** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ช่วงบ่ายผม เข้าไปครับ
เดี๊ยวเจอกันที่พันธ์ทิพย์ ครับผม
ช่วงนี้ก็ยุ่งๆเหมือนกันครับ พี่..... เอารูปเก่าๆมาดูกันอีกรอบล่ะกันแก้เหงานะค๊าบ

 

แจ๋วมาก ผมเองมีเหมือนคุณโจแค่2องค์เอง ขอเป็นรองๆๆเจ้ากรมแล้วกันฮะ(k)

 

ชุดนี้ก็ใช้อยู่ประจำเหมือนกันครับ

 

ที่เห็นนี้เป็นพิมพ์หลวงปู่ทวดรึป่าวครับ ผมตาไม่ค่อยดี(แก่แล้วฮะ)

 

เยี่ยม.....ครับพี่แม๊ก ชอบองค์เล็ก ขวามือจัง อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

พี่เห็นปิดตายันต์ยุ่งองค์นี้แล้วขลังมั่ก ทำให้คิดถึงหลวงปู่ทับ วัดทอง

 

เรื่องจริง..จากเพื่อน

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ท่านเป็นคนดีมากที่เดียวครับ ทำอะไรเพื่อมวลชนมากที่เดียว แต่ตัวเองท่านเองปกติก็ไม่เคยห้อยพระ แขวนพระองค์ใดแต่อย่างใด

มาเมื่อก่อนเกิดเหตุได้สักอาทิตย์เดียว ท่านไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ก็พอดีช่วงระหว่างที่รอเพื่อนๆคนอื่นอยู่ ก็ไปยืนอยู่ที่บริเวณตู้พระริมข้างทาง ณ จังหวัดหนึ่ง

ท่านไม่มีอะไรทำ ก็เลยไปส่องๆ ที่ตู้พระนั้น ก็เหลือบไปเห็นพระองค์นี้ เรียกว่า เหรียญหลวงปู่แป้น จ.สิงห์บุรี เป็นเหรียญรุ่นเก่าที่เดียว สร้างราวปี 2480 กว่าๆ ปกติคนนอกพื้นที่ก็ไม่ค่อยรู้จักเหรียญนี้เท่าไรหรอกครับ เพราะไม่ได้เป็นเหรียญหลักเล่นหาเป็นมาตรฐานทั่วประเทศ อีกทั้งจำนวนการสร้างก็น้อยมากๆ เพียงหลักร้อยองค์ รู้สึกจะมีอยู่ 2 เนื้อ คือ เนื้อทองแดง กับ อัลปาก้า ถึงแม้จะเป็นเหรียญราคาถูกๆ แต่ก็ถือว่าหายากมากที่เดียวครับ

เหรียญเสมาหลวงปู่แป้น ด้านหน้าเหรียญจะเขียนเพียงว่า "หลวงพ่อพระครูแป้น ด้านหลังเป็นตัวยันต์ ไม่ระบุปี พ.ศ.ที่สร้าง" ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่า ยุคเดียวกับหลวงพ่อเดิม นัยว่าท่านเป็นสหายกัน และยังเป็นศิษย์หลวงปู่ศุขด้วย ท่านเป็นพระที่เก็บตัว ไม่ค่อยอยากเด่นอยากดัง คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักท่าน วัตถุมงคลก็สร้างน้อยมากๆ รู้สึกจะเพียงรุ่นเดียวหรือสองรุ่นนี่ล่ะ ไม่ค่อยสันทัด ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เรื่อง " เหนียว " นี่ เป็นที่เชื่อใจได้สนิทใจของคนในพื้นที่ ในสมัยนั้นคนชอบให้เด็กๆห้อยคอ ว่ากันว่า หมากัดเป็นไม่ได้แผลแน่ถ้าห้อยพระท่าน

ดังนั้นพระท่านที่พบโดยส่วนใหญ่ จึงมักมีสภาพไม่สวย เหรียญช้ำ หรือสึกมากๆ เพราะเกิดจากการใช้มาโชกโชนแบบเปลือยๆนั้นเอง..

ย้อนมาที่เพื่อนผม ท่านดูไปดูมาก็ไปเจอองค์นี้เข้า จำได้ว่าเป็นพระที่ตัวเองเคยห้อยสมัยเด็กๆ แต่ก็หายไปนานมากแล้ว ก็เลยคิดอยากได้ขึ้นมา ก็เลยถามเจ้าของร้าน เจ้าของถามว่า พี่เป็นคนสิงห์บุรีหรือครับ ถึงรู้จักเหรียญนี้..แกก็ตอบไปว่าใช่ เคยใส่แต่เด็กๆ 40-50 ปีมาแล้ว คนขายก็ชอบใจว่า.. ผมก็คนสิงห์เหมือนกัน แต่ย้ายมาอยู่จังหวัดนี่นานแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขายให้ถูกๆแล้วกัน คนบ้านเดียวกัน และองค์นี้ก็ขายยากเพราะคนไม่ค่อยรู้จักกัน ก็สรุปตกลงราคากันที่ เหรียญละ 400 บาท เสียเวลานำไปเลี่ยมทองแบบสำเร็จแถวๆนั้น แล้วก็นำขึ้นห้อยคอในวันนั้นเลย

คล้อยหลังมาสักอาทิตย์นี้ ขณะที่ท่านกลับรถเข้าบ้าน ก็ถูกกลุ่มมือปืนสองคนขี่มอเตอร์ไซด์มายิงถึงบ้าน แกหนีไม่ทันขณะลงจากรถกำลังจะเข้าบ้าน ก็โดนยิงจะๆนี่ล่ะครับ จากปืนทั้งสองกระบอก ผลปรากฏแชะๆ..แกได้ยินถนัดใจ..

หลังจากตั้งสติได้ จึงไปหลบอยู่หลังรถ ตั้งใจจะเผ่นเข้าบ้าน ช่วงที่ละจากหลังรถเพื่อวิ่งเข้าตัวบ้าน ก็โดนเสียอีก 1 นัด คราวนี้เสียงดังสนั่น แต่แกว่าได้ยินแต่เสียง ตัวเองไม่เห็นเป็นอะไร วิ่งเผ่นแน๊บไขประตูรีบเข้าบ้านทันที

เรียกนี้เป็นที่เกรียวกราวมาก ออกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอยู่ช่วงหนึ่ง ด้วยเกิดจากเมื่อตำรวจมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ผลปรากฏพบรอยกระสุนที่บริเวณรถ ที่แปลกก็คือ รอยกระสุนทั้งหมดทั้ง 9 จุดเป็นลูกปราย กลับเป็นแนวตรงกันเดี๋ยะเป็นเส้นตรง อันผิดปกติไปจากปืนลูก 9 ที่จะออกเป็นกลุ่ม ตำรวจก็ว่าตั้งแต่ทำคดีมาไม่เคยพบอะไรอย่างนี้ " พี่ห้อยพระดีอะไรครับ " แกก็บอกไป ทราบว่าต่อมาตำรวจทั้งโรงพักคราญหาพระรุ่นนี้กันให้ควัก

เรื่องเล่าคร่าวๆ ก็ประมาณนี้ล่ะครับ ประสบการ์ณก็คล้ายๆกับ เหรียญหลวงปู่กลั่น ปี 2505 ของหลวงปู่เรา

การห้อยพระเครื่อง ถึงแม้หลักๆเราจะห้อยเอาพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ แต่จะว่าไปบางที่บางเรื่อง มันก็เหนือกว่าการเข้าใจเหมือนกันน่ะครับ..ที่สุดแล้วผมว่า ตัวเราเองก็ต้องเป็นคนดีก่อน พระท่านถึงจะคุ้มครองจริงล่ะเน้อ...

(จากภาพ เหรียญลป.แป้น คือ พระองค์กลางครับ ส่วนอีกสององค์ ซ้าย-ขวา องค์สามเหลี่ยมเป็นของหลวงพ่ออี๋ สัตหีบ / อีกองค์เป็นพระปิดตาเนื้อเมฆพัฒน์ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระของท่านทั้งสอง ปกติก็รู้ๆกันอยู่ ราคาแพงพอสมควรที่เดียว แต่นี่..เป็นรุ่นที่ไม่ค่อยเล่นเป็นหลัก ราคาจึงไม่แพงนัก แต่ก็ทันท่านแน่นอน แต่ประสบการ์ณจริงที่เกิดกับเพื่อน หรือคนรู้จัก ก็เหมือนๆลักษณะกับที่เล่านี่ล่ะครับ ก็เลยนำมาจัดเข้าชุด "พระดีราคาถูก" เอาไว้เวลาเอาป่าออกดงน่ะครับ

จบ..

 

เป็นรูปหลวงพ่อน้อย ช่วงกำลังฝึกปฏิบัติครับ(อดอาหาร) ร่างเลยผอมอย่างที่เห็นในเหรียญครับ

 

คุณ Max ครับ ตระกรุดนี่ใช่ของหลวงปู่ฯมั๊ยครับ..

ดูเหมือนตระกรุดโสฬส หรือหัวผุ เลยน่ะครับ

 

สวัสดีครับพี่โจ สบายดีนะครับ ไม่ได้เจอพี่นานเลย...

ผมขอเอารูปพระที่ติดตัวประจำมาให้ชม ผมแขวนองค์เดียว เที่ยวไปไกลถึงญี่ปุ่นก็นิมนต์ไปด้วยครับ แนะนำติชมได้ตามสบายครับพี่...

 

ใช่ครับคุณโจ เป็นตะกรุดของหลวงปู่ดู่ครับยุคต้นๆสมัยอินโดจีน(เนื้อทองแดง) ปกติผมจะพกบ่อยเหมือนกันครับ(ใช้เวลาไปพูดจาทำธุระครับ)

 

องค์นี้พี่เคยเห็นของคุณนกแล้ว..ที่เห็นห้อยติดตัวเป็นประจำ..พระธาตุขึ้นเพี๋ยบเลย..องค์เดียวท่องทั่วโลก จำได้..

คุณนกกับแฟน สบายดีน่ะครับ.

รอมีโอกาสงานบุญ แล้วค่อยพบกันน่ะครับ

 

ดีครับได้ความรู้เรื่องเหรียญเก่าๆที่ไม่เคยรู้จักเพิ่มขึ้น ที่สิงห์บุรีผมรู้จักแต่ก็หลวงพ่อเชย วัดบางควาย ยุคเดียวกันกับลป.ศุขครับ (เคยฟังหลวงปู่ดูลย์ท่านบอกว่า เป็นพลังงานของจิตที่อยู่ในเหรียญ)

 

เรื่องตระกรุดหลวงปู่..นี่ก็แปลก..ถามใครที่ทันยุคหลวงปู่ และได้เคยกล้าถามหลวงปู่ท่าน หลวงปู่ท่านก็ว่า ทำเมตตาให้เป็นหลัก แต่งั๊ย..เวลาใช้จริง กับประสบการ์ณที่ได้ยินบ่อยๆ จึงออกไปทางสุดจะเหนียวเลยล่ะหนอ

ถึงว่าของหลวงปู่ฯท่าน..นีครอบจักรวาลจริงๆ..

 

ผมกับแฟนก็สบายดีตามอัตภาพ...ขอบคุณมากครับ

หากพี่ๆ มีโครงการจัดงานบุญแล้วต้องการให้ช่วยเหลืออะไร พี่ไม่ต้องเกรงใจนะครับ เรียกใช้ได้เลย ผมยินดีครับ

 

แว๊บ มาชมพระของท่านพี่ๆ

แต่แปลกใจนิดนึง ทำไมกระทู้นี้ของพี่ตุ้ย ถึงไม่อยู่ใน หมวด ประสบการณ์ เรื่องเล่า ครับ

 

หลวงปู่ดู่

เป็นพิมพ์หลวงปูทวดเนื้อโขลกปี 2520 ครับ เคยให้ท่านที่มีญาณท่านดูท่านว่าเห็นเป็นแสงสว่างจ้าสีขาวๆครับ ก็เลยพบติดกายตลอด

 

เพิ่งได้รับความเมตตาจากพี่ในเวปครับ
เลยนำไปใส่กรอบและนิมนต์แขวนวันนี้ครับผม

 

กำลังงง ทำไมย้ายมาอยู่ห้อง ประสบการณ์ เรื่องเล่า

 

สงสัยอาจจะเป็นเพราะ จุดประสงค์ของกระทู้นี้ไม่ได้เน้นให้บูชาซื้อขายเป็นหลัก รึป่าว ... ใจดีก็แจกกันไปเลย .... รวมทั้งมีอะไรดี ๆ ก็มาแบ่งปันกันทั้งเรื่องราว ทั้งประสบการ์ณต่าง ๆ ......

อืม .... แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็จะตามไปที่่นั่น .....