ขาหักเพราะหักขากบ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย CLUB CHAY, 7 ตุลาคม 2011.

  1. CLUB CHAY

    CLUB CHAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    507
    ค่าพลัง:
    +1,412
    [​IMG]

    การเบียดเบียนสัตว์ ทำลายสัตว์ เป็นกรรมที่จะทำให้อายุสั้นและมีโรคภัยไข้เจ็บมาก เหตุนี้เองบางคนจึงมักมีโรคมีภัย หรือบางคนก็อายุสั้น เกิดมาไม่นานก็ต้องตายจากไป การทำร้ายชีวิตอื่น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือเป็นคน ก็ล้วนแต่เป็นบาปเป็นกรรมทั้งนั้น เราจึงควรมองชีวิตทุกชีวิตด้วยความรักความเมตตาต่อกัน อันจะทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากมองกันด้วยใจที่เหี้ยมโหด และเบียดเบียนกัน ผลกรรมนั้นก็อาจจะย้อนมาหาตัวเราสักวันหนึ่ง

    ดังเช่นเรื่องราวของนายอนันต์ที่กรรมได้สะท้อนย้อนกลับมาหาเขาในชาตินี้

    นายอนันต์เป็นชาวนาอยู่ที่มหาสารคาม เขาเติบโตขึ้นมากลางท้องทุ่ง ดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก ต้องทำงานหนักตั้งแต่เล็กจนโต ทุกวันหลังจากทำไร่ไถนาแล้ว ก็ต้องไปหาปลา กบ เขียด มาเก็บไว้กิน แต่ยังโชคดีที่ทุ่งนาแถวนั้นค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ พวกปลา กบ เขียด จึงมีอยู่ชุกชุม

    ชายหนุ่มจัดว่าเป็นคนที่มีฝีมือในการหาปลากบเขียด อาวุธของเขาในการล่าสัตว์พวกนี้ก็คือ แห และคันเบ็ด ช่วงฤดูฝนเขาจะออกไปทอดแหในแม่น้ำและตามลำห้วย ส่วนในฤดูหนาวที่ข้าวเขียวขจี เขาก็จะไปวางเบ็ดไว้ตามคันนา

    วิธีการวางเบ็ดในการจับปลา ไม่เหมือนจับกบ ถ้าปักเบ็ดสำหรับล่อปลาให้มากินเหยื่อ ก็แค่เอาด้ามปักไว้ที่คันนา แล้วเกี่ยวเหยื่อไว้ที่ปลายเบ็ด หย่อนลงน้ำ แต่วางเบ็ดจับกบ เขาจะใช้วิธีล่อกบให้มากินเหยื่อ โดยทำเป็นลานเล็กๆ กว้างประมาณเท่ากับจานใส่อาหาร แล้วเอาเบ็ดปักไว้ตรงกลางลาน ให้ด้ามเบ็ดชี้ขึ้นฟ้า วิธีการนี้จะสามารถล่อให้กบมากินเบ็ดและติดเบ็ดได้ง่าย

    บ่ายวันหนึ่งในฤดูหนาว ใกล้กับช่วงเวลาที่จะเกี่ยวข้าว อนันต์ได้ออกไปปักเบ็ดเพื่อหากบมาเป็นอาหาร ตามกรรมวิธีที่เขาเคยฝึกฝนมา ซึ่งถือว่าได้ผลดี เพราะมีกบจำนวนมากมากินเหยื่อและติดเบ็ดของเขา

    กระทั่งสี่ห้าทุ่ม ก็ได้เวลาที่จะต้องไปดูคันเบ็ดที่ปักไว้ ชายหนุ่มจึงออกไปยังที่วางเบ็ด เขาเห็นกบติดเบ็ดอยู่หลายตัว จึงจับกบขึ้นมาและหักขากบทุกตัวไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ก่อนที่จะโยนลงในชะลอมที่เตรียมมา กบที่ถูกหักขาทุกตัวนั้น มันก็คงจะเจ็บปวดไม่น้อย แต่เขาก็ต้องทำอย่างนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มันกระโดดหนีไปได้

    อนันต์ดีใจทุกครั้งที่หากบได้มาก เพราะเขาจะมีอาหารอันโอชะต่อไปอีกหลายวัน กบส่วนหนึ่งถูกนำมาทำเป็นอาหารในเช้าวันใหม่ ส่วนที่เหลือก็จะขังไว้เพื่อทำอาหารในวันต่อๆ ไป

    กบหลายตัวที่ยังไม่ถึงฆาต ถูกขังไว้ในกาละมังแคบๆ มันไม่สามารถกระโดดได้เลย เพราะขาทั้งสองถูกหักเสียแล้ว ได้แต่นอนรอความตายที่จะมาถึง ด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน!!

    อนันต์ไม่ได้คิดว่า สิ่งที่เขาทำอยู่นี้มันจะส่งผลกรรมมาถึงตัวเขาอย่างไรบ้าง เพราะเขาเคยหักขากบอย่างนี้มา แล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่ม และก็ทำจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว เขาไม่เคยรู้ว่าการหัก ขากบนั้นเป็นบาปเป็นกรรม ดังนั้น เขาจึงดำเนินชีวิตไปตามปกติ ทุกครั้งที่ออกไปจับกบ ก็จะทำเช่นนั้นตลอด

    อยู่มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มได้ไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ซึ่งเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า การเล่นวันนั้นจะเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปเป็นคนละคน ก่อนไปเขาก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไรเลย แต่ว่าผลกรรมนั้น มันกำลังวิ่งไล่เขาอย่างต่อเนื่องโดยที่เขาไม่รู้สึกตัว

    พอเล่นบอลไปได้สักพัก ก็เริ่มสนุกสนานเพลิดเพลิน และเริ่มจะเล่นกันรุนแรงขึ้น ทันใดนั้น...จังหวะที่อนันต์ได้บอลมาครอง ฝ่ายตรงข้ามก็กระโดดเสียบเข้ามาอย่างรุนแรง ชายหนุ่มได้ยินเสียงดังเป๊าะ แล้วก็ล้มลงด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามลุกขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขาของเขาหักเสียแล้ว เพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างวิ่งเข้ามาดู แล้วก็พากันตกใจ ที่เห็นขาของอนันต์ห้อยต่องแต่ง เหมือนกับขากบที่เขาเคยหักนั่นเอง!!

    เพื่อนๆ ได้พาอนันต์ส่งโรงพยาบาล ในระหว่างที่รักษา ตัวอยู่นั้น กบทั้งหลายที่อนันต์เคยหักขาไว้ก็มาปรากฏเป็นนิมิตให้ชายหนุ่มเห็น ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงนึกถึงกบพวกนี้ เขานอนครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมีคำตอบให้กับตัวเองว่า การที่เขาขาหักในครั้ง นี้ คงเป็นเพราะกรรมที่เคยไปหักขากบไว้อย่างแน่นอน

    ยิ่งคิดมากเขาก็ยิ่งกลัวมาก เพราะกบที่เขาเคยหักขาไว้มันช่างมากมายหรือเกิน เขาคิดว่า หากเป็นกรรมที่เกิดจากการหักขากบจริงๆ แล้ว เขาจะต้องขาหักอีกสักกี่ครั้งจึงจะชดใช้กรรมหมด ความกลัวจึงแล่นเข้ามาจับใจ จนแทบเสียสติ

    แต่เมื่อสติของอนันต์กลับคืนมา ปัญญาก็เริ่มจะเกิดขึ้น มองเห็นกรรมที่ตนเองเคยกระทำ เขาจึงได้ขออโหสิกรรมที่เคยทำไว้กับกบและสัตว์อื่นๆ ที่เขาเคยฆ่ามาตลอด พร้อมกับตั้งใจว่าจะรักษาศีล ปฏิบัติธรรม และทำ บุญไปให้สัตว์เหล่านั้นเป็นประจำ เพื่อไถ่บาปที่ตนเองเคยทำไว้ เพราะกลัวว่ากรรมอื่นๆ จะตามมาสนองเหมือน กับการหักขากบ

    เวลาผ่านไปสองสามเดือน อนันต์ก็หายเป็นปกติ แต่ก็ไม่สามารถเดินเหินได้ดีเหมือนเก่า เขากลายเป็นคนมีศีลมีธรรม ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตใดๆ เพราะได้รู้ชัดแล้วว่า การฆ่าสัตว์นอกจากจะทำให้ชีวิตอื่นได้ประสบกับความทุกข์แล้ว สิ่งนั้นมันยังย้อนมาหาตัวเองด้วย

    นอกจากนี้ เขายังได้ใช้ประสบการณ์กรรมของตัวเอง ไปแนะนำสั่งสอนผู้อื่น เพื่อไม่ให้ทำกรรมชั่ว จะได้ไม่ต้อง ประสบกับความทุกข์ดังเช่นที่เขาเคยได้รับมา

    กฎแห่งกรรมนั้น มันเป็นกฎที่สลับซับซ้อน เราไม่รู้แน่ชัดว่า กรรมชั่วที่เคยทำจะให้ผลเมื่อใด หรือกรรมดีที่เคยทำจะให้ผลเมื่อใด และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีใครบังคับบัญชาได้ มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน

    ชีวิตของทุกคนจึงไม่ควรหยุดทำความดี ต้องทำอย่าง ต่อเนื่อง ละความชั่วให้ได้เด็ดขาด อย่าปล่อยให้ความชั่วมาเป็นจุดด่างดำในชีวิต คนส่วนใหญ่มักประมาท ละเลยกรรมเล็กน้อย เพราะคิดว่ามันจะไม่ให้ผล แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า กรรมทุกอย่างให้ผลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมเล็กน้อยก็ตาม

    ฉะนั้น เราจึงควรละเว้นจากกรรมชั่วให้ได้เด็ดขาดก่อนที่มันจะแผลงฤทธิ์กับเราเสียก่อน การทำความดีอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผลแห่งกรรมชั่วที่เราเคยทำไว้เบา บางลง และทำให้เราได้รับแต่ผลแห่งกรรมดี มีความสุขความเจริญในชีวิต

    fly_pig
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1205576551.jpg
      1205576551.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.2 KB
      เปิดดู:
      1,524
  2. meawmeaw99

    meawmeaw99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +77
    ผมขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองบ้างครับ เพื่อฝากไว้เป็นอุทาหรณ์. ตอนผมยังเด็กประมาณห้าขวบไม่เคยรู้เรื่องของเวรกรรม เล่นสนุกไปวันๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เล่นกับเพื่อนซึ่งจับต๊ักแตนมาแล้วหักขาหลังของมันแล้วให้มันเดิน ด้วยความที่เป็นเด็กทำให้เราไม่เคยนึกถึงเวรกรรม จนเวลาผ่านมาหลายปีตอนผมขึ้นป. 1 ก็เล่นปีนต้นไม้กับเพื่อน ผมตกต้นไม้แขนขวาตรงข้อศอกหัก ไปหาหมอเข้าเฝือกอยู่หลายเดือน พอเอาเฝือกออกหายเป็นปรกติ แต่ก็ต้องเกิดเหตุให้แขนข้างเดิมต้องหักอีกจากการที่วิ่งหกล้ม ทำให้แขนขวาผมหักอยู่จนถึงทุกวันนี้ จนเวลาผ่านไปนานก็มาเกิดเหตุกับผมอีกตอนน้ันอายุ25 ขับมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆ ก็เกิดมีมอเตอร์ไซค์อีกคันวิ่งข้ามเลน มาชนกับรถผมทำให้กระดูกหัวเข่าด้านซ้ายแตก ต้องเข้าเฝือกและหยุดงานเป็นเวลา3เดือนพอถึงเวลาเอาเฝือกออก ขาด้านซ้ายกลับงอตรงหัวเข่าไม่ใด้ถามหมอหมอบอกว่าเพราะเข้าเฝือกนานเกินไป เลยต้องทำกายภายอยู่เป็นปีกว่าเข่าจะมางอได้อีกคร้ัง จนถึงทุกวันนี้ถ้าเกิดอากาศหนาวจะเกิดอาการปวดเข่าขึ้นทุกที เวรกรรมของผมยังมีต่อเม่ือประมาณ4ปีก่อน เกิดมีเรื่องกับคู่อริ ทำให้ผมถูกฟันเข้าที่แขนด้านซ้ายต้องเย็บ30เข็มใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะหาย แต่ก็ไม่หายเป็นปรกติเช่นเดิม ผมอยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อระลึกถึงว่าเวรกรรมมีจริง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรของผมทุกท่านโปรดอโหสิกรรมยกโทษแก่ผมและขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญกุศลจากเรื่องที่ผมได้เล่ามานี้ด้วยเทอญ สาธุ
     
  3. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    เป็นการเตือนสติที่ดีมากครับ


    บางคนมักจะลืมอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาว่ากระทำสิ่งใดกับพวกเจ้ากรรมนายเวรในปัจจุบันบ้าง ถ้าผู้ที่เข้าใจก็จะยอมรับผลกรรมนั้น แล้วขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรในชาติปัจจุบัน บางคนทุกข์มากเพราะทำกับพวกเค้าไว้มาก แต่ไม่อาจรำลึกได้ว่าทำอะไรไว้บ้าง สำหรับผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะ จะค่อยระลึกถึงและก็ยอมรับชะตากรรมของตัวเองได้ โดยไม่กล่าวโทษชะตากรรมของตัวเอง จริงๆแล้วผู้ที่กำหนดก็คือ "ตัวเรา"นี่เอง

    วัน เวลาว่างๆ ลองนึกย้อนกลับไปตั้งแต่เด็กว่าเราเคยทำอะไรกับใครไว้บ้าง ส่วนใหญ่คนเรามักจะรังแกพวกสัตว์ต่างๆ ที่เมื่อตอนเด็กๆเราไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับธรรมมะมากนัก คิดว่าเป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความกลัว หรือนำไปเป็นอาหาร เราเลยกระทำต่อสัตว์โลกที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งไม่คิดว่าเค้าก็มีชีวิตเหมือนกับเราเช่นกัน มีความสุข ความทุกข์เหมือนกับเราเช่นกัน นี่แหละเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันชาติ


    บางคนโชคดีหน่อย เกิดมามีบุญติดตัวมา ทำให้เป็นคนมีจิตเมตตาสงสารต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงไม่รังแกสัตว์ทั้งหลายทำให้โรคเบียดเบียนหรือเคราะห์กรรมไม่มาก แต่ก็ไม่หนีพ้นจากเคราะห์กรรมกับคนอยู่ดี


    ปัจจุบันเรามีความสุข หรือความทุกข์อยู่ ย้อนกลับไปดูว่าเราเคยทำอะไรกับผู้ใดไว้บ้าง โดยไม่ต้องใช้อภิญญาใดๆในการแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดเอาไว้ในสิ่งไม่ดี รับรองจิตเราจำได้อยู่แล้ว แล้วเราจะรู้ตัวเราเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอยู่นี้ เรากำหนดเองทั้งนั้น ผู้ที่รำลึกได้เร็วก็จะค้นพบธรรมมะได้เร็วเช่นกัน


    อนุโมทนาสาธุแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่าน สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ระยะเวลาของกรรมสนองมักจะไม่เหมือนกัน บางคนมาช้า บางคนมาเร็ว บางคนรอไปชาติหน้า...
    ..อย่างผมนี่ กรรมมันรอจนกระทั่งอายุ60 แต่ตอนทำกับสัตว์ราว10ขวบ มันรอ 50ปีทีเดียว
    ...แต่มันค่อยๆทรมาณผมทีละนิด เช่น ขาซ้าย แขนขวา แขนซ้ายฯลฯบวกด้วยโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ
    จึงต้องอยู่กับกรรมให้ได้ ไม่ยอมแพ้ แล้วปลงแล้วทำดี...เพื่ออนาคต...
    ..แต่อดีต...เราหลีกหนีไม่พ้น...ยอมแต่ไม่ท้อ...สู้...แม้จะรู้ว่าสู้แล้วแพ้...แต่ก็จะสู้(เหมือนนักกีฬาโอลิมปิก2012เลย...ฮา)
     

แชร์หน้านี้

Loading...