ทำอย่างไร เมื่อเจอคนที่เชื่อว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป"

​

คัดจากหนังสือ "โชคดีที่ได้รู้" โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

ภาค 1 : รู้ทันกรรม

ถาม : มีหลายคนเชื่อคำพูดที่ว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" ควรทำอย่างไรให้เขาเข้าใจในสิ่งที่ถูก

...

ตอบ : เรื่องนี้พูดอย่างเดียวอาจจะไม่เข้าใจ ต้องเฝ้าดูความคิด การพูด การกระทำติดต่อกันไปเรื่อย ๆ และจะเห็นความจริงปรากฏ ว่าเมื่อเหตุดีผลก็ดี เหตุไม่ดีผลก็ไม่ดี ต้องหัดเจริญสติจึงจะเห็นความจริงของกฎแห่งกรรมตามธรรมชาติ ผลของกรรมอาจเปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ ต้นไม้บางชนิดออกผลเร็ว เช่น ต้นกล้วย แต่บางชนิดออกผลช้า เช่น มะม่วง ต้นตาล อย่างไรก็ตามสิ่งที่แน่นอนคือการปลูกต้นไม้ชนิดใดย่อมได้ผลของต้นไม้ชนิดนั้น กรรมดีและกรรมชั่วก็เหมือนกัน คือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎธรรมชาติ

พระพุทธเจ้าได้เคยอธิบายว่า ความชั่วเมื่อยังไม่ออกผล ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข จะมีรสชาติหอมหวานเหมือนน้ำผึ้ง ตัวอย่างเช่น คนที่เก่ง เฉลียวฉลาด มีความสามารถ หากคิดทำสิ่งดีก็ทำได้สำเร็จและเกิดประโยชน์ได้มากมาย แต่เมื่อเกิดกิเลสตัณหา คิดทุจริตทำผิดกฎหมายก็มักไม่มีใครจับได้ ในทางโลกจึงเหมือนประสบความสำเร็จ ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ อย่างเช่น โจรปล้นธนาคาร เมื่อตำรวจจับไม่ได้เขาก็มีเงินทอง มีฐานะดี แต่จริง ๆ แล้วนั่นไม่ใช่ผลของการปล้นธนาคาร แต่เป็นผลของความดีในอดีตซึ่งอาจเป็นอดีตชาติ หรืออดีตในชาติปัจจุบันก็ได้

ส่วนผลของความชั่วที่เป็นรูปธรรมคือ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา แม้จะยังไม่เกิดขึ้นแต่ในแง่จิตใจแล้วเขาก็คงทุกข์ใจ หวาดระแวง เมื่อถึงเวลาที่ความชั่วออกผลจริง ๆ แล้วชีวิตก็จะเสียหาย ต้องได้รับโทษ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ไม่มีทางทำอะไรได้ เมื่อมองผิวเผินจึงคล้ายกับว่าทำชั่วแต่ได้ดี ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ แต่เป็นเพราะกรรมชั่วยังไม่ออกผลนั่นเอง

"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ข้อนี้เป็นกฎตายตัว หากทำดีแล้วยังไม่ได้ดีก็ต้องอดทนทำความดีต่อไป เมื่อกรรมดีออกผลก็ย่อมได้รับผลแห่งกรรมดี คือความสุข​

...

 

พระพุทธเจ้ายังไม่สั่งสอนคนที่เป็นมิจฉาทิจฐิเลย และพระพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถเอาคนไปสวรรค์หรือไปนิพพานได้หมดอ่ะครับ เราจะทำตัวเหนือกว่าพระพุทธเจ้า หรือ ในเมื่อเขาไม่เชื่อก็เรื่องของเขา หรือเรายังเห็นว่า เขามีวิสัยอยู่ เมื่อมีโอกาศ ก็ชักแม่น้ำทั้ง ๕ แบบแผนต่างๆ ที่เรารู้ ควรจะเอาธรรมมะข้อไหน มาแจกแจง แสดงให้เขาเห็น ว่ากฎของกรรมดีและกรรม ชั่ว จะให้ผล อย่างไร สมมุติ ว่า คุณไปฆ่าสัตว์ ทำให้เขาตาย ถ้า

คุณ จิตเศร้าหมอง หรือกังวล ถือว่านั่นแหละคุณเป็นทุกข์แล้ว ตกนรกทั้งเป็น หรือคุณไปทำร้ายใคร กลัวคนอื่นเขา จะมาเอาคืน บ้าง จิตคุณเป็นกังวล ในสิ่งต่างๆ กลัวเขาจะมาลอบทำร้าย จิตคุณเป็นทุกข์ ในทางบุญก็เหมือนกัน ถ้าเขา ไปทำบุญ ไปช่วยเหลือคนอื่น หรือเป็นครู สอนนักเรียน แต่จิตคุณ มีความสบายใจ เป็นสุข เหมือนคุณได้ขึ้น สวรรค์ อนุมารชัก ชวนในสิ่งที่เกิด บุญกุศล ทั้งดีและชั่ว เราก็ เราก็ยกมาเปรียบเทียบ มี เรื่องให้เราเปรียบเทียบ เยอะแยะ ไม่เห็นยากเลย ถ้าเป็น อาภัพพะบุคคล ควรจะเอากายใจขงเราออกห่างจาก คนประเภทนี้เสีย ไม่ควรครบ ถ้าครบ ก็เสียไม่ได้อย่างนั้นแหละ ทุกคนมีปัญญา จะเอามันออกมาใช้หรือเปล่าเท่านั้นเองครับ

กรรมชั่วบางอย่างให้ผลภายในไม่กี่วัน บางอย่างไม่ กี่เดือน บางอย่างไม่กี่ปี บางอย่างในชาตินี้ กรรมบางอย่างก้ให้ผลในชาติหน้า หรือ ๑๐ ชาติ ๑๐๐ ชาติ ก็มี ทั้งกรรมดี และกรรมชั่ว มันอยู่ที่แรงบุญหรือ บาปนั้นๆแรงแค่ไหน ครับ

 

ก็ตบกระบาลคนที่เชื่ออย่างนี้เลยครับ แล้วถามว่าตอนนี้เราทำดีหรือทำชั่ว

 

ทำอย่างไร เมื่อเจอคนที่เชื่อว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป"

สมมติว่า เห็นบางคนมีอาชีพทุจริตผิดกฏหมาย เช่น ค้ายาเสพติด สร้างฐานะร่ำรวย
มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ เป็นปี ๆ แต่เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ พาสังคมให้เดือดร้อน

หากถามว่า สุขดีไหม ใจสงบดีไหม ผิดชอบชั่วดี คำตอบนั้นรู้ดีแก่ใจ
ถึงแม้ไม่มีใครรู้เห็นด้วย แต่เขาก็รู้เห็นด้วยใจเขาเองครับ
ในเมื่อใจมันไม่บริสุทธิ์ มันก็อยู่ด้วยความทุกข์กังวลในสิ่งนั้น ๆ
เป็นการสร้างวิบากโดยตรงแก่ตัวเขาเอง ส่วนเขาจะถูกจับได้หรือไม่
ก็เป็นวิบากทางอ้อม ซึ่งว่าด้วยกฏแห่งกรรมแล้ว ย่อมมีความยุติธรรมแน่นอน

ส่วนหากคิดว่า ทำดีแล้วไม่ได้ดี อาจจะเป็นเพราะว่า มีเจตนาแฝงไปด้วยกิเลสต่าง ๆ
อยากจะให้ผู้อื่นยกย่องชมเชย หรือ หากใครคิดว่าทำดีเอาหน้าหรือโอ้อวดมากกว่า
จิตใจก็เศร้าหมองทันที เพราะเหตุที่ว่า เขายึดมั่นในความดีของเขาเกินไปครับ

 

หากจะให้แยกแยะ ดูท่าจะแรงไป อนุโลมให้ตีเบา ๆ ก็ได้มั้งครับท่าน

 

สงสัยว่าจะเป็น "ทำดีได้เงินและตำแหน่งมีที่ไหน ทำชั่วได้เงินและตำแหน่งมีถมไป" มากกว่ามั้ง หากคำว่า "ดี" หมายถึง "เงินและตำแหน่ง" แล้วละก็ ลองไปถามคนที่ "ทำชั่วได้เงินและตำแหน่ง""ซึ่งมีอยู่ถมไป" นั้น ดูว่า "ความสุขในชีวิต" ของเขาเหล่านั้น "มีอยู่จริงหรือ" และยัง "นอนหลับฝันไม่ดี" อยู่หรือไม่

ลองหาและถาม ๆ ดู นะครับ

 

ออกให้ห่างเข้าไว้ คนที่คิดอย่างนี้นับว่าเป็นสุดยอดของคนพาล

 

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แน่นอน

 

และเป็นเสมือนดั่งลบหลู่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าด้วยครับ

 

ถาม : มีหลายคนเชื่อคำพูดที่ว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" ควรทำอย่างไรให้เขาเข้าใจในสิ่งที่ถูก

เรื่องมิจฉาทิฏฐินี้แก้ยากนะคะ หากช่วยเขาไม่ได้ ก็ควรหลีกเร้นจากเขาสีย

 

มันเป็นคำแก้ตัวของคนมักง่าย ในใจรู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร แต่มันทำยาก ขาดซึ่งความเพียรเลยหาคำมาแก้ตัว เพราะมันง่ายไม่ต้องทน ไม่ต้องรอ