เหตุที่คนจำนวนมากเชื่อ "พระศรีอารย์" จะปรากฏตัวในอีกไม่ช้า ข้อเท็จจริงจากพระไตรปิฏก

ผมเห็นด้วยครับในเรื่อง "หากเรื่องการ สับเปลี่ยนดอกบัว ไม่เป็นความจริง ผู้ที่เขียนเรื่องนี้ คงได้รับกรรมหนักมากๆ เพราะใส่ร้ายพระพุทธเจ้า"
แต่ผมเคยเห็นเรื่องพระพุทธเจ้าของเราตรัสกับพระสารีบุตรในเรื่องทรงทรมานพระองค์เพื่อค้นหาเหตุจากทุกข์ ก็เป็นเรื่องน่าสนใจมากครับ และทำให้ผมศรัทธาพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกมาก เพราะกว่าพระพุทธองค์จะตรัสรู้ได้ช่างเย็นลำบากมากเพียงใด เรื่องนี้อยู่ตามที่ผมลอกมาครับ

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif][if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif][if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์[/FONT] [FONT=&quot]๒. มหาสีหนาทสูตร[/FONT] [FONT=&quot]ว่าด้วยเหตุแห่งการบันลือสีหนาท[/FONT] [FONT=&quot]เรื่องสุนักขัตตลิจฉวีบุตร[/FONT]
[FONT=&quot]ปฏิปทามิใช่ทางตรัสรู้[/FONT]
[[FONT=&quot]๑๘๒] ดูกรสารีบุตร เรานั้นแลเคยคลานเข้าไปในคอกที่เหล่าโคออกไปแล้ว และ[/FONT]
[FONT=&quot]ปราศจากคนเลี้ยงโค กินโคมัยของลูกโคอ่อนที่ยังไม่ทิ้งแม่ มูตรและกรีส(มูล)ของเรายังไม่หมดสิ้นไป[/FONT]
[FONT=&quot]เพียงไร เราก็กินมูตรและกรีสของตนเองเป็นอาหาร ดูกรสารีบุตร นี้แหละเป็นวัตรในโภชนะ[/FONT] [FONT=&quot]มหาวิกัฏของเรา.[/FONT]
[[FONT=&quot]๑๘๓] ดูกรสารีบุตร เรานั้นแล เข้าอาศัยแนวป่าอันน่ากลัวแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่ นี้[/FONT] [FONT=&quot]เป็นความน่ากลัวแห่งแนวป่านั้น
บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งยังไม่ปราศจากราคะ เข้าไปสู่ป่านั้น โดยมาก[/FONT] [FONT=&quot]ขนพอง ดูกรสารีบุตร เรานั้นแล ในราตรีที่หนาว ฤดูเหมันต์ ตั้งอยู่ระหว่างเดือน ๓ ต่อเดือน[/FONT]
[FONT=&quot]๔ เป็นสมัยมีหิมะตก ในราตรีเห็นปานนั้น [เรา] อยู่ในที่แจ้งตลอดคืน กลางวันเราอยู่ในแนว[/FONT][FONT=&quot]ป่า
ในเดือนท้ายฤดูร้อน กลางวันเราอยู่ในที่แจ้ง กลางคืนเราอยู่ในแนวป่า
ดูกรสารีบุตร[/FONT] [FONT=&quot]เป็นความจริง คาถาอันน่าอัศจรรย์ยิ่งนักนี้ ที่เราไม่ได้ยินมาก่อน ปรากฏแก่เราว่า[/FONT][FONT=&quot]นักปราชญ์ผู้เสาะแสวงหาความหมดจด[/FONT]
[FONT=&quot]อาบแดด อาบน้ำค้าง เป็นคนเปลือย ทั้งมิได้[/FONT][FONT=&quot]ผิงไฟ อยู่คนเดียวในป่าอันน่ากลัว ดังนี้[/FONT]
[[FONT=&quot]๑๘๔] ดูกรสารีบุตร เราย่อมสำเร็จการนอนแอบอิงกระดูกศพในป่าช้า พวกเด็กเลี้ยง[/FONT][FONT=&quot]โคเข้ามาใกล้เราแล้ว
ถ่มน้ำลายรดบ้าง ถ่ายปัสสาวะรดแล้ว โปรยฝุ่นรดบ้าง เอาไม้ยอนที่ช่อง[/FONT][FONT=&quot]หูบ้าง เราไม่รู้สึกว่า ยังจิตอันลามกให้เกิดขึ้นในพวกเด็กเหล่านั้นเลย ดูกรสารีบุตร นี้แหละเป็น[/FONT][FONT=&quot]วัตรในการอยู่ด้วยอุเบกขาของเรา.

ผมอ่านแล้วเห็นภาพครับ และพระพุทธเจ้าของเราทรงยึดมั่นสอนภิกษุสงฆ์ด้วยความจริงมาตลอด ไม่ปิดบังเรื่องใดๆ
ดังนั้นเรื่องสับดอกบัวก็อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พระพุทธองค์ตรัส เพราะผมสังเกตุว่าคงไม่มีใครสามารถพยากรณ์อนาคตได้ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบันเช่นนี้[/FONT][FONT=&quot]ได้[/FONT][FONT=&quot]ครับ
ผู้พยากรณ์ได้จักต้องมีพระบารมีมากเหลือล้นใช่ไหมครับ

[/FONT]

 

ผมว่าพอเถอะครับ คำทำนายทั้งหลาย ตั้งแต่ ปี คศ.2000 บ้างหละ พศ.2555 บ้างหละ ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะเกิด บอกไม่ใช่แต่ เป็น 2556 เดี๋ยวพอไม่เกิด ก็ 2557....

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นอีกก็ไม่นาน เด็กและสตรีจะทำอย่างไรครับ(สอนให้ใหว้พระและรักเคารพรักในหลวง จะพ้นไหมครับ)อยากให้อธิบายลักษณะของผู้ที่อยากรอด หรือมีวิธีไหนที่จะช่วยให้ชาวไทย หรือโลกใบนี้อยู่รอด บ้างไหมครับ ผมเชื่อท่านครับ

 

ที่เชื่อ เพราะท่าน เป็นผู้สนับสนุนเวบพลังจิตและท่านก็นำสิ่งดีๆ มาบอกกล่าวกับผู้ที่ยังไม่เห็นธรรม ให้เห็นทางหลุดพ้น และเพราะท่านทั้งหลายน่าจะมี ณาน รับรู้อะไรใด้มากกว่าบุคลธรรมดา ผมเชื่ออย่างนั้นครับ

 

ขอให้คุณสังเกตข้อความดังกล่าวนะครับ จบประโยคลงมายังไม่เห็นคำว่านิพพานกับวิมุติเลย ของวิเศษแท้ๆ แต่กับไม่เอ่ยถึงแม้แต่ทางใดทางหนึ่งเลย

 

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณjhaครับ ถ้าเรื่องนี้เป็นแบบปลาบู่ ซึ่งผมดูๆแล้วไม่มีหลักฐานอะไรจริงๆที่เป็นชิ้นเป็นอันเพียงแต่เชื่อว่า .... ในความคิดส่วนตัวแล้วผมคิดว่า จขกท เอาเรื่องพุทธทำนายมาลง ซึ่งผมชอบอ่านเพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่ให้ประมาท และพุทธทำนายประกอบด้วยเหตุผลและมีหลักฐานความเป็นจริงมาจากศิลาจารึกในประเทศอินเดีย ซึ่งต้นฉบับคัดลอกมาจากสวนมฤคทายวัน ผมอ่านมาจาก พุทธทำนาย ต้นฉบับ ตามช่วงเวลาของเหตุการณ์ ครับ
สำหรับปีพ.ศ.ที่เป็น 2555 และ 2556 นั้น พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้และไม่ใช่แค่นี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าปีนี้ปีนั้นจะเกิดอะไรๆขึ้นด้วย ผมก๊อปมาส่วนหนึ่งจากลิงค์ข้างบนครับ ผมคิดว่าพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์เรื่องราวตรงกับความเป็นจริงในปัจจุบันครับ สำหรับปี 2555 และ 2556 เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน
ทางสองแพร่ง ( จากการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี )
1. พ.ศ. 2555 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง พ.ศ. 2555) คน เปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ( อธิบายไว้ในพุทธทำนาย )
2. พ.ศ. 2556 : ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ( โลกาวินาศ )
พอดีผมจำได้ว่าสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังส๊เขียนคำทำนาย ๑๐ รัชกาล ที่ถูกมา 8 รัชกาล ที่ยังเหลืออีกคือรัชกาลที่ [FONT=&quot]๙. ถิ่นตาขาว(ถิ่นกาขาว) ๑๐.ชาวศิวิไลซ์ ผมเข้าใจว่าน่าเกี่ยวกับพุทธทำนายเหมือนกันครับ นี่เป็นเพียงความคิดส่วนตัวเท่านั้นครับ ผมเห็นที่เขาแปลว่าถิ่นกาขาวเป็นความบริสุทธิ์ของธรรมะ รัชการที่ ๑๐ ประเทศไทยเป็น[/FONT][FONT=&quot]ศิวิไลซ์ ถ้าเป็นจริงผมคนหนึ่งที่ชอบครับ
[/FONT]

 

พอดีผมลงข้อความที่ #53 แล้วฉุกคิดอะไรขึ้นมาเกี่ยวกับพุทธทำนายได้ ที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์เกี่ยวกับพุทธทำนายในปัจจุบันว่า คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา "พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"
พระพุทธเจ้าทรงทราบว่าในปัจจุบันผู้คนไม่สนใจพุทธทำนาย ก็จริงไช่ไหม มิฉะนั้นพระผู้มีพระภาคคงไม่ตรัสว่า "คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา" ผมได้ตามเรื่องที่ธรณีสูบ มหันตภัยล้างโลก ของคุณออร์กะ ในกลุ่มภัยพิบัติและการเตรียมการ เขามีข้อมูลแน่น รู้สึกเขาจะกล่าวถึงหนทางอยู่รอดจากภัยพิบัติแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ส่วนไหนถ้าพบแล้วจะกลับมาบอกครับ

 

ครับ ไม่ทราบครับ ว่าจะคิดอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรา นึกถึงการทำกรรมดี ใด้สอนลูกให้ทำความรู้จัก กับการทำความดี คิดดี ผมคิดใด้แค่นี้ครับ เพราะผมเองยังไม่รู้ทันจิตใจตัวเองเลยครับ ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ ผมเชื่อว่าผลบุญของการชี้ทาง จะส่งผลให้ผู้ชี้ทางใด้ผลบุญอันยิ่งใหญ่

 

คุณ do re mi ขอโทษครับ ขอถาม รัชกาลที่9 ถิ่นกาขาว คืออะไรครับ ร.10 ชาวศิวิไลซ์ คืออะไรครับ ความหมายครับ อยากรู้ ขอบคุณครับ

 

อ้างจาก ความจริงเรื่องพระศรีอารย์ วันโลกาวินาศ 2012 2556
[FONT=&quot]ตัวอย่าง พุทธทำนายกับคำทำนายของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ตรงกัน คือ[/FONT]
[FONT=&quot]รัชการที่ [/FONT]9 [FONT=&quot]ถิ่นกาขาว (เท่าที่เข่าใจ กาดำเปรียบเสมือนความทุกข์ ความไม่ดี ความไม่ถูกต้อง สีขาวที่แม้แต่ธงชาติของประเทศต่างๆ ก็ใช้สีขาว แสดงถึงเสรีภาพ ความบริสุทธิ์ ความขาวสะอาด หรือธรรมะที่บริสุทธิ์ ฉะนั้นกาขาวก็เป็นสัญญาลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ เป็นยุคธรรมะที่บริสุทธิ์ครับ ผมเข้าใจแบบนี้ครับ) ซึ่งจะคล้องจองกับ [/FONT][FONT=&quot]รัชการที่ [/FONT]10 [FONT=&quot]ศรีวิไล (ซึงถ้าเกิดยุคพระศรีอารย์ขึ้น ประเทศไทยเป็นศุนย์กลางศิวิไลซ์ของโลก เพราะว่าพระศรีอารย์เป็นคนไทย และเป็นพุทธ ที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์พุทธศาสนาจะเป็นเอก จำไม่ได้ครับไปเจอะที่ไหน แต่ที่แน่ๆ พระจักรพรรดิที่ทุกศาสนารอคอยคือพระพุทธเจ้า ฉะนั้นพุทธศาสนาก็ต้องเป็นเอกครับ )[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]สำหรับเรื่อง [FONT=&quot]มนุษย์เท่านั้นที่สามารถแก้ไขวิกฤติเลวร้ายบนโลกนี้ได้คือ[/FONT]
[FONT=&quot]สู้กับความจริงเพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏก่อนวันล้างโลก จะสามารถช่วยคนมีบาปได้[/FONT]
[FONT=&quot]และพระศรีอารย์จะนำมนุษย์สร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลกให้อยู่ได้ตลอดไป ....[/FONT]

[FONT=&quot]แต่การที่จะให้พระศรีอารย์ปรากฏต่อมนุษยโลกได้ ผู้คนต้องพิสูจน์ความจริงเท่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]ด้วยเหตุใดถึงต้องพิสูจน์ความจริงในองค์พระศรีอารย์ สรุปได้คือ[/FONT]
[FONT=&quot]- มีผู้อ้างตนว่าเป็นพระจักรพรรดิอยู่ทั่วโลก โดยใช้ชื่อต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่ทราบว่าท่านใดเป็นพระองค์จริง[/FONT]
[FONT=&quot]- คนในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่มีความเห็นแก่ตนเป็นที่ตั้ง ยึดความเชื่อความรู้สึกของตน มีทิฐิเป็นที่ตั้ง ไม่ใช้กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม ไม่มีอริยปัญญาที่มีเหตุมีผลและกุศลธรรมเป็นหลัก[/FONT]

[FONT=&quot]ดังนั้นความจริงเท่านั้นที่จะแยกพระศรีอารย์องค์จริงออกจากผู้ปลอมแปลงเป็นพระศรีอารย์ทั้งหลายได้ครับ
เรื่องการหาความจริงนี้ ผมว่ายุติธรรมครับ การหาความจริงจะได้ไม่มีการหลอกลวงกันใช่ไหมครับ ยกเว้นเรากลัวความจริงก้ต้องหลบไปกับความเชื่อ ผมคิดแบบนี้ครับ คนอื่นอาจคิดต่างกับผมครับ


[/FONT]

 

ความดีคือ? เราจะทำความดี เอแต่ความดีคืออะไรนะ?

 

ผมเห็นคำถามคุณ กฮ เป็นคำถามที่ดีครับ ผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันแบบนี้ครับ มันเหมือนเป็นคำตอบที่น่าจะง่าย แต่จริงๆความเห็นของแต่ละคนไปคนละทาง เอาง่ายๆแค่ในพุทธศาสนาคนนี้ก็บอกอย่างนี้ คนนั้นก็บอกอีกอย่าง นี่ถ้าไปถามคนคริสเตียนเขาก็พูดไปตามเรื่องของเขาแน่ แล้วความดีมันคือ? สำหรับผมคิดว่าความดีคือสิ่งที่กระทำไปด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี คิดก็ดี ไม่ทำให้เกิดบาป เป็นบุญเป็นกุศลทั้งเราเขามั้งครับ ในความคิดของผมก็ต้องถามอีกว่าแล้วบาปมันคือ? ผมถามตัวเองมันก็วนไปเพราะผมคิดว่าผมก็ยังไม่รู้อะไรจริงๆครับ

 

จากคำถาม ของคุณ กฮ ความคิดผมก็คล้ายกับท่าน do re mi ละครับ ทำดีคิดดี ไม่เอาเปลียบใคร เอื่อเฟื้อ และจริงใจ แต่กรรมไม่ดีนี่สิ ผมว่าน่าจะตรงข้ามกับความดีนะครับ ผมก็คิดใด้แค่นี้ครับ

 

ทุกๆคนไม่ต้องเถียงกันครับ
ไปนิพพานถามพระพุทธเจ้าเลยดีกว่าครับ
^ ^

 

คุณชุณห์ กล่าววาจาน่ารักน่าฟังดีครับ ทำอย่างกะไปท้องสนามหลวงแน่ ก็พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว แล้วเราจะไปหาตรงไหนครับ เท่าที่ทราบ พระพุทธเจ้าไม่เคยอธิบายนิพพานอย่างชัดแจ้ง ทำให้พระสงฆ์ในนิกายต่างๆ กำหนดว่านิพพานคืออย่างนี้อย่างโน้น ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่านิพพานจริงๆ เป็นอย่างไร ท่านพุทธทาสกล่าวว่านิพพานเหมือนอยู่บนหน้าผาก เรามองไม่เห็น แต่ท่านพุทธทาสกล่าวว่าพระศรีอารย์อยู่ที่ปลายจมูกเห็นได้ลางๆ แล้ว และ จขกท ก็เอาเรื่องที่เราๆมีโอกาสเห็นพระศรีอารย์แล้ว ถ้าเป็นจริงๆพระศรีอารย์ปรากฎขึ้นจริงๆ ผมรอถามพระศรีอารย์น่าจะดีกว่าใช่ไหมครับ

 

เรื่องเล่านี้ผมคัดมาจากกระทู้เขาอีกที จริงเท็จแค่ไหนไม่ทราบน่ะครับ
แล้วแต่วิจารณญาณ กระผมก็ไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไร


ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น Jul 29, '09 1:49 PM
สำหรับ ทุกคน
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านหลังจากว่างจากการส่งงานอันหนักหน่วงในช่วงเดือนที่ผ่าน ผมได้มีโอกาสอ่านประวัติคร่าวๆของพระสุปัฏิปันโนแห่งอุดรธานี(บ้านเกิดของผมเอง ซึ่งผมไม่เคยมีบุญได้กราบท่านเลย จนปัจจุบันนี้ท่านละสังขารไปได้สองปีแล้ว) คือ พระปัญญาพิศาลเถร หรือ หลวงพ่อทูล ขิปฺปปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ

ตัวท่านหลวงพ่อทูลนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลาโยแห่งวัดถ้ำกลองเพล (วัดนี้ผมเคยไปตอนเด็กๆ ไปบ่อยมากเพราะเวลาไปหาน้าที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะต้องผ่านวัดนี้เป็นประจำ) ซึ่งในอัตโนประวัติที่ท่านเขียนนี้ มีตอนหนึ่งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก เลยอยากให้เพื่อนๆทุกท่านได้มีโอกาสได้รับรู้ด้วย ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างหลวงปู่ขาว กับ หลวงพ่อทูล เรื่องคำทำนายของหลวงปู่มั่น เกี่ยวกับช้างเผือก ซึ่งมีเนื้อความดังนี้

_/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__

หลวงปู่ขาวเล่าเรื่องช้างเผือกให้ฟัง
เมื่อเสร็จธุระจากกฐินวัดป่าหนองแซงแล้ว ก็ได้กลับไปวัดถ้ำกลองเพล ได้พูดคุยธรรมกับหลวงปู่ตามปกติในวันหนึ่งได้อยู่กับหลวงปู่สององค์ หลวงปู่ได้ถามข้าพเจ้าว่า

"ทูล เคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกไหม"

ขอโอกาสหลวงปู่ กระผมเคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกครั้งหนึ่ง หลวงปู่พูดว่า

"ขี่อย่างไร เล่าให้เฮาฟังซิ"

ก็ขอโอกาสเล่าให้หลวงปู่ฟังดังนี้ ในคืนหนึ่งเมื่อเข้าสมาธิได้ที่แล้ว ในโลกนี้มีความสว่างเห็นไปหมดทุกที่ มองขึ้นไปบนอากาศก็มีความสว่างไสวเช่นกัน ในขณะนั้นเห็นหลวงปู่มั่นนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกขนาดใหญ่ และมีครูอาจารย์องค์อื่นๆนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกยืนเรียงแถวกันอยู่หลายองค์ จากนั้นช้างเผือกที่หลวงปู่มั่นนั่งอยู่ก็ลอยขึ้นสู่อากาศ และช้างเผือกตัวอื่นๆก็พาครูอาจารย์ลอยขึ้นสู่อากาศเช่นกัน จากนั้นก็มาถึงตัวช้างเผือกที่กระผมนั่งอยู่ก็ได้ลอยขึ้นไปตามช้างเผือกกลุ่มใหญ่ ได้ลอยอยู่บนอากาศเป็นวงกลม ช้างเผือกแต่ละตัวมีการประดับประดา ด้วยเครื่องเพชรนิลจินดา ประดับด้วยผ้าสีทองที่มีความสวยงามมาก ในท้องฟ้าอากาศมีรัศมีระยิบระยับแพรวพราว สว่างเต็มท้องฟ้าไปหมด แล้วมีเสียงประกาศว่า

"นี้เป็นกลุ่มคณะช้างเผือก ที่หลวงปู่มั่นได้พาหมู่คณะไปสู่พระบรมสุข คือ วิมุตตินิพพานในกาลครั้งนี้"

จากนั้นจิตก็ได้ถอนออกจากสมาธิ ก็ได้พิจรณาว่า เป็นเรื่องปกติี่ที่ผู้ปฏิบัติได้มาถึงจุดนี้แล้ว ถือเป็นความสมบูรณ์ เป็นอุดมมงคล เพราะช้างเผือกเป็นช้างทรงของพระราชา จะตีความว่า ราชาธรรมนี้ก็เป็นได้ หมายถึงผู้จบในภาคการศึกษา คือจบในอาตยนะนั่นเอง หรือจะเรียกว่าเป็นผู้ที่เรียนจบในประโยค ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้แล้วอย่างสมบูรณ์

จากนั้นหลวงปู่ขาวเพียงแต่ยิ้มแล้วพูดว่า

"ในสมัยเฮาอยู่กับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเคยประกาศให้คณะสงฆ์ทั้งหลาย ได้รับรู้ไว้ว่า เมื่อเราได้ตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มตัวหนึ่ง เหาะไปมา แสดงอภินิหาร ให้คนทั้งหลายได้รู้เห็นในความสามารถต่างๆ มากมาย พระเถระทั้งหลายได้ฟังแล้ว ก็มีความเข้าใจความหมายว่า ในยุคต่อไป จะมีพระอรหันต์หนุ่มเกิดขึ้น จะได้แสดงความรู้ึความสามารถ เผยแผ่ธรรมให้คนทั้งหลายได้รับรู้ความจริงในสัจธรรม จะมีผู้ปฏิบัติตามได้รับผลมากทีเดียว"

ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ขาวว่า ขอโอกาสหลวงปู่ ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง หลวงปู่ก็พูดว่า

"เกิดขึ้นแล้ว"

ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ต่อไปว่า ช้างเผือกหนุ่มนั้นอยู่ที่ไหน กระผมอยากรู้ อยากไปกราบท่าน หลวงปู่ยิ้มๆแล้วพูดว่า "ไม่บอก หาเอาเองแล้วกัน" เรื่องช้างเผือกหนุ่มนั้น พระอาจารย์วัน อุตฺตโม และพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ก็เคยพูดในเรื่องช้างเผือกหนุ่มนี้ให้ข้าพเจ้าฟังเช่นกัน เมื่อถามท่านว่าเป็นอาจารย์องค์ใด ท่านก็ไม่บอกเช่นกัน

หากมีคำถามข้าพเจ้าว่า ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง ข้าพเจ้าก็จะตอบว่าเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าช้างเผือกเชือกนั้นอยู่ที่ไหน หรือท่านอาจจะเห็นอยู่แ่ต่ไม่รู้ว่าเป็นช้างเผือก เพราะช้างเผือกนั้นอาจใช้สีดำทาเพื่ออำพรางตัวเอาไว้จึงไม่มีใครรู้ ขอให้พวกเราค้นหาช้างเผือกหนุ่มนั้นให้พบ เมื่อพบแล้ว กรุณามาบอกข้าพเจ้าก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไปกราบคารวะและฟังธรรมจากช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นให้สมใจ การทำนายของหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่ขาวพูดว่า "มีความแม่นยำมาก พูดคำใดคำนั้น เพราะหลวงปู่มั่นมีความชำนาญด้วยญาณ อตีตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว อนาคตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอนาคต"

 

เห็นจริงตามที่ท่านกล่าวไว้ครับ
คนแต่งเรื่องนี้เอาอะไรมาคิด
ว่าพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญมายาวนาน
จักเปลี่ยนดอกบัวเพื่อการมาก่อนหลัง
ขอให้ผู้อ่านใช้ปัญญาพิจารณา
จักเห็นจริงว่าเป็นไปไม่ได้ในหลักการนี้เลย
เพราะบารมีที่มหาโพธิสัตว์ได้บำเพ็ญมา คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงคลาดเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนดอกบัว
เรื่องนี้ไม่จริงแน่นอนครับ..:boo:

<SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>

 

คุณ sahaput เรื่องช้างเผือก ถ้าหลวงปู่มั่นพูดไว้จริง น่าจะหมายถึงหลวงตามหาบัว ไม่ได้เกี่ยวกับพระศรีอาริย์แต่อย่างได

 

ผมอ่านพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้หลายที่ ผมยึดกาลามสูตรตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน และดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลกในปัจจุบัน ก็เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริง ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ ดูพุทธศาสนิกชนก็เป็นไปตามพุทธทำนายจริง ผมเองไม่มีจิตสูงที่ทราบได้ว่าอะไรจริงไม่จริง อะไรจะเกิดไม่เกิด ต้องอาศัยพุทธทำนายเป็นเครื่องชี้ทาง ที่น่าสนใจที่พระพุทะเจ้าตรัสในปี พ.ศ. 2556 ถ้าอะไรเกิดขึ้นตามที่พระพุทธเจ้าตรัส ก็คงเป็นที่สิ้นสุด ผมคงไม่หนีไปไหน สิ่งที่ทำดีก็คงช่วยให้พ้นภัยทั้งหลายได้ เรามาช่วยกันสร้างบุญสร้างกุศลเพื่อจะได้รอดพ้นสิ่งไม่ดีที่จะเกิดขึ้น จะดีไหมครับ