พระเครื่อง+วัตถุมงคล เงินแบ่งทำบุญครับ (แถมพระแก้วพุทโธใหญ่ เนื้อว่าน)

16/03/2555

วันนี้ได้จัดส่งพระให้ท่านที่โอนเข้ามาแล้วครับ

1.คุณ พีระ RG106737975TH

ได้รับพัศดุรบกวนแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ

เช็คพัศดุได้ตาม link ด้านล่างนะครับ
Track And Trace : EMS : Thailand Post : Spider

 

ปิดรายการนี้ครับ เพื่อนสมาชิกทางบ้านบูชาแล้วครับ

 

19/03/55

วันนี้ผมได้จัดส่งชนวนที่เหลือจากการหล่อพระที่เก็บรวบรวมไว้ส่วนหนึ่ง ส่งไปร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐม "สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลพาพ้นเภทภัย" ขนาด 3.4 เมตร ที่จะหล่อขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2555 ที่จะถึงนี้ โดยมี หลวงตาม้า เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ครับ ชนวนที่ส่งไปร่วมหล่อมีดังนี้



1.ชนวนทองล้นเบ้าจากการหล่อหัวใจพระนอน วัดป่าปฐมพุทธาราม จ.เชียงราย
2.ชนวนหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ดู่นั่งบัว วัดถ้ำเมืองนะ
3.ชนวนหล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก วัดถ้ำเมืองนะ
4.ก้านชนวนพระกริ่งพระนเรศฯ วัดถ้ำเมืองนะ
5.ชนวนทองล้นเบ้าหล่อพระรูป พ่อขุนเม็งรายมหาราช ฉลองครบรอบ 750 ปี เมืองเชียงราย

แบ่งบุญให้ทุกคนได้อนุโมทนากันครับ

 

ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ

 

รายการที่ 63

ผ้ายันต์พระมหาจักรพรรตราธิราชเจ้า (สีเขียว)
ท่านปู่พระอินทร์ - ท่านย่า
พร้อมด้วยสมบัติจักรพรรดิ ๗ อย่าง
ขนาดบูชา 9x9 นิ้ว



ผ้ายันต์พระมหาจักรพรรตราธิราชเจ้า จัดสร้างตามตำหรับโบราณเป็นพระยันต์ที่มีอานุภาพมากมาย ตามแบบฉบับวัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ในผ้ายันต์ประกอบด้วยภาพท่านปู่พระอินทร์-ท่านย่า พร้อมทั้งสมบัติจักรพรรดิทั้ง ๗ ประการคือ

๑.ช้างแก้ว ช้างของพระเจ้าจักรพรรดิมีกำลังมากมหาศาล
๒.ม้าแก้ว ม้าศึกของพระเจ้าจักรพรรดิ
๓.ขุนพลแก้ว ยอดขุนศึกของพระเจ้าจักรพรรดิ รบที่ใดไม่เคยแพ้
๔.ขุนคลังแก้ว เปรียบเสมือนคลังสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ
๕.นางแก้ว นางคู่บารมีพระเจ้าจักรพรรดิ สิริโฉมงดงามที่สุดในแผ่นดิน
๖.จักรแก้ว อาวุธทิพย์ของพระเจ้าจักรพรรดิ สามารถบินไปปราบศัตรูได้ตามปราถนา
๗.แก้วจักรพรรดิ ปราถนาสิ่งใด อธิษฐานกับแก้วนี้ก็สำเร็จทุกประการ

ผ้ายันต์ชุดนี้มีทั้งหมด ๓ สี คือ สีเหลือง, สีเขียว และ สีชมพู เป็นผ้ายันต์ที่สร้างถวายแก่วัดต่างๆ เพื่อช่วยในงานก่อสร้างตามสาธารณกุศล

ผ้ายันต์ชุดนี้ได้รับการอธิษฐานจิตโดย:

๑.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ กรุงเทพฯ
๒.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
๓.หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม
๔.พระครูธรรมธรเล็ก สุธัมมปัญโญ (พิธีเสาร์ 5 เป่ายันต์เกราะเพชร วันที่ 21 ม.ค. 2551)
๕.พระอาจารย์สมปอง สุธัมมสันตจิตโต อาศรมสบายใจ(บ้านสบายใจ) ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

*ส่วนผ้ายันต์ที่ผมนำมาให้บูชานี้เป็นส่วนที่ทางท่านเจ้าภาพได้ถวายไว้ที่ วัดถ้ำป่าอาชาทอง ซึ่ง ครูบาเหนือชัย โฆษิโต พระขี่ม้าบิณฑบาตร ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตซ้ำให้อีกครับ

ทางคณะผู้จัดสร้างได้บอกมาว่า

ผ้ายันต์สีเหลือง - เงินทอง โชคลาภ การค้า หน้าที่การงาน
สีเขียว - มหาอำนาจ วาสนา เกียรติยศ
สีชมพู - สมบัติจักรพรรดิของท่านปู่ท่านย่า

คณะผู้จัดสร้างได้ยันต์นี้มาจากตำราโบราณ และมีคำกล่าวไว้ว่า

"ณ สถานที่ใดมียันต์มหาจักรพรรดิและสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิ สถานที่นั้นหรือบ้านเรือนนั้นและวงศ์ตระกูลจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ"

มีให้บูชาผืนเดียวครับ
แบ่งบูชา 300 บาท ครับ

 

เพื่อนสมาชิกจากทางบ้านบูชาแล้วครับ
ปิดรายการนี้ครับ

 

03/04/55



เมื่อวานนี้ผมได้จัดส่งยอดผ้าป่า เพื่อร่วมสร้างฉัตรทองคำที่จะถวาย วัดศรีมุงเมือง จ.เชียงใหม่ เนื่องในวันฉัตรมงคลที่ใกล้จะถึงนี้ (05/05/55) เป็นจำนวนยอดทั้งสิ้น 8,338 บาท ขออนุโมทนาบุญกับเพื่อนๆญาติธรรมทุกๆคนที่ช่วยกันบอกบุญและร่วมบุญครับ อานิสงค์ของงานบุญนี้หนึ่งก็คือได้ทำบุญ กับพระที่เป็นเนื้อนาบุญ (หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร) และยังได้ร่วมสร้างวัดศรีมุงเมืองให้สำเร็จเพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ส่วนฉัตรที่สร้างเปรียบเสมือนพระมหากษัตริย์ ขอผลบุญนี้จงส่งผลถึงเพื่อนๆทุกคนมีความคล่องตัว คิดการสิ่งใดก็ขอให้ประสบผลสำเร็จ ให้ชีวิตถึงจุดสูงสุดกันทุกคนนะคร้าบ _/\_

 

ได้มาใหม่ครับหนึ่งองค์ สวยๆ

รายการที่ 64

(((คุณ ก ฯลฯ ฮ บูชาแล้วครับ)))

พระปัจเจกพุทธเจ้า ๙ ไห
ปลุกเสกพิธีออกนิโรธสมาบัติครั้งที่ ๗ พ.ศ.๒๕๕๒
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย



ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ท่านเป็นนักบุญแห่งแดนล้านนาในยุคปัจจุบัน ผู้มุ่งหวังเดินตามทางพระโพธิสัตว์ แห่งวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นที่ทราบกันโดยทั่วของนักปฏิบัติทางในว่า ครูบาอริยชาติ เป็นขวัญหน้าของครูบาศรีวิชัย(ซึ่งบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลนี้) เพื่อสร้างบารมีให้ใกล้แดนพุทธให้เร็วยิ่งขึ้น เรียกกันว่า "ครูบาใหญ่ อยู่ในกายครูบาเล็ก" ท่านจึงอยู่กรรมเจริญนิโรธสมาบัติ เป็นประจำทุกปี

พิธีเข้านิโรธกรรมของครูบาเจ้าอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงรายครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 2-9 มกราคม 2551 โดยการนั่งตั้งจิตอธิษฐาน ภายในหลุมที่ลึกเพียงหนึ่งศอกและสูงเพียงท่วมหัว ม่สามารถมองเห็นภายนอก และไม่ฉันข้าว ไม่ถ่ายหนัก ถ่ายเบา เป็นเวลา 7 วัน ฉันเพียงน้ำที่มีอยู่ในบาตรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

จะมีชาวบ้าน และพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแล ด้านนอกกระโจม และรอที่จะใส่บาตรครูบาฯ ในวันออกจากนิโรธ เมื่อครบ 7 วัน เพราะเชื่อกันว่า ใครได้ใส่บาตรครูบาฯ ในวันแรก ที่ออกจากนิโรธ อธิษฐานสิ่งใด จะได้สิ่งนั้นตามที่ปรารถนาเลยทีเดียว นับว่า เป็นอานิสงส์ ผลบุญแรงมาก

พระปัจเจกพุทธเจ้า :

พระ ปัจเจกพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่ง ได้บำเพ็ญบารมี 2 อสงไขยกำไรแสนกัป และตรัสรู้อริยสัจ 4 ด้วยพระองค์เองเช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่จะเสด็จมาตรัสรู้ในคราวที่โลกว่างเว้นพระพุทธศาสนา และมาตรัสรู้ได้หลายพระองค์ในสมัยเดียวกัน แต่พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น มิได้ทรงประกาศพระศาสนาเกิดสาวกพุทธบริษัทเหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในปรมัตถโชติกา อรรถกถาสุตตนิบาตอธิบายว่า การบรรลุธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้า เปรียบเสมือนรสกับข้าวที่พรานป่าได้ลิ้มในเมือง ฉะนั้น จึงไม่อาจสอนให้บุคคลอื่นรู้ตามตนได้ (คือสอนได้แต่ไม่อาจให้รู้ตามได้) ไม่ก่อตั้งหรือสถาปนาในรูปสถาบันศาสนา แต่เน้นอนุโมทนาแก่ผู้ถวายทานให้ท่าน จะอุบัติขึ้นในช่วงพุทธันดร กล่าวคือ เป็นช่วงเวลาที่โลกว่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น ในปัจจุบันนี้ จึงไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้าอุบัติขึ้น

พระปัจเจกพุทธเจ้าแต่ละองค์มีประวัติคล้ายกัน คือ เป็นมาจากกษัตริย์ พราหมณ์ หรือคหบดี ในสมัยโบราณที่เบื่อหน่ายในโลกิยสมบัติ ได้ออกบวชศึกษาพระธรรมจนบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณ เมื่อบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณแล้ว ก็ไปชุมนุมที่เขาคันธมาทน์กูฏ ซึ่งเป็นยอดเขาแห่งหนึ่งของเทือกเขาหิมพานต์หรือหิมาลัย มีฝูงช้างฉัททันต์คอยปรนนิบัติอยู่เป็นนิจ

คุณลักษณะพิเศษที่สำคัญประการหนึ่งของพระปัจเจกพุทธเจ้าคือ การดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือการดำเนินชีวิตอยู่เพียงลำพัง (เอกะ) ในวรรณคดีพระพุทธศาสนา เปรียบเทียบ การดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวของพระปัจเจกพุทธเจ้า เหมือนกับนอแรด (ขคฺควิสาณกปฺโป) ซึ่งแรดของอินเดียมีเพียงนอเดียว ส่วนแรดในประเทศอื่นมี ๒ นอก็มี แต่กระนั้นก็ตาม พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ต้องมาประชุมพร้อมกันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน คือในวันที่พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นและในวันอุโบสถ

พระพุทธองค์ตรัสแก่พระอานนท์ในคัมภีร์ปัจเจกพุทธาปธานว่า "ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย"

ครูบาอริยชาติ ปัจจุบันแม้ท่านจะอายุกาลพรรษายังไม่มาก แต่คุณธรรมและบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลยครับ ท่านสร้างวัดได้ใหญ่โต ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและท่านยังเข้านิโรธกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะคนใกล้ไกลแม้ว่าในจังหวัดเชียงรายเอง หรือต่างจังหวัดถ้ามีโอกาศมาที่ อ.แม่สรวย ก็จะหาโอกาศมากราบทำบุญกับท่านเสมอ เพราะบารมีของท่านปัจจุบันนี้ขจรขจายไปทั่วครับ

นอกจากนี้ครูบาท่านยังศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ, ครูบาชุ่ม, ครูบาดวงดี, ครูบาจันทร์แก้ว, ครูบาอินตา, ครูบาผัด ฯลฯ นับว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาท่านได้ทดลองแล้วว่าทำได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่านครับ ปัจจุบันครูบาท่านยังปฎิบัติธรรมตามรอย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ท่านเคารพและเทอดทูน ท่ามกลางกระแสของโลกที่มีทั้งคนนินทาและสรรเสริญ แต่คุณธรรมของท่านนับวันยิ่งปรากฎให้เห็นว่าท่านเป็นพระดีจริงครับ

มีองค์เดียวขอใช้ภาพแทนนะครับสวยแน่นอนครับ
ปิดรายการครับ

 

ของแถมพิเศษสำหรับท่านที่บูชาวัตถุมงคล 1 user ต่อการบูชาพระ 1 ครั้ง เมื่อท่านโอนเข้ามาแล้วผมจะแถมเหมือนเดิมคือ ...

ลูกแก้วจักรพรรดิ (มณีนพรัตน์)
อธิษฐานจิตโดย หลวงตาม้า วิริยธโร วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่



แก้ว จักรพรรดิ์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แก้วมณีนพรัตน์ นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่ดู่ยังทรงขันธ์อยู่ โดยท่านใช้ปูนซิเมนต์ขาวผสมกับผงจักรพรรดิ์ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ เจาะรูทะลุตรงกลาง แล้วร้อยเชือกแจก เด็ก ๆ แถววัดสะแก เคยมีเหตุการณ์ที่เด็กแขวนลูกแก้วจักรพรรดิ์ตกน้ำแล้วไม่จม ทำให้เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าขอได้ตามใจนึก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกแก้วสารพัดนึก



หลวง ตาม้า เป็นผู้สืบทอดวิชาการสร้างพระผงจักรพรรดิ์ (พระผงกรรมฐาน) และลูกแก้วจักรพรรดิ์นี้มาจากหลวงปู่ดู่ แต่เนื่องจากการทำลูกแก้วจักรพรรดิ์ด้วยผงปูน ต้องใช้วิธีปั้นทีละลูก ใช้เวลาทำมาก และเนื่องจากในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถผลิตลูกแก้วสำเร็จ และหาซื้อได้ง่าย ลูกศิษย์จึงซื้อลูกแก้วเหล่านั้นมาให้หลวงตาอธิษฐานจิตให้เป็นลูกแก้วจักรพร รดิ์ ซึ่งหลวงตาได้บอกว่ามีคุณสมบัติเหมือนลูกแก้วจักรพรรดิ์ที่ทำจากผงปูนทุก ประการ สามารถใช้แทนกันได้ ด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงตาจึงมีแบบชนิดที่เป็นผงปูนปั้น กับ ชนิดที่เป็นลูกแก้วสำเร็จ

ลูก แก้วจักรพรรดิ์นี้ สามารถนำมาใช้บูชาติดตัว ใช้กำเพื่อช่วยภาวนาทำสมาธิ ใช้อธิษฐานเพื่อทำน้ำมนต์ หรือใช้ในการอธิษฐานเพื่อปรับภพภูมิก็ได้ เช่นเดียวกับพระผงกรรมฐานทุกประการ ในกรณีที่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิ ทำให้ผู้ที่ทำการแผ่บุญไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้น ๆ บ่อย ๆ แต่จะใช้ในการวางลูกแก้วไว้ในสถานที่นั้นแทน แล้วอธิษฐานขอให้ลูกแก้วจักรพรรดิ์แผ่บุญออกไปเองโดยอัตโนมัติ เหล่าวิญญาณที่ประจำอยู่แถวนั้น หรือเร่ร่อนผ่านไปยังสถานที่เหล่านั้น เมื่อเห็นแสงสว่างแห่งบุญที่เปล่งออกจากลูกแก้ว ก็จะสามารถโมทนาบุญนี้ได้ตลอด

การ วางลูกแก้วตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อปรับภพภูมิ จึงเป็นการสงเคราะห์สัตว์โลกทั้งหลายไม่มีประมาณ และเมื่อมีการขยายพื้นที่ในการวางลูกแก้วกว้างขวางออกไปเพียงไร พื้นที่ในการแผ่กระแสบุญบารมีก็จะยิ่งกว้างไกลออกไปเพียงนั้น

คำอธิษฐานในการวางลูกแก้วเพื่อปรับภพภูมิ (ตัวอย่าง)

ให้ ตั้งจิตนึกถึงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วอธิษฐาน "ข้าพเจ้า (เอ่ยนาม) ขอตั้งสัจจะอธิษฐานวางลูกแก้วจักรพรรดิ์เพื่อใช้ในการแผ่บุญบารมีไปทั้งสาม แดนโลกธาตุ ณ (ชื่อบริเวณที่วางลูกแก้ว) ขอให้เทพพรหมทั้งหมด เทวดา รวมทั้งวิญญาณที่ประจำหรือผ่านมาในบริเวณนี้ทั้งหมด ที่ได้เห็นแสงแห่งบุญนี้ ให้โมทนาบุญกับหลวงปู่ดู่นี้ได้ตลอดด้วยเทอญ

หมายเหตุ :

1. สำหรับเราซึ่งเป็นผู้วางและผู้อธิษฐานจิตจะได้แผ่บุญอัตโนมัติรวมกับหลวงปู่ เนื่องจากเหตุเกิดจากเราที่เป็นคนวางและอธิษฐานจึงมีผลในการแผ่บุญในครั้ง นี้ด้วย (หลวงตาเคยบอกไว้)

2. เหตุที่เราต้องกำหนดหลวงปู่เป็นหลัก เนื่องจากหลวงปู่เป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็ม จึงสามารถแผ่บุญได้เต็มที่ หากกำหนดเป็นชื่อของเรา กำลังบุญที่เราสะสมมายังน้อย อาจทำให้บุญที่แผ่ออกไปไม่เต็มที่ หรือ รับได้น้อย หรือไม่ได้รับเลยครับ

3. การวางลูกแก้วจะต้องอธิษฐานทุกครั้ง เพราะถ้าเราวางเฉย ๆ โดยไม่มีการอธิษฐาน ภพภูมิบริเวณที่วางนั้นก็จะไม่ได้ แม้ว่าจะเห็นแสงแห่งบุญที่ลูกแก้วเราก็ตาม เพราะว่าเราไม่ได้อนุญาตนั่นเอง

4. เหตุที่ลูกแก้วมีแสงแห่งบุญ เนื่องจากหลวงตาท่านได้อธิษฐานจิตใส่เข้าไปในลูกแก้วเพื่อให้เป็นลูกแก้ว จักรพรรดิ์ ดังนั้นลูกแก้วจักรพรรดิ์ทุกลูกจึงมีกระแสแห่งบุญแผ่ออกมาเหมือนพระผงจักรพร รดิ์ทุกประการ

5. ผู้ที่วางและอธิษฐานลูกแก้วจักรพรรดิ์ได้ จะต้องเป็นผู้ที่สวดมนต์ ภาวนา บทพระมหาจักรพรรดิ์ เนื่องจากเป็นกระแสเดียวกัน สามารถเชื่อมโยงกระแสบุญร่วมกันได้

 

ตะกรุดกาสะท้อนครูบาอริยชาติ
และหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย



โดย คุณ ภันธกานต์ กิ้มทอง

... การได้มาพำนักอยู่ที่วัดพระธาตุดงสีมา ครูบาอริยชาติ ในขณะนั้นถือว่าเป็นพระเกจิอายุน้อยที่เริ่มเป็นที่รู้ัจักของผู้คนมากขึ้น ค่ำคืนหนึ่งขณะที่ครูบาอริยชาติ เจริญจิตสมาธิอยู่นั้นได้พบกับหลวงปู่ท่านหนึ่งในวัย ๘๐ กว่าปี (ขณะนั้น) ได้เข้ามาหาและบอกให้ทราบว่า

"เอ เรานี่เก่งดีนะ เรานี่ดีนะ ให้ตั้งใจปฎิบัติต่อไปให้ดี
อย่างอื่นไม่ต้องยุ่ง ให้ฝึกจิตให้ดีก็แล้วกัน"

ครูบาอริยชาตินั้นไม่ทราบเลยว่าหลวงปู่ที่พบในสมาธินั้นคือใคร ทราบเพียงว่าท่านชื่อทอง อยู่วัดสำเภาเชย หลังจากนั้นอีกสองวันได้มีบุคคลหนึ่งเดินทางมาพบครูบาแล้วกราบเรียนให้ทราบว่า

"กระผมเองที่เดินทางมานี้เนื่องเพราะหลวงพ่อทอง ใช้ให้ผมเดินทางมาพบครูบา เพื่อให้มาขอตะกรุดกาสะท้อน"

ครูบาอริยชาติ จึงได้มอบตะกรุดกาสะท้อน ให้แก่โยมผู้นั้นจำนวนมากพอสมควร และโยมท่านนั้นได้นำไปถวายหลวงพ่อทอง ท่านรับตะกรุดกาสะท้อนแล้วได้แจ้งบอกกับญาติโยมให้ทราบว่า



"นี่ ดีน่ะ ขลังสุดยอดเลยตะกรุดอันนี้ จิตนี่ดีกันของกันคุณไสยได้"

จากนั้นหลวงพ่อทอง ได้นำตะกรุดกาสะท้อนที่ได้ให้ลูกศิษย์มาขอกับครูบาอริยชาติถึงจังหวัดเชียงราย ท่านได้นำตะกรุดนั้นไปผูกไว้ที่หัวเตียงนอนของท่าน จากนั้นหลวงพ่อทอง จึงได้มีเมตตาส่งวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นส่งมาให้แก่ครูบาอริยชาติ ท่านทั้งสองนั้นไม่เคยได้พบกันมาก่อนแต่อย่างใด แต่ต่อมาครูบาอริยชาติได้มีโอกาศพบกับหลวงพ่อทองครั้งแรก ที่โรงพยาบาลรัตนิน ซึ่งครูบาอริยชาติไปรักษาตา ส่วนทางหลวงพ่อทองนั้นก็เข้ารักษาตัวเนื่องเพราะเป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

เป็นที่ยอมรับได้จริงถึงวัตถุมงคลของชาวล้านนาที่เรียกว่า ตะกรุดกาสะท้อน ที่มีการถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์สายล้านนา ครูบาอริยชาติ ได้กล่าวให้ทราบถึงที่มาให้ได้รับทราบว่า

"ตำราการเรียนวิชากาสะท้อน นั้นเป็นตำราของ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย สมัยก่อนครูบาจันติ๊บ เป็นสหธรรมมิก ที่เป็นผู้ทำให้ท่านเนื่องจากครูบาชุ่มท่านไม่ค่อยมีเวลา จึงต้องให้ครูบาจันติ๊บทำให้อีกทีเป็นตำราของครูบาชุ่ม ตอนนั้นที่ครูบาอริยชาติสร้างขึ้นมามีอานุำภาพจริงหรือไม่ครูบาก็ไม่รู้ แต่มีตำรวจมาจากลำปาง มาบูชากับครูบาสมัยเป็นเณร สมัยนั้นดอกหนึ่งบูชา ๒๐ บาท เขาบูชาไปหนึ่งดอก หลังจากนั้นเขาก็กลับมาบูชาอีก ๑๐๐ ดอก เอาไปแจกเพื่อน ครูบาก็ถามว่า ทำไมมาบูชาเยอะ ตำรวจนั้นเขาได้บอกว่าหลังจากที่บูชาไป วันนั้นเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำแฉลบชนรั้วข้างทางพังไปสี่ต้น รถยนต์พังไปครึ่งแถบแต่เขาไม่เป็นอะไรเลย จึงกลับมาบูชาอีกครั้งหลังจากนั้นก็มีผู้คนมาบูชาตะกรุดกันมากขึ้นๆๆ ถ้าตะกรุดไม่มีความขลังศักดิ์สิทธิ์จริงก็ย่อมไม่มีใครมาบูชา

ส่วนวิธีทำตะกรุดนั้นมีความแปลกกว่าตะกรุดอื่นๆ ที่เรียกว่า กาสะท้อน ก็คือ กาคือสิ่งที่ดำ เปรียบคือคุณไสยคุณผี คุณคนที่เป็นฝ่ายชั่ว สะท้อนคือ กลับไป สิ่งไม่ดีทั้งหลายมาแล้วก็สะท้อนกลับไป อย่างตะกรุดทั่วไปเวลาเขียนอักขระยันต์จะอยู่ด้านใน แต่ตะกรุดกาสะท้อนตัวอักขระจะต้องเขียนด้านนอก เวลาม้วนต้องม้วนให้ตัวอักษรอยู่ด้านนอก ด้านในไม่มีอะไร นี่คือเคล็ดลับของการทำตะกรุดกาสะท้อน ใช้ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน ของไม่ดีต่างๆ ดวงตก อัปมงคล เป็นตะกรุดของล้านนาที่มีชื่อเสียงที่สุด"

ตะกรุดกาสะท้อน จัดเป็นเครื่องรางสายเหนือ ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ถ้าอาราธนาติดตัวจะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดี สะท้อนสิ่งไม่ดีกลับออกไป ป้องกันอาถรรพ์และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงได้

 

รายการที่ 65

ตะกรุดกาสะท้อน
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

(((คุณ A`z บูชาแล้วครับ)))



ครูบาอริยชาติ ปัจจุบันแม้ท่านจะอายุกาลพรรษายังไม่มาก แต่คุณธรรมและบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลยครับ ท่านสร้างวัดได้ใหญ่โต ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและท่านยังเข้านิโรธกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะคนใกล้ไกลแม้ว่าในจังหวัดเชียงรายเอง หรือต่างจังหวัดถ้ามีโอกาศมาที่ อ.แม่สรวย ก็จะหาโอกาศมากราบทำบุญกับท่านเสมอ เพราะบารมีของท่านปัจจุบันนี้ขจรขจายไปทั่วครับ

นอกจากนี้ครูบาท่านยังศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ, ครูบาชุ่ม, ครูบาดวงดี, ครูบาจันทร์แก้ว, ครูบาอินตา, ครูบาผัด ฯลฯ นับว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาท่านได้ทดลองแล้วว่าทำได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่านครับ ปัจจุบันครูบาท่านยังปฎิบัติธรรมตามรอย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ท่านเคารพและเทอดทูน ท่ามกลางกระแสของโลกที่มีทั้งคนนินทาและสรรเสริญ แต่คุณธรรมของท่านนับวันยิ่งปรากฎให้เห็นว่าท่านเป็นพระดีจริงครับ



ครูบาอริยชาติ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในเหตุที่ท่านอยู่กรรม เข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน การเข้านิโรธสมาบัตินี้ ตามคัมภีร์ของพุทธศาสนาฝ่ายล้านนา เชื่อว่า พระอริยบุคคลระดับพระอนาคามี ขึ้นไปเท่านั้น ที่ทำได้ เพราะถ้าเข้านิโรธเต็มกำลัง ไม่ฉันไม่ถ่าย ไม่พูดไม่จา นั่งภาวนาตลอดเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เหนือเวทนาทั่วไปที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้ แต่สำหรับครูบาอริยชาติ ท่านเรียกการเข้านิโรธของท่านว่า “การอยู่กรรม” ซึ่งจะกระทำในวันเข้าพรรษา โดยให้ปลูกกระโจมมุงด้วยหญ้าแฝก บริเวณด้านนอกโดยรอบกระโจม ทั้ง 4 ทิศ ปักไม้มงคล เป็นเขตสังฆาวาส เพื่อป้องกันสัตว์ร้าย ภูมิผี ปีศาจทั้งหลาย อมนุษย์ทั้งหลาย มิให้เข้ามาในบริเวณกระโจมนิโรธได้ ภายในกระโจม ให้ขุดหลุมลึก 50 ซม. ปูรองด้วยหญ้าคาแห้ง เพื่อให้ครูบาเข้าไปนั่งภาวนาอยู่กรรม โดยท่านจะนั่งภาวนาในกระโจมนี้ นาน 7 วัน 7 คืน ไม่พูด ไม่คุย ไม่ฉันอาหารหนัก ฉันแต่เพียงน้ำสะอาด ที่กรองผ้าขาวบางเนื้อละเอียด 7 ชั้นเท่านั้น

การอยู่กรรมทุกปี จะมีชาวบ้าน และพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแล ด้านนอกกระโจม และรอที่จะใส่บาตรครูบาฯ ในวันออกจากนิโรธ เมื่อครบ 7 วัน เพราะเชื่อกันว่า ใครได้ใส่บาตรครูบาฯ ในวันแรก ที่ออกจากนิโรธ อธิฐานสิ่งใด จะได้สิ่งนั้นตามที่ปรารถนาเลยทีเดียว นับว่าเป็นอานิสงส์ ผลบุญแรงมาก

ครูบาอริยชาติ ท่านเป็นนักบุญแห่งแดนล้านนาในยุคปัจจุบัน ในฝ่ายล้านนาเชื่อกันว่า ท่านเป็นขวัญหน้าของครูบาศรีวิชัย (ซึ่งบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลนี้) ลงมาเกิดเพื่อเร่งสร้างบารมี ดังจะเห็นได้จากตลอดชีวิตของท่าน แม้ยังเป็นครูบาหนุ่มน้อย รูปงาม ก็ไม่ยึดติดในลาภ สักการะทั้งปวง ท่านขลังตั้งแต่ยังเป็นเณรน้อย เสกตะกรุด เสกดาบ มีอานุภาพมาก ท่านมีลาภสักการะดุจพระสิวลี ดังจะเห็นได้จากท่านหาปัจจัยเพื่อสร้างวัด สร้างสาธาณกุศลต่าง ๆ นับตั้งแต่บวชมา จนถึงปัจจุบันเป็นเงิน ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

ตะกรุดกาสะท้อน จัดเป็นเครื่องรางสายเหนือ ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ถ้าอาราธนาติดตัวจะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดี สะท้อนสิ่งไม่ดีกลับออกไป ป้องกันอาถรรพ์และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงได้

ปิดรายการครับ
แถมภาพครูบาอริยชาติ พร้อมใบฝอยคาถาให้ครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับผม

 

รายการที่ 66

พระนาคปรกทองแดง ชุด ๕ องค์
พิธีไหว้ครู ปี พ.ศ.๒๕๕๔
ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

(((คุณ แดงแก่น บูชาแล้วครับ)))



ครูบาอริยชาติ ปัจจุบันแม้ท่านจะอายุกาลพรรษายังไม่มาก แต่คุณธรรมและบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลยครับ ท่านสร้างวัดได้ใหญ่โต ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและท่านยังเข้านิโรธกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะคนใกล้ไกลแม้ว่าในจังหวัดเชียงรายเอง หรือต่างจังหวัดถ้ามีโอกาศมาที่ อ.แม่สรวย ก็จะหาโอกาศมากราบทำบุญกับท่านเสมอ เพราะบารมีของท่านปัจจุบันนี้ขจรขจายไปทั่วครับ

นอก จากนี้ครูบาท่านยังศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ, ครูบาชุ่ม, ครูบาดวงดี, ครูบาจันทร์แก้ว, ครูบาอินตา, ครูบาผัด ฯลฯ นับว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาท่านได้ทดลองแล้วว่าทำได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่านครับ ปัจจุบันครูบาท่านยังปฎิบัติธรรมตามรอย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ท่านเคารพและเทอดทูน ท่ามกลางกระแสของโลกที่มีทั้งคนนินทาและสรรเสริญ แต่คุณธรรมของท่านนับวันยิ่งปรากฎให้เห็นว่าท่านเป็นพระดีจริงครับ



"บูรพาจารย์" หมายถึง อาจารย์ผู้เกิดก่อนเรา ท่านเกิดก่อนเรา ท่านสอนเรามาก่อน จึงได้ชื่อว่า พระบูรพาจารย์ เป็นผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเรามาก่อนนั่นเอง โดยทางโลกครูคนแรกของเราคือ พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย และครูอาจารย์ที่สั่งสอนวิชาชีพให้กับเรา ส่วนครูทางธรรมที่เป็นบรมครูคนแรกของโลกคือ องค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ทรงเมตตาสั่งสอนธรรม เพื่อให้มนุษย์ทุกคนค้นพบกับ “สัจธรรม” ความเป็นจริงแห่งชีวิต และให้ทุกคนพบที่พึ่งภายในตนเองได้

“พิธีไหว้ครู บูรพาจารย์” เป็นพิธีกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่ง และนับเป็นประเพณีของไทยที่นิยมปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณของครูบาอาจารย์ ที่ประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชาให้กับเรามา

การไหว้ครูบูชาครูนั้นเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เช่นว่า เรานึกถึงพระคุณของท่านที่ได้ฝึกหัด จนกระทั่งมีความวิชาความรู้ความสามารถที่จะปฏิบัติงานได้ทุก ๆ สายงาน ทุก ๆวิชาชีพ ในเมื่อเรามีความรู้ความสามารถที่ได้มาจากท่าน เราก็ต้องมีมุทิตาจิต หรือมีความกตัญญูกตเวที รู้ถึงบุญคุญของท่านอยู่ตลอดไป

ดังนั้น เมื่อถึงช่วงปีที่มีโอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์โดยถือฤกษ์ยามดีตามวันเวลาที่เหมาะสม ทางวัดแสงแก้วโพธิญาณจึงกำหนดจัดให้มีงานไหว้ครูบูรพาจารย์ ประจำปีขึ้น เพื่อจะได้ กราบไหว้ บูชาเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งจัดเลี้ยงเครื่องสังเวยนานาชนิดให้ครูบาอาจารย์ ทั้งหลายแหล่ปีละครั้งแล้วแต่กำลังศรัทธาจะทำงานใหญ่งานเล็กก็ไม่จำกัด ขอให้ได้จัดงานเพื่อเป็นการสนองพระคุณของท่านก็เป็นการพอกับความต้องการ

การไหว้เคารพครูบาอาจารย์ โดยการเคารพนบนอบ และขอขมาลาโทษที่ได้ทำผิดพลาดพลั้ง ขาดตกบกพร่องทั้งเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หากถึงปีหนึ่งเราจะทำเช่นนี้กันตลอดไปก็จะเป็นการดีสำหรับตัวเราเองและครอบครัวครูบาอาจารย์ท่านก็จะได้อโหสิกรรม และยกโทษในการกระทำที่ผิด ๆ ของเรา และท่านยังจะอวยชัยให้พรให้เราและครอบครัว เจริญรุ่งเรืองมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้น

มี 1 ชุด (5 องค์)
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับผม

 

(((โชว์ครับ)))

 

กาวตราช้างธรรมดานี่แหละครับ

 

โปรโมชั่นพิเศษเดือน มิ.ย.
สำหรับท่านที่บูชาพระเครื่องในกระทู้นี้ 1 user ต่อการบูชา 1 ครั้ง

ผมขอแถม พระผงทำน้ำมนต์ พิมพ์สิกขี
อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
ให้ต่อการบูชาพระเครื่อง 1 ครั้ง 1 องค์ครับ



พระผงทำน้ำมนต์ รูปไข่ใหญ่ พิมพ์สิกขี สีดำ สมาธิพิชิตภัยพิบัติ น.ส ปาริชาติ อรรัตนสกุล สร้างแจกฟรี คุณ อานุภาพ (โอ๋) บุญเกียรติ เป็นผู้ถวายหลวงปู่ศรี มหาวีโร ปลุกเสก 27 ธันวาคม 2552 จำนวนสร้าง 20,000 องค์ครับ

ประวัติการจัดสร้าง



คณะศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงและคณะศิษย์หลวงปู่ดู่วัดสะแกร่วมกันจัด สร้างถวาย และหลวงปู่ได้อธิษฐานจิตเมื่อปี 2552 โดยคุณอานุภาพ (โอ๋) บุญเกียรติ เป็นผู้ถวายหลวงปู่และได้กราบเรียนหลวงปู่ศรีขอ "พลังอรหันต์ พลังเหนือโลก" และ ขอบารมีหลวงปู่ศรีอธิษฐานจิตให้มีพุทธคุณครอบจักรวาลครบ ทุกด้าน ทั้งกันและแก้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งนิวเคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ เป็นมหาสะท้อน มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี อีกทั้งสามารถอธิษฐานทำน้ำมนต์ตามแหล่งน้ำต่างๆได้ โดยมีรัศมีและพุทธานุภาพครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำและอธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้ตามที่อธิษฐาน ให้เห็นผลโดยฉับพลัน.

 

รายการที่ 67

ลูกอมผงพรายกุมาร
หลวงปู่ครูบาปัน โพธิรังสี วัดแม่ยะ จ.ตาก



ลูกอมผงพรายกุมารของหลวงปู่ปัน วัดแม่ยะ ที่ลูกศิษย์ของท่านคือ คุณชินพร และคุณสุเทพ ได้นำผงพรายกุมารที่เหลือสะสมไว้จำนวนหนึ่ง หลังจากหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ละสังขารแล้ว ด้นำผงนี้ไปมอบให้ หลวงปู่ปัน (ครูบาปัน โพธิรังสี) วัดแม่ยะ จังหวัดตาก เมื่อปี พ.ศ.2519 โดยสร้างเป็นลูกอมทาทองบรอนซ์และตอกโค้ดรูปยันต์ใบพัด ปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยจึงแล้วนำออกให้บูชาที่วัดเมื่อปี 2521

หลวงปู่ปัน ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา วัตถุมงคลของท่านมีดีที่เมตตาและโชคลาภครับ ปัจจุบันสายหลวงปู่ทิม เริ่มเสาะหาและเก็บตุนกันแล้ว ไม่ใช่แต่เพียงในประเทศ แม้แต่ต่างประเทศก็เริ่มให้ความสนใจกันแล้ว อีกหน่อยจะหายากและค่านิยมจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตอนนี้ใครรู้แล้วก็หาเก็บๆกันไว้นะครับ

ลูกอมของหลวงปู่ปัน วัดแม่ยะ นี้ สร้างตั้งแต่สมัยหลวงปู่ทิมมรณะภาพใหม่ๆ ผสมผงพรายกุมารเยอะมากๆเพราะตอนนั้นผงพรายกุมารยังมีเยอะและค่านิยมเล่นหายังไม่สูง ความนิยมยังไม่สูง จึงมีผงพรายกุมารผสมอยู่มาก ท่านที่ต้องการวัตถุมงคลที่ผสมผงพรายกุมารเข้มข้นพอๆกับยุคที่หลวงปู่ทิมสร้างเองไม่ควรพลาดครับ เป็นอีกชิ้นที่อยากแนะนำน่าใช้มากๆครับ

เป็นอีกหนึ่งของดีราคาถูก ที่ใครหาผงพรายกุมารของ ลป.ทิม ไม่ได้ แนะนำเลยครับ ลูกอมนี้มีผงพรายกุมารเหมือนกันครับ บูชาได้สบายใจแถมสบายกระเป๋าด้วยครับ

มีลูกเดียวเลี่ยมแสตนเลสให้พร้อมใช้ครับ
แบ่งบูชา 1,200 บาท ครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับผม