กฎแห่งความเจริญ และความเสื่อมของชาติ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 16 พฤษภาคม 2012.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

    เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๕


    กฎแห่งความเจริญ และความเสื่อมของชาติ


    คำว่าธรรมกับโลกแม้อยู่ด้วยกันก็ไม่เหมือนกันให้เราทั้งหลายได้ทราบไว้ท่านจึงมีคำว่าธรรมว่าโลกโลกก็คือการประพฤติหน้าที่การงานตามนิสัยของโลก แม้เช่นนั้นก็ยังต้องมีกฎหมายบ้านเมืองเป็นข้อบังคับเพื่อความสงบร่มเย็นแก่ส่วนรวม ทางธรรมมีความเข้มงวดกวดขันเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง


    ศาสนธรรมคือคำสั่งสอนที่ชี้บอกแนวทางการดำเนินชีวิต และให้รู้ทั้งทางผิดทางถูกสิ่งที่ผิดสิ่งที่ถูกและสอนวิธีละ สิ่งที่ผิดแม้ได้เคยทำมาแล้วก็สอนให้ละสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนก็สอนไม่ให้ทำสิ่งที่ดีที่เป็นจะประโยชน์แก่ตนและส่วนรวม ที่ยังไม่ทำก็สอนให้ทำที่เคยทำมาแล้วก็สอนให้บำรุงรักษาและบำเพ็ญต่อไปจนมากมูนพูนผลนี่คือวิธีการทางศาสนาสอนคนให้รู้จักผิดจักถูกดีชั่วละสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายซึ่งจะเป็นโทษแก่ตนผู้ทำและผู้เกี่ยวข้องกันสอนสิ่งที่ถูกให้รู้ว่าถูกและสอนวิธีทำให้ทำในสิ่งที่ถูกที่ดีทั้งหลายศาสนธรรมคือคำสั่งสอนที่ถูกต้องดีงาม


    ผู้มีความนับถือพระพุทธศาสนาแล้วยังต้องปฏิบัติตามหลักศาสนาด้วยถ้าอยากได้ผลเป็นที่พอใจโดยลำดับเพียงแต่การนับถือเท่านั้นยังไม่เพียงพอคำว่านับถือคือการยกย่องเทิดทูนยกไว้เป็นที่สูงเช่นวัตถุทางศาสนามีพระพุทธรูปเป็นต้นจัดท่านไว้ในที่สูงไม่ดูถูกเหยียดหยามคุ้มครองป้องกันศาสนาที่ตนนับถือเคารพบูชากราบไหว้ยึดเป็นหลักใจถือเป็นที่พึ่งเคารพนับถือทางใจไม่นับถืออะไรยิ่งไปกว่าเช่นนับถือศาสนาพุทธก็เคารพกราบไหว้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ที่เกี่ยวเนื่องกันและยึดเป็นสรณะของใจไม่ยึดถืออะไรเป็นสรณะยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าพระธรรมพระสงฆ์องค์สรณะของใจนี่เรียกว่านับถือพระพุทธศาสนา


    แต่การปฏิบัตินั้นคือปฏิบัติตามศาสนธรรมที่ท่านสั่งสอนไว้ที่ควรแก่เพศและวัยของตนซึ่งจะปฏิบัติได้ฆราวาสควรปฏิบัติได้ในศีลในธรรมข้อใดพระควรปฏิบัติในศีลในธรรมขั้นใดนี่เรียกว่าการปฏิบัติคือปฏิบัติตามศีลธรรมข้อนั้นๆที่ท่านแนะนำสั่งสอนไว้เรียกว่าการปฏิบัติภาคปฏิบัตินี้แลจะยังผลประโยชน์ให้เราเป็นคนดีและมีความสงบสุขได้ตามขั้นภูมิของการปฏิบัติเพียงแต่นับถือเฉยๆจะจัดว่าเป็นคนดียังไม่ได้นั่นพอเป็นเครื่องระลึกทางใจเล็กน้อยว่านับถือศาสนาคือพระพุทธเจ้าพระธรรมพระสงฆ์เท่านั้นการนับถือเพียงลอยๆโดยไม่มีการปฏิบัติแนบไปด้วยก็ไม่ค่อยเกิดประโยชน์เท่าที่ควรการนับถือตามประเพณีนับถือตามการบอกเล่านับถือพอเป็นพิธีนับถือเพื่อกันครหานินทาว่าคนไม่มีศาสนาเหล่านี้ไม่ค่อยเกิดประโยชน์เพราะไม่ได้นับถือด้วยความสนใจด้วยศรัทธาด้วยความเข้าอกเข้าใจในศาสนาหรือในพุทธธรรมสงฆ์อย่างซึ้งใจพอจะเป็นเครื่องระลึกอันอบอุ่นของใจเป็นประโยชน์สุขของใจได้ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร


    เพราะฉะนั้นคำว่าศาสนาก็ดีการนับถือพุทธศาสนาก็ดีเราเป็นชาวพุทธควรจะทราบไว้ทั้งสองเงื่อนแล้วควรจะมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองเงื่อนนี้ด้วยโดยถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของตนโดยแท้จริงด้วยกันและต่างคนต่างนับถือเคารพบูชาเทิดทูน ต่างคนต่างปฏิบัติตามศาสนาพอเหมาะสมแก่เพศและวัยของตนๆชาวพุทธเราจะสง่างามและเด่นในปวงชนพลโลกทั่วๆไปเพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สง่างามมากด้วยคุณสมบัติไม่บกพร่องเลยและเหมาะสมกับคนทุกชาติชั้นวรรณะ


    การรู้ดีรู้ชั่วจิตใจของมนุษย์เราพร้อมที่จะรู้อยู่แล้วแต่ความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายนั้นเป็นความอยากที่ผิดเราควรพยายามละเว้นความอยากในสิ่งที่ผิดเช่นอยากดูสิ่งที่ไม่ดีสิ่งที่แสลงใจสิ่งที่ทำใจให้เสียสิ่งที่จะทำเราให้เสียอยากฟังสิ่งที่จะทำเราให้เสียเป็นต้นซึ่งเป็นความอยากของจิตที่เป็นฝ่ายต่ำอันจะทำเราและผู้เกี่ยวข้องเช่นลูกเล็กเด็กแดงที่ไม่รู้ประสีประสาเป็นต้นให้เสียได้และนำธรรมเข้ามากีดกันต้านทานความอยากนั้นไว้อย่างน้อยก็ให้มีขอบมีเขตพอประมาณไม่ปล่อยเลยตามเลยแบบรถเบรกแตกถ่ายเดียวจะทำให้เสียคนและเสียจนแก้ไขไม่ได้จนถึงขั้นแหวกแนวและจมไปเลยก็มีมาก


    ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องรักษามีธรรมเป็นเครื่องเตือนใจมีธรรมเป็นเครื่องกระซิบอยู่ภายในใจบ้างแล้วคนเราจะได้สติคนเราจะรู้สึกตัวแม้จะทำผิดก็รู้สึกตัวแล้วแก้ไขได้ง่ายพอคิดจะทำผิดมากผิดน้อยหนักเบาต่างๆความรู้สึกตัวว่าจะผิดนั้นจะเตือนให้ได้สติทันทีและหักห้ามตนได้ดังนั้นคนที่มีศาสนาประจำใจจึงปลอดภัยจากความชั่วร้ายทั้งหลายหิริโอตตัปปะหากเตือนหรือกระซิบขึ้นภายในใจที่ธรรมท่านว่าพระธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรมไม่ให้ตกไปในที่ชั่วนั้นคือผู้รักษาปฏิบัติธรรมประจำใจพระธรรมท่านย่อมรักษาไม่ให้ผู้นั้นตกไปเป็นคนชั่วไม่ให้ตกนรกทั้งเป็นทั้งตายสำหรับคนที่มีความรักธรรมอยู่แล้ว ย่อมจะระงับความคิดความอยากทำของตนได้ด้วยธรรม


    วิธีการปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนา และในขณะเดียวกันก็คือการปฏิบัติต่อตัวเองนั่นแลเพราะศาสนาเป็นทั้งเครื่องประดับคนให้สวยงามทางจิตใจมรรยาทการแสดงออกความประพฤติหน้าที่การงานสะอาดเป็นทั้งเครื่องบำรุงรักษาจิตใจให้แช่มชื่นเบิกบานและความสงบสุขร่มเย็นภายในใจเป็นทั้งเครื่องส่งเสริมครอบครัวและสังคมให้สงบร่มเย็น


    คำว่าศาสนาคือสมบัติกลางของหมู่ชนพระพุทธเจ้าผู้เป็นองค์ศาสดาก็เป็นศาสดาของโลกพระธรรมพระสงฆ์ก็เป็นสรณะของหมู่ชนตามแต่ใครจะสงวนรักษา ศาสนธรรมก็เป็นสมบัติอันอุดมมงคลแก่ผู้นั้นศาสนธรรมเป็นธรรมเสมอภาค ให้ความเสมอภาคแก่ผู้นับถือไม่ลำเอียงพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนโลกด้วยพระเมตตาสุดส่วนไม่มีใครเสมอเหมือนพระองค์มีความสมบูรณ์พูนผลทุกสิ่งทุกอย่างแล้วไม่มาแบ่งสันปันส่วนจากชาวพุทธเราผู้นับถือท่านเลยแม้แต่น้อยนอกจากประทานพระโอวาทคือคำสั่งสอนไว้ด้วยพระเมตตาล้วนๆเท่านั้นเราปฏิบัติได้มากได้น้อยเป็นสมบัติของเราเองไม่ใช่เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าพระองค์ไม่ประสงค์อันใดกับสัตว์โลกนอก จากความมุ่งหมายให้สัตว์โลกทั้งหลายได้รับความร่มเย็นแก่ตนตามกำลังศรัทธา และการประพฤติปฏิบัติ ตามหลักศาสนธรรมที่ทรงสั่งสอนไว้เท่านั้น


    ความบริสุทธิ์ในสากลโลก ก็ไม่มีความบริสุทธิ์ใดเสมอความบริสุทธิ์แห่งศาสนธรรมที่ประกาศสอนไว้ด้วยสวากขาตธรรมธรรมที่ทรงรู้แจ้งแทงตลอดมาแล้วทั้งบุญบาปนรก สวรรค์เป็นธรรมชาติมีอยู่โดยสมบูรณ์ และพร้อมที่จะแสดงความจริงให้โลกผู้ทำและบำเพ็ญได้ประสบตามความมีอยู่แห่งธรรมเหล่านั้นไม่ลำเอียง


    การสั่งสอนโลกก็ไม่มีใครสั่งสอนด้วยความบริสุทธิ์ใจเหมือนพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงสั่งสอนด้วยความบริสุทธิ์ใจและพระเมตตามหาคุณจริงๆไม่มีคำว่าหวังสิ่งตอบแทนจากสัตว์โลกแม้เล็กน้อยภายในพระทัยจึงมีพระนามว่ามหาการุณิโกนาโถหิตายสพฺพปาณินํพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันเอกของโลกเต็มไปด้วยพระเมตตาสงสารแก่สัตว์โลกเรื่อยมานับแต่วันตรัสรู้จนกระทั่งปรินิพพานจนหมดพระกำลังที่จะทรงสั่งสอนได้ต่อไปแล้วยังประทานศาสนธรรมไว้เป็นขวัญใจ เป็นประทีปดวงไฟอันสว่างไสวไว้ส่องทางแก่สัตว์โลกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันวันนี้พวกเราจะหาใครที่เปี่ยมด้วยเมตตาดังศาสดาของโลกองค์นี้


    ศาสนธรรมที่โลกชาวพุทธได้นับถือกราบไหว้สักการบูชาปฏิบัติตามเรื่อยมาจนบัดนี้จะหาได้จากผู้ใดซึ่งสมัยนี้เต็มไปด้วยคนใจดำน้ำขุ่นคับแคบตีบตัน เห็นแก่ตัวโลภมากเต็มไปด้วยความเอารัดเอาเปรียบคดโกงรีดไถกอบโกยด้วยแล้วยิ่งห่างไกลกันลิบลับกับศาสนธรรมที่เป็นธรรมสะอาดยุติธรรม


    อย่างไรก็ตามถ้ายังมีผู้ยอมรับความจริงคือผิดก็ยอมรับว่าผิดว่าถูกอยู่และพยายามแก้ไขดัดแปลงตามหลักแห่งความยุติธรรมซึ่งความจริงยอมรับศาสนาก็ยังจะมีอยู่ในหัวใจของสัตว์โลกต่อไปและโลกก็จะมีความร่มเย็นเป็นสุขทั่วหน้ากันโดยสม่ำเสมอตามที่ตนนับถือและปฏิบัติตามศาสนธรรมจะไม่เป็นโลกที่รุ่มร้อนไม่เป็นโลกที่เป็นฟืนเป็นไฟเผากันโดยถ่ายเดียว


    เท่าที่โลกมีความรุ่มร้อนมากมายไม่ว่าในบ้านในเมืองไม่ว่าที่ไหนๆทวีปใดแสดงออกตั้งแต่เรื่องความรุ่มร้อนความระส่ำระสายความวุ่นวี่วุ่นวายการรบราฆ่าฟันกันความสงบสุขของกลุ่มชนแทบไม่ปรากฏนั้นเพราะจิตใจโลกห่างเหินจากศีลธรรมและหันหน้าเข้าหากิเลสตัวเป็นฟืนเป็นไฟตัวไม่ไว้หน้าใครขอแต่ได้เป็นเอาไม่คำนึงถึงความผิดถูกชั่วดีความโลภจึงมากความโกรธความเคียดแค้นจึงพอกพูนราคะตัณหาจึงออกหน้าออกตาออกร้านออกโรงส่งเสริมไฟแผดเผากันการห่างเหินจากศีลธรรมจิตใจโลกจึงหันเหเร่ร่อนการกินอยู่หลับนอนไม่เป็นสุขเห็นของดีว่าเป็นของชั่วเห็นผิดเป็นถูกเห็นถูกเป็นผิดสิ่งไม่ควรว่าเป็นของควรสิ่งที่ควรเห็นเป็นของไม่ควรกลับตาลปัตรกัน


    โลกที่เคยสงบเย็นจึงกลับกลายเป็นโลกที่รุ่มร้อนเป็นฟืนเป็นไฟและแสดงผลรุนแรงยิ่งขึ้นเพราะความส่งเสริมนั้นเป็นผลลบแก่ศาสนธรรมคือความถูกต้องดีงาม ความสงบร่มเย็นที่โลกหวังกันจึงนับวันล้าหลังลงทุกวันเวลาเพราะหวังแต่ผลดีส่วนเหตุชอบขวนขวายในทางที่เป็นข้าศึกต่อความสงบสุขความหวังจึงกลายเป็นลมๆแล้งๆไปเพราะเหตุเป็นตัวทำลายไม่หยุดหย่อนทั้งเพิ่มปริมาณขึ้นทุกเวลานาที


    ทั้งนี้ไม่ใช่โลกมีความรุ่มร้อนเพราะศีลธรรมเป็นเครื่องทำลายไม่ใช่โลกมีความไม่สงบวุ่นวายเพราะศีลธรรมเป็นเครื่องทำลายแต่เพราะความต่ำทรามของสิ่งที่มีอยู่ภายในจิตใจสัตว์โลกมันดลบันดาลหรือผลักดันบังคับให้โลกต้องยอมรับยอมเป็นไปตามในสิ่งที่ไม่ถูกว่าเป็นของถูกและยอมรับสิ่งที่ถูกนั้นว่าเป็นของไม่ถูกหรือเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นการเป็นงานเป็นกิจจะลักษณะทั้งส่วนย่อยส่วนใหญ่โลกจึงกลายเป็นโลกที่รุ่มร้อนขึ้นมาเพราะความผิดเหล่านี้เป็นตัวทำลายต่างหากมิใช่ศีลธรรมเป็นผู้ทำลาย


    ที่อื่นที่ใดสัตว์ตัวใดชนิดใดไม่ทำความเดือดร้อนได้มากยิ่งกว่ามนุษย์เพราะฉะนั้นมนุษย์จึงควรรู้สึกตัวว่าเป็นผู้เอารัดเอาเปรียบเป็นผู้ทำความเดือดร้อนแล้วพยายามปรับปรุงตัวและปฏิบัติตัวรักษาตัวด้วยศีลธรรมเพื่อความสงบร่มเย็นภายในตัวแต่ละรายๆก็จะเป็นความสงบแก่โลกได้มากมายเพราะมนุษย์เราฉลาดควรที่จะเสาะแสวงหาความดีงามและความสงบร่มเย็นอันเป็นผลที่พึงพอใจทุกตัวสัตว์ให้ปรากฏขึ้นในโลกอย่างเด่นชัดและเปิดเผย


    เหมือนดังที่ความเดือดร้อนวุ่นวาย ที่เกิดขึ้นอยู่ในโลกอย่างเด่นชัดและเปิดเผยทุกวันนี้ไปที่ไหนไว้ใจกันไม่ได้มนุษย์เราเพราะอะไรมองดูหน้ากันก็คอยแต่จะกัดจะฉีกกันเหมือนสุนัขคอยแต่จะฆ่าฟันรันแทงกันเผลอไม่ได้เพราะกิเลสตัวยักษ์ตัวเพชฌฆาตพาให้เป็นความโหดร้ายทารุณพาให้เป็นความเห็นแก่ตัวความอยากความทะเยอทะยานความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมความอยากมีหน้ามีตาความอยากมีชื่อมีเสียงความอยากเด่นอยากดังความอยากอัศจรรย์เกินโลกเขาทั้งๆที่สิ่งที่คิดสิ่งที่ชอบสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ต่ำช้าเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์แล้วจะทำให้มนุษย์มีความเด่นความดังมีความดีความชอบได้อย่างไรจะทำมนุษย์ให้มีความสงบร่มเย็นได้อย่างไรเมื่อสิ่งที่ทำกิจที่ทำสิ่งที่ชอบเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลวทรามมันจะยกฐานะมนุษย์ให้เป็นผู้วิเศษวิโสขึ้นมาได้อย่างไรต้องเหยียบย่ำทำลายผู้ทำนั้นให้ต่ำลงไปๆโดยถ่ายเดียวในขณะเดียวกันการทำชั่วเลวทรามก็เหมือนกับการก่อไฟความรุ่มร้อนก็ต้องตามมาด้วยกันการก่อความไม่ดีขึ้นมาก็คือการก่อทุกข์ขึ้นมาเผาทั้งตนและผู้อื่นไม่มีประมาณนั่นแล


    นี่แหละโลกร้อนเพราะการส่งเสริมสิ่งที่ต่ำทรามผลจึงเป็นไปเพื่อความรุ่มร้อนถ้าเป็นไฟก็มีแต่ก่อขึ้นถ่ายเดียวไม่สนใจนำน้ำมาดับกันเลยแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปได้โดยไม่ต้องสงสัยถ้าไม่มีการดับไม่มีการยับยั้งกันเลย


    ความอยากนั้นหาประมาณไม่ได้ไม่ว่าหัวใจใดไม่ว่าหญิงว่าชายไม่ว่านักบวชหรือฆราวาสแม้แต่สัตว์ก็อยากแต่สัตว์นั้นน่าให้อภัยเพราะไม่รู้ดีรู้ชั่วมีแต่ความอยากตามประสาสัตว์อยากกินก็กินอยากเที่ยวก็เที่ยวอยากกัดก็กัดอยากฉีกก็ฉีกกันไปตามธรรมชาติของสัตว์ที่ไม่มีความรู้ไม่ประสีประสาแต่มนุษย์เราที่มีความรู้ความฉลาดกว่าสัตว์แต่ไปทำอย่างนั้นจึงเป็นผู้ต่ำช้าเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์ไม่สมควรแก่ความเป็นภูมิมนุษย์ผู้ฉลาดกว่าสัตว์เลย


    ที่นี่ย่นเข้ามาการรักษาเพื่อความสงบสุขของโลกจะรักษาที่ไหนอันเป็นจุดใหญ่จุดสำคัญก็คือตัวของเราแต่ละท่านแต่ละคนพยายามระมัดระวังรักษาตัวให้อยู่ด้วยความดีงามทั้งหลายความผิดพลาดความไม่ดีทั้งหลายความต่ำช้าเลวทรามดังที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่จะยังผลให้เป็นทุกข์และมหันตทุกข์อย่าให้เข้ามากล้ำกรายภายในตัวเราแม้จะอยากก็ระงับไว้อย่าปล่อยตามอำเภอใจหากจะเป็นตามคติของธรรมดาก็ให้เป็นไปตามคติของธรรมดาของพลเมืองดีมีศีลธรรมกำกับอย่าให้เลยขอบเขตของคติธรรมดานี่ก็ยังเป็นความงามของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาจะอยู่ร่วมกันเป็นผาสุกไม่ผิดศีลธรรมของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกัน


    ดังธรรมท่านสอนไว้ว่ากาเมสุมิจฉาจารในศีลข้อที่สามเป็นต้นโลกทั้งหลายอยู่ในกฎธรรมชาติของผู้มีกิเลสจะพรากจากสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้จึงเรียกว่าเป็นหลักธรรมชาติหลักธรรมดาของคนมีกิเลสแต่อย่างไรก็ตามถ้าปล่อยให้เป็นไปตามความอยากที่เลยขอบเขตไม่มีประมาณแล้วก็จะทำให้โลกนี้เกิดมหันตทุกข์และฉิบหายวายปวงได้เช่นเดียวกันเพราะฉะนั้นท่านจึงให้มีธรรมเป็นเครื่องกำกับรักษาเอาไว้เพื่อความพอดีไม่เลยขอบเขตเหมือนกับคนมีโรคอย่างน้อยก็ให้มียาประจำบ้านประจำตัวมากกว่านั้นก็ให้มีหมอคอยตรวจดูแลและรักษาเป็นประจำโรคก็จะมีวันเบาลงพอสงบตัวได้และหายไปได้ด้วยยาและหมอไม่กำเริบรุนแรง


    นี่โรคกิเลสราคะตัณหาความอยากไม่มีเมืองพอนี้ถ้าไม่เอาธรรมเข้าไประงับแต่จะเอาความอยากความทะเยอทะยานเอาความคล้อยตามความอยากนี้เข้าไประงับจะเป็นการส่งเสริมความอยากนั้นให้มีกำลังรุนแรงมากขึ้นเลยไม่รู้ของเขาของเราจะยิ่งทำให้คนตาฝ้าฟางและบอดร้ายกว่าสัตว์เสียอีกถ้าไม่มีธรรมช่วยรักษาช่วยฉุดลากไว้ปล่อยให้มีแต่อำนาจของกิเลสตัณหาตาเป็นไฟถ่ายเดียวแล้วจะทำโลกให้พินาศฉิบหายได้จริงๆทั้งที่โลกมีความชอบความเพลิดเพลินรื่นเริงนั่นแลผู้ที่ชอบความรื่นเริงบันเทิงนั่นแลผู้จะเจอความทุกข์และความฉิบหายวายปวงเพราะการปล่อยตามฟืนตามไฟราคะตัณหาพาให้เลยขอบเขตไม่มีศีลธรรมเป็นเครื่องหักห้ามเอาไว้


    ด้วยเหตุนี้ศีลธรรมจึงเป็นของจำเป็น ซึ่งควรจะมีเป็นคู่เคียงของใจในบุคคลทุกเพศทุกวัยแต่ละคนแต่ละครอบครัวและแต่ละสังคมเพื่อระงับดับไฟราคะตัณหาตาเป็นไฟหูเป็นไฟจมูกเป็นไฟลิ้นเป็นไฟกายเป็นไฟใจเป็นไฟและไฟโทสะที่เป็นสหายกันก็มีทางระงับดับไว้ทันถ้ามีธรรมเป็นน้ำดับไฟประจำตน


    ธรรมคือความดีงามคือทำนบกั้นน้ำนตฺถิตณฺหาสมานทีแม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มีธรรมคือความสงบเย็นทางกายวาจาใจธรรมคือยารักษาโรคที่เกิดขึ้นภายในใจของสัตว์ความโลภเกิดขึ้นก็ก่อกวนจิตใจให้เดือดร้อนด้วยความหิวโหยดิ้นรนราคะตัณหาเกิดขึ้นก็ก่อกวนจิตใจให้เกิดความดิ้นรนกระวนกระวายและทะเยอทะยาน ลืมเฒ่าลืมแก่เสาะแสวงแต่ฟืนแต่ไฟมาเผาทรัพย์สมบัติเงินทองและเผาใจให้เดือดร้อนระส่ำระสายตั้งสติสตังรั้งตัวให้อยู่ในความสงบงามตาไม่ได้เพราะราคะตัณหามันเขย่าความหลงเหมือนไฟไหม้กองแกลบความไม่เอาไหนเกิดขึ้นและสุมอยู่ภายในจิตใจก็ทำผู้นั้นให้อับเฉาเศร้าซึมทำผู้นั้นให้เลื่อนลอยหาหลักฐานกฎเกณฑ์ไม่ได้ใจเหม่อลอยไม่มีสติควบคุมความประพฤติการแสดงออกใครชักชวนไปทางไหนก็หลับในไหลไปตามไม่คิดอ่านไตร่ตรองว่าถูกหรือผิดดีหรือชั่วประการใดๆ


    ถ้าปล่อยให้โรคประเภทเหล่านี้รุมอยู่ภายในจิตใจโดยไม่มียาคือธรรมเป็นเครื่องระงับเป็นเครื่องรักษาบ้างเลยแล้วก็จะทำตัวของผู้โลภผู้โกรธผู้หลงผู้รักผู้ชังเลยขอบเขตเหตุผลนั้นแลให้ฉิบหายวายปวงและระบาดสาดกระจายไปสู่คนอื่นให้เดือดร้อนเสียหายไปตามๆกันเพราะฉะนั้นธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่มากที่จะนำมาเคลือบแฝงหรือเป็นเบรกห้ามล้อเวลาความทะเยอทะยานจะพาลงเหวลงคลองไว้กำกับความอยากความประพฤติของฆราวาส


    ฆราวาสก็ต้องการความสุขเช่นเดียวกันเพศฆราวาสเพศพระเพศหญิงเพศชายนั้นเป็นสมมุติอันหนึ่งเท่านั้นแต่จิตใจนั้นไม่มีคำว่าหญิงว่าชายมันมีความอยากความต้องการสิ่งต่างๆเหมือนกันหมดและความอยากความต้องการนั้นๆความอยากความต้องการเช่นไรถูกความอยากความต้องการเช่นไรผิดประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรถูกประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรผิดเหล่านี้เป็นหน้าที่ของเราผู้ต้องการความสงบสุขและสารประโยชน์จะเสาะแสวงหามาด้วยความรอบคอบอันความรอบคอบนั้นก็ไม่หนีหลักศาสนธรรมไปได้เช่นสติสัมปชัญญะปัญญาความรอบรู้เหตุการณ์ต่างๆธรรมจึงเป็นสิ่งระงับดับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายได้เป็นอย่างดี


    ผู้มีธรรมย่อมมีการหักห้ามตนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ควรและให้โทษไม่ให้ทำถ้ารถก็มีเบรกไม่เหยียบคันเร่งเสียอย่างเดียวเช่นอยากอะไรก็เหยียบคันเร่งใส่ลงไปอยากดูอยากเห็นอยากได้ยินได้ฟังอยากลิ้มรสอยากเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อนที่ไหนก็เหยียบคันเร่งไปนี่คือคันเร่งเพื่อความฉิบหายล่มจมของผู้นั้นไม่ใช่คันเร่งเพื่อถึงจุดหมายปลายทางผู้มีธรรมย่อมไม่เหยียบคันเร่งแบบนี้คันเร่งของธรรมนั้นเร่งในหน้าที่การงานที่ถูกต้องดีงามหน้าที่การงานที่ชอบด้วยกฎหมายและศีลธรรม ท่านสอนให้มีความขยันหมั่นเพียรเหยียบคันเร่งใส่งานนั้นๆให้ได้ผลได้ประโยชน์ทันกับกาลกับเวลาไม่ให้ล่าให้สายไม่ให้เสียเวล่ำเวลานี่คือการเหยียบคันเร่งใส่การงานที่ชอบธรรมอันไหนไม่ดีเหยียบเบรกห้ามล้อทันทีคือหักห้ามตนไม่ให้ทำสิ่งใดดีมีประโยชน์ก็เหยียบคันเร่งคือขยันหมั่นเพียรในสิ่งนั้นไม่ให้ขี้เกียจอ่อนแอ


    คนเราถ้ามีทั้งคันเร่งมีทั้งเบรกด้วยการอบรมตนเองฝึกฝนตนเองผู้นั้นชื่อว่าผู้มีหลักมีเกณฑ์ความสุขความเจริญก็จะปรากฏขึ้นที่ใจและครอบครัวของผู้นั้นนี่แลคำว่าธรรมขอทุกท่านจงทราบเอาไว้ว่าเป็นอย่างนี้


    ธรรมกับโลกแม้อยู่ด้วยกันก็ต่างกันถ้าพูดถึงเรื่องคำว่าโลกๆแล้วส่วนมากมีแต่สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยในหัวใจของโลกคำว่าธรรมเป็นของสะอาดเทียบกับยามีไว้เป็นเครื่องระงับดับสิ่งที่เป็นภัยเหล่านั้นเมื่อแยกออกเป็นประเภทก็เป็นอย่างนี้ความโลภก็เป็นโรคชนิดหนึ่งความโกรธก็เป็นโรคชนิดหนึ่งความหลงเป็นโรคชนิดหนึ่งราคะตัณหาแต่ละอย่างๆเป็นโรคชนิดหนึ่งๆซึ่งเป็นเครื่องเสียดแทงจิตใจของโลกทั้งมวลทีนี้ธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องระงับดับสิ่งเหล่านี้แต่ละประเภทๆให้พอเบาบางให้พอตั้งเนื้อตั้งตัวให้พอสงบเย็นใจได้ไม่กลิ้งไปตามพลังของกิเลสประเภทต่างๆโดยถ่ายเดียวเหมือนฟุตบอล


    ผู้มีธรรมกับผู้ไม่มีธรรมจึงมีความสุขความทุกข์มีความสงบร่มเย็นต่างกันอยู่มากยกข้อเปรียบเทียบใกล้ๆให้เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นมีคนสองคนนั่งอยู่ด้วยกันคนหนึ่งมีความโลภมากคนหนึ่งไม่มีความโลภทั้งสองคนนี้ใครจะมีความสงบเย็นใจกว่ากันคนหนึ่งมีความรักมาก มีความเกลียดมากคนหนึ่งไม่มีความรัก ไม่มีความเกลียด แต่มีธรรมเป็นเครื่องระงับประจำใจอยู่เสมอคนทั้งสองนี้ใครจะมีความสุขความสงบเย็นต่างกันเรายกเพียงสองอย่างนี้เท่านั้นก็พอเข้าใจได้


    ใจของเราขณะที่มันแสดงพิษภัยขึ้นมาจะด้วยความโลภก็ตามความโกรธก็ตามความหลงก็ตามความรักด้วยอำนาจของราคะตัณหาก็ตามเป็นยังไงอากัปกิริยาที่แสดงออกดูไม่ได้เลยแม้ไม่แสดงออกก็เผาอยู่ภายในจิตใจให้เจ้าของเดือดร้อนวุ่นวายอยู่นั่นแลผิดกับขณะที่ฟืนไฟคือกิเลสตัณหาประเภทต่างๆไม่แสดงขึ้นภายในใจเป็นไหนๆเพราะฉะนั้นธรรมจึงเป็นของจำเป็นที่จะต้องนำมารักษาตัวเพื่อระงับดับโรคเหล่านี้ไว้ไม่ให้แสดงตัวผาดโผนรุนแรงซึ่งเป็นการกระทบกระเทือนตัวเองอย่างหนักดีไม่ดีอาจจมไปกับมันก็ได้


    เวลานี้เราที่กำลังเป็นนักศึกษาก็กำลังจะเป็นหลักของชาติบ้านเมืองในอนาคตแต่บัดนี้เป็นต้นไปเราจำต้องศึกษาและปฏิบัติทั้งวิชาทางโลกและทางธรรมเป็นคู่เคียงกันไปผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อเป็นแม่และเป็นครูอาจารย์ของเราก็ล้วนแต่เคยเป็นเด็กมาแล้วและเคยศึกษาอบรมทั้งหลักวิชาทางโลกและทางธรรมมาพอประมาณพอได้นำวิชามาสั่งสอนเราเราจึงมีครูมีอาจารย์สั่งสอนถ่ายทอดกันมาโดยลำดับเช่นนี้เพื่อเป็นหลักประกันของประเทศชาติบ้านเมือง


    หลักของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งกว่าตัวของบุคคลแต่ละรายๆเพราะฉะนั้นคำว่าชาติจึงเป็นเรื่องใหญ่โตมากผู้ที่เห็นแก่ชาติย่อมไม่เห็นแก่ตัวมากยิ่งกว่าชาติผู้ใดก็ตามถ้าลงเห็นแก่ตัวมากยิ่งกว่าชาติผู้นั้นคือผู้ทำลายชาติคนนั้นก็ทำลายคนนี้ก็ทำลาย ไม่ว่าจะทำหน้าที่การงานแผนกใดมีแต่คอยจะกินมีแต่คอยจะโกงจะคอร์รัปชั่นกินห้ากินสิบกินร้อยกินพันกินหมื่นกินแสนกินล้านและกินเป็นล้านๆกินทุกโต๊ะทุกเก้าอี้กินไม่มีหยุดมีถอยงานกว้างขวางมากมีอำนาจมากเท่าไรยิ่งกินมากกลืนมากไม่มีทางอิ่มพอและกินไม่หยุดไม่ถอยเพราะความเห็นแก่ตัวความเห็นแก่พุงมากยิ่งกว่าความเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง


    ได้เป็นผู้ใหญ่ผู้โตมีอำนาจมากคนถือหน้าถือตาตามสมมุตินิยม ตามกฎระเบียบมากแม้เขาจะหัวเราะเยาะเย้ยว่าไอ้ยักษ์พุงโตอยู่ด้านหลังก็ตามแต่เขาแสดงความประจบสอพลอต่อหน้าว่าตนเป็นคนดิบคนดีน่าเคารพนับถือ ควรเป็นใหญ่เป็นโตก็ตามก็ยิ่งมีแก่ใจเสริมกำลังใจให้ทำความชั่วได้มากขึ้นเมื่อทำความชั่วเพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่พวกพ้องของตัวด้วยการทุจริตคดโกงคอร์รัปชั่นได้มากเพียงไรก็เท่ากับทำลายชาติได้มากเท่านั้น


    เฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการของเราต่างคนต่างเป็นผู้ทำงานของชาติต่างคนต่างรักษาประเทศชาติบ้านเมืองรักษาสมบัติของชาติอย่าให้เป็นเรื่องตรงกันข้ามว่าเป็นผู้ทำลายชาติอยู่ทุกแห่งทุกหนตำบลหมู่บ้านนับตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่สุดลงมาจนถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านสารวัตรผู้ใหญ่บ้านต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตากอบโกยโรยทุกข์และความฉิบหายให้แก่ชาติด้วยการกินห้ากินสิบกินตั้งแต่เล็กจนถึงขั้นใหญ่โตมโหฬารข้าราชการคนหนึ่งๆเงินเดือนๆละไม่กี่บาทแต่มีเงินใต้ดินเป็นหมื่นๆแสนๆล้านๆสิบๆร้อยๆล้านยิ่งกว่ามหาเศรษฐีเมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศชาติบ้านเมืองจะเอาหลักมั่นคงมาจากไหนนอกจากนับวันจะฉิบหายวายปวงลงไปเรื่อยๆด้วยความเห็นแก่ตัวเห็นแก่พุงเป็นผู้ทำลายหลักใหญ่แห่งความฉิบหายล่มจมของชาติอยู่ตรงนี้เป็นสำคัญกว่าอื่นจงพากันระมัดระวังให้มากเพราะคนทั้งชาติใครๆก็ไม่อยากพบอยากเห็นคำว่าชาติล่มจมคนล่มจมแม้รายบุคคลจะล่มจมไปบ้างก็มีผลลบน้อยแต่ชาติล่มจมมีผลลบมากไม่อาจคิดคำนวณได้และไม่อยากพบอยากเห็น ไม่อยากได้ยินกันเลยทั่วแผ่นดินไทยว่าชาติล่มจม


    ชาติเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเราที่เทิดทูนอย่างยิ่งไม่มีอะไรเกินชาติตัวของเราอยู่ได้เพราะชาติบ้านเมืองเป็นหลักแม้จะทุกข์จนข้นแค้นก็ยังพอมีที่ซุกหัวนอนยังพอมีที่อยู่อาศัยไม่เหมือนสุนัขตัวขี้เรื้อนถูกขับไล่เฆี่ยนตีอยู่ทุกกาลสถานที่หาที่ปลงหางวางหัวนอนไม่ได้ถ้าเราเกิดคิดเกิดทำตัวเป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าชาติก็เท่ากับเราตั้งหน้าตั้งตาทำลายชาติไม่อาจสงสัยนี่เราไม่ได้มาทำลายชาติเราศึกษาเพื่อรักษาและเทิดทูนชาติการทำหน้าที่การงานก็เพื่อชาติบ้านเมืองจะได้อยู่รอดปลอดภัยโล่งใจสบายกายมีอิสรเสรีทั่วหน้ากันด้วยความเป็นเจ้าของของชาติร่วมกันอยู่ร่วมกันเห็นใจกันให้อภัยกันมีอะไรเมตตาแบ่งปันกันอยู่กันกินด้วยความมีศีลมีธรรมมีกฎหมายบ้านเมืองเป็นเครื่องปกครองรักษาให้มีความสงบร่มเย็นต่างคนต่างเคารพและปฏิบัติตามกฎระเบียบของชาติคือส่วนรวมไม่ล่วงเกินฝ่าฝืนและทำลายเพราะกฎหมายระเบียบคือขื่อคือแปของชาติ


    นี้คือวิธีการรักษาชาติบ้านเมืองไม่ให้เป็นดังที่กล่าวผ่านมาแล้วนั้นนั้นไม่ได้ตำหนิติเตียนท่านผู้หนึ่งผู้ใดแต่กล่าวตามหลักธรรมอันเป็นหัวใจแห่งความถูกต้องดีงามเพื่อบุคคลและส่วนรวมอันหาประมาณมิได้ว่าส่วนใหญ่จะฉิบหายวายปวงไปเพราะอะไรและส่วนใหญ่จะมีความมั่นคงและส่วนย่อยคือรายบุคคลแต่ละคนๆตลอดสมบัติของชาติจะอยู่คงเส้นคงวาได้เพราะเหตุใดก็มันคงอยู่ได้เพราะต่างคนต่างมีความเข้มงวดกวดขันระมัดระวังรักษาทรัพย์สมบัติของชาติไว้ให้แน่นหนามั่นคงไม่ให้รั่วไหลแตกซึมเราก็พลอยอยู่ร่มเย็นเป็นสุขไปด้วย


    อันเรื่องกลัวภัยภายนอกๆนั้นก็กลัวและช่วยกันระวังไม่ควรประมาทแต่ให้กลัวภัยภายในให้มากไว้ด้วยจะเป็นความรอบคอบขอบชิดเพราะภัยมีได้ทั้งภายนอกและภายในไม่อาจสงสัยเมื่อทราบไว้อย่างนี้ต่างคนจะได้ขะมักเขม้นจะได้อุตส่าห์พยายามจะได้เข้มงวดกวดขันในการระมัดระวังรักษาสิ่งที่เป็นภัยจะได้ไม่ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้เกิดขึ้นภายในเช่นเราระวังไฟจะไหม้มาจากนอกบ้านเข้ามาในหมู่บ้านของเรากับไฟที่กำลังไหม้อยู่ในเรือนของเราเวลานี้เราจะระวังอะไรมากกว่ากันและไฟอะไรที่เป็นภัยมากที่สุดเป็นไฟที่กำลังไหม้อยู่ในบ้านในเรือนเราหรือเป็นไฟที่กำลังไหม้เข้ามาจากภายนอกบ้านนั้นไฟไหนเป็นภัยมากกว่ากันเราก็ตอบได้ง่ายๆว่าไฟที่กำลังลุกโพลงๆอยู่ภายในบ้านเรานั้นแลเป็นไฟที่สามารถเผาให้พินาศฉิบหายได้มากที่สุดบรรดาสมบัติที่มีอยู่ในบ้านนั้นและไหม้ติดต่อกันไปในที่ต่างๆรอบบ้านรอบเมืองจนเรียบวุธเป็นผุยผงไม่มีอะไรเหลือก็คือไฟในบ้านนั้นแล


    ไฟภายนอกมันยังอยู่ห่างไกลไฟภายในเป็นของสำคัญที่สุดผู้ที่ทำความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมืองก็คือผู้รักษาบ้านเมืองนั่นแลเป็นสำคัญมีโอกาสทำได้ง่ายและมากกว่าคนธรรมดาตาสีตาสาและคนภายนอกที่ถือว่าเป็นภัยแก่ชาติด้วยการได้รับประกาศการแต่งตั้งโดยหน้าที่โดยตำแหน่งและอำนาจแต่การกระทำไม่ได้เป็นไปตามหน้าที่ตำแหน่งและอำนาจแต่กลับทำสิ่งที่เป็นฟืนเป็นไฟเผาผลาญประเทศชาติบ้านเมืองอย่างลึกลับโดยอาศัยอำนาจหน้าที่เป็นโล่บังหน้าแล้วทำชั่วได้ทุกแผนกงานและทุกสิ่งทุกอย่างโกหกปลิ้นปล้อนหลอกลวงคดโกงรีดไถคอร์รัปชั่นบั่นทอนจิปาถะที่พอจะทำได้ทำทั้งนั้นนี้คือการก่อไฟเผาชาติบ้านเมืองให้แหลกเหลวล่มจมไปได้ทั้งสิ้นไฟภายในบ้านในเรือนจึงสำคัญมากบ้านเมืองจะล่มจมก็เพราะเหตุการณ์อันนี้เป็นสื่อเป็นทาง


    การที่บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองและหนาแน่นมั่นคงไปได้ก็เพราะต่างคนต่างระมัดระวังต่างคนต่างรักชาติและต่างคนต่างรักษาต่างคนต่างเห็นส่วนรวมเป็นของสำคัญเราแต่ละคนเป็นสมบัติย่อยเป็นส่วนย่อยๆที่ต้องอาศัยชาติบ้านเมืองอยู่ถ้าบ้านเมืองอยู่ได้เราก็อยู่ได้บ้านเมืองเย็นเราเย็นถ้าบ้านเมืองร้อนเราก็ร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้จะมีเงินทองกองสมบัติต่างๆกองเท่าภูเขา ก็ไม่มีหวังความอยู่เย็นเป็นสุขเราจะต้องเป็นผู้เดือดร้อนและล่มจมคนหนึ่งเช่นเดียวกับชาติบ้านเมืองที่ล่มจมไปนั่นแล


    เมื่อคิดอย่างนี้แล้วก็ควรพยายามต่างคนต่างรักษาเทิดทูนชาติบ้านเมืองของเรา ทำหน้าที่การงานด้วยความสุจริตต่างคนต่างสุจริตต่อหน้าที่การงานการงานก็สะอาดผลรายได้ที่ตกมาก็ทั้งเข้าหลวงทั้งเราเป็นลูกของหลวงเข้าเป็นสมบัติของชาติเราเป็นลูกของชาติเราก็มีส่วนด้วยและมีความร่มเย็นเป็นสุขด้วยชาติก็แน่นหนามั่นคงนี่แลชาติอยู่ได้เพราะความรักสงวนและรักษาของคนในชาติต่างไม่บ่อนทำลายชาติด้วยวิธีกลต่างๆศาสนาท่านสอนอย่างนี้เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ทราบเอาไว้ว่าส่วนใหญ่เป็นอย่างไรส่วนย่อยเป็นอย่างไรมีความเป็นอยู่เกี่ยวโยงกันอย่างไรถ้าไม่เช่นนั้นก็จะไม่เข้าใจก็จะเข้าใจเสียว่าพุงของเราเท่านั้นดีกว่าพุงของชาติดีกว่าสมบัติของชาติ แล้วก็จะสนุกกอบโกย


    วันหนึ่งคืนหนึ่งไม่ทราบว่ากอบโกยสมบัติของชาติไปเท่าไรเงินเดือนๆหนึ่งๆพอประมาณและประชาชนเขายินดีเพราะเป็นความสุจริตแต่เงินกอบเงินโกยนี้ไม่ทราบว่ากี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านกอบโกยไม่หยุดไม่ถอยทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่สมบัติของชาติฉิบหายวายปวงไปตลอดเวลาจนถึงความล่มจมไปเลย เพราะความกอบโกย เพราะความเห็นแก่ตัวเพราะความพุงหลวงพุงโตนี่เป็นเรื่องใหญ่โตมากเป็นสิ่งที่ร้ายมากถ้ายักษ์ก็มหายักษ์ไม่มีอะไรเกินมนุษย์ประเภทพุงโตเห็นแก่ตัวกินไม่มีวันอิ่มพอ กระทั่งตายไปเปล่าเงินเข้าหลวงยังไหลออกสู่ประชาชนด้วยโครงการต่างๆเช่นถนนหนทางหรือพัฒนาการด้านต่างๆประชาชนพอมีงานทำและได้เงินจากหลวงมาเลี้ยงอัตภาพครอบครัวส่วนเข้าพุงยักษ์ไม่มีทางไหลออกดังกล่าวถ้าพุงไม่มีส่วนด้วย


    เพราะฉะนั้นให้เราทั้งหลายได้กลัวตรงนี้มากยิ่งกว่ากลัวอย่างอื่นๆอย่าง... อะไรเหล่านั้นอย่าไปคิดให้มากจนลืมมองไฟในเรือนที่กำลังไหม้สุมอยู่ทั้งที่แจ้งแลที่ลับแต่การกล่าวทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คิดให้คิดเหมือนกันและให้รักษาเหมือนกันต้องคิดให้รอบคอบและรักษาให้ดีเพราะเป็นภัยเป็นไฟด้วยกันและให้คิดสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ภายในเวลานี้ซึ่งเป็นไปทั่วแผ่นดินเป็นไปในแผนกต่างๆแห่งการงานทั้งหลายในวงของผู้รักษาชาติบ้านเมืองนี้ที่สำคัญมากให้พากันรักษาอันนี้ระวังอันนี้แก้ไขอันนี้อย่านอนใจไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะล่มจมและจะเห็นแต่เถ้าถ่านไม่อาจสงสัยการทำลายบ้านเมืองการทำลายสมบัติของชาติซึ่งเป็นของมีค่ามากเราจะอยู่ได้อย่างไรถ้าชาติไม่มีชาติล่มจมเราก็พลอยล่มจมไปด้วย


    การเป็นผู้น้อยเขามันดียังไงแม้แต่เป็นคนใช้รับจ้างทำงานในบ้านเขาเจ้านายจะดีแสนดีก็ยังต้องมีปมด้อยอยู่นั่นแหละสำหรับมนุษย์เราที่ชอบอิสระเป็นนิสัยย่อมอดคิดไม่ได้ว่าเราเป็นคนใช้เขารับจ้างเขาทั้งๆที่เจ้านายเป็นผู้ดีมีศีลมีธรรมประจำใจมีความเมตตาสงสารสงเคราะห์สงหาไม่ให้อดให้อยากขาดแคลนอะไรเลยมีความรักความสงสารเช่นเดียวกับลูกเต้าในบ้านของตนแม้เช่นนั้นปมด้อยของคนใช้ในบ้านก็ยังมีอยู่โดยดีอันนี้เราเป็นผู้น้อยของคนอื่นชาติอื่นเขาให้เขามาเหยียบย่ำทำลายมากดขี่บังคับมาเป็นนายเหนือหัวเหยียบย่ำทำลายเราและประเทศเราเราเคยเป็นเจ้าของประเทศแต่กลายเป็นบ๋อยเป็นคนใช้ของเขาผลเป็นยังไงจะทุกข์ระทมใจแค่ไหนอย่างน้อยปมด้อยในเรื่องนี้จะมีไหมยอมรับแทนเลยก็ได้ว่าต้องมีหมดทั้งชาติ มีหมดทั้งประเทศราวตกนรกทั้งเป็นนั่นแลเพียงวาดภาพเหตุการณ์นี้ขึ้นเท่านั้นก็พอจะสลบไสลอยู่แล้วยิ่งในภาพเหตุการณ์กลายเป็นความจริงขึ้นมาด้วยแล้วก็คือโลกันตนรกนั่นแล


    นี่แลโทษแห่งความเห็นแก่ตัวทำลายประเทศเป็นความเสียหายย่อยยับไม่อาจสงสัยถ้าไม่รีบแก้ไขเสียในเวลาอันควรดังนั้นจึงขอให้ทุกท่านช่วยกันระมัดระวังพินิจพิจารณาในสิ่งที่เป็นภัยของชาติอย่าให้เกิดขึ้นได้ถ้าไม่อยากเจอมหาวินาศขาดสิ้นดังกล่าวเตือนมาโดยลำดับนี้


    การเทศน์เหล่านี้ไม่ได้ตำหนิท่านผู้หนึ่งผู้ใดแต่พูดตามกฎแห่งความเจริญและความเสื่อมเสียให้เราทั้งหลายซึ่งเป็นผู้พร้อมอยู่แล้วที่จะประพฤติปฏิบัติตนเพื่อความเจริญแก่ตนและส่วนรวมตลอดประเทศชาติได้นำไปพินิจพิจารณาและปฏิบัติเท่าที่ตัวของเราและประเทศชาติบ้านเมืองจะมีความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงและเป็นมรดกอันล้ำค่าแก่กุลบุตรสืบต่อกันไปเพราะนั้นเป็นสิ่งที่ชาวไทยเราทั่วดินแดนมุ่งหวังอย่างแรงกล้าโดยทั่วกันแม้เขาจะไม่ประกาศออกมาอย่างเปิดเผยแต่ความจริงภายในความรู้สึกก็เป็นเช่นนั้น


    ในการแสดงธรรมเทศนานี้หากว่ามีข้อบกพร่องในส่วนใดก็หวังว่าได้รับอภัยจากท่านทั้งหลายและขอเชิญชวนแกมคำวิงวอนท่านทั้งหลายมีความสนิทในศีลธรรม และน้อมนำเข้าไปเป็นเครื่องกำกับรักษาตัวประพฤติปฏิบัติตามด้วยการกราบไหว้บูชาประพฤติปฏิบัติจิตตภาวนาบำรุงรักษาใจให้มีความสงบเย็นตามหลักธรรมในครัวเรือนหนึ่งๆในบุคคลหนึ่งๆด้วยความแนบสนิทติดกับใจเป็นคู่กันกับหน้าที่การงานโดยสม่ำเสมอไม่ลดละปล่อยวางผลจะมีความร่มเย็นเป็นสุขทั้งส่วนตัวและครอบครัวเหย้าเรือน ตลอดประเทศชาติบ้านเมืองไม่มีสิ้นสุดกุลบุตรก็จะได้ถือเป็นคติตัวอย่างอันดีสืบต่อไปผลจะเป็นความสงบเย็นทั่วหน้ากันเพราะอำนาจแห่งศีลธรรมคุ้มครองรักษา


    ในอวสานแห่งการแสดงธรรมนี้
    ขอบุญญานุภาพขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์จงมาคุ้มครองท่านทั้งหลายให้มีความสุขกายสบายใจและดำเนินหน้าที่การงานให้เป็นที่ราบรื่นดีงามโดยทั่วกันเทอญ


    คัดลอกจาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2353&CatID=2

     

แชร์หน้านี้

Loading...