เราจะยอมทิ้งครอบครัวเพื่อเอาตัวรอดคนเดียวไหม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Nat_usp, 23 สิงหาคม 2012.

  1. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    [​IMG]



    คลิป 28 Week Later มหาภัยเชื้อนรกถล่มเมือง 1/6 หมวด ตัวอย่างหนัง วันที่ (26 Jul 2008)

    ดูตั้งแต่ต้นจนถึงนาทีที่ 10:37 โดยประมาณ


    อันนี้คิดเล่นๆนะครับอย่าจริงจังมาก ถ้ามีเหตุกรณ์อะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่แต่"ซอมบี้"แล้วจวนตัวแบบในภาพยนต์

    เพื่อนๆคิดว่าตัวเองจะทิ้งครอบครัวหรือคนที่เรารักเพื่อเอาชีวิตของเรารอดเพียงคนเดียวไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2012
  2. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    [​IMG]
     
  3. ดุสิตาลัย

    ดุสิตาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2012
    โพสต์:
    353
    ค่าพลัง:
    +1,955
    ในสถานการณ์ภัยพิบัติ คงไม่หรอกครับ คุณณัฐ

    แต่ในสังสารวัฏ มาคนเดียวไปคนเดียวครับ

    ปล. ที่เชียงดาวมีความคืบหน้าไหมครับ?

    กก.
     
  4. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ผมสงสัยนะครับ เมื่อก่อนเคยมีลูกน้องเกือบๆสองร้อยคน

    เห็นหลายๆคู่ตอนจีบกันชื่นมื่น พออยู่ด้วยกันนานวันมักแสดงความเห็นแก่ตัวออกมา

    ยิ่งเข้าตาจนยิ่งชัดมาก (ทั้งชาย ทังหญิง คละๆกันไป )

    ****************************************

    คุณดุสิตาลัยมาจากเวบฯ อวป.หรือเปล่าครับ ^_^

    ที่เชียงดาวยังไม่เรียบร้อยดีครับคงอีกสักระยะ ( เกินเวลาที่ตัง้ไว้มาก )
     
  5. ิิbetarird

    ิิbetarird เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +161
    อันบิดา มารดา ลูกนี้ยังแทนคุณไม่หมด แม้ว่าจะกระโจนลงไฟให้หมอดไหม้
    นับประสาอะไรกับแค่ภัยพิบัติ ลูกคนนี้จะอยู่ร่วมท่านจนชีวิตเรานั้นแดดิ้นไปพร้อมท่าน
    คอยรับใช้ อยู่ใกล้ชิดแม้ภัยมาไม่เคยหวั่น
     
  6. อู่ทอง13

    อู่ทอง13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +136
    ผมไม่ใช่พระเอก แต่ตราบใดที่ผมมีลมหายใจ ผมจะไม่ยอมทิ้งครอบครัวเอาตัวรอดคนเดียวแน่
     
  7. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ไม่แน่นอนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
     
  8. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ผมไม่แน่นอนครับ
     
  9. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้าเราคิดจะปล่อยให้พ่อแม่ตัวเองตายหรือไม่ก็ลูกหลานที่เราเห็นตั้งแต่ตัวยังน้อยๆตายจากภัยพิบัติที่ จขกท อ้างถึง
    แล้วเราคิดวิ่งหนีเอาตัวรอดคนเดียว
    เราไม่รู้สึกผิดหรือละอายใจหรือ
    แต่ปัญหามันมีตรงที่ถ้าเป็นพ่อแม่พวกท่านไม่ยอมให้เราตายแทนพวกท่านเพื่อตอบแทนพระคุณนี่สิ
    ถึงแม้ว่าเราจะมีจิตสำนึกอย่างเต็มที่ก็ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2012
  10. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้ามันพอที่จะแก้ไขได้ก็ต้องให้รอดๆทั้งหมดก่อน ถ้าไม่ได้ยังไงค่อยวัดใจกัน
     
  11. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ยอดเยี่ยมครับ ขอบคุณทุกๆท่านครับผม
     
  12. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ความประมาทในมนุษย์ปัจจุบัน

    คนเราคือมนุษยทั้งหลายในโลกนี้ ส่วนมากก็เป็นคนประมาท ส่วนมากตกอยู่ในความประมาท ยิ่งชนชาวชมพูทวีปด้วยแล้ว ก็เป็นผู้มีความประมาทอย่างยิ่งทีเดียว คนในชมพูทวีปเป็นผู้ประมาท คือหมู่เราประเทศไทย หรือในภูมิภาคส่วนนี้คือเป็นชมพูทวีป ชมพูทวีปเป็นส่วนหนึ่งของโลก โลกเรานี้แบ่งส่วนออกเป็น 4 ส่วน หรือเรียกในทางธรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าเป็นทวีป คนในทวีปอื่นอีก 3 ทวีปเขามีอายุแน่นอน ส่วนในทวีปเราเขาเรียกว่าชมพูทวีป และมีพระพุทธเจ้ามาตรัส เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโลกนี้ก็มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในชมพูทวีป ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ คือคนในชมพูทวีป มีความประมาทมาก คือประมาทมากเป็นอย่างยิ่ง ทั้งมีอายุน้อย แล้วก็ยังเป็นผู้ตั้งอยู่ในความเป็นผู้ประมาท ถ้าจะกำหนดอายุของชาวชมพูทวีป นี้ท่านกำหนดว่า มีอายุเพียงแ่ค่ 75 ปี เท่านั้น แต่ก็ไม่แน่นอน กำหนดลงไปเป็นส่วนใหญ่ว่า คนในชมพูทวีปจะมีอายุเป็นกำหนด 75 ปี อายุขัยสิ้นอายุก็ประมาณ75 ปีเลยจากนั้นไป ก็เป็นคนมีอายุเหมือนกัน แต่เขาเรียกว่าเลยกำหนด เลยประมาณ ตามที่ได้กำหนดไว้ ในภูมิทั้ง3 หรือวัยทั้ง3 สำหรับท่านผู้รู้กำหนด วัยของมนุษย์ในชมพูทวีป ไว้เป็น 3 วัยคือปฐมวัย มัจฉิมวัย และปัจฉิมวัย ปฐมวัยคือวัยเเรก ท่านกำหนดไว้ 25 ปี วัยที่สองก็เท่ากัน วัยทีสามก็เท่ากัน จึงเป็น75 ปี ท่านกำหนดไว้เป็นอย่างนั้น ในชาวชมพูทวีปเรา มีอายุน้อยกว่าทวีปอื่นๆ ดังที่เคยได้กล่าวมาแล้วนั้น ทั้งนี้ความไม่แน่นอนก็ยังมีมาก ในสมัยปัจจุบัน และยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้แล้ว จะคิดว่าในอายุของเรา ผ่านไปถึงอายุ 75 ปี มันก็ไม่แน่นอนเลย สมัยนี้คนหนุ่มตายมาก คือตายในอายุไม่ถึง มัจฉิมวัย เนื่องจากกาลเวลาๆและกรรมที่กระทำในชาติก่อนๆ ให้มาประจวบกันในเวลานี้ มักไม่แน่นอน คือจะทำให้อายุจะสั้น และโรคภัยไข้เจ็บ ก็มาก อุบัติเหตุก็มีมาก จะมาในวันใหนในอายุ เท่าใด เวลาใด ไม่อาจรู้ได้เลย จะเป็นหญิง จะเป็นชาย จะเป็นชาวบ้านหรือเป็นภิกษุสามเณร หรือเป็นพระราชา มหากษัตริย์ฺ ก็ไม่อาจจะรู้ได้ คือหมายความว่า ไม่รู้วันตายแม้ถึงอย่างนี้ มนุษย์เรา ก็มีความเห็นเข้าข้างตัว คิดว่ายังไม่ตาย นี้คือความประมาท ของมนุษย์เรานี้ อาศรมไผ่มรกต
     
  13. Windsong

    Windsong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +293
    ตอบไม่ได้.. ขึ้นอยู่กับปัจจัยและสภาวะแวดล้อมในขณะนััน..แต่ที่ตอบได้คือ..ลูกเป็นชีวิตของเรา.. ต้องข้ามศพเราไปก่อน อะไรที่เข้ามาโดยมีจุดประสงค์ที่ไม่แน่ชัด... เราจะกวาดให้เรียบ..
     
  14. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    มากันเป็นครอบครัว ถ้าหนีก็ต้องหนีกันทั้งครอบครัวครัว แล้วจะต้องตายกันหมดก็ยอมครับ
     
  15. kwansao

    kwansao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +619
    .
    จะยื้ออยู่ด้วยช่วยกัน กับครอบครัว ให้ถึงที่สุด

    จะรอดหรือไม่รอด ให้มันรู้กันไป

    ภัยไม่กลัว กลัวสูญเสียครอบครัวมากกว่า (จริงจัง)
     
  16. ดุสิตาลัย

    ดุสิตาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2012
    โพสต์:
    353
    ค่าพลัง:
    +1,955
    ครับ จาก อวป. :p

    คนที่ตอนนี้อยู่ที่พร้าวนั่นแหละครับ ;)
     
  17. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394

    อ้าวพี่นี่เอง ^_^

    ย้ายไปนู่นคงเป็นปีหน้าแล้วครับพี่
     
  18. itchy&scratchy

    itchy&scratchy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +712
    เป็นคำถามที่น่าคิดมากครับ อนุโมทนาเจ้่าของกระทู้ครับ
    .... พิมพ์แล้วแก้ใหม่หลายครั้งมาก ทำให้รู้ว่ายังไม่มั่นคง
    เพราะมีข้อแม้... ขึ้นมาในจิตต่างๆ นาๆ
    ทำให้เข้าใจว่า จิตของสัตว์ย่อมมีความรักในตนทั้งสิ้น
    แม้แต่คำถามง่าย ๆ ก็ยังมีข้อแม้ในคำตอบ
    แล้วถ้าเปลี่ยนคำถามเป็นว่า ถ้าเป็นคนอื่นล่ะที่ไม่ใช่ครอบครัวจะทำยังงัย
    จะทำต่างกับคนในครอบครัวรึเปล่า
    นึกถึงพระบรมศาสดา และพระโพธิสัตว์ ทุกพระองค์ ว่า น้ำพระทัยยิ่งใหญ่ขนาดไหน
    ถึงได้มอบกายถวายชีวิตเพื่อเป็นทาน ให้แม้แต่คนที่ไม่รู้จักมาก่อน
    เพื่อมรรคผลนิพพาน เพื่อพาปวงสัตว์ให้พ้นทุกข์ แม้จะไม่ปรากฎผลในชาตินั้น ๆ ก็ตาม
    ....
    จะขอตั้งจิตอธิษฐาน หากเกิดเหตุการ์ณ ดังว่า จะขอยึดพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์เป็นแบบอย่าง
    จะมอบกายและชีวิตเป็นทาน โดยไม่เลือกว่าจะเป็นใครก็ตาม สาธุ
     
  19. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    บารมีวิถีไม่เหมือนกัน ใครชอบคนเดียวชอบ ใครชอบขน(ช่วย)สัตว์ชอบวิสัยนี้แก้ยากหนอ มันติดจากสันดานหลายภูมิชาติของแต่ละคนไป

    จะตายก็ให้มันตายสิฟร่ะ ช่วยได้คนเดียวก็จะช่วย
     
  20. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เมื่อถึงคราวอับจนสิ่งใดเป็นที่พึ่งที่อาศัย






    เมื่อถึงคราวอับจน
    จะขอกล่าวถึงท่านพระอาจารย์มั่น เมื่อครั้งท่านไปนั่งสมาธิที่เมืองลาว ที่นี้ก็เมื่อถึงตอนกลางคืน ท่านก็ไปนั่งอยู่ที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เพราะท่านเห็นว่าเป็นที่สงัด เงียบสงัดดีไกลผู้คน ใครไม่มารบกวน ถึงแม้ว่าจะมีเสือสางนางร้าย จะเข้ามาในที่นั่น แต่ท่านก็ไม่กลัว คือสละชีวิตแล้ว เดินธุดงองค์เดียว ก็ไปบำเพ็ญอยู่ที่นั่น ทีนี้พอตอนบ่าย ประมาณสักสองโมง ท่านก็นั่งสมาธิอยู่ พอนั่งสมาธิจนจิตใจเคลิ้มๆ หรือสงบลงหน่อยหนึ่ง ก็เห็นชีปะขาวหรือพ่อขาวแก่ๆ นุ่งขาวห่มขาวเป็นผู้ชายเดินเข้ามา นิมนต์ว่า หลวงพ่อขึ้นไปอยู่เชิงเขานู้นเถอะ เพราะว่าน้ำป่าจะมา จะมีอันตรายให้โยกย้าย ขึ้นไปอยู่บนเขานู้นเถอะ แล้วหลังจากนั้น พ่อขาวชีปะขาวก็หายไป ท่านผู้ฟังทั้งหลาย ท่านพระอาจารย์มั่นก็สงสัย เอ๊ะอะไรกัน มีคนมาบอก ว่าน้ำป่าจะมา ฝนจะตกใหญ่ ทีนี้ก็ลองถอยสมาธิออกมา ลืมตาออกมาดูทั่วๆ รอบๆ ฮืม! ยังเห็นเดือน ยังแจ่มแจ๋วอยู่ บนท้องฟ้าไม่มีเมฆหมอก ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง มันจะมีอะหยั๋ง ฝนที่ใหนจะมา น้ำที่ใหนจะมา มันจะมาจากทางใหน ถ้าฝนจะตกตามธรรมดา มันต้องตั้งเค้า ท้องฟ้าจะต้องมืดครึ้ม ทีนี้ท่านก็ไม่เชื่อ เพราะไม่เห็นจะมีอะไร แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ลองหยั่งดูด้วยญาณของเราเองดูก่อน อันนี้ก็คล้ายๆกับพระพุทธเจ้าของเรา ที่เทวดามาบอกอันนั้น มาบอกอันนี้ ท่านก็ไม่เชื่อ ต้องรู้ด้วยตนเอง จึงจะกระจ่างในความคิด ความเชื่อ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ คิดจะไปโปรดท่านอารามดาบส อุทกดาบส แล้วมีเทวดามาบอกว่าท่านตายแล้ว เมื่อวานนี้เอง พระพุทธเจ้าก็ยังไม่เชื่อ ก็เลยเข้าญาณของตัวเอง แล้วเห็นว่าเป็นจริงอย่างที่เทวดามาบอก ทีนี้ส่วนท่านอาจารย์มั่น ก็เข้าญาณดูว่าจะจริงหรือจะเท็จ ท่านก็ตรวจดูว่ามันจะเป็นอย่างไร จะจริงอย่างที่เทวดามาบอกจริงหรือ ท่านก็นั่งสมาธิจิตใจเข้าที่ ก็ปรากฎนิมิตรเห็นว่า ฝนเกิดขึ้นทางเหนือแล้วก็มีน้ำใหญ่มารุนแรงมากทีเดียว แต่ท่านก็ไม่คิดว่าเป็นความจริง ท่านคิดว่ามันยังอยู่ไกล ท่านพระอาจารย์มั่นก็ยังอิดๆออดๆ เพราะฮักอยู่ในทีนั้น มีความอิ่มใจ ก็นั่งทบทวนอยู่ในที่นั้นแม้เทวดามาบอกให้รีบไป แต่สักประเดี๋ยว ท่านก็เอะใจ เสียงอะไรอู้ๆ มาเหมือนกับหูจะแตก เหมือนกับมีรถไฟ ๓-๔ ขบวนมาชุมนุมกัน และท่านก็นึกทบทวนได้ว่า อ๋อนี่น้ำป่ามาแล้วนี่ พอนึกได้อย่างนั้น ว่าเป็นจริงตามที่เทวดามาบอก ก็รีบเก็บกลดบาตร อัฐบริขาร พอเก็บกลดเสร็จจะออกเดินเท่านั้นเอง น้ำป่าก็เข้ามาถึงตัวท่าน ก็ชนปั้ง!เข้าให้ เหมือนกับรถที่มาแรงๆ แล้วก็ชนท่านกระเด็นไปเลย เมื่อท่านกระเด็นไปแล้ว ก็ขาดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่ออยู่บนก้อนผาสูงแห่งหนึ่ง ไปอยู่บนก้อนผาสูงแห่งหนึ่ง ท่านก็นึกทบทวนดูว่า เรามาอยู่บนนี่ได้อย่างไร น้ำป่ามาปะทะตัวเรา ชนกระเด็นไป แล้วเรามาอยู่บนโขดหินผาได้อย่างไร ท่านผู้ฟังทั้งหลาย ก็เป็นอันตัดสินรู้ได้ว่า เทวดาที่มาบอกเรานั่นเอง ท่านช่วยไว้ นี่ก็คือถึงเวลาอับถึงเวลาจน พุทธบริษัทคนไทยเรา ก็หั่นไปพึ่งเอาสิ่งที่เป็นวัตถุก็ดี วิญญาณก็ดี เทพเจ้าทั้งหลายก็ดี ก็มักจะหันไปเอาสิ่งเหล่านั้น มายึดเหนี่ยว เวลาเกิดภัยพิบัติขึ้นมา สิ่งที่มาใกล้ตัวเรา หรือสิ่งที่คนอันมากหลาย กล่าวกันบ่อยๆ พูดกันหนาหูว่าปีค.ศ.๑๙๙๙เขาทำนายกันว่าจะมีภัยพิบัติ เกิดขึ้นแก่โลก ความพินาศจะบังเกิดขึ้นแก่โลกมนุษย์เรานี้ คำทำนายที่ใช้กันทั่วไป ก็เป็นภัยที่มาจากนอกโลก ภัยพิบัติจะมาในรูปแบบใหน อันนี้ก็เล่าลือกันไปในแบบต่างๆ เป็นต้นว่าเมืองกรุงจะทรุด จะจมลงในแม่น้ำ หรือเมืองชายทะเลจะจมใต้น้ำหมด เมืองไทยถึงจะไม่จมไปหมด แต่บางส่วนก็ถูกภัยคุกคาม เช่นแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด ก็พูดต่อๆกันไป ปากคนยาวกว่าปากกา ก็กลายเป็นข่าว ทีนี้พวกที่มีความรู้ก็ผสมผสานกันไป พวกที่มีความรู้เป็นต้นว่า นักดาราศาสตร์ นักโหราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ มาจนถึงมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ชุมนุมกัน จนถึงกับพิมพ์หนังสือออกแจกจ่าย ถึงเรื่องการเตรียมตัวที่จะป้องกันภัย หาที่คุ้มครอง ภัยอันตรายที่จะมาถึง อันนี้ก็มาพูดถึงมนุษย์ต่างดาว เขาจะมาอย่างไรก็ไม่รู้ จะมาออกในทีวี เขาก็เชิญออกทีวีทั่วๆไป ก็มาเตือนถึงเรื่องภัยต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมานี้เหมือนกัน ว่ามันจะมีจะเกิดขึ้นในระยะที่กล่าวมานั้น ทีนี้จะเป็นจริงหรือไม่แค่ใหน ก็ย้อนมากล่าวถึงท่านหลวงปู่ธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่ธรรมเทพโลกอุดรนี้ ก็คนไทยเกือบครึ่งเมือง นับถือว่าเป็นพระอรหันต์ เป็นพระสำเร็จอภิญญา เป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และผู้ที่ใกล้ชิดท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็คือหลวงปู่หลุ่น ท่านอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง มีอะไรท่านก็ติดต่อกันได้ กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และท่านก็เคยพบกัน แล้วทีนี้สิ่งที่สำคัญ คือท่านว่าปากคนยาวกว่าปากกานั่นแหละ ดังที่ว่าโลกจะแตกจะเติกอะไรกันนั่น โลกมันไม่แตกอะไรหรอก ก็หลักสำคัญมันอยู่ในตัวคนเรานี้เอง และอีกประการหนึ่งก็คือบ้านเมืองในระยะนี้เศรษฐกิจมันจะพัง เศรษฐกิจจะพังแล้วคนเราจะยากจน จะผิดจะเถียงกันคนครัวเรือนเดียวกัน ก็จะแตกแยกเหินห่าง คนที่เคยอยู่ด้วยกันมีความสุขก็จะลาจากกัน ไอ้คนที่เคยรักกันก็จะแตกแยกกัน ผัวเมียก็จะทุบตีผิดเถียงกัน ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน แต่ท่านเตือนไว้ว่า อย่างไรก็ดี ขอให้มีศีล ยึดมั่นในศีลในภาวนา ในคุณงามความดีทั้งมวล มันไม่เป็นอะไรหรอก และท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรสั่งมาทุกปี ให้สืบชะตา เมื่อถึงคราวอับจนขึ้นมา ก็ย่อมปลอดภัยเสมอ อย่างน้อยก็อยู่ดีมีสุข เมื่อมีข่าวขึ้นมา ท่านว่าความจริงแท้จะเป็นอย่างไร เราก็อย่าพึ่งไปเชื่อเสียทั้งหมด และก็อย่าไม่เชื่อเสียทั้งหมด แต่หลักสำคัญที่ท่านสอน ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ให้ตั้งอยู่ในคุณงามความดี ตั้งอยู่ในศีลภาวนาเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามถึงเวลา ฉุกเฉินขึ้นมาก็ย่อมจะถึงความสวัสดีทุกเมื่อ ขอยุติเนื้อความย่อๆลงแต่เพียงเท่านี้ ท่านพระคุณเจ้าดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต เทศนาไว้เมื่อ -วันพระที่ 1 ม.ค. พ.ศ. 2542 ขึ้น๑๕ค่ำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...