รวมเรื่องกฎแห่งกรรม ของ ท.เลียงพิบูลย์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Jt Odyssey, 27 สิงหาคม 2012.

  1. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    กระทู้นี้ผมได้สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่เรื่อง กฎแห่งกรรม ของ ท.เลียงพิบูลย์ โดยนำข้อมูลมาจากทั้งเว็บไซต์อื่น และพิมพ์เอง มีราวๆ 261 เรื่องครับ ผมจะทยอยพิมพ์ และอัพเดตให้ได้ติดตามอ่านกันเรื่อยๆ ครับ


    อารยนคร (27/8/2555)
    มรดกชิ้นสุดท้่าย (27/8/2555)

    ครั้งหนึ่งในชีวิต
    (28/8/2555) Awesome !!!
    นึกไม่ถึง (28/8/2555)

    วิญญาณกตัญญู (29/8/2555)
    นอกฝัน (29/8/2555) Awesome !!!

    คนมีบาป (30/8/2555)

    เรื่องเวร(31/8/2555)

    กลับชาติ (1/9/2555)

    ทานชีวิต (2/9/2555)
    ความบริสุทธิ์ (2/9/2555)

    อดีตชาติ (3/9/2555)

    เกือบจะสาย (5/9/2555)


    ความฝันของลุงยุ้ย (6/9/2555)






    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • AD.gif
      AD.gif
      ขนาดไฟล์:
      110.6 KB
      เปิดดู:
      886
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  2. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    [FONT=&quot]กฎแห่งกรรม เรื่องที่ [/FONT][FONT=&quot]2 จากหนังสือกฎแห่งกรรม ฉบับสมบูรณ์ ของ ท.เลียงพิบูลย์[/FONT]
    [FONT=&quot]อารยนคร[/FONT]

    [FONT=&quot]เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน พ[/FONT][FONT=&quot].ศ. 2496[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนว่า [/FONT][FONT=&quot]…[/FONT]
    [FONT=&quot]มันเพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ นี่เอง ทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนแจ่มใส[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่เคยลืมเลือนไปจากความทรงจำ เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เคยผ่านมาเลย[/FONT]

    [FONT=&quot]เรื่องมันเป็นดังนี้ คือ [/FONT][FONT=&quot]…[/FONT]
    [FONT=&quot] วันหนึ่งเราได้นัดแนะกับเพื่อนฝูงหลายคนว่าจะเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่โดยรถยนต์ รถออกจากกรุงเทพฯ เวลา [/FONT][FONT=&quot]06.00 น. ที่บ้านคุณสนิท โชติกเสถียร เดินทางไปตามถนนพหลโยธิน มีคุณสนิทพร้อมด้วยครอบครัวและข้าพเจ้าอีกคนหนึ่ง การเดินทางตลอดทางทุกสิ่งทุกอย่างสะดวกเรียบร้อย จนกระทั่งถึงปากน้ำโพประมาณ 12.00 น. เราได้แวะพักผ่อนที่บ้านญาติข้างฝ่ายภรรยาของคุณสนิท[/FONT]

    [FONT=&quot] ที่นั่นเราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ในที่สุดเราก็ตกลงพักค้างแรม [/FONT][FONT=&quot]1 คืน รุ่งขึ้นเช้าจึงออกเดินทางต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot] คืนนั้นเองข้าพเจ้าได้ประสบเหตุการณ์ประหลาด [/FONT][FONT=&quot]……[/FONT]
    [FONT=&quot]….เราได้เดินทางโดยรถยนต์ผ่านสถานีต่างๆ จนถึงทางระหว่างอำเภอเถินกับอำเภอลี้ ซึ่งทางการเพิ่งจะทำเสร็จใหม่ๆ เราต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมทาง และผ่านไปได้ด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี[/FONT]

    [FONT=&quot] เราขึ้นรถมาสักพักใหญ่ก็จะต้องขึ้นเขา ที่เชิงเขามีป้ายเตือนผู้ขับขี่ยวดยานไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“หยุดตรวจดูห้ามล้อของท่าน น้ำ และน้ำมัน ก่อนที่จะขึ้นไป” [/FONT]
    [FONT=&quot] เราได้ตรวจดูเครื่องทึกสิ่งเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเดินทางขึ้นไปทันที การขึ้นเขาครั้งนี้รู้สึกว่าชันและเต็มไปด้วยความน่ากลัวอันตราย ทั้งถนนก็แคบและโค้งเลี้ยวก็อยู่ในระยะสั้น รถต้องเชิดหน้าขึ้นไป และต้องใช้เกียร์หนึ่งเกียร์สองอยู่ตลอดเวลา เครื่องยนต์ทำงานหนัก เครื่องร้อนทำให้หม้อน้ำเดือด แต่พอขึ้นไปถึงสันเขาก็หยุดพักรถเพื่อให้เครื่องเย็น[/FONT]
    [FONT=&quot] ฯลฯ[/FONT][FONT=&quot]…………………………………………………………………………………….ระหว่างที่รถหยุดพักบนเขานั้น ข้าพเจ้าได้ออกเดินเล่นไม่ห่างไปจากรถเท่าไรนัก พอเดินพ้นจากรถเพียงเหลี่ยมเขาบังรถอยู่ เบื้องหน้าก็มองเห็นทุ่งกว้างเป็นเนินเขาเขียวชอุ่มแลดูน่าเพลินตา หญ้าเขียวชอุ่ม เป็นชั้นๆ สวยงามอย่างยิ่ง ทำให้จิตใจหลงใหลในความงามของธรรมชาติอย่างเผลอตัว จึงรีบเดินลงจากเนินไปทันที[/FONT]

    [FONT=&quot] จะเป็นเวลานานเท่าใดข้าพเจ้าไม่ทราบ เท้าได้พาตัวเดินไปตามทางเล็กๆ สายหนึ่ง อากาศสดชื่นทำให้ความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องนั่งรถขึ้นเขานั้นหายไปดังปลิดทิ้ง ราวกับว่าตนเองได้เข้ามาสู่ดินแดนมหัศจรรย์ นอกจากธรรมชาติที่ล้อมรอบตัวจะมีความงามประหลาดล้ำแล้ว ยังเกิดความรู้สึกว่าดินแดนแห่งนี้จะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นเลย[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าเดินต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งเดินยิ่งทำให้จิตใจชื่นบานมากขึ้น คิดแต่ว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีความรื่นรมย์และสุขใจอย่างที่สุด ตามเนินเป็นไม้ป่าออกดอกนานาสี กลิ่นหอมระรื่น อยากจะกล่าวว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีความสุขสบายใดเช่นนี้เลย เพราะสิ่งแวดล้อมนานาประการได้ทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงไป ข้าพเจ้าเพลิดเพลินและจิตใจอบอุ่น ไม่มีความหวาดกลัว แม้จะไม่พบผู้คนก็รู้สึกว่าปลอดภัย ไม่มีสิ่งใดน่ากลัว อยากจะเดินชมให้ทั่วบริเวณ[/FONT]

    [FONT=&quot] สักครู่ก็เห็นคนเดินมาแต่ไกล ครั้นเข้ามาใกล้ก็มองเห็นว่าผู้นั้นเป็นชายสูงอายุกลางคน ข้าพเจ้ามีความยินดีมาก เพื่อจะไต่ถามดูถึงตำบลและหมู่บ้านว่าชื่ออะไรแน่ จึงสาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วทำความเคารพ เมื่อมองเห็นหน้าพ่อลุงคนนั้นแล้วก็เกิดความรู้สึกว่าแกมีสายตาที่เป็นมิตรอย่างน่าเคารพ การแต่งกายสุภาพเรียบร้อย นุ่งผ้าสีน้ำเงินแก่แบบชาวบ้านเรา หรืออย่างชาวเหนือ ที่เรียกว่า ม่อฮ่อม เป็นการน่าประหลาดที่เพียงแรกมาพบปะ ข้าพเจ้ารู้สึกเคารพรักชายผู้นี้ สายตาของพ่อลุงคนนั้นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา และยิ้มแย้มอย่างผู้มีใจดี[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าเอ่ยขึ้นว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] “พ่อลุงอยู่ตำบลนี้ใช่ไหม ผมอยากทราบว่าเมืองนี้ชื่อเมืองอะไรครับ ช่างน่าอยู่เหลือเกิน ดินฟ้าอากาศสดชื่นอย่างนี้ ผมยังไม่เคยพบเห็นที่ไหนเลย”[/FONT]
    [FONT=&quot] “ใช่แล้วคุณ ผมอยู่ในเมืองนี้ ที่เราเรียกว่า “เมืองผา” คุณคงมาจากเมืองใต้กระมัง? ”[/FONT]
    [FONT=&quot] รับคำแกแล้วข้าพเจ้าถามถึงความเป็นอยู่ต่างๆ ก็ได้รับคำตอบว่า ที่นี่ไม่มีการลักขโมยหรือโจรกรรมอย่างไร เขาอยู่กันด้วยความสงบสุข พ่อเมืองเป็นผู้ปกครองอย่างยุติธรรม และเป็นผู้พิพากษาคดีทุกอย่างทุกชนิด[/FONT]
    [FONT=&quot]“เอ! ถ้าเช่นนั้นมิเป็นเผด็จการหรือพ่อลุง” ข้าพเจ้าสอดขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot] แต่แกก็ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]“เอ! อ้ายเผด็จการเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่พ่อเมืองก็ปกครองมาด้วยความสุขสบายทั่วหน้ากัน”[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2012
  3. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] แล้วแกก็ทำท่าจะนึกขึ้นได้ อ้อ! วันนี้พ่อเมืองจะออกชำระคดีเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณต้องการพบพ่อเมือง ผมจะพาไป[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ารีบรับปากทันที เมื่อพ่อลุงมีไมตรีจิตออกปากจะพาไปเช่นนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] หลังจากสนทนาพอควรแล้ว แกก็พาข้าพเจ้าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ยิ่งเดินไปก็ยิ่งใกล้หมู่บ้านซึ่งหนาแน่นเข้าไปทุกที ผู้คนก็ยิ่งหนาแน่นมากขึ้น สังเกตดูกิริยาผู้คนทั้งหญิงชาย ต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แสดงว่ามีความสุขสบายทั่วหน้ากัน แล้วทุกคนก็เป็นมิตรกัน ข้าพเจ้าหันมาทางพ่อลุงผู้อารีคนนั้นและพูดว่า[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“พวกชาวบ้านนี้ ดูช่างมีความสุขสำราญ หน้าตาแจ่มใสทุกคน”[/FONT]
    [FONT=&quot] พ่อลุงหัวเราะอยู่ในลำคอ พวกเราในเมืองนี้รักกันเหมือนพี่เหมือนน้องพร้อมที่จะเสียสละให้แก่กันและกันโดยไม่เอารัดเอาเปรียบ ทุกคนเป็นผู้ยอมเสียสละทั้งสิ้น[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจในคำพูดเช่นนี้ จึงย้อนถามไปว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] “ถ้าเช่นนั้นในเมืองนี้ก็ไม่มีทหารและตำรวจนะซีครับ[/FONT]
    [FONT=&quot] ได้รับคำตอบว่า “ไม่มี คำว่าตำรวจหรือทหารไม่มีใครเรียกหรือรู้จักเลย”[/FONT]
    [FONT=&quot] “ถ้าอย่างนั้นทำอย่างไรจึงจะนำตัวจำเลยมาให้พ่อเมืองได้”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“จำเลยสมัครใจมาเอง โดยไม่ต้องคุมตัว”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เราคุยกันมาตลอดทาง ชั่วครู่เดียวก็ถึงหุบผาแห่งหนึ่ง ผู้คนหนาแน่น ช่องผาทางเข้านั้นใหญ่โต สว่างไสวด้วยแสงประหลาดไม่ต้องใช้ไฟ มีลวดลายตามผนังงดงามมาก มีผู้คนเดินเข้าออกไปมาไม่ขาดสาย ทุกคนมีหน้าตายิ้มแย้มต่อข้าพเจ้าเหมือนกับที่ห็นผ่านๆ มาแล้ว [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าหันมาถามพ่อลุงว่า[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“การชำระคดีนี้ มีการชำระกันทุกๆ วันตลอดปีอย่างนี้หรือ”[/FONT]
    [FONT=&quot] “นานๆ จะมีสักครั้ง วันนี้นับว่าคุณมีโชคดี พอมาถึงก็ได้เห็นพ่อเมืองชำระคดี”[/FONT]
    [FONT=&quot] แกตอบเป็นปกติ แต่มันทำให้ข้าพเจ้าแปลกใจมาก ที่ผ่านผู้คนมาตั้งแต่น้อยจนหนาแน่นเข้าทุกที ข้าพเจ้าเห็นยิ้มกับข้าพเจ้าไม่ว่าจะเด็กและผู้ใหญ่ คล้ายว่าข้าพเจ้าเป็นเพื่อนรักหรือญาติสนิทที่จากกันไปนานๆ แล้วมาพบกัน จากการสังเกตกิริยาท่าทาง เมื่อผ่านเข้ามาที่ประชุมใหญ่ในหุบผา ทุกคนที่ข้าพเจ้าเห็น หรือเห็นข้าพเจ้า ก็แสดงเช่นเดียวกันหมด[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อมาถึงที่ชำระความของพ่อเมืองซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ ตรงกลางเป็นแท่นศิลาใหญ่มีผู้คนล้อมรอบแท่น ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่พ่อเมืองจะออก[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ากระซิบถามว่าคนไหนเป็นโจทก์ คนไหนเป็นจำเลย พ่อลุงก็ชี้ให้ดูว่า คนที่ใส่เสื้อที่ขาวนั้นชื่อผาคำ เป็นโจทก์ ส่วนคนที่ใส่เสื้อเป็นชาวนา (สีน้ำเงินแก่) คนนั้นชื่อโฉม เป็นจำเลย[/FONT][FONT=&quot] และคู่พิพาทกำลังนั่งคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีเค้าว่าจะมีการขัดแย้งกันจนเกิดคดีขึ้นโรงขึ้นศาล รู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายรักใคร่กันดี ไม่น่าเชื่อว่าเป็นความพิพาทกันเลย ควรจะปรองดองกันให้เรียบร้อยได้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ทำให้ข้าพเจ้าสงสัยจริงๆ จึงอดที่จะถามพ่อลุงไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“เหตุใดทั้งคู่จึงเป็นความกัน ในเมื่อสังเกตดูว่าทั้งสองมีความรักใคร่กันมาก”[/FONT]
    [FONT=&quot] พ่อลุงยิ่ม แล้วตอบว่า “เรื่องมันตกลงกันไม่ได้ซิคุณ จึงร้อนถึงท่านพ่อเมือง”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“มันร้ายแรงอะไรนักหรือ จึงตกลงกันไม่ได้ พ่อลุงรู้หรือเปล่า”[/FONT]
    [FONT=&quot] พ่อลุงจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“นายโฉมผู้เป็นจำเลย มีนาแปลงหนึ่ง มีข้าวออกรวงเหลืองอร่ามไปทั้งท้องทุ่ง นายผาคำผู้เป็นโจทก์ มีควายอยู่ตัวหนึ่ง ได้เดินผ่านนาของนายโฉม เห็นข้าวในนาน่ากิน ก็ลงไปกินแต่ไม่มากนัก พอนายผาคำมาถึงก็รีบจูงควายกลับบ้าน แล้วก็รีบไปสารภาพความผิดของตนที่ได้ปลอยให้ควายกินข้าวในนาของนายโฉม ตนเองยินดีให้ค่าเสียหายเป็นข้าว แต่ฝ่ายนายโฉมเจ้าของนาไม่ยอมรับ ถือว่าไม่ใช่ความผิดของนายผาคำหรือของควาย ถ้าจะเอาความผิดแล้ว ควรจะเอาผิดกับข้าวของนายโฉมมากกว่า เพราะถ้าในนาไม่มีข้าว ควายก็คงไม่กิน เรื่องก็คงไม่มี แล้วต่างคนก็ไม่ตกลงกัน หรือตกลงกันไม่ได้”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ก่อนที่จะซักถามพ่อลุงอีกต่าไป ได้ยินเสียงฆ้องดังขึ้น 3 ครั้ง เสียงพูดกันว่าพ่อเมืองออกแล้ว เรามัวแต่ก้มหน้าคุยกัน พอเงยหน้าขึ้นไปดูก็เห็นพ่อเมืองนั่งอยู่บนแท่น ทุกคนก้มลงกราบ ข้าพเจ้าทำตามเขาบ้างโดยความสมัครใจ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เมื่อกราบเสร็จแล้ว พ่อลุงก็พาข้าพเจ้าเข้าไปใกล้แท่นที่ประทับของพ่อเมือง ทุกคนหลีกทางให้ด้วยความยินดี[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อเข้าไปใกล้แท่น ข้าพเจ้าได้มองเห็นพ่อเมืองชัดเจนถนัดตา ทำให้ข้าพเจ้าต้องตะลึง[/FONT][FONT=&quot] รูปร่างของท่านพ่อเมืองนั้นไม่ผิดแปลกกับพระปิยมหาราช รัชกาลที่ [/FONT][FONT=&quot]5 ของเราเลย พระองค์มีพระพักตร์ยิ้มแย้ม ดวงเนตรแจ่มใส[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ครั้นแล้ว พ่อเมืองก็พูดกับฝ่ายโจทก์และจำเลยเป็นการซักถามปากคำจากโจทก์และจำเลย ตามเรื่องที้ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้ว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อพ่อเมืองได้พิจารณาเสร็จแล้ว ก็วินิจฉัยและตัดสินว่า การที่นายโฉมจำเลยไม่ยอมรับค่าเสียหายจากนายผาคำผู้เป็นเจ้าของควาย ซึ่งลงไปกินข้าวในนาของเขานั้น โดยอ้างเหตุว่า เป็นความผิดของจนเองที่ได้ปลูกข้าวได้ทางเดินของควาย เพราะฉะนั้นจึงไม่ยอมรับค่าเสียหาย เพราะควายเป็นสัตว์ที่ไม่มีความคิดว่าทำแล้วจะเกิดความเสียหายหรือไม่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  4. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    [FONT=&quot] ส่วนนายผาคำผู้เป็นโจทก์แถลงว่า ตามปกติควายของตัวไม่เคยที่จะไปกินข้าวในนาของใคร แต่บังเอิญควายนี้เกิดตั้งครรภ์ ทำให้ความรู้สึกแปรปรวนไปเนื่องด้วยลูกในท้องทำให้อยากกิน[/FONT]
    [FONT=&quot] ฉะนั้นพ่อเมืองจึงตัดสินให้ยกลูกควายที่อยู่ในท้อง จะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ให้นายโฉม [/FONT][FONT=&quot]1 ตัว ไม่ว่าจะออกมากี่ตัวก็ตาม[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อพ่อเมืองทรงตัดสินเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็ร้องสาธุ ฝ่ายโจทก์ก็มีจิตใจชื่นบาน ที่ได้ชดใช้ค่าเสียหายเรื่องข้าวให้เป็นที่เรียบร้อยไป ต่อจากนั้นพ่อเมืองก็ได้ลุกขึ้นก้มศีรษะรอบๆ ตัว รับความเคารพของปวงชนที่อยู่ในที่นั้น แล้วก็เสด็จขั้นเข้าไปหุบผาทันที[/FONT]

    [FONT=&quot] ก่อนที่จะเสด็จไปนั้น ท่านได้หันมายิ้มกับข้าพเจ้า แล้วกล่าวเรียบๆ ว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] ขอให้สูเจ้าจงเดินทางต่อไปโดยความปลอดภัยเถิด[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ายกมือขึ้นประนมทำความเคารพ[/FONT]
    [FONT=&quot] ท่านที่รัก ข้าพเจ้าเห็นท่านพ่อเมืองเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกมีความจงรักภักดี มีความเคารพด้วยจิตใจอันสุจริต ความจงรักภักดีนี้ดื่มด่ำอยู่ในความรู้สึก มันเกิดขึ้นจากส่วนลึกของดวงใจอย่างสะอาด บริสุทธิ์ ยากที่จะบรรยายให้ถูกต้องได้ ความจงรักภักดีนี้ ทำให่ข้าพเจ้าสามารถพลีชีพชีวิตของข้าพเจ้าเพื่อพ่อเมืองได้ทุกเวลา ทั้งๆ ที่พ่อเมืองยังไม่เคยที่จะชุบเลี้ยงหรือให้ความช่วยเหลือแก่ข้าพเจ้าแต่ประการใดเลย[/FONT]
    [FONT=&quot] แล้วพ่อลุงก็ชวนข้าพเจ้าลุกขึ้นและเดินทางออกจากหุบผา ข้าพเจ้าไม่ได้พูดจาอะไรกับพ่อลุงอีกเลย สมองต้องขบคิดอย่างหนักต่อเหตุการณ์ประหลาดเกี่ยวกับหุบเขาที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นมานี้[/FONT]

    [FONT=&quot] ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังใช้ความคิดอยู่นี้เอง ข้าพเจ้าลืมตาขึ้นก็เห็นคุณสนิทกำลังเขย่าตัวอยู่บอกว่า จวนเวลาแล้วจะเดินทางต่อไป ข้าพเจ้าก็ได้รู้สึกตัวว่า [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้ฝันไป ฝันอย่างยืดยาว ฝันอย่างประหลาด ข้าพเจ้าอยากให้เป็นความจริง ข้าพเจ้าจึงเล่าให้คุณสนิทฟังถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ[/FONT]

    [FONT=&quot] หลังจากนั้นเราได้รับประทานอาหารกันราว ตี [/FONT][FONT=&quot]5 ของวันใหม่ แล้วก็ออกเดินทางกันต่อไป พอเข้าสู่ภูมิประเทศที่ถนนไต่ขึ้นไปบนไหล่เขา ช่างน่าประหลาดอะไรเช่นนี้ ต้นไม้และทิวเขา ทุกสิ่งทุกอย่างตลอดจนสันเขาที่ข้าพเจ้าจะเลี้ยวเดินลงที่ลาดเชิงเขา ช่างเหมือนกับภาพในฝันของข้าพเจ้าทุกแห่ง แต่ไม่มีทุ่งลาด [/FONT]

    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายอาลัยอาวรณ์ยิ่ง เมื่อจะจากไป[/FONT]
    [FONT=&quot] รู้สึกราวกับว่า [/FONT][FONT=&quot]….[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าได้จากสาวที่รักยิ่งคนหนึ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot] อย่างไม่มีโอกาสที่จะพบกันได้อีกต่อไปในชีวิตนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot] ซึ่งสถานที่นั้นมีปรากฎอยู่จริงๆ [/FONT]
    [FONT=&quot] และข้าพเจ้าก็ได้ผ่านไปทั้งฝันและทั้งตื่น[/FONT]


    [​IMG][​IMG]
     
  5. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    [FONT=&quot]กฎแห่งกรรม เรื่องที่ [/FONT][FONT=&quot]7 จากหนังสือกฎแห่งกรรม ฉบับสมบูรณ์ ของ ท.เลียงพิบูลย์[/FONT]
    [FONT=&quot]มรดกชิ้นสุดท้าย[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงไม่นานนัก[/FONT]
    [FONT=&quot]บิดาของข้าพเจ้าได้ถึงแก่กรรมลง [/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ฐานะของครอบครัวขาดรายได้ลงอย่างกะทันหัน[/FONT]
    [FONT=&quot]และนับเป็นก้าวแรกที่คุณแม่และข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบ[/FONT]
    [FONT=&quot]และดิ้นรนต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของครอบครัว[/FONT]

    [FONT=&quot]คุณแม่ได้ทำการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นค่าครองชีพและส่งเสียให้น้องๆ ได้เล่าเรียน และโดยเหตุนี้เอง ที่ข้าพเจ้าต้องหยุดชะงักการเล่าเรียน แสวงหางานทำเพื่อเอารายได้มาช่วยคุณแม่เป็นค่าใช้จ่าย และส่งเสียให้น้อยได้เล่าเรียนต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot] ชีวิตของข้าพเจ้าได้เริ่มต้น[/FONT][FONT=&quot] …[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าหมายถึงการเริ่มต้นเข้าต่อสู้กับลีลาชีวิตในอันที่จะบุกเบิกต่อไป เพื่ออนาคตอันรุ่งเรืองแจ่มใส ซึ่งทุกคนหวังและปรารถนา[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่ออายุข้าพเจ้ายังไม่ครบ [/FONT][FONT=&quot]20 ปี[/FONT][FONT=&quot]แม้ว่าจะยังไม่พ้นวัยศึกษาขั้นมหาวิทยาลัย แต่ความจำเป็นในเรื่องฐานะของครอบครัวเพราะขาดบิดาบังเกิดเกล้า บังคับให้ข้าพเจ้าต้องกระเสือกกระสนหารายได้มาช่วยเหลือทางบ้าน[/FONT]
    [FONT=&quot]โปรดทราบว่าครอบครัวของข้าพเจ้ามีอยู่ด้วยกัน [/FONT][FONT=&quot]4 ชีวิต[/FONT][FONT=&quot]คือ มารดาของข้าพเจ้า [/FONT][FONT=&quot]1 กับน้องชาย ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเล่าเรียนอีก 2 คนเท่านั้น เราทั้งสี่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของเราเอง อันเป็นสมบัติของคุณพ่อสร้างสมไว้ให้[/FONT]

    [FONT=&quot]ต่อมา ข้าพเจ้าได้งานทำที่สำนักงานแห่งหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]ก่อนที่จะได้เข้าประจำทำงาน ที่สำนักงานแห่งนี้ [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้ตั้งสัจจะไว้ในใจว่าจะมีความอดทน ไม่ว่างานยากหรือง่าย จะปฏิบัติงานให้ดีที่สุดเต็มความสามารถ จะขยันหมั่นเพียรในการงาน และตั้งใจอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต[/FONT][FONT=&quot]ด้วยสัจจะ [/FONT][FONT=&quot]3 ประการนี้ ข้าพเจ้าแน่ใจว่าจะเป็นหลักช่วยให้ได้รับความเจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อได้เข้าทำงานแล้ว ข้าพเจ้าได้พยายามปฏิบัติตนตามอุดมคติที่ตั้งไว้โดยเคร่งครัด งานทุกสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ผิดระเบียบข้อบังคับ ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลังเจ้านาย ข้าพเจ้าทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ ด้วยความอุตสาหะ มานะ ไม่ผิดแผกจากกันเลย มีเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่ได้สังเกตว่า เมื่อต่อหน้านายจ้างเขาก็ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง พอนายพ้นไปแล้วเขาก็วางมือคุยกัน บางทีก็รวมหัวกันนินทาตำหนิติเตียนคนอื่นหรือเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ที่สุดบางครั้งก็เลยเอานายจ้างมานินทา ถกกันสิ้นไส้สิ้นพุงไปเลย[/FONT]

    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็รู้สึกตัวว่า เริ่มอยู่ในความสนใจของนายจ้าง[/FONT][FONT=&quot]บางครั้งสังเกตได้ว่าสายตาที่จ้องมองข้าพเจ้านั้นแฝงไว้ด้วยความเมตตาปรานี และเคยได้ยินโดยบังเอิญขณะที่ท่านสนทนาอยู่กับเพื่อนฝูงเป็นการชมเชยข้าพเจ้าว่า [/FONT][FONT=&quot]“เด็กคนนี้มันเอาถ่าน”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าสารภาพว่าเพียงถ้อยคำแค่นี้ มันมีความหมายสำหรับข้าพเจ้ายิ่งนัก ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและดีใจยิ่งกว่าได้บำเหน็จรางวัล เพราะอย่างน้อยก็หมายความว่า สัจจะของข้าพเจ้าได้ส่งผลสะท้อนอย่างทันตาเห็น [/FONT]
    [FONT=&quot] โดยปกติคนงานทุกคนเรียกนายจ้างผู้นี้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“นาย”[/FONT][FONT=&quot] ฉะนั้น ต่อไปนี้ข้าพเจ้าขอให้สรรพนามเรียกท่านว่านายในทุกแห่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]ต่อมาอีกประมาณ [/FONT][FONT=&quot]1 ปี ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องขอลาออกจากงานแห่งนี้ด้วยความเสียดายและอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง[/FONT][FONT=&quot] แต่ว่าเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจะต้องเข้ารับราชการทหาร เป็นการรับใช้ชาติ นับว่ามีความสำคัญเหนือสิ่งอื่น[/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อวันที่ข้าพเจ้าไปลานายนั้น จำได้ว่าสีหน้าของท่านเผือดลงเล็กน้อย และแสดงความเสียใจที่ข้าพเจ้าต้องจากไปเพื่อรับใช้ชาติตามหน้าที่ของลูกผู้ชาย ที่สุดได้นายได้สั่งจ่ายเงินเดือนในเดือนนั้นซึ่งยังไม่ครบให้เต็มจำนวน และยังสังจ่ายพิเศษเพิ่มให้อีก [/FONT][FONT=&quot]3 เดือน นั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นบำเหน็จที่นายให้แก่ข้าพเจ้าด้วยความกรุณาปรานีโดยแท้ ข้าพเจ้ากล่าวขอบพระคุณด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมล้นด้วยความกตัญญูกตเวทีต่อเมตตาจิตของท่าน[/FONT]

    [FONT=&quot]อย่างไรก็ตาม [/FONT][FONT=&quot]วิถีชีวิตของข้าพเจ้าและครอบครัวในขณะนี้ ต้องนับว่าอยู่ในลักษณะลุ่มๆ ดอนๆ ไม่ราบรื่นนัก [/FONT][FONT=&quot]รายได้ของข้าพเจ้าที่เคยช่วยเหลือมารดาต้องขาดหายไปทั้งหมด ก็นับว่ามากสำหรับฐานะอย่างเรา ทำให้การใช้จ่ายทางบ้านฝืดเคือง ตลอดจนน้องอีก [/FONT][FONT=&quot]2 คนที่กำลังเรียนต้องพลอยได้รับความลำบากไปด้วย โดยเหตุนี้เองคุณแม่จึงต้องทำงานมากขึ้นอีก ต้องลำบากตรากตรำ ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพื่อหารายได้มาจุนเจือให้พอค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้การศึกษาของน้อง 2 คน ได้ดำเนินต่อไปอย่างตลอดรอดฝั่ง[/FONT]
     
  6. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]แต่เคราะห์กรรมไม่เคยปรานีแก่ผู้ใด[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ไม่ว่าจะเป็นคนชั่วร้ายหรือคนบริสุทธิ์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] เพราะว่า [/FONT][FONT=&quot]… ตราบใดที่โลกนี้ยังเป็นโลกที่หนาทึบไปด้วยความทุกข์ [/FONT]
    [FONT=&quot] มีแต่ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ตราบนั้น แต่ละชีวิตของปุถุชน [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ก็ย่อมประสบความผันแปรของชีวิตอยู่เสมอ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เพราะต่อมาปรากฎว่า [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้ารับราชการทหารไม่ทันได้ครบปี มารดาของข้าพเจ้าได้ล้มเจ็บลง [/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เนื่องจากต้องตรากตรำทำงานแบบไม่มีเวลาพักผ่อน ประกอบด้วยสังขารอันร่วงโรยด้วยความชรา อาการป่วยของคุณแม่ค่อนข้างหนัก ข้าพเจ้าเป็นห่วงท่านอย่างยิ่ง เพราะท่านเป็นเสมือนพระของเราสามพี่น้อง มีท่านเป็นสุดที่รักเคารพเพียงผู้เดียวเท่านั้น ข้าพเจ้าขออนุญาตลาต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อมาพยาบาลมารดา เมื่อได้รับอนุญาตลาได้ก็รีบตรงไปยังบ้านทันที [/FONT][FONT=&quot]เราต้องจ่ายค่ายา ค่าหมอ เป็นจำนวนมาก [/FONT][FONT=&quot]และข้าพเจ้าจะอยู่พยาบาลท่านนานนักไม่ได้ เนื่องด้วยกำหนดที่ได้รับอนุญาตมีเวลาจำกัด ประกอบกับมีราชการต้องปฏิบัติเป็นประจำ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ขณะที่อยู่ในกรมทหาร ข้าพเจ้ามีความกังวลใจในอาการป่วยของมารดา และในเรื่องทุนทรัพย์ที่จะต้องใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]จนไม่เป็นอันกินอันนอน ฐานะความเป็นอยู่ของเราไม่มั่งมี ในขณะนี้เงินทองที่ได้อุตส่าห์รวบรวมเก็บหอมรอมริบไว้ได้เล็กน้อยก็ค่อยหมดไป [/FONT][FONT=&quot]จนกระทั่งของมีค่าในบ้านก็แทบจะไม่มีอะไรเหลือ ที่ยังเห็นอยู่เป็นชิ้นสุดท้ายก็คือที่ดินแปลงเล็ก พร้อมด้วยตัวบ้านที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นไม่มีทางอื่นที่จะได้เงินมาเพื่อสนองพระเดชพระคุณมารดา เราก็จำเป็นต้องกระทำ นั่นคือเอาบ้านของเราจำนองเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายรักษาท่านผู้บังเกิดเกล้าของเรา[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] หลังจากได้ปรึกษาหารือกันระหว่างพี่น้องเห็นดีตกลงกันแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ไปติดต่อกับนายหน้าซื้อขายจำนองบ้านและที่ดิน เมื่อปรากฎว่ามีผู้สนใจจึงนำเอาโฉนดที่ดิน พร้อมทั้งแจ้งความจำนงในจำนวนเงินที่ต้องการให้ทราบ เมื่อผู้ซื้อได้ตรวจดูโฉนดและเห็นสภาพบ้านก็มีความพอใจ แต่มีข้อขัดข้องที่จะไม่รับทำจำนอง เพราะเขาไม่ปรารถนาจะให้เกิดเป็นความฟ้องร้องเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อถึงคราวขาดอายุจำนอง จะรับได้ก็แต่วิธีขายฝากเท่านั้น นอกจากนั้นผู้ซื้อก็ชี้แจงวิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการขายฝากที่ดินบ้านช่อง มีค่าปากถุง ค่าดอกเบี้ย ค่าโอน ค่านายหน้า เป็นต้น เมื่อคำนวณดูแล้วเป็นค่าใช้จ่ายสูงมากพอดู ข้าพเจ้ายังไม่สามารถที่จะตกลงใจอย่างไรได้ขณะนี้ จึงต้องขอผัดเจ้าของเงินหรือผู้ซื้อไปตกลงกันดูก่อน แล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าติดต่อผู้ซื้อรายอื่นอีกหลายแห่ง แต่ละแห่งปรากฎว่าจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายต้องเสียนั้นไม่ผิดกว่ากันเท่าใด แต่เมื่อต้องเห็นมารดารับทุกขเวทนาอันเกิดจากการป่วยไข้ เป็นการทรมานและบีบคั้นจิตใจข้าพเจ้าอยู่ทุกวัน จึงคิดตกลง แต่มาฉุกคิดถึงความสำคัญประการหนึ่งในหน้าโฉนดนั้นเจ้าของกรรมสิทธิ์ยังเป็นชื่อของมารดา ทำให้ข้าพเจ้าต้องหยุดชะงักท้อใจทันที เพราะการทำสัญญาซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์นั้น ต้องต้องให้ท่านลงนามในใบมอบฉันทะให้ข้าพเจ้าจัดการแทน จึงลำบากใจ เพราะท่านกำลังป่วยมีอาการหนักอยู่ ถ้าหากท่านทราบว่าเราจะต้องนำเอาบ้านและที่ดินที่มีอยู่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายไปขายไปจำนองเสียแล้ว ความป่วยไข้คงกำเริบเหลือกำลังที่จะเยียวยาได้ ข้าพเจ้าคาดคะเนว่าท่านคงจะไม่ยอมขาย และไม่ยอมให้รักษาด้วยเงินที่ขายบ้านขายช่องแน่ๆ จะมีอยู่ทางเดียวก็คือ ผู้ซื้อจะต้องยอมรับซื้อฝากไว้โดยไม่ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ก่อน แต่จะมีใครที่จะใจกว้างพอยอมรับซื้อโดยวิธีนี้ได้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าอับจนไม่สามารถแก้ไขปัญหาข้อนี้ได้ รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมีแต่ความมืดมนและสิ้นหวัง ดังที่เรียกว่า ความทุกข์ยากของชีวิต หรือความคับแค้นใจอย่างสาหัส[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าเพิ่งประสบรู้รสชาติในครั้งนี้เอง ข้าพเจ้าหาทางออกที่จะหาเงินมาใช้รักษาไข้มารดาผู้บังเกิดเกล้าด้วยวิธีต่างๆ แต่ก็มองเห็นแต่ความล้มเหลว มีแต่ความเศร้าหมองและทุกข์ระทม[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] …….. แต่แล้วขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอยู่ในความมืดแปดด้าน ในบัดดลราวกับปาฏิหาริย์ เหมือนมีสิ่งหนึ่งมาบันดาลใจให้นึกถึงคำว่า [/FONT][FONT=&quot]“นาย”[/FONT][FONT=&quot] นายผู้ซึ่งเคยเป็นนายจ้างของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งเคยออกปากว่าข้าพเจ้าเป็นเด็กเอาถ่าน นายผู้นี้คงจะเป็นที่พึ่งในยามอับจนได้กระมัง ข้าพเจ้ารู้สึกลิงโลดใจขึ้นมาทันที เกิดความหวัง …… แต่ความคิดที่เพิ่งดีอกดีใจนั้นต้องพลันชะงักลงอีกเมื่อนึกได้ว่า ไม่เคยเห็นนายรับจำนองจำนำที่ดินหรือสิ่งใดเพื่อเอาดอกเบี้ยเลย…… ข้าพเจ้าจะทำฉันใดดี เมื่อเกิดความรู้สึกค้านลังเลใจขึ้นมาเช่นนี้ ในที่สุดไม่เห็นว่าจะมีทางออกทางใดจะดีไปกว่านี้ ข้าพเจ้าจึงตกลงใจยอมเสี่ยงดู เป็นความหวังทางเดียวที่มีอยู่เป็นประการสุดท้ายแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ลาจากผู้บังคับบัญชาที่กรมทหารแล้ว ก็รับตรงไปหานายเก่าของข้าพเจ้าพร้อมด้วยโฉนดที่ดิน ปรากฎว่าท่านกำลังว่างไม่มีแขก อยู่ในห้องส่วนตัวแต่ลำพัง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าพยายามทำจิตใจให้สงบระงับความตื่นเต้น เข้าไปขอพบกับท่านเป็นการส่วนตัว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  7. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] เมื่อได้รับอนุญาตแล้วข้าพเจ้าก็เข้าไปหา แสดงกิริยาคารวะและนอบน้อมต่อท่านเหมือนอย่างเคย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือ เธอมีอะไรจะให้ฉันช่วยได้บ้าง”[/FONT]
    [FONT=&quot] นั่นเป็นประโยคแรกที่นายกล่าวแก่ข้าพเจ้า[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เป็นที่น่าประหลาด เพราะถ้อยคำที่กล่าวออกมาเหมือนหนึ่งท่านได้อ่านและรู้จิตใจข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความหวัง คลายความประหม่าลงแล้วข้าพเจ้าก็ฝืนใจเริ่มเรื่องข้าพเจ้าอย่างตรงไปตรงมา[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ท่านนั่งฟังเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเล่าถึงความจำเป็น และความคับแค้น หมดทางดิ้นรนที่จะหาเงินใช้จ่ายรักษามารดาด้วยความสนใจ เมื่อข้าพเจ้าระบายเรื่องให้ท่านฟังโดยละเอียดจบแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจผ่านอุปสรรคไปได้เปราะหนึ่ง แต่ก็ยังอดคิดตำหนิตัวเองไม่ได้ที่พูดตกหล่นในบ้างข้อบางตอน ข้าพเจ้ายังไม่สิ้นความประหม่าและยังไม่เคยชินต่อการอ้อนวอนขอเรื่องการเงินกับใครมาก่อน จึงทำให้พูดผิดๆ ถูกๆ แม้กระนั้นสังเกตได้ว่านายมีความเข้าใจเรื่องของข้าพเจ้าดี[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]นายนั่งตรึกตรองอยู่สักครู่หนึ่งก็กล่าวว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เอาเถิด ฉันตกลงใจให้ความช่วยเหลือตามที่เธอต้องการ และฉันก็ไม่คิดว่าจะต้องจำเป็นไปโอนที่เกษตรอย่างผู้อื่นเขาทำกัน เพราะมันอาจเป็นเหตุกระเทือนใจมารดาของเธออย่างเธอว่า เอาแต่เพียงว่าเธอทำสัญญากู้เงินฉบับเดียว แล้วเอาโฉนดนี้เป็นประกัน ส่วนดอกเบี้ยก็คิดกันตามกฎหมายก็แล้วกัน[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เธอคงรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและไม่เคยรับจำนำจำนองของใครมาก่อนเลย แต่สำหรับเธอ ฉันจะช่วยเป็นพิเศษ เพราะฉันเห็นว่าเธอเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที และประวัติของเธอไม่เคยเป็นคนเหลวไหล[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าน้ำตาคลอด้วยความตื่นตันใจและดีใจ เพราะอุปสรรคอันใหญ่หลวงดุจทิวเมฆทมึนที่ครอบงำชีวิตของข้าพเจ้าให้จมลงในความมืดได้สูญสิ้นไปในฉับพลันทันที ข้าพเจ้าได้พบแสงสว่างอีกครั้งหนึ่งจากเมตตาจิตของนานผู้เป็นเสมือนหนึ่งเทพเจ้าที่กรุณามายกเอาความทุกข์ออกจากอก ข้าพเจ้ากราบท่านแล้วกราบท่านอีกด้วยความปลาบปลื้มใจ และรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณอย่างใจจริง ท่านห้ามมิให้ข้าพเจ้าแสดงกิริยาต่อท่านเกินไป ใบหน้าท่านยิ้มแสดงความเมตตราปรานี และแสดงความพอใจที่ได้ช่วยเด็กจนๆ อย่างข้าพเจ้าให้พ้นความลำบาก เป็นกุศลผลบุญให้ท่านอิ่มใจ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ต่อมาไม่ช้าข้าพเจ้าก็ได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการ การทำหนังสือสัญญานั้นกระทำกันอย่างพอเป็นพิธี ไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขผูกมัดแต่อย่างใด ข้าพเจ้าก็มอบโฉนดที่ดินไว้กับสัญญาตามที่ได้ตกลง ในสัญญาก็ไม่มีกำหนดว่าจะต้องไถ่ถอนคืนเมื่อใด ทั้งนี้ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้งในพระคุณของนายอย่างสุดคณนา[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“เงิน”[/FONT][FONT=&quot] บันดาลให้ได้ยาตามใบสั่งแพทย์ ได้อาหารที่ดีควรแก่การบำรุงผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง เงินที่ได้จากนายเก่าของข้าพเจ้าสามารถช่วยบำบัดให้มารดาค่อยๆ ทุเลาขึ้นเป็นลำดับ จนหายป่วยในเวลาไม่ช้านัก ข้าพเจ้าคอยรอโอกาสให้มารดาได้พักฟื้นจากอาการป่วย จนแน่ใจว่าหายปกติดีแล้ว จึงได้เรียนให้ท่านทราบเรื่องที่นำอาโฉนดบ้านไปจำนองกู้เงินจากนายเก่ามาใช้จ่ายรักษาพยาบาลท่าน และได้ให้คำมั่นสัญญาต่อท่านว่า เมื่อข้าพเจ้าพ้นจากการรับราชการทหารแล้ว จะรีบหางานทำเพื่อนำเอาเงินไปไถ่ถอนคืน ท่านก็ไม่ว่ากระไร[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ในจำนวนเงินที่ได้มาจากการกู้นั้น เมื่อใช้จ่ายเป็นค่ายาค่าหมอและการอื่นๆ แล้ว ยังคงมีเงินเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะเอาเงินจำนวนนี้ไปลงทุนทำกิจการค้าเพื่อให้เกิดกำไร แต่ก็ยังลังเลใจอยู่ไม่อาจทำสิ่งใดที่เป็นการเสี่ยง คิดว่าว่าจะรอโอกาสหาทางต่อไปก่อน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]พอดีวันหนึ่งเพื่อนของข้าพเจ้าผู้หนึ่งมาหาด้วยอาการร้อนรน บอกว่าตัวเขากำลังเข้าที่อับจน [/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]หมดหนทางที่จะพึ่งใครได้แล้ว เนื่องจากได้เอาเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบในหน้าที่การงานไปใช้และกำลังจะถูกสำรวจบัญชี ถ้าหากถูกตรวจพบว่าเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบหายไป ก็ต้องได้รับโทษถึงจำคุก อย่างสถานเบาก็คือ [/FONT][FONT=&quot]“ไล่ออก”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าถามว่าเงินจำนวนนั้นเขานำไปใช้ทำอะไร ก็ได้รับคำตอบว่า ทั้งบัตรและภรรยาเกิดป่วยพร้อมกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องอาการป่วยของบุตรและภรรยาอันเป็นสุดที่รัก แม้จะเป็นการเสี่ยงอันตรายก็จำต้องยอม[/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ารู้สึกสงสารจับใจ เริ่มคิดถึงตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้าต้องประสบกับความอับจนมีทุกข์แสนสาหัสด้วยเรื่องเจ็บไข้ รสชาติของความทุกข์ทน หม่นหมองยังไม่เลือนไปจากความทรงจำ [/FONT][FONT=&quot]คนที่เคยทุกข์มาแล้วย่อมจะเห็นใจกัน[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงตกลงให้ความช่วยเหลือโดยเจียดเงินจำนวนหนึ่งที่มีเหลืออยู่นั้นให้เอาไปแก้ขัดไปพลางก่อน แล้วเพื่อนผู้นั้นก็อำลาจากไปด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ คล้ายกับที่ข้าพเจ้าเคยรู้สึกมาแล้ว เมื่อได้รับความกรุณาจากนายเก่าผู้มีใจอารี[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อข้าพเจ้ารับราชการทหารจนครบกำหนด ก็ได้รับการปลดออกมาเป็นทหารกองหนุน ข้าพเจ้าก็รับไปหานาย เมื่อนายเห็นข้าพเจ้ากลับมาหา มีความยินดีมาก ให้รับข้าพเจ้าเข้าทำงานต่อไป แม้ว่าขณะนั้นยังไม่มีตำแหน่งว่าง ท่านก็ยังมีใจเมตตาข้าพเจ้า[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ในการเข้าทำงานครั้งนี้ นายเรียกตัวข้าพเจ้าเข้าไปรับใช้ในห้องส่วนตัวบ่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็ให้พิมพ์หนังสือ บางครั้งเมื่อเลขานุการของท่านไม่ว่าง ข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่แทน [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าทำงานด้วยความตั้งใจและยึดมั่นในอุดมคติเหมือนเดิม [/FONT][FONT=&quot]ไม่ยอมเอาเวลาของงานไปทำธุรกิจส่วนตัวหรือของผู้ใด บางคราวข้าพเจ้ามีความป่วยไข้ เห็นว่ายังพอทำได้ก็พยายามอดทน ไม่ยอมลาป่วย บางวันนายสังเกตเห็นว่าข้าพเจ้ามีอาการไข้ เรียกเข้าไปถาม ข้าพเจ้าเรียนนายว่า ข้าพเจ้ามีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังพอทำงานได้ แต่นายไม่ยอม สั่งให้ข้าพเจ้ารีบไปหาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา และมีคำสั่งเป็นเชิงบังคับให้ข้าพเจ้าปฏิบัติตามโดยดี และให้ลาหยุดพักผ่อนได้ตามคำสั่งของแพทย์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  8. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]หลังจากเข้าทำงานเวลาผ่านไปประมาณ [/FONT][FONT=&quot]6 เดือน[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าปรึกษากับมารดาและน้องๆ ว่า เงินทีเหลืออยู่กว่าอีกครึ่งของจำนวนที่ขอกู้มา ซึ่งในขั้นแรกตั้งใจว่าจะเอาไปทำการค้านั้น บัดนี้ยังไม่ตกลงใจจะทำประโยชน์ในทางใด จึงควรนำส่งคืนนายเสียก่อน เพื่อเป็นการลดจำนวนเงินต้นที่กู้มา ดอกเบี้ยจะได้ลดลงด้วย ดีกว่าจะเก็บไว้เฉยๆ อนึ่ง ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับเงินจากนายมาแล้ว ก็ได้ส่งดอกเบี้ยตามกฎหมายที่ตกลงกันไว้ให้นายทุกเดือนโดยไม่เคยขาดเลย ตลอดจนเมื่อได้เข้าทำงานกับนายก็ไม่เคยนำดอกไปส่งให้คลาดเคลื่อนเวลา นายก็ไม่เคยทวงถามหรือคิดหักเงินเดือนของข้าพเจ้าไว้ก่อนเลย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ดังนั้นเมื่อท่านเห็นข้าพเจ้านำเงินที่เหลือจากใช้จ่ายรักษามารดาส่งคืนครึ่งหนึ่งก่อน ท่านก็ถามว่า ข้าพเจ้าหมดความจำเป็นจะใช้แล้วหรือ ข้าพเจ้าเรียนท่านว่า บัดนี้ข้าพเจ้าหมดความจำเป็นแล้ว ถ้าจำเป็นเมื่อใดก็จะกราบเรียนขอความกรุณาอีก ท่านก็ยิ้มด้วยความเมตตา นำเอาใบสัญญากู้มาบันทึกสลักหลังว่า ได้ใช้หนี้ผ่อนเงินต้นแล้วครึ่งหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าจำได้ว่าวันเวลาได้ผ่านต่อมาปีหนึ่งก็แล้ว ผ่านปีที่สองก็ตาม ข้าพเจ้ายังอุทิศตนเองให้กับงานของนายด้วยความอุตสาหะ ขยันขันแข็ง ซึ่งข้าพเจ้ามิเคยวิตกกังวลว่าใครจะเห็นใครจะทราบหรือไม่ ข้าพเจ้าดำเนินกิจการในพื้นที่ของข้าพเจ้าเสมอตลอดมา[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] และในระยะ [/FONT][FONT=&quot]2 ปีนี้เอง บรรดาเพื่อนร่วมงานหลายคนต่างก็ได้รับเงินเดือนขึ้น แต่เป็นที่น่าประหลาดใจแก่บุคคลเหล่านั้นที่ได้ทราบว่าข้าพเจ้าไม่ได้รับเงินเดือนขึ้นอย่างคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ประจักษ์แจ้งอยู่ว่าข้าพเจ้าปฏิบัติงานอย่างดีที่สุด เพื่อนร่วมงานบางคนที่เคยมีใจอิจฉาริษยาข้าพเจ้า ในกรณีที่นายแสดงความเมตตาปรานีเป็นพิเศษ เรียกใช้สอยอย่างใกล้ชิด ก็พากันคลายหายจากการรู้สึกริษยามาเป็นความรู้สึกเมตตาสงสารแทน ในกรณที่ข้าพเจ้าไม่ได้เงินเดือนขึ้นเหมือนคนทั้งหมด[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]แท้จริงในจิตใจของข้าพเจ้าไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจหรือผิดหวังแต่ประการใด เพราะข้าพเจ้าแน่ใจอยู่เสมอว่า นายมีความรักใคร่เมตตาข้าพเจ้าเป็นพิเศษ[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เคยให้ความอุปการะมามากพออยู่แล้ว ข้าพเจ้ายึดถือท่านเสมือนหนึ่งผู้มีพระคุณประหนึ่งบิดาของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าใช้เหตุผลเหล่านี้ส่งเสริมกำลังใจมิให้ท้อถอยต่อการงาน ข้าพเจ้าไม่เคยตำหนิหรือนินทาไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] และในทำนองเดียวกัน ข้าพเจ้าก็มิได้นำเรื่องซึ่งคนอื่นนินทาไปเสนอเพื่อหาความชอบ โดยคิดเสียว่าบุคคลเหล่านั้นกระทำไปด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา นายต้องมีสติปัญญาดีพอที่จะรู้ว่าใครดีใครชั่ว มิฉะนั้นคงปกครองคนจำนวนมากให้เป็นระเบียบไม่ได้ ถ้าหากข้าพเจ้านำความไปฟ้อง แน่นอนเหลือเกินข้าพเจ้าต้องมีศัตรู และยิ่งว่านั้นครอบครัวของผู้ที่ถูกฟ้องมิได้รู้เห็นด้วย อาจพลอยได้รับเคราะห์ในการกระทำของข้าพเจ้า จึงสงบใจปฏิบัติแต่งานในหน้าที่ของข้าพเจ้าอย่างเดียว[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]วันหนึ่งนายเรียกข้าพเจ้าเข้าไปในห้องส่วนตัว สั่งให้ทำงานพิมพ์หนังสือพิเศษด่วน[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ขณะที่กำลังพิมพ์หนังสือ นายบอกข้าพเจ้าว่าจะออกไปทำธุรกิจนอกสถานที่ ให้ข้าพเจ้าอยู่ทำงานในห้องนั้นแต่ผู้เดียว แล้วนายก็ปลดเสื้อออกจากขอแขวนเสื้อมาห้อยไว้ที่ไหล่ แล้วก็เดินออกไป ข้าพเจ้าก็พิมพ์งานต่อไป[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ในทันใดนั้นก็เหลือบสายตาไปที่ริมประตูทางออกที่นายเพิ่งเดินออกไปเมื่อสักครู่ มีซองบรรจุธนบัตรตกอยู่[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้ามองเห็นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นของนายทำตกไว้ จึงเก็บซองนั้นมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของนาย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] จนกระทั่งบ่าย นายกลับมาเห็นข้าพเจ้ายังนั่งพิมพ์หนังสืออยู่ ก็ถามว่ายังไม่ออกไปหาอาหารรับประทานหรือ ข้าพเจ้าเรียนตอบว่างานพิมพ์หนังสือยังไม่เสร็จ นายเลยไล่ให้ข้าพเจ้าออกไปรับประทานอาหารกลางวันเสียก่อนด้วยความเมตตาสงสาร[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้ารีบรับประทานอาหารแล้วก็กลับเข้าไปทำงานต่อ เห็นนายนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะของท่าน นายแสดงความข้องใจที่ข้าพเจ้าเก็บซองธนบัตรไว้ให้ และบอกว่าไม่นึกจะได้คืน เพราะเข้าใจว่าตกหายข้างนอกสำนักงาน ทั้งวันนี้ก็เดินไปในสถานที่หลายแห่งในท้องที่สำเพ็ง ไม่ทราบว่าจะทำตกที่ไหน จึงเข้าใจว่าสูญหายเสียแล้ว[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าเพียงแต่รู้สึกสบายใจ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ที่ได้ปฏิบัติตัวเป็นประโยชน์และซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ต่อจากนั้นไม่นานโดยมิได้คาดฝันมาก่อน นายได้ป่วยหนักลงอย่างกะทันหัน[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้รับทราบด้วยความกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าไม่มีความสบายใจเลยเมื่อได้ทราบข่าว พยายามไปถึงที่บ้านก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ เพราะแพทย์ห้ามเยี่ยม และคนในบ้านก็คอยระมัดระวังมิให้ผู้ใดเข้าเยี่ยม หรือทำความรบกวนผู้ป่วยได้ ข้าพเจ้าต่องกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงและผิดหวัง เกิดความวิตกไปหลายอย่างหลายประการว่า ถ้าหากสิ้นนายใจอารีผู้นี้แล้ว ข้าพเจ้าคงลำบากแน่ ไม่แต่เรื่องงาน ยังมีโฉนดที่บ้านซึ่งยังค้างการจำนองอยู่กับท่าน ถ้าผู้ที่ได้รับมรดกจากท่านไม่มีใจเมตตาอารีเหมือนอย่างที่นายมีต่อข้าพเจ้า เขาก็คงจะต้องเร่งให้ไถ่ถอนคืนเป็นแน่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  9. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] ข้าพเจ้าหนักใจก็เพราะเงินจำนวนที่ยังค้างอยู่อีกครึ่งหนึ่งนั้น ข้าพเจ้าได้ให้เพื่อนยืมไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคงใช้จ่ายในการป่วยของมารดาบังเกิดเกล้า และการเรียนของน้องๆในยามข้าพเจ้าไปรับใช้ชาติ จึงยังเก็บเงินไม่ได้เท่าใดนัก ถ้าหากข้าพเจ้าถูกเร่งรัดให้ใช้หนี้ในเวลาเช่นนั้น ไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครเพื่อหาเงินก้อนนั้นมาใช้หนี้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] วันหนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ด้วยความเศร้าใจ และคอยสดับตรับฟังอาการของนายอยู่ตลอดเวลา ได้ทราบว่าอาการของท่านไม่ดีขึ้นเลย ข้าพเจ้ามีความเศร้าหมองและทุกข์ร้อนราวกับว่าบิดาบังเกิดเกล้าของข้าพเจ้ากำลังป่วยหนัก [/FONT][FONT=&quot]แต่ในขณะที่เฝ้ารอค่อยข่าวคราวของนายนั้นเอง มีผู้โทรศัพท์จากบ้านนายสั่งให้ข้าพเจ้ารับไปเยี่ยมนาย เนื่องจากนายต้องการพบตัว[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าแทบจะโลดออกไปด้วยความดีใจที่จะได้พบนาย เพราะได้เวียนไปเยี่ยมหลายครั้งแล้วไม่ได้พบเลย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ทันทีที่ถึงบ้านนาย[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]มีผู้นำข้าพเจ้าไปที่ห้องนายนอนป่วย ข้าพเจ้าค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียงที่ท่านนอน มองเห็นสภาพสังขารของนายที่ถูกโรคภัยเบียดเบียน ชั่วเวลาไม่กี่วันรู้สึกว่าผ่ายผอมลงมากจนผิดตา ข้าพเจ้าสงสารท่านจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ภายในห้องนั้นมีบุคคลอยู่อีกผู้หนึ่ง เข้าใจว่าเป็นพยาบาลคอยเฝ้าดูแลอาการ[/FONT][FONT=&quot] เมื่อนายเห็นข้าพเจ้าเข้าไปหา ก็ยกมือบอกใบ้พยาบาลคนนั้นให้ออกไปจากห้อง ให้เหลืออยู่แต่ข้าพเจ้ากับท่านเพียงสองคนเท่านั้น[/FONT]
    [FONT=&quot] ต่อจากนั้นนายก็พยายามพูดด้วยเสียงอันแหบแห้งแผ่วเบาให้ข้าพเจ้าหยิบของที่โต๊ะข้างเตียง สังเกตได้ตามมือที่ท่านชี้ไปทางโต๊ะตัวนั้น ที่นั้นเห็นมีซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ผนึกครั่งเรียบร้อย เข้าใจว่าข้างในซองนั้นคงจะมีเอกสารมากมาย ข้าพเจ้าหยิบขึ้นมาดูก็เห็นหนังสือจ่าหน้าซองถึงตัวข้าพเจ้า ทำให้รู้สึกงงงันอยู่ชั่วครู่ จึงหันไปดูนาย เห็นท่านโบกมือคล้ายกับว่าให้ข้าพเจ้าเอาซองนั้นไป แล้วก็กวักมือให้ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ๆ ตัวท่าน พลางพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่าให้เอากลับไปอ่านที่บ้าน ในนั้นมีจดหมายของนายที่ได้เขียนไว้เมื่อล้มเจ็บใหม่ๆ ตั้งใจว่าจะให้ข้าพเจ้านายแล้ว ทั้งที่ค่อยให้มาเยี่ยมก็ไม่เห็นมาสักที[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าเรียนตอบท่านว่า ข้าพเจ้าได้มาคอยขออนุญาตเข้าเยี่ยมหลายครั้งหลายหนแล้วก็ไม่ได้รับอนุญาต ในส่วนตัวข้าพเจ้าแล้ว สำหรับคำสั่งของนายไม่ว่าการนั้นๆ จะยากง่ายประการใด ข้าพเจ้าจะพลีตนทำให้เพื่อสนองพระเดชพระคุณนายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ชีวิตข้าพเจ้าก็พลีเพื่อนายได้[/FONT]
    [FONT=&quot] นายฟังข้าพเจ้าเข้าใจดี ไม่กล่าวสิ่งเพียงแต่พยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ ข้าพเจ้านิ่งพิจารณาเค้าหน้าตลอดสังขารเรือนร่างของนายแล้วรู้สึกสงสารจับใจ และคิดว่าหากสามารถรับความเจ็บป่วยทรมานมาเป็นของข้าพเจ้าได้เองแล้ว ก็เต็มใจอย่างที่สุดที่จะรับมาเสียเอง เพื่อมิให้ท่านต้องทุกข์ทรมานกายอย่างที่แลเห็นอยู่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ทันใดนั้น นายแพทย์ใหญ่ประจำตัวก็เข้ามาในห้อง มีสีหน้าแสดงความไม่พอใจในการที่ข้าพเจ้าเข้ามารบกวนผู้ป่วย เป็นการฝืนคำสั่งของแพทย์ นายแลเห็นกิริยาของนายแพทย์เช่นนั้น ก็บอกว่าท่านต้องการพบตัวข้าพเจ้าเป็นพิเศษ สีหน้าของนายแพทย์จึงคลายความเครียดลง ข้าพเจ้าจึงต้องกราบลานายด้วยความอาลัยและห่วงอย่างยิ่ง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เมื่อกลับมาถึงบ้านก็นำซองนั้นมาเปิดดู[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot] นึกสงสัยว่าในนั้นจะมีเรื่องสำคัญอย่างใดเกี่ยวกับตัวข้าพเจ้าบ้าง ความคิดของข้าพเจ้ากำลังวิตกกังวลอยู่กับการป่วยไข้ของนาย และเกี่ยวกับการงานบ้าง ทำให้นั่งซึม มองดูซองนั้นด้วยความรู้สึกเลื่อนลอยเป็นครู่ใหญ่[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]แล้วข้าพเจ้าก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเปิดซองออก ในนั้นมีธนบัตรเป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยโฉนดที่ดินและใบสัญญากู้เงินที่ข้าพเจ้าทำไว้กับนายเมื่อยังรับราชการอยู่ นอกจากนี้ยังมีจดหมายสอดอยู่ด้วยอีกหนึ่งฉบับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เมื่อค่อยคลายความตื่นเต้นลงบ้างแล้ว ก็เก็บธนบัตรและใบโฉนดไว้ในซองใหญ่ตามเดิม เปิดซองจดหมายของนายออกมาอ่านทันที[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ในจดหมายมีใจความสำคัญบางตอน ซึ่งข้าพเจ้าคัดเลือกมาเสนอที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]“ก่อนอื่น ฉันขอมอบโฉนดที่ดิน สัญญากู้เงิน พร้อมทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น ที่เธอได้นำมามอบต่อฉัน คืนให้กับเธอเป็นกรรมสิทธิ์ของเธอ ฉะนั้นตั้งแต่บัดนี้ไม่มีหนี้สินเกี่ยวกัน และไม่มีข้อผูกมัดระหว่างกันด้วยเรื่องเงินกู้และที่ดิน พร้อมด้วยบ้านของเธอกับฉันต่อไป[/FONT]
    [FONT=&quot] ฉันคิดว่าเธอคงแปลกใจ จึงขอให้เธอทราบไว้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เธอเห็นอยู่นั้น เป็นรางวัลความดีที่เธอได้ประพฤติปฏิบัติ ฉันขอชมว่าเธอมีคุณลักษณะเป็นลูกที่ดีของมารดา เป็นพี่ที่ดีของน้องๆ เป็นคนงานที่ดีของนายจ้าง และเป็นมิตรที่ดีของเพื่อนฝูงทั่วไป การที่ฉันยกย่องว่าเธอเป็นลูกที่ดีของมารดานั้น เพราะฉันได้ทราบว่าเธอเป็นผู้มีความเคารพ ความกตัญญูต่อพระคุณของมารดาบังเกิดเกล้า เมื่อยามที่มารดาป่วยไข้ได้ความทุกข์ เธอก็ได้ทำหน้าที่ของเธอเยี่ยงบุตรที่ดี ไม่ทอดทิ้งห่างไกล คอยดูแลด้วยความห่วงใย อยู่พยาบาลรักษาจนสุดกำลัง[/FONT]
     
  10. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] สำหรับความเป็นพี่ที่ดีของน้องนั้น เธอก็ได้ทำตนเป็นผู้คุ้มครองสอดส่องดูแลทุกข์สุข ให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ได้เล่าเรียนวิชาความรู้ คอยช่วยเหลือเป็นกำลังใจในการศึกษา ด้วยความรักใคร่เอ็นดูน้องอย่างดีตลอดมา[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] สำหรับประการที่เธอทำตนเป็นเพื่อนที่ดีนั้น ฉันทราบมาว่าเธอไม่เคยประทุษร้ายเพื่อนผู้ใดทั้งต่อหน้าและลับหลัง เมื่อมีเพื่อนคนใดได้รับความทุกข์ร้อนมาหา เธอก็ได้พยายามช่วยเหลือปลอบใจให้คำแนะนำที่ถูกและที่ควร เธอคงจะแปลกใจในการที่ฉันได้ทราบความเคลื่อนไหวของเธออยู่ตลอดทุกระยะ ทั้งในหน้าที่การงานและนอกเวลางาน มิใช่แต่เพียงฉันจะทราบความเคลื่อนไหวเฉพาะตัวเธอเท่านั้น ยังมีคนงานอื่นๆ อีกหลายคนที่อยู่ในสายตาของฉันทั้งนอกและในเวลางาน เธอคงตำหนิว่าฉันนี้ไร้มารยาทที่ได้กระทำตนก้าวก่ายเข้าไปยุ่งในเรื่องส่วนตัวผู้อื่น นอกเหนือไปจากการงานหน้าที่และตำแหน่ง ถ้าเธอได้มีโอกาสมาเป็นเช่นที่ตัวฉันกำลังเป็นอยู่นี้ เธอจะต้องเห็นด้วยทีเดียวว่าผู้ที่เป็นนายจ้างต้องรับผิดชอบต่อผลประโยชน์ของกิจการและคุ้มครองความเป็นอยู่ของคนงาน มิใช้แต่เพียงจำนวนคนงานภายใต้บังคับบัญชาเท่านั้น หน้าที่ของเขายังต้องโยงไปถึงครอบครัวของคนงานทุกคนด้วย ปกติคนงานแต่ละคนที่จะนำเอาสมรรถภาพของตนมาทำงานนั้น จำต้องมีรากฐานความเป็นอยู่ดี กินดี ซึ่งมาจากครอบครัวเป็นพื้นก่อน ถ้าหากทางครอบครัวมีแต่ความอลเวง อันประกอบไปด้วยความไม่ปกติสุขแล้ว บุคคลนั้นจะมีกำลังใจประกอบธุรกิจการงานนั้นๆ ด้วยสมรรถภาพอย่างดีได้อย่างไร ที่กล่าวมานี้หวังว่าเธอคงจะเข้าใจดี เพราะตัวของเธอเองเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว มารดาของเธอป่วย เธอก็มีจิตใจกังวลแบ่งไปวุ่นวายด้วยการป่วย การรักษา สมรรถภาพการทำงานของเธอถูกแบ่งไปแล้ว จึงจำเป็นที่ฉันจะต้องคอยสืบเสาะช่วยเหลือคนงานที่ดีของฉันไว้ เพื่อให้เขาคลายความกังวล หันมาปฏิบัติงานด้วยจิตใจอันเป็นปกติ งานการในหน้าที่ปราศจากความบกพร่องดังกล่าวมานี้ ถ้าฉันนิ่งไว้ไม่บอกเธอว่าฉันทราบความเคลื่อนไหวของเธอและคนงานอื่นๆ สิ่งต่างๆ ก็ดูว่าจะเป็นไปโดยธรรมชาติเสียหมด แต่ฉันมาเล็งเห็นความดีของเธอที่เป็นสิ่งประหลาดหาได้ยากในคนงานจำนวนมาก จึงสมควรที่จะเล่าให้ทราบไว้ เพื่อเป็นอนุสติต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อมีโอกาสได้เป็นผู้รับผิดชอบต่อผลประโยชน์อันเนื่องด้วยบุคคลจำนวนมากอย่างที่ฉันกระทำอยู่ดี คงจะได้ทำเอาไปประพฤติปฏิบัติเป็นแนวทางต่อไป[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] อนึ่ง เธอคิดว่าเมื่อฉันทราบดีว่ามีใครดีใครเลวอยู่ในวงการงานที่ฉันรับผิดชอบอยู่ แล้วเหตุไรฉันจึงยังไม่จัดการให้เขาออกไปเสีย เพื่อหาคนที่ประพฤติดีกว่ามาทำงาน เป็นการที่จะได้ทั้งคนดีและเงินเดือนก็จ่ายน้อยกว่าด้วย สำหรับผู้อื่นนั้นทำเช่นว่าก็เป็นการถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพของกิจการ แต่ฉันเป็นพุทธมามกะ ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมและเมตตาธรรม เพราะคนพวกนี้มีลูกมีเมีย บางคนก็มีแม่ที่ต้องเลี้ยงดูอุปการะ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ความประพฤติของเขาไม่น่าจะได้รับอภัย ฉะนั้นถ้าถูกลงโทษไล่ออก ความเดือดร้อนของทางครอบครัวก็จะต้องเกิดขึ้นตามมาทันที อีกหลายชีวิตจะต้องรับความลำเค็ญขมขื่น ฉันไม่ปรารถนาจะให้เป็นไปด้วยการกระทำด้วยความเด็ดขาดอย่างนั้นเลย ประการแรกที่ฉันจะก็คือ แสดงตนว่าฉันได้รู้เห็นเหตุการณ์อันเกี่ยวเนื่องกับความประพฤติของเขา และให้คำแนะนำตักเตือน เมื่อตักเตือนแล้วก็ค่อยสืบต่อไป โดยมากเมื่อตักเตือนแล้วก็ทำให้สำนึกตัวในความผิด กลับใจได้ และยิ่งรู้ว่าตนเองอยู่ในสายตาของผู้เป็นนายซึ่งคอยดูแลความเคลื่อนไหวอยู่ทุกระยะ ก็เกิดความเกรงใจ กลับตัวกลับใจเป็นคนรักลูกรักเมีย การเที่ยวเตร่ สุรุ่ยสุร่ายก็บรรเทาลงได้ เพราะได้คิดว่า ถ้าต้องว่างงาน ก็หมายถึงความอดอยากและลำบากด้วยประการต่างๆ คนเช่นนี้ ควรได้รับการให้อภัยและสรรเสริญ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] บุคคลอีกจำพวกหนึ่ง เมื่อได้รับคำตักเตือนแล้วไม่แต่เพียงทำเฉย ไม่ยอมกลับตัว กลับซ้ำติเตียนนินทาเมื่ออยู่ลับหลังนายจ้าง บ่นว่าด้วยเรื่องร้อยแปดประการ บางคนว่าพ่อแม่ยังไม่กล้ามาว่ามาบังคบ คนอื่นดีวิเศษอย่างไร่จะมีสิทธิ์มาบังคับได้ เขาหารู้ไม่ว่าคำตักเตือนนั้นมีความเมตตาปรารถนาดี มีคุณค่าสูง เขาจะหวังสิ่งเหล่านี้จากใครได้ ถ้าหาดผู้ที่เป็นพ่อแม่ก็ให้ไม่ได้ หรือเมื่อให้ก็ไม่รับ ถ้าเขาไม่ติดอยู่ในอารมณ์ฝ่ายต่ำแล้วจะเห็นคุณค่าของคำเตือน ฉะนั้นเมื่อเตือนครั้งแล้วครั้งเล่ายังไม่เกิดผลดีขึ้น ฉันก็จำต้องวางใจเป็นอุเบกขา จัดการไปตามที่เห็นสมควร เพื่อเป็นการป้องกันความหายนะของส่วนรวม ก็ต้องรับกรรมที่ตนได้ทำไว้ ส่วนผู้ที่ประพฤติดี ขยันทั้งนอกและในเวลาทำงาน เมื่อได้ประสบความลำบาก บุคคลพวกนี้สมควรจะได้รับความอุปการะช่วยเหลือ เพราะคุณงามความดีเป็นเครื่องตอบแทน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] เธอเป็นผู้มีกตัญญูต่อผู้มีคุณ เอาใจใส่ดูแลมารดายามป่วยไข้ ปกครองเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่น้องด้วยความรักและเมตตา ขยันต่อการงานไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลังนาย มีความสุจริตต่อหน้าที่ ฉันไม่ขึ้นเงินเดือนให้เธอทั้งที่เธอทำงานด้วยความขยันขันแข็งมาเป็นปีๆ เธอก็มิได้แสดงความน้อยใจ บ่น นินทา หรือละความขยันให้น้อยลง คงทำงานด้วยความอดทนมั่นคงเช่นเดิม แม้จะมีใครช่วนให้เธอร่วมนินทาเธอก็ไม่ยอมร่วมเช่นคนอื่นบางคน ฉันรู้ดี ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้มั่นอยู่ในความกตัญญูดังที่ฉันให้ความช่วยเหลือเมื่อมารดาป่วย ขณะที่กำลังเป็นทหารอยู่ และการที่ไม่ขึ้นเงินเดือนให้ก็เพราะต้องการศึกษาจิตใจของเธอว่า จะมีความรู้สึกอดทน มี่จิตใจหนักแน่นเพียงไร และฉันก็ทราบอยู่ว่าทางบ้านของเธอในเวลานั้นก็ยังไม่มีความเดือดร้อนอย่างไร และเป็นการบรรเทาความอิจฉาริษยาของผู้อื่นที่มีต่อเธอให้หมดไป หวังว่าเธอคงจำได้ที่เก็บซองธนบัตรที่ฉันทำตก เธอนำมาวางบนโต๊ะทำงาน ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เปิดดูว่าในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง เธอเป็นคนดีที่ไม่ยอมทำตนเป็นคนสอดรู้สอดเห็นเหมือนคนอื่น เพราะฉันทำเครื่องหมายลับไว้ ถ้าใครเปิดซองออกดูฉันจะต้องทราบได้ทันที ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนการของฉันเหมือนกัน พฤติการณ์ของเธอเหล่านี้ทำให้ฉันมีความรักเอ็นดูรักใคร่เธอเหมือนลูกหลานของฉัน เพราะฉะนั้นความดีของเธอจึงควรมีรางวัลเป็นการตอบแทน ดังที่ฉันได้จัดการตามที่เธอเห็นปรากฏอยู่เดี๋ยวนี้ และฉันมีความสบายใจ หมดห่วง เมื่อทุกอย่างที่ฉันปรารถนาได้ถึงมือของเธอโดยเรียบร้อย และฉันก็เป็นสุขใจในบั้นปลายของชีวิต ฉันจะตายอย่างเป็นสุข ฉันมั่นใจว่าฉันได้กระทำสิ่งที่ถูกต้อง ในสิ่งที่ฉันพอใจทุกอย่าง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  11. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot] ประการสุดท้ายที่ฉันจะขอเธอในจดหมายนี้ก็คือ ขอให้เธอรักษาความดีและทำความดีไว้ให้เพิ่มพูน ความดีนั้นจะสนองตลอดไป เธอก็ยังเป็นโสดอยู่และเธอก็มีฐานะที่จะมีครอบครัวได้แล้ว แต่เสียใจฉันไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่เห็นความเจริญของครอบครัวเธอ แต่ฉันขออวยพรให้เธอได้ประสบคู่ครองที่ถูกใจ มีคุณธรรมความดีเสมอด้วยตัวเธอ และจงมีความสุขความเจริญตลอดไป[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]จากผู้มีความรักและความหวังดีต่อเธอ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ต่อจากนั้นมา [/FONT][FONT=&quot]2-3 วัน ขณะที่ข้าพเจ้านั่งรับประทานอาหารเช้า เสียงวิทยุภาคเช้ากำลังออกอากาศด้วยเพลงและข่าว แล้วก็ถึงรายงานพิเศษต่างๆ ทันใดนั้นข้าพเจ้ารู้สึกเสียววูบเข้าหัวใจประหนึ่งสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา แล้วข้าพเจ้าก็มีอาการหน้ามืดล้มจากโต๊ะอาหารสู่พื้นแล้วก็ปราศจากความรู้สึก …[/FONT]
    [FONT=&quot] มารู้สึกตัวเมื่อเห็นมารดาและน้องๆ มาห้อมล้อม ข้าพเจ้าไม่สนใจว่าจะเป็นใครบ้าง น้ำตาข้าพเจ้าไหลพร่างพรูอย่างสุดฝืน เหลือที่จะหักความเศร้าโศกเสียใจไว้ได้ นายได้จากข้าพเจ้าไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ นายผู้มีเมตตาปรานีให้ไม่เฉพาะเพียงแต่ข้าพเจ้า หากแต่ความกรุณาของนายนั้นยื่นให้แก่ทุกคนที่เป็นผู้น้อยภายใต้บังคับบัญชา ที่ทำความดีให้ท่านเห็นใจ ขอวิญญาณที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ จงสถิต ณ สุคติภพเถิด[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าเป็นลมเพราะ[/FONT][FONT=&quot]…[/FONT]
    [FONT=&quot]ได้ยินเสียงวิทยุประกาศข่าวมรณกรรมของนายผู้มีใจอารี[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]บัดนี้นายที่ข้าพเจ้ารักยิ่งชีวิต นายที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือสูงสุด [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]นายเหมือนพระที่ข้าพเจ้าเคารพบูชาด้วยใจบริสุทธิ๋[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]นายเหมือนบิดาบังเกิดเกล้าของข้าพเจ้า[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]บัดนี้ท่านได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมาอีกแล้ว[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าจะหาคนใจดีอย่างนายไม่พบอีกแล้วในชาตินี้ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าสะอื้นร้องไห้เหมือนเด็กทารกอย่างหมดยางอาย มารดาและน้องต่างก็พากันร้องไห้อาลัยนาย ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักและเห็นตัวนายของข้าพเจ้ามาก่อนเลย แต่ทุกคนรู้จักความดีที่น้อยได้แผ่ความเมตตากรุณาให้มาเท่านั้น[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] พอความเศร้าโศกค่อยบรรเทาลงบ้าง ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจแล้วก็ทรุดตัวลงกราบมารดาแล้วบอกว่า ข้าพเจ้าจะขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เพื่อบุญกุศลอันบริสุทธิ์ที่จะได้อุทิศให้แก่นาย เพราะท่านได้สิ้นบุญไปแล้ว เราไม่มีโอกาสที่จะตอบแทนพระคุณของท่านโดยตรงได้ ขอให้ท่านอนุโมทนาและอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้บวชตามความประสงค์ด้วย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] มารดาลูบศีรษะของข้าพเจ้าด้วยความรักและเอ็นดู บอกว่าท่านเห็นชอบและอนุญาตให้บวชตามความประสงค์ ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่ง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] ท่านกล่าวว่า ข้าพเจ้าคิดดีแล้ว ถูกแล้ว ที่จะตอบแทนพระคุณนายด้วยวิธีอันสูงด้วยปัญญาอย่างนี้ ความดีที่ทำนี้ไม่มีวันสูญสิ้น และท่านเองจะไว้ทุกข์กับนายเป็นเวลา [/FONT][FONT=&quot]6 เดือน ความดีที่แล้วมาได้สนองให้ทันตาเห็นแล้ว ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆ เถิด [/FONT]
    [FONT=&quot] ข้าพเจ้าก้มลงกราบรับพรของมารดาด้วยความตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]จดหมายฉบับนั้น [/FONT][FONT=&quot]…[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือนายครั้งหลังสุด[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]…ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายของท่าน[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านำเอาไปบรรจุหีบอย่างดีเก็บไว้บนที่สูง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับกราบไหว้สักการบูชา [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]แทนตัวนายของข้าพเจ้าตราบเท่าทุกวันนี้[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะนอกจากจะเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงนายแล้ว[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ยังบรรจุข้อความอันมีค่าอย่างล้นเหลือควรแก่การกำหนดจดจำ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับบุคคลทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้าง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]โดยเฉพาะสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]จดหมายฉบับนี้ทรงคุณค่าอันสูงล้ำ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เหมือนหนึ่ง [/FONT][FONT=&quot]“มรดกชิ้นสุดท้าย”[/FONT][FONT=&quot] ที่นายมอบไว้ให้ก่อนตาย[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ข้าพเจ้าเห็นว่าเรื่องราวของท่านผู้นี้ยังสารประโยชน์ในเชิงอุทาหรณ์ เป็นเครื่องเตือนใจแก่บรรดาบุคคลผู้อยู่ในฐานะดังที่ท่านเจ้าของเรื่องได้กล่าวไว้ จึงนำมาเสนอท่านผู้อ่าน[/FONT]


    [​IMG]
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  12. Libra_ding

    Libra_ding Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +98
    เป็นเรื่องราวที่น่าอ่านมาก
    แฝงไปด้วย คุณธรรม และอีกหลายๆประการ
    รออ่านต่อ นะครับ
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  13. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    [FONT=&quot]ครั้งหนึ่งในชีวิต [/FONT]
    [FONT=&quot]โดย ท.เลียงพิบูลย์ [/FONT]


    [FONT=&quot]ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเขียนเรื่อง [/FONT][FONT=&quot]“ครั้งหนึ่งในชีวิต”[/FONT][FONT=&quot] นี้ อยากจะเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ข้าพเจ้าเคยได้พบชายลึกลับผู้หนึ่ง ซึ่งมีผิวกายเป็นสีนาก รูปร่างล่ำสันงดงาม นุ่งขาวห่มขาว กิริยาท่าทางสง่า น่าเลื่อมใสข้าพเจ้าเรียกชายผู้นี้ว่า “ท่านลุง” ชายผู้นี้มีบทบาทพัวพันในชีวิตข้าพเจ้า ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกที่เมืองลพบุรี และอีกครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาล แต่ข้าพเจ้าหาทราบนามจริงของท่านไม่แม้กระทั่งบัดนี้ [/FONT]

    [FONT=&quot]“ท่านลุง”[/FONT][FONT=&quot] ได้นำข้าพเจ้าไปประสบกับสิ่งที่เร้นลับ และมหัศจรรย์ ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าไม่เคยยอมเชื่อสิ่งใดที่ไม่มีเหตุผล ทังนี้เพราะเมื่อเด็กข้าพเจ้ายึดถือคำของ “ท่านใหญ่” พระองค์หนึ่งซึ่งเคยสอนไว้ว่า “ให้พิจารณาดูเหตุและผลก่อนที่จะเชื่อสิ่งใดลงไป” แต่แล้วข้าพเจ้าก็พบเหตุการณ์อันแปลกประหลาด จนยากที่จะตัดสินใจยอมรับว่าเป็นความจริงหรือไม่ ท่ามกลางอารยธรรมสมัยใหม่ และความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ หมดสมัยที่จะเชื่อถือย่างงมงาย แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถจะพิสูจน์ หรือคลี่คลายเรื่องวิญญาณหรือภูตผีปีศาจ ให้แจ่มชัดลงไปได้ ยังเป็นสิ่งลึกลับที่ไม่มีใครอธิบายได้ และคงเป็นความลึกลับต่อไป [/FONT]

    [FONT=&quot]ครั้งนั้น [/FONT][FONT=&quot]“ท่านลุง”[/FONT][FONT=&quot] ได้ให้ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่า จะไม่นำสิ่งที่ได้พบเห็น เมื่อข้าพเจ้าป่วยอยู่โรงพยาบาลไปบอกเล่ากับผู้หนึ่งผู้ใด จนกว่าจะถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะมีครอบครัว ทั้งในเวลานั้นอายุของข้าพเจ้าเพิ่งจะผ่านการครบบวชไม่กี่ปี สัญญานี้จึงเป็นสัญญาที่ข้าพเจ้ายังมองไม่เห็นโอกาส ที่จะเปิดเผยเล่าเรื่องลี้ลับมหัศจรรย์นี้ได้ แต่เมื่อเวลาวันเดือนค่อยๆ ผ่านไปเป็นปีแล้วปีเล่า [/FONT]

    [FONT=&quot]จนบัดนี้เวลานั้นก็ได้มาถึงแล้ว ได้เกิดมีครบตามข้อผูกพันสัญญานั้นก็หมดสิ้นไป ข้าพเจ้ามีสิทธิ์ที่จะเปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองที่โรงพยาบาลให้ท่านทราบ เพื่อให้ [/FONT][FONT=&quot]“ครั้งหนึ่งในชีวิต”[/FONT][FONT=&quot] สมบูรณ์ยิ่งขึ้น [/FONT]

    [FONT=&quot]ก่อนเขียนเรื่องนี้ ข้าพเจ้าไม่ลืมที่จะจุดธูปเทียนบูชาระลึกถึง พระพุทธรูปทองคำลึกลับที่ให้ข้อเตือนใจ นึกถึงหลวงพ่อที่ให้ความคุ้มครองในการเจ็บป่วยครั้งนี้ และอีกท่านหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าจะลืมเสียมิได้นี้คือ [/FONT][FONT=&quot]“ท่านลุง”[/FONT][FONT=&quot] ชายประหลาด ผู้ซึ่งให้ความปรานีได้กรุณาอธิบายให้ความรู้ในสิ่งต่างๆ ที่ได้ไปพบมา ข้าพเจ้าก้มลงกราบนิ่งกับพื้นหน้าพระ สำรวมจิตใจให้สงบอธิษฐานขออนุญาตจากท่านว่า ขอให้ท่านจงดลบันดาลให้สมองของข้าพเจ้าปลอดโปร่งนึกถึงเรื่อง “ครั้งหนึ่งในชีวิต” [/FONT]

    [FONT=&quot]การเขียนครั้งนี้ขอเรียนว่ามิได้มีเจตนาจะเสียดสีสังคม หรือเพื่อนฝูงผู้หนึ่งผู้ใด หรือท่านที่เคารพนับถือเลย เขียนขึ้นตามที่ได้ประสบมา และตามความเป็นไปในอดีต หากท่านผู้ใดได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจจากการอ่านเรื่องนี้แล้ว ข้าพเจ้าจำเป็นต้องขออภัยที่มิได้มุ่งหมายจะให้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่มุ่งจะชี้ให้เห็นถึงผลความดีและกรรมชั่วครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมาแล้ว และการที่นำเอานามจริงของท่านที่เคารพบางคนเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย โดยมิได้ขออนุญาตจากท่านเจ้าของนามก่อน ก็ต้องขออภัยมาในที่นี้ด้วย หวังว่าเมื่อท่านได้อ่าน [/FONT][FONT=&quot]“ครั้งหนึ่งในชีวิต” แล้วท่านคงจะกรุณา ข้าพเจ้าจะขอเริ่มเรื่องดังต่อไปนี้ [/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อปีมะเส็ง เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ข้าพเจ้าตั้งใจจะออกเดินทางจากรุงเทพฯ ไปภาคเหนือโดยขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ [/FONT][FONT=&quot]– ปากน้ำโพ และเริ่มพักแรมที่ลพบุรีเป็นแห่งแรก ต่อจากนั้นก็จะไปพักเป็นระยะๆ ไป จนถึงสถานีปลายทางคือ เชียงใหม่แล้วก็จะกลับกรุงเทพฯ โดยขบวนรถด่วนเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ เมื่อขึ้นไปบนรถไฟสายกรุงเทพฯ – ปากน้ำโพ วันออกเดินทางข้าพเจ้าก็ได้พบกับคุณหมอบนรถไฟ เมื่อทักทายกันแล้วก็ได้ทราบว่าคุณหมอก็จะไปเชียงใหม่ และคงพักแรมที่ลพบุรีเช่นเดียวกัน [/FONT]

    [FONT=&quot]แต่คุณหมอจะแวะลงสถานีบ้านหมี่ เพราะมีธุระที่โรงหนังในตลาด ส่วนข้าพเจ้านั้นไม่ได้ตั้งใจแต่เดิม แต่เมื่อตกลงจะร่วมเดินทางกันแล้วควรจะแวะลงเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งทั้งไม่เสียเวลานานนัก เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว พอรถหยุดถึงสถานีลพบุรี เราก็หยุดลงพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งหลังสถานีรถไฟ เมื่อติดต่อเช่าห้องพักกันคนละห้อง และเก็บเข้าของกระเป๋าเดินทางไว้แล้ว เราก็ออกเดินไปเที่ยวที่ตลาดแวะเยี่ยมเยียนร้านค้าที่คุ้นเคย พอสมควรเวลาเราก็กลับไปโรงแรมที่พักเพื่ออาบน้ำ และทานอาหารค่ำ หลังอาหารเราก็สนทนากันอีกเล็กน้อย แล้วจึงแยกกันเข้าห้องเพื่อพักผ่อนหลับนอนเอาแรง รุ่งเช้าจะได้ออกเดินทางโดยรถไฟจากลพบุรีต่อไป [/FONT]

    [FONT=&quot]คืนวันนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่าเป็นคืนวันเพ็ญเป็นวันสำคัญของศาสนาพุทธ ท้องฟ้าแจ่มใสปราศจากเมฆหมอกดวงจันทร์ทอแสงส่องสว่างนวลเย็นตา แสงจันทร์ส่องเข้าในห้องทางหน้าต่างที่เปิดไว้รับลม ทำให้ดูนวลสว่างทั่วพื้นห้องเห็นจะเป็นเพราะเหตุนี้เอง ที่ทำให้ข้าพเจ้านอนไม่หลับ ต้องลุกขึ้นมายืนพิงหน้าต่างในห้องพักโรงแรมชมจันทร์ สิ่งที่มองเห็นเบื้องหน้าคือบริเวณลพบุรียามราตรีท่ามกลางแสงจันทร์ คิดว่าคงทำให้สว่างไสวไปทั้งเมือง มองดูสบายใจยิ่งนัก จิตใจของข้าพเจ้าเวลานั้นเพลิดเพลินและเบิกบานใจเป็นที่สุด [/FONT]

    [FONT=&quot]แสงอันนวลกระจ่างของดวงเดือนทำให้ข้าพเจ้าสามารถมองได้ไกลออกไป เห็นโบราณสถานซึ่งปรักหักพังได้อย่างชัดเจน เห็นเอาไม้เสาจำนวนมากยันค้ำจุนส่วนบนมิให้พังลงมาก่อนจะซ่อมแซม ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะนึกวาดมโนภาพ ถึงเมื่อครั้งอดีตโบราณกาล จิตใจก็เลื่อนลอยเข้าไปอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองของลพบุรี สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช [/FONT]

    [FONT=&quot]ในสมัยนั้นลพบุรีคงเป็นเมืองที่สง่างามเด่น เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเมือง และสะดุดตาในความงามของผู้พบเห็น เพราะมีทั้งศิลปวัตถุของขอมและของไทยอีกทั้งของตะวันตก บ้านเมืองคงเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยสะอาด เพราะได้ชาวต่างประเทศมาวางผังเมือง ความเป็นอยู่ของประชาชนคงจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพราะมีองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชปกครองแผ่นดิน และเป็นมิ่งขวัญของชาวเมืองลพบุรี [/FONT]

    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านิ่งนึกฝันไปก็ยิ่งเพลิดเพลิน จนกระทั่งเดือนเริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ยามดึกอากาศก็ยิ่งทวีความเยือกเย็นขึ้นเป็นลำดับ ข้าพเจ้าไม่อยากจะนอนเสียดายความงามของดวงจันทร์ ที่แจ่มกระจ่างราวกับกลางวัน แต่เมื่อคิดได้ว่า เราต้องออกเดินทางแต่เช้าตรู่ จึงจำใจต้องเข้านอนและในไม่ช้าก็หลับไป [/FONT]

    [FONT=&quot]ข้าพเจ้ามารู้สึกตัวว่าได้มายืนที่ประตูเมือง ท่ามกลางดวงเดือนอันสุกสกาว มองเห็นปราสาทราชวังอยู่เบื้องหน้างดงามภายใต้แสงจันทร์ จนยากที่จะบรรยายเป็นตัวอักษรได้ ตามทางถนนเรียงรายไปด้วยพันธุ์ไม้ที่ปลูกไว้สองฟากเป็นระเบียบ จะว่าเป็นเมืองลพบุรีก็ไม่มีเค้าว่าจะใช่เลย เพราะสวยงามคนละแบบกว่าที่ข้าพเจ้าเคยนึกวาดภาพเมืองลพบุรีเอาไว้มาก น่าประหลาดที่ตามถนนจะหาผู้คนหรือสัตว์ไม่ได้เลย คงมีแต่ข้าพเจ้าคนเดียวยืนชมปราสาทราชวัง ซึ่งอยู่เบื้องหน้าอย่างเพลิดเพลิน ได้ยินเสียงเพลงคล้ายมโหรีขับกล่อมลอยมาแผ่วๆ จากปราสาท ช่างไพเราะอย่างที่ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินได้ฟังที่ไหนมาก่อนเลย ทำให้จิตใจเคลิบเคลิ้มไป [/FONT]

    [FONT=&quot]มารู้สึกตัวต่อเมื่อมีมือมาจับแขน หันไปดูก็เห็นชายผู้หนึ่งนุ่งขาวห่มขาวผิวเนื้อเป็นสีนาก ไม่เหมือนสีเนื้อของคนธรรมดา มองดูแปลกตาน่าพิศวง ขณะที่มองดูท่านเพลิดเพลินอยู่ ข้าพเจ้าก็ได้ยินชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า [/FONT]



    [FONT=&quot](มีต่อ 1)[/FONT]
     
  14. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]“มา ไปกับลุงเถิดหลานชาย”[/FONT][FONT=&quot] แล้วท่านผู้นั้นก็ฉุดมือข้าพเจ้าออกเดิน ข้าพเจ้าเดินตามท่านไปราวกับต้องมนต์สะกดพอรู้สึกตัวจึงถามว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ท่านลุงจะพาผมไปไหน”[/FONT][FONT=&quot] ชายผู้นั้นหันมายิ้มปล่อยมือข้าพเจ้าตอบว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ลุงจะพาไปหาพระ”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าเดินตามท่านไปอย่างว่าง่าย เพราะคำว่าไปหาพระข้าพเจ้าถือเป็นมงคล และนำไปสู่ทางแห่งความดี คงจะไม่มีอันตราย พระย่อมนำความร่มเย็นและเป็นที่พึ่งทางใจของทุกๆ คนที่อยู่ในร่มเงาแห่งพุทธศาสนา สังเกตดูรู้สึกว่าชายผู้นั้นรูปร่างล่ำสัน สูงใหญ่ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ ยังไม่แก่พอที่ข้าพเจ้าสมควรจะเรียกว่าลุงเลย แต่ท่านเองเป็นผู้นำให้ข้าพเจ้าเรียกลุง ข้าพเจ้าเรียกคงจะเรียกท่านไม่เกินกว่า พี่ อา หรือน้า เป็นแน่ ขณะข้าพเจ้ากำลังนึกเปรียบเทียบอายุของท่านกับข้าพเจ้าอยู่ก็ต้องสะดุ้งเพราะท่านได้หันมาบอกว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“อย่ามัวนึกว่าลุงไม่แก่อยู่เลย เสียเวลา ความจริงอายุของลุงมากมายนับไม่ได้ทีเดียว รีบเดินเข้าเถิด ประเดี๋ยวเดือนจะตก” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้ามิได้พูดอะไรอีก นอกจากรีบเดินตามท่านไป เบื้องหน้ามองเห็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่ไกลลิบๆ แต่เราช่างเดินกันรวดเร็วเสียนี่กระไร เพียงครู่เดียว เราก็ทิ้งภูผาใหญ่นั้นไว้เบื้องหลัง เราผ่านทั้งป่าละเมาะ ทุ่งหญ้าและลำธารแสงจันทร์สว่าง มองเห็นทางได้ชัดเจน และแล้วข้าพเจ้าก็มองเห็นโบสถ์สูงใหญ่ และสวยงามอยู่ตรงหน้าท่ามกลางแสงเดือน ข้าพเจ้าเดินตามติดท่านลุงเข้าไปในโบสถ์ มองเห็นพระพุทธรูปทองคำเหลืองอร่ามทั้งองค์ ยืนเป็นประธานอยู่กลางโบสถ์ พระหัตถ์เบื้องขวายื่นแบออกมาเบื้องหน้า เข้าใจว่าเป็นปางห้ามญาติ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านลุงผู้นั้นคลานเข้าไปตรงหน้าพระพุทธรูป แล้วนั่งลงกราบสามครั้ง ข้าพเจ้าก็คลานตามไปแล้วก้มลงกราบอยู่ข้างๆ ท่านลุง ในโบสถ์อันกว้างใหญ่นั้นไม่มีสิ่งที่มีชีวิตเคลื่อนไหวได้เลย นอกจากข้าพเจ้าและท่านลุง ภายในโบสถ์สว่างไสวไปทั่วบริเวณ แต่มองดูจนทั่วไม่เห็นมีประทีปโคมไฟอยู่เลย พอข้าพเจ้าเงยหย้าขึ้นมองดูพระพักตร์พระพุทธรูปองค์นั้นก็เห็นท่านกำลังยิ้ม และทันใดนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงออกมาจากโอษฐ์ของพระองค์ท่าน เป็นเสียงที่นิ่มนวลและอ่อนโยน แต่ทรงไว้ซึ่งอำนาจ น้ำเสียงกังวานจับใจว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“อันบุคคลใดสร้างกรรมดี ความดีนั้นจะตามสนอง หากสร้างกรรมชั่ว ความชั่วก็ย่อมสนองเช่นเดียวกัน” พอเสียงนั้นหยุดลงก็มีเหมือนเสียงพระจำนวนมาก ร้องขึ้นพร้อมกันว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” [/FONT][FONT=&quot]เสียงนั้นดังกังวาน [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าตกใจ เพราะเสียงดังสะท้อนก้องกังวานกลับมาทั่วโบสถ์ ดังเป็นระยะว่า [/FONT][FONT=&quot]“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วๆๆๆๆๆๆ” [/FONT][FONT=&quot]เป็นละลอกคลื่นและค่อยๆ จางหายไป ข้าพเจ้าตกตะลึง เพราะไม่เคยเห็นพระพุทธรูปตรัสได้ และไม่เคยได้ยินเสียงสะท้อนดังเช่นนี้มาก่อน แม้จะเคยได้ยินมาบ้างก็ไม่สะท้อนกังวานนานเช่นนี้ และแล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินอีกเป็นเสียงธรรมดาเหมือนพระพุทธรูปพูดองค์เดียวว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“จงทิ้งความชั่ว และสร้างแต่ความดี”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้ามีความชั่วความชั่วอะไรแน่ ข้าพเจ้ากำลังจะอ้าปากถาม เสียงนั้นก็บอกมาอีกว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เอาไปคิดดู เอาไปคิดดู”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าหันมาถามท่านลุงเพื่อจะถามท่านว่า ข้าพเจ้ามีอะไรที่ชั่วบ้าง แต่ก็ยังไม่ทันจะถามท่านลุงรีบบอกเสียก่อนว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เอาไปคิดดูตามที่ท่านบอก”[/FONT][FONT=&quot] และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้พบกับท่าน [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อข้าพเจ้าลืมตาตื่นขั้น จนย่ำรุ่งแล้ว จึงรู้ว่าตัวเองยังนอนอยู่ที่โรงแรมที่พัก แต่กระนั้นหูก็ยังได้ยินเสียงสะท้อนในโบสถ์อยู่แว่วๆ พอดีได้ยินเสียงข้างห้องดังกุกๆ กักๆ ก็ทราบว่าคุณหมอได้ตื่นขึ้นก่อนแล้ว หลังจากที่เราได้ขึ้นมาบนรถไฟเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าก็เล่าเรื่องความฝันให้คุณหมอฟังบางตอน [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“จะไปเชื่ออะไรกับความฝัน”[/FONT][FONT=&quot] คุณหมอบอก [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านิ่งมิได้พูดอะไรอีก แต่ในใจนั้นนึกถึงเหตุผลของความฝันครั้งนี้ เปรียบเทียบดูแล้วเห็นว่าผิดกว่าความฝันครั้งก่อนๆ มาก ยากจะพูดว่าข้าพเจ้าเคยฝันทั่วๆ ไปนั้นโดยมากเป็นความฝันที่เลือนลาง จับต้นชนปลายไม่ถูกหรือไม่ได้เรื่องได้ราว บางครั้งพอตื่นขึ้นก็ลืมเหตุการณ์ที่ฝันหมด ความรู้สึกเหมือนว่าเวลาฝันเราเพียงเห็นเงาในน้ำไม่ชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่ความฝันของข้าพเจ้าที่ได้พบท่านลุงนั้นแปลกกว่าธรรมดา เหมือนมองดูเห็นภาพในเงากระจก แม้จะไม่เท่ากับเวลาตื่น แต่ก็รู้สึกว่าแจ่มแจ้งและจำได้อย่างแม่นยำกว่าความฝันธรรมดา [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]อาจกล่าวได้ว่าความฝันเช่นนี้ในชีวิตของข้าพเจ้าที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่ครั้ง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนช่างคิดอยู่สักหน่อย เมื่อนั่งมาในรถมีเวลาว่างก็คิดถึงแต่เสียงสะท้อนที่ก้องกังวานไปทั่วโบสถ์ เมื่อตัวเราตะโกนออกไปว่า [/FONT][FONT=&quot]“ดี”[/FONT][FONT=&quot] เสียงสะท้อนก็ดังกลับมาว่า [/FONT][FONT=&quot]“ดี”[/FONT][FONT=&quot] และดังนานกว่าที่เราพูดเพียงคำเดียว ถ้าเราตะโกนว่า [/FONT][FONT=&quot]“ชั่ว”[/FONT][FONT=&quot] เสียงนั้นก็ดังสะท้อนกลับมาว่า [/FONT][FONT=&quot]“ชั่ว”[/FONT][FONT=&quot] เช่นเดียวกัน เราตะโกนดังเสียงนั้นก็ดังกังวานมาก เราตะโกนค่อยเสียงนั้นก็กังวานน้อย เพียงแต่เสียงก็ยังมีการสะท้อนเช่นกัน [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าหากว่าการกระทำกรรมดีหรือกรรมชั่วคงจะส่งผลสะท้อนดุจเดียวกัน จากความประสบการณ์และนึกคิดในครั้งนั้นเอง ข้าพเจ้าจึงได้นำมาเป็นชื่อหนังสือเล่มแรก ที่ข้าพเจ้าเขียนขึ้นว่า [/FONT][FONT=&quot]“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ซึ่งบรรดาเพื่อนฝูง และท่านที่เคารพนับถือหลายท่านได้ให้ความเห็นว่า เป็นชื่อที่ไม่สมกับเรื่องภายในหนังสือ ควรเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ เพราะทำให้ผู้ที่เห็นแต่หน้าปกอ่านชื่อเรื่องแล้วชวนไม่ให้อยากอ่าน เพราะเข้าใจว่าเป็นการสอนให้ทำดี เพราะคนส่วนมากไม่ชอบให้ใครสอน [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าเคยอธิบายเพียงย่อๆ แต่บัดนี้ท่านย่อมเห็นแล้วว่าชื่อนี้ข้าพเจ้าได้มาอย่างไร และหนังสือ [/FONT][FONT=&quot]“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”[/FONT][FONT=&quot] นี้ได้สร้างความพอใจและความสบายใจให้แก่ข้าพเจ้า แล้วการเดินทางไปภาคเหนือครั้งนั้นเป็นด้วยความเรียบร้อย และเป็นที่พอใจทุกประการจนกระทั่งกลับกรุงเทพฯ [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 2)[/FONT]
     
  15. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ข้าพเจ้าก็หาได้ลืมความฝันที่ลพบุรีไม่ พยายามสำรวจตัวเองว่า ข้าพเจ้ากระทำหรือกำลังจะกระทำสิ่งใดที่จะเรียกว่าความชั่ว แต่ก็นึกไม่ออก แม้ข้าพเจ้าจะไม่ได้ทำบุญสิ่งใดเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ไม่เคยสร้างบาป เคยแต่ช่วยเหลือเพื่อนฝูงยามเดือดร้อนเท่าที่จะช่วยได้ ทั้งไม่เคยทำให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะข้าพเจ้า แม้เพื่อนฝูงบางคนจะทำให้ข้าพเจ้าผิดหวังก็พร้อมที่จะอภัยให้เสมอ ส่วนบาปกรรมอื่นๆ ก็ยังมองไม่เห็น ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพยายามที่จะไม่ยอมให้ความชั่วร้ายใดๆ เกิดแก่จิตใจของข้าพเจ้าได้ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]หลังจากกลับจากภาคเหนือได้ประมาณ ๓ เดือน คือราวเดือนสิงหาคม มีเพื่อนคนหนึ่งจะย้ายไปต่างจังหวัดโดยคำสั่งทางราชการ ก่อนจะออกเดินทางพวกเพื่อนๆ ก็ได้จัดให้มีการเลี้ยงส่งที่ภัตตาคารห้อยเทียนเหลา (ซึ่งเวลานั้นยังอยู่ตรอกตั้งโต๊ะกัง ภายหลังเพลิงไหม้จึงย้าย) การเลี้ยงคืนนี้มีบรรดาเพื่อนฝูงทั้งข้าราชการ พ่อค้า และคหบดีไปร่วมด้วยหลายท่านมีการดื่มก่อนอาหาร ซึ่งก็เป็นของธรรมดา เพื่อนฝูงต่างก็รินเหล้าผสมโซดาแจกจ่ายกัน ตามแต่จะชอบหนา หรือบางส่วนผู้ที่ไม่ใช่คอสุราก็ใช้น้ำหวาน หรือโซดา แทนดื่มพอเป็นเพื่อนกันไป [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับตัวข้าพเจ้าในเรื่องการดื่มก็ไม่ยอมน้อยหน้าใครเหมือนกัน แต่เผอิญงานเลี้ยงครั้งนี้อยู่ในระหว่างเข้าพรรษาซึ่งเป็นเวลาที่ข้าพเจ้างดดื่มเป็นเวลา ๓ เดือน ตลอดเวลาเข้าพรรษาจึงได้แต่ดื่มโซดาเปล่าๆ แทน และนั่งมองเพื่อนๆ ซึ่งดื่มกันอย่างสนุกสนาน [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ระยะของการดื่ม ทุกคนก็ยังรักษามารยาทตลอดจนการพูดจาก็เรียบร้อย รู้จักผู้ใหญ่และรู้จักสิ่งใดไม่ควร แต่พอดื่มเข้าไปตึงๆ หน้าตาก็พลอยชักตึงไปด้วย เสียงที่พูดดังกว่าเดิมการพูดมากขึ้น ความเกรงอกเกรงใจ และมารยาทที่ได้รักษาไว้ในตอนแรกก็ค่อยๆ น้อยลงตามลำดับ จิตใจค่อยๆ ตกอยู่ภายใต้อำนาจของน้ำเมา ความรู้สึกผิดชอบก็ค่อยๆ หมดไป ผิดจากคนเดิมเป็นคนละคน แสดงความสนุกสนานอย่างสลึมสลือครึ่งหลับครึ่งตื่นสติไม่อยู่กับตัว เปรียบเสมือนคนครึ่งบ้าครึ่งดีนั่นเอง [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าเห็นเพื่อนคนหนึ่งเดินตัวไม่ตรง ยังอุตส่าห์เที่ยวท้าชนแก้วกับคนโน้นคนนี้ให้ยุ่งไปหมด พูดจาเอะอะเสียงดัง บางครั้งอ้อแอ้เสียงลิ้นคับปาก ใครไม่ยอมชนแก้วดื่มด้วยก็เอ็ดตะโร ว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งตามปกติเวลาไม่เมาเป็นคนที่เรียบร้อยสุภาพเป็นคนละคนกันกับเวลาเมา ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วก็หวนกลับมาคิดถึงตัวเอง ก็รู้สึกเกิดความละอายใจ คิดว่าถ้าข้าพเจ้าเมาแล้วก็คงมีท่าทางไม่น้อยไปกว่าเพื่อนคนนี้ หรืออาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำ ข้าพเจ้ายิ่งคิดก็ยิ่งอึดอัดไม่สบายใจ จึงลุกขึ้นจากโต๊ะ ตั้งใจจะหาที่สงบๆ ที่สามารถจะไประบายความอึดอัดนี้ออกเสียบ้าง [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่พอลุกขึ้นเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเพื่อนคนหนึ่งท่าทางเมาไม่ใช่น้อย เดินตุปัดตุเป๋เข้ามาขวางทางไว้ แล้วถามว่าจะไปไหน ข้าพเจ้าบอกว่าจะไปห้องน้ำ แล้วก็จะเลี่ยงไปให้พ้น แต่เพื่อนผู้นั้นไม่ยอม พยายามชวนพูดคุยด้วยเสียงอ้อแอ้ลิ้นไก่สั้น เสียงดังบ้างค่อยบ้าง เพราะฤทธิ์สุราจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง เมื่อเห็นข้าพเจ้าทำท่ากระสับกระส่ายด้วยความรำคาญ พยายามเบี่ยงไปไม่ฟังแกพูด แกก็ใช้มือตะปบอกเสื้อเอาไว้ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า คำพูที่แกพูดออกมาผสมกับลมหายใจที่คละไปด้วยกลิ่นเหล้า พ่นใส่หน้าข้าพเจ้าจนหายใจแทบไม่ออก แกถามว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ทำไมวันนี้ลื้อไม่กินเหล้าวะ ?” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าตอบว่า [/FONT][FONT=&quot]“หยุดดื่มเพราะเข้าพรรษา”[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]แกพูดอย่างไม่พอใจว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไม่ได้ ไม่ได้ หยุดทำไมกันวะ ลื้อต้องกิน อั๊วจะผสมให้”[/FONT][FONT=&quot] พูดแล้วก็ปล่อยมือจากอกเสื้อของข้าพเจ้า หันไปหยิบขวดเหล้าและแก้วจากโต๊ะใกล้ๆ ทำท่าจะผสม ข้าพเจ้าถือโอกาสนั้นรีบหลบมาที่เฉลียง เพื่อรับลมเย็นและระบายความอึดอัด ทั้งขอให้ได้ห่างจากกลิ่นเหล้าควันบุหรี่ และเสียงเอะอะของคนเมาสักครู่ อดคิดถึงตัวเองเวลาเมาไม่ได้ คนอื่นเขาคงรำคาญเช่นกัน ขณะที่กำลังอมองดูยวดยานที่สัญจรไปมาอยู่เบื้องล่างก็มีมือมาโอบหลังข้าพเจ้าไว้ เมื่อหันไปดูก็เห็นเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งในจำพวกไม่ยอมเมา ปากคาบซิการ์ยืนยิ้มอยู่ เขาสัพยอกว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เป็นไง คืนนี้ไม่เมากับเขาหรือ” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงตอบว่า [/FONT][FONT=&quot]“งดดื่มเวลาเข้าพรรษา”[/FONT][FONT=&quot] เขาถามอีกว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“มีเหตุผลอะไร เวลาเข้าพรรษาจึงไม่ดื่ม” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงตอบว่า [/FONT][FONT=&quot]“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากนัก เพียงแต่อยากจะตรวจสอบดูว่า จิตใจเรายังเข้มแข็งดีหรือว่าตกเป็นทาสน้ำเมาไปแล้ว”[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ไอ้การตกเป็นทาสน้ำเมาเป็นยังไง ?”[/FONT][FONT=&quot] เขาถามต่อไปอีก [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“การตกเป็นทาสน้ำเมานั้น คือหยุดดื่มไม่ได้ เพียงแต่เห็นขวดเหล้าก็มีความกระหาย อยากดื่มจนมือไม้สั่นรินเหล้าแทบไม่ทัน อวัยวะต่างๆ ในตัวก็เคลื่อนไหวผิดปกติไป แต่พอได้ดื่มแล้วอาการที่ผิดปกติเหล่านั้นก็หายไป แต่ถ้าไม่ได้ดื่มก็ทุรนทุรายไม่มีความสุข นี่คืออาการของคนที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจน้ำเมา [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เหตุผลอีกข้อหนึ่งของผมที่ไม่ดื่มเหล้าเวลาเข้าพรรษา ก็เห็นจะเป็นเหตุผลทางศาสนา ถึงแม้ว่าตามปกติเราจะไม่ใช่คนที่ดีนัก แต่เพียงเวลา ๓ เดือน ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากดื่มตลอดปี นอกจากนั้นเข้าพรรษาเป็นหน้าฝน เราส่วนมากก็อยู่ตามตรอกตามซอย ฝนตกถนนก็เลอะเป็นโคลนตมและลื่น (สมัยก่อนนั้น หน้าฝนตามตรอกซอยเต็มไปด้วยโคลนตม) ขนาดคนดีๆ เดินระวังๆ ก็ยังเดินลำบาก แล้วคุณลองคิดดูซิว่า คนเมาจะเดินลำบากแค่ไหน ซ้ำถ้าฝนตกเปียกดึกๆ ดื่นๆ พอดีพอร้ายเลยเป็นปอดบวม อย่างน้อยก็เป็นหวัด[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] เพื่อนผู้นั้นพอได้ฟังเหตุผลของข้าพเจ้าแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เข้าทีดีนี่ เหตุผลของคุณ”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าก็ยิ้ม แต่แล้วก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเขาพูดต่อไปว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ไอ้พวกขี้เมาคืนนี้ นิวแซนซ์ฉิบหายเลย ผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนดีหน่อยที่ไม่เมาด้วย ไม่งั้นคงได้เห็นคุณเอาขันใส่น้ำแข็ง ครอบหัวเต้นระบำเหมือนคราวก่อนอีก” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะตอบว่ายังไง นึกละอายใจที่ยังมีผู้อุตส่าห์จำความเหี้ยเอาไว้ คืนนี้ข้าพเจ้าต้องคิดมากกว่า ทำไมหนอเพื่อนคนนี้จึงเรียกเพื่อนๆ ว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไอ้พวกขี้เมา นิวแซนซ์ฉิบหาย”[/FONT][FONT=&quot] มันเป็นคำที่ออกจะแรงสำหรับเพื่อนฝูงกัน ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักกันใช้คำนี้ก็คงรู้สึกชังหน้ากันมาก [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 3)[/FONT]
     
  16. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]แล้วข้าพเจ้าก็นึกออกว่า ก่อนที่เขาจะออกมาคุยกับข้าพเจ้านั้น เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเมาและเที่ยวท้าชนแก้วกับเขาว่าใครจะดื่มหมดก่อนกัน เพื่อนผู้นี้เป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทโดยไม่ยอมเมา และไม่ขอสู้ในการดื่มเพราะมันจะเด่นในทางชั่ว คนที่ท้าชนแก้วก็ไม่พอใจยืนถือแก้วเหล้าเก้ ๆ กัง ๆ และจะเป็นด้วยเจตนาแกล้งหรือบังเอิญก็ไม่ทราบ เหล้าที่เขาถือได้หกราดกางเกงเพื่อนผู้นี้ไปแถบหนึ่ง [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เขาจึงหลบมาระบายอารมณ์อันขุ่นมัวข้างนอกเช่นเดียวกับข้าพเจ้า และเมื่อไม่มีใครก็ระบายออกให้ข้าพเจ้าฟัง อย่างไรก็ตามคำที่เขาว่าพวกขี้เมา เขาจะหมายถึงคนที่ขี้เมาที่อยู่ในกลุ่มนั้นคือเพื่อนๆ แต่ข้าพเจ้าก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าในเวลานี้ข้าพเจ้าจะไม่เมาและคำพูดก็มิได้หมายถึงข้าพเจ้าไปด้วย แต่ข้าพเจ้าก็เคยเป็นคนขี้เมา คนที่กำลังสนุกสนานด้วยฤทธิ์น้ำเมาคงไม่มีใครทราบว่า มีใครเขาพูดถึงตนว่าอย่างไร [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คนเราเวลาไม่เมาก็น่านับถือเพราะสติอยู่กับตัว รู้จักควบคุมตัว คนก็ยกย่องเรียกท่านนั่นคุณนี่ แต่พอเมาไร้สติเอะอะเอ็ดตะโร ก่อความรำคาญแก่คนอื่น เขาก็เรียกรวมเป็นพวกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไอ้พวกขี้เมา” ยิ่งถ้าไปทำความเดือดร้อนให้เขาไม่พอใจหน่อย ก็ไม่พ้นที่จะดูถูกลับหลัง ข้าพเจ้าบอกไม่ถูกว่าสะเทือนใจเพียงใดที่ได้ฟังคำนี้ รู้สึกว่าผู้พูดออกมานั้นแสดงการหมดความเคารพนับถือและดูหมิ่นรังเกียจไปในตัวด้วย ข้าพเจ้าเองก็คงจะเคยโดนมาแล้ว ระหว่างที่เมาและก็คงไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าใครว่าเราด่าแช่งเรา เพราะไม่มีใครบอกเช่นเดียวกับเพื่อนที่เมาในเวลานี้ ข้าพเจ้าก็ไม่บอกเพราะมันจะมากเรื่อง [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น ข้าพเจ้านอนไม่หลับนึกถึงท่าทางของคนเมา และก็หวนกลับมาคิดถึงตัวเอง เวลาที่ข้าพเจ้าเมากลับมาบ้านมักจะอาเจียนออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทานอาหารเข้าไปกี่มากน้อย ร้อนถึงแม่ต้องลุกขึ้นมาต้มน้ำร้อนเช็ดตัวให้ เพราะข้าพเจ้าเองนั้นลุกไม่ไหว ได้แต่นอนคายอาหารเก่า ถ้าแม่เอากระโถนมารับไม่ทันก็เลอะเทอะไปหมดทุกที ทำให้แม่ต้องลำบากอดตาหลับขับตานอน ทรมานกายเพราะความเมาของข้าพเจ้า แต่แม่ก็ไม่ว่าอะไรนอกจากเตือนว่าอย่าดื่มให้มากนัก ดื่มแต่พอสมควร ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นโทษของน้ำเมา [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านอนกระสับกระส่าย อยู่จนดึก เสียงกังวานของพระพุทธรูปที่ลพบุรียังติดแน่นอยู่กับโสตประสาทมิรู้ลืม นึกไปนึกมาก็ยิ่งเห็นเด่นชัดขึ้นทุกที อา ! ข้าพเจ้านึกได้แล้วความชั่วในตัวข้าพเจ้าแล้ว ความชั่วที่ผิดศีลข้อ ๕ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อนึกถึงเช่นนั้นข้าพเจ้าตั้งใจเด็ดขาดแล้วว่าเลิกดื่มเหล้า เมื่อคิดได้เช่นนี้จิตใจก็ค่อยสบายขึ้น อุปมาเหมือนคนที่ตกอยู่ในความมืด เมื่อพบแสงสว่างก็มีแต่ความยินดีและชุ่มชื่นใจ และในไม่ช้าข้าพเจ้าก็หลับอย่างเป็นสุข [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ต่อมาในปลายเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ซึ่งเลยวันออกพรรษามาแล้ว ข้าพเจ้าได้รับบัตรเชิญในงานขึ้นบ้านใหม่ พร้อมกับทำบุญวันเกิดของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง และซ้ำยังเป็นคอเหล้าด้วย ครั้งแรกข้าพเจ้าตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะไปร่วมงานหรือไม่ เพราะได้ตั้งใจแล้วว่า จะเลิกดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาด แต่ยังไม่ได้บอกเพื่อนฝูงให้รู้ ข้าพเจ้าไม่แน่ใจตนเองว่าจะใจแข็งปฏิเสธคำคะยั้นคะยอของเพื่อนได้หรือไม่ ถ้าจะไปงานคราวนี้ เพราะบรรดาพวกเพื่อนๆ ต่างก็มั่นหมายไว้ว่า ออกพรรษาแล้วจะดื่มกับข้าพเจ้าให้เต็มที่สักที [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เวลาข้าพเจ้าเมาเหล้าทุกครั้งทุกคราวก็กลายเป็นคนตลกคะนองไม่ค่อยมีความละอาย ไม่เป็นตัวของตัวเองซึ่งในเวลาไม่เมาทำไม่ได้ จึงเป็นที่พอใจของเพื่อนๆ ขี้เมาด้วยกัน ตอนเข้าพรรษาพวกเขาก็พากันบ่นว่าขาดคนดื่ม คือ ข้าพเจ้าไปเสียคนหนึ่งหมดสนุกไปเป็นกอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเป็นการลำบากใจสำหรับที่จะบอกกับเขาเหล่านั้นว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“บัดนี้อั๊วเลิกดื่มอย่างเด็ดขาดแล้ว”[/FONT][FONT=&quot] เขาคงจะไม่ยอมฟังเสียงข้าพเจ้าแน่ ยิ่งเวลาเมาแล้วยิ่งพูดกันไม่รู้เรื่องจะอธิบายเท่าใดก็คงไม่มีประโยชน์ ข้าพเจ้าคิดว่างานนี้จะไม่ไป เพียงแต่จะส่งของขวัญไปให้ แล้วค่อยเขียนจดหมายบอกเหตุแห่งการตัดสินใจเลิกดื่มไปให้เพื่อนทราบภายหลัง แต่อีกใจหนึ่งก็ค้านว่ามันจะเป็นการหักโหมจนเกินไป ถ้าอยู่ดีๆ ก็หายไปไม่ยอมพบหน้าเพื่อนฝูงซึ่งเสียแรงคบกันมาเป็นปีๆ เคยร่วมทุกข์ ร่วมสนุกกอดคอดื่มกันมานับครั้งไม่ถ้วน เลยคิดว่าควรจะไปดีกว่า และได้บอกกล่าวเพื่อนฝูงที่อยู่พร้อมหน้าเสียทีเดียวให้ทราบว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าขออำลาจากสมาชิกเครื่องดองของเมาแล้วอย่างเด็ดขาด เพราะมันเป็นอบายมุข หรือทางแห่งความชั่วที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง ที่ใครดื่มอ้างว่าเพื่อโน่นเพื่อนี่ก็เป็นเพียงเข้าข้างตัวผู้ที่อยากดื่มเท่านั้น คิดดูแล้วเห็นว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ดีใจก็ดื่มเหล้าเสียใจก็ดื่มเหล้า ดื่มได้ทุกเวลาและทุกงาน นอกจากจะทำให้เสียทั้งเงินเสียเวลาและเสียเกียรติ แล้วยังพลอยทำให้ร่างกายทรุดโทรมไปอีกด้วย ในที่สุดข้าพเจ้าก็ตัดสินใจแน่นอนว่าจะไป เพื่อจะได้ประกาศความตั้งใจ และเหตุผลไปในตัวด้วย และควรจะพยายามชี้แจงโทษของน้ำเมา เพื่อให้เพื่อนๆ ทราบ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ครั้นถึงกำหนด เมื่อไปถึงบ้านงานก็ได้พบเพื่อนผู้เป็นเจ้าภาพออกมายืนรับแขกที่หน้าประตูใหญ่ เมื่อเขาแลเห็นข้าพเจ้าและแสดงอาการดีใจ ตรงเข้ามาตบไหล่อย่างสนิทสนม หัวเราะและพูดว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“วันนี้ขอให้เต็มที่หน่อยนะ ออกพรรษาแล้วนี่ โน่นพวกเราอยู่ทางเรือนต้นไม้แนะ วันนี้จัดไว้เป็นพิเศษ”[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มแห้งๆ หลุดปากออกมาว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไม่..... อั๊วไม่ .....”[/FONT][FONT=&quot] เจ้าภาพมองหน้าข้าพเจ้าอย่างสงสัย พอดีมีแขกคนอื่นเดินมา เขาจึงละความสนใจจากข้าพเจ้า หันไปต้อนรับแขกต่อไป เมื่อเข้าไปในสนามก็เห็นแขกอื่นๆ ทยอยกันเข้ามาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อข้าพเจ้าตรงไปเคารพบิดาของเพื่อนพร้อมของขวัญ ท่านก็ให้ศีลให้พร แล้วข้าพเจ้าเดินออกมาไปร่วมนั่งกับแขกที่ได้รับเชิญ นึกในใจว่าเป็นการถูกต้องที่ตัดสินใจมาในงานนี้ หากว่าจะไม่ดื่มเหล้า แต่สนุกไปกับพวกเมาเหล้าก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องพลอยดื่มไปด้วยเช่นเวลาเข้าพรรษายังพลอยสนุก โดยไม่ได้ดื่ม การที่จะออกปากบอกเลิกดื่มทันทีมันก็ค่อนข้างลำบาก และพูดไม่ค่อยออกเพราะยังกระดาก [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 4)[/FONT]
     
  17. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]แม้ข้าพเจ้าจะไม่ได้ตกเป็นทาสของน้ำเมาก็จริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่เคยชอบ และข้าพเจ้าก็เป็นคนขี้เกรงใจเพื่อนฝูงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขณะที่กำลังเดินคิดหาวิธีอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อข้าพเจ้า เมื่อหันไปดูก็เห็นเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งรู้จักสนิทสนมกันมาก อายุแก่กว่าข้าพเจ้าและเรารู้จักรักใคร่มาแต่เด็กๆ ข้าพเจ้านับถือเสมือนพี่ชายแท้ๆ กำลังกวักมือเรียก พี่คนนี้เป็นคนดีน่านับถือมา อันคนดีนั้นแม้ว่าเราจะไม่รู้จักตัว ไม่เคยคบหาสมาคมด้วย แต่เพียงได้ยินชื่อหรือกิตติศัพท์ความดีของเขา เราก็รู้สึกยกย่องนับถือเป็นทุนอยู่แล้ว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ตรงข้ามถ้าเราทราบว่าใครเป็นคนที่มีจิตใจชั่วช้าเลวทราม ถึงเราจะไม่รู้จักเพียงแต่ได้ยินชื่อเสียงก็รู้สึกเกลียดชัง อยากจะออกห่างไม่อยากคบสมาคมเสียแล้วฉันใดก็ฉันนั้น ที่ผู้นี้เป็นคนดีอยู่ในศีลธรรม ข้าพเจ้ามีความดีใจที่พบ จึงตรงเข้าไปทำความเคารพ คุณพี่ก็ทักว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เป็นไง หมู่นี้เมาเหมือนเดิมหรือเปล่า” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าตอบอย่างอายๆ ว่า [/FONT][FONT=&quot]“หมู่นี้ไม่เมาหรอกครับ เพราะเข้าพรรษา”[/FONT][FONT=&quot] คุณพี่ยิ้มอย่างพอใจ เมื่อทราบเหตุผลของข้าพเจ้า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“นี่ก็ออกพรรษาแล้วนี่ เพื่อนฝูงมารวมกันพร้อมหน้าคงสนุกกันใหญ่ละซีนะ” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้ารีบตอบอย่างภูมิใจว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไม่ละครับคุณพี่ ผมตั้งใจแล้วว่าจะไม่ดื่มอีกต่อไป” [/FONT][FONT=&quot]คุณพี่มองดูหน้าข้าพเจ้าอย่างประหลาดใจและไม่เชื่อหูตนเอง จึงย้อนถามข้าพเจ้าอีกว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ไหน ! พูดว่าอย่างไรนะ พูดอีกทีซิ” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าอดขำไม่ได้ แต่ก็พูดทวนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้ยินถนัด คุณพี่ก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แล้วจึงว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เลิกดื่มได้ก็วิเศษน่ะซิน้องชาย ถ้าทำได้อย่างพูดก็ขอแสดงความยินดีด้วย แล้วนี่เพื่อนฝูงเขารู้หรือยัง” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าตอบว่ายังไม่ได้บอกใคร คุณพี่บอกว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ขอให้พี่แสดงความยินดีเป็นคนแรกนะ พี่ก็เคยเห็นมาแล้วว่า เหล้าไม่เคยให้คุณใคร มีแต่โทษเสียเงินทองเสียสุขภาพ มิหนำซ้ำใครมาเห็นเข้าเวลาเมาเขาก็หมดความนับถือเสื่อมศรัทธา เหล้าทำให้ขาดสติยั้งคิด มีแต่ความประมาท และเป็นบ่อเกิดแห่งการวิวาทการฆาตกรรม เพราะเมาไปแล้วทำได้ทุกอย่างไม่ว่าผิดหรือถูก” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านั่งฟังอย่างสงบ และเห็นจริงด้วยทุกประการนี้ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนที่ข้าพเจ้ายังชอบดื่มอยู่ละก็ ข้าพเจ้าคงจะไม่ยอมฟัง และคงต้องเถียงว่าไม่เป็นจริงแน่ แต่บัดนี้ข้าพเจ้ากลับชอบคำพูดเช่นนี้ คุณพี่กล่าวอย่างช้าๆ ว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“มีสมัยหนึ่งออกจะโบราณสักหน่อย ทางยุโรปเขามีการแข่งดื่มเหล้ากัน ดื่มกันเป็นแกลอนๆ ทีเดียว ผลที่สุดก็คือคนชนะที่ ๑ ตายในเวลา ๑๘ ชั่วโมง ต่อมาคนที่ชนะที่ ๒ ตายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงต่อมา และคนที่ ๓-๕ ก็ตายตามเป็นลำดับ พี่เคยอ่านพบในหนังสือฝรั่ง แต่จำไม่ได้แน่นักว่า เข้าแข่งขันกันกี่คน และตายไปกี่คนเพราะมันนานมาก จำได้แต่ตายเป็นลำดับ จนนายแพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวว่ามีการแข่งขันชนิดนี้ที่ไหนอีกทั้งในยุโรป และอเมริกา [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]รัฐบาลอเมริกันก็เห็นโทษของการดื่มสุราถึงกับเคยออกกฏหมายห้ามดื่มอยู่พักหนึ่ง และถือว่าเหล้าเป็นของต้องห้ามไม่ยอมให้เข้าประเทศ ชาวอเมริกันที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทยพากันดื่มแต่น้ำหวานและโซดา พวกนี้เขาถือกันเคร่งครัด และซื่อสัตย์ต่อรัฐบาลของเขาและตัวเอง แม้จะออกนอกประเทศแล้วก็ยังไม่ยอมดื่ม[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งฟังอยู่อย่างสนใจ ทันใดนั้นก็มีมือของใครคนหนึ่งมาฉุดข้าพเจ้าให้ลุกขึ้นแล้วพูดว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เฮ้อ ! ลื้อนั่งผิดที่เสียแล้ว ที่นั่งของลื้ออยู่ทางโน้น เจ้าภาพเขาจัดชุดไว้ให้เสร็จแล้ว”[/FONT][FONT=&quot] ว่าแล้วเพื่อนคนนั้นก็หันไปขอโทษคุณพี่ในการที่เขาเข้ามาขัดจังหวะสนทนา ข้าพเจ้าเห็นคุณพี่ยิ้มเศร้าๆ พยักหน้าแล้วพูดว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ไม่เป็นไร เชิญตามสบายเถิด” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 5)[/FONT]
     
  18. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]สายตาของคุณพี่จ้องมายังข้าพเจ้า เต็มไปด้วยความสงสารเห็นอกเห็นใจข้าพเจ้า ซึ่งตั้งใจจะกลับตัวเป็นคนดี แต่ก็คงนึกว่าไม่สำเร็จ ข้าพเจ้าจำต้องเดินตามเพื่อนมาด้วยใจคอไม่เป็นปกติ เมื่อมาถึงโต๊ะซึ่งเต็มไปด้วยสุรากับแกล้ม มีเพื่อนๆ นั่งกันอยู่ประมาณสี่ห้าคน ในจำนวนนั้นมีสองสามคนที่ดื่มเข้าไปจนหน้าตึงแล้ว แต่พวกที่เหลือยังดูเฉยๆ และพูดจากันพอรู้คงจะเพิ่งมาถึงไม่นานนัก ข้าพเจ้าชักวิตกกลัวจะพูดกันไม่รู้เรื่อง จะกลายเป็นข้าพเจ้าเล่นตัวไม่ยอมดื่ม อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าต้องบอกให้ได้ แม้จะท้อใจอยู่บ้างที่เพื่อนๆ ซึ่งตั้งใจสนุกสนานกันเต็มที่ต้องผิดหวังแข็งใจพูดออกไปว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“วันนี้อั๊วต้องขอโทษที่จะไม่ดื่ม เพราะได้ตั้งใจแล้วว่าจะเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด ขอโทษด้วยนะ”[/FONT][FONT=&quot] แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“พูดอะไรโว้ย พูดใหม่อีกทีซีวะ”[/FONT][FONT=&quot] ข้าพเจ้าต้องกลืนน้ำลายแล้ว จึงพูดทวนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“เฮ้ย นี่มันจะตัดญาติขาดมิตรกันอย่างไม่ยอมดูหน้ากันเลยหรือโว้ย หรือว่าลื้อเกิดไม่ชอบหน้าใครในหมู่พวกเรา” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าสั่นศีรษะตอบว่า [/FONT][FONT=&quot]“เปล่าเลย เพื่อนทุกคนในที่นี้เป็นเพื่อนที่ดีของอั๊ว แต่อั๊วมาคิดได้แล้วว่าการดื่มเหล้าไม่เคยให้คุณ.....” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้ายังไม่ทันจะพูดให้จบ ก็มีเสียงตะโกนจากเพื่อนที่กำลังเมาว่า [/FONT][FONT=&quot]“เฮ้ย หยุดโว้ย พอทีที่การดื่มเหล้าน่ะมันมีมาแต่โบราณแล้ว ทวดอั๊ว ปู่อั๊ว พ่ออั๊ว ท่านก็ดื่มมานานแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกันลื้อลองถามเพื่อนๆ ดูทีว่า มีใครเขาอยากให้ลื้อเลิกดื่มบ้าง เอ้า ! พวกเราใครเห็นดีจะให้เพื่อนเราเลิกดื่มเหล้าบ้างวะ ?” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เสียงพวกที่นั่งอยู่จำนวนครึ่งตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไม่ยอมให้เลิกโว้ย”[/FONT][FONT=&quot] เพื่อนคนนั้นพูดต่อไปว่า [/FONT][FONT=&quot]“เห็นไหม ไม่มีใครยอมให้ลื้อเลิก ลื้อจะทิ้งเพื่อนไปไงวะ ถ้าลื้อเลิกรัฐบาลก็ขาดภาษีรายได้ซีวะ ช่วยอุดหนุนรัฐบาลหน่อยซิโว้ย” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะตอบว่าอย่างไร มันเป็นความผิดของข้าพเจ้าเองที่มาพูดผิดเวลาคือ พูดขณะเพื่อนๆ กำลังตกอยู่ใต้อำนาจน้ำเมา หันไปดูเพื่อนอีกสามสี่คน ซึ่งมีอยู่บ้างเขาก็แต่แสดงความเห็นอกเห็นใจออกมาทางสายตาเท่านั้น แต่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อไม่ช้าเขาก็จะเมาแล้ว พวกแรกเมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้วก็ช่วยกันผสมเหล้ากับโซดายื่นส่งให้ข้าพเจ้าถึงปาก ข้าพเจ้าพยายามขอตัว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คิดว่าถ้าเผื่อไม่มีใครเห็นใจ เห็นชอบกับความคิด หรือเห็นอกเห็นใจที่จะให้ข้าพเจ้าเลิกดื่ม ก็คิดว่าจะปลีกตัวออกไปจากโต๊ะเฉยๆ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เด็ดขาดไม่ควรทำและมันออกจะรุนแรงเกินไป จนทำให้เพื่อนๆ โกรธหาว่าอวดดีก็ตาม แต่เมื่อหวนคิดว่าเราเคยดื่มด้วยกันมาเป็นปีๆ ไม่ว่าวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ มักจะพบพวกเราเสมอที่ซ่วนหลี บาร์ไก่ขาวสยามโฮเต็ล ความสัมพันธ์ถึงขึ้นนี้เป็นการลำบากที่จะยืนกรานปฏิเสธ และทำสิ่งกระเทือนใจเพื่อน ควรจะหาทางออกอย่างบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นดีกว่า แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ต้องหาทางออกนานนัก พอดีเพื่อนคนหนึ่งคงจะเห็นใจข้าพเจ้า จึงพูดขึ้นอย่างเป็นกลางๆ ว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“นี่ขอให้อั๊วพูดหน่อยนะ แล้วก็ขอให้พูดจบเสียก่อนอย่าพึ่งขัด อั๊วจะพยายามพูดให้ยุติธรรมที่สุด ฟังนะ ไอ้การที่เพื่อนเราจะเลิกดื่มเหล้ามันก็เป็นการดีอย่างหนึ่งของมัน ถ้าเราจะขัดขวางไม่ยอมให้มันเลิก มันก็จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป การดื่มเหล้ามันเป็นความชั่วจริงๆ เรารู้ แต่เราก็ชอบ มันอยากเป็นคนดีเราก็ควรส่งเสริม ใครอยากเลิกก็เลิกไป ใครอยากดื่มก็ดื่มไป แต่ว่าจู่ๆ จะมาบอกเลิกกะทันหันอย่างนี้ เพื่อนฝูงก็จะเสียน้ำใจกันไหนๆ ก็จะเลิกดื่มแล้วขอให้ฉลองกันเป็นครั้งสุดท้ายสักวันหนึ่ง พวกเราเห็นเป็นอย่างไร ?”[/FONT][FONT=&quot] แล้วเพื่อนผู้นั้นก็หันมาพูดกับข้าพเจ้าว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ลื้ออย่าหนีเพื่อนฝูงไปเร็วนักซิ”[/FONT][FONT=&quot] แล้วก็หันไปพูดกับเพื่อนๆ อีกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ที่อั๊วพูดมานี่ใครเห็นด้วยบ้าง ?”[/FONT][FONT=&quot] ทุกคนในโต๊ะเห็นพ้องต้องกันหมด ข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้จะรับหรือปฏิเสธดี ถ้าปฏิเสธก็ดูเป็นการเล่นตัวเกินไป เพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือครั้งนี้และครั้งสุดท้าย จึงตกลงตามใจเพื่อนฝูง แต่ขอเปลี่ยนเป็นเบียร์แทน เพราะคิดว่าถ้าระวังตัวคงทำให้เมาน้อยกว่าเหล้าหน่อย เพื่อนคนนั้นก็เรียกคนรับใช้เข้ามากระซิบสั่งอะไรสองสามคำ สักครู่คนรับใช้ก็เอาเบียร์มาให้ข้าพเจ้าแก้วหนึ่ง เพื่อนๆ คะยั้นคะยอให้ดื่ม ข้าพเจ้าจึงดื่มพอแก้วเบียร์จรดริมฝีปากขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เห็นจะเป็นเพราะข้าพเจ้าทำลายความตั้งใจเดิมนั่นเอง เบียร์แก้วนั้นรู้สึกว่าจะฉุนแรงกว่าธรรมดาจึงชักสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามและตั้งใจจะดื่มเพียงแก้วเดียวเท่านั้น [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เพื่อนๆ ก็ไม่ยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย ต่อไปก็จะไม่ได้ร่วมวงดื่มกันอีกแล้วต้องเอาให้เต็มที่หน่อย จากนั้นก็ชวนกันผสมวิสกี้กับโซดามาให้ ข้าพเจ้าขอร้องเพียงเบียร์ เพื่อนจึงหัวเราะและบอกว่า แก้วแรกที่ข้าพเจ้าดื่มคือเหล้าผสมเบียร์ เพราะเขากระซิบบอกให้คนใช้เอาเหล้าเติมลงในเบียร์ มิน่าเล่าข้าพเจ้าจึงสงสัยตั้งแต่ต้นว่า มันผิดกว่าเบียร์ธรรมดา และยิ่งเมามากกว่าเหล้าผสมโซดา ข้าพเจ้าเลยตกกระไดพลอยโจน ไหนๆ ก็เสียรู้แล้วเลยฉลองเป็นครั้งสุดท้ายเลยดื่มกันใหญ่ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ในคืนนั้นข้าพเจ้าเมามากจนครองสติไม่อยู่ เพราะเมื่อออกจากบ้านงานแล้ว พวกเพื่อนๆ ยังจับตัวพาตระเวนด้วยรถยนต์ไปตามบ้านเพื่อน พอไปถึงบ้านเพื่อนคนหนึ่ง จำได้ลางๆ ว่า เขาเข้าไปปลุกภรรยาให้ลุกขึ้นมาหากับแกล้ม แล้วก็ค้นเหล้าที่เก็บไว้มาเปิดบาร์ดื่มฉลองข้าพเจ้ากันอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็เปะปะกลับบ้านกัน ทีละคนสองคนรวมทั้งข้าพเจ้า เราตะโกนร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานในตอนดึกตามประสาคนขี้เมา ขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูบ้าน แม่บ้านของเพื่อนไปเปิดประตูก็พบหญิงผู้หนึ่ง เข้ามาในบ้านหน้าตาตื่นและขอร้องว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 6)[/FONT]
     
  19. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]“คุณคะ ดิฉันต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาขัดความสำราญของพวกคุณ ขอความกรุณาเถิดค่ะ บุตรของดิฉันป่วยนอนไม่ค่อยหลับ ยิ่งได้ยินเสียงเพลงของพวกคุณ แกยิ่งสะดุ้งผวาร้องกวนใหญ่ นี่ก็เกือบตีสามแล้ว โปรดเห็นแก่ดิฉันเถิดค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ภรรยาของเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านก็รับรองว่า จะกำชับไม่ให้ทำเสียงดังให้เด็กตกใจอีก พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษที่ทำเสียงรบกวน ต่อจากนั้นข้าพเจ้าก็จำไม่ได้ว่ากลับบ้านเวลาใดและกลับมาได้อย่างไร รู้แต่ว่าดื่มเข้าไปมากโดยอาหารเย็นไม่ได้ตกถึงท้องเลย จะมีก็เพียงกับแกล้มเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งๆ ที่เจ้าภาพได้จัดโต๊ะจีนเลี้ยงเป็นงานใหญ่ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]พอย่ำรุ่งค่อยสร่างเมา รู้สึกเป็นไข้ เมื่อยไปหมดทั้งตัว อ่อนเพลียไม่มีแรงจนแทบกระดิกตัวไม่ไหว ปวดเมื่อยตามตัวเป็นกำลัง บิดาของข้าพเจ้าจึงไปตามหมอนวดที่มีชื่อเสียงมานวดให้ในเช้าวันนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าพเจ้ารู้จักการนวด เพราะตามปกติถ้ามีใครมานวดแขนขา ข้าพเจ้าจั๊กจี้จนทนไม่ได้ แต่ขณะนี้มันเมื่อยมากจนไม่รู้สึกจั๊กจี้เลย การนวดไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าดีขึ้น หมอนวดเห็นเช่นนั้นจึงบอกว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“ถ้าลงนวดไม่หายละก็อย่านอนใจ รีบไปหาหมอรักษาโดยเร็ว” [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความอ่อนเพลียที่เป็นอยู่แล้ว ก็มากขึ้นอีกกำลังก็พลอยถอยลง คืนนั้นข้าพเจ้านอนไม่หลับตลอดคืน รุ่งเช้ามารดาข้าพเจ้าเห็นอาการทรุดลง จึงไปตามแพทย์แผนโบราณมารักษา ผ่านมาสองสามวัน แต่อาการก็ยิ่งทรุดหนักลงอีก มีทั้งอาการหายใจถี่หอบ หัวใจเต้นเร็วจนเห็นได้ชัด ซ้ำยังหลับไม่ได้เลยตลอดวันตลอดคืน ถึงกับปัสสาวะออกมาเป็นเลือดสดๆ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าจึงขอร้องให้เพื่อนที่มาเยี่ยมไปรับนายแพทย์ประวัติฯ ซึ่งขณะนั้นเป็นนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลกลาง และเป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้านับถือผู้หนึ่ง นายแพทย์ประวัติฯ เมื่อทราบว่าข้าพเจ้าป่วยมากก็รับมาดูอาการทันที หลังจากตรวจอาการแล้ว รีบฉีดยาและให้ยาไว้รับประทาน หมอมีสีหน้าวิตกและแสดงทีท่าว่าหนักใจมาก รีบกลับไปมอบเวรที่โรงพยาบาลในไม่ช้าก็กลับมาอีกเพื่อดูอาการไข้ตลอดคืน ข้าพเจ้าเห็นใจหมอมาก เพราะงานในโรงพยาบาลล้นมืออยู่แล้ว ยังอุตส่าห์อดหลับอดนอนมาเฝ้าไข้ตลอดรุ่ง [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คืนนั้นข้าพเจ้าหอบมากจนไม่สามารถนอนราบตามธรรมดาได้ ต้องเอาหมอนหนุนหลังให้สูงขึ้น มิฉะนั้นจะรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก หมอฉีดยาให้หลายเข็ม แต่ก็สงบไปได้เป็นพักๆ เท่านั้น บัดนี้ข้าพเจ้ารู้สึกตัวว่าอาการหนัก เพราะรู้สึกภายในร่างกายมีเสียงกระเทือนมาก และไม่เป็นจังหวะคล้ายว่าส่วนใดส่วนหนึ่งจะพังออกมา คิดว่าก่อนที่ร่างกายจะแตกดับลงไป ก็ขอทำจิตใจให้เข้มแข็งอยู่ในความสงบ ตัดความกลัวตัดความกังวล และตัดความห่วงใยเสียทั้งสิ้น คิดว่าความตายเป็นของธรรมดาของสัตว์โลก ความกลัวความกังวลห่วงใยเป็นทุกข์ที่ทรมานใจไม่ให้สงบ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ความตายเท่านั้นไม่มีใครหนีพ้นแม้ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นยอดบุรุษของโลก ก็ยังต้องเสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพาน เราซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาหรือจะหนีความตายพ้น ผิดกันก็แต่ใครจะตายเร็วตายช้าเท่านั้น แต่ลงท้ายก็ต้องตายด้วยกันทุกคน เมื่อคิดได้เช่นนั้นพยายามทำจิตใจให้สงบ โดยไม่มีความกังวลห่วงใยสังขารที่กำลังทรมานรอเวลาจะถึงที่สุดไม่ช้าก็รู้สึกว่าจิตใจกับร่างกาย ได้แยกออกเป็นคนละส่วน แม้สังขารกำลังไข้หนักจะแตกดับ แต่จิตใจนั้นปกติมิได้พลอยป่วยไปด้วยฉะนั้นความรู้สึกยังคงจำทุกสิ่งได้ เพราะจิตใจอยู่เหนือความเจ็บป่วย [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เช้าวันรุ่งขึ้น หมอลากลับไปเพราะจะต้องไปอยู่เวรที่โรงพยาบาลกลาง ซึ่งเวลานั้นเรือนคนไข้ของโรงพยาบาลยังเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนนั้นสูงโปร่งปลูกเป็นแถวสี่ด้านล้อมรอบสนามหญ้า คนไข้ส่วนมากเป็นพวกอนาถา ส่งมาจากต่างจังหวัดที่เกี่ยวกับถูกยิงแทงและต้องได้รับการผ่าตัด หมอมีงานมาก จนข้าพเจ้าเกรงใจที่จะรบกวนมากกว่านี้ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อนผู้หนึ่งจึงแนะนำว่าควรไปเชิญนายแพทย์พันตรีหลวงประกิตเวชศักดิ์ (ขณะนี้เป็นพันเอก) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ข้าพเจ้าก็เห็นด้วย เพราะคุณหลวงผู้นี้เป็นอีกผู้หนึ่งที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อเพื่อนคนนั้นไปเชิญท่านมาโดยบอกว่าข้าพเจ้าป่วย ท่านรีบขับรถส่วนตัวของท่านมาทันทีเมื่อได้ลงมือตรวจอาการอย่างละเอียดแล้ว ท่านมีท่าทางตกใจบอกให้เอาส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะจำเป็นต้องอยู่ใกล้หมอ ท่านบอกให้ข้าพเจ้านอนนิ่งๆ อย่าพยายามพลิกตัวหรือกระดุกกระดิก เพื่อนผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วย มีร่างกายล่ำสันแข็งแรง จึงอาสาว่าเขาจะเป็นคนอุ้มตัวข้าพเจ้าขึ้นรถเอง [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คุณหลวงรีบร้องบอกว่า [/FONT][FONT=&quot]“ไม่ได้ ไม่ได้ ห้ามอุ้มห้ามเคลื่อนที่อันตรายมาก”[/FONT][FONT=&quot] ท่านบอกว่าท่านจะรีบส่งรถพยาบาลพร้อมด้วยเปลมารับ และให้พนักงานพยาบาลจัดการเองแล้วท่านก็รีบกลับโรงพยาบาลทันที [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เวลานั้น ข้าพเจ้ารู้สึกว่าทางบ้านโกลาหลกันที่สุด ในการที่ข้าพเจ้าจะต้องไปอยู่โรงพยาบาล เป็นครั้งแรกที่คนในครอบครัวไปรักษาโรงพยาบาล แม่ได้เข้ามาลูบหน้าลูบผมข้าพเจ้าอย่างปลอบโยน แล้วก็แอบไปเช็ดน้ำตาไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าเห็น ทุกคนในที่นั้น ซึ่งได้ทราบแล้วมีสีหน้าเศร้าไปตามๆ กัน บิดาของข้าพเจ้าหลบเข้าไปในห้อง และอยู่คนเดียวเงียบๆ เพื่อระงับใจ เห็นจะเป็นเพราะว่าข้าพเจ้าเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่นี่เอง จึงทำให้ท่านรักและเป็นห่วงมาก และจะต้องห่างจากบ้านไปอยู่โรงพยาบาล [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ในไม่ช้ารถพยาบาลก็มาถึง บุรุษพยาบาลได้นำเปลลงจากรถขึ้นไปถึงห้องข้าพเจ้าชั้นบน เขาช่วยกันค่อยๆ เคลื่อนร่างของข้าพเจ้าจากที่นอนบนเตียงอย่างระมัดระวังลงสู่เปล โดยละมุนละม่อมตามวิธีการของเขา แล้วหามข้าพเจ้าลงจากบ้านขึ้นมาใส่รถ ไม่ช้ารถก็มาถึงโรงพยาบาลติดตามมาด้วยญาติพี่น้อง เมื่อจัดการลงชื่อตามระเบียบแล้วเขาเอาเปลใส่รถเข็น เข็นผ่านห้องและตึกต่างๆ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]จนในที่สุดก็มาหยุดในชั้นบนของตึกวชิราวุธ ด้วยความกรุณาของคุณหลวงประกิตฯ ท่านได้สั่งเตรียมห้องชั้น ๑ อยู่ชั้นบนของตึกไว้เรียบร้อยแล้ว ห้องนั้นเป็นห้องใหญ่มีเตียงคนไข้อยู่เตียงเดียว เมื่อเคลื่อนข้าพเจ้าลงบนเตียงแล้ว นางพยาบาลซึ่งคอยทีท่าอยู่ก่อนจัดแจงฉีดยาและให้น้ำเกลือทันที คุณหลวงยังได้สั่งให้ระมัดระวังเอาใจใส่ข้าพเจ้าให้นอนนิ่งๆ ในตอนบ่ายวันนั้นบรรดาญาติมิตรที่รู้ข่าวต่างพากันไปเยี่ยมมากมาย [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 7)[/FONT]
     
  20. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]นางพยาบาลได้เขียนป้ายติดไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“ห้ามผู้มาเยี่ยมทำเสียงดังรบกวนคนไข้”[/FONT][FONT=&quot] ฉะนั้นในห้องนั้นแม้จะมีผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ก็เงียบคล้ายไม่มีคนอยู่ เพราะได้แต่นั่งมอง ดูบางคนก็เช็ดน้ำตาเห็นจะเป็นเพราะสงสารข้าพเจ้า ในวันนั้นเอง แม่ได้ให้คนไปบอกนายพลบ ซึ่งบ้านอยู่ในสวนตำบลวัดดอกไม้คลองภูมิ (ขณะนั้นเป็นนายแพทย์แผนโบราณและยังอยู่ที่เดิม) นายพลบเป็นคนที่ข้าพเจ้าคุ้นเคยรักใคร่นับถือ และเรียกว่าพี่ เมื่อพี่พลบได้ทราบก็รีบมาอยู่เฝ้าไข้ด้วยความห่วงใยและอย่างเต็มใจ เป็นอันว่าคืนนั้นข้าพเจ้ามีพี่พลบอยู่ดูแลนอนเป็นเพื่อน ทางโรงพยาบาลได้จัดสำรับอาหารสำหรับผู้อยู่เฝ้าไข้ไว้ต่างหากทั้ง ๓ เวลา นอกจากนั้นก็มีเตียงผ้าใบ มุ้ง ผ้าห่ม หมอน ให้ด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]การป่วยเพียงไม่กี่วันทำให้ร่างกายข้าพเจ้าทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว จนแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ข้าพเจ้ายังรู้สึกอ่อนเพลียจนจะกระดิกตัวไม่ไหว แม้แต่แมลงวันบินจากกองขยะที่กำลังถมสวนลุมพินีมาเกาะที่หน้า ก็ไม่มีแรงจะยกมือขึ้นปัด พี่พลบต้องคอยช่วยปัดอยู่ใกล้ๆ แต่ตลอดเวลาข้าพเจ้ารู้สึกตัวว่าจิตใจเข้มแข็งไม่หวาดกลัวมีสติดี จะอยู่หรือตายก็รู้สึกเฉยๆ อยู่เสมอ แม้แต่นางพยาบาลพูดอะไรกับคนเฝ้าไข้ หรือใครพูดกันก็รู้จากคำพูดของนางพยาบาลพูดกับพี่พลบ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าทราบว่าวันนั้นได้มีคนไข้อาการหนักมากอีกรายหนึ่ง คือ เรืออากาศโท...... จับคำพูดพอได้ความว่า ถูกไฟลวกขณะปฏิบัติการบินอยู่กลางอากาศ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ดังมาจากตึกตรงกันข้ามอันเป็นห้องของนายทหารผู้นั้น แม้ข้าพเจ้าเองจะป่วยอยู่ก็ยังอดสงสารและเห็นใจไม่ได้ คืนนั้นอกจากจะมีพี่พลบอยู่เป็นเพื่อนแล้ว ยังมีนางพยาบาลคอยฉีดยาและให้ยาเป็นระยะๆ นอกจากข้าพเจ้าหลับ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าหลับๆ ตื่นๆ พี่พลบคอยเอาใจใส่ดูแลตลอดเวลา คืนวันนั้นข้าพเจ้านอนหลับตานิ่งก็เอาสำลีมารอที่จมูก และจับชีพจร แกรู้ว่าชีพจรเต้นอ่อนเต็มที ตกใจรีบไปตามนางพยาบาลๆ ก็ไปตามนายแพทย์เวรมา ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้ารู้สึกตัวไม่ได้เป็นอะไรมาก นายแพทย์เวรเอารายงานประจำมาดู แล้วรีบสั่งให้ฉีดยาทันที [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]รุ่งเช้าคุณหลวงประกิตฯ มาตรวจอาการแต่เช้า หลังจากให้ดูรายงานการวัดปรอท จับชีพจรและการถ่ายอะไรต่ออะไรแล้วบอกว่า เมื่อคืนที่ผ่านไปไข้ยังสูงชีพจรอ่อนลงมาก อาการไม่ดีขึ้นเลย ท่านมีสีหน้ากังวลและหนักใจไม่น้อย ท่านได้สั่งเพิ่มยาและให้อาหารทางก้น เพราะข้าพเจ้าทานอะไรไม่ได้เลยนอกจากน้ำ วันนั้นเห็นจะเป็นวันอาทิตย์ ตกตอนสายจึงมีผู้มาเยี่ยมทยอยกันเข้ามา มีทั้งแม่และเพื่อนของแม่พร้อมทั้งญาติมิตรสหาย เพื่อนบางคนอยู่ต่างจังหวัด แต่พอทราบว่าข้าพเจ้าป่วยก็รีบมาเยี่ยม [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกคนนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ไม่มีเสียงสนทนากันนอกจากจะแอบซุบซิบถามกันค่อยๆ หลังจากที่ได้เห็นป้ายที่นางพยาบาลติดไว้หน้าห้อง แม้จะมาอยู่โรงพยาบาลแล้ว อาการของข้าพเจ้าก็ยังไม่ดีขึ้น หมอสั่งให้นอนนิ่งๆ ให้พยายามอย่าพูดอย่าออกเสียง กระนั้นข้าพเจ้ายังมองเห็นว่าใบหน้าของทุกคนเศร้า และแสดงความวิตก ข้าพเจ้ามาทราบภายหลังว่า วันนั้นนางพยาบาลได้แอบเรียกแม่ออกไปนอกห้องแล้วกระซิบว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“คนไข้อาการหนักมากมีหวังน้อย มาบอกให้คุณป้าทราบล่วงหน้า ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณป้าจะได้ไม่เสียใจมาก”[/FONT][FONT=&quot] แล้วนางพยาบาลคนนั้นก็รีบจากไป เธอคงไม่อยากเห็นภาพอันน่าสลดในห้อง แม่เองได้กระซิบให้ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องทราบทั่วๆ กันแล้ว ท่านเองก็นั่งเช็ดน้ำตา อยู่ๆ มีเพื่อนและญาติหลายคนที่สงสารข้าพเจ้าถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ข้าพเจ้ายังจำได้แม่นยำคุณป้าเล็ก วิสุทธิพงศ์ ได้ลุกขึ้นมากระซิบที่หูข้าพเจ้าด้วยน้ำตาคลอว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“นึกถึงพระอรหันต์ไว้นะพ่อคุณของป้า นึกถึงบุญกุศลที่เราเคยสร้างสมไว้นะลูกนะ” [/FONT][FONT=&quot]เสียงของท่านสั่นเครือ เพราะสะอื้นอยู่ในอก ข้าพเจ้าหยักหน้ารับ นึกในใจว่าพระอรหันต์ไม่เคยนึกมาก่อนเลย เสียงแม่ร้องไห้สะอื้นค่อยๆ พอได้ยินเสียงว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“โถ ตั้งแต่เกิดมาเป็นแม่เป็นลูก ไม่เคยทำให้พ่อแม่เจ็บช้ำน้ำใจ หรือทำให้พ่อแม่น้ำตาตกเหมือนลูกคนอื่นบางคนเลย ยังไม่ทันไรก็จะจากไปแล้ว”[/FONT][FONT=&quot] พูดแล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น ข้าพเจ้าได้ยินคุณป้านางนรากรนุรักษ์ (แตงกวย) กระซิบกับแม่ว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]“แกคงจะไม่อายุสั้นอย่างนั้นหรอกน่ะ แม่บุญทำใจดีๆ ไว้เถิด บางทีบุญกุศลคงช่วยให้หายไข้ก็ได้ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนเลย”[/FONT][FONT=&quot] แต่กระแสเสียงของคุณป้าก็ปนสะอื้นไปด้วย ข้าพเจ้าทราบภายหลังว่า คุณป้าแตงกวยจับยามดูก่อนจะออกจากบ้าน ยามบอกว่ายังไม่ถึงที่สิ้นอายุ ครั้นมาเห็นสภาพของข้าพเจ้าเหมือนกำลังจะหมดลมอยู่แล้วก็ใจหาย ยามของท่านไม่เคยผิดพลาดมาก่อน ท่านบอกว่า ถ้ายามของท่านพลาดคราวนี้ท่านจะไม่ดูต่อไป เพื่อนของคุณแม่ทุกคนรักใคร่เอ็นดูข้าพเจ้าอย่างลูกหลานและหวังดีโดยแท้จริง [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]บัดนี้ข้าพเจ้ารู้ตัวดีว่า มรณภัยกำลังใกล้เข้ามา แต่ใจนั้นสงบอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลงหวาดหวั่น ตอนบ่ายมีมิตรสหายมาเยี่ยมมากมาย จนทำให้ห้องอันกว้างขวางนั้นแคบลงถนัดตา ล้นออกมานอกห้อง เพราะทุกคนทราบข่าวว่าข้าพเจ้าป่วยหนักคิดว่าคงไม่มีทางรอดแน่ จึงหวังจะมาเห็นข้าพเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ในเวลาที่มีคนมาเยี่ยมมากมายในห้อง ความรู้สึกของข้าพเจ้าว่ามีพระองค์หนึ่งมาเยี่ยมขณะที่ข้าพเจ้ามองไปทางปลายเตียง เห็นพระครองผ้าเหลืองผ่านแวบขึ้นมาทางหัวเตียง แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นองค์ท่านถนัดนัก ข้าพเจ้าจึงถามแม่ว่า [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot](มีต่อ 8)[/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...