ทำไมพระพุทธเจ้าถึงได้รับการถูกยกย่งว่าเป็นองค์อวตารของพระนารายณ์ปางนึง

ผมดูคลิปแล้วรู้สีกว่า นี้ใช่สารคดีตามรอยพระพุทธเจ้าแน่หรอ??

 

เอา กัน ง่าย ๆ ตาม ที่ ท่าน กล่าว

ใคร ทำ ดี ก่ เป็น สิ่ง ที่ น่า ยก ย่อง

และ สรรเสริญ ครับ ไม่ เห็น จำ เป็น

ต้อง แบ่ง พรรค แบ่ง ฝ่าย อะไร เลย

เพราะ คน ทำ ดี ผล ที่ เกิด ขึ้น ย่อม

เกิด ขึ้น กับ คน ดี เป็น อันดับ แรก

และ ผล กระทบ จะ มี ถึง ผู้ อยู่ รอบ

ล้อม จะ มาก น้อย สุด แต่ กรรม สัมพันธ์

คน ทำ ดี ก่ สรรเสริญ ไป เทวดา ใด

พรหม ใด ทำ ดี ก่ สรรเสริญ ไป

ก่ เหมือน ใคร ๆ ที่ สรรเสริญ โพธิสัตว์

นั่น ล่ะ ก่ คือ ความ ดี

สมมติ ว่า มหาโพธิสัตว์ ไป เกิด เป็น คน ลาว

จะ ไม่ ไป สรรเสริญ ฤ

สมมติ ว่า มหาโพธิสัตว์ ไป เกิด เป็น ฝรั่ง

จะ ไม่ สรรเสริญ ฤ

รู้ จัก ความ ดี แค่ ไหน

เขา จะ เอา ไป เป็น อะไร .... แล้ว

ทำ ให้ ตัว เรา เสื่อม ศรัทธา จาก พุทธ หรือ ไม่

เขา เอา ไป แล้ว ทำ ให้ เกิด สิ่ง ดี งาม

ไม่ ทำ ให้ เขา ตก อยู่ ใน อบาย ก่ ดี แล้ว

ทำไม.....

 

นี่ ล่ะ ครับ มนุษย์ ที่ ชอบ การ ปรุง แต่ง

ปรุง แ่ต่ง เป็น โน้น นี่

คน ที่ มอง ที หลัง ก่ ปรุง แต่ง ตาม

นึก ว่า มัน เป็น จริง ขึ้น มา ตาม ปรุง แต่ง

จริง ๆ เป็น อย่าง ไร ไม่ น้อม นำ ว่า จริง

เป็น อย่าง ไร ....

 

ไม่กระแทกใจใครหรอกครับ การคิดไม่ดีต่อผู้อื่นโดยที่ผูอื่นอยู่เฉยๆ มันก็เห็นผลของมันอยู่ในตัว บอกนิสัยใจคอแง่คิดของผู้นั้น จะดีชั่วอยูาที่ตัวทำจะสูงอยู่ที่ทำตัว จ้า ดูที่การกระทำครับง่ายๆไม่จำเป็นสนใจ เพราะการกระทำบ่องความดีความชั่วของตัวตนและเมื่อเห็นแล้วว่าบุคคลนี้เป็นแบบนี้ย่อมต้องวางเฉยเพราะนั่นไม่ใช่ของเรา

ขอถามหน่อย พระพุทธเจ้า สอน เทวตานุสสติ ทำไมกันครับ ?


เทวตานุสสติ แปลว่า ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์ การอธิบายตอนท้ายๆ นี้ตั้งใจจะพูดแต่โดยย่อๆ เพราะพอพูดได้ความก็ถือว่าใช้ได้ ด้วยการเจริญกรรมฐาน ต้องมีอาจารย์คุมอยู่แล้ว แต่พอถึงกรรมฐานข้อนี้ ต้องขอโอกาสรบกวนให้ท่าผู้อ่าน อ่านยาวสักนิด เพราะสมัยนี้ดูเทวดาถูกแอนตี้มาก ใครต่อใครเล่นงานเทวดากันเป็นแถว พระบางท่านล้มบัลลังก์เทวดาเอาเลย เรียกร้องศิษยานุศิษย์ให้พากันปฏิวัติเทวดา ไม่ยอมรับนับถือเอาเลย แถมยังแอนตี้เอาพระสูตรต่างๆ เช่น ภาณยักษ์ ภาณพระ ที่กล่าวถึงท้าวมหาราชทั้ง ๔ มีท้าวทศรถ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักข์ ท้าวกุเวร (ที่นิยมเรียกว่า ท้าวเวสสุวัณ) ท่านกล่าวว่า สูตรนี้เป็นสูตรของพราหมณ์ ฟังท่านพูดทางวิทยุว่าอย่างนั้น พระพุทธศาสนาไม่มีเทวดา ไม่ต้องใช้เทวดา เรื่องเทวดาเป็นเรื่องลมๆ แล้งๆ หาสาระมิได้ ฟังท่านแล้วใจหายเลย คิดไม่ถึงว่าบัดนี้พระพุทธเจ้าองค์ใหม่เกิดซ้อนศาสนาเข้าแล้ว ท่านผู้พูดเป็นใคร ไม่ได้ยินทางสถานีประกาศ สงสัยว่าท่านคิดอย่างไรของท่าน จึงจงเกลียดจงชังเทวดาเอาขนาดนั้น ท่านเคยโดนเทวดาเล่นงานเอาหรืออย่างไรไม่ทราบ
ความจริงทางศาสนาเรานี้ พระพุทธเจ้ายอมรับนับถือเรื่องเทวดา พระองค์เองทรงปรารภแก่บรรดาพุทธสาวกเรื่องเทวดาเสมอ ขอให้ดูตามพุทธประวัติจะพบว่า พุทธศาสนาไม่เคยห่างเทวดาเลยจะเขียนให้ละเอียด ในที่นี้ก็เกรงจะเฟ้อเกินไปขอย้ำว่า พระพุทธศาสนายอมรับนับถือว่าเทวดามีจริง และยอมรับนับถือความดี ของเทวดาด้วย พระพุทธเจ้าถึงกับตรัสให้พุทธบริษัทที่มีบารมียังอ่อน ให้ระลึกถึงความดีของเทวดา เป็นปกติ เช่น กรรมฐานข้อที่ว่าด้วย เทวตานุสสติ ก็เป็นพระพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าสอนให้คิดถึง ความดีของเทวดา

จาก หนังสือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

 

ขอ เสริม หน่อย น่ะ จ๊ะ คุณ เจ๊ส จ๋า

การ ที่ เรา จะ ปีน ภูเขา สูง ขึ้น ไป

ใน ขณะ ที่ ยัง มี คน ประจำ ตำแหน่ง

เพื่อ การ รักษา ที่ ทาง ให้ มนุษย์ เดิน ทาง

ผ่าน เรา ควร ทำ อย่าง ไร จ๊ะ คุณ เจ๊ส จ๋า

...... เรา ต้อง ขอ อนุญาต ผ่าน หรือ กระโดด

ข้าม หัว ไป ละ จ๊ะ คุณ เจ๊ส จ๋า

...... หาก จะ ไป ดี ๆ เขา อนุญาต ให้ ผ่าน

เรา ก่ ต้อง นอบ น้อม ขอ อนุญาต เขา หรือ เปล่า

จ๊ะ คุณ เจ๊ส จ๋า ....

นี่ ล่ะ น่า ว่า จะ ผ่าน พ้น มิติ เดิมๆ (ไม่มีการพัฒนาการ)

ไป ได้ จะ ต้อง ผ่าน ศึก ตัว ตน (อัตตา)

ผ่าน หลัก การ นอบน้อม ให้ เป็น ก่อน.... ละ วาง ความ เป็น ตัว ตน

ให้ ได้ และ เครื่อง มือ การ ละ วาง ตัว ตน คือ การ นอบ น้อม

นี่ ล่ะ

การ รักษา ศีล ให้ ต่อ เนื่อง คือ การ นอบ น้อม

ทำไม ทุก อย่าง มัน มา ลง ที่ การ นอบ น้อม ล่ะ จ๊ะ คุณ

เจ๊ส จ๋า

 

สำหรับผมไม่เถียงหรอกนะที่ว่าเทวตานุสติเพราะอบายภูมิ สวรรค์ พรหม ก็มีอยู่จริงในพระไตรปิฎก แต่ที่ติดใจก็คือทำไมต้องต้องเอาพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นทั้งครูของเทวดา มาร พรหมไปเปรียบเทียบกับพระนารายณ์ซึ่งเป็นแค่เทพองค์หนึ่งว่าพุทธเจ้าเป็นแค่ร่างอวตารของพระนารายณ์ไหงไม่เอาพระเยซู พระอัลเลาะห์ไปด้วย

 

คำพูดก็เอามาจาก สารคดี ถ้ามีข้อสงสัยก็ถามคนสร้างสารคดีครับ
เพราะว่า แค่อยากให้คนรู้ เหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นในอินเดีย เพราะอะไรต้องดูสารคีครับ
ถ้าคุณไม่ดูคุณจะพูดกับเค้าไม่รู้เรื่อง catt3

 

(||)(||) หนัก (||)(||)

 

ครับๆ

ขอถามง่ายๆเลย สิ่งที่ผู้พูดขึ้นมาอยู่ที่ผู้พูด หรือ อยู่ี่คนโดนพูดใส่ร้า้ยล่ะ
แน่ล่ะ สิ่งที่ผู้พูดขึ้นมา ก็ต้องเป็นของผู้พูด และทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าผู้พูดเป็นยังไง
catt3

 

เพราะ เขา ยัง วน เวียน หา ที่ ออก จาก ความ คิด เดิม ๆ อยู่ ครับ

ความคิด คือ มิติ แห่ง หนึ่ง

เมื่อ ยัง วน อยู่ ก่ ไม่ รู้ จะ ทำ อย่าง ไร ก่ กำลัง ดู เขา อยู่ ว่า

เมื่อ ใด จะ ออก จาก มิติ ของ การ ตำหนิ ประชด ประชัน เหยียด หยาม ผู้ อื่น

555 คุณ เจ๊ส ก่ ดู ต่อ ไป ว่า เขา จะ ดี ขึ้น หรือ ไม่ ....



(อันที่ จริงผมก่ ดู อยู่ว่า สำหรับผู้อื่นแล้ว แบบนี้ ต้องพลัง แดง แล้ว แต่ ยังเขียวอยู่ ต้องมีอะไร กันกับ Web หรือเปล่า....)

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอิสระเสรีภาพ ด้วยการสร้าง "ปัญญา" ในการอยู่กับความทุกข์อย่างรู้เท่าทัน เพื่อบรรลุ วัตถุประสงค์ อันสูงสุดคือ นิพพาน คือการไม่มีความทุกข์ อย่างที่สุด หรือ การอยู่ในโลกอย่างไม่มีทุกข์ คือกล่าวว่า ทุกข์ทั้งปวงล้วนเกิดจากการยึดถือ ต่อเมื่อ "หมดการยึดถือ" จึงไม่มีอะไรจะให้ทุกข์ (แก้ที่ต้นเหตุของทุกข์ทั้งหมด)

ศาสนาพุทธ - วิกิพีเดีย

 

ลักษณะเด่นของพุทธศาสนาที่สำคัญคือ ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าและไม่มีการบังคับศรัทธา แต่พุทธศาสนิกชนบางคนยังไม่เข้าใจในศาสนาพุทธอย่างถ่องแท้ เอาแต่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่เกิดในยุคที่สังคมอินเดียมีสภาพการณ์หลายอย่างที่วุ่นวาย เช่น มีการแบ่งแยกกดขี่ทางชนชั้นวรรณะของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ชัดเจน ถือชั้นวรรณะอย่างเข้มงวด มีความแตกต่างกันทางฐานะอย่างมากมาย (มีทั้งเศรษฐีมหาศาลและคนยากขาดแคลน) และลัทธิ ความเชื่อ ศาสดา อาจารย์เกิดขึ้นมากมาย ที่สอนหลักการยึดถือปฏิบัติอย่างผิดพลาด หรือสุดโต่ง เช่น การใช้สัตว์เป็นจำนวนมากเพื่อบวงสรวงบูชายัญ การบำเพ็ญทุกรกิริยาของนักบวชบางพวก การปล่อยชีวิตให้เป็นไปโดยไม่แก้ไขถือว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า รวมถึงการกีดกันไม่ให้คนบางพวก บางกลุ่มเข้าถึงหลักการ หลักคำสอนของตนได้ เนื่องจากข้อจำกัดของชาติกำเนิด ฐานะ เพศ เป็นต้น แต่พุทธศาสนาเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเป้าหมายสูงสุดได้เสมอกัน โดยไม่แบ่งแยกตามชั้นวรรณะ จึงเสมือนน้ำทิพย์ชโลมสังคมอินเดียโบราณให้ขาวสะอาดมากกว่าเดิม คำสอนของพุทธศาสนาทำให้สังคมโดยทั่วไปสงบร่มเย็น
[แก้]ศาสนาแห่งเหตุผล
พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความรู้ เพราะเป็นศาสนาที่เกิดจากพระอัจฉริยภาพของพระพุทธองค์เอง จากปัญญาของพระองค์ ให้เสรีภาพในการพิจารณา ให้ใช้ปัญญาเหนือศรัทธา ในขณะที่บางศาสนาสอนว่าศาสนิกชนต้องมีศรัทธามาก่อนปัญญาเสมอ และต้องมีความภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ผู้นับถือจะสงสัยในพระเจ้าไม่ได้ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการศึกษา และการแสวงหาความจริง และส่งเสริม (ท้าทาย) ให้ศาสนิก พิสูจน์ หลักธรรมนั้นด้วยปัญญาของตนเอง ไม่สอนให้เชื่อง่ายโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เช่น หลักกาลามสูตร
[แก้]ศาสนาแห่งอิสรภาพและเสรีภาพ
พุทธศาสนาไม่มีการบังคับ ให้คนศรัทธา หรือเชื่อ แต่ท้าทายให้เข้ามาเรียนรู้ และพิสูจน์หลักธรรม ด้วยตนเอง ศาสนาของพระพุทธเจ้าคือคำสอน ซึ่งทรงสอนให้ผู้ฟังใช้ปัญญาพิจารณาอย่างถ่องแท้ก่อนจะปลงใจเชื่อ ไม่ใช่เทวโองการ (Gospel) จากพระเจ้าซึ่งแย้งไม่ได้ พระสงฆ์หรือพุทธสาวกก็มิใช่มิชชันนารี ซึ่งมีภารกิจหลักคือจาริกไปชี้ชวนให้ใครต่อใครมานับถือพระศาสนา พระสงฆ์หรือพุทธสาวกมีหน้าที่เพียงอธิบายคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ คนที่สนใจฟังเท่านั้น ใครไม่สนใจฟัง ชาวพุทธก็ไม่เคยใช้กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญบังคับให้นับถือ ไม่เคยตั้งกฎให้คู่รักศาสนิกของตนต้องเปลี่ยนศาสนาย้ายมานับถือก่อนจึงจะให้แต่งงานได้ ไม่เคยตั้งกองทุนให้การศึกษาฟรี แล้วสร้างเงื่อนไขให้ผู้รับทุนเปลี่ยนมาเป็นชาวพุทธ ไม่เคยสร้างที่พักอาศัยให้หรือแจกทานให้อาหารฟรีๆ แล้ววางเงื่อนไขให้คนมาขออาศัยตนต้องหันมานับถือศาสนาในภาวะจำยอม ความใจกว้างและมีหลักคำสอนที่เป็นสัจธรรม เชิญชวนให้มาพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติเองและเน้นให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนนับถือ ทำให้ศาสนาพุทธได้รับการยอมรับจากวิญญูชนไปทั่วโลก นักปราชญ์ทั้งหลายทั้งในอดีต และปัจจุบันจึงกล่าวยกย่องว่าเป็นศาสนาที่ประกาศความเป็นอิสระของมนุษย์ให้ปรากฏแก่โลกยิ่งกว่าศาสนาใดๆที่มีมา ทั้งจุดมุ่งหมายเป็นอิสระจากกิเลสตัณหาและมายาสิ่งสมมุติทั้งปวง
ในอีกนัยหนึ่ง พุทธศาสนา สอนว่าทุกคนมีอิสระ และเสรีที่จะเลือกทำ เลือกเป็น เลือกสร้าง โลก ได้อย่างเต็มที่ด้วยตนเอง โดยการสร้างเหตุ และเตรียมปัจจัยให้พร้อม ที่จะทำให้เกิดผลอย่างที่ต้องการ (เมื่อเหตุและปัจจัยพร้อม ผลก็จะเกิดขึ้น) ซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับ การดลบันดาลของใคร หรือกรรมเก่า (ที่เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่ง หรือเงื่อนไขหนึ่งเท่านั้น)
[แก้]ศาสนาอเทวนิยม
เพราะเหตุว่าศาสนาพุทธไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า ไม่ยอมรับในอำนาจการดลบันดาลของพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้าไม่มีจริง จึงจัดอยู่ในศาสนาประเภท อเทวนิยม ในความหมายที่ว่าไม่เชื่อว่า พระเจ้าบันดาลทุกสรรพสิ่ง ไม่เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลก พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ไม่ผูกติดกับพระผู้ดลบันดาล หรือพระเจ้า ไม่ได้ผูกมัดตนเองไว้กับพระเจ้า ไม่พึ่งพาอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า เชื่อในความสามารถของมนุษย์ว่ามีศักยภาพเพียงพอ โดยไม่ต้องพึ่งอำนาจใดๆภายนอก เชื่อว่ามนุษย์เองสามารถปลดเปลื้องความทุกข์ได้โดยไม่รอการดลบันดาล และพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้โดยไม่มีใครสั่งสอน ทรงบากบั่นละกิเลสโดยพระองค์เอง บริสุทธิ์ด้วยความเพียรของพระองค์เอง และไม่อ้างว่าเป็นทูตของพระเจ้าใดๆ แต่หากจะเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นที่มีพระเจ้า ชาวพุทธทุกคนคือพระเจ้าผู้สร้างของตัวเอง เนื่องจากตัวเองเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ว่าจะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตหรือมีความตกต่ำในชีวิต จากการประพฤติปฏิบัติของตัวเอง ดังคำพุทธพจน์ที่ว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ซึ่ง ต่างกับศาสนาที่มีพระเจ้าผู้เป็นใหญ่ ที่ชะตาชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดมาแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือร้ายก็ต้องทนรับชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
[แก้]ศาสนาแห่งสันติภาพ
ในกระบวนการนักคิดของโลก ศาสนาพุทธได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่า เป็นศาสนาแห่งสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะไม่ปรากฏว่ามีสงครามศาสนาเกิดขึ้นในนามของพุทธศาสนา หรือเผยแผ่ศาสนาโดยการบังคับผู้อื่นให้มานับถือ สอนให้มีความรักต่อสรรพชีวิตใดๆไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหมด ที่ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย รักสุข-เกลียดทุกข์เช่นเดียวกับเรา สอนให้เมตตาทั้งผู้อื่นและตัวเอง สอนให้รักษาปกป้องสิทธิของตนเองและไม่ให้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น สหประชาชาติจึงยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสันติภาพโลก

ศาสนาพุทธ - วิกิพีเดีย

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=FQjyy3apcVA"]?????? 11 ???????????????? - YouTube[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jNGKV3CmruM]ตอนที่ 12 ไขปริศนาการค้นพบอัน... - YouTube[/ame]

 

ไม่ทราบว่าถามผมหรือเปล่าครับ ถามผมเพราะต้องการอยากจะได้คำตอบ หรือ ถามผมเพราะอยากจะให้ผมอ่านข้อความของลิงดำครับ ??

แต่ก็เอาเถอะครับผมก็ขออ่านแล้วก็ขอตอบไปเลยละกันนะ ^^

เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมรู้และเชื่อครับว่าเทวดามีจริง แต่ก็ไม่ใช่สาระที่จะให้เป็นที่พึ่งสูงสุด

เท่าที่ผมเข้าใจ เทวตานุสติ คือระลึกถึงคุณธรรมของเทวดา หรือระลึกคุณธรรมที่จะทำให้บุคคลกลายเป็นเทวดา แต่ถ้ามองตามจริงแล้ว เทวดา นั้นก็เป็นเพียงแค่ เพื่อน ร่วม เกิด ตาย ในวัฏสงสาร เพียงแค่อายุขัยมากกว่ามนุษย์แค่นั้น
แต่อย่างน้อย เทวตานุสติ ก็เป็นที่ระลึกในเบื้องต้นที่จะให้มนุษย์ทำบุญทำความดี

ถ้าจะให้อธิบายเพิ่มเติมไปอีก ก็อย่างเช่น พุทธานุสสติ ก็คือการระลึกถึงคุณธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่การไปนั่งมองนั่งนึกนั่งจ้องพระพุทธรูปปางนั้นปางนี้ (แต่ใครจะบอกว่ามองแล้วนึกไปถึงคุณธรรมของพระพุทธเจ้าก็แล้วแต่นะครับ)
ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงไม่ต่างจากพวกที่บอกว่าเทวตานุสติแบบไประลึกถึงรูปปั้นเทวดาต่าง หรือพวกที่กราบไปไหว้รูปปั้นเทพ เทวดา ต่างๆนาๆ โดยไม่รู้ว่าจะได้ทันนึกถึงคุณธรรมของเทวดาที่ตนได้กราบไหว้นั้นมั้ย

แล้วถ้ายังคิดสงสัยอีก ไม่งั้นลองย้อนคืนไปหาอ่านประวัตินิยายของพวกฮินดูที่แต่งเรื่องราวเทพมาแต่ละตัวดูซิครับ ว่าเทพพวกนั้นมีค่าพอ หรือมีคุณธรรมพอที่จะกราบไหว้ สรรเสริญ ยกย่อง มั้ย หรือนับถือกราบไหว้ตามกันมาพระความเกรงกลัว เพราะความหวังที่จะหาเป็นที่พึ่งให้ช่วยเหลือ

หรือจะบอกว่า กราบไหว้แล้วเจอแต่สิ่งดีๆ เพราะการกราบไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเห็นผลขึ้นมาทันตาก็เลยเกิดความศรัทธาขึ้นมา แต่ก็โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ก็คงไม่แตกต่างจากพวกเอาที่สิ่งมีชีวิตไปบูชายัญเทพเจ้าที่ตนนับถือเพื่อที่จะดลบรรดาลในสิ่งที่ตนเองพอใจ อย่างในความเชื่อของลัทธิพวกนี้ก็เจ้าแม่กาลี คิดดูซิมันน่ากราบนับถือมั้ย หรือต้องกราบเพราะความกลัว ??? ดูๆไปก็เหมือนกับการที่เราไปยกย่องสรรเสริญโจรผู้ร้ายเพียงเพราะเขานำเงินที่ได้จากการปล้นส่วนหนึ่งมาให้แก่เรา

ซึ่งดูๆไปแล้วเทพพวกนี้มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเทพของพวกกรีกโรมันซะเลย ที่ยังมีความโกรธความกำหนัดยินดีในกามกันอยู่ แต่ถึงจะดีก็ตามแล้วมันใช่สาระที่จะยึดเอาเป็นที่พึ่งสูงสุดมั้ย
แต่ยังไงในท้ายที่สุดแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับกำลังสติปัญญาของแต่ละบุคคล จะพิจารณาว่าควรจะยึดถืออะไรเป็นที่พึ่ง

แต่ดูเหมือนคุณ แจ๊กซ์ จะเข้าใจอะไรผิดหรือคลาดเคลื่อนไปบางอย่างหรือเปล่าครับ ถึงเอาข้อความของลิงดำ มาอ้างอิงโดยเหมือนจะไม่เกิดประโยชน์ซักเท่าไร
เหมือนกับเข้าใจไปวา ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อจะบอกว่าเทวดาไม่มีจริง
หรือว่ามีประโยคไหนที่ผมเผลอเขียนตกหล่นไปแล้วได้เขียนบอกไปว่า เทวดาไม่มีจริงครับ ??

 

รูป เป็น เทพ แต่ ของ จริง ใคร มา ....มี ใคร รู้ หรือ ไม่

แอบ อ้าง ว่า เป็น เทพ มี เยอะ แยะ .... ผู้ กราบ ไหว้ ศีล บริสุทธ์ หรือ ไม่

ไหว้ แล้ว สัมฤทธิ์ ผล นั่น ใคร ประสิทธิ์ พร ....

เหล่า ต่ำ ทราม ไหว้ ก่ สื่อ ต่ำ ทราม มา ประสิทธิ์ พร .....

ต้อง ดู ดี ๆ

อยาก จะ รู้ ว่า องค์นารายณ์ องค์ศิวะ เป็น ใคร ก่ สื่อ ดู สิ ครับ

อัญเชิญ มา โดย

ทดลอง สื่อ ถึง พระมารดาของโลก และ พระบิดาของโลก มา ตอบ คำ ถาม ดู

หาก จะ สื่อ ต้อง รักษา ศีล ให้ บริสุทธิ์ จริง ๆ

ไม่ งั้น เจอ ของ ปลอม แน่ ๆ เด๋ว ... จะ หา ว่า ไม่ เตือน

 

ขอบคุณครับ

 

อย่าเลย เธอได้ เป็นคน มิจฉาทิฏฐิ ได้ดูถูก ผู้อื่น ซึ่งคนดีๆเค้าไม่ทำกัน
แล้วยังมาถามเอาอะไรอีก ในเมื่อเธอคิดไปเองเช่นนั้นว่าเข้าใจผิดอย่างนั้นอย่างนี้
ถ้าคุณถือพระธรรมแล้วทำไมยังเบียดผู้อื่นด้วย วาจา เพราะยังงี้ผมได้พูดว่าเป็น
มิจฉาทิฏฐิ พูดกันตามจริงคนดีๆเค้าไม่ทำกันเมื่อรู้แล้วเป็นคนยังไงก็นะก็ต้องปล่อยวางเพราะการกระทำบ่องบอกบุคคล
ไงก็ขอบคุณครับที่ให้เกีรติมาแสดงความเห็นครับ

ไ

 

ทั้งหมดที่กล่าวมา คือองค์เดียวกันหมดครับ
คนที่มีญาณทัศนะ เข้าถึงศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ ย่อมเข้าใจถึงสิ่งนี้ได้
หากมัวแต่เอาคตินิยม ย่อมเบียดบังจิตตน ก็ไม่สามารถเข้าถึงสภาวะนั้น
นานาจิตตัง

 

หากชมสารคดีนี้ ด้วยความเป็นกลาง
ย่อมบ่งบอกถึงความนัยสำคัญว่าทำไม จึงปรากฎผลเป็นเช่นนั้น
แต่สำหรับมุมมอง คติพุทธนิยม ย่อมอคติ ย่อมถูกเบียดบังด้วยปัญญา
เพราะรับไม่ได้กับคำตอบที่คาดหวัง