กรรมของพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pong-sit, 7 ตุลาคม 2006.

  1. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781


    [​IMG]



    กรรมของพระพุทธเจ้า


    พระพุทธเจ้าของเราทรงเผยพระประวัติกรรมและผลของกรรมของพระองค์ กับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะประทับเหนือพระศิลาอันน่ารื่นรมย์ใกล้สระอโนดาด

    ทรงกล่าวว่าครั้งหนึ่ง เห็นภิกษุผู้อยู่ป่ารูปหนึ่งจึงได้ถวายผ้าท่อนเก่า โดยตั้งปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ผลแห่งกรรมอันเนื่องด้วยผ้าท่อนเก่านั้น ได้สำเร็จในความเป็นพระพุทธเจ้า

    ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นในภพสุดท้ายนี้ พระองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มตามต้องการ เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น ต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส

    ชาติหนึ่งเคยเป็นนักเลงชื่อปุนาลี ได้กล่าวใส่ความพระปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่าสุรภิผู้มิได้ประทุษร้าย ด้วยผลแห่งกรรมนั้นต้องไปท่องนรกสิ้นกาลนาน เสวยทุกขเวทนาสิ้นพันปี ด้วยกรรมที่เหลือในภพสุดท้ายก็ถูกใส่ความ เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา ซึ่งเป็นนักบวชหญิงถูกพวกเดียรถีย์ใช้ให้ทำเป็นไปค้างคืนกับพระสมณโคดม ให้ใครต่อใครหลงผิดทั้งที่นางค้างที่อื่น แต่รุ่งเช้าก็ทำท่าโผเผมาจากเชตวนาราม อีกสองสามวันที่มีคนโจษจันกัน พวกเดียรถีย์ก็จ้างนักเลงไปฆ่านาง ป้ายความผิดว่านางถูกฆ่าปิดปาก คนสงสัยว่าอาจจะจริง ร้อนถึงพระราชาส่งราชบุรุษไปสืบดูตามร้านสุรา ก็จับนักเลงที่ฆ่ากับเดียรถีย์ที่จ้างฆ่ามาลงโทษหมด


    อีกชาติหนึ่งเป็นพราหมณ์ผู้มีความรู้ มีผู้เคารพสักการะ สอนมนต์แก่มานพ 500 ได้ใส่ความภีมฤษีผู้มีอภิญญา มีฤทธิ์มาก หาว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม มานพทั้งหลายก็พลอยชื่นชม เมื่อไปภิกขาจารในสกุลก็เที่ยวกล่าวแก่มหาชนว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม ผลของกรรมนั้นภิกษุ500 เหล่านี้ทั้งหมดก็พลอยถูกใส่ความด้วย เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกาทีถูกนักเลงฆ่าป้ายความผิดให้พระพุทธองค์ ภิกษุทั้งหลายที่อยู่ในเชตวนาราม พลอยถูกหาว่าร่วมกันฆ่าปิดปากนางสุนทริกา และถูกด่าว่า กระทั่งพระราชาจับนักเลงและเดียรถีย์ที่ร่วมกันฆ่านาง จึงสงบ


    อีกชาติหนึ่งไปกล่าวใส่ความพระสาวกของพระสัพพาภิภูพุทธเจ้า มีนามว่านันทะ จึงต้องท่องไปในนรกหลายหมื่นปี เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ถูกใส่ความมาก และด้วยกรรมที่เหลือ ชาติสุดท้ายนี้จึงถูกนางจิณจมาณวิกา ใส่ความว่าพระองค์ทำให้นางตั้งครรภ์

    ชาติหนึ่งเคยฆ่าน้องชายต่างมารดาเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ผลักลงในซอกเขา เอาหินทุ่ม ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงถูกพระเทวทัตเอาหินทุ่มที่เขาคิชกูฏ จนสะเก็ดหินกระเด็นถูกหัวแม่เท้า ห้อพระโลหิตในชาติสุดท้าย

    อีกชาติหนึ่งเป็นเด็กเล่นอยู่ในทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเผาสิ่งต่างๆขวางทางไว้ ผลกรรมนั้น ในภพสุดท้ายจึงถูกพระเทวทัตส่งคนตามล่า

    ชาติหนึ่งเป็นนายควาญช้าง ไสช้างไล่กวดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต ผลแห่งกรรมนั้น ชาติสุดท้ายถูกช้างนาฬาคิรีดุร้ายเมามัน วิ่งเข้ามาเพื่อทำร้ายในนครอันประเสริฐมีภูเขาเป็นคอกคือกรุงราชคฤห์ ซึ่งมีภูเขาห้าลูกแวดล้อม

    อีกชาติหนึ่งเป็นพระราชา เป็นหัวหน้าทหารเดินเท้า ฆ่าบุรุษหลายคนด้วยหอก ผลแห่งกรรมนั้น
    ต้องหมกไหม้อย่างหนักในนรก ด้วยผลที่เหลือแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้าย สะเก็ดแผลที่เท้ากลับกำเริบ กรรมยังไม่หมด

    ชาติหนึ่งเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม ด้วยผลของกรรมนั้นจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์

    อีกชาติหนึ่งเคยเป็นบริภาษพระสาวกในพระธรรมวินัยของพระผุสสพุทธเจ้า ว่าท่านจงเคี้ยว จงกินข้าวเหนียวเถิด อย่ากินข้าวสาลีเลย ผลแห่งกรรมนั้นในชาติสุดท้ายนี้ ต้องบริโภคข้าวเหนียวอยู่สามเดือน เมื่อพราหมณ์นิมนต์ไปอยู่เมืองเนรัญชา แล้วลืมถวายอาหาร ได้อาศัยพ่อค้ามาถวายข้าวเหนียวแดงที่มีไว้ให้ม้ากิน

    ชาติหนึ่งสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้า เคยทำร้ายบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงเจ็บที่หลังเรื่อย

    ชาติหนึ่งเคยเป็นหมอ แกล้งให้ยาถ่ายแก่บุตรเศรษฐี เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถึงแก่ชีวิต ผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ จึงเป็นโรคปักขันทิกะลงพระโลหิต

    อีกชาติหนึ่งได้ชื่อว่าโชติปาละ เคยกล่าวกับพระสุคตพระนามกัสสปะว่า การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก ท่านจะได้จากควงไม้โพธิ์ที่ไหนกัน ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ต้องบำเพ็ญทุกกรกริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลาถึงหกปี ต่อจากนั้น จึงได้บรรลุการตรัสรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2006
  2. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    บทความแบบนี้หามาจากไหนหรอครับ ผมสนใจมาก
    ผมเคยอ่านแต่พระเจ้า 500ชาติ กับพระเจ้า 10 ชาติ
    อยากรู้เรื่องบราวของพระองค์ เพิ่มเติม จะหาได้จากไหนหรอครับ
    ท่านใดกรุณา รบกวนส่งลิงค์ หรือ เนื้อหาให้ จะเป็นบุญอย่างยิ่งครับ
     
  3. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    อ่ะครับ อ่านครบ500ชาติเลยเหรอครับ ไม่ทราบว่า รู้จักสุเมธดาบส กับพระทีปังกรใหมครับ
     
  4. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    เป็นที่เตือนสติ ในเรื่อง กรรม
    แม้พระพุทธองค์ ยังต้องชดใช้ ทั้งๆที่เป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็มีหลายกรรม...
    ..พวกนักเลงพระ หาพระเหนียวก็ต้องพึงสังวรณ์ ขนาดพระพุทธเจ้า ยังถูกหินกลิ้ง จนห้อเลือด
    ..แล้วพระที่ห้อยคอ..ไม่ใช่องค์จริงๆแท้ๆจะไปเหลือเหรอะ ฮา
     
  5. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ผมจะตามกด like ทุกคอมเม้นเลย แต่เดียวเขาจะหาว่าคนเดียวกันนะ
    ผมก็มีปัญหาเหมือนกัน
    ไปเจอร่างทรงแล้วเขาบังคับให้เช่าพระมาเต็มคอ กำลังคิดอยู่ว่า ผมเอาไว้ที่บ้าน
    ไม่ยอมแขวนคอ มันจะผิดใหมเนี้ย?
    การนับถือศาสนาพุทธไม่ได้อยู่ที่วัตถุ ต่อให้ของคลังยังไง
    ซักวันก็ตายอยู่ดี....

    แต่ไม่กล้าพูดอย่างนั้นเท่าไหร่อ่ะครับ
     
  6. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    อนุโมทนา กฏแห่งกรรมละเอียดอ่อน พระอรหันต์ว่าตัดกรรมแล้วยังโดนเศษกรรมทำร้ายหลายพระองค์ด้วยกัน ส่วนเรื่องเครืองรางของขลังนั้นก้อแล้วแต่คนครับ บางคนก้อนับถือเพราะเกิดปาฎิหารกับตัวเอง บางคนก้อนับถือเพราะเชื่อถือตามๆกันมา แต่เพราะวิสัยของคนเรานั้นชอบเรื่องปาฎิหารณ์ ลองไปเทศน์ให้เข้าวัดให้มาทำบุญคงมาไม่มาก เพราะคนที่จิตถึงธรรมยึดพระรัตนไตรแนบกับจิตนั้นมีน้อยนัก ครูบาอาจารย์ท่านจึงมีอุบายทำเครื่องรางของขลังใว้ เพื่อให้คนหันมานับถือพระเอาพระรัตนไตรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ พอคนห้อยแล้วจะได้นึกถึงพระ บวกกับมีอุบายข้อห้ามด้วยไม่ให้ผิดศีล บางท่านมีคาถาให้มาบริกรรมเพื่อให้จิตเป็นสมาธิด้วย ห้อยพระแล้วจะไม่กล้าทำผิด พอมีศีล(ข้อห้าม)บวกกับสมาธิ(คาถา)แล้วนึกถึงคุณพระรัตนไตร(นึกถึงพระที่อยู่กับตัว)ปาฎิหารณ์ก้อบังเกิด แต่คนก้อแปลเจตนาที่แท้จริงนั้นออกไปผิดว่าห้อยแล้วนังเหนียวถูกหวยรวยเบอร์ แต่ศาตร์นี่ก้อมีอยู่หลายแขนง ทั้งดำและขาวคนที่คิดไม่ดีจึงเอาความเชื่องมงายของคนมาเป็นต้นเหตุที่จะทำไม่ดี ส่วนท่านที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้เลยก้อไม่แปลกครับ เพราะทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต พระเครื่องเครื่องรางนั้นก้อสำเร็จได้ด้วยจิตทั้งนั้น ถ้าข้ามเรื่องเครื่องรางไปแล้วหันมาสนใจกับจิตเลยจะดีกว่า มันก้อจริงครับ แต่ขนาดพระครูบาอาจารย์ตั้งหลายองค์ บางท่านถือกันว่าเป็นพระอรหันต์ด้วย ยังบอกคนเหล่านี้ไม่รู้เรื่องเลย เพราะคนสนใจแต่ปาฎิหารณ์ แต่จะทำปาฎิหารณ์ให้เกิดให้คนหันมานับถือมาสนใจเรื่องภายในเลยนั้น มันก้อผิดพระวินัย ท่านเลยบวกปาฎิหารณ์ไว้กับเครื่องรางของขลังให้คนประจักเองว่า ท่านทำได้แล้วโยมทำไมจะทำไม่ได้แต่แค่นี่ยังแค่เล็กน้อยนะถ้าสนใจก้อต้องเข้ามาศึกษาธรรมะ คนที่หันกลับมาก้อมี แต่ส่วนน้อยอีกนั้นเหละ แต่ท่านก้อคงจะอุเบกขาเพราะแล้วแต่กรรม อย่างน้อยเอาพระเครื่องไปก้อนึกถึงพระรัตนไตร อีกอย่างสิ่งลี้ลับมนต์ดำก้อยังมีอยู่ท่านก้อคงเป็นห่วนศิษ หลังๆมาใครมาของของดีท่านก้อเลยเอาๆไปป้องกันตัว บวกข้อห้ามและคาถา แต่หลักๆท่านก้อขอให้คนหันมานับถือสนใจพระรัตนไตรเป็นหลัก บางท่านก้อเลยอาจจะคิดปรามาสพระที่สร้างเครื่องรางของขลัง หรือคนที่นับถือของเหล่านี่ แต่เป็นเจตนาที่ดีครับผมยอมรับ แต่ตัวท่านเองนั้นคิดว่าดีพอจะไปปรามาสคนอื่นแล้วเหรอ รู้แล้วเหรอว่าที่เห็นท่านทำนั้นทำเพื่ออะไร อย่างน้อยทุกอย่างก้อเพื่อพุทธศาสนา ไม่ใช่ว่าเห็นคนที่ห้อยพระหรือเห็นพระกำลังสร้างวัตถุมงคล ก้อคิดปรามาสว่างมง่าย ไร้สาระของดีอยู่กับตัวแท้ๆกลับไม่หา ไปหาแต่วัตถุภายนอกจิตใจ ผมยอมรับครับ แต่อย่าลืมว่าของเหล่านี้ผู้ที่จะทำได้ต้องมีอำนาจจิตถึงขั้นอภิญญา ของถึงจะสำเร็จถึงจะขลัง ก้อเท่ากับว่าท่านอาจจะไปปรามาสพระที่สำเร็จอภิญญาขั้นสูงหรืออาจจะเป็นพระอริยะก้อได้ใครจะรู้ พระอาจารย์หลายท่านเช่น หลวงพ่อเดิม ลพ.กวย หรือแม้แต่สมเด็จพุทธจารย์โต และอีกหลายท่าน ท่านก้อสร้างไม่ใช่เหรอครับ แล้วท่านคิดว่าตัวท่านเองดีพอจะไปปรามาสแล้วเหรอครับ ท่านสร้างทำไมรู้เหรอครับ ที่ไม่ดีก้อมีแต่อย่าเหมารวม คนที่นับถือด้วยจิตที่สูงก้อมีนะครับ ไม่ใช่ว่างมงาย บางอย่างเขายังเรียกว่าของคู่บุญเลย เมื่อก่อนผมก้อคิดแบบท่านไม่ได้นับถือต่อต้าน แต่มีหลายๆอย่างที่ทำให้ผมหันมาสนใจ หันมานับถือ และก้อศึกษา ปล คงไปกระทบกับหลายๆท่าน แต่ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ผมอาจจะตอบคำถามแทนหลายๆท่านที่นับถือแบบมีสติ ไม่ใช่ว่านับถือแบบงมงาย และไม่อยากให้ท่านปรามาสคนหรือท่านเหล่านั้น โดยที่ไม่รู้ ว่าเจตนาที่แท้จริงเพื่ออะไร หรือคิดว่าตัวท่านเองดีกว่าคนเหล่านี้ ผิดถูกประการใดกรุณาด้วย ผมผู้น้อยพูดตามที่ได้อ่านได้ศึกษามา ขอบคุณครับ
     
  7. hydraxis

    hydraxis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +529
    เอาอย่างนี้แล้วกันนะท่าน ถ้าเกิดจากกรรมยังไงเราก็โดน แต่ถ้าไม่ใช่กรรม ท่านก็สามารถช่วยเราได้เช่นกัน เชื่อผม ตอนเด็กผมนั่งเล่นใต้คาน ไม้หน้าสามยาวๆไหลมาจะกระแทกหัวคนแถวบ้านเห็นแบบว่าต้องหัวหักแน่ๆแต่ที่ไหนผมก้มโดยที่เหมือนมีใครมากดหัวไว้ ลุงเขาเล่าให้พ่อผมฟังนะ ตอนเด็กแขวนหลวงพ่อโสธร ครับ({)
     
  8. n_juniorkid

    n_juniorkid Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +76
    ไม่มีใครที่จะไม่เคยผิดพลาดเลยสักครั้ง แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน
     
  9. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240

    พระพุทธองค์จึงสอนให้เราพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
     
  10. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    กรรม เป็นของของตนจริง ๆ
     
  11. กล็อก 19

    กล็อก 19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +77
    พระพุทธเจ้ายังมีกรรมอีกหนึ่งอย่าง

    พระพุทธเจ้ายังมีกรรมอีกหนึ่งอย่างคือ

    พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์กับตถาคต ได้สร้างกรรมไว้ในอดีตชาติ" พระองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า
    "อันชาติหนึ่งสองเราสหายสนิท
    ช่วยกันคิดเอาบัวมาอธิษฐาน
    เพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาล
    ให้บัวบานบอกแจ้งเป็นผู้ใด"

    ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหารว่า ถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน

    ครั้นวันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไปดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้ง เห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย

    "บัวของน้องบานแล้วนะพี่จ๋า
    สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่
    แต่ไฉนบัวในมือเดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ
    พุทธยังไม่เที่ยงพุทธยังไม่แท้น่าอายจริง"

    ฝ่ายพระศรีฯนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัว จึงทำนายว่า
    "โอ! สหายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษกัน อย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตว์ต่อกัน จะทุจริต คิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวแบดังบัวดอกนี้"

    เพราะกรรมที่พระพุทธโคดมได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันตสาวกจะเข้าพระนิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ศาสนาสามส่วนก็ถูกพราหมณ์ ยักษ์ และมารเอาไปครอง เหลือจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ข้อวัตรปฏิบัติจึงถูกปนเป็น จนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลัง จึงไม่เข้าใจทางปฏิบัติที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว นั้นคืออะไร

    พระพุทธโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า

    "เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาในพุทธกาลของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือ เหมือนในศาสนาของตถาคตจะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์จะไม่ติเตียนว่า เป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาและเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะบินลงเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง ครั้นแล้วถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตามบุรพกรรมสัญญา....

    อ้างอิงจากhttp://www.baansuanpyramid.com/inde...gory=baansuanpyramidcom&thispage=1&No=1394654
     
  12. ไร้นา

    ไร้นา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +108
    ความเป็น "สหายสนิท"
     
  13. tleelapo

    tleelapo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +2,444
    ขออนุโมทนาครับ กฏแห่งกรรมละเอียดอ่อน ไม่ว่าเล็กน้อยตามมาหมดในชาติสุดท้าย ดังนั้นขึ้นชื่อว่าความชั่วแม้จะเล็กน้อย ก็ขออย่าทำเลยดีกว่า
     
  14. tleelapo

    tleelapo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +2,444
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ กฏแห่งกรรมละเอียดอ่อน แม้เศษกรรมเล็กน้อยยังตามมาในชาติสุดท้าย ดังนั้นความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย เช่นมโนกรรม ยังทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ ขึ้นชื่อว่าความชั่วอย่าทำเลยดีกว่า
     
  15. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    =====
    ผู้ใดกล่าวมุสาวาท แก่พระพุทธเจ้าและพระมหาโพธิสัตว์ ศรีอาริยะ ผู้นั้น จักต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น จะด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจตนาก็ดี เรื่องนี้ผู้มีปัญญาพึงรู้แจ้งชัดว่าความจริงเป็นเช่นไร สาธุครับ และดูเหมือนประเด็นนี้จะเคลียร์ไปแล้วด้วยครับ
     
  16. naiy.p

    naiy.p Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +35
    เคยได้ยิน

    ผมเคยได้ยินดังที่ คุณกล็อก 19 โพส ตอนเป็นเด็ก นิทานกาขาว แต่ผมไม่เชื่อ ยังหาแหล่งที่มาที่เชื่อได้ไม่เจอ และอีกอย่างไม่กล้าแตะต้องความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระองค์
     
  17. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อยากได้ข้อมูลค่ะ ช่วยหน่อยได้ไหมคะ ?( จะกลับมามั๊ยเนี่ย)
     
  18. mongkot

    mongkot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +273
    เห็นว่าสถานที่เสี่ยงทายดอกบัวของพระพุทธเจ้ากับพระศรีอาริย เมตไตร อยู่ในประเทศไทยนะครับ ไปกราบมาแล้ว ที่สำนักสงฆ์วัดภูนกหงส์ บ้านแก้งอะฮวน ต.ท่าหลวง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี โดยอดีตท่าเจ้าอาวาส หลวงปู่เสถียร นามะทัดสี ได้กล่าวว่า ต่อไปสถานที่นี้ จะเป็นจุดศูนย์กลางในการเผยแพร่ศาสนาในยุคพระมหาจักรพรรดิ์ ถ้าท่านผู้ไดอยากไปกราบ ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  19. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    อยู่ใน พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติ (พระไตรปิฎกเล่มที่ 32) ครับ
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=32&A=7849&Z=7924
     
  20. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    นี่ไงครับขนาดท่านเป็นพระพุทธเจ้าท่านยังรับมีกรรม แล้วคนทั่วๆไป ละครับ ก็มีกรรมกันทั้งนั้น

    "ชาติหนึ่งเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม ด้วยผลของกรรมนั้นจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์"

    ขอนี้ครับ ต้องศึกษาเลยครับ มีความชื่นชมในการฆ่าปลาก็เป็นกรรมแล้วครับ มโนกรรมเราก็ต้องระวังนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...