ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ

ที่ได้เป็นเจ้าของจักรแก้ว เพื่อร่วมบุญกฐินบรมจักรพรรดิ สร้างศาลาปฏิบัติธรรมและสร้างพระชำระหนี้สงฆ์

และขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่มาเยี่ยม ร่วมเชียร ร่วมประมูล และร่วมอนุโมทนาบุญครับ​

 

ขออนุโมทนากับการร่วมบุญกฐินครั้งนี้ของทุกท่านด้วยครับ : )

 

อนุโมทนากับท่านที่เข้าประมูลและ เชียร์ ทุกท่านค่ะ เนตเค้าค้างไปเลย แต่ไม่เป็นไร สนุกดี @^_^@

 

เป็นบุญใหญ่ สาธุครับ /!\

ขออนุโมทนา และขอแสดงความยินดีกับทุกท่านครับ ที่ได้ร่วมบุญและร่วมมุทิตาจิตด้วยกัน

 

ยินดีกับทุกท่านค่ะ ดีใจแทนค่ะได้ทำบุญใหญ่และมีของที่ระลึกคุณงามความดี อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..ค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

..ภาพพิธีบวงสรวงใหญ่พญานาค..ในวันเปิดฟ้าดินค่ะ..

​

​

​

​

​

วันนี้ขอนำภาพพิธีบวงสรวงใหญ่ เพื่อเซ่นไหว้พญานาค เป็นวันเปิดฟ้าในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ค่ะ เป็นทางเข้า-ออกเมืองพญานาค หมู่บ้านระหว่างคำชะโนด กับอ.สว่างแดนดินค่ะ

ดิฉันได้โอนปัจจัย(ส่วนตัว) ไปร่วมบุญครั้งนี้ จำนวน ๑,๐๐๐ บาทค่ะ

ขอผลบุญนี้จงบังเกิดแก่ทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนที่ ๓..

​

กล่าวถึงพญาศรีสรรเพ็ชรนั้น หลังจากพระโอรส-ธิดา สองพระองค์ต่างเข้าสมาบัติ เพื่ออธิษฐานจักรแก้วแล้ว กาลต่อมาพระนางปุญญวดี พระมเหสีได้จุติไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระองค์จึงรู้สึกสลดพระทัย จึงได้มอบอำนาจให้แก่สุรสิทธิ์เสนานาค เป็นผู้ปกครองดูแลเมืองชั่วคราว ส่วนพระองค์ได้เข้าสมาบัติเพื่อต่ออายุขัยให้ยืนยาว ก่อนจะเข้าสมาบัติ ท่านจึงได้บอกกล่าวแก่สหายสนิท มีพญาอัศดงนาคราช พญาโภคนาคราช พญาโกสินทร์นาคราช เป็นต้น และได้มอบตำแหน่งที่ปรึกษาแก่พญาโภคนาคราช เพื่อเป็นที่ปรึกษาแก่สุรสิทธิ์เสนานาคด้วย

เมื่อสั่งการเรียบร้อยแล้ว พระองค์ได้เนรมิตกำแพงแก้ว ๗ ชั้น เพื่อป้องกันภัย และระลึกถึงบุญที่กระทำมา จากนั้นตั้งจิตเข้าสมาบัติ เป็นเวลา ๓ เดือน (นาคพิภพเวลานั้น ๑ วัน = ๑ ปีมนุษย์) เพื่อรอรับการออกจากสมาบัติของพระโอรสและธิดานั้น

ขอย้อนกล่าวถึงตระกูลแห่งท่านพญาโภคนาคราชนั้น พญาโภคะนาคราช พระมเหสีนามว่า พระนางนิมมารตีเทวี มีพระโอรสและพระธิดาทั้งหมด ๘ องค์ คือ..


องค์โต ชื่อ ท่านอัคคีตาปะนาคราช
องค์ที่ ๒ - ท่านศศิมาณวิกา
องค์ที่ ๓ - ท่านตติมาณวิกา
องค์ที่ ๔ - ท่านอัครนาคราช
องค์ที่ ๕ -ท่านปัญจมาณวิกา
องค์ที่ ๖ –ท่านสัตยาสิทธิ์นาคราช
องค์ที่ ๗ - ท่านสัตตมาณวิกา
องค์ที่ ๘ - ปุญญมาณวิกา หรือรักขมาณวิกา

หลังจากที่พระธิดาปุญญมาณวิกาได้จุติไป พระองค์ และพระมเหสี ได้เศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอันมาก

ก่อนหน้านี้พระองค์ได้เคยเสียพระโอรสองค์ที่ ๖ คือ สัตยาสิทธิ์นาคราช จุติเนื่องจากหมดอายุขัย ต่อมาทรงเสียพระธิดา คือ ปุญญมาณวิกา

ซึ่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ ยากที่จะทำใจ พระองค์จึงตัดสินใจบำเพ็ญพรตถือบวช เป็นเวลา ๙ เดือน (ตามเวลาของนาคพิภพ) โดยมอบอำนาจการปกครองให้แก่พญาอัคคีตาปนาคราช พระโอรสองค์โต เป็นผู้ดูแลเมืองชั่วคราว

ส่วนสัตยาสิทธิ์นาคราช ได้ไปจุติแล้ว ไปเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลกษัตริย์ พระนามว่า พระเจ้าสุทธธรรมราชา ปกครองนครเขตขันธ์ มีพระมเหสีนามว่า พระนางสุธิชาเทวี มีพระโอรส-ธิดา ๓ พระองค์ ภายหลังเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงมอบราชสมบัติให้แก่พระโอรสองค์โต จากนั้นทรงออกผนวชเป็นพระฤาษี ท่องเที่ยวไปในป่า และไม่เคยกลับนครเขตขันธ์อีกเลย และพระฤาษีผู้นี้มีนามว่า “สุทธฤาษี” นั่นเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป ..
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

หมายเหตุ

๑. สุรสิทธิ์เสนานาค = คุณ mooom
๒. พระธิดาสิรินทร์ทิพย์ = จินตมณีเทพธิดา ผู้อธิษฐานจักรสีชมพู อีกองค์หนึ่ง สมัยพระปทุมมุตรพุทธเจ้า ปัจจุบันอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต
๒. ตติมาณวิกา = คุณ Kao Oat

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนที่ ๔..

​

หลังจากพระสุทธฤาษีได้ออกผนวชเป็นเวลาหลายปี ต่อมาได้พบกับพระทัตตฤาษี ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเมืองมธุปราวาทนคร จึงได้แลกเปลี่ยนวิชากัน และเป็นเพื่อนกันจากนั้นมา พระทัตตฤาษีนั้น มักชอบปฏิบัติใต้โคนต้นไม้ ส่วนพระสุทธฤาษีมักชอบอยู่ในถ้ำ ต่างคนต่างปฏิบัติไป นาน ๆ จะพบกันสักครั้ง​

เมื่อพระสุทธฤาษีต้องการเนรมิตจักรแก้วสีขาว จึงชักชวนพระทัตตฤาษีมาอธิษฐานจิตพร้อมกัน เมื่อถึงเวลา ก่อนเข้าสมาบัติเพื่ออธิษฐานจักรแก้วนั้น จากการย้อนอดีตของพระสุทธฤาษีนั้น ทราบว่า..

ตนเคยเกิดเป็นพญานาคราชนามว่า “สัตยาสิทธิ์นาคราช” เป็นพระโอรสองค์ที่ ๖ ของพญาโภคนาคราช ในชาตินั้นยังไม่ได้แทนคุณแก่พระบิดาได้จุติไปก่อน จึงปรารถนาที่จะมาจุติเป็นพญานาคราชอีกครั้ง และทราบว่า พระธิดาปทุมวดีนั้น พระธิดาแห่งพญาศรีสรรเพ็ชร

เคยเกิดเป็นคู่บารมีของตนมาหลายแสนชาติ และในอนาคตกาลต้องสร้างบารมีร่วมกันในยุคของพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า จึงอธิษฐานก่อนเข้าสมาบัติว่า ..

“ขอบุญกุศลในอดีตที่ได้ร่วมกระทำมากับพระธิดาปทุมวดี หลังจากการอธิษฐานจักรแก้วแล้ว ข้าพเจ้าปรารถนาจะครองคู่กับนาง ขอให้หลังจากที่เนรมิตจักรแก้วแล้ว ได้นำไปถวายแด่ท้าวสักกเทวราชแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าได้จุติเป็นพญานาคราช เป็นพระโอรสแห่งพญาโภคนาคราชอีกครั้ง โดยมีนามเดิม เพื่อสร้างบารมีร่วมกันกับพระธิดาปทุมวดี และขอทุกภพชาติได้เกิดเป็นคู่กัน

ชาติใดที่บุญไม่เสมอกัน ขอให้ข้าพเจ้าสามารถติดต่อนางได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ขอให้นางได้จำภาพในอดีตได้และมีความมั่นคงในรักเช่นเดียวกับข้าพเจ้าไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วยเถิด..”

จากนั้นท่านก็เข้าสมาบัติเพื่อเนรมิตจักรแก้วนาคราช สีขาวเป็นเวลา ๓๖ กัป

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai<O

 

เกาะขอบจอเหนียวแน่นหนึบเลยค่ะ

 

ขอโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทุกๆท่านที่ประมูลจักรแก้วได้ด้วยครับ ที่ได้ร่วมบุญกฐินและกองบุญบรมจักรพรรดิ์กัน ขอโมทนาบุญกับคุณธรรมวิวัฒน์ที่ได้ร่วมไถ่ชีวิตโคท้อง และขอโมทนาบุญกับพี่น้ำใสที่ได้ร่วมบุญงานบวรสรวงด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ เมื่อวานผมก็ได้ซื้อผ้าไตร ยา ธูป เทียน หลอดไฟ และของใช้ไปถวายสังฆทาน และร่วมบุญสร้างเจดีย์ไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมาครับมาครับ

 

อยากรู้จัง...พระธิดาปทุมวดี มีโอรสธิดาเป็นใครกันบ้างหนอ?

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอชมท่านว่าอธิษฐานได้ครอบคลุมจริง ๆ
มัดทั้งหัวทั้งหาง เฮ้อ.....

ในชาตินี้ก่อนจะนั่งสมาธิและเข้าสู่ทางธรรม...
พระธิดาปทุมวดีฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งสม่ำเสมอ
ผู้ชายที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ผอม ผิวขาว...
สวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสีดำ....

ชายคนนั้นไม่เคยพูดอะไร ไม่เคยบอกอะไร...
เพียงแต่มาอยู่ใกล้ ๆ และจิตใจของพระธิดาก็รู้สึกดี
แต่นางก็ไม่เคยติดตามหาว่าชายคนนั้นเป็นใคร....

จนกระทั่งวันหนึ่ง....

 

ขอนั่งฟังด้วยคน จ้า..น้องตาล จ๋า

 

สรุปว่าไปไหนไม่รอดนิ อิอิ ^^

 

พระธิดาได้รับดวงแก้วจักรพรรดินามว่า "โมกขสิทธิราช"
โดยทราบประวัติดวงแก้วเพียงคร่าว ๆ ว่าเกิดจากบุญญาธิการของพระเจ้าสิทธิราชธรรมราชา
ในขณะนั้นพระเจ้าสิทธิราชได้จุติเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิต
และกำลังเข้าสมาบัติเพื่อรอการเกิดในยุคพระศรีอาริยะเมตไตรย


พระธิดาได้รับมาก็เก็บไว้ นำมาทำสมาธิบ้างบางครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว...

ชายคนนั้นคนเดิมที่ฝันถึงได้ปรากฎกายขึ้นกลางห้อง
โดยมิใช่เพียงภาพฝันอย่างที่แล้ว ๆ มา ...
แม้ไม่มีร่างกาย...แต่มีความคุ้นเคยในแววตา
ที่แสดงออกว่า...นานเหลือเกินที่ไม่ได้พบกัน...


แล้วพระธิดาก็เข้าใจความหมาย...
ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่ตนได้เฝ้ารอคอยมาทั้งชีวิต
ผู้ชายคนนั้นในฝันคือคน ๆ เดียวกับที่เธอหวังเสมอว่าจะได้พบอีกสักครั้ง

ชายผู้นั้นพาย้อนเข้าไปในอดีต...
พระธิดาเห็นภาพเลือนรางเหมือนในความฝัน
ใต้ต้นไม้ใหญ่ในคืนที่อากาศแจ่มใส
ดวงดาวพร่าพรายกลางราตรีกาล
ได้ยินเสียงขลุ่ยดังแว่วหวาน...จับใจ
และ...น้ำตาจากไหนก็ไม่รู้ไหลทะลักทลาย....

ในชาตินั้น...พี่ได้จากไปไกลเพราะศึกสงคราม
ทิ้งภรรยาและลูกน้อยเฝ้าคอยห่วงหา...
แต่เมื่อสงครามจบสิ้น...พี่รีบกลับบ้านมา
พบเพียงเศษซากกระท่อม ลูกน้อยและภรรยาหายไป

ต่างฝ่ายต่างตามหา ...
แต่ไม่เคยพบแม้เงา...จนกระทั่งทั้งสองได้ละจากโลกนั้นไปจนสิ้น...

 

โอ๊ย มิกกี้ อย่าพูดอย่างงั้นจิ
พยายามจะ "ไปไหน" แล้วนะ แต่...
พอสนใจผู้ชายคนไหน...พ่อแผ่นป่าราบทุกคน...ด้วยสาเหตุที่ไร้ที่มาที่ไป .....

จนงงและสงสัยตัวเองว่า อยู่รอดปลอดภัยได้อย่างไรจนกระทั่งบัดเดี๋ยวนี้
งงจริง ๆ ชะเอิ้งเอิ่งเอยยยยย


โม้พอแย้ว เผ่นดีกว่า ฟิ้วววว

 

ชีวิตช่างแสนเศร้าอะไรเช่นนี้...