อานิสงส์ของการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา ธรรมะโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ฟาฟา, 27 สิงหาคม 2012.

  1. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    อานิสงส์ของการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ที่มา:หนังสือหลวงพ่อ ตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม 1
    ผู้ถาม: " หลวงพ่อคะหนูขอทราบอานิสงส์ของการรักษาศีลกับการให้ทานค่ะ?
    หลวงพ่อ: "จำที่พระบอกในตอนท้ายได้ไหมล่ะ...
    "สีเลนะ สุคติง ยันติ" การรักษาศีลเป็นปัจจัยให้มีความสุข สุขทั้งชาตินี้ สุขทั้งชาติหน้านะ
    "สีเลนะ โภคสัมปทา" ถ้ามีศีลชาตินี้ทรัพย์สมบัติก็ไม่ฝืดเคือง ชาติหน้าก็มีทรัพย์สมบัติมาก
    "สีเลนะ นิพพุติง ยันติ" ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าถึงนิพพานได้โดยง่าย
    นี่อานิสงส์ของศีล ท่านว่าไว้อย่างนี้
    ส่วนการให้ทาน ท่านบอกว่า"ทานัง สัคคโส ปาณัง" ทานเป็นบันไดให้เกิดบนสวรรค์ การให้ทานมากก็ตามน้อยก็ตาม ผลของทานทำให้เกิดในสวรรค์ ถ้าหากว่าพ้นจากสวรรค์มาแล้วมาเป็นคนก็ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่ว่าจะรวยเท่าไรนั้นเป็นเขตของทานนะท่านเรียกว่า"ปุญญักเขตตัง" เป็นเนื้อนาบุญ ถ้าเราให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์มากเราก็รวยมาก ให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์น้อย เราก็มีทรัพย์สินน้อย แต่คำว่าอดตายไม่มีสำหรับคนให้ทาน"
    ผู้ถาม:"แล้ว ศีล กับ ทาน อย่างไหนจะอานิสงส์มากกว่าคะ"
    หลวงพ่อ: "อ้าว...มันคนละคนนี่หนู ต่างคนต่างแก่ต่างคนต่างกล้า ทานเขาก็ให้ผลไปอย่างหนึ่ง ศีลก็ให้ผลมีกำลังอย่างหนึ่ง แต่ว่าทั้ง 2อย่างต้องร่วมกันนะ ถ้าแยกกันเมื่อไรก็พังเมื่อนั้นแหละ เรามีแต่ทานอย่างเดียว แต่บกพร่องในศีลทั้ง 5ข้อหรือข้อใดข้อหนึ่ง เราก็ตกนรก ต้องพ้นจากนรกมาก่อนแล้วจึงจะรวย ถ้าเรามีแต่ศีลอย่างเดียว ไม่มีทาน เกิดชาติหน้าอายุยืน หน้าตาสวย แต่อดตายเอาซิ เอาอย่างไหนล่ะ เอาไงดี...?
    ผู้ถาม: "หมายความว่าต้องทำคู่กันใช่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ: "ต้องคู่กันไปหนู หนูไม่มีข้าวกินมาที่นี่ได้ไหม...?
    ร่างกายดี รูปร่างหน้าตาสวยเพราะ ศีลข้อที่ 1
    รักษาศีลข้อที่ 2 ได้ทรัพย์สินไม่เสียหายเพราะไฟเพราะน้ำ เพราะโจร
    รักษาศีลข้อที่ 3 ได้คนที่อยู่ในปกครองว่าง่ายสอนง่ายพวกที่มีลูกดื้อหลานดื้อเพราะพลาดศีลข้อที่ 3
    ถ้าทรง ศีลข้อที่ 4 ได้ เป็นผู้ที่มีวาจาไพเราะ พูดแล้วคนอื่นชอบฟัง
    รักษาศีลข้อที่ 5 ได้ ไม่เป็นโรคเส้นประสาท ไม่เป้นโรคบ้า
    แต่ว่าอด ไม่มีข้าวกินไหวไหม...? ดี 5อย่าง แต่ไม่มีอาหารจะกิน ไม่มีผ้าจะนุ่ง มันต้องคู่กันหนู จะว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากันมันก็ไม่ควร ทาน ศีล ภาวนา เป็นบุญกิริยาวัตถุ และพระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่เข้าถึงบุญกุศลก็คือ
    1.การให้ทาน
    2.การรักษาศีล
    3.เจริญภาวนา ภาวนานี่หมายถึง สมถภาวนา หรือ วิปัสสนาภาวนา คือใช้ปัญญาคิดอยู่
    ทานนั้นเป็นปัจจัยตัดโลภะ ความโลภ เป็นก้าวหนึ่งที่จะถึงนิพพาน
    ศีลเป็นเหตุตัดโทสะ ความโกรธ เป็นก้าวที่สองที่จะทำให้ถึงนิพพาน
    ภาวนาเป็นตัวตัดกิเลสตัวสำคัญทั้งใหญ่และเล็ก เป็นปัจจัยให้กิเลสหมดจริง เข้าถึงนิพพานแน่นอน
    แล้วทั้ง 3อย่างนี้ จะถืออะไรสำคัญกว่ากันไม่ได้เลยต้องถือว่าสำคัญเท่ากัน ถ้าเราขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะถึงนิพพานไม่ได้
    เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อาหารการบริโภคมีความสำคัญในการครองชีพ ร่างกายเราจะทรงตัวได้เพราะศีล ถ้าเรามีแต่อาหารแต่ไม่มีร่างกายก็ไม่เป็นประโยชน์ใช่ไหม...เรามีร่างกายดี มีอาหารดี แต่ไร้ปัญญาก็เป็นเหยื่อของคนฉลาด เพราะตัววิปัสสนาญาณและตัวภาวนาเป้นตัวทำให้เกิดปัญญา
    รวมความว่า 1. เรามีอาหาร 2. มีร่างกาย 3. มีปัญญา ทั้ง 3อย่างนี้ต้องประกอบกัน หนูจะเลือกเอาอย่างไหนโดยเฉพาะล่ะ?เอาแต่ปัญญาดี ไม่มีร่างกาย ไม่มีอาหาร ดีไหม...?เอา 3อย่างเลยสบายๆ"
    สาธุค่ะ หลวงพ่อ_/\_
    ฝากแฟนเพจใหม่ของคนหัวใจธรรมะแฟนเพจศีล๕สุขแห่งธรรมะช่วยกดไลน์หรือจะช่วยแชร์ข้อมูลธรรมะหรือจะโพสต์ธรรมะดีๆก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ_/\_
    http://w
    ww.facebook.com/Prom5Group

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...