แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
    วัดอุดมคงคาคีรีเขต (วัดดูน). อ.มัญจาคีรี จ. ขอนแก่น

    [​IMG]

    "เราตรวจคะแนนให้คนอื่น ข้อนี้ถูกข้อนั้นผิด
    เราเคยตรวจดูตัวเองบ้างหรือเปล่า
    วันเวลาผ่านไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    คะแนนฝ่ายดีกับคะแนนฝ่ายชั่วนั้น ข้างไหนมันมากน้อยกว่ากัน
    กลับไปตรวจตัวเองเด้อ"

    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2012
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺตเถร
    วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง ฯ จ.สกลนคร


    [​IMG]

    "ในโลกนี้เป็นธาตุทั้งนั้น ให้รู้เท่าทันกับธาตุ อย่าหลงตามธาตุ"

    โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺตเถร
    บันทึกธรรมโดย หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
    พ.ศ. ๒๔๘๓ ณ วัดป่าโนนนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี
     
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
    วัดประสิทธิธรรม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี


    [​IMG]

    "คนเราเกิดมาทุกรูปทุกนาม รูปสังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วล้วนตกอยู่ในกองทุก<WBR>ข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าเพราะพระราชามหากษัตริย์ พระยานาหมื่น คนมั่งมี เศรษฐีและยาจก ล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ทั้งนั้น มีทางพอจะหลุดพ้นได้ คือทำความเพียร เจริญภาวนา อย่าสิมัวเมาในรูปสังขารของตน มัจจุราชมันบ่ไว้หน้าผู้ใด ก่อนจะดับไป ควรจะสร้างความดีเอาไว้"

    หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
     
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ .หนองคาย


    [​IMG]

    "เพียงพบพาน เพื่อผ่านภพ" ผู้ใดชนะข้าศึกคือ ตัวของเราคนเดียวได้แล้ว เป็นผู้ประเสริฐกว่าการชนะชนหมู่มาก นับเป็นพัน เพราะข้าศึกอันเกิดจากคนอื่นภายนอก เมื่อพ่ายแพ้ก็เลิกกันไปที แต่ข้าศึกภายในนี้ จะแพ้หรือชนะอย่างไร ก็ยังต้องอาศัยกันอยู่อย่างนี้จนกว่าจะแตกดับจากกันไปถึงแม้อายตนะภายในมีตาเป็นต้นที่เราเห็น ๆ กันอยู่นี้ เมื่อหลับเสียแล้วก็ไม่เห็นแต่อายตนะของใจอีกส่วนหนึ่งนั้นซี ตาบอดแล้ว หูหนวกแล้ว มันยังได้เห็นได้ยินอยู่ กายแตกดับแล้วใจยังมีอายตนะได้ ใช้บริบูรณ์ดีทุกอย่างอยู่และนำไปใช้ได้ทุก ๆ สถาน ตลอดภพภูมินั้น ๆ ด้วย ฉะนั้นเมื่อเราจะเอาชัยชนะข้าศึกภายในจึงเป็นการต่อสู้อย่างยิ่ง

    หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี
     
  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

    [​IMG]

    วิธีเดินจงกรมภาวนา

    การเดินจงกรมกลับไปกลับมาไม่ช้านักไม่เร็วนัก พองามตา งามมารยาท ตามเยี่ยงอย่างประเพณ๊ของพระผุ้ทำเพียรท่าเดินในครั้งพุทธกาล เรียกว่าเดินจกรมภานา เปลี่ยนจากวิธีนั่งสมาธิภาวนาเป็นเดินจงกรมภาวนา เปลียยจากเดินมายืนเรียกว่ายืนภาวนา เปลี่ยนจากยืนมาเป็นท่านอน เรียกว่ท่าสีหไยาสน์ เพราะฝั่งใจว่าจะภาวนาด้วยอิริยาบถนอนหรือสีหไสยาสน์ การทำความเพียรในท่าใดก็ตามแต่ความมั่นปั้นมือก็เพื่อชำระกิเลสตัวเดียวกันด้วยเครื่องมือชนิดเดียวกัน มิได้เปลี่ยนเครื่องมือคือ ธรรมที่เคยใช้ประจำหน้าที่และนิสัยเดิม

    ก่อนเดินจงกรมพึงกำหนดหนทางที่ตราจะพึงเดิน ส้ินหรือยาวเพียงไรก่อน ว่าเราจะเดินจากที่นี่ไปถึงที่น่ันหรือถึงที่โน้น หรือตกแต่งทางจงกรมไว้ก่อนเดินอย่างเรียบร้อย ส่ั้นหรือยาว ตกแต่งไว้แล้วนั้น พึงยกมือทั้งสองขึ้นประณมไว้เหนือระหว่างคิ้ว ระลึกถึงพระพุทธรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ที่ตนถึอเป็นสรณะคือที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของใจ แะระลึกถึงคุณของบิาดมารดาอุปัชฌาชย์อาจารย์ตลอดท่านผู้เคยมีพระคุแก่ตน จบลงแล้วรำพึงถึงความุ่งหมายแห่งความเพียรที่กำลังจะทำด้วยความตั้งใจเพื่อผลน้ันๆ เสร็จแล้วปล่อยมือลง เอามือขวาทับมือซ้ายทาบกันไว้ใต้สะดือตามแบบพุทธรำพึง เจริญพรมวิหาร ๔ จบแล้ว ทอดตาลงเบื้องต่ำ ท่าสำรวมต้ังสติกำหนดจิตและธรรมที่เคยนำามาบริกรรมกำกับใจหรือพิจารณาธรรมทั้งหลายตามแบบท่เคยภาวนาไว้ เดินกลับไปกลับมาในท่าสำรวมมีสติอยู่กับบทธรรมหรือสิ่งที่พิจารณาโดยสมำเสมอ ไม่ส่งจิตไปอื่นจากงานทีี่กำลังทำอยู่ในเวลาน้ัน การเดินไม่พึงเดินไกวแขน ไม่พึงเดินเอามือขัดหลัง ไม่พึงเดินกอดอก ไม่พึงเดินมองโน้นมองนี่อันเป็นท่าไม่สำรวม การยืนกำหนดรำพึงหรือพิารณาธรรมน้ัน ยืนได้โดยไม่กำหนดว่าเป็นหัวทางจงกรมหรือย่านกลางจงกรม ยืนนานหรือไม่ ตามแต่กรณีที่ควรหยุดอยู่หรือก้าวต่อไป เพราะการรำพึงธรรมน้ันมีความลึกตื้นหยาบละเอียดต่างกันที่ควรอนุโลมตามความจำเป็นจนกว่าจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก้าวเดินต่อไป บางตร้ัง ต้องยืนพิจารณาร่วมชั่วโมงก็มีถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก้าวเดินต่อไป การเดินกำหนดคำบริกรรมหรือพิจารณาธรรมไม่นับก้าวเดิน นอกจากจะถือเอาก้าวเดิน

    น้ันเป็นอารมณ์แห่งความเพียร ก็นับก้าวได้การทำความเพียรในท่าใด สติเป็นสิ่งสำคัญประจำความเพียรท่าน้ันๆ การขาดสติไปจากงานที่ทำเรียกว่าขาดความเพียรในระยะสั้นๆ ผู้บำเพ็ญพึงสนใจสติให้มากเท่ากับสนใจต่อธรรมที่นำคำบริกรรม การขาดสติ แม้คำบริกรรมภาวนาจะยังติดต่อกันไปเพราะความเคยชินของใจก็ตาม แต่ผลคือ ความสงบของจิตจะไม่ปรากฎตามตวามมุ่งหมาย

    การเดินจงกรมจะเดินเป็นเวลานานหรือไม่เพียรไร ตามแต่จะกำหนดเอง การทำความเพียรในท่าเดินก็ดี ท่ายืนก็ดี ท่านอนก็ดี ท่านั่งก้ดี อาจเหมาะกับนิสัยในบางท่านที่ต่างกัน การทำความเพียรในท่าต่างๆ น้ันเพีื่อเปลียนอิริยาทถไปในตัวด้วย ไม่เพ่ียงมุ่งกำจัดกิเลสโดยถ่ายเดียว เพราะธาตุขันธ์เป็นเครื่องมือ

    ทำประโยชน์จำต้องมีการรักษา เช่น การเปลี่ยนอิริยาบถท่าต่างๆเป็นความเหมาะสมสำหรับธาตุขันธ์ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ ถ้าไม่มีการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ธาตุขันธ์ต้องกลับมาเป็นข้าศึกแก่เจ้าของจนได้ ตือ ต้องพิกลพิการไปต่างๆ สุดท้ายก็ทำงานไม่ถึงจุดที่มุ่งหมาย

    พระธุดงค์ท่านถึอการเดินจงกรมเป็นงานประจำชีวิตจิตใจจริงๆ โดยมากท่านเดินคร้ังละหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป ตอนเข้าหลังจังหันแล้วทานเริ่มเข้าทางจงกรม ว่าจะออกมาก็ ๑๑ นาฬิกา หรือเที่ยง แล้วพักเล็กน้อย บ่ายหนึ่งโมงหรือสองโมงก็เข้าทางและเดินจงกรมต่อไปอีกจนถึงเวลาปัดกวาดที่พักอาบน้ำ เสร็จแล้วเข้าเดินจงกรมอีกจนถึงหนึ่งถึงสองท่ม ถ้าไม่ใช่หน้าหนาวก็เดินต่อไปจนถึงสี่ถึงห้าทุ่ม ถึงจะเข้าที่พักทำสมาธิภาวนาต่อไป อย่างไรก้ตาม การเดินจงกรมกับน่ังสมาธิท่านต้องเดินนานนั่งนานเสมอเป็นประจำ ไม่ว่าจะพักอยู่นที่เช่นไร และฤดูใดความเพียรท่านเสมอตัวไม่ยอมลดหย่อนผ่อนตัวให้กิเลสเพ่นพ่านก่อกวนทำความรำคาญแก่ใจท่านนัก ท่านพยายามห่ำหั่นอยู่ทุกอิริยาทถ จึงพอเห็นผลจากความเพียรบ้าง ตอ่ไปก็เห็นผลไปโดยลำดับ ขั้นเรีิมแรกที่ฤทธฺ์กิเลสกำลังแข็งแรงนี้ลำบากอยู่บ้าง ดีไม่ดีถูกมันจับมุดลงหมอนสลบครอบไปไม่รู้สึก ก่ว่าจะรู้สึกตัวขึ้นมา มันเอาเครื่องในไปกินจนอ่ิมและหนีไปเทียวรอบโลกได้หลายทวึปแล้วจึงงัวเงียตืนขี้นมา และบ่นให้ตัวเองว่า เผลอตัวหลับไปงีบหนึง วันหลังจะเร่งความเพียรให้เต็มที่ วันนี้ความโงกว่างทำพิษจึงทำให้เสีย ความจริงคือกิเลสทำพิษนั่นเอง วันหลังยังไม่มองเห็นหน้ามันเลย ถูกมันจับมัดเข้าอีก แต่ไม่เข็ด เจ็บก้เจ็บแต่ไม่เข็ด คือ กิเลสเฆี่ยนคนนี่แล นักภาวนาเคยถูกมันดัดมาพอแล้วบ่นว่าลวดลายไม่ทันมัน สมกับมันเคยเป็นอาจารย์ของคนและสัตว์มาเป็นเวลานาน

    ท่านท่ี่เริ่มฝึกหัดใหม่ กรุณากำหนดเวลาในการเดินจงกรมเอาเอง แต่กรุณากำหนดเผื่อไว้บ้าง เลากิเลสตัวร้อยเล่ห์พันลวงมาแอบขโมยเเอาสิ่งของ จะได้เหลือคำภาวนาติดตัวไว้บ้างขณะกเดินจงกรม พึงกำหนดสติกับคำบริกรรมให้กลมกลืนเป็นอันเดียวกัน ประคองความเพียรด้วยสติสัมปชัญญะ มีใจแน่วแน่ต่อธรรมที่บริกรรม เช่น กำหนด พุทโธ ให้จิตรู้อยู่กับพุทโธทุกระยะที่ก้าวเดินไปและถอยกลับมา ชื่อว่าเป็นผู้มีความเพียรในทานั้นๆ ไม่ขาดวรรคขาดตอนไปในระหว่างตามที่ตนเข้าใจว่าบำเพ็ญเพียร ผลคือ ความสงบเย็น ถ้าจิตไม่เผลตัวไปสู่อารมณ์อื่น ในระหว่างเสียก่อน ผู้ภาวนาต้องระวังครองความสุขใจในขณะน่้ันหรือขณะใดขณะหนึ่งแน่นอน ข้อนี้กรุณาเชื่อไว้ก่อนได้ว่า พระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ท่ีท่านสอนจริง ๆด้วยความเมตตาอนุเคราะห์ ท่านไม่โกหกให้เสียเวลาและเปล่าประโยชน์ ก่อนท่านจะได้ธรรมมาส่ังสอนประชาชน ท่านก็คือผุ้ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยความลำบากทรมานผุุ้หนึ่งก่อนเราผู้กำลังฝึกหัด

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ "ปฎิปทาของพระธุดงคกรรมฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
    วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    [​IMG]

    "กายใจนี้ มีบุญกับบาปเป็นผู้ตกแต่งปรุงแต่งรักษาไว้ การเกิดตายไปมาท่องเที่ยวอยู่นี้ ตัวเราคนเดียวนี้หล่ะ มันมิใช่ของน้อย มันมากนักหนา ยาวนานแสนยาวไกล จนเวียนอยู่ตลอด ตัวเราคือใจมันก็อยู่ของมันอย่างนั้นมาตลอด อยู่มาทุกภพ ความรู้สึกอันหนึ่งมีอยู่ นั่นเป็นตัวใจ ตัวผู้นี้แหละพาให้เป็นบุญก็ได้ เป็นบาปก็ได้ เป็นธรรมก็ได้"

    หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
     
  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ลี กุสลธโร
    วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ. อุดรธานี


    [​IMG]

    "...บ่ทันนาน คั่นจิตเป็นปัจจุบันอยู่ฮั่น บ่เห็นหนึ่งต้องแนวหนึ่งหละ มันซิเกิดเฮ็ดให้มันเป็นปัจจุบัน อดีตที่ล่วงมาแล้ว ก็อย่าไปคำนึงเลย มันก็ออกไปจากปัจจุบันนั่นหละ อนาคตคือกัน มันออกไปจากปัจจุบัน...นี่ละ อย่าไปคำนึงมันเลย คุมมันเข้า

    เบิ่ง ให้เบิ่งหัวใจเจ้าของนั่นละ อย่าไปเบิ่งหัวใจผู้อื่น... คั่นคุมเจ้าของแท้ๆ ต้องเห็น

    คั่นพิจารณาสภาพร่างกายก็พิจารณาอยู่ฮั่น แต่พื้นเท้ามาศีรษะ แต่ศีรษะลงมาพื้นเท้า ให้พิจารณาอยู่ฮั่น เอาแหมะ ๒๔ ชั่วโมงนี่ บ่ให้มันปากมาเลย
    ต้องเกิดแน่... อันนี้หัวใจมันแลนอยู่นำโลกนำสงสารพุ่น มันบ่ปักมั่น แล้วซิเห็นหยังฮั่น คือกินข้าวเนี่ย กินนอนอยู่ ย้ายไปนั่น นอนอยู่ก็ไปฮั่น นอนก็ไปนี่ เลยบ่อิ่มจักที นี่เรื่องมัน


    เอ้า พิจารณามันซี คั่นคุมเข้าแท้ๆ มันซิต้องจับได้เงื่อน เดี๋ยวมันซิเกิดอันนั้นเกิดอันนี่โลด นี่เฮ็ดจริงทำจริงมันต้องรู้จริง... ไอ้ พิจารณาโตนี่ละ โตสำคัญ

    ถ้าหากว่าได้จับจุดได้ละ เออ มันซิออกอุทานบัดทีนี้
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อริยสัจทั้งนั้น...

    คั่นตีแตกอริยสัจนี่ได้แล้ว ฮ่วย! กราบพระพุทธเจ้ากราบครูอาจารย์ โอ๊ย มันก็กราบอยู่จังซั่นหละ หมดคืนหละ นี่ เพิ่นเว่าจริงเฮ็ดจริง
    มันซิประมวลมาหมดดอก อันพระพุทธเจ้าเพิ่นเห็นนะ
    มันซิมาเกิดจากใจเฮานี่ละ...
    ให้พากันเร่งความพากความเพียร..."

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2012
  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
    สวนโมกข์พลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

    " พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรารู้จักมองดูโลกโดยความเป็นของว่าง "
    ดังบาลีว่า...สุญญโต โลกัง อเวกขสสุ โมฆะราช สทา สโต...
    มีใจความว่า....

    " เธอจงมองดูโลกโดยความเป็นของว่าง
    มีสติอย่างนี้ทุกเมื่อ..และเมื่อเธอมองเห็นโลก

    ...อยู่ในลักษณะอย่างนี้....

    ...ความตายก็จะค้นหาตัวเธอไม่พบ..."

    อีกอย่างหนึ่งมีใจความว่า...
    " ถ้าใครเห็นโลกโดยความเป็นของว่างอยู่แล้ว
    ผู้นั้นจะอยู่เหนืออำนาจของความทุกข์
    ซึ่งมความตายเป็นประธาน...."

    นี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าการที่ทรงกำชับให้ดูโลกเห็นโลก
    โดยเป็นของว่างนั้น เป็นสิ่งสูงสุดอยู่แล้ว

    ถ้าผู้ใดอยากจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความทุกข์ หรือความตาย
    ก็ให้ดูโลกนี้คือสิ่งทั้งปวง ให้ถูกต้องตามที่มันเป็นจริง
    คือว่างจากความมีตัวเราหรือของเรา....

    หลวงพ่อพุทธทาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _171_119.jpg
      _171_119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95 KB
      เปิดดู:
      97
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อเฟื่อง โชติโก
    วัดธรรมสถิต อ.เมือง จ.ระยอง


    [​IMG]

    ...เวลาเราทำงานอะไรอยู่ ถ้าเราสังเกตว่าใจเราเสีย ก็ให้หยุดทันที แล้วกลับมาดูใจของตนเอง เราต้องรักษาใจของเราไว้เป็นงานอันดับแรก...

    พระครูญาณวิศิษฎ์ หลวงพ่อเฟื่อง โชติโก
     
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    อย่ามัวเสียเวลา...จงภาวนาทุกลมหายใจเข้าออก...

    เรามัวเพลิดเพลินอะไรอยู่ ไปมัวเสียอกเสียใจอะไรอยู่ ทำไมไม่ภาวนา ไม่ละกิเลส...ภาวนาให้หมดสิ้นไป เวลาความแก่มาถึงเข้า หรือเวลาความเจ็บไข้มาถึงเข้าจิตก็ว้าวุ้น ยิ่งความตายมาถึง

    เราละกิเลสมไว้ก่อนหรือยัง ก็ตอบได้ด้วยตัวเองว่ายังไม่หมด เมื่อยังไม่หมดเราทำอะไรอยู่...

    ชีวิตของคนเราหมดไป เหมือนจุดเทียนขึ้นมาแล้ว ไฟมันไหม้ไส้เทียนจนหมด เราทำอะไรอยู่ไม่พิจารณา

    ต้องเตือนใจของตนว่า เราภาวนาแล้วหรือยัง อย่าประมาท คือ "การภานาทุกลมหายใจเข้าออก"

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a_sim.JPG
      a_sim.JPG
      ขนาดไฟล์:
      26 KB
      เปิดดู:
      88
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2013
  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สาม อจิญฺจโน
    วัดป่าไตรวิเวก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์


    [​IMG]

    "เราจะนอนก็ไหว้พระ ไม่ได้อะไรก็ภาวนาไป ไหว้พระ ๓ ที ๑๐ ที
    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เป็นสรณะที่พึ่งของตน
    แล้วก็นั่งสมาธิไป ภาวนาไป พุทโธ พุทโธ หลับตานั่งนานๆ
    ไม่นานมากก็ ๕ นาที ๑๐ นาที ค่อยหัดไปทุกวันๆ ไป
    ดีกว่านอนเปล่าๆ ไม่มีอะไร"


    หลวงปู่สาม อจิญฺจโน
     
  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
    สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    "อภัยทานเป็นทานอันสูงส่ง

    เมื่อผู้อื่นล่วงเกินเรา ต้องเตรียมใจให้อภัยแก่เขาที่ไม่รู้
    คนไม่รู้เขาก็ทำ-คิดไป ตามความไม่รู้ของคนไม่ได้ปฏิบัติบูชาภาวนา
    ใจเราผู้ภาวนาต้องให้อภัย ไม่ต้องไปทำความเดือดร้อนต่อกันไปอีก
    เรียกว่า อโหสิกรรม"

    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2012
  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    [​IMG]

    จิตเป็นสิ่งลึกลับมากเพราะกิเลสพาให้ลึกลับ
    กิเลสมันเอาจิตเข้าไปหมกไปซ่อนไว้
    ในสถานที่ที่เราไม่อาจเอื้อมรู้ได้เห็นได้

    ...
    ถูกกิเลสตัวจอมปลอมปิดบังไว้หมด
    ตัวมันออกหน้าออกตาหลอกลวงไว้ตลอดเวลา
    จึงไม่เห็นโทษของตน

    ไม่เห็นโทษของกิเลสที่พาให้เกิดให้ตาย

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


    [​IMG]

    คนเรามา "หลง" อยู่ตรง "หนัง" นี่เอง

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
     
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

    "จงพยายามให้เรากินกาล อย่าให้กาลกินเรา
    วันคืนล่วงๆ ไป อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบเร่งทำความเพียร"

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
    สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    "ลมปากมนุษย์มันพอใจ มันก็ว่าให้ดี
    ที่ลมปากมนุษย์มันไม่พอใจ มันก็ด่าให้ว่าให้
    อย่าไปเป็นทุกข์เป็นร้อน ทำใจของเราให้วางเฉย
    พุทโธอยู่ในดวงใจให้จิตใจเย็นสบาย

    เป็นเครื่องอยู่เครื่องอาศัยภายในใจของเรานี่เอง
    บางคนเมื่อถูกความคิดเตียนนินทาเหมือนเอาน้ำร้อนมาลวกเข้าไป
    เต้นเหย็งๆ คือว่าไม่ภาวนา ว่าลมแรงยังไม่แรงเท่าลมปาก เขาว่าอย่างนั้น

    ลมแรงนั้นนานๆ จึงจะพัดมาทีหนึ่ง แต่ลมปากมนุษย์มันพัดอยู่ทุกวันเวลา

    ใครไม่ภาวนาก็เป็นทุกข์เป็นร้อน ถ้าเขาสรรเสริญเราก็ไม่ควรดีใจ
    ถ้าเขานินทาว่าร้ายป้ายสีก็ไม่ควรเสียใจ

    เพราะความสรรเสริญนินทานี้ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน
    ความเที่ยงแท้แน่นอนมันอยู่ในจิตใจทุกคน ตั้งจิตตั้งใจให้มั่นคง"

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    หนังสือพุทธาจารานุสรณ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 569.jpg
      569.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.7 KB
      เปิดดู:
      64
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    [​IMG]

    "ความสุข ความทุกข์ ของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย เกิดมีได้เพราะกระทำโดยแท้จริง ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกบันดาลให้เป็นสุขหรือเป็นทุกข์หามิได้ แท้ที่จริงมันเกิดจากการกระทำของตัวเองโดยแท้"

    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
     
  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระโอวาทธรรมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    วัดบวรนิเวศวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร


    "แก้กิเลสตัวโทสะ...."

    เมื่อโทสะเกิด ให้มีสติรู้ให้เร็วที่สุดว่ากำลังโกรธ ต่อจากนั้นก็คิดอย่างไรก็ได้ให้เกิดเมตตาในผู้เป็นเหตุให้โทสะเกิด คิดให้เมตตาเขา ให้สงสารเขา เช่นคิดว่าผู้ที่กำลังทำให้เราโกรธนั้นเป็นผู้แตกต่างกับเรา อาจจะแตกต่างด้วยความรู้ความสามารถ แตกต่างด้วยฐานะเครื่องแวดล้อม

    แตกต่างด้วยระดับจิตใจที่สูงต่ำไม่เท่ากันคิดให้เข้าใจ ให้เห็นใจ ไม่ว่าเป็นเหตุจะทำให้เราโกรธเกรี้ยวมากมายสักเพียงไหน แม้เห็นโทษของโทสะ ต้องการจะโดยเสด็จสมเด็จพระบรมครูไปถึงจุดพ้นทุกข์ ก็ต้องพยายามใช้เมตตาให้เกิดเหตุผล จนยอมละเลิกความโกรธแม้มากมายเพียงไหน ในผู้หนึ่งผู้ใดไม่มียกเว้น

    ผู้ประสงค์ที่จะแก้กิเลสตัวโทสะ ต้องอบรมความกรุณาให้มากที่สุด เมื่อจะโกรธผู้ใดก็ตามต้องคิดให้ยิ่งด้วยเมตตาทุกวิถีทาง อย่าคิดให้ความโกรธกำเริบเติบใหญ่ไม่หยุดยั้ง

    เช่นอย่าคิดเป็นอันขาด ว่าเราเป็นใคร มาทำกับเราเช่นนั้นได้อย่างไร ดูถูกกันนี้ ไม่เคารพกันนี่ คิดเช่นนี้เมื่อไร เมื่อนั้นเมตตาเกิดไม่ได้ โทสะดับไม่ได้ ลดก็ไม่ได้ มีแต่จะมากมายท่วมจิตท่วมใจไร้เมตตา ไร้กรุณา อย่างสิ้นเชิง ไฟโทสะก็จะแผดเผาอย่างรุนแรงเช่นกัน และเป็นการเผาไหม้เจ้าโทสะเอง ความจริงเป็นเช่นนี้ ที่พึงพยายามเข้าใจให้ถูกต้อง ก่อนจะถูกไฟโทสะเผาไหม้ พินาศไป

    โทสะหรือความโกรธครอบงำจิตใจผู้ใดก็ตาม จนไร้เมตตา ไร้กรุณา ผู้นั้นอาจคิด อาจพูด อาจทำ ที่ผิดร้ายเป็นบาปอกุศลเพียงใดก็ได้นั่นก็หมายความว่าผู้นั้นกำลังไม่เมตตาตนเองกำลังให้โทษแก่ตนเอง อาจจะร้ายแรงเพียงใดก็ได้

    โทษของความโกรธนั้นอาจจะเพียงเบาๆไม่หนักหนา เป็นบางกรณี แต่บางกรณีก็อาจหนักหนาร้ายแรงถึงชีวิต หรือถึงชื่อเสียงเกียรติยศ แม้ความสามัคคีอันเป็นกำลังสำคัญ ก็ถูกทำลายเสียหายยับเยินได้ เป็นโทษที่เกิดแก่ความโกรธจนขาดเมตตาของตนเอง ที่ให้โทษแก่ตนเอง

    ที่แม้คิดให้ดีแล้วจะต้องรู้สึก ว่าผู้ที่ควรโกรธไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเองที่ไม่รู้จักใช้ความคิดให้ถูกต้องอย่างมีผู้ปัญญา ที่มีบุญนักหนาได้พบพระพุทธศาสนา อย่าลืมพระพรุณาในสมเด็จพระบรมครู ที่ยิ่งใหญ่จนสามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาขึ้นในโลก ให้เป็นที่พึ่งประเสริฐสุดของโลกได้จนทุกวันนี้

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ .หนองคาย

    "..จิต คือ ผู้นึกปรุงแต่งสัญญาอารมณ์ต่างๆ ..."

    "..กิเลส เครื่องเศร้าหมอง คือ จิตที่ไปยึดเอาอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากจิตมาเป็นของตัว.."

    "..สติ คือ ผู้ควบคุมจิตไม่ให้หลงไปยึดเอาอารมณ์ต่างๆ มาเป็นของตัว.."

    หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Poo-Test.jpg
      Poo-Test.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      85
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
    วัดป่าเขาน้อย ต. เสม็ด อ. เมือง จ. บุรีรัมย์

    [​IMG]

    "การสวดมนต์ก็เป็นวิธีหนึ่งเพื่อชะลอจิตของเรา
    ไม่ให้ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ ห่างไกลออกจากตัวของเรา
    เพื่อจะได้กำกับอยู่ที่ธรรมที่เราจะสวด
    ก็เป็นเครื่องชะลอจิตได้อย่างหนึ่ง"


    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...