร์คอนกรีต และฐานยิงไว้เรียบร้อย ซึ่งผลปรากกฎว่าปี 2006 ระหว่างเฮซบอเลาะห์กับอิสราเอล เครื่องบินโดยเทคโนโลยีชั้นสูงจากเมกา พร้อมกระสุนเจาะเกราะ เจาะบังเกอร์ไม่เข้่าครับ ส่งผลให้นายพลอิสราเอลถึงกับลาออก พร้อมแก้เกี้ยวว่่านักบินฝึกมาไม่พอ

การทำลายฐานดังกล่านตามความเห็นเจ้าของบทความคือ มีทางเลือกแค่การทิ้งระเบิด FAE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง หรือไม่งั้นก็ระเบิดนิวตรอน ที่เป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ไม่เน้นการระเบิดครับ เน้นการโจมตีด้วยสารกัมมันตภาพภาพรังสีแทน

ท้ายที่สุดแล้วอิสราเอลคงต้องเจอกับระเบิด อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพจาก อิหร่าน ซีเรีย กาซ่า แล้วก็เลบานอน แม้ว่าอิสราเอลจะมีระบบต่อต้านมิสไซล์ที่เรียกว่า Green Pine Radar ที่พัฒนาร่วมกันกับอเมริกาเพื่อยิงสกัดมิสไซล์ที่พุ่งเข้ามา แต่ถ้าพิจารณาถึงจำนวนและทิศทางที่มันต้องรับมือด้วย คงไม่มีทางพอแน่ๆ สุดท้ายอิสราเอลก็จะมีแต่ผู้ป่วยที่ปนเปื้อนสารกัมันตภาพรังสี

การตอบโต้ของอิสราเอลภายใต้สถานการณ์นั้นคงมีทางเลือกเดียวครับ คือ นิวเคลียร์ ไปที่ อิหร่าน ซีเรีย เลบานอน กาซ่า ซึ่งสารกัมัตภาพรังสีจะตลบอบอวนไปทั้งโลก ไม่ต้องถามถึงคนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวเลยครับ ที่รอดมาได้คงเป็นโชคร้ายมากกว่า สำหรับสถานการณ์อย่างนั้น

เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนั้นแล้ว ชาวอิหร่าน ซีเรีย และเลบานอนที่ฝังตัวอยู่ในยุโรป อเมริกา ก็จะเริ่มปล่อยอาวุธชีวภาพ แบบพลีชีพ โดยแพร่อาวุธเชื้อโรคในที่ชุมนุมชน ไม่ว่าจะในโรงหนังโบสถ์ศูนย์การค้า สนามกีฬา ห้องคุณครูอังคณา ซึ่งระบบเตือนภัยกว่าจะได้รับการแจ้งเตือนขึ้น ก็หลังจาก 9-10 วันไปแล้ว ทำให้ระบบควบคุมโรคไม่อาจจะควบคุมได้อีกต่อไป

 

เอาเรื่องบวกและดีๆมาเล่าด้วยน่ะจะได้ผ่อนกระแสลบของเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามวงจรกรรมลิขิตและให้ผล

 

ซึ่งหลังจากนั้นยุโรปที่และอเมริกาที่ประสบปัญหาภายในจากการก่อการร้ายทางชีวภาพก็จะเผชิญกับสงครามครั้งใหม่ กับคู่อริหน้าเดิม รัสเซีย ซึ่งทางเจ้าของบทความเขายกตัวอย่างสงคราม Georgia War ว่าอันที่จริงรัสเซียพร้อมที่จะแผ่ขยายอำนาจมาในยุโรปทันทีที่มีเหตุเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์อาจจะเริ่มจากการโจมตีเรือในทะเลดำ ด้วยเหตุบังเอิญอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งทำให้รัสเซียมีเหตุที่จะตอบโต้ กลุ่มพันธมิตรนาโต้ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหนรัสเซียเขาพร้อมจัดเต็มแน่นอนครับ เพราะเหม็นเบื่อขี้หน้ากันมานาน รวมถึงความอ่อนแอทั้งในยุโรปและอเมริกาที่เป็นผลจาการถูกโจมตีด้วยอาวุธเชื้อโรค ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเริ่มต้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ที่สาดใส่กัน ระหว่างนาโต้ และ รัสเซีย ประมาณความเป็นไปได้ 50%

อีก 50% ที่เหลือเหรอครับ เป็นงี้ครับ ... สภาวะทางเศรษฐกิจก็จะชะงักงันไปทั่วโลก ด้วยเหตุทางการเมืองอิสราเอลก็จะกล่าวหาว่ากลุ่มประเทศอาหรับเป็นคนออกแบบและพัฒนาอาวุธเชื้อโรค โดยปล่อยข่าวสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวยุโรป และอเมริกัน เพื่อลากเข้ามาช่วยตนเองผ่านสื่อตะวันตกทั้งหลายที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ ประเทศในกลุ่มอาหรับจะรวมตัวกัน นำโดยซาอุซึ่งไม่อาจพึ่งเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างอเมริกาได้อีกต่อไป ด้วยข้อหาที่อิสราเอลยัดเยียดให้กับกลุ่มประเทศอาหรับ ซาอุจะทำสัญญาแลกด้่านพลังงานมูลค่ามหาศาลกับจีนแทนอเมริกาหรืชาติตะวันตกรวมถึงซื้ออาวุธจากจีน เพื่อลากดึงจีนเข้ามาถ่วงดุลด้วยผลประโยชน์ด้านพลังงาน เมื่อลากจีนเข้ามาได้แล้ว บรรดาชาติอาหรับทั้งหลายจะร่วมมือกันเพื่อลบอิสราเอลออกจากแผนที่อีกครั้ง (ด้วยอาวุธจากจีน) แน่นอนว่าอิสราเอลที่อ่วมมาจากสงครามอิหร่านจะไม่มีปัญญารับมือกลุ่มอาหรับ ที่มีจีนหนุนหลังได้แน่นอน สุดท้ายอเมริกากับบรรดาชาติตะวันตกก็จำเป็นต้องลงไปช่วยอิสราเอลเพราะเป็นที่หยั่งเท้าแหล่งสุดท้ายในผลประโยชน์ในตะวันออกกลางแต่คราวนี้จะเป็นในรูปแบบของการยึดครองดินแดนแล้ว ไม่ใช่แค่การทำสงครามฉาบฉวยตีหัวหนีเข้าบ้านอีกต่อไป เพราะไม่งั้นจีนจะเข้ามามีอิทธิพลในแหล่งพลังงานซึ่งจะทำให้ชาติตะวันตกไม่มีวันโงหัวได้อีกต่อไป ส่วนรัสเซียก็จะมาขอมีเอี่ยวด้วยการดึงบรรดาชาติตะวันตกให้อยู่กับสงครามในแถบยุโรปต่อไป เปิดโอกาสให้จีนกับอาหรับซัดกะอเมริกากันตัว ๆ

ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ ผมว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นทั้งสองเหตุการณ์ หรือสลับการเกิดเหตุก่อนหลังได้ แต่ถ้าเกิดทั้งสองเหตุการณ์ละก็

T_____________T เข้าใจแล้วครับ ทำมัยมานน่ากลัวขนาดนี้

 

คือ ที่ผ่านมาไม่ค่อยเข้าใจนะครับว่าทำมัยเขาถึงว่า สงครามอิหร่านจะกลายเป็นสงครามโลกขึ้นมาได้ พอออ่านบทความนี้เข้าแล้วค่อย ๆ โยงเลยถึงบางอ้อ เลยเอามาแชร์กันเผื่อเขาซัดกันเมื่อไหร่ จะได้ลองดูกันว่าเป็นไปตามนี้มั๊ย เพื่อการศึกษาล้วน ๆ ครับ ถ้าเครียดหรือหดหู่เกินไปต้องขออภัยด้วยครับ อันที่จริงในส่วนที่โพสต์บทที่สอง ผมใส่ความเห็นส่วนตัวไปเยอะเหมือนกันนะครับ ท่านที่เก่งภาษาอังกฤษไปอ่านต้นฉบับจะได้อารมณกว่านี้นะครับ เพราะเขาบรรยายสถานการณ์ได้ดีเลยครับ

 

อูย อูย เพื่อการศึกษานะเนี่ย หวาด เสียวกลัวไม่ทันได้ศึกษา น่าเสียดายแย่เนอะฮึ
ฮึ
ฮึ

 

QE 3 อเมริกาพิมพ์แบงค์กงเต็กอีกแล้วครับท่าน ไม่รู้ตะวันออกกลางจะวุ่นวายอีกเท่าไหร่ เพราะไม่ทันไรก็เกิดเหตุฆ่าทูตอเมริกาที่ลิเบีย ด้วยเหตุเพราะคลิปวีดีโอล้อเลียน ศาสดานบีมูฮัมหมัด ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่มาปล่อยช่วง QE 3 ปธน.บารัก โอบามา ออกมาประกาศว่างานนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ (กับอะไรเหรอครับ ฆ่าทูตอเมริกา หรือ ค่าเงินดอลล่าร์ ??) เหอ ๆ หาเรื่องเข้าไปยึดครองตะวันออกกลางอีกแล้ว ไม่รู้อิหร่านจะโดนเมื่อไหร่ สถานการณ์มันบีบคั้น เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วครับ จับตาดูตะวันออกกลางไว้นะครับ เพราะทุกครั้งที่ทำ QE ในอเมริกา สงครามก็เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง สาธุ ขอภาวนาให้ชาวตะวันออกกลางได้พบกับความสงบสุขบ้างเถอะครับ น่าสงสารเกินไปแล้ว

 

อเมริกา จีน รัสเชีย คงไม่รบกันหรอก ถ้าลบเละทั้ง 3 ประเทศแน่ๆ แต่คงจะสร้างสถานะการณ์ ให้เป็นสงครามตัวแทน ทั้ง 3 ประเทศก็ขายอาวุธ และหาวิธีการเอาทรัพยากรมาเป็นของตนเองแบบสบายๆ

 

ข่าวประเภทนี้แนะนำให้ฟังหูไว้หู นะครับ

ในโลกเสรีมีการใช้สื่อหลายชนิดในแบบที่มีเลศนัย (Hidden Agenda)
ถ้าฟังแล้วเชื่อ 100% จะสับสน ในภายหลังเพราะเป็นสงครามข่าวปล่อย น่ะครับ

 

งานนี้ เรียกว่า

"ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)"

เลยลองเอาไปโพสถามในห้องราชดำเนิน มีสมาชิกได้ให้ความหมายของคำๆ นี้เอาไว้อย่างนี้

ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) คือ เรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่นๆเพื่อให้ประโยชน์/ให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปมีข้อเท็จจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับสนุนที่ดูเหมือนเกี่ยวข้องกันเท่านั้น อาจมีเหตุผลสนับสนุนจากความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อเกี่ยวกับทางศาสนา การเมือง หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างไป เรื่องเหล่านี้นักวิชาการจะไม่ใช้อ้างอิง ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อเรื่องนั้นๆ ประเทศสหรัฐอเมริกามีหน่วยงานที่จะดูแล และกลั่นกรองเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ
(chalee2498)
โดยกำหนดเป้าหมายคำตอบไว้แล้ว พยายามหาเหตุผลต่างๆมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อสนับสนุนคำตอบให้ทุกคนเชื่อว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

 

คือสถานการณ์มันบีบคั้น เข้ามาเรื่อย ๆ ครับ ประชาชนชาวอเมริกัน เขาก็ต้องการให้คนที่ฆ่าทูตของเขา ออกมารับผิดชอบ แต่ในเหตุจราจลใครจะรับผิดชอบได้ละครับ

ที่หน้ากังวลจริง ๆ คือ ผู้สมัครปธน อเมริกา จะออกนโยบายกับเรื่องนี้อย่างไร กันแน่ เพราะขืนสวนทางกับความรู้สึกของชาวอเมริกา ก็ไม่ต้องไปแข่งแล้วครับ เพราะโอบามา บอกว่า " justice will be done " แต่จะดันยังงัยนี่สิครับ

ประเด็นของการอ้างเหตุเพื่อก่อสงครามของอเมริกา ภายในปี 2012-2013 ได้มีผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ของอเมริกาได้ออกมาทำนายไว้ก่อนหน้าแล้วครับ ทุกคนกล่าวตรงกันอย่างนึงว่าที่มาที่ไปของสงครามนั้นเกิดจากความพยายามของรัฐบาลอเมริกันที่จะปกปิดความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของตัวเอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เป้าหมายเป็นตะวันออกกลางเพื่อรักษาอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มโอเปคยังใช้เงิน $ เป็นหน่วยในการซื้อขายน้ำมันอยู่ เงินดอลล่าร์จะได้ไม่รีบกลายเป็นแบงค์กงเต็ก โดยยืดเวลาออกไปให้นานที่สุด

คนที่ชาวเว็บเราน่าจะคุ้น ๆ จากคลิปที่เคยโพสต์ๆ กันไว้ในบอร์ด ก็คือ

1. มาร์ค เฟเบอร์ ครับ นักวิเคราะห์ ศก สัมภาษณ์โดย CNBC คนนี้บอกว่า สงครามจะเกิดขึ้นในระหว่างปี 2012-2013

2. เดวิด เดโกรว์ นักกฏหมาย นักเขียน จากมหาลัยมิชิแกน ผู้แฉเรื่องคน 1% ในอเมริกาที่ถือครองทรัพย์สิน 90% ของอเมริกา กล่าววิพากษ์วิจารณ์ไว้ใน The Road Through 2012 : Revolution or World War3 ตีพิมพ์เมื่อปี2010 เดโกรว์ประเมินไว้ 2 ทางว่า ระหว่างการเกิดปฏิวัติและจราจลในอเมริกา กับการก่อสงครามเพื่อปิดบังความล้มเหลวทาง ศก

3. อิกอร์ปานาริน ศาสตราจารย์และเคจีบี เก่า ออกมาบรรยายที่วิทยาลัยการทูตรัสเซีย ว่าอเมริกากำลังจะแตกเป็นหกรัฐ ภายใน 10 ปี

4. ดร.อัลเฟรด แมคคอย จศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ จากมหาลัยวิสคอนซิน กล่าวไว้วใน how america will collupse by 2025 ตีพิมพ์ปี 2010 โดยจำลองสถานการ์ณ์ออกเป็น 4 ฉาก
- ความเสื่อมโทรมทางศก ของอเมริกา
- วิกฤตการณ์น้ำมัน
- การเสียสมดุลทางการทหาร หรืออิทธิพลที่ทางการทหารที่ลดลง
- สงครามโลกครั้งที่ 3
ประเด็นที่ ดร. ชี้อย่างน่าสนใจคือ "ในมุมมองทางประวัติศาสตร์ มันไม่เกี่ยวกับการที่ว่าอเมริกาสูญเสียอำนาจหรือยัง แต่เป็นเรื่องของการที่ว่าทำมัยเมื่ออเมริกาเสื่อมโทรมลงถึงได้ทำให้เกิดปฏิกิริยาท้าทายในเวทีโลกได้ขนาดนี้)

สำหรับประเด็นเรื่องการก่อสงครามที่ว่าทำมัยศก ไม่ดีต้องก่อสงคราม ที่ได้ศึกษามาแนวคิด หลักคือ Keynesian Doctrine ครับ คอนเซปต์เขาว่าได้มาจากการศึกษาสมัย Great Depression ช่วงศก ตกต่ำรุนแรงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นักเศรษฐศาสตร์ได้ศึกษา แล้วพบว่าไม่ได้เป็นเพราะ FED ที่ทำให้อเมริการอดพ้นจากความตกต่ำมาได้ แต่เป็นเพราะการทุ่มเทใช้จ่ายภาครัฐระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างหาก ตามทฤษฎีเขาก็ไม่ได้บอกว่า การทุ่มเทใช้จ่ายจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นนะครับ แต่มันเป็นตัวทำให้กลไกทางศก ยังเดินได้ต่อ เพราะประชาชนจะมีจิตสำนึกร่วมกันที่จะต่อต้านศัตรูภายนอก แทนที่จะลุกขึ้นมาประท้วงก่อจราจล จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองและกลไกทางเศรษฐกิจกลายเป็นอัมพาตไปหมด แนวคิดนี้เชื่อว่า ยิ่งความเสื่อมโทรมทางศก รุนแรงเท่าไหร่ ก็จำเป็นต้องมีสงครามที่รุนแรงกว่า เพื่อที่พอจะกระชากความสนใจของประชาชนออกจากปัญหาปากท้องตัวเอง มาที่เรื่องความปลอดภัยของชาติ

สุดยอดครับลัทธินี้ เหอ เหอ เหอ เลวโคตร ทายสิใครใช้อยู่

 

ผมว่าตัวเลข 100,000 ลูกเนี่ย มันออกจะเกินจริงไปครับ ถ้าสัก 4 พันลูกยังพอทน

จรวดนำวิถีนะครับ ไม่ใช่บั้งไฟภาคอิสานบ้านเฮา

 

พอไปหาข้อมูลมาแล้ว จริง ๆ Katyusha นี่

มันก็เหมือนกับ BM21 ที่เขมรใช้ยิงถล่มบ้านเราเมื่อปีก่อน พูดง่าย ๆ คือ มีเยอะ ยิงเยอะไว้ก่อน ถูกไม่ถูกค่อยว่ากัน


อาวุธปล่อยแบบนี้ ทำลายง่ายมาก แค่หาเป้าแล้วก็ส่ง Drone เข้าไปทำลายก็จบแล้วครับ อิสราเอลไม่น่าจะต้องกลัวอะไรมาก หรือจะส่งเป็นหน่วยปฏิบัติการขนาดเล็กเข้าไปทำลายก็ได้ หรือจะเอาปืนใหญ่ยิงถล่มก็ยังได้

เหมือนปีก่อน ที่บ้านเราเอาซีซาร์ ยิงถล่ม BM21 ของเขมรเสียเละเทะ ตายอนาถไปนั่นแหละ

Katyusha rocket launcher - Wikipedia, the free encyclopedia

 

แนวคิดผมนะ ตัดกำลัง โดยการทะเลาะกับจีนโดยตรงเลย จะได้ไม่ต้องสบักสบอมกับการสู้กับตะวันออกกลาง จีนก็จะส่งอาวุธไปสนับสนุนไม่ได้แหละ

ไม่ได้เข้าข้างใครนะ คิดเล่นๆ

 

เนี่ยแหละเจ้า Katyusha ซึ่งมีหลาย series ของมัน ตั้งแต่ BM-13, BM-8, BM-31, BM-14, BM-21, BM-24, BM-25, BM-27, BM-30

แล้วอาวุธปล่อยแบบนี้ เจ้าของคือรัสเซีย ไม่ใช่อิหร่านนะครับ

เมื่อปีก่อน ฮิซเบาะเราะ ก็ยิงเจ้าพวกนี้ถล่มอิสราเองหลายทีแล้ว อิสนาเอล ก็เอาเครื่องบินขึ้นแล้วไปถล่มกลับ ฮิซเบาะเราะตายอนาถไปหลายคนแล้ว

อิสราเอลน่ะ เขาใช้ Drone ลอบสังหารผู้นำของฮิซเบาะเราะแล้วนะครับ เทคโนโลยีมันต่างกันครับ อิหร่านคงไม่โง่เอาขีปนาวุธหนัก ๆ มาไว้ในเลบานอนแน่นอน เพราะถ้าเอามาไว้ มอสสาด ซึ่งจมูกไวอยู่แล้ว คงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ง่าย ๆ แน่

 

ขอบคุณ คุณ Arakan ครับ ให้ความเห็นพร้อมรูปภาพ แบบมืออาชีพมาก ๆ คับ ผมลองเช็คกับต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ เขาบอกว่าเป็นการประมาณคร่าว ๆ นะครับ แต่อยู่ในระหว่าง 40,000-110,000 ลูก ตามต้นฉบับภาษาอังกฤษนะครับ แต่ตามความเข้าใจของผม มันน่าจะหมายถึงหัวรบที่ยังไม่ได้ติดตั้งกับตัวจรวด (เดา ๆ แบบ งูปลา ๆ นะครับ) Katyusha ซึ่งอาจเป็นหัวรบแบบประยุกต์ที่สามารถใช้ได้ทั้งติดตั้งกับมิสไซล์ หรือยิงผ่านเครื่องยิง แบบ RPG ก็ได้นะครับ

ส่วนจำนวน 4,000 ที่คุณ Arakan ว่ามาเนี่ย แม่นมากครับ ตรงกับจำนวนทั้งหมดที่ เฮซบอเราะห์ติดตั้งกับ Katyusha ใช้ถล่มอิสราเอลตอนปี 2010 เลยครับ

 

ผมว่าคุณมาผิดเว็บแล้วละมังครับ

ต้องไปที่ thaifighterclub.org อะไรอย่างนั้น จะได้แนวร่วมแยะกว่านะ

 

ผมว่ามาถูกแล้วครับ เพราะกระทู้แบบนี้ก็เป็นภัยพิบัติไม่ใช่หรือ ?



จริง ๆ ลองวิเคราะห์แบบมีเหตุมีผลบ้างก็ดีนะครับ สมมติฐานสมคบคิดใช้กันบ่อยจนไม่มีหลักฐานมารองรับเลย มันก็เหมือนกรณีแชร์ลูกโซ่นั่นล่ะครับ ลือกันไป ก็ลือกันมา ขนาด Davinci Code ยังต้องมีการหาหลักฐานความน่าจะเป็นมาประกอบเลยครับ

 

จริง ๆ แล้ว ผมก็เดาครับ เพราะต่อให้ฮิซเบาะเราะ มีจรวดขนาด 40,000-100,000 ลูกจริง การจะยิงจรวดได้ขนาดนั้น ก็ต้องมีหลายชุดยิง และต้องยิงถล่มกันเป็นเดือน ๆ กว่าจรวดจะหมด

ซึ่งระดับอิสราเอล คงไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนอัดนานขนาดนั้นโดยไม่ตอบโต้หรอกครับ ครั้งก่อน ๆ ที่จำได้ พอโดนยิงปั๊ป อิสราเอลเอาคืนหนัก ๆ กว่าเยอะครับ

และ ผมเชื่อว่าถ้าอิหร่านจัดขีปนาวุธของแท้ถล่มอิสราเอล รับรองว่าปาเลสไตน์และ เลบานอน จะโดนยึดภายในไม่เกิน 2 อาทิตย์ จากนั้น อิหร่านก็จะโดนจัดหนักกลับแน่นอนครับ เพราะประสบการณ์ในอดีต ยิวประเทศเดียว แต่จัดหนักกลับประเทศอาหรับที่รุมกินโต๊ะเสียเละเทะครับ ในช่วงสงคราม 6 วันยมคิปปูครับ

แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า อเมริกาและ UNSC จะมาห้ามทัพทันหรือเปล่านะครับ