ขอเชิญร่วมบูรณพระบรมธาตุและพระพุทธบาทสี่รอยฯทั่วสากลภิภพ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย sravnane, 12 พฤศจิกายน 2006.

  1. WINDS

    WINDS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +192
    โมทนาครับ

     
  2. GUSS

    GUSS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2007
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +1,183
    ขอโมทนาครับ

    ขอโมทนาบุญทุกอย่างนะครับ คงเป็นเวลาที่พระศาสนาของเราจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามพุทธพยากรณ์แล้วสิครับ สาธุ
    (verygood)
     
  3. สหธรรมิก

    สหธรรมิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +377
    โมทนาครับ

     
  4. nok_sparrow

    nok_sparrow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +370
    มีโอกาสทำบุญก็ควรหมั่นทำบุญ ผู้ไม่มีโอกาสทำบุญก็ทำใจให้อยู่ในศิล ในธรรม เท่านี้ก็ได้บุญแล้วใช่หรือไม่คะ (ใครจะตอบอ่ะเนี่ย)(b-wow)
     
  5. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ มีโอกาสทำบุญก็ควรหมั่นทำบุญ ผู้ไม่มีโอกาสทำบุญก็ควรหมั่นทำบุญ บุญเกิดจากเจตนาเป็นสำคัญ มีใจเป็นใหญ่สำเร็จได้ด้วยใจ
    บุญก็เกิดจากใจเรานี่และครับเป็นสิ่งสำคัญเกิดได้ทุกขณะจิตไม่ต้องไปไขว่คว้าหาที่ไหน ทำใจของเราให้เป็นบุญตลอดไปครับ
    (b-smile) (b-smile) (b-smile) (b-smile) (b-smile)
     
  6. GUSS

    GUSS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2007
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +1,183
    ขอร่วมโมทนาเป็นอย่างสูง

    (*) ขอร่วมโมทนาเป็นอย่างสูงด้วยคนครับ สาธุ(b-smile)
     
  7. jaggrit

    jaggrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +3,793
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯด้วยคนครับ สาธุ(b-smile)
     
  8. vimc

    vimc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +1,171
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่างครับ

    ขอร่วมโมทนาบุญุทกอย่างด้วยคนครับ สาธุ พระพุทธบาทปิดทองเหลืองอร่ามงามักๆเลยครับ สาธุ
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  9. zino

    zino เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +486
    ขอโมทนาครับ

    ขอร่วมโมทนาด้วยคนครับ อืมเพิ่งเคยได้ยินอ่างสรงน้ำพระแปลกดีครับ แต่ก็ขอร่วมโมทนาด้วยคนครับ สาธุ
    (b-smile) (b-smile) (b-smile) (b-smile) (b-smile)
     
  10. GUSS

    GUSS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2007
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +1,183
    โมทนาครับ

     
  11. วังตะวันออก

    วังตะวันออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +245
    ขอร่วมโมทนาบุญครับ

     
  12. zino

    zino เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +486
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่างครับ

    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่างครับ สาธุ รอยพระบาทสวยงามมากเลยครับ มีปิติรู้สึกถึงพุทธคุณที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ได้เลยครับ ว่าประมาณไม่ได้จริงๆ สาธุ
    [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
  13. จ๊ะโอ๋

    จ๊ะโอ๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +1,137
    โมทนาครับ

    โมทนาครับ อยู่ใกล้ๆบ้านผมเองครับ(f)
     
  14. melodee

    melodee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ขอร่วมโมทนาครับ

    (y) ขอร่วมโมทนาครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ มีโอกาสจะแวะไปกราบครับ(b-flower)
     
  15. จำปาศักดิ์

    จำปาศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอร่วมโมทนาครับ

    ขอร่วมโมทนาครับ เป็นมหากุศลใหญ่ในยุคนี้เลยนะครับ ถ้าสามารถรักษาสมบัติของพระที่ประทานไว้ให้ทั้งหมดนี้ได้ครับ เป็นของยากแต่ทุกๆคนก็สามารถร่วมทำได้ตามกำลังศรัทธาครับ อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ
    [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
  16. jaggrit

    jaggrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +3,793
    พระธาตุเชิงชุม

    พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

    ขอน้อมกราบขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย น้อมกราบอาราธนาบารมีแห่งแก้วมณีรัตนาสามประการ ข้าพเจ้าขอน้อมนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับพระธาตุเชิงชุมมาร้อยเรียงให้แก่ท่านสาธุชนผู้จำเริญทั้งหลายได้ รับทราบกันอีกวาระหนึ่ง

    พระธาตุเชิงชุมเป็นศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ ดังในตำนานพระธาตุเชิงชุมได้กล่าวถึงครั้งพุทธกาล ในสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ในภัททกัลป์ ได้ประทับอยู่ที่วิหารพระเชตวนารามใกล้เมืองสาวัตถีมหานคร โดยมีพระอานนท์เถระเจ้ากับพระภิกษุพุทธสาวกจำนวนหนึ่ง ได้ทูลถามถึงสาเหตุการอุบัติของพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภัททกัลป์ คือ มหากัลป์ที่มีการอุบัติขั้นของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ มีพระพุทธเจ้ากุกุสันโธ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน พระพุทธเจ้ากัสสโป พระพุทธเจ้าโคตโม (พระพุทธเจ้าสมณโคดม) พระพุทธเจ้าศรีอริยเมตไตย ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงเล่าเรื่องนิทานกาเผือกว่า มีพระโพธิสัตว์ ๕ พระองค์มาเกิดเป็นลูกของนางกาเผือก (นากาเผือกคือท้าวผกาพรหม) และทำรังอยู่ที่ต้นไม้เดื่อ (ต้นอทุมพร) ริมแม่น้ำคงคา ได้ออกไข่มา ๕ ฟอง (คือพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์) นากาเผือกกไข่อยู่นานถึง ๓ เดือนเต็ม ไข่ก็ยังไม่แตกออกเป็นตัว นางกาเผือกทนหิวไม่ไหวจึงบินออกไปหาอาหาร ในเวลาต่อมาได้เกิดลมพายุดัดและฝนตกหนักที่บริเวณต้นไม้เดื่อ ทำให้หักลงในแม่น้ำคงคา ไข่ของนางกาเผือกพลัดตกกระยในขณะที่รางกาเอกบินออกไปจากรังเพื่อหาอาหาร ไข่ฟองที่ ๑ ได้ลอยไปค้างอยู่ที่บริเวณเกาะไก่ริมหนองหารหลวง แม่ไก่นำไปฟักเกิดเป็นไก่เผือกเพศผู้ให้ชื่อตามแม่ไก่ว่า กุกุสันโธ ไข่ฟองที่ ๒ ไปค้างอยู่ที่เกาะนาคแห่งหนึ่งริมแม่น้ำคงคา แม่นาคนำไปฟักเกิดเป็นนาคเผือกเพศผู้ ให้ชื่อตามแม่นาคว่า โกนาคมโน ไข่ฟองที่ ๓ ไปค้างอยู่ที่เกาะเต่าแห่งหนึ่งริมแม่น้ำคงคา แม่เต่าได้นำไปฟักเกิดเป็นเต่าเผือกเพศผู้ ให้ชื่อตามแม่เต่าว่า กัสสโป ไข่ฟองที่ ๔ ไปค้างที่ป่าโคแห่งหนึ่ง แม่โคนำไปฟักเกิดเป็นโคเผือกเพศผู้ ใหชื่อตามแม่โคว่า โคตโม ไข่ฟองที่ ๕ ไปค้างอยู่ที่สวนตรีพราหมณ์ ที่เมืองอุตตรปัจจมหานคร งพราหมณ์ทั้ง ๓ ไปพบไข่ของกาเผือก จึงได้นำมาให้นางสิงหพรหมณีทั้ง ๓ ซึ่งเป็นภรรยาของตนมาฟักจนเกิดเป็นมนุษย์เพศชาย มีรูปร่างผิวพรรณงดงาม นางสิหพราหมณีทั้ง ๓ ให้ชื่อตามนามสกุลของตนว่า อริยไมตรีบุตร

    พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ ได้อยู่กับแม่เลี้ยงจนเข้าสู่วัยหนุ่ม แม่เลี้ยงของพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ จึงได้เล่าเรื่องความเป็นมาของพระโพธิสัตว์ให้ฟัง ทำให้พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ต้องการพบกับแม่ที่แท้จริง จึงได้ลาแม่เลี้ยงเที่ยวหาแม่ และเมื่อพบแม่ของตนจะรัษาศีลภาวนาปรารถนาพุทธภูมิได้แล้ว แม่เลี้ยงของพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ได้ขอให้อย่าละทิ้งนามเดิมของแม่เลี้ยง พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้เที่ยวตามหาแม่แต่ไม่พบพระโพธิสัตว์กุกุสันโธจึงได้กลับมาที่เกาะแม่เลี้ยงมารักษาศีลภาวนาใต้ต้นชัยพฤกษ์ส่วนพระโพธิสัตว์ทั้ง ๔ ตามหาแม่แต่ไม่พบเช่นกัน และพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้มาพบกันที่เกาะไก่ได้สอบถามประวัติความเป็นมาของแต่ละฝ่าย ทำให้ทราบว่าเป็นพี่น้องจึงได้ร่วมรักษาศีลภาวนาที่เกาะแห่งนี้จนครบ ๓ ปี ยังไม่มีโอกาศได้พบแม่ ได้ปรึกษาร่วมกันจะเที่ยวตามหาแม่โดยออกเดินทางไปทิศประจิม (ทิศตะวันตก) และทิศทักษิณ (ทิศใต้) ก่อนที่จะออกเดินทางพระโพธิสัตว์กุกุสันโธได้กล่าวว่าที่นี่ (เกาะไก่) เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรเพื่อพระพุทธภูมิร่วมกัน เราจึงไม่ควรลืมที่แห่งนี้ ถ้าผู้ใดสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าให้มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่แห่งนนี้เป็นเครื่องหมาย พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ เดินทางมาถึงดอยสิงคุตระ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาและดอยบริวารมี ๔ ลูก ได้แวะพัก ณ ที่แห่งนี้ทำสมาทานศีลบำเพ็ญเพียรตั้งสัตย์อธิษฐาน ถ้าไม่พบแม่จะไม่ไปที่ไหนแม้สังขารจะดับอยู่นานถึง ๖ ปี ไม่พบแม่ พระศรีอริยเมตไตรยปรึกษากับพระโพธิสัตว์พี่ ๆ ทั้งหลายว่าแม้จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าขอให้แม่มาพบกับเราทั้งหลาย และพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้ตั้งอธิษฐานร่วมกัน ด้วยบารมีทำให้ท้าวผกาพรหม คือ นางกาเผือก ทราบว่าบรรดาลูก ๆ ต้องการพบเมื่อครั้งเป็นกาเผือก

    ท้าวผกาพรหมซึ่งอยู่ชั้นสุทธาวาสได้อธิษฐานเป็นกาเผือกเมื่อชาติก่อน เพื่อมาปรากฏให้พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้พบเห็นพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้ทำความเคารพนางกาเผือกผู้เป็นแม่และขอพรเพื่อปราถนาที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าร่วมกันในภัททกัลป์เดียวกัน นางกาเผือกได้ประทานพรให้สำเร็จดังที่ได้ขอพระไว้ แล้วเนรมิตประทีปตีนกาให้กับพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ องค์ละ ๑ คู่ เพื่อเป็นเครื่องสักการะบูชาและได้กลับไปสู่ที่พำนักชั้นสุทธาวาสทำให้พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้ระลึกถึงสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันประเสริฐที่แม่นางกาเผือกมาปรากฏให้เห็นและประทานพรเนรมิตประทีปตีนกาไว้ให้เป็นที่เคารพสักการะบูชา พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ให้สัจจะต่อกันว่าเมื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าจะนำบริขารหรือวัตถุธาตุสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาประดิษฐานบูชาเป็นเครื่องหมายไว้ที่ดอยสิงคุตระ

    จากนิทานกาเผือกที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมได้ทรงเล่าให้พระอานนท์เถระเจ้าและพระภิกษุพุทธสาวกฟัง เป็นเพียงมูลเหตุการณ์เกิดพระธาตุเชิงชุม คือภาพรวมให้เห็นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ในภัททกัลป์นี้จะมาประทับรอยพระบาทไว้ที่พระธาตุเชิงชุม แต่ในเนื้อเรื่องของนิทานกาเผือกยังไม่เน้นเด่นชัดให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์กับพระธาตุเชิงชุมว่าจะมีการมาประทับรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ณ ที่พระธาตุเชิงชุม และในนิทานนนกาเผือกกล่าวถึงพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ ได้มาบังเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อสะสมบารมีบำเพ็ญเพียรเป็นพระพุทธเจ้าสืบไป

    นอกจากนิทานการเผือกยังมีตำนานพระธาตุพนมกล่าวถึงพระพุทธเจ้าสมณโคดมได้เสด็จมาบริเวณแม่น้ำโขงพร้อมด้วยพระอานนท์เถระเจ้า ในบทนำของหนังสืออุรังคธาตุตำนานพรธาตุพนมโดยพิเศษ เจียจันทน์พงษ์ ได้กล่าวถึงก่อนที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมจะนิพพานได้เสด็จมาพร้อมกับพระอานนท์เถระเจ้าได้หยุดพักที่หนองคันแทนเสื้อน้ำ คือเวียงจันทร์ในปัจจุบัน และพระพุทธองค์ได้ทรงพยากรณ์เรื่องราวของบ้านเมืองในบริเวณนี้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ๒ ระยะ คือ ระยะร่วมสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชของอินเดีย จะเป็นเวลาของการสร้างเมืองเวียงจันทน์และอีกระยะหนึ่งพระอรหันต์ได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ ของพระพุทธองค์ถึงการเสด็จผ่านตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำโขงได้เกิดนิทานปรำปราตามสถานที่ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์ถึงการเสด็จผ่านตามสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้คือแคว้นศรีโคตรบูรในปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ลงมาทางใต้ในบริเวณตัวจังหวัดนครพนมและฝั่งลาวเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของนักวิชาการและพระพุทธองค์ไปพำนักที่ดอยกัปปคีรี หรือภูกำพร้า คือที่ตั้งพระธาตุพนมในปัจจุบันพระยาศรีโคตรบูรมารับเสด็จทูลเชิญพระพุทธองค์เสด็จเข้าเมืองและพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ให้พระอานนท์เถระเจ้าฟังว่า ในอนาคตพระยาศรีโคตรบูรจะได้มาเกิดท่มเองร้อยเอ็ดประตูชาติหนึ่ง ในชาตินี้จะได้ฐาปนาพระอุรังคธาตุ คือ กระดูกหน้าอกของตถาคตเองไว้ที่ดอยกัปปคีรีและพระพุทธองค์ได้เสด็จกลับมาแวะที่เมืองหนองหารหลวง พระเจ้าสุวรรณภิงคารเจ้าเมืองมารับเสด็จพระพุทธองค์ ได้ทูลอารธนาฉันเพลที่ปราสาท เมื่อพระพุทธองค์เสด็จพุทธกิจได้เทศนาสังสอนพระเจ้าสุวรรณภิงคารและได้ประทับรอยพระบาทได้ทรงทำปาฏิหาริย์ให้ดวงแก้วออกมาจากรอยพระบาท เมื่อพระเจ้าสุวรรณภิงคารเห็นเกิดความอัศจรรย์ พระพุทธองค์ได้ตรัสว่าดวงแก้วทั้ง ๕ ดวง คือ พระพุทธเจ้ากุกุสันโธ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน พระพุทธเจ้ากัสสโป และดวงแก้วสุดท้ายคือตถาคตเอง ณ สถานที่แห่งนี้เคยประทับรอยพระพุทธเจ้ามาแล้วถึง ๓ พระองค์ รวมถึงของตถาคตด้วย พระเจ้าสุวรรณภิงคารได้กราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า ที่ประทับรอยพระพุทธบาทนั้นไว้ด้วยเหตุใด พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าเรื่องบ้านเมืองที่มีศาสนา ปกติมักอยู่ระหว่างกลางบ้านเมืองและรอยพระพุทธบาทย่อมเป็นที่หวงของหมู่เหล่าเทวดา พญานาค มนุษย์ และยังเป็นที่ตั้งของบ้านเมืองด้วย

    เมืองหนองหารหลวงตามข้อสันนิษฐานตั้งอยู่บริเวณหนองหารเป็นหนองน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเขตอำเภอเมืองจังหวัดสกุลนครในปัจจุบัน ตรงบริเวณพระธาตุเชิงชุมประดิษฐานอยู่ใกล้หนองหาร ซึ่งสถานที่นี้ในอดีตพระพุทธเจ้าทั้งหลายในภัททกัล์ปต่างได้มาประทับพรอยพระบาทมาแล้วถึง ๔ พระองค์ จากตำนานพระธาตุพนมได้กล่าวถึงพระพุทธเจ้าสมณโคดมได้มาประทับรอยพระบาทตามบริเวณฝั่งแม่น้ำโขง ดังเช่นพญานาคชื่อสุกขนาคหัตถีได้เนรมิตเป็นช้างพรายคือดอกไม้เข้ามาขอรอยพระพุทธบาทพระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่รอยแผ่นหิน ไกลริมแม่น้ำชั่วเสียงช้างร้องได้ยินและช้างตัวนั้นทำคารวะแล้วจากไปที่อยู่ของสุกขนาคหัตถีเรียกว่า เวินสุข ที่เวินปลาก็เป็นที่ประทับรอยพระทธบาทของพระองค์อีกแห่งหนึ่ง โดยพญาปลาทูลของรอยพระพุทธบาทจากพระพุทธองค์และพระพุทธ์องค์ทรงอธิษฐานรอยพระบาทไว้ที่ก้อนหินในน้ำ คนทั้งหลายได้เรียกบริเวณนี้ว่า พระบาทเวินปลาและยังมีสถานที่ตามฝั่งทั้งซ้ายและขวาของแม่น้ำโขงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์อีกหลายแห่งที่ตำนานกล่าวไว้

    เมื่อพระพุทธเจ้าสมณโคดมได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระอรหันต์พุทธสาวกทั้งหลายนำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานตามบริเวณริมหนองหารตามลำน้ำที่สำคัญ บ้านเมืองรุ่งเรืองไปตามที่ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแถบริมหนองน้ำตามลำดับและเมื่อสิ้นศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม บ้านเมืองก็จะลัดกันรุ่งเรือง เพื่อรอศาสนาของพระพุทธองค์ที่ ๕ ในภัททกัลป์ คือ พระศรีอริยเมตไตย มาประกาศศาสนาของพระองค์ก็จะรุ่งเรืองที่สุดตามพุทธทำนายในภัททกัลป์นี้ เมื่อพรเจ้าสุวรรณภิงคารได้ฟังและศรัทธาถึงกับจะตัดเศียรของพระองค์ถวายรอยพระพุทธบาท แต่พระองค์ทรงถูกห้ามโดยพระนางนารายณ์เจงเวง พระราชเทวี ผู้มีบทบาทในการสร้างพระธาตุนารายณ์เจงเวงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าสมณโคดม พระเจ้าสุวรรณภิงคารจึงได้ถอดมงกุฏทองจากพระเศียรแทนการตัดพระเศียรของพระองค์ แล้วนำมาบูชาที่รอยพระพุทธบาท ด้วยเหตุที่พระนางนารายณ์เจงเวงทรงคัดค้านการตัดเศียร ทำให้พระเจ้าสุวรรณภิงคารได้ข้อคิด การสร้างบุญกุศลนั้นด้วยการฆ่าตัวตายเพื่อบุญกุศลกับการมีชีวิตอยู่ย่อมยังประโยชน์ได้มากที่สุด

    ในตำนานพระอุรังคธาตุ ได้กล่าวถึงรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากุกุสันโธยาว ๓ วา กว้าง ๑ วา รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมโนและของพระพุทธเจ้ากัสสโปยาวมตามลำดับ ส่วนรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสมนโคดมยาว ๑ วา ๒ ศอก สั้นกว่ารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไรย ยังไม่ได้กล่าวถึงลักษณะรอยพระพุทธบาท เพียงกล่าวจะมาปรากฏอยู่ ณ ที่แห่งนี้ คือ ที่พระธาตุเชิงชุมเป็นรอยพระพุทธบาที่ ๕ ของพระพุทธเจ้าองค์ในภัททกัล์ป หลังจากที่พระพุทธองค์ได้ทรงเล่าเรื่องพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ ทำให้พระเจ้าสุวรรณภิงคารและพระนางนารายณ์เจงเวง เกิดศรัทธาเลื่อมใสได้สร้างอุโมงค์ด้วยหินครอบปิดรอยพระพุทธบาทพร้อมด้วยมงกุฏทอง

    จากตำนานพระอุรังคธาตุ ชื้ให้เห็นว่าพระเจ้าสุวรรณภิงคารศรัทธารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ จึงสร้างสถูปปิดรอยพระพุทธบาทไว้ภายในเป็นอุโมงค์ เป็นส่วนที่เก็บรอบพระพุทธบาทพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ จึงสร้างสถูปปิดรอยพระพุทธบาทไว้ภายในเป็นอุโมงค์ เป็นส่วนที่เก็บรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า คือ บริเวณพระธาตุเชิงชุมองค์ปัจจุบันและจะรวมถึงรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรยอีกองค์หนึ่งในอนาคตจะมาประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่พระธาตุเชิงชุม จากส่วนที่พระเจ้าสุวรรณภิงคารสร้างสถูปครอบเป็นอุโมงค์ ครอบปิดรอยประทับพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าในภัททกัลป์มาแล้ว ๔ พระองค์ จึงเป็นที่มาของชื่อพระธาตุเชิงชุม และในอนาคตที่แห่งนี้ยังรอคอยพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระศรีอริยเมตไตย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อมาประทับรอยพระพุทธบาท เมื่อตำนานพระธาตุเชิงชุมและตำนานอุรังคธาตุมาสรุปพอเป็นประวัติพระธาตุเชิงชุมได้คือ พระธาตุเชิงชุมในตำนานอุรังคธาตุได้กล่าวถึงก่อนที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมนิพพาน ได้เสด็จมาที่เวียงจันทร์ แคว้นศรีโคตรบูร ภูกำพร้าหรือดอยกัปปคีรีคือที่ตั้งพระธาตุพนม แล้วเสด็จผ่านมาที่เมืองหนองหารหลวง คือที่ตั้งพระธาตุเชิงชุมเพื่อมาประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่พระธาตุเชิงชุม ซึ่งที่แห่งนี้เป็นที่ประทับรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาแล้ว ๓ พระองค์ ในนิทานเรื่องกาเผือกได้กล่าวถึงท้าวผกามหาพรหมเป็นกาเผือกและมีพระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ พระองค์มาเกิดเป็นลูกของกาเผือกได้พลัดพรากจากกันไปอยู่ดับแม่ไก่ชื่อกุกุสันโธ แม่นาคชื่อโกนาคมโน แม่เต่าชื่อกัสสโป แม่โคชื่อโคตโม แม่นางสิงหพราหมณีทั้ง ๓ ชื่อว่าอริยเมตไตย ในเวลาต่อมาพระโพธิสัตว์กุกุสันโธ พระโพธิสัตว์โกนาคมโน พระโพธิสัตว์กัสสโป บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้ามาประทับรอยพระพุทธบาทที่พระธาตุเชิงชุม โดยมีสุวรรณนาคซึ่งเป็นพญานาคเป็นผู้ดูแลรักษารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ ส่วนรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ได้มาประทับรอยพระพุทธเจ้าไว้ ณ ที่แห่งเดียวกับพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ ในคราวที่พระพุทธองค์ได้เสด็จมาที่หนองหารหลวงมีพระเจ้าสุวรรณภิงคารมารับเสด็จและพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

    ดังนั้นในความเชื่อที่ว่าศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จะมีอายุถึง ๕,๐๐๐ ปี ตามคำทำนายซึ่งในช่วงสมัยที่พระพุทธองค์ยังมีพระชนชีพอยู่ได้จารึกสั่งสอนอยู่นานถึง ๔๕ ปี และนิพพานเมื่อมีพระชนม์ได้ ๘๐ พรรษา หลังจากนั้นในศาสนาของพระพุทธองค์ได้มีการสังคายนาพระไตรปิฏก เพื่อรวบรวมหลักคำสอนเป็นหลักฐานพุทธศาสนา และมื่อถึงเวลาสิ้นสุดศาสนาของพระพุทธองค์ จะมีศาสนาของพระพุทธเจ้า พระศรีอริยเมตไตยมีความร่มเย็นไม่มการเอารัดเอาเปรียบ ปราศจากโจรผู้ร้ายโรคภัยมาเบียดเบียน สมบัติสิ่งของต่าง ๆ ทุกคนจะมีเสมอกันและประชาชนในศาสนา พระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรยไม่พึงปรารถนาสิ่งใดนอกจากอาหารและนำในยามหิวกระหาย ทุกคนมีศีลธรรมเป็นยุคที่ศาสนารุ่งเรื่องและมีความอุดมสมบูรณ์ จะมีต้นกัลปพฤกษ์ เกิดขึ้นทั้ง ๔ มุมเมือง อันเป็นต้นไม้สารพัดนึก นับว่าในยุคศาสนาของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตยเป็นศาสนาที่คนพึงปรารถนาจะเกิดในศาสนานี้ มีความสมบูรณ์ไปทั้งทุกอย่าง เมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตยมันคงถาวร และก็จะมาประทับรอยพระพุทธบาทที่พระธาตุเชิงชุม ซึ่งเป็นองค์สุดท้ายในการมาประทับรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าในภัททกัล์ปนี้ เมื่อคราวพระพุทธองค์มาประทับรอยพระพุทธบาทได้ทรงชื้ให้พระเจ้าสุวรรณภิงคารเห็นว่าการที่พญาสุวรรณนาคนำแผ่นหินที่มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ ขึ้นมาให้พระพุทธองค์ประทับรอยพระพุทธบาทนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธบาท ทำให้พระพุทธองค์ประทับรอยพระพุทธบาทนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธบาท ทำให้พระเจ้าสุวรรณภิงคารทรงเลื่อมใสศรัทธาถึงกับจะตัดพระเศียรของพระองค์เพื่อเป็นพุทธบูชา พระยาสุวรรณนาคได้นำแผ่นหินที่มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ลงสู่ใต้นำเพื่อเก็บรักษาไว้ รอยพระพุทธเจ้า พระศรีอริยเมตไตยมาประทับรอยพระพุทธบาทพระเจ้าสุวรรณภิงคารขออนุญาตต่อพระพุทธองค์ทรงอนุญาตและพระพุทธองค์พร้อมด้วยพุทธสาวกได้เสด็จกลับเมืองกุสินารา ฝ่ายพระพุทธเจ้าสุวรรณิงคาร และพระนางนารายณ์เจงเวงพร้อมด้วยบริวารได้ร่วมกันสร้างพระสถูปเจดีย์สวมครอบบริเวณที่แผ่นหินรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ ที่พญาสุวรรณภิงคารนำไปเก็บรักษาไว้เพื่อรอคอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตยมาประทับและสถูปเจดีย์ที่ได้สร้างโดยพระเจ้าสุวรรณภิงคาร จึงได้ชื่อว่า พระธาตุเชิงชุม

    ข้าพระพุทธเจ้าได้นำบทความมาจากhttp://revival.snru.ac.th/temple/4.htm
    ซึ่งเนื้อความน่าจะมีประโยชน์แก่ท่านสาธุชนทั้งหลายได้ รับทราบเป็นธรรมทาน ขณะที่กระผมพิมพิ์อยู่รู้สึกอยากจะร้องไห้และขนลุกตลอดช่วงการเขียน (คิดไปเองหรือป่าว)

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้ากระทำมาแล้ว ณ โอกาสนี้ขอให้ทุกท่านได้ด้วยนะครับ

    "นิพพานัง ปรมัง สุขขัง = นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง"​
     
  17. Vipinda

    Vipinda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +5,066
    ...

    อยากไปลอยประทีปถวายเป็นพุทธบูชาที่พระบาทสี่รอยจังอ่ะคับ
    พี่sarvanane รบกวนพาไปหน่อยจิยังไม่เคยไปเลยพระบาทบรูณ์ใกล้เสร็จยังคับ [​IMG]
     
  18. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ขอร่วมโทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    [​IMG]ขอร่วมถวายปัจจัยบด้วยคนครับ สาธุ(bb-flower
     
  19. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    [​IMG]ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ
     
  20. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    [​IMG]
    [​IMG]
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ในช่วงวันลอยกระทงปีนี้ทางคณะจะขึ้นไปร่วมบูรณปฏิสังขรณ์วัดโบราณที่จมอยู่ในกว๊านพะเยา และเดินทางไปพระธาตุจอมกิตติเพื่อร่วมบูรณยอดฉัตรทองคำฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ พร้อมขอร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     

แชร์หน้านี้

Loading...