จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    ขอบพระคุณครับผม..
     
  2. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    แปลกไหม?
    จิตของตนเองก็อยู่ที่ตนเองกันนี่แหล่ะ!
    แต่ทำไมเราจึงไม่พยายามจะเข้าใจจิตตนเองเลย
    นับตั้งแต่จำความได้ ถูกสอนให้แต่ไปเรียนรู้แต่สิ่งภายนอก ที่ไม่ใช่จิต
    เมื่อก่อนก็ไม่เคยจะเข้าใจกันเลยนะว่า ทำไม
    แต่พอมาถึง ณ. วันนี้แล้ว เื่มื่อเรามีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมมากขึ้น
    หรือมีสติสัมปชัญญะมาก จิตก็จะละเอียดมากยิ่งขึ้นไปอีก
    จึงทำให้เรารู้ เราเข้าใจทุกอย่าง โดยเฉพาะกับสิ่งที่มากระทบจิต
    จิตจะเฉยกันได้ เราจะต้องฝึกจิตกันอีกนานสองนาทีเดียว
    ฝึกจนจิตนิ่ง จิตสงบเมื่อไหร่ เราก็จะรู้มากกันเท่านั้น
    ขอยกตัวอย่าง เช่น..

    คำว่า "ธรรมดา" ที่พระชอบพูดกันนี่นะ
    คำว่า "ธรรมดาของปุถุชน" กับ "ธรรมดาของพระอริยบุคคล"
    มันช่างแตกต่างกันมากนัก
    คำว่า "ถูก" หรือ "ผิด" ก็เหมือนกัน เมื่อก่อนไม่ซึ้ง
    แต่เดี๋ยวนี้มองสองคำนี้ชัดเจนมาก
    คือ คำว่าถูกอยู่กองนึงเด่นชัด นูนขึ้นมาเลย
    แต่ผิดมันก็อยู่อีกกองนึง เด่นชัดเหมือนกัน

    หรือคำว่า "รู้ ตื่น เบิกบาน" ก็เหมือนกัน คำนี้ทุกคนก็ทราบกันหมดแล้ว
    เพียงแต่ไม่ซึ้งเท่านั้นเอง เพราะเราไม่ได้เป็นดั่งความหมาย
    เหมือนเราดูคนกำลังทานอาหาร ดูเฉยๆ เราจะอิ่มไหม๊

    ผมกำลังจะมาบอกกับท่านว่า พวกคุณกำลังโชคดีมาก
    ที่คุณกำลังเรียนรู้เรื่องสติ เรื่องจิต เรื่องสมาธิ
    เพราะองค์ประกอบสิ่งเหล่านี้แหล่ะ!
    ที่จะทำให้พวกคุณมีดวงตาเห็นธรรมได้โดยง่ายดาย
    สติเป็นผู้นำพาให้เราพบเจอจิต แต่จิตจะเป็นผู้นำพาให้เราพบเจอธรรมะ
    แต่จิตจะไปพบธรรมะนั้นได้นั้น จิตจะต้องรวมกับสติให้ได้เสียก่อนนะ
    แต่ถ้าอย่างนั้นแล้ว ไม่มีทาง เพราะสติไม่มากพอ จิตก็ไม่นิ่ง
    เมื่อจิตไม่นิ่ง จิตก็จะไม่เกิดสมาธิ เกิดปัญญา
    เมื่อจิตไม่เกิดปัญญา จิตก็ไม่ผ่านวิปัสสานา ไปจนถึงวิปัสสนาญาณ
    เพราะฉะนั้น จิตก็จะไม่มีทางที่จะได้พบกับธรรมะที่ว่านี้กันได้

    การเดินทางไปให้ถึงกระแสจิตของคนเราก็มีเท่านี้เองนะ จริงๆแล้ว
    แต่ถ้าคนเข้าใจจะไม่มีอะไรยากเลย เห็นไหม๊ ทุกท่านขอให้พากันสนใจปฎิบัติกันจริงๆจังๆ กันนะ สำเร็จทุกราย
    เรื่องทางโลก ทางวุ่ยวาย มีแต่ทุกข์ มีแต่ปัญหามากมาย เราก็ยังสอบผ่านกันมามากแล้ว พวกเราก็ยังผ่านกันได้
    แต่มาเรียนรู้เรื่องสติ เรื่องจิตกันแค่สองตัวเท่านั้นเอง
    ผมพูดจริงๆ อันนี้พวกเราก็อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องธรรมะกันนะ
    เพราะก่อนที่จะมาเรียนรู้เรื่องธรรมะกันนั้น เราก็ต้องพากันมาเรียนรู้เรื่องจิตก่อน
    และก่อนเราจะมาเรียนรู้เรื่องจิตนั้น เราจะต้องมาฝึกเรียนรู้ เรื่องการเกิดสติกันให้มากๆก่อน
    เห็นไหม๊ มันมีอยู่แค่นี้จริงๆ นี่คือจุดเริ่มต้น จำเป็นจะต้องปูพื้นฐานให้แน่นๆก่อน
    ไม่แน่นไม่ได้ เพราะเมื่อผู้ปฎิบัติต่างคนต่างทำ ในขณะที่เราฝึกอยู่นั้น ไม่มีครูเลย
    แต่ถ้ามีปัญหาติดขัดเรื่องการปฎิบัติ แล้วเราจะไปถามใคร
    เห็นไหม ก่อนที่เราจะลงมือปฎิบัติจิตเกาะพระกันนั้น จำเป็นจึงต้องเรียนรู้ให้เข้าใจก่อน
    เมื่อปฎิบัติลงไปแล้ว เมื่อมีปัญหาอะไรเราค่อยสอบอารมณ์กันทีหลัง

    พอแร๊ะเดี๋ยวยาว

    ป๊าดดด...เผลอแป๊บเดียว มาถึงหน้า 200 แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 สิงหาคม 2012
  3. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เหอะๆๆๆๆๆ 200 หน้าแล้ว ไวจริงๆครับท่านพี่ภู
    แล้วใครจะเป้นคนที่ลงข้อความที่ 4000 พอดี ... เดี๋ยวมาลุ้นกัน

    ทุกท่านอย่าชะล่าใจ เวปเดี้ยงเมื่อไหร่ หากันไม่เจอเน้ออออออออ

    รีบปฏิบัตินะครับ เวลาและวารี ไม่เคยรอใคร
    ชะล่าใจ กลับมาเกิดใหม่ ผ้ม ไม่รุ้ด้วยนะครับ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์ จบ.11
     
  4. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    ง่า ท่านนี้เป็นผู้ใด๋ ใช้ชื่อในเมลเดิมว่าไรคะ เฉลยหน่อยน๊า งั้นท่านตะกั่วป่าส่งการบ้านด้วยเมลใหม่เลยค่ะ จะได้เป็นปัจจุบัน
     
  5. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    อ่า แล้วซาหรุบว่ามันคือไรเหรอ?.?

    ข้อแนะนำสำหรับพี่ภูในเรื่องงานทางโลก

    "ปล่อยทุกอย่างลอยตัว พี่ภูไม่ต้องทำไร งานของพี่ภูตอนนี้ทำแค่ปัจจุบันที่เห็นตรงหน้าตัก นอกนั้นเบื้องบนท่านจัดการเอง ปล่อยให้หมด วาง ว่าง เบา สบาย"

    รักษาจิตให้สบาย เดือนหน้ารู้ผล เดือนโน้นรีบมาซื้อหนมให้หนูกินซะดีดี ท้องหนูว่างสำหรับหนมพี่ภูเสมอ ฮ่าๆ

    เหว๋ย ท่านเล่น 3G 4G ข้าเจ้าบ่มีสักG แถมขึ้นอืดอีกต่างหาก - -'

    หนูลากลับบ้านก่อนนะ จิตอิ่มบุญ แต่ต้องไปหาหนมให้ขันธ์ห้าก่อน อิอิ
     
  6. tossapon15

    tossapon15 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +417
    เมลเดิมคือtossapon15@hotmail.com ชื่อ ทศพล(จ๋าย)ครับ Email ของครูทุกท่านอยู่ในเมลเดิมหมดเลยผมส่งการบ้านไม่ได้เลยครับ
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ชื่อกระทู้ว่า จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
    ชื่อนามก็บ่งบอกแล้วว่า จิตพร้อมกันไหม๊? ถ้าเกิดภัยพิบัติ
    ขอแถมให้อีกเรื่องก็คือ จิตพร้อมรับกิเลสตนเองหรือยัง?
    พวกเรากิเลสหนากันเสียจังนี่ เหมือนเมื่อก่อนนี้ผมหนากว่าพวกคุณอีก
    แต่ทำไมทำได้ เห็นไหม๊ งั้นทุกคนก็ทำได้เช่นกัน

    กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์ฝึกจิตเดินตรงโดยเฉพาะเลย ด้วยวิธีเดินมรรควิธี
    ด้วยวิธีการเรียกว่า ปฎิบัติจิตเกาะพระ
    เพียงแต่ที่นี่ ไม่เน้นเปลือก ไม่เน้นรูปแบบพิธีการมาก
    เจาะจงกันไปเลยที่จิต ดวงจิตนี้ตรงๆ
    "คม ชัด ลึก" คุณลูกพลังท่านได้ตั้งสมญานามให้แร๊ะ
    ทุกท่านก็คงรู้จักรายการโทรทัศน์ เรื่องเล่าเช้านี้ ของคุณสรยุทธ
    อันนั้นเล่าเรื่องจริงทางโลกให้พวกเราฟังกัน
    แต่ที่นี่มาเล่าเรื่องความจริงแท้ แต่เน้นเรื่องจิตเดิมแท้ หรือจิตวิญญาณ
    สรุปแล้ว กำลังฝึกฝนจิตกันให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทางโลก หรือว่าทางธรรม
    เรื่องจิตใจคนเรานั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
    คนเราไม่มีเงินได้นะ แต่ถ้าคนไม่มีสติ อันนี้ไม่ได้เลย เสร็จแน่ๆ
    เพราะถ้าคนเรามีสติมาก ปัญญาก็มากตาม คิดอะไรก็ออก
    ไม่ต้องดิ้นรนไปกลับกิเลสตนหรือกิเลสโลก สมถะ
    ขอให้มีสติมาก ถึงไม่มีสตังค์มากก็อยู่ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร
    แต่ยังดีกว่าคนที่ร่ำรวยเงินทองมาก แต่สติไม่มี อีกไม่นานก็อาจจะหมดทรัพย์ได้

    ว่างๆก็ลองมีสติกันเยอะดูสิว่า เราไปทางโลกมาก(โลกมายา) หรือไปทางธรรมะมากกว่ากัน(ความจริง)
    ให้ไปสำรวจตนเองดูนะ
    บางคนบอกว่า ทำจิตเกาะพระ ทำไม จิตเราไม่ยอมเกาะพระสักทีนึง
    มันจะไปเกาะพระติดกันที่ไหนหล่ะ
    วันๆหนึ่งมี 24 hrs แต่ท่านระลึกถึงพระถึงชั่วโมงกันไหม
    การฝึกจิตนี่นะ เราแทบจะต้องมีสติให้มากๆ จิตถึงจะจำได้
    อันนี้อะไร วันๆหนึ่งเอาจิตไปเกาะแต่ทางโลกซะมากกว่าเกาะพระ
    บางท่านพูดไปโน้นเลย ไม่มีเวลาทำจิตเกาะพระ
    จิตเกาะพระนี่สะดวกที่สุดแล้ว ในจำนวนกรรมฐาน
    ไม่ต้องไปถือเนกขัมมะให้มันเมื่อย ไม่ต้องบวชกายให้มันเมื่อย
    ถามทีเถอะว่า ท่านไปบวชพระ บวชเนกขัมมะ ท่านบวชเพื่ออะไร
    ถ้าท่านไม่ได้บวชใจ
    ปฎิบัติจิตเกาะพระนี้ เราไม่เน้นเปลือกแล้ว เรานเน้นแก่น คือบวชใจ
    นั่นอะไรกันเห็นแต่เน้นเปลือกซะส่วนใหญ่ ถึงคุณไปบวชแต่กาย เผลอๆติดลบ
    นึกว่าได้บุญกันหรอ ระวังให้ดี เพราะบวชแต่กาย มิได้บวชจิตกัน
    และไม่มีใครไปดูแลศีล ดูแลจิตเหมือนครูที่นี่กันนะ
    ขอบอกอีกทีว่า ครูที่นี่ไม่ได้มีเวลาว่างด้วย ทุกท่านก็ทำงานกันหมด
    แต่ท่านทำงานให้เบื้องบน ทำงานให้พวกท่านฟรีๆ และเป็นการฝึกฝนธรรมะในตัวด้วย
    หรือสร้างบารมีตนเองไปในตัวด้วย

    วุ๊ยวันนี้มานั่งบนอะไรเนี๊ย พี่ภูแก่เรี๊ยววว
    คุณดัชมาบ่นแทนดิ ผมเหนื่อยแล้ว

    สรุปแล้วจิตพวกเราพร้อมกันหรือยัง?
    รับภัยพิบัติ ทั้งภัยธรรมชาติและภัยจากกิเลสตนเองด้วย
    เห็นไหม๊ มีไม่กี่คนหรอก นอกนั้นลอยไปตามภัยธรรมชาติกับกิเลสทั้งหมด
    แล้วมันจะรอดหรือ ยิ่งพวกเรากลัวตายแบบนี้
    ฝึกจิตกันซะนะ จะหาว่าไม่เตือน
    นอกจากจะไม่หลง ทั้งก่อนตายและหลังตายด้วย

     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ๊ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับครูดัชค่ะ นานๆ ท่านมาที นี้เครื่องแรงเจงๆ 4G55 คิๆๆ ประโยคนี้โดนใจจริงๆ ค่ะ ขันธ์หนอขันธ์ห้า กรรมมันเป็นเรื่องของขันธ์ห้าเท่านั้นจริงๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับจิตเล๊ย..
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ว่ากันไปแล้วการปฎิบัติธรรมนี้ไม่ได้ยากเย็นนัก ตามที่ทุกท่านเข้าใจกันเลย
    แต่ต้องอาศัยการสร้างสติก่อนนะ แต่ถ้าไม่รู้จกคำว่าสติกันแล้ว
    ต่อให้นักภาวนาเก่งแค่ไหน ก็ไม่อาจจะเข้าถึงธรรมที่แท้จริงกันได้หรอก
    เพราะมัวหลงไปทำแต่ภาวนากัน ทุกวันนี้ก็ยังตามหาจิตเดิมแท้ก็ยังไม่เจอเลย
    ผมไม่ได้มานั่งว่า มาตำหนิผู้ปฎิบัติกันนะ
    พูดเรื่องจริง
    คนที่จะเข้าถึงกระแสธรรมนั้น พวกเราจะต้องเข้าไปให้ถึงกระแสจิตของตนเองก่อน
    แต่ถ้าเข้าไม่ถึง ชาตินี้ก็จะไม่มีดวงตาเห็นธรรมเป็นแน่แท้
    แต่ก่อนอื่นจะเข้าไปให้ถึงกระแสจิตของตนเอง เราก็ต้องเข้าไปสร้างสติของตนให้มากกันก่อน
    เราถึงจะตามหาจิต หรือดวงจิตของตนเจอ

    มีอยู่แค่นี้เอง พวกเราไปหลงทำอะไรกันมากมายกัน ก็ไม่ทราบ
    เกาะกันไปเห่อ พวกเราผู้เจริญ ผู้มีปัญญา อย่าได้หลงทางการปฎิบัติไปไกลกันนัก
    มันจะกู่ไม่กลับ
    ครูเพ็ญก็บอกแล้วว่า จิตเกาะพระน่ะ ถ้าทำกันจริงๆจังๆ เกาะพระได้ทั้งวัน ทั้งคืนนะ
    แค่อาทิตย์เดียวเอง จิตก็เกาะพระติดกันแล้ว
    ท่านอ่านไม่ผิดหรอก
    นี่พวกเราทำกันซะเป็นเดือน ครึ่งปี เพราะว่าอะไร
    เหตุผลหลักๆก็คือ ผมก็พูดไปเมื่อตะกี้นี้เองนะ
    ก็คือ ทุกท่านฝึกจิตไปเกาะกับทางโลกซะมากว่าเกาะพระกันนี่
    จิตท่านก็เลยไปเกาะทางโลกแทนสิ
    เข้าใจกันหรือยัง ขอให้ผู้ปฎิบัติเปลี่ยนกันซะ ยังไม่สาย
    เปลี่ยนพฤติกรรมตนเองไง๊หล่ะ!
    คุณwatjojoj เก็ตหล่ะ เก็ตเป็นคนแรก

    พี่ภูบอกว่า ให้เกาะพระกันนะ ไม่ใช่ให้พวกเรามาเกาะกระทู้ หรือมาเกาะครู
    นำจิตไปเกาะพระกันให้มากๆ จิตจะได้ไปอยู่กับพระมาก สติก็มากตามไปด้วย
    ได้โปรดจำกันไว้ด้วยนะ

    ปล.ปฎิบัติธรรมไม่ยุ่งยากอย่างที่ทุกท่าคิดกันนะ
    ที่ยากนี่ก็คือ พวกเราฝึกจิต คือทำให้จิตนิ่งกันยากมากๆ นี่เอง
    เรื่องของเรื่อง บางทีครูบอกให้ไปซ้าย คุณก็ไปขวาซะงั้น
    เขาเรียกว่า จิตดื้อ ดื้อได้นะ แต่อย่าโง่ในการปฎิบัติ
    เพราะคนฉลาดจะต้องเอาแต่แก่น
    ดูคุณหมอคนเก่งสิ ท่านเก่งทางโลกไม่พอ ท่านเอาแต่แก่นในทางธรรม
    ท่านก็เลยจบกิจทั้งทางโลกและทางธรรมไปเลย คุ้มจริงๆ
    ใช้เวลาไม่นานนัก ท่านก็วางมานะ อีโก้ได้ เก่งไหม๊หล่ะ
    ชมไปตามเนื้อผ้า ไม่ได้รักใครเป็นพิเศษนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 สิงหาคม 2012
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ทำไมหมู่นี้ ครูลูกพลัง
    ไม่มีธรรมะให้อ่านเลย
    ตาน้ำธรรมะยังไม่ผุดขึ้นมาหรอ?
    หรือว่างานทางโลกเล่นท่านจนง๋อมไปแร๊ะ
    คิดถึงเสมอนะครับ
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีครับคุณพี่นิวเวป
    ผมยังคิดถึงคุณพี่เสมอเลยนะครับ
    อย่าลืมนำธรรมะที่ผุดขึ้นที่ภายในจิตมาเพื่อเป็นธรรมาทานแก่ผู้อ่าน
    หรือเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฎิบัติในกระทู้ด้วยนะครับ

    ขอพาดพิงถึง...
    น้องgibbgubb หน่อยนึง
    นอนดึกเหมือนกันนะเรานี่
    หาจิตตนเองเจอหรือยัง? เธอคุยกับคุณหมออุษาวดีบ่อยๆก็จะดีนะ
    ท่านอุตส่าห์ให้กำลังใจ เดี๋ยวนี้ท่านเก่งแล้ว
    มีไรปรึกษาท่านดูนะ โดยเฉพาะเรื่องฟัน
    ฮ่าๆ เกี่ยวไรเนี๊ย!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 สิงหาคม 2012
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=6DEFXhfVniY&list=PL2C8E7B813BFAB916&index=1&feature=plpp_video]ว. วชิรเมธี นิทานธรรม - YouTube[/ame]

    ซูชิ ซาบะ เทมปุระ แซลมอน เบคอน เกี๊ยวซ่า ปลาไข่ ลูกชิ้นฮอกไกโด โอเด้ง...ก็คือ
    อาหารของร่างกาย

    แต่อาหารของจิตใจ คือ
    ธรรมะ หรือ ความสงบ
    (หาให้เจอ)
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ภูทยานฌาน2, Kim_UoonSo+, newwave1959, natthapatpun
    4 อรหันต์ ฮ่าๆ
    พูดกันเล่นๆนะ อย่าไปเครียด เดี๋ยวพูดอะไรไปไม่ได้เลย เป็นประเด็นหมด ติดลบอีก
    ด่าได้ ว่าได้ตามสบาย เพราะผมคือ อนัตตาเหมือนกัน

    ตีสองแล้วนะ หมีแพนด้าเรียกพี่แล้ว
    นั่นไงครูเพ็ญ น้องลูกหว้ายังมีเครื่องหมาย+ เลย
    แปลว่า คนมองโลกบวก...อิอิ บวกมั๊กๆ
    ครูเพ็ญข๋า...นอนดึกนะจ๊ะ
    ไปเอาไม้เรียวแฝดมาก่อน

    คืนนี้ขอนอกเรื่องหน่อย ฮ่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 สิงหาคม 2012
  14. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681


    (อ้างถึง....จาก คุณภูทยานญาน2)

    สวัสดีครับคุณพี่นิวเวป
    ผมยังคิดถึงคุณพี่เสมอเลยนะครับ
    อย่าลืมนำธรรมะที่ผุดขึ้นที่ภายในจิตมาเพื่อเป็นธรรมาทานแก่ผู้อ่าน
    หรือเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฎิบัติในกระทู้ด้วยนะครับ

    **********************************************

    สวัสดีครับ คุณภู ครูเพ็ญ ที่เคารพรัก และนับถืออย่างสูง

    ขอขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทั้ง2ท่าน ที่ช่วยให้ผมได้ชีวิตใหม่ ธรรมะแห่งชีวิต

    ช่วยชี้แนะ ชี้นำให้ผมได้พบหนทางแห่งแสงสว่างอันนิรันดร์ แสงสว่างแห่งธรรม
    ถ้าไม่มีคุณภู ที่ช่วยฉุดดึงให้ผมหลุดพ้นจากทางแห่งมิจฉาทิษฐิ
    แล้วส่งผมให้มาสู่ จิตเกาะพระ โดยครูเพ็ญ ผู้อารีย์ (เสริมด้วยครูน้องหนู)
    ป่านนี้ผมคงออกทะเล หาฝั่งไม่เจอไปนานแล้ว
    ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เนื่องด้วยภาระกิจ สร้างจิตบุญ บรรลุ41ดวงจิตเรียบร้อยแล้ว

    ผมขออนุญาต ปูผ้าขาว กราบงามๆ3ครั้ง ด้วยความเคารพ ต่อครูทั้ง2

    คือครูภู ครูเพ็ญ และรวมถึง ครูน้องหนู มา ณ.โอกาสนี้ครับ

    ต่อจากนี้ไป ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะมีทางช่วยเหลือ ในกลุ่มจิตบุญ และการฝึกจิตเกาะพระ

    เพื่อให้ได้สมาชิก จิตบุญ รุ่นใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต ก็ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งครับ

    **********************************************


    สำหรับวันนี้ ผมมีธรรมะดีๆมาฝากทุกๆท่าน ไว้สำหรับพิจารณาธรรมครับ



    สุดยอดแห่งธรรม คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]๑.ให้เห็นธรรมดาของกฎของกรรม ไม่มีใครพ้นกฎของกรรมไปได้[/FONT][FONT=&quot] ฟังแล้วหรือประสบกับเหตุการณ์ทั้งหลายแล้ว จงรักษาอารมณ์ของจิตเข้าไว้อย่าให้เศร้าหมองหรือสลดหดหู่ เมื่อใดเกิดอารมณ์เช่นนี้ให้รู้เอาไว้ว่าผิดพลาดไปเสียแล้ว จักต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขทำใจให้เป็นธรรมดาดีกว่ากังวล[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]อย่างพระเจ็บแม้จักห่วงกังวลอย่างไรก็ยังเจ็บอยู่ดี แต่พระองค์ไหนถ้าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว กฎของกรรมมันเข้าก็จริงอยู่แต่อาศัยคุณพระพุทธ-พระธรรม-พระอริยสงฆ์ จักช่วยให้เบาบางไปโดยชดใช้เพียงเศษของกรรมเท่านั้น ขอให้อดทนแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จักผ่านไป.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]๒.อย่าท้อแท้หรือหมดกำลังใจ ในเมื่อร่างกายเกิดอาการไม่ทรงตัวขึ้นมา[/FONT][FONT=&quot] ทางที่ดีคือ นำอาการไม่ทรงตัวขึ้นมาเป็นวิปัสสนาญาณ ให้รู้ตามความเป็นจริงของร่างกาย (ใช้วิปัสสนาญาณ ๙ เป็นหลัก) อย่าเกาะร่างกาย ให้รู้ว่าชาติก่อน ๆ เพราะเราเกาะร่างกายอย่างนี้แหละปกติธรรมของร่างกายคือความไม่เที่ยง ธาตุ ๔ แปรปรวนอยู่เสมอไม่ธาตุลมกำเริบ ก็ธาตุไฟกำเริบ หรือบางขณะธาตุน้ำกำเริบ ธาตุดินเสื่อมกระดูกขัดกระดูกชำรุด (ข้อต่างๆ) กระดูกงอกก็ธาตุดินกำเริบ ดังนั้นทุกอย่างหาความทรงตัวไม่ได้เป็นปกติ [/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]๓.เรื่องนอกตัวไม่สำคัญ อย่าเอามาคุย ดูเรื่องในตัวให้มาก[/FONT][FONT=&quot] ยกตัวอย่างเช่น เห็นคนอื่นคุยกันขณะฟังธรรมการคุยกันทำให้ไม่มีสมาธิในการฟังและพิจารณาธรรมนั้นๆ เป็นเรื่องจริงเนื่องจากการคุยทำให้จิตจดจ่อไปในเรื่องที่พูดอยู่มากกว่าจักนำคำสั่งสอนมาพิจารณาเป็นวิปัสสนาญาณแต่เรื่องนี้จงอย่าตำหนิกรรม เนื่องด้วยบุคคลใดยังไม่ชำนาญในอานาปาหรือฌานใดฌานหนึ่งแล้ว บุคคลนั้นย่อมเป็นผู้พูดมากอยู่ ยกเว้นผู้เข้าถึงฌานหรือเข้าสู่พระอนาคามีมรรค หรือพระอนาคามีผลบุคคลนั้นจักสำรวมวาจาเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าถึงพระอรหันต์ปล่อยตามปกติธรรมแต่ไม่เพ้อเจ้อเหลวไหล จักพูดก็ด้วยเหตุด้วยผล หรือด้วยสงเคราะห์ผู้ฟังท่านเป็นผู้พูดด้วยสติ-สัมปชัญญะสมบูรณ์มิใช่พูดโดยไม่คำนึงว่าใครจักเสียหายด้วยคำพูดของตนหรือพูดโดยคิดว่าเป็นความจริง แต่เจือไปด้วยกิเลสอาทิประจานคนทำไม่ดีนั้นไม่มีในพระอรหันต์ มีแต่พูดโดยธรรม เป็นประโยชน์และเห็นโทษในคำพูดอย่างแท้จริง พระอรหันต์ไม่ตำหนิใครเนื่องด้วยเคารพในกฎของกรรม แต่ตำหนิเพื่อก่อหรือตำหนิเพื่อกันไม่ให้คนอื่นเลวไปยิ่งกว่านั้นมีศึกษาปฏิปทาในเรื่องวาจาเอาไว้ให้ดี เนื่องจากยังบกพร่องกันอยู่มากวาจานี้สำคัญ ปลูกมิตรก็ได้ สร้างศัตรูก็ได้ คนพังเพราะคำพูดมีมาก.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]๔.การปฏิบัติธรรมให้สังเกตอารมณ์ของจิตใจเป็นสำคัญ อย่าให้เสียท่าต่อกิเลส พึงใส่ใจแก้ไขอารมณ์ของจิตใจเอาไว้เสมอ[/FONT][FONT=&quot] กรรมบางอย่างฝืนได้ กรรมบางอย่างฝืนไม่ได้ มโนกรรมบางขณะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อระงับได้ ก็พึงดูอาการของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปแล้วก็พึงเห็นกองสังขารมันปรุงแต่งอยู่อย่างนั้นความเป็นสาระในสังขารปรุงแต่งนั้นไม่มี จงอย่ายึดถือว่าเป็นเรา เป็นของเราพึงละซึ่งอุปาทานขันธ์อย่างจริงจัง แต่ทำไปอย่างสบายๆ อย่าเครียด.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]๕.บุคคลใดเจริญพระกรรมฐาน โดยไม่จับเอาให้ตรงกับจริตของตนเองก็ดี หรือจับเอาทุกกองเพียงฉาบฉวยก็ดี มักจักหาความบรรลุมรรคผลได้ยาก[/FONT][FONT=&quot] ให้สังเกตว่า บุคคลผู้รู้พระกรรมฐานหลายกองโดยสัญญามักจักมีความทะเยอทะยานอวดอ้างคุณวิเศษของตนเป็นที่ให้ผู้อื่นสรรเสริญ-ยกย่อง-เยินยอ จงประมาณตนเอาไว้ให้ดีอย่าได้เป็นเช่นนั้น มิใช่ของดีเลย ให้ดูท่านพระเรวัตเป็นหลักหรือพระอรหันต์ต่างๆ ในพระสูตร พระอริยเจ้าจักมีแต่ความถ่อมตนไม่ยกตนข่มท่าน อยู่อย่างเป็นสุข ไม่เดือดร้อนด้วยประการใดๆ ทั้งปวงเนื่องจากกิเลสในจิตของท่านทุเลาเบาบางลง หรือหายไปไม่มีอำนาจมาทำให้จิตใจของท่านต้องเดือดร้อนอีก.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]๖.การบริโภคอาหารและยา พึงพิจารณาผลที่เกิดคุณและเกิดโทษแก่ร่างกาย เป็นการยังอัตภาพให้เป็นไปมิใช่เพื่อความเอร็ดอร่อย หรือเพื่อความอ้วนพีผ่องใส[/FONT][FONT=&quot] คนส่วนใหญ่กินอาหารด้วยความติดรส กินยาเพื่อหวังจักให้ร่างกายไม่ตายแต่ตามความเป็นจริง อาหารชนิดใด ยาชนิดใดก็ตามไม่สามารถที่จักยับยั้งความแก่-ความเจ็บ-ความตายของร่างกายไปได้เพียงแต่ระงับทุกขเวทนา บรรเทาการเสียดแทงของร่างกายไปได้ชั่วคราวเท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]๗.เจ้ารู้สึกลำบากใจในการกำหนดกำลังใจให้เต็ม ในการรู้ปฏิบัติกรรมฐานอยู่ตลอดเวลาหรือ[/FONT][FONT=&quot] จักต้องแยกแยะว่า อันไหนเป็นกิเลสอันไหนเป็นสิ่งจำเป็นที่จักต้องทำ มิใช่เหมาเอาไปเสียหมดว่าเป็นกิเลสบังคับอย่างนั้นก็ไม่ถูก อย่างกรณีมีร่างกายไม่หุงหาให้มันกินก็ไม่ได้แต่ก็ทำไปตามหน้าที่ มิใช่เอากิเลสไปปรุงว่าจักต้องกินแต่ของดีๆ ของแพงๆกินแล้วดี ร่างกายอ้วนพี-ผ่องใสกินเพื่อรสอร่อยการปฏิบัติจักต้องแยกแยะออกมาให้ถูกทางด้วย.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]๘.การฝึกฝนกำลังใจก็คือ หมั่นตรวจบารมี ๑๐ ให้ครบ[/FONT][FONT=&quot] มิใช่ท่องเพื่อจำบารมีได้ การทำบารมี ๑๐ ให้ครบอยู่ที่กำลังใจพยายามฝึกฝนทรงตัวอยู่ให้ได้ ค่อยๆ ทำไปให้จิตมันชินอะไรกระทบก็ให้นึกถึงบารมี ๑๐ เข้าไว้ เพียรอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาอย่าท้อแท้ อย่าท้อถอย ทำให้มันครบทั้ง ๑๐ ประการในคราวเดียวกันแล้วเมื่อนั้นแหละคำว่าเต็มกำลังในการปฏิบัติธรรมก็จักมีได้ตลอดเวลาและให้จำไว้ว่า ไม่มีงานใดที่จักทำได้โดยราบรื่น งานทุกอย่างย่อมวัดกำลังใจไม่เฉพาะงานทางโลกเท่านั้น งานทางธรรมก็เหมือนกัน ไม่มีใครหนีอุปสรรคพ้นเพียงแต่ว่าถ้าหากกำลังใจดี ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคให้พ้นไปได้อนึ่งการทำงาน พึงพิจารณาในแง่ลบบ้าง อย่าคิดแต่ด้านบวกอย่างเดียวเช่นเดียวกับการพิจารณาพระกรรมฐาน พึงมองโทษและมองคุณให้ทั่วถ้วนแล้วการดำเนินงานก็จักมีความผิดพลาดได้น้อย.[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]**รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน**[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น[/FONT]

    ****************************************************

    ขอขอบคุณ เว็บทางนิพพาน ที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ เป็นอย่างสูงมาณ.โอกาสนี้ ด้วยนะครับ สาธุ

    ขอแสดงความนับถือ........ด้วยจิตคารวะ


    นิวเวป จบ.๑๔
     
  15. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    ส่งการบ้านค่า และเรียนถามนิดหนึ่ง
    ตั้งแต่เริ่มฝึกจิตเกาะพระ มาได้สักพักหนึ่งแล้วรู้สึกตัวเองจะตามสติได้ดีมากขึ้นนิดนึง น่ะคะ
    โดยเฉพราะเรื่องอารมณ์ คือพอจะจับไอ้ก้อนอารมณ์ที่ว่าได้ และมันก็หยุดชงักก่อนที่มันจะกลายปรุ่งแต่งไป แล้วมันก็หายไปเลย (อธิบายไม่ถูกอ่ะค่ะ ขออภัยถ้าอ่านแล้วงง นะคะ ) อย่างเช่น อารมณ์ความเบื่อ จู่ๆๆ ก็มีความรู้สึกเบื่อ (แฟน)นิดหน่อยเกิดขึ้น จิตเราก็เอ๊ะเราเบื่อนี่ คือรู้ตัว แล้วความรู้สึกเบื่อที่ว่ามันก็หายไปทันทีเร็วมากก็แปลกใจเหมือนกัน คือเห็นว่ามันเป็นอารมณ์นะแล้วก็เห็นว่ามันหายไป
    และอีกอย่าง คืออารมณ์โกรธ (คือแฟนเป็นคนชอบแย่ แล้วเราก็ชอบขี้ใจน้อย) แปลกใจตัวเองมากทำไมเราไม่รู้สึกโกรธ ปึงปัง เลยเนอะ คือมันรู้สึกเฉยๆมากๆ

    เรียนถาม...คุณคูรจิตบุญหากท่านใดแวะผ่านมานะค่า
    เวลาที่ในจิตเราเห็นพระแล้วนี่ ทำไหมถึงภาพพระในจิตเราถึงเปลี่ยนไปไม่ค่อยซ้ำภาพเดิมเลย บางครั้งเห็นเป็นภาพพระอริยะสงฆ์ก็มีเช่น เห็นเป็นภาพ หลวงพ่อฤษีลิงดำบ้าง เห็นเป็นภาพสมเด็จพระพุฒจารย์โตบ้าง บางทีเห็นเป็นรูปพระพุทธรูป สีขาว บ้าง สีทองบ้าง สีดำบ้าง บางทีก็เห็นเป็นภาพพระแบบจางๆ ไม่ชัด บางทีก็ชัดมากกกกกกองค์ใหญ่เชียว
    และที่เราเห็นภาพพระ เปลี่ยนไปมาอย่างนี้ ไปตลอดใช่ไหมค่า
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,308
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    จิตเกาะพระ

    ขอบพระคุณอาจารย์เพ็ญค่ะ catt1
     
  17. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    555.. อันหลังคร้าบบ..ท่านพี่ภู
    ทั้งเดินทางทั้งประชุมเกือบทั้งวันเลยหลายวันมานี้..
    เวลาว่างมีไม่นานครับ.. แถมเจอ3Gมั้ง 2.5Gมั้ง(E).. บางทีเจอ1Gอีก..
    เต่าเรียกเรียกพี่เลยครับ.. วิ่งหาwifiอยู่ครับ.. แต่จิตเรา0Gนะครับ..
    เดี๋ยวอีกซัก2วัน หายยุ่งล่ะ.. เดี๋ยวจัดให้..555
     
  18. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุครับ
     
  19. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    ขออนุญาติรายงานท่านพี่ภูซักกะหน่อยคับ. เกาะพระได้แล้วครับ

    แจ้งรายงาน.ท่านพี่ภูนะเจ๊าคับ..เมื่อคืนพอสวดมนต์คาถาชินบัญชรแบบย่อของหลวงปู่มั่นคับ/คาถาเงินล้านของหลวงพ่อปานและหลวงพ่แฤาษีลิงดํา-แผ่เมตตา (อิตังเม มาตาปิตุนัง โหตุ สุขิตาโหตุ มาตาปิตะโร อิตังเม ญาตินัง โหตุ สุขิตาโหตุ ญาตะโย)..แล้วน้อมนิมนต์จิตเกาะพระองค์พระปฐม องค็สีขาวจนติดในสติเกาะจิตจนหลับไป และฝันเห็นองค์ท่าน ทั้งคืนเลยครับท่าน.. จนตื่นมาตีห้าครึ่งก็ยังไม่ลืมคับ..รู้สึกสติตามจิต ถูกกับจริตภาพพระองค์ปฐมสีขาว อย่างมากมายครับ ท่าน..เหตุใดผมเอาข้อความเก่ามาปนกับข้อความใหม่
    ทั้งที่มีข้อความเก่าอยู่แล้ว? เพราะเกรงว่าแรก-สอง..จะตกหล่นงัยคับท่าน..555..-ขอบคุณเจ้าคับ..
     
  20. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    เหมือนคุณภูเห็นด้วยตาจริงๆครับ ช่วงนี้รู้สึกว่าผมเข้าใจเรื่องจิตเกาะพระมากขึ้น พูดคุย ประชุม หรือคิดงานก็นึกภาพพระได้บ่อยขึ้น ตอนแรกก็ดีใจ แต่มีเสียงบอกว่าคราวที่แล้วก็ยังงี้แหละ ประมาท เจอเขาแหย่โกรธ จนต้องระเบิดออก ตกม้าตายไปหลายวัน กว่าจะกลับมาเส้นทางเดิมได้
    ผมก็อยากกราบขอบพระคุณทุกๆท่านจริงๆ ถ้าผมไม่ได้เข้ามากระทู้นี้ผมคงหลงอยู่ในเส้นทางมิจฉาทิฐิ อย่างไม่มีทางกู่กลับแน่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...