ไม่ขาดสาย!ขอยันต์กันแมลงวัดการ้อง

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/l3SnzUxaPWI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>












ไม่ขาดสาย!ขอยันต์กันแมลงวัดการ้อง

ชาวบ้านจากทั่วสารทิศ ยังคงแห่เดินทางมาขอธงผ้า 'ยันต์กันแมลงและศัตรูพืชสารพัดกัน' แน่นวัดการ้อง จ.สุพรรณบุรี ด้านเจ้าอาวาสเร่งทำพิธีปลุกเสก ยันแจกจนกว่าจะไม่มีญาติโยมขอ


8 พ.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดการ้อง ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีกลุ่มเกษตรกรจาก ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ทั้งชาวนา ชาวไร่และชาวสวน ที่ทราบข่าวเกี่ยวกับธงผ้า 'ยันต์กันแมลงและศัตรูพืชสารพัดกัน' ต่างเดินทางมาขอรับธงผ้ายันต์ฯ จนแน่นวัดการ้อง โดยทางวัดต้องจัดคิวเพื่อแจกจ่ายให้ญาติโยมอย่างทั่วถึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าอาวาสวัดการ้อง เร่งทำพิธีปลุกเสกธงผ้ายันต์ฯ ในช่วงกลางคืน เนื่องจากกลัวไม่พอแจกชาวบ้านที่เดือดร้อน เดินทางมาหวังได้ที่พึ่งทางใจ ซึ่งเจ้าอาวาสกล่าวว่าจะแจกจนกว่าชาวบ้านไม่มาขอรับธงผ้ายันต์ฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือญาติโยมอีกทางหนึ่ง


อนึ่งที่มาของผ้ายันต์ดังกล่าว พระปลัดอิศรา ญานธโร เจ้าอาวาสวัดการ้อง เลขานุการเจ้าคณะตำบลดอนโพธิ์ทอง ผู้เป็นเจ้าของไอเดีย เปิดเผยถึงที่มาว่า เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีชาวนาในพื้นที่รายหนึ่งทำนาอยู่ 11 ไร่ มาหาตนที่วัดแล้วบอกว่า เครียดมาก เพราะนาที่ทำถูกเพลี้ยเล่นงานกัดกินนาข้าวได้รับความเสียหายทำให้เป็นหนี้หลายแสนบาท และขอให้ตนเสกลูกปืนขนาด .38 จำนวน 6 ลูก บอกว่าจะเอาไปไล่ยิงเพลี้ย

"อาตมา กลัวว่า ชาวนาคนดังกล่าวจะเครียด จึงได้เสกลูกปืนไปให้ จากนั้นชาวนาหายไป 15 นาที ก็ได้ยินเสียงชาวนาคนดังกล่าวยิงปืนดังขึ้น 6 นัด อาตมาจึงได้แนวคิดว่าน่าจะหาเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ ดีกว่าให้ใช้วิธียิงปืน ประกอบกับอาตมา พอมีวิชาอาคมอยู่บ้างจากครูบาอาจารย์ที่เคยสั่งสอนไว้ในตำราโบราณ ในใบลานสมัยก่อน ที่เกี่ยวกับคาถากับยันต์กันหนูและกันแมลงที่เข้ามารบกวน จึงได้คิดทำธงผ้ายันต์ขนาด 70 คูณ 40 เซนติเมตร ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า ยันต์กันแมลงและศัตรูพืชสารพัดกัน โดยทำพิธีปลุกเสกตามตำราโบราณในใบลานเก่า ที่ตนได้เคยร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวนา"


โดยให้ไปปักไว้ในที่นา 1 แปลง 4 มุม พร้อมจุดธูป 16 ดอก และให้อธิษฐานบูชาบอกกับแม่โพสพ แม่ธรณี ให้ได้ผลผลิตที่ดี ไม่มีแมลงศัตรูพืช หรืออธิฐานอะไรก็ได้ที่ดี ๆ หลังจากนั้นชาวนาคนดังกล่าวได้ทำตามที่ตนบอก ปรากฏว่าปีต่อมา ทำนา 11 ไร่ ได้ผลผลิตถึง 13 เกวียน ทำให้ข่าวลือสะพัดออกไป จนช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ชาวนาในจังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม อ่างทอง พิษณุโลก สุโขทัย ต่างเดินทางมาขอธงผ้ายันต์กันจำนวนมาก จนทางวัดต้องมอบให้รายละ 1 ผืน เนื่องจากไม่ได้มีการเก็บเงินค่าธงผ้ายันต์แต่อย่างใด ทำให้ผลิตไม่ทัน


"นี่คือที่มาของธงผ้ายันต์ ตนไมได้สร้างความงมงาย แต่ต้องการให้ชาวบ้านไม่เครียด มีสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ และใช้สติในการประกอบอาชีพ วัดอยู่ได้เพราะญาติโยม ญาติโยมอยู่ได้ก็เพราะวัด"


----------------
komchadluek.net

 

จริงอย่างท่านว่า "วัดอยู่ได้เพราะญาติโยม ญาติโยมอยู่ได้ก็เพราะวัด"

 

ขอโมทนา สาธุ วัดก็ดี พระที่วัดก็ดี ต้องมีความดี ให้เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง อย่างนี้แหละครับที่โบราณเขาได้รวมวัดเป็นศูนย์การศีกษาในทุกด้าน โรงเรียนก็อยู่กับวัด โรงพยาบาลก็อยู่กับวัด วิชาด้านการนวดก็อยู่ที่วัด เรียกว่าอยู่กับวัดตั้งแต่เกิด เกิดมา ๑ เดือน ก็พาไปวัด โตขึ้น ๗ ขวบ ก็เรียนหนังสือที่วัด หิวไม่รู้ไปไหน ไปวัีดมีของกินแน่นอน ๒๑ปี ก็บวชที่วัด สึกออกมาถอยรถ ดูฤกษ์ดูยาม ก็ไปดูที่วัด แต่งงานก็นิมนต์พระที่วัด ทะเลาะั เบาะแว้งกัน ก็ไปวัดให้พระตัดสิน ไม่มีมหรสพที่ไหนดู ก็ไปดูงานวัด แม้แต่จะปฏิวัติ รัฐประหารก็ไปดูฤกษ์ที่วัด จนกระทั่งตายก็เอาศพไปตั้งที่วัึด เผาแล้วกระดูกยังเอาไปเก็บที่วัด ลูกหลานคิดถึงคนตาย ก็ไปทำบุญอุทิศส่ีวนกุศลที่วัด วัดเป็นศูนย์รวมศาสตร์ต่าง ตั้งแต่การแพทย์ การศึกษา สังคม การเมือง การทหาร น้ำท่วมก็ไปนอนวัด แม้แต่การเกษตร ขอโมทนา สาธุ ก็อยู่ที่พระสงฆ์แหละครับตอนนี้ ท่านทำหน้าที่ของท่านแล้วหรือยัง ใช้ปัญญาเป็นตัวพิจารณา แล้่วใช้จิตเป็นตัวเลือก นะ พระคุณเจ้า ไม่อย่างนั้นคนก็หนีออกจากวัดไปหมด วัดไม่ทอดทิ้งประชาชน ประชาชนจะทอดทิ้งวัดได้อย่างไร เอวังกิ่ม

 

อนุโมทนากับพระปลัดอิศรา ญานธโร เจ้าอาวาสวัดการ้อง เลขานุการเจ้าคณะตำบลดอนโพธิ์ทอง

 

อยากได้จัง

 

กราบโมทนา สาธุ กราบพระพุทธ กราบพระธรรม กราบพระอริยะสงฆ์ กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ขออุโมทนาด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

วัดนี้ตอนเช้า ผมได้ไปปฏิบัติงานที่ รพ.สต.ตำบลเจดีย์ เห็นผ้ายันต์สีเหลือง
ปักอยู่ตามท้องนาอย่างประปราย กันแมลงได้ไม่ได้ผมไม่รู้ คงต้องสัมผัสกันดูเอง
แต่น่าเสียดายที่หลวงพ่อ ได้มรณะภาพลงแล้วในวันนี้เอง ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
หลวงพ่อท่านคงเหนื่อยจากการปลุกเสกผ้ายันต์ ที่นำมาแจกให้ญาติโยมที่ไปขอบูชากัน
เพราะก่อนหน้าก็อาพาตมา 2-3 วัน ผมขออนุโมทนาบุญที่ท่านสร้างด้วยนะครับ

 

ผมว่าเป็นกุศโลบายของ พระที่น่า สนนะ พ่อแม่ผมไม่เข้ามัด แต่ บอกให้ผมพามาวัดนี้อ่า

 

ในชนบทท้องทุ่งต้องการผ้ายันต์กันแมลงมารบกวน
แต่ในเมืองกรุงเห็นทีจะต้องการผ้ายันต์กันโขมยเหมือนกัน
ไม่ทราบว่ามีวัดใดทำแจกมั่งครับ

 

อดีตเมื่อก่อนนี้ ตอนที่ หลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์ก่อนนั้นดีมาก แต่ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไป รู้สึกว่าอะไรข้างในภายในที่แปลกๆ เหมือนไม่ใช่วัด เป็นอะไรสักอย่าที่มีอะไรแอบแฝง เหมือนเงินที่ทำบุญไปคงขาดๆแหว่งๆก่อนถึงจะเข้าวัด(แบบไม่เต็มร้อย) รอยยิ้มต้อนรับ ก็ดูไม่จริงใจยังไงไม่รู้ หลานผมไปแต่งงานกับคนบ้านนั้น(เรียกว่าบ้านดอนระกำ) ลองเข้าไปดู ใครที่ไปบ่อยๆ จนเข้านอกออกในได้(ภายหลังไม่ไปแล้ว) ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
" เหมือนไม่ใช่วัด "

 

ป้าผมจะไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพอะไรสักอย่าง คนที่ดูแลเงินวัดบอกว่า ไม่ต้องทำหรอกเอาเงินมา เดี๋ยวไปจัดการให้ นี่ก็หนึ่งเรื่อง
ผมจะไปทำบุญ (คนเดิม)ก็บอกว่า ไม่ต้องเอามาหรอก เอาเงินมา เดี๋ยวไปจัดการให้ ผมว่า แปลกๆ เหมือนกัน ผมเลยไปทำทำบุญอีกวัดหนึ่งดีกว่า เหมือนจะเอาแต่เงิน
คนที่นั่นไม่ทำงานทำการอะไรกันเลยหรอ ไปกี่ทีก็หน้าเดิมๆ หรือเขาทำงานที่วัด เอาเงินที่เขาทำบุญไปเป็นค่าใช้จ่ายพวกนี้ ถึงว่า ร้องเอาแต่เงินลูกเดียว น่าเกลียดจัง
สมัยหลวงพ่อเจี้ยบอยู่ไม่ใช่ยังงี้นี่นา เดี๋ยวนี้ แปลกๆ มาก ดูไม่ชอบมาพากล เห้นได้ข่าวว่านั่งเล่นไพ่กันในกุฏิหลวงพ่อ(เจี้ยบ)ด้วย เดี๋ยวนี้พิธีกรรมที่จัดก็ดูแปลกๆ ไม่เคยพบเคยเห็นทำยังกะเด็กเล่นกล เขากำลังเล่นอะไรกัน ทำอะไรกัน อ่า วัดนี้

 

ไปมาแล้ว เงียบยังกะป่าช้า จริงอย่างที่ คุณยอดกับคุณโมทย์ว่า ดูแปลกๆ เหมือนมีอะไรยังไงก็ไม่รู้ สายตา ความรู้สึก มันไม่ใช่อ่านะ
ฟังดูพวกในวัด(รวมททั้งเจ้าอาวาส) พูดๆ ก็เหมือนเอาดีเข้าตัว พออันไหนไม่ดีปัดให้คนอื่นหมด เขาทำอะไรยังไงกันก็ไม่รู้ พอดีขากลับเจอป้าคนหนึ่ง ขายของที่ตลาดอู่ทองบอกว่า "อย่าเข้าไปเลยนะลูกที่นั้นน่ะ ป้าไปงานไหว้ครูที่นั้นมาครั้งล่าสุด โดนของกลับมาเกลือบตาย ไปทั้งบ้านโดนทั้งบ้าน แถมเพื่อนๆแกที่ไปด้วยโดนกันหมด คนเขาว่าแกทำพิธีไม่ถูกต้อง มีอาจารย์แถวเลาขวัญบอกมาว่าพวกๆที่ป่วยๆกันโดนเสนียดกินหัวกันมาเต็มเลย เดี๋ยวนี้ คนที่อู่ทองไม่ค่อยไปแล้ววัดนี้ มีลับลมคมใน" นี่ผมไปเองได้ยินมากับหู โอ้ยไม่ไปไม่รู้นะเนี้ยะ!! ขอบคุณมากๆ ครับที่ให้ข้อมูล แม่กับพ่อผมก็ไม่เข้าไปแล้ว

 

พวกสูนั่นแหล่ะด่ากันเอง ด่าแล้ว คราวนี้คงจะจนตรอกพวกชักเริ่มน้อย ก็เอาสูไว้เป็นพวก หลอกไว้เขียนเว็ปไซร์ให้ ผมนี่แหล่ะ ไปนั่ง ซื้อหวยหน้ากุฏิพระอาจารย์รอเพื่อนได้ยินพวกเขาคุยกัน จะทำเว็ปไซร์เองเขี่ยคุณออกจากมรดกที่เขากำลังหาผลประโยชน์กัน ยังสมองกลวงโดนเป่าหู ดูสิ ว่าเขาจะให้คุณเอาขี้ไปแปะใส่ใคร
ผมบอกตรงๆนะ หลวงพ่อไพบูลย์ วัดยางไทยโดนไส่ความมาแล้ว คราวนี้ตัวแต้มดับผมพอรู้ว่าจะลงไปที่ใคร หาที่ลงไม่ได้ ก็เอามาลงที่คนๆเดียวแทบทุกเรื่อง ยอมรับครับว่าไปวัดนี้แล้วเปลืองสมองมากๆ ขอให้ช่วยตรวจสอบบ้างก็ดี ที่เอา เรื่องลมๆแล้งมาหาหลอกเอาเงินชาวบ้านไม่พอ นี่ก็ยังหลอกชาวบ้านให้เข้าใจผิดใส่ร้ายคนไปทั่ว เอ่อ เอากับเขาสิครับผม