ภัยพิบัติที่หนักมากๆ จะถูกเลื่อนไปอีก40ปี

ใจจริงก็อยากให้เลื่อนนะครับ
แต่เห็นคนเลวมากขึ้นทุกๆวัน เลยไม่แน่ใจเลยว่าเบื้องบนจะเลื่อนให้ทำไม
เพราะหายนะครั้งนี้ ตั้งใจกวาดคนเลวไม่ใช่หรือครับ

เมื่อคนเลวมากขึ้นแบบไม่กลัวบาป
กลัวแต่ข้างบนเขาจะเลื่อนเข้าให้เร็วกว่าเดิมนะสิครับ

 

คุณวิทูร ไม่ต้องกังวลให้มากครับ

คนอีกหลายคนคงย้ายที่อยู่ที่ทำงานไม่ได้
เนื่องด้วยความพร้อมของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ให้คิดเสียว่า ไม่ถึงที่ตายไม่วายชีวาวาตน์

รถก็เก็บไว้อย่างนี้แหล่ะครับ เอามาทำมาหากินก่อน
เอาไว้วันที่เกิดเหตุแน่ๆ ก็เผ่นวันนั้นล่ะครับ
วัดดวงกันไปเลยครับ

อย่างมากก็แค่ตาย

 

ของพรรณนี้เลื่อนได้ครับ(ใส้เลื่อนไข่ดันบวม)

 

แต่ถ้ามีชื่อ ผู้ให้ข้อมูล เช่นพระองค์ใด วัดไหนจะได้สอบถามได้ถูก(หากท่านยังมีสังขารก็น่าจะบอกกล่าวลูกศิษย์หลายคน) แต่ถ้ากล่าวอ้างจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นความจริงก็อาจถูกท่านลงโทษ

 

เดี๋ยวนี้ข่าวภัยพิบัติออกมามาก ไม่ขอวิจารณ์ว่าจริงหรือไม่จริง แต่อยากให้ทุกคนเร่งสั่งส่มบุญกุศล และมีสติ ถึงแม้เราจะเตรียมตัวอย่างไร ถ้าไม่มีบุญคุ้มกะลาหัว ...ก็ไม่รอดหรอก

เพราะฉะนั้น อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ สะสมอริยทรัพย์เข้าไว้นะ มนุษย์เอ๋ย

 

บ่ายวันนี้ได้ไป จ.สระบุรีอีกครั้งนึงเพื่อไปซื้อหินอ่อน จำนวน 1,600 ตรม.สำหรับปูพื้นเจดีย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะได้ลดราคา 35 % แต่ยังต้องจ่ายเงินอีกประมาณ 1,200,000 บาท หากไม่เตรียมหินอ่อนไว้ ต่อไปก็อาจจะหาหินอ่อนมาปูพื้นเจดีย์ฯไม่ได้ครับ

เมื่อเย็นนี้ขณะที่ผมทานข้าวเย็นอยู่ ได้มีกระแสเสียงมาบอกว่า "ให้ลูกรีบเร่งเก็บของเตรียมตัวให้พร้อมนะ ภัยเข้ามาใกล้มากแล้ว" ฟังแล้วก็หนาวเหมือนกันครับ ยังไงก็ขอให้ลูกหลานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ

อันที่จริงเย็นวันที่ 17 พ.ค. ผมก็จะเดินทางออกจาก กทม. ไปภาวนาและติดตามเร่งรัดงานก่อสร้างที่พุทธสถานฯอยู่แล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาเร่งรัดแบบนี้ พิจารณาดูแล้วว่าเหตุการณ์ชักจะไม่ค่อยดีซะแล้ว ครับ

วันเสาร์ที่ 19 พ.ค.จะถือโอกาสนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปมาฉันเพลและเจริญพุทธมนต์ เพื่อทำบุญขึ้นบ้านใหม่ให้กับญาติธรรมที่ปลูกบ้านอยู่บริเวณด้านหลังพุทธสถานฯและใกล้เคียง

และเช้าวันที่ 20 พ.ค.จะทำพิธีบรรจุสิ่งของที่ใต้ฐานองค์พระเป็นวาระที่สอง ตกกลางคืนก็จะร่วมกันสวดมนต์ภาวนาเพื่อเพิ่มบุญบารมีให้กับตนเอง ญาติธรรมท่านใดมีโอกาสแวะไปที่พุทธสถานฯในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ก็สามารถมาร่วมงานได้ครับ

คุณ Dang11sys :- เมื่อถึงเวลานั้นประเทศญี่ปุ่นจะจมหายไปด้วยครับ

มีปริศนาธรรมจากวัดพระแก้วเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 55 ก่อนงานสมโภชน์องค์ยันต์พระพุทธเจ้า วันนั้นผมกับคณะไปสักการะพระแก้วที่วัดพระแก้ว ด้วยความที่ไม่ค่อยจะพร้อมในการเตรียมเครื่องสักการะ ก่อนเข้าไปที่วัดพระแก้วก็แวะซื้อพวงมาลัยแถวท่าพระจันทร์ แล้วก็เดินกันไปที่วัดพระแก้ว ขณะที่เดินเลาะกำแพงวัดพระแก้วอยู่นั้น ก็มีกระแสญาณจากพ่อพระแก้วมรกตท่านบอกว่า ดีแล้วที่ลูกตัดสินใจมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขารอกันอยู่ ถึงกาลเวลาแล้ว (ที่จริงวันนั้นมีธุระหลายอย่าง ทีแรกตั้งใจจะไม่ไปที่วัดพระแก้วแต่จะไปในวันหลัง แต่มาคิดอีกทีนึงว่า ถ้าเราไม่ไปเราเสียสัจจะแน่ เทวดาเขาจะตำหนิเอา ก็เลยตัดสินใจไป) เมื่อเดินเข้าไปในเขตวัดก็เดินมองยอดพระปรางค์องค์ต่างๆและคิดว่าเขาทำได้สวยงาม อลังการมากจริงๆ ก็มีกระแสญาณจากพ่อพระแก้วมรกต ว่า "ให้ลูกจดจำไว้ให้ดีนะ ต่อไปอีกไม่นานลูกจะไม่ได้เห็นวัดในสภาพแบบนี้อีกแล้ว" เมื่อไปจุดธูป 16 ดอก เพื่ออธิษฐานถึงพระแก้วและบอกถึงจุดประสงค์ที่มาสักการะ ฟ้าก็ร้องครืนๆแล้วก็เงียบหายไป จากนั้นก็เข้าไปในวิหารพระแก้ว ไปนั่งสมาธิข้างหน้า จิตภายในก็ทำงาน มองเห็นสองสถานที่เชื่อมถึงกันโดยมีกระแสจิตเป็นสื่อเชื่อมสองสถานที่ จากนั้นก็อธิษฐานถึงปู่ขาวมหาราชและปู่อชิตะ พระญาณของสองพระองค์นี้ก็ซ้อนลงมารับสื่อญาณของพระแก้วมรกต

ข้อความจากคุณอัญญาสิทธิ์นะครับ

 

ผมว่า จขกท. รีบลบกระทู้ที่ท่านบอกว่าจะลบไปโดยไวดีกว่ามั้ง ข้อมูลก็ไม่มี อยู่ๆ ก็บอกว่าเลื่อน ท่านลองไปหาข้อมูลต่างๆที่แล้วมาดูก่อนนะ ถ้าไม่รู้ก็อย่าเดาเอา อย่าว่าแต่เลื่อนเลย แก้ไขให้เบาลงยังไม่ได้เลย พระอริยะองหนึ่งท่านบอกว่า มันเป็นกรรมของสัตว์โลก อีกองค์ท่านก็บอกว่าเป็นกรรมของประเทศไทย ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ แล้วมาบอกว่าเลื่อนไปได้ พระอริยะนะญาณของท่านไม่มีอะไรมาปิดบังได้หรอก เพราะไม่มีกิเลสเจือปนแล้ว ไม่เหมือนของปุถุชน หรือสมมุติสงฆ์ที่อาศัยเดาเอา เตรียมพร้อมเอาไว้ดีที่สุด

 

เพราะความเห็นของบุคคลนี้ ผมจะค้างไว้ เพื่อพิสูจน์ข้อ1ก่อน

 

จขกท.ที่จะรอข้อ 1 ไม่เกิดหรอกเดือนนี้ ผมหมายถึงปี 2555 นะครับ
หลวงปู่แฟ็บจะละสังขารตั้งแต่อายุ 80 ปีท่านปลงสังขารเท่าอายูพระพุทธเจ้า ท่านนั่งสมาธิภาวนาเห็นหลวงตามหาบัวมาหาและพูดว่า" อย่าพึ่งไปท่านแฟ็บให้ช่วยสร้างโรงพยาบาลช่วยเหลือโลกก่อน" ท่านก็เลยรับปากท่านหลวงตา หลังจากนั้นท่านก็ช่วยสร้างโรงพยาบาล ซื้อรถฉุกเฉิน การสร้างโรงพยาบาล ท่านสร้างให้กับพระหลวงตาเพื่อเป็นการสงเคราะห์โลก
หลวงปู่พูดถึงกรุงเทพฯ เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ ตามพุทธทำนายก็ว่าจะท่วมปี พ.ศ.2555 ท่านอาจารย์....ถามว่าจะแก้ไขได้ไหม หลวงปู่ท่านตอบว่า "เป็นกรรมของสัตว์"
เหมือนตอนวันที่ 18 พ.ค.2553 ท่านโทรไปหาแม่ชี (ลูกสาว)ว่า "เขาจะเผากรุงเทพฯ"
รุ่งขึ้นวันที่ 19 เกิดการเผากรุงเทพฯ จริงๆ

 

น้ำท่วมหนักจะยังไม่เกิดกับกรุงเทพฯ ปีนี้ (ข้อ2) แต่จะเกิดปี....

 

ชอบในความนิ่งของท่านBAMRUNGมาก

 

ผมไม่มีอะไรมากที่ต้องห่วง และไม่ได้สะสมอะไร คิดว่าตายไปเอาไปไม่ได้ครับ พอมีเวลาก็คอยติดตามข่าวต่างๆ เห้นว่าภัยพิบัติมันเกิดมากมายผิดปกติ และการเกิดก็รุนแรง ได้เห็นข่าวบ่อยๆ ตอนนี้ทำอะไรดีได้ก้ทำ เรื่องภัยพิบัติจะเกิดขึ้นเมื่อไรผมว่าคงไม่มีใครรู้ แค่แผ่นดินไหวแรงๆ ยังไม่ใครรู้ื สึนามิมาแรงก็หลบแทบไม่ทันไม่มีโอกาสขนขาวขนของ ดูแค่น้ำท่วมบ้านเรา น้ำมาช้าๆ อย่างนั้นยังขนข้าวขนของไม่ทันครับ

 

เมื่อเดือน มีนาคม พระมหาเถระรูปหนึ่ง ที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาณ ท่านบวชมากว่า ๕๐ พรรษา มีลูกศิษย์ที่เคารพเป็นจำนวนมาก ท่านได้พูดเปรยๆขึ้นองค์เดียว หลังทำวัตรเช้า ตอนท่านเดินลับหลังญาติโยมเพื่อเดินเข้ากุฏิไป แต่พวกเราก็ได้ยินกันชัดทางด้านหลังว่า วันที่มันจะวินาศใกล้เข้ามาแล้ว ท่านผู้อย่างนี้อยู่สองวัน ใกล้ๆ กัน ช่วงที่ผมอยู่ที่วัด

ดังนั้น ภัยใหญ่จะเลื่อนหรือไม่ เราก็ไม่ประมาทดีกว่า เพราะส่วนมาก ภัยจะมาทีเราเผลอ

 

คิดว่าพี่วิทูร99 คงอายุเยอะกว่าผม ขอเรียกพี่ละกันนะครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ค่อยติดตามเรื่องภัยพิบัติแรงๆครั้งใหญ่ๆอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าจะตามมาตั้งแต่ ปี 2544 แล้วซึ่งก็ไม่ได้ว่าจะต้องใช้เงินเยอะแยะมากมายกับสิ่งของที่เตรียมไว้เผื่อวันนั้นมาถึง ผมอาจโชคดีที่ยังไม่มีครอบครัว เช่น ลูกเมีย

ครอบครัวผมก็มีพ่อแม่และน้องสาว น้า อา พักอาศัยรวมกัน 6-7 คน (ไม่มีคนแก่ครับ) ก็อยู่ กทม ทำมาหากินตามปรกติครับ บ้านก็เช่าอยู่ พอมีที่ดินอยู่ต่างจังหวัดไว้ทำนาทำไร่ทำสวน (ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด อุบลฯ) ไม่เคยคิดว่าจะซื้อบ้านใน กทม เลยครับ

แต่ผมว่า การเตรียมของนั้นไม่ต้องใช้เงินมากเป็นหมื่นเป็นแสนก็ได้ เอาเฉพาะๆที่จำเป็นและสำคัญ เช่น อาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค อาจต้องมี แสงสว่าง หรือพาหนะ ยามจำเป็นเพิ่ม

พวกปัจจัย 4 ผมคิดว่าทุกบ้านจำเป็นต้องมีไว้ประจำบ้านอยู่แล้ว ยามฉุกเฉิน เพราะดูตัวอย่างน้ำท่วม ปี 2554 แค่ท่วมไม่กี่เดือน น้ำเอย อาหารแห้ง แม้กระทั้งยา ยังหาซื้อยากเลยครับ

คิดว่าถ้าเกิดเช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม เขื่อนแตก รถยนต์อาจไปไม่ถึงปากซอยหรือถนนใหญ่เลยก็ได้ เพราะทุกอย่างจะพักลงมาปิดเส้นทางหมด พาหนะนอกจากเดินเท้าแล้ว จักรยาน รถรากใส่ของ น่าจะสำคัญ

เตรียมปัจจัย 4 ไว้ก่อนสำคัญที่สุด ถ้ามันไม่เกิดก็สามารถใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปได้

อาจเป็นเพราะกรรม พวกเราเยอะอยู่กระมั้งหรือไม่ก็ยังพอมีบุญอยู่บ้าง ที่ยังไม่ตายหรือวิ่งหนี สึนามิตอน ปี 2547 และอาจต้องอยู่กับน้ำท่วมเป็นเดือนๆอีก

ถ้าคนที่เคยเจอยังพอมีสติและปัญญาพอจะไตร่ตรองได้อยู่ ก็คงจะต้องวิ่งหนีขึ้นภูเขาเวลามีสัญญานเตือนสึนามิดังหรืออาจต้องมีการเตรียมการยกบ้าน ทำกำแพงกันน้ำท่วมหรือไม่ก็อาจจะย้ายไปในที่ไม่ท่วม

ถ้า 20,000 หมื่นคนที่ตอน สึนามิ ที่ญี่ปุ่น ผมว่าพวกเค้าคงปลงได้แล้ว

(deejai)(deejai)

 

อยากให้บริโภคข่าวสารอย่างมีสติครับ

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเราให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ควรยึดติดกับอดีต และไม่ควรเชื่อมั่นในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
การแจ้งเตือนของหลาย ๆ ท่านที่มีเจตนาดี
เรารับฟังได้เพื่อไม่ประมาท แต่ต้องใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาให้มาก
แต่..ไม่ควรคิดวิตกมากจนเกินควร
เตรียมรับมือตามกำลังของแต่ละท่าน

เช่น เตรียมเสบียงของใช้ที่จำเป็น
น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง ตุนไว้ในบ้าน
พอให้อยู่รอดได้สักเดือน เวลาผ่านไป
ของเก่าก็กินไป ใช้ไปบ้าง ของใหม่ซื้อเข้ามาเตรียมไว้แทน
ทำได้เช่นนี้ก็เป็นการดีครับ

ที่สำคัญที่สุด คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
หมั่นฝึก หมั่นปฏิบัติเข้าไว้
พุทธานุสติ มรณานุสติ
มีพระพุทธเจ้าในจิตไว้ให้มาก
นึกถึงความตายเป็นอารมณ์
แค่นี้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วครับ

 

ตอนนี้ขออยู่กับปัจจุบันดีกว่าครับ ภัยที่จะเกิดมีแน่ผมเชื่อแต่ยังไม่รู้วันไหน เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ วันนี้ พ่อ แม่ ลูกเมียยังต้องกิน พรุ่งนี้ลูกก็ยังต้องไปโรงเรียน ถ้าหยุดทำมาหากินอพยพไปก็อดตายทั้งครอบครัวก่อนภัยจะมา ขอใช้ชีวิตแบบคนดีๆ ไม่ไปเบียดเบียนใคร ทำบุญบ้างตามอัตภาพก็พอละ ส่วนอื่นก็ให้เป็นไปตามกรรม คิดแค่นี้จริงๆ:VO แต่ที่จะเลื่อนไปอีกตั้ง 40 ปี นี่โห...คงอดดูแน่ ผมคงหมดอายุไขแล้ว เสียดายมาก

 

ห้าหก....................................

จะรอดูข้อแรกก่อน ตอนนี้คือรอลงดาบ เลื่อนจริง ๆ มีรายการปวดหัวแน่ ๆ
แต่อย่างไรก็คงไปลงคาถาก่อนเก้าพฤษภาปีหน้าแน่นอน

เข้าใจว่าบางส่วนพูดไม่ได้

มีอยู่หลังหนึ่งที่พึ่งโดนต้านกระแสกรรมไป ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่

 

สาธุครับ ไม่ใช่ว่าพอจขกท บอกจะเลื่อน 40 ปี ก็ใช้ชีวิตอย่างประมาทไปเลย แต่ทุกท่านว่าสมมติอยู่ดีๆ บอกว่า เลื่อนไป 40 ปีแต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น ทำให้คนประมาท ไม่สะสมอริยทรัพย์ ไม่ระวังเรื่องการสร้างบาปกรรม เพราะเห็นมีเวลาเหลือเยอะ แบบนี้บาปไหมครับ?

แล้วหากมันมาเร็วกว่านั้น ใน ปีสองปี คนเผลอไม่เตรียมตัวด้าน น้ำ อาหาร ความปลอดภัย เพราะเชื่อกระทู้ แล้วต้องอดอยาก ทรมาณ เสียชีวิต บาปไหมครับ?

ความเป็นจริงคนเราทุกคนควรมีมรณานุสติ และไม่ควรประมาทอยู่แล้ว เพราะถึงไม่มีภัยเราจะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่ได้แช่ง บางคนเราคิดว่าไม่น่าจะตายอยู่ดีๆ ก็ตาย แล้วตัวเราเองละ เรารู้ได้อย่างไรว่าจะอยู่ไปอีกนาน

ผมจึงของอนุโมทนาคำเตือนของท่าน Khomreya ทรัพย์บนโลกตายไปเอาไปไม่ได้ มีก็บริจาคบ้าง ทรัพย์ที่เอาไปได้คืออริยทรัพย์ บุญกุศล ติดตัวไปได้ และต้องระวัง เพราะบาปกรรม ก็ติดตัวไปเหมือนกัน ดังนั้นเราควรเร่งทำความดี สาธุ

 

เลื่อนไป 40 กว่าปีก็จริงเฉพาะ มหาภัยพิบัติ เท่านั้น แต่ภัยพิบัติอื่นๆยังมีอยู่ตามปรกติ

 

ตรงนี้ผมว่าอยู่ที่ระดับของภัยพิบัติที่รับรู้กันอยู่หรือไม่ครับ
เช่นกรณีนี้ ถ้าผมตีความตามความเห็นของคุณ Bumrung ก็ตีความได้ว่า
(ถ้าผมตีความผิด รบกวนแก้ไข และ ให้รายละเอียดเพิ่มด้วยครับ)

ภัยพิบัติจากภัยธรรมชาติ ระดับ สิ้นโลก คนตายไป 2/3 ของประชากรโลก จะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้

แต่ภัยระดับเล็กลงไป ตายเป็น พัน เป็นหมื่น ก็ยังจะเกิดขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ยังไม่รวมภัยทางเศรษฐกิจ ที่ยุโรป (เงินยูโร) สหรัฐ และ ญี่ปุ่น กำลังจะล่ม
จะเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง ก็ยังเกิดต่อไป

แต่พอวิเคราะห์แบบนี้่ ตามหลักเหตุผล ผมว่าหากวิกฤตเศรษฐกิจเกิด ก็มีโอกาสเกิดส่งครามโลก และสุดท้ายมันก็จะเป็นมหาภัยพิบัติอยู่ดี