ดูดพลังมากเกินจะอันตรายมั้ย

อันนี่ก็เหมือนเดิมครับ ฝึกมั่วๆๆหลังจากดูดพลังจากสิ่งอื่นๆๆได้ แล้วก็มีโอกาสรู้เรื่อง ธาตุชีวิน และวิชา ยืมพลัง ก็เลยคิดจะดูดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แล้วก็เลยโลภมากไปหน่อย ดูดให้เข้าทั่วตัว พอดูดไปได้สักพัก เหมือนโดนไฟฟ้าซ็อค แล้วก็ชาไปหมดทั้งตัว ดูดไปได้ 5นาทีกว่าก็พอหยุดดูด เพราะมันชาไปทั่วตัว สักพักกะจะทดสอบพลังลมปลาณเล่นๆๆยังไม่ได้ทำเลย มือกับแขนมันดันออกจากกันเฉย อะไรเราก็งง อะไรหว่ายังไม่ได้ทำเลย ทำมั้ยมันออกมาเอง ลองเอามือไปสัมพัสมือดู มันดันออกมาเฉย แล้วก็ลองเอามือไปสัมพัสแขน ปกติมันจะออกทางมือ ที่นี่มันออกทางแขนเฉย แล้วลองดูทั่วตัว มันออกทั่วตัวหมด เหมือนกันลมมันอยู่ในตัวผมแล้วก็กำลังดันออกเรื่อยๆๆจนสามารถสัมพัสได้ คิดไปคิดมา สงสัยดูดเยอะเกินไปหรือปล่าวเนี่ยจนมันเก็บไว้ไม่ได้ ก็คิดไปอีก ถ้าเก็บเยอะเกินมันจะอันตรายหรือปล่าวเนี่ย ก็ไม่รู้อีก ก็เลยปล่อยออกให้มันเลย ใครเก่งเรื่องแบบนี่ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ

 

ความจริง


สิ่งใดๆ ที่มันเกินไป มันเกินไปจริงๆ ไม่มีประโยชน์

 

ช่วยแปลแบบอีกนิดให้คนอย่างผมฟังออกหน่อยครับ - -จะขอบคุณมากๆๆ

 

ดูดไปมั่วๆมันก็ไม่ดีหรอกครับ
มันจะได้ทั้งสิ่งดีสิ่งไม่ดี เอ่อ...
แล้วจะดูดไปทำไมครับล่ะครับ
กินอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกาย แค่นี้ร่างกายก็แข็งแรงแล้ว

 

แค่มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมและปล่อยวางสิ่งต่างๆไปเรื่อยๆก็ใช้ได้แล้วครับ ไม่ต้องคิดว่าดูดพลังหรอก

 

การดูด หรือการปล่อยพลัง นี่ถ้าไม่ชำนาญก็อันตรายนะ อย่างที่เขาว่าแหละ รอบตัวมีหลากหลายพลังงาน เลือกใช้ไม่ถูก เลือกใช้ไม่เป็น ก็อาจเกิดโทษได้
ค่อยๆสัมผัสรับรู้ไปอย่างช้าๆจะดีกว่า

 

ดูด

ดูการ์ตูนมากไปหรือเปล่า ไปเช็คประสาทหน่อยก็ดีนะ

 

ปราณมันไม่ได้ออกทางแขนค่ะ
แต่ออกตามผิวหนังหรือรูขุมขน ทั่วๆ ตัว
เพราะมากับลมหายใจ ปราณเป้นทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ

ถ้านั่งสมาธิด้วย แทนจะเดินปราณเจ็ดจักระอย่างเดียว ควรเปลี่ยนเป็นอานาปานสติให้ลึกถึงท้อง และปล่อยออกให้ยาว

หรือให้ลมกับปราณเดินไปทั้วทั้งจักระ และแขนขานั่นเอง

ถ้าลมคุณละเอียด ขนาดหายใจเข้าได้ 1 นาที ออก 1 นาที
จะทำให้ร่างกายสงบรำงับมาก

แต่ถ้าเดินปราณแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศมาก (สมาธิขั้นต่ำ) จะยิ่งเป็นโทษ ควรกำหนดปล่อยอารมณ์ที่จักระสาม ที่กระดูกสันหลังหลังตรงข้ามสะดือ

การรับพลังยามเช้าที่จักระเจ็ด จะดีมาก
วันนึงไม่ควรเดินปราณเกินยี่สิบนาที
ถ้าเป็นธาตุไฟ ควรฝึกโยคะ หรือนั่งสมาธิเพื่อปรับให้เป้นปราณเย็น ไม่งั้นร่างกายจะร้อนเกินไป

ควรหายใจเข้าให้ลึกทางจมูก และปล่อยลมหายใจออกออกทางปาก หากร่างกายร้อนเกินไป

เขียนไม่ค่อยเป้นลำดับขออภัยด้วยค่ะ ลองไปหาหนังสือสมาธิเต๋าอ่านดู


คนเรา มีร่างกาย กับจิต
ร่างกายก็ต้องออกกำลังกาย ฝึกปราณอย่างเดียว หรือนั่งสมาธิอย่างเดียวไม่ได้ นักบวชเขาแก้กันด้วยการเดินจงกลม ส่วนฆราวาสสบายอยู่แล้ว ไปเล่นไปวิ่ง ไปว่ายนั้ ฯลฯ
ส่วนจิต ก็ฝึกแบบวิปัสสนาไปด้วย จะทำให้เกิดปัญญา ความจริงอย่าไปเรียกว่าดูดพลังเลย คนทั่วๆ ไปก็รับได้ค่ะ ปราณนอกตัว จากธรรมชาติ สายลมอากาศ ดอกไม้ ความสุขรอบๆ ตัว เพียงคนที่เดินจักระได้ ความชัดเจน จะทำได้ดี คือใช้สมาธิระดับหนึ่ง ไม่ใช่สมาธิขั้นสูงอะไร

สมัยท่านตักม้อ
เห็นว่าการนั่งสมาธิอย่างเดียว จะทำให้เป็นผลเสียต่อร่างกาย
จึงคิดมวยไทเก็กขึ้นมา ช่วยทั้งการเดินปราณ และทำให้ร่างกายคล่องตัว

พวกเส้าหลินจึงได้การฝึกวิปัสสนาแบบมวยไทเก็ก
คนบรรลุธรรมในจีนด้วยวิชามวย มีมาก

ลำบากแค่การจำท่าตอนแรก พอจำได้หมด ทีนี้ ก็เป็นการกำหนดรู้การเคลื่อนไหว หรือ กายานุปัสสนาสติปัฎฐานนั่นเอง

..
(i)

 

มหาเวทย์ดูดดาวเหรอ

 

แนวทางฝึกของคุณ "กังขา ณ ปลาย" กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว


แต่หากหลงออกนอกทาง ผมพอมีทางแก้และคำอธิบายดังนี้

1. หากปราณไหลออกผิดที่ ผิดวัตถุประสงค์ เรียกว่า "ลมปราณรั่วไหล"
คือ ไม่ใช่สิ่งที่ดี ควรจะรักษากายทิพย์บริเวณที่มีการรั่วไหลของลมปราณ
โดยแผ่ปราณดีทางฝ่ามือ แล้วหมุนวนขวารอบจุดนั้นบ่อยๆ ซ้ำๆ จนอาการ
หายไป เหมือนการซ่อมเสริมเย็บรอยรั่ว

2. การดูดลมปราณเข้ามา หากเป็นลมปราณพิษ ลมปราณไม่บริสุทธิ์
มีแต่จะเอาของไม่ดีมาเข้าตัว ไม่ควรทำ แต่หากดูดลมปราณจักรวาลที่
บริสุทธิ์ ก็ต้องหาจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ไม่เอาจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีมาก
มาย แต่การมีปราณมากเกินไปแต่ใช้ไม่เป็นก็ไม่เกิดประโยชน์ จะพบ
อาการทางกายดังนี้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ไม่หิวข้าว (หากปราณ
ขังในช่องท้อง) หรือหัวบวมๆ พองๆ (รู้สึกหัวดคลงเคลง) กรณีปราณกัก
ไว้ที่บริเวณจักระหก (ตาที่สามและบริเวณหัว) ฯลฯ

3. ลมปราณที่ปริมาณมากพอ ควรใช้ทะลวงจักระทั้งเจ็ดเปิดให้ระบาย
ลมปราณเพื่อให้เกิดการไหลเวียนเข้าออก ถ่ายปราณเสียออกไป เมื่อ
ทะลวงเจ็ดจักระได้แล้ว หากลมปราณยังเหลือให้ถ่ายออกฝ่ามือ และ
ปลายเท้า เป็นอันครบทั้งตัว ก็สามารถใช้ลมปราณได้ดีทุกส่วน

4. หากยังมีปราณส่วนเกินมากเกินไป ให้ใช้ธาตุดินดูดซับดู คือ ถอดรองเท้า
ยืนบนพื้นดินให้ประจุไฟฟ้า ฯลฯ ไหลลงดิน อาจจะช่วยได้อีกทางหนึ่ง


ทุกอย่างนี้ต้องทดลองดูเอง ผมก็อ่านมา เลยเอามาฝากครับ

 

คุณจะดูดพลังไปทำอะไรครับ ดูดมากเกินไปก็เหมือนเติมน้ำใส่แก้วหรือเติมน้ำใส่โอ่ง คุณมีความสามารถระดับไหนที่จะดูดพลังที่มีทั้งดีกับไม่ดีคุณเลือกได้ไหมครับ

 

ตกลงผมผิดเองละครับ ผมคิดว่าถ้าเราดูดพลังสิ่งต่างๆๆได้และก็ปล่อยได้ ก็อาจะช่วยเหลือคนอื่น ที่ขาดธาตุต่างๆๆได้ ถ้าผมเห็นคนอื่นร่างกายไม่แข็งแรงแต่มีโรคต่างๆๆเยอะ ก็อาจจะช่วยเขาได้เหมือนแม่ของผม(เคยเล่าไปแล้ว)กะว่าจะให้ตัวเองมีพลังเยอะๆๆ เพื่อจะช่วยเหลือคนอื่น และไม่ให้ร่างกายตัวเองอ่อนแอ โดยกายทดสอบตัวเองก่อน ถ้าปลอดภัย แล้วค่อยไปทำกับคนอื่น
คำที่ว่าเติมน้ำใส่แก้ว จะเป็นต้องเป็นแก้วของเราคนเดี่ยวเสมอไปหรือปล่าวครับ ขอบโทษที่แสดงความคิดโง่ๆๆของผมครับ

 

ผมเข้าใจในความหวังดีของคุณครับ แต่เกรงว่าจะไปดูดพลังไม่ดีเข้าสู่ร่างกายมากเกินไปทำให้แทนที่มีกุศลจิตคิดช่วยเหลือผู้อื่นกลายเป็นว่าตนเองกลับแย่ลงไป ความหมายที่เติมน้ำเต็มแก้วพอเติมอีกมันก็ล้นออกมาแต่ถ้าคุณเติมน้ำใส่โอ่งคุณเติมได้ไม่รู้จักพอ อยู่ที่ความสามารถในการเก็บพลังไว้ใช้ครับ ผมก็เรียนและศึกษาเกี่ยวกับพลังมาบ้าง สำคัญที่สุด จักระคุณต้องเปิดก่อนครับ ความสามารถในการดูดพลังหรือรับพลังของคุณ ถึงจะเป็นพลังที่บริสุทธิ์ พลังไม่ดีทั้งหลายจะเข้ามาใกล้คุณไม่ได้ครับสามารถ ผมว่าคุณหาที่เรียนและศึกษาให้เข้าใจก่อนจะดีกว่าครับ