จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ขอโมทนา สาธุ กับครูเพ็ญและจิตบุญจิตบำเพ็ญทุกๆท่านด้วยนะครับ
ผมขอแผ่เมตตาและยกผลบุญบารมีืั่ได้ทำมาทั้งหมดทั้งปวง
ให้กับครูเพ็ญ และจิตบุญจิตบำเพ็ญทุกๆท่านทั้งหมดทั้งสิ้นเลยครับ สาธุ

ด้วยจิตคารวะ

นิวเวป1959 จบ.๑๔

 

การปฏิบัติจิตเกาะพระ

สวัสดีครับ

ผมขอแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับจิตเกาะพระด้วยคนครับ
คือ คุณวิทย์เนี่ย เค้าเป็นเพื่อนกับผมมาก่อน ก่อนจะมาเป็นครูสอน
จิตเกาะพระให้กับผม โดยก่อนหน้านี้ เราจะสนใจในธรรมะ
ในแนวที่คล้าย ๆ กัน และผมก็ยอมรับอย่างจริงใจว่า คุณวิทย์
มีความเข้าใจ และความก้าวหน้าในธรรมะ มากกว่าผม ในระดับหนึ่ง

อยู่มาวันหนึ่ง คุณวิทย์ มาบอกผมว่า ท่านได้สำเร็จวิชาอะไรบางอย่าง
แล้ว ตอนแรก ๆ ผมก็ไม่มั่นใจว่า คืออะไร พาลคิดไปถึง เรื่องว่า คุณวิทย์
คงจะได้อภิญญา อะไรบางอย่าง และต้องการที่จะถ่ายทอดให้ผม แต่ผมเอง
นั้น บอกตามตรง ไม่ชอบแนวอภิญญา ชอบที่จะปฏิบัติธรรมให้พ้นทุกข์
เสียมากกว่า

จนวันหนึ่ง คุณวิทย์ก็บอกกับผมว่า ท่านบรรลุธรรมแล้ว และถามผมว่าสนใจ
มั๊ย จะสอนให้ ผมก็เลยสอบถามท่าน ในแง่มุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธรรมะ
ซึ่งคำตอบของคุณวิทย์ ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า ท่านบรรลุธรรมแล้วจริง ๆ
เพราะคำถามของผม และคำตอบที่ได้รับ ท่านตอบได้เหมือนกับ ผู้ปฏิบัติ
ธรรมในระดับหลุดพ้นแล้วจริง ๆ ( ปกติผมเล่นกระทู้ ศาสนา ในเวปแห่งหนึ่ง
อยู่เป็นประจำ และก็ได้อ่าน ลักษณะของผู้ยกจิตได้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร
รวมทั้งค้นหาความหมายของคำว่า นิพพาน ว่า คืออะไร อยู่ 2 ปี )

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คุณวิทย์ ก็เริ่มสอนให้ผมทำจิตเกาะพระ ในครั้งแรกที่ผม
เลือกภาพพระออกมา คุณวิทย์บอกให้ผมเลือก 7 ภาพ ผมก็เข้าไปเลือกในเวป
ก็ปรากฎว่า ภาพพระที่ผมเลือกนั้น ทั้ง 7 ภาพนั้น เป็นภาพพระสีขาว ทั้งหมดเลย
ในตอนหลังที่ผมได้มาเข้ากระทู้ พลังจิต ครั้งแรก ผมก็ได้เห็นพี่ภู โพสภาพพระ
ซึ่งเป็นสีขาว และในเวปนี้ ส่วนใหญ่ ก็จะมีภาพพระที่เป็นสีขาว เช่นเดียวกัน
ก็ไม่รู้ว่า เป็นความบังเอิญ หรือ เปล่า น่ะครับ แต่ในความรู้สึกของผมบอกได้เลยว่า
ใช่ .... แนวนี้ คงจะถูกจริต กับผมอย่างแน่นอน ... ( เข้าข้างตัวเองไปเสียอย่างนั้น )

หลังจากวันนั้น ผมก็ลองปฏิบัติจิตเกาะพระดู แต่ครั้งแรก ๆ ผมคิดถึงภาพของพระ
อาจารย์ ที่ผมมีความชื่นชอบเป็นส่วนตัว นั่น ก็คือ พระติช นัท ฮันท์ ก็ระลึกถึงท่าน
พอซักพัก ภาพท่านก็เปลี่ยนเป็น หลวงตามหาบัว ให้ผมเอง โดยอัตโนมัติ และใน
วันต่อมา ภาพก็เปลี่ยนอีก เป็น หลวงพ่อคูณ มั่งล่ะ หลวงปู่มั่น บ้าง
จนในวันหนึ่ง จากภาพบุคคล ก็เปลี่ยนกลายมาเป็นภาพพระพุทธรูปจนได้ ตอนแรก
พระพุทธรูป ก็เป็นสีขาว พอซักพัก ก็เปลี่ยนสีเป็นสีนวโลหะ และเปลี่ยนเป็นประกาย
เพชร แบบชุดลิเก นี่แหละ ผมก็รายงานให้คุณวิทย์ ทราบเป็นระยะ ซึ่งคุณวิทย์ก็ได้
ให้คำตอบกับผมว่า ตอนนี้ น่าจะได้ถึงระดับนั้น ระดับนี้ แล้ว นะ

พอมาถึงวันหนึ่ง จากภาพที่เห็นกันชัด ๆ ก็ ติด ๆ ดับ ๆ คุณวิทย์ ก็บอกว่า ถ้าไม่เห็นภาพก็ให้น้อมนำใจให้คิดว่า อยู่ในตัวของเรา ... จะบอกว่าตอนนี้ เอง เริ่มรู้สึกว่า
เกาะพระไม่ค่อยติด เสียแล้ว ....

เลยพาให้ ละเลย การปฏิบัติไปพักหนึ่ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะช่วงที่ทำจิตเกาะพระ
นั้น มีเรื่องทางโลกมากระทบมากมาย แต่ก็สามารถควบคุมจิตใจให้ไม่ไปเกาะเกี่ยว
ได้ดีมาก ๆ แต่พอไม่ปฏิบัติแล้ว บอกได้เลย แม้เรื่องเล็กน้อย ก็ทำให้จิตใจเรา หวั่นไหว โอนเอน เกาะเกี่ยวและรู้สึกไปได้มากมาย ...

ประกอบกับ คุณวิทย์ ก็ไม่ปล่อยให้ผมละเลยการปฏิบัติเลย และหมั่นสอบถาม อีกทั้ง
ยังได้ พี่เพ็ญ มาช่วยตอบคำถามให้ทางอีเมลล์ และเป็นคำตอบที่ละเอียดมาก ๆ ทำให้
หายสงสัย คลายความยึดมั่นถือมั่นลงไปได้มากทีเดียว ทำให้ผมเริ่มหันกลับมาปฏิบัติ
จิตเกาะพระอย่างจริงจัง จนทำให้ตอนนี้ รู้สึกได้เลยว่า ตนเองนั้น มีความสามารถ
ในการควบคุมอารมณ์ ได้ดีขึ้น ๆ และลดความยึดมั่นถือมั่นลงไปได้มาก ...

จนกระทั่งตอนนี้ ความอยากมี อยากจะเป็น หรือ ไม่อยากจะเป็นในเรื่องต่าง ๆ นั้น
แทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ผมยังรู้สึกว่า มีบ้าง แต่น้อยมาก ตอนหลัง ๆ นี่ ก็รู้สึก
ได้ว่า เหมือน ๆ มันจะหมดไปแล้ว (คุณวิทย์ บอกว่า สติ อาจจะยังตามจิตไม่ทัน )
อยากจะบอกว่า จิตเกาะพระ ทำให้ผมทำสมาธิได้ เร็ว และจิตนิ่งอยู่ได้นาน กว่า
วิธีการอื่น ๆ จริง ๆ ( แบบไม่รู้ตัว และไม่น่าเชื่อด้วยครับ )

หลังจากที่ผมปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ จึงค่อยมาเข้าใจว่า การทำจิตเกาะพระเป็น
การเจริญสติ ให้มีความรู้สึกตัว ให้ได้ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งการทำได้แบบนี้
ก็เท่ากับว่า จะสามารถนำพาเราไปสู่ผลของการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน
กว่า วิธีการที่เราฝึกทำ เป็นช่วงเวลาแบบจำเพาะเจาะจง ...

จะขออนุญาติ เปรียบเทียบ กับการเรียนภาษาต่างประเทศ หากเราเรียนแต่วิธี
การอ่านและเขียน ในห้องเรียน (นั่งสมาธิ หรือ แค่อ่านคำสอนในบางเวลา )
ซึ่งอาจจะทำในลักษณะนี้ ตั้งแต่ชั้นมัธยม จนถึง มหาวิทยาลัย ( เป็น 10 ปี )
จะมาสู้วิธีการที่เราได้ไปอยู่ต่างประเทศจริง ๆ แล้วฟังและพูดภาษานั้น ๆ
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ไม่ได้ อย่างแน่นอน ( คือ การทำจิตเกาะพระ ตลอด
วัน ติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง )

และวิธีการทำจิตเกาะพระนี้ เรายังจะต้องรักษาศีล 5 และปฏิบัติตามมรรค
มีองค์ 8 ให้เข็มแข็ง และมั่นคงอีกด้วย ซึ่งก็เป็นการทำฐานบ้านที่มั่นคง
แข็งแรง ดั่งที่คุณวิทย์ เคยเขียนไว้ในเรื่องการสร้างบ้านอีกด้วย ...
ดังนั้น เวลามาทำจิตเกาะพระ ก็เหมือนกับว่า เราได้ทำการสร้างตัวบ้าน
และมุงหลังคาตลอดเวลา โดยไม่หยุดพักเลย จะเรียกว่า ปฏิบัติธรรมแบบ 24 ชม.
แบบ 7 11 ก็ว่าได้ หรือจะเป็นแบบที่ น้องแกงส้ม แกได้แต่งเพลง
รักเธอ 24 ชม. เอาไว้ นั่นเอง แต่จิตเกาะพระเป็นเรื่องของการที่เรา
ปฏิบัติบูชา 24 ชม. แทนนั่นเอง ...

ฉะนั้น แล้วจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม มีผู้คนหลาย ๆ ท่านที่ตั้งใจฝึกปฏิบัติ
แนวนี้ จึงจะสามารถยกจิตได้อย่างรวดเร็ว ...
นี่เป็นความรู้ที่ผมได้จากการทำจิตเกาะพระ และอธิบายออกมาจากการปฏิบัติ
ที่ผ่านมา นะครับ ขอบอกว่า นี่คือ ของจริง ... ครับ ตรง ลัด สั้น ที่สุด เท่าที่

ผมเคยปฏิบัติมาครับ ...
หวังว่า สิ่งที่ผมได้เขียนมานั้น คงจะเป็นประโยชน์กับผู้เริ่มทำจิตเกาะพระ
ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ ...

ธรรมะ ราตรีสวัสดิ์ พี่น้องชาวไทย .....

 

The internet network at my house is failed more than a week,lucky that I just have done about Jitkhopra 1 day before it failed,hope it will be fixed today or tomorrow ka,seems a lot of things going on here.(kiss)

 

Anumo thana sathu...sathu..sathu

 

Anumo thana sathu..sathu...sathu

 

Anumo thana sathu...sathu...sathu

 

Anumo thana sathu...sathu...sathu

 

Anumo thana sathu...sathu...sathu..a hundred trillion times ka.

 

วิธีปฏิบัติจิตเกาะพระ...ธรรมทานจากคุณจารุณี(แอ๋ว) จิตบุญ ๒๒

ถึง พี่ภู พี่เพ็ญ ครูวิทย์ ครูลูกหว้า จิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระ ทุกท่าน


การปฏิบัติธรรม จิตเกาะพระ


เริ่มต้นเมื่อก่อนตอนยังไม่รู้จักจิตเกาะพระ ก็เป็นคนที่รักในการทำบุญ ทำทาน รักษาศีล ทำความดีนะ อยากเป็นคนดีให้มากขึ้นกว่าเดิม มันเหมือนเรายังดีไม่พออยู่ตลอด ทุกวันก็ไหว้พระ สวดมนต์ ใส่บาตรทำบุญทำทานก็ทำบ่อยๆชอบฟังธรรมะ ชอบอ่านหนังสือธรรมมะ เคยไปปฏิบัติธรรมมา 2 ครั้งถือศีลแปดนะคะ แต่เหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่คือนั่งสมาธิแล้วชอบฟุ้งแล้วนั่งๆนานมันรู้สึกทรมานพักหลังเลยไม่ได้ไปคะ การรักษาศีล 5 ก็เช่นกันมีความตั้งใจจะรักษาให้ครบแต่ก็ขาดเป็นบางครั้งในบางข้อ คือมีกำลังใจฮึดเป็นพักๆมันไม่ต่อเนื่อง คือบางทีเจอปัญหาทางโลกจิตก็ตกไป แต่สักพักก็มาตั้งใจใหม่เป็นแบบนี้สลับไปสลับมาตลอด


แล้วที่ผ่านมาหลายปีแล้วความรู้สึกไม่อยากเกิด ไม่ว่าภพภูมิไหนก็ไม่อยากไปเกิดมันเกิดขึ้นในความรูสึก รู้สึกอยากไปแต่พระนิพพานเท่านั้นมันคิดอยู่อย่างนั้นบ่อยๆ ตั้งแต่นั้นไม่ว่าจะทำบุญ ไหว้พระ ขอพรพระ ก็จะขอแต่ให้ไปนิพพานเท่านั้นแต่ในใจบางทีก็คิดว่าเราขอเกินกำลังบุญเรารึเปล่า หรืออย่างเราจะไปนิพพานได้หรือเป็นแบบนี้มานานแล้วคะคือ กล้าๆกลัวๆ พยายามศึกษาว่าต้องปฏิบัติอย่างไรต้องทำอะไรบ้างก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง จนมาเจอจิตเกาะพระนี่แหละคะคิดว่าน่าจะช่วยได้ ตอนแรกๆที่เข้ามาก็ตามอ่านกระทู้มาเรื่อยๆ แล้วก็เอาแนวทางมาปฏิบัติดูเพราะการเริ่มต้นจิตเกาะพระคือ ดูภาพพระบ่อยๆ คิดถึงพระบ่อยๆในใจ เอาพระไว้ในจิตตลอดเวลา ตอนแรกทำแบบนี้ก็ทำได้นะเพราะปกติ ทั้งที่บ้าน และที่ทำงานก็มีรูปพระอยู่หลายรูปมาก มีมาตั้งนานแล้วด้วยคือที่ผ่านมาก็เห็นรูปพระตรงหน้าตลอด เมื่อก่อนทำๆงานไปเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นรูปพระก็ยกมือขึ้นไหว้ที บางทีวันนึงหลายครั้ง แล้วเป็นคนที่เห็นพระที่ไหนจะไหว้แทบทุกครั้งไม่ว่าในบ้าน ในทีวี ในคอม หรือที่อื่นๆที่มีพระ (จนบางครั้งยังกลัวคนอื่นหาว่าบ้าเลย) ขอสรุปการปฏิบัติจิตเกาะพระของตัวเองเป็นข้อๆดังนี้


1. ช่วง 1-2 วันแรกที่เริ่มทำจิตเกาะพระ จะระลึกนึกถึงพระได้ทันทีเพราะปกติที่ผ่านมาทั้งที่บ้านและที่ทำงานจะมีพระพุทธรูปและภาพพระอยู่มากและเห็นได้ชัดเจนตลอด เช่นที่โต๊ะทำงานจะมีพระพุทธรูปอยู่ด้านหลัง และมีภาพพระอยู่ด้านหน้าและข้างๆ เวลาว่างจากการทำงานหรือเปลี่ยนอิริยาบถหันหน้าไปทางไหนก็จะเห็นพระตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงเป็นการง่ายที่จิตจะจดจำพระและเห็นได้ในจิตทันทีที่นึกถึงพระ พอมาเริ่มปฏิบัติจิตเกาะพระก็เริ่มเพิ่มความถี่ในการคิดถึงพระให้บ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ คิดถึงพระบ่อยๆ สบายๆ เรื่อยๆ ไม่บังคับ ไม่เพ่ง ไม่เครียด ไม่เค้นจิต คือความรู้สึกเหมือนคิดถึงคนในครอบครัวเช่นคิดถึงลูกๆ (แต่ก่อนทำจิตเกาะพระในหนึ่งวันจะคิดถึงลูกบ่อยมากเพราะอยู่ไกลกัน แต่พอมาทำจิตเกาะพระกลับคิดถึงพระบ่อยมากกว่าลูกอีก)



2. ช่วงวันที่ 3-5มีพระอยู่ในจิตตลอดทั้งตอนหลับและตื่น ตอนนอนหลับนี่ช่วงที่ร่างกายหลับอยู่จะมีความรู้สึกเห็นพระอยู่ในจิตด้วยคือมันเหมือนคนนอนละเมอตอนกลางดึก ทั้งๆที่กายหลับสนิทแต่จิตตื่นแล้วเห็นภาพพระ มันเหมือนจิตจะคอยเช็คว่าพระยังอยู่ไหมพอเห็นพระปรากฏขึ้นในจิตก็หลับต่อเลย ในคืนนึงๆจะเป็นแบบนี้ประมาณ 1-2 ครั้ง แทบจะทุกวันที่จิตเกาะพระ พอตอนใกล้ตื่นนอนก่อนลืมตาจิตจะปรากฏภาพพระขึ้นสักพักแล้วก็ตื่นนอน ในระหว่างวันก็จะมีความรู้สึกว่าพระท่านอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร เช่น ทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ไปทำงาน จะกลับบ้านหรือทำกิจวัตรประจำวันต่างๆก็จะบอก จะคุยกับพระตลอด เช่น

- สมเด็จพ่อทานข้าวข้าวคะ

-สมเด็จพ่อไปทำงานกันคะ

-สมเด็จพ่อหนังเรื่องนี้สนุกไหมคะ

-สมเด็จพ่อกลับบ้านกันคะ ฯลฯ

คือมันจะรู้สึกว่าท่านอยู่กับเราตลอดอยู่กับเราทุกขณะจิต ไม่ว่าทำอะไรจะเห็นได้ตลอดเหมือนท่านนั่งอยู่ในจิตเราตลอดเวลา และจะเห็นพระทั้งองค์เป็นสีทองสวยงามมากเห็นได้ชัดเจนแต่ระยะเวลาไม่ได้นานมาก ตอนทำจิตเกาะพระก็ไม่ได้สนใจหรือเข้าใจอะไรเกี่ยวกับการทรงฌานต่างๆเลย ได้แต่ทำไปๆ เรื่อยๆ เบาๆ สบายๆบ่อยๆเท่านั้นเองไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ฌาน ได้อภิญญาอะไรเลย เพราะจุดหมายสูงสุดในการปฏิบัติจิตเกาะพระคือพระนิพพานเท่านั้น และไม่ได้คาดหวังว่าจะสำเร็จในเร็ววันด้วย ในใจก็คิดว่าเราทำไปเรื่อยๆระยะทางของความสำเร็จก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆเช่นกัน เวลามีอะไรติดขัดหรือสงสัยก็จะถามครู ให้ครูคอยแนะนำ ครูว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น จิตก็แนบแน่นกับพระ สติก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาการเผลอขาดสติก็น้อยลงๆจนแทบจะไม่มีเลย ส่วนเรื่องศีลนั้นจะรักษาอยู่เป็นปกติโดยไม่ต้องคอยระวังรักษาเพราะถ้ามีอะไรที่จะทำให้ผิดศีลจิตและกายจะปฏิเสธทันที การไหว้พระ สวดมนต์ ขอขมาพระและแผ่เมตตาก็ทำเป็นประจำทุกวันทั้งตอนเช้าและก่อนนอน



3. ช่วงก่อนจิตยก จิตจะเห็นพระได้ตลอดเหมือนทุกวันแต่ความรู้สึกของกายมันจะรู้สึกเบาสบาย ปลอดโปร่งและมีความรู้สึกว่าไม่อยากสุงสิงกับใครหรืออะไรทั้งนั้น อยากอยู่คนเดียวเงียบๆคนเดียว ใช้เวลาพิจารณาร่างกายและจิตของตัวเองบ่อยๆ เห็นอะไรเข้ามาคำว่าพิจารณาก็จะเกิดขึ้นทันทีในจิต แต่ในเวลาทำงานก็สามารถทำได้ตามปกติแต่จิตจะแว๊บไปหาพระเป็นพักๆคือขอให้ได้เห็นพระแว๊บๆก็พอใจแล้ว แต่ในช่วงนี้ถ้ามีใครถามว่าทรงฌานอะไรอยู่บอกได้เลยว่าไม่รู้จริงๆเพราะไม่เคยไปสนใจตรงนี้ สนใจแต่การปฏิบัติอย่างเดียว ตั้งใจทำความเพียรต่อเนื่องไปเรื่อยๆแบบ เบาๆสบายๆ บ่อยๆ เดินทางสายกลาง ไม่อยาก อย่าอยากได้ อย่าอยากไป วางกำลังใจกลางๆ ทำไปๆจนในที่สุดก็จะถึงจุดหมาย นี่เป็นประสบการณ์ทำจิตเกาะพระของตัวเองที่ได้ทำผ่านมาทั้งหมด บอกได้เท่าที่สัญญาจำได้คะ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้สนใจปฏิบัติไม่มากก็น้อยคะ


ขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณในเมตตาของ พี่ภู พี่เพ็ญ ครูวิทย์ ครูจิตบุญทุกท่านที่เป็นผู้ชี้แนะแนวทางและคอยแนะนำสั่งสอนให้ได้พบหนทางปฏิบัติลัดตรงสู่พระนิพพานในชาตินี้ด้วยความเคารพยิ่ง

สุดท้ายนี้ขอกราบขอขมาและขออโหสิกรรมต่อ พี่ภู พี่เพ็ญ ครูวิทย์ ครูจิตบุญทุกท่าน จิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระทุกท่านทุกดวงจิต หากข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินไว้ไม่ว่าด้วย กาย วาจา ใจ ในทุกภพทุกชาติ ขอทุกท่านทุกดวงจิตโปรดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ..........สาธุ


จารุณี(แอ๋ว) จิตบุญ 22


*ขอบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลของข้าพเจ้าจงสำเร็จแก่จิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระทุกท่านทุกดวงจิต ขอให้ถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ทุกท่านทุกดวงจิตเทอญ..สาธุ*

 

เรื่องเล่ายามดึก
เรื่องเล่านี้ได้รับการอนุญาติจากคุณแทนนี่ ที่ฝึกจิตเกาะพระมานานและเพิ่งจะยกไปไม่นานมานี้ ได้ฟังท่านเล่ามาก็เลย ขอเอามาเล่าต่อกัน หากใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนค่ะ
พ่อของคุณแทนนี่ได้บวชอยู่วัดหนึ่งในชุมพร คุณแทนนี่เรียกว่า
หลวงพ่อ ท่านเป็นพระที่ปฎิบัติดีปฎฺิบัติชอบ สามารถนั่งสมาธิ รู้เห็น
สิ่งต่างๆได้ เชื่อว่า ได้ญาณ หรือ อะไรประมาณนั้นด้วยซ้ำไป
ส่วนคุณแทนนี่อยู่กระบี่ วันที่คุณแทนนี่จิตยกก็ได้อธิษฐานจิต
ส่งบุญไปให้กับแม่ และ หลวงพ่อ ก่อนใครเพื่อน
วันรุ่งขึ้น ได้รับโทรฯจาก หลวงพ่อ ก็คงจะเกิดอาการแปลกใจว่า
หลวงพ่อโทรมาด้วยเรื่องใด เพราะปกติ ก็คงไม่โทรมาเป็นแน่
หลวงพ่อ ท่านได้ เล่าเรื่องในความฝัน ของเมื่อคืนนั้นให้คุณแทนนี่
ฟังว่า ท่านฝันเหมือนคุณแทนนี่ ได้รับอุบัติเหตุ และเสียชีวิต
ท่านเห็นดวงลำแสงจากร่างคุณแทนนี่ พุ่งทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
หายไป เหมือนไปไหนซักแห่งแล้ว พุ่งลงมา ตรงเข้าหาตัวท่าน
เป็นลำแสงเดียวกัน แล้วท่านก็ตื่นแต่เป็นการตื่นที่เกิดความชุ่มฉ่ำใจ
ท่านแปลกใจ ว่าทำไม ฝันเหมือนเป็นฝันร้าย ลูกเสียชีวิต
แต่ใจท่านเมื่อยามตื่นกลับรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง
คุณแทนนี่ได้โอกาส เลยอธิบายให้ท่านฟัง และพยายามพูด
ให้ท่านทิ้งการปฎิบัติแบบเดิม มาลองปฎิบัติ จิตเกาะพระ
แต่ก็ไร้ ผล เพราะท่านไม่คิดที่จะทำตามที่คุณแทนนี่แนะนำ
จากวันนั้นมา ท่านก็ไม่ได้พูดถึงเรื่อง จิตเกาะพระเลย
และมาถึงวันนี้ คุณแทนนี่ ก็เกิดอาการ งง (รับประทาน)
ท่านโทรมา ขอรับการฝึก จิตเกาะพระ เหตุการณ์จะเป็นเช่นใด
ต่อไป สายข่าว เอ๊ย ดชน อาจจะ อาจจะแค่นั้น เอามาเล่าสู่กันฟัง
ต่อไป อาจจะต่อไปแค่นั้น
คุณแทนนี่ บอกว่า อีกแป๊บ จะส่งเบอร์ครูเพ็ญกับครูดัชให้
หลวงพ่อ เพื่อทำการยกจิตท่านต่อไป
โมทนาสาธุการ กับคุณแทนนี่หลายๆเด้อค่ะ
เป็นโอกาสอันงามที่จะสร้างบารมี งานนี้หากจบกิจได้
วิมานเลื่อนไปสามขั้นเด้อๆ

 

การพิจารณากาย​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=uflPNJnTXKc&feature=related]Anatomy For Beginners 1/4 Movement (Channel 4) - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=3D2LbBB2row&list=PL3240D70A5C28AD54&index=1&feature=plpp_video]Autopsy: Life & Death 1/4 Circulation (Channel 4) - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-9rwXXI6ZQI&feature=related"]Anatomy For Beginners - Circulation - YouTube[/ame]

ตอนนี้ดิฉันกำลังปฏิบัติหัวข้อนี้อยู่ค่ะ เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่เดินมรรคมาถึงตรงนี้ ขอเตือน ใจไม่ด้านพอ เอ่ย..ใจไม่กล้าพอ โปรดระวังนะค่ะ จาเป็นลมเป็นอากาศไปซะก่อนจะดูจบ ให้เตรียมยาดม ยาลม ยาหม่อง ไว้ด้วยนะค่ะ คิๆๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนค๊าาา.

 

สาธุ๊ อนุโมทนาบุญจ้า ครูเพ็ญที่รัก

 

สาธุ๊ อนุโมทนาบุญนะค่ะ คุณเกรียง (ถ้าจำไม่ผิด ถ้าผิดก็ขออภัยด้วยค๊า) ต้องขออนุญาติก๊อปปี้ส่งไปให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณสำหรับธรรมมาทานค่ะ

 

นี่คุณDhammanee
เดี๋ยวคนอื่นๆนึกว่าที่นี่คือ ตลาดยิ่งเจริญ
มาหาซื้อเนื้อไปทำน้ำตก..อิอิ
เดี๋ยวคนในนี้เขาเลิกทานเนื้อสดก็เพราะเธอนี่แหล่ะ
ทำไมไม่เก็บเอาไว้ทานคนเดียว...555

บอกแล้วว่าร่างกายคนเรามีอะไรดีมั่ง นี่ขนาดยังไม่ตายนะ
แต่ถ้าตายหล่ะ แล้วใครจะเอาไปกอดกอดกันไหม๊น่ะ
ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องเผาทิ้งกันหมด
ร่างกายอนัตตาจริง มองให้ดี
อสุภกรรมฐานนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบหลงกายตนเอง
หลงรักสวย รักงามกันเข้าไปสำหรับผู้ที่มีปัญญาน้อย
พูดให้สั้นๆที่สุดก็คือ คนโง่ (ขอโทษนะที่กระทุ้งจิตกันแรงๆ)
พวกที่หลงไปทำสวยทำงานกันน่ะ ก็คือกำลังหลอกตนเองยังไม่พอ
ยังไปหลอกคนอื่นให้มาหลงรัก หลงดูว่าตนเองนี้สวยนะ
เซ็กซี่นะ ปกติคนที่ยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม จึงไม่แปลกใจเลยว่า
ที่พวกเขาเห็นแค่มิติเดียว เพราะจิตยังไม่มีปัญยาที่จะมองลึกไปถึงข้างใน

ขอบใจนะคุณดัมเมเยอร์ เอ๊ย ดำมณี...อิอิ ดัมมณี
พี่ภูจะอ๊วก ร่างกายทุกคนก็เหมียนกันหมด
เดี๋ยวพี่ภูจะโดนใบเหลือง เรื่องการใช้ภาษาไทย
ขอโทษนะครับ ผมผิดไปแย้ววว

 

ขออภิมหาโมทนาสาูธุการกับคุณแทนนี่ด้วยนะ
ขนาดพระท่านเป็นผู้ปฎิบัติ ปฎิบัติชอบ เป็นนักบวชอาชีพ
ท่านก็ยังให้ความสนใจเรื่อง จิตเกาะพระ
แต่ตอนแรกไม่ว่าใครเน๊อะ จะปฎิบัติก่อนทุกรายไป
แต่พอมีสติมากๆเข้าก็จะคิดได้เองว่า ที่บอกว่าจิตเกาะพระ
คำว่า "พระ" เนี๊ย มิใช่ไกลอื่น นั่นก็คือ พระพุทธเจ้าของพวกเรานี่เอง

สาธุๆ โมทนาบุญกับคุณแทนนี่ กับครูดัชชี่ด้วย

 

ขอโมทนาสาธุการกับคุณจารุณีด้วย
ด้วยเหตุผลนี้แหล่ะ
ที่ผมถึงอยากให้จิตบุญออกมาแชร์ถึงผลของการปฎิบัติของตนเอง
และจนกระทั่งยกจิต...
เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสำหรับผู้ปฎิบัติใหม่ หรือกำลังปฎิบัติกันอยู่ในเวลานี้
เพราะเผื่อจะได้ผู้มาใหม่ หรือ ผู้ที่กำลังปฎิบัติอยู่ในขณะนี้
เพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติ(เร่งจิต) หรือเผื่อจะถูกจริตกับท่านใดบ้าง
เพื่อประโยชน์ของผู้มาใหม่ หรือผู้ที่กำลังปฎิบัติกันอยูเวลานี้กัน
ขอขอบพระคุณอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
มาณ.ที่นี้ด้วย

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

 

ขอโมทนาสาธุการกับครูเพ็ญกับคุณผึ้งด้วยนะครับ
ที่ยกมาเป็นธรรมาทานให้กับพวกเรา
ขอขอบใจแทนสำหรับผู้ที่กำลังผู้ปฎิบัติกันอยู่ในขณะนี้

 

ผมบอกไปแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ
ว่าจิตเกาะพระนั้น เขาแรงจริงๆ ได้ผลจริงๆ
ก็เพราะว่า ทำให้จิตเรารวมไว
(จิตสามารถเข้าถึงสมาธิได้ไว และเข้าฌานสูงไปตามลำดับ แทบไม่น่าเชื่อ)
ดังตามที่คุณลูกพลัง คุณหมอ คุณลูกหว้า คุณtrialuck และท่านอื่นๆ
พูดแล้วจะหาว่าโม้ บอกให้ลองมาทำกันดูกันก่อน
ที่นี่เป็นกระทู้สาธารณะ เปิดรับทุกสำนัก ทุกกระทู้(ที่ใจกว้าง)
ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องวางเงินมัดจำล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น

 

ผมยังไม่ลืมท่านหรอกนะครับ
อย่าเพิ่งน้อยใจนะ
ผมเห็นครูเพ็ญมารับช่วงสัมปทานคุณไปเรียบร้อยแล้ว...อิอิ
ทำข้ามสัมปทานกันไม่ได้...อิอิ
เห็นครูเพ็ญบอกว่า...
จิตคุณสภุธรกำลังอยู่ในช่วงโคตรภูญาณ
ดีใจแทนด้วยนะครับ
ผมอยากจะบอกมาตั้งนานแล้ว เรื่องศีล
เพราะผู้ที่จะเดินมรรคผลนิพพานนั้น ศีละจะต้องแน่น
จะมารักษาศีลกันแบบลูบคลำศีลกันเฉยๆไม่ได้
เรื่องนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็เคยออกมาพูดย้ำเตือนกับลูกศิษย์ของท่านกันมามากแล้ว
ขอให้ตั้งใจมากๆเลย สำหรับเรื่องศีลของตนเอง
แค่รักษาสศีล5(ศีลหยาบ)กันยังไม่ได้เลย
พวกเราก็อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องมรรคผลกันเลย
เพราะศีลเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งยวด สำหรับผู้ที่จะเดินทางอริยมรรค
หรือเพื่อพระนิพพานกันโดยตรง

แต่ตอนนี้ผมก็คิดว่าคุณสุภาทรรู้ตัวดีแล้ว ท่านปฎิบัติจริงสำหรับท่านนี้
จิตท่านพร้อมมาตั้งนานนมแล้ว แต่ยังต้องการเพียงมีผู้มาชี้แนะ
ให้ถูกหลัก ถูกทางเท่านั้นเอง
ท่านก็เลยปฎิบัติไปเรื่อย เหมือนคนพายเรือไม่เป็น ก็ถึงฝั่งยาก
เอาหล่ะคราวนี้ท่านไม่พลาดแน่ๆ ขอให้เดินตามที่ครูเพ็ญแนะก็แล้วกัน
ถึงแน่ๆ คราวนี้ ถึงแน่ๆ อีกไม่นานนัก
ขอให้ขยันนะ มีสติอยู่กับจิตให้ตลอดเวลาเลย
ไม่ใช่แค่หลับตาทำสมาธิเพียงอย่างเดียวนะ
เพราะจิตเกาะพระจะแทบทุกลมหายใจ หรือ24hrs/7day
ตามที่ครูลูกพลัง หรือคุณtrialuck ก็ว่าได้
จิตจะได้ยกไวๆ ผมจะได้หายเป็นห่วง
เมื่อจิตยกแล้ว คราวนี้คุณก็จะรู้เบากาย เบาใจเหมือนท่านที่ยกไปแล้ว
อย่างไรก็ไปติดตามชมกันดู

เกาะครูเพ็ญให้ติดนะครับ ผมไม่พูดถึงแล้วนะครับ
ขอให้โชคดี ขอให้จิตเดินเข้าสู่วิปัสสนาไวๆ
และขอให้เจริญในธรรมไวๆ

 

I thought that you gone!, Nibbana(Nirvana)
พวกเราก็นึกว่าเธอยกจิตหนีขึ้นไปพระนิพพานกันจริงๆ
โดยไม่ได้ร่ำลาพวกเราน่ะสิ...555
เลิกงงรึยัง?
ก่อนยกหลังยกจิต แตกต่างกันอย่างไร?
ช่วยมาเล่าให้พวกเรากันฟังกันหน่อยซะดีๆ

เธอทำจิตเกาะพระอย่างไร? ถึงจิตยกได้
เขาเริ่มทยอยส่งบอกเล่าเก้าสิบกันมาบ้างแล้ว
เพื่อเป็นธรรมาทานกับคนรุ่นหลัง
พี่ภูขอร้องนะๆ เดี๋ยวพี่ภูจะร้องไห้นะ แง๊ๆ