เกิดก่อนเกิด..พรแปดประการ...

ผมเห็นแต่มีคน เร่งทำบาปกัน ไม่เห็นเร่งชำระบาปกัน
ผมเห็นแต่มีคน รักษาบาปไว้กันอย่างเหนียวแน่น
ผมเห็นแต่มีคน พยายามสรรหาบาปที่รุนแรงมากกว่าเดิม

แล้วมันจะได้กลับคืนกันหรือ หญิงมณี

 

.........................


....ลองย้อน พิจารณา นิทาน"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...มีบ้างไหมที่ "ที่ใครบ้าง

จะกล้า อธิฐาน ไม่เอาบุญ ยกบุญตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันทั้งหมดให้กับธรรม

ชาติ...(เพราะนิทาน.."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..มีทั้ง ปริศนาธรรม และ

สัจธรรม..(และ อาถรรพ์).. เพราะนิทาน ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ..เล่าและ

เขียน และแต่ง จาก .."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"...นั้นเอง

 

องค์พระศรีอาริย์ไม่จำเป็นต้องประกาศศาสนา

แท้จริงควรจะเป็นสมัยขององค์ศรี อยู่แล้วไม่ใช่หรือ

ท่านจะนำธรรมปฏิบัติ เฉพาะส่วนที่สำคัญหรือยอดของธรรม

เท่านั้น(หรือเรียกว่า พระยาธรรมิกราช หรือยอดแห่งธรรมทั้งปวง)

มาแสดง มาให้ปฏิบัติ เท่านั้น

 

รักตัวเอง ดูแลสังขารตัวเอง


คือ หน้าที่แรกของจิตวิญญาณ
ที่อยู่ในร่างสังขารนะครับ บางครั้ง
ชีวิตของคนเรา อาจได้รับสิ่งร้ายๆ
กระทบเข้ามา ทำให้เราลืมรักตัวเอง
บางครั้ง เรารักคนอื่นมากไป และเขา
กลับทำร้ายเรา ทำให้เราไม่เห็นค่าใน
ตัวเอง จึงรุนแรงกับตัวเองได้ เช่น ทิ้ง
ร่างสังขารตัวเองไป ปล่อยให้ผจญกับ
สิ่งต่างๆ อย่างยากลำบาก (แต่ก็เป็น
การบำเพ็ญบารมียิ่งยวดได้เหมือนกัน)


เมื่อเราเริ่มต้น "ทำหน้าที่แรก" ให้ดีก่อน
คือ หน้าที่ดูแลสังขารตัวเอง รักสังขารตัว
เอง มันจะฝึกเราเองให้มีพลังคุ้มครองและ
ปกป้อง โดยเริ่มต้นจากตัวเราเองเป็นตัวทด
ลอง นี่ละ ทำตัวเราให้ดี ดูแลให้ดี รักตัวเรา
เองเพื่อที่จะใช้พลังรักนั้น ในการแผ่ให้ผู้อื่น
ต่อไป (ไม่ใช่เพื่อที่จะหลงตัวเองหรือเห็นแก่
ตัว ก็หาไม่) เริ่มพลังแห่งรักจากตัวเราเองก่อน
แล้วจึงแผ่ออกไปโดยรอบสู่ปวงสรรพสัตว์ ครับ

 

การเริ่มต้นงานใหญ่ ต้องทำจากเล็กๆ ให้ดีก่อน


เล็กๆ ที่เหมาะสมที่สุดคือ "ตัวเรา ชีวิตเราเอง" ครับ
เพราะอะไร? เพราะเราจะเอาอย่างอื่นเป็นหนูทดลอง
ไม่ได้ เราต้องใช้ตัวเราทดลองก่อน เราลงมือทำให้
ตัวเราพัฒนาขึ้น มีความสุข เต็ม บริบูรณ์ ภายในมาก
ขึ้น เราทำได้แล้ว เราจึงค่อยๆ ขยายผลไปสู่ตัวตนอื่น
และขยายวงกว้างเป็น "งานใหญ่" ต่อไป แต่ถ้าเรายัง
ไม่อาจทดลองสิ่งดีๆ ที่เราจะทำ ให้กับตัวเราเองได้ ก็
ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราทำไปนั้น มันจะดีจริงหรือไม่? ดัง
นั้น เราต้องทดลองจากตัวเราเอง ให้ผ่านก่อน นะครับ

 

"มหาตมะ คานธีร์" ผู้ยิ่งใหญ่ที่เริ่มต้นจาก "การทำตัวเองให้เป็นต้นแบบก่อน"

 

การตามหา "ดวงจิตที่แท้จริง" เป็นประเด็นน่าสนใจครับ


เพราะหลายท่านอาจไม่ทราบว่า "ตัวเองเสียจิตเดิมแท้"
ไปจากร่างสังขาร ตั้งแต่เมื่อไร? เคยรู้สึกไหมว่าตัวเอง
ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน? เรายังเป็นเราคนเดิม
อยู่ จริงหรือไม่? แล้วถ้าไม่ เราคนเดิม หายไปไหนแล้ว?
นั่นคือ "ที่มาของเกม ตามล่าหาจิตเดิมของมนุษย์" ไง
ครับ สิ่งที่คุณ มณีฯ กล่าวมา เป็นประเด็นสำคัญมากเลย
ครับ ซึ่งน้อยคนนักที่จะเข้าใจ และเข้าถึงปัญหาข้อนี้ได้
จำต้องปฏิบัติยิ่งยวดจริงๆ จึงจะถึงปัญหาข้อนี้ได้ครับ ...

 

อ้าว เด็กๆ มารอฟังนิทานแล้ว
คนเล่านิทาน เงียบไปละครับ?

 

ทำไมมันเหมือนอารมณ์และความรู้สึกของคนอื่น มันมาอยู่ที่เราอ่า

 

่ทำไมช่วงนี้มันโล่งๆง่า เงียบไปเลยง่าาา

 

อย่าไปติดนิสัย
เปิดรับทุกอย่าง
ไม่ว่าเขาจะพูด
จะคุยอะไรกันก็
เปิดรับหมด แล้ว
ก็เอามาเป็น "ฉันเอง"
ทุกทึ มันเป็นการใช้พลัง
จิตดึงดูดของคนอื่นมา
เป็นของตน เอาไปแล้ว
ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
ทำให้สับสนในตัวเองเสีย
เปล่าๆ ยิ่งรับมาก จะแย่เอา
ดู "มู่หยงฝู" เปล่า? ดูดพลัง
คนอื่น จนกลายเป็นบ้าไปเลย

 

เราไม่รู้หรอก ว่า นั่นคือการ "ดึงดูด พลังจิตของคนอื่นเข้ามาในตัวน่" เรารู้แต่เพียงว่า "มันดังอยู่ในหัวเราตลอดเวลา" มันก็เท่านั้นแหละ

 

จิตวิญญาณเดิมอาจจรจากร่าง ถ้าร่างมีบารมีมากขึ้น


จิตวิญญาณเดิมอาจจรจากร่างได้ ถ้าร่างสังขารมีบารมี
มากขึ้น จนเกินกว่าระดับของจิตวิญญาณเดิมจะอยู่ร่วม
และเมื่อจิตวิญญาณเดิมจรจากไปแล้ว จิตวิญญาณดวง
ใหม่จะมาแทนที่ ในลักษณะที่ "มีบารมีมากขึ้น" ก็เป็น
ไปได้ ในกรณีนี้ สังขารไม่มีปัญหา เพราะพัฒนาสูงขึ้น
แต่บางกรณี อาจมีปัญหาได้ เช่น การถูกจิตวิญญาณอื่น
แทรกผ่านเข้ามาในร่าง เช่น จิตวิญญาณภาคมืดต่างๆ
ดังนั้น การจรออกของจิตวิญญาณเช่นนี้ ก็ยังเสี่ยงอยู่ดี

 

คนเล่าง่วงนอนอยู่

 

แล้วมันออกไปไหน..............????

 

เปลี่ยนวิธีคิด คิดแบบเดิม ก็เหมือนเดิม


เลิกคิดแบบเปิดรับอะไรก็ได้ทั้งนั้น
มาเป็น "รู้จักเลือกรับ" อะไรที่
มันควรรับ หรือไม่ควรรับ ถ้ามี
ศีลมากๆ หน่อย จะค้มครองให้
สังขารไม่ถูกสิ่งไม่ดี พลังไม่ดี
เข้าแทรกได้

 

ร่างสังขาร 3 ร่างกับ 3 พลัง


ร่างหนึ่งจะได้พลังของพระศิวะ
ร่างหนึ่งจะได้พลังของพระอุมา
ร่างหนึ่งจะได้พลังของพระกาลี


พลังงานนั้น กำลังเคลื่อนมาแล้ว


หมดเวลาเล่นแล้วครับ บายครับ


:z8

 

สวดมนต์อย่างต่อเนื่องสิครับ

ใช้คลื่น บดบังคลื่น

เป็นวิธีของวิทยุนี่ล่ะ

ง่ายๆ และส่งคลื่น ที่ยิ่งใหญ่ ให้คลื่น เหล่านั้น

แอบฟังเราบ้างสิครับ

 

กล่าวถูก วิธีการมีศีล ผมก่บอกไปแล้วคือ
การสวดมนต์ จะดีที่สุด เพราะมนตราจะทำให้เรามีคลื่น
ที่เสถียร และทำให้คลื่นที่แทรกมา ได้รับคลื่นจากเรา
ให้เสถียรตามไปด้วย ทำ ทำ ทำ
ไม่ทำ ไม่รู้ ใหม่ๆ อาจจะลำบาก
หน่อย ก่ ต้องอดทน ทนอด เอา

มีอย่างที่ไหน มะม่วงเพิ่งออกผลจะกินสุก(หวาน)เลยทันที

 

ไหน เอามาัสักบทสิ............