แน่ใจหรือเปล่าครับว่าไม่กลัวตาย?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Delphi, 14 พฤษภาคม 2012.

  1. Delphi

    Delphi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    สมมุติว่ามีใครสักคนถามว่า หากเกิดภัยพิบัติหรืออะไรก็ตาม กลัวตายไหม? ผมเชื่อว่าหลายคนในที่นี้ (อาจจะรวมถึงผมด้วย) จะตอบว่า ไม่กลัว คนเราทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย

    ที่ผมยกเรื่องนี้มาพูดถึง เริ่มมาจากรายการ "คนอวดผี" ในช่วงล่าท้าผี ที่ผู้ร่วมรายการซึ่งผมไม่รู้ว่าส่วนใหญ่หรือเปล่านะครับ แต่จากการให้สัมภาษณ์ เริ่มต้นมาจากการ "ไม่กลัวผี" หรือไม่เชื่อ บางคนบอกว่านั่งดูที่บ้านก็ดูไปหัวเราะไป

    แต่เมื่อมาเจอของจริง ทำให้เปลี่ยนความคิดโดยสิ้นเชิง (อาจจะเพราะเวลาดูจากทีวี มีเสียงประกอบ มีคนพากษ์ ฯลฯ ต่างกับของจริงที่เงียบสนิท)

    ดังนั้น สำหรับคนที่บอกว่า "ไม่กลัวตาย" (โดยไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงจัง) ผมไม่แน่ใจว่าหากมีเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นคิดว่าจะสามารถรับกับสิ่งนั้นได้หรือไม่
     
  2. catniss

    catniss Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +96
    เอาเข้าจริงๆก็กลัวนะ วันนั้นนั่งสมาธิอยู่ ฝนตกฟ้าร้อง ฟ้าผ่า นั่งอยู่ยังกลัวเลยอ่ะ

    ยิ่งตายคนเดียวก็ยิ่งกลัวอ่ะ 1012 ไม่น่ากลัวมีเพื่อนตายเย้อ ............
     
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ครั้งหนึ่ง เคยเฉียดตาย รู้ว่ายังไงก็ตายแน่

    เล่าเรื่องของตัวเองแล้วกัน

    วันหนึ่ง กลับจากต่างจังหวัด เดินทางเข้ากรุงเทพ นั่งรถเก๋งด้านหน้า คู่กับคนขับ เขาก็ขับมาอย่างเร็ว

    พอถึงถนนช่วงหนึ่ง มีรถกะบะคันหนึ่ง ยูเทิร์นจากอีกเลน รถคันนั้นค่อนคัน ขวางถนนอยู่ ยงโย่ยงหยก จะมาเลนนี้ให้ได้ ส่วนรถคันที่นั่ง ก็แล่นมาเต็มเหนี่ยว นาทีนั้น เห็นแต่ไกลแล้วว่า ไม่พ้นต้องชนกันแน่

    ในใจคิดว่าตายแน่ ไม่ทันคิดอย่างอื่น รวมถึงความกลัว เพราะมันเร็วจนคิดอะไรไม่ทัน

    ผลคือ ชนสนั่น สองเด้ง เพราะมีอีกคัน วิ่งตามหลังมาชนซ้ำ รถหมุนแต่ไม่หงาย

    ส่วนคันที่ขวางถนน กระเด็นไปตกคูน้ำอีกฝั่ง ได้ข่าวว่าคนในนั้นเจ็บหนัก ส่วนคันที่นั่งมา สภาพซ่อมไม่ได้

    ตัวเองเคล็ดขัดยอก เพราะตั้งแต่แรก ที่รถวิ่งออกมา ก็ปรับเบาะเอนนอน แล้วรัดเข็มขัด ทางด้านคนขับเจ็บพอควร

    วันนั้น กลับถึงกรุงเทพ เข้าโรงพยาบาลแสกนทั้งตัว ผลคือไม่เป็นอะไร วันรุ่งขึ้นก็ทำงานปกติ
     
  4. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ถ้าภัยนั้น มาแบบไม่รู้ตัว เช่น กำลังยืนอยู่ที่ร้านเซเว่น วัยรุ่นตีกัน ยิงกัน แล้วลูกหลงมาถูกตัวเองตายลง อย่างนี้ไม่กลัว เพราะไม่รู้ตัว...
    ...แต่ถ้าเป็นเครื่องบินตก....มีเวลากลัว...เคยได้ฟังเสียงร้องจากเทป โหยหวลชวนสะท้าน เข้าใจว่าร้องทุกคนไม่เว้น แต่อาจมีตกใจร้องไม่ออก ก็น่าจะมี แต่สัมภาษณ์ไม่ได้เพราะตายหมด....
    ...บางรายเครื่องบินมีปัญหา....แต่ยังไม่ตก ผู้โดยสารท่านหนึ่ง มีเวลาเขียนจดหมายลาตายกับลูกเมีย ผลสุดท้ายเครื่องบินตก ตัวเองตาย เจ้าหน้าที่ไปค้นพบภายหลัง...
    ...อย่างนี้ คงกลัวจนหายกลัวแล้วมีสติเขียนจดหมาย...
    ..ล่าสุด เวิลเทรด เซ็นเตอร์ นาย อีเลฟเว่น...ชัดเจนว่า คนใกล้ตายสามารถโทรศัพท์ไปสั่งเสียทางบ้าน ด้วยความรัดทด...เขาคงกลัวจนสามารถปลงตก..จึงมีสติโทรศัพท์ไปลาและฝากฝังลูกเมียได้...อย่างนี้ เราก็ไม่รู้ว่า ความกลัวนั้น จะวัดกันได้อย่างไร....
    ..พระพุทธเจ้าเคยให้เณรอรหันต์หรือองค์ท่านตอบเองว่า มนุษย์รักอะไรมากที่สุด คำตอบคือ รักตัวเองมากที่สุด นี่เป็นสัจจธรรมที่พระพุทธเจ้าบอก.....ที่ว่าเรารักพ่อแม่ที่สุด หรือ พ่อแม่รักเราที่สุดนั้นไม่จริง...ทุกคนจะต้องรักตัวเองก่อนจึงจะขยายไปให้คนอื่นๆได้
    ดังนั้น จึงเป็นคำตอบว่า มนุษย์นั้น กลัวตายกันทุกคน เพราะรักตนเองมากที่สุด...แต่การแสดงออก จะมีสติหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยดังกล่าวมาแล้ว
     
  5. A-KiT

    A-KiT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +610
    ครับ..คงจะเหมือนตอนน้ำกำลังจะท่วม..จะกังวลกันมาก ลุ้นว่าน้องน้ำจะมาไหม ท่วมสูงไหม..พอท่วมแล้วโล่งเลย


    ส่วนเรื่องกลัวตาย..ส่วนมากจะหลงกลัวความคิดของตัวเองว่าจะตายเสียมาก ตายแบบไหน..ทรมานไหม.. เจ็บไหม...เห็นเป็นภาพในหัว จิตเลยเศร้าหมอง ทั้งๆที่ยังไม่ตาย ดังนั้น ก็ต้องหัดตายก่อนตายอย่างมีสติ พระอริยะเจ้าท่านสบายไปแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องความตายนี้ เพราะท่านรู้จริงๆเต็มอกว่า..สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา..
     
  6. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    เนื้อหาที่ท่านจิตโตเทศน์นี่น่าสนใจมาก

    [​IMG]

    ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็เป็นเหมือนความฝัน<!-- google_ad_section_end -->


    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>Artist: ท่านจิตโต



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD width=20><INPUT id=play_71877 name=Music value=attachment.php?attachmentid=71877 CHECKED type=radio>ฟัง</TD><TD></TD><TD>2554-04-02_09-10-เทศน์เรื่องไม่ว่าสุขหรือทุ (22.81 MB, 39 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=71877[/MUSIC]

    ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็เป็นเหมือนความฝัน - Buddhism Audio
     
  7. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    ระดับความกลัวตายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับภูมิจิตภูมิธรรมของแต่ละคน


    ผุ้ที่มองเห็นทางไปข้างหน้าอย่างชัดเจนแล้ว ความตายและการมีชีวิตอยู่

    มีค่าเท่ากัน หรือบางครั้งการสละกายหยาบนี้ดูจะเป็นสุขกว่าการมีชีวิตอยู่
    (แต่มีน้อยมากๆครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2012
  8. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    กลัวตอนที่กำลังจะตาย แล้วก้อไม่รุ้ว่าตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหนด้วยนี่สิน่ากลัวที่สุดค่า
     
  9. ดุสิตาลัย

    ดุสิตาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2012
    โพสต์:
    353
    ค่าพลัง:
    +1,955
    ตอบตามตรงว่าไม่แน่ใจหรอกครับ แต่ความสะดุ้งหวาดกลัวต่อความตาย คงเป็นสัญชาติญานของมนุษย์เราเป็นธรรมดา

    หวังเพียงว่าคงสามารถสงบสติสำรวมใจ ระลึกถึงพระรัตนตรัยไว้ได้ก่อนจิตจะดับเท่านั้นเอง
     
  10. แม่น้องปุย

    แม่น้องปุย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +708
    ขอ "ตาย" ชาตินี้ ชาติสุดท้าย

    ไม่ขอ "เกิด" อีก

    เพราะเกิดมา ก้อต้องตายอีก

    ขอใช้กายหยาบนี้ ช่วยบำรุงพระพุทธศาสนาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้....

    และอยากจะทำหน้าที่ในชาตินี้ ให้เสร็จในเร็ววัน......
     
  11. Delphi

    Delphi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ตอนที่ผมเพิ่งได้รู้จักคุณเจน ญาณทิพย์ (หมายถึงรู้จักจากตัวหนังสือหรือคลิปวิดีโอ และถือว่าเป็นช่วงที่ผมเพิ่งจะเริ่มศึกษาเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ พลังจิต ญาณทิพย์ ฯลฯ) มีคนถามว่าคุณเจนว่ากลัวตายหรือไม่ ซึ่งหมายถึงจากการที่ใช้ความสามารถพิเศษช่วยเหลือตำรวจในการจับผู้ร้าย คุณเจนตอบว่า ไม่กลัว

    ในขณะที่ผมเอง ณ ตอนนั้น ก็รู้สึกเป็นห่วงคุณเจนเหมือนกันว่าจะเกิดอันตราย และไม่ค่อยเชื่อว่าที่คุณเจนบอกว่าไม่กลัวตายจะจริงหรือไม่

    แต่หลังจากได้อ่าน ได้ศึกษา ตอนนี้ได้เข้าใจ และเชื่อว่าคุณเจนไม่กลัวตายตามนั้นจริงๆ

    และจากการได้ศึกษาในหลายๆ เรื่องนี่เอง ทำให้ความคิดหลายๆ อย่างของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่คิดว่าตัวเองรู้ แต่ที่จริงคือ ไม่รู้อะไรเลย และการที่ผมได้รู้ตัวว่าไม่รู้อะไรเลย ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

    ดูเหมือนผมจะเริ่มเขียนไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้ครับ อยากเขียนมากกว่านี้แต่เป็นคนเขียนไม่เก่ง ที่เห็นใช้เวลาเขียนนานมาก บางครั้งก็ไม่ตรงกับที่อยากจะสื่อ ขอจบไว้เท่านี้นะครับ
     
  12. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ในช่วงที่ผ่านมา มีภาพยนต์เรื่อง 2012 เข้าโรงฉาย เกี่ยวกับภัยภิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลก ในวันที่ 21 เดือน 12 ปี 2012 รวมถึง มีการพูดถึงภัยต่างๆ ที่มีโอกาสเกิด ไม่ว่าจะเกิดจากโลกร้อน เกิดจากการที่ดวงดาวมาเรียงกัน หรือเกิดจากดวงอาทิตย์ปล่อยพลังงานออกมามากกว่าปกติ ฯ

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    สรุปว่า มีกระแสเรื่องที่โลกกำลังจะเกิดภัยภิบัติที่จะกวาดล้างมนุษย์โลกให้หมดไป (หรือเกือบหมด) ตัวผมเองก็ได้ดูภาพยนต์ดังกล่าว และได้อ่านข้อมูลข่าวสารมาบ้าง จึงคิดว่า เรื่องนี้มีอะไรหลายอย่างที่ควรจะนำมาเล่าสู่กันฟัง
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ก่อนอื่นลองมาใช้สติและเหตุผลพิจารณากันในฐานะชาวพุทธ ว่าสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับตัวเรามีได้กี่รูปแบบ (คร่าวๆ)

    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    1. ในปี 2012 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเราแก่ตาย
    <O:p></O:p>
    2. ในปี 2012 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเราก็ตายหลังจากนั้นไม่นาน
    <O:p></O:p>
    3. ในปี 2012 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราตายก่อนถึงวันนั้น
    <O:p></O:p>
    4. ในปี 2012 มีอุบัติภัยล้างโลก คนส่วนใหญ่ตาย ส่วนเราก็ตาย
    <O:p></O:p>
    5. ในปี 2012 มีอุบัติภัยล้างโลก คนส่วนใหญ่ตาย เรารอด แล้วก็แก่ตาย
    <O:p></O:p>
    6. ในปี 2012 มีอุบัติภัยล้างโลก คนส่วนใหญ่ตาย เรารอด แต่ก็ตายหลังจากนั้นไม่นาน
    <O:p></O:p>
    7. ในปี 2012 มีอุบัติภัยล้างโลก แต่เราตายก่อนถึงวันนั้น<O:p></O:p>
    ......<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พอจะเห็นภาพใช่ไหมครับว่า ไม่ว่าในปี 2012 จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ มีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือ เราจะตาย วันใดวันหนึ่งในอนาคต
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หากเรามองชีวิต ที่ผ่านการเวียนว่ายตายเกิด มานับครั้งไม่ถ้วน การตายครั้งนี้ ก็เพียงการเปลี่ยนจากสภาพหนึ่ง ไปสู่อีกสภาพหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ในอดีตผมก็เคยกลัวความตาย ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลัวความตายก็คือ เพราะความตายเป็นเหมือนการต้องเดินเข้าไปห้องที่มืดสนิท ที่มีหลายห้อง โดยเราไม่รู้ว่า มีอะไรรอเราอยู่ในแต่ละห้อง
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แต่ความรู้ในพุทธศาสนา ก็ทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น ว่าแต่ละห้องมีสภาพเป็นอย่างไร (นิพพาน พรหม เทวดา มนุษย์ สัตว์ เปรต อสูรกาย นรก) เหมือนห้องทั้งหมด ได้เปิดไฟจนสว่างเห็นภายในทั้งหมด
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แม้ว่าเราจะเห็นว่าแต่ละห้องมีอะไรบ้าง ความกลัวก็ยังไม่หมดไป เพราะว่ามีหลายห้องที่เราไม่อยากเดินเข้าไปเลย (สัตว์ เปรต อสูรกาย นรก) ด้วยเหตุนี้ อาการกลัวความตายจึงยังคงมีอยู่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>

    ตอนตายเราไม่สามารถเลือกได้ว่า จะเข้าห้องไหน หากเปรียบเทียบง่ายๆ ว่า ก็คล้ายกับว่าเราจะต้องจับฉลากเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้เรามีโอกาสได้ไปในห้องที่เราไม่อยากไป
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แต่ความรู้ในพุทธศาสนา ก็ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นอีกว่า เราสามารถสร้างฉลากให้มีมากขึ้นได้ ดังนี้<O:p></O:p>
    หากเราทำบุญมากเท่าไหร่ เราก็จะได้ฉลากที่จะได้ไปอยู่ในห้องที่น่าอยู่ เพิ่มขึ้นเท่านั้น (นิพพาน พรหม เทวดา มนุษย์)
    <O:p></O:p>
    หากเราทำบาปมากเท่าไหร่ เราก็ได้จะได้ฉลากที่จะได้ไปอบู่ในห้องที่ไม่น่าอยู่เพิ่มขึ้นนั้น (สัตว์ เปรต อสูรกาย นรก)
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ความรู้ตรงนี้ ก็คงทำให้คนบางคน ยังคงมีความกลัวความตายเช่นเดิม หรืออาจจะกลัวมากขึ้น เพราะชีวิตที่ผ่านมา ได้สร้างฉลากสำหรับไปห้องที่ไม่น่าอยู่มากมายมหาศาล แต่แทบไม่ได้สร้างฉลากสำหรับไปห้องที่น่าอยู่เลย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แต่ในทางตรงกันข้าม คนบางคนกลับมีความกลัวความตายลดลง เพราะชีวิตที่ผ่านมา ได้สร้างฉลาก สำหรับไปห้องที่น่าอยู่มากมายมหาศาล และแทบไม่ได้สร้างฉลาก สำหรับไปห้องที่ไม่น่าอยู่เลย โอกาสที่จะไปไม่ดีหลังจากนั้นมีน้อยมาก ความกลัวจึงมีน้อยลงมาก

    [​IMG]
    <O:p></O:p>
     
  13. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ในเมื่อความตายจะมาถึงเราแน่ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ 2012 หรือไม่ เราก็สามารถเลือกได้ว่า เราจะเป็นแบบไหน จะกลัวความตายเพราะทำบาปเอาไว้มาก หรือคิดว่า ความตายเป็นเพียงการเปลี่ยนสภาพและอาจจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะทำบุญเอาไว้มาก
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    จากวันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่เราตาย เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะทำอะไร
    <O:p></O:p>
    หากเหตุการณ์ 2012 มีจริงๆ สิ่งที่เราควรทำคือ การพยายามดิ้นรนหาทางรอดตั้งแต่วันนี้ หรือคือการพยายามทำบุญให้มาก เพื่อที่จะได้ไม่กลัวความตายในวันนั้นกันแน่
    <O:p></O:p>
    หากเหตุการณ์ 2012 ไม่มีจริง สิ่งที่เราควรทำคือ ปล่อยชีวิตไปแบบเดิม เพื่อให้ตายด้วยความหวาดกลัว หรือพยายามทำบุญให้มาก เพื่อที่จะได้ไม่กลัวความตายในวันนั้นกันแน่
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สำหรับผมมีคำตอบที่ชัดเจนว่า ผมจะทำบุญให้มากที่สุด ไม่ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น<O:p></O:p>
    เพื่อให้ไม่ต้องกลัวเมื่อวันที่ความตายมาถึง
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คำถามหนึ่งที่มีคนถามผมก็คือ หากเหตุการณ์ 2012 เกิดขึ้นจริง เราควรทำอย่างไรในวันนั้น<O:p></O:p>
    สมมุติว่า ทุกอย่างเป็นเหมือนในภาพยนต์ ที่มีน้ำท่วมทั้งโลก กวาดล้างแทบทุกอย่างในโลกไปจนหมด ผมคงเลือกที่จะอยู่บ้าน (หรือไปวัด) สวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือนั่งนึกถึงบุญที่ทำ แล้วพยายามยิ้มรับความตายที่กำลังจะเดินเข้ามาหา

    ดีกว่าจะต้องดิ้นรนพยายามให้ตัวเองรอด แล้วไม่สามารถควบคุมสภาพจิตใจก่อนตายได้ ทำให้อาจจะไปห้องที่ไม่น่าอยู่ได้
    <O:p></O:p>
    อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็คงไม่เหลือวัด เหลือพระไตรปิฎกให้ผมได้ศึกษา ได้ทำบุญ ผมก็ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะอยู่ต่อ รวมถึงบ้านเมืองก็ไม่เหลืออะไรแล้ว คงใช้ชีวิตกันลำบากน่าดู แล้วจะอยู่ไปทำไม
    <O:p></O:p>
    แต่ผมจะไม่ฆ่าตัวตายครับ เพราะบาป
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คำถามถัดมาก็คือ เรื่องราวแบบนั้นจะเกิดขึ้นจริงไหม เมื่ออ้างอิงจากพระไตรปิฎก
    <O:p></O:p>
    อย่างแรกก็ต้องบอกว่า ในอรรถกถา ได้บอกเอาไว้ว่า พุทธศาสนายุคนี้ จะอยู่นาน 5,000 ปี<O:p></O:p>
    ฉะนั้น จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้พุทธศาสนาหายไปได้ในช่วงก่อนหน้านั้น โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ทำให้คนมากกว่า 99% ตายไปนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าไม่น่าจะมี
    <O:p></O:p>
    อย่างมาก ก็เกิดน้ำท่วม แล้วมีคนตายมากประมาณหนึ่ง แต่คงไม่มากเท่าที่กลัวกัน

    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ส่วนเหตุการณ์ที่จะทำให้โลกแตก หรือมนุษย์ตายกันจนหมดนั้น ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่ต้องห่วง ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เพราะพระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้แล้วว่า ตั้งแต่โลกใบนี้เกิดขึ้น<O:p></O:p>
    จนถึงวันที่โลกแตก จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 พระองค์ (เฉพาะรอบนี้ที่มี 5 พระองค์ บางรอบก็ไม่มีเลย)
    <O:p></O:p>
    ซึ่งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เป็นองค์ที่ 4 ฉะนั้น ยังคงต้องมีมนุษย์โลกไปอีกนาน นานจนมนุษย์อายุขัยลดลงเหลือ 10 ปี แล้วกลับมาเพิ่มจนเป็น 80,000 ปี ตอนนั้น ถึงจะมีพระศรีอาริยเมตตตรัยมาตรัสรู้
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หลังจากนั้น อีกนานแสนนาน นานจนมีพระอาทิตย์ดวงที่ 2 เกิดขึ้น จนโลกแห้งเล้งมากขึ้น<O:p></O:p>
    จนมาดวงอาทิตย์ดวงที่ 3 4 5 6 7 และเมื่อถึงตอนนั้น โลกก็แตกสลายไป
    <O:p></O:p>
    โลกใบนี้รอบนี้ จะแตกสลายเพราะไฟครับ ไม่ได้แตกสลายเพราะน้ำหรือลม เวลาที่โลกจะแตกสลายยังอีกนานแสนนาน แต่เวลาที่ร่างกายนี้จะยังหายใจอยู่นั้น นานแค่ไหนไม่มีใครทราบ<O:p></O:p>
    อาจจะอยู่จนครบ 100 ปี 75 ปี หรืออยู่ได้อีก 10 ปี 10 วัน หรือน้อยกว่านั้น<O:p></O:p>
    ไม่มีใครทราบได้เลย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ในฐานะชาวพุทธที่แท้จริง เราไม่ควรประมาท เราควรทำบุญให้มาก มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้<O:p></O:p>
    เพื่อให้วันที่เราเดินเข้าไปใกล้ จนความตายอยู่ตรงหน้าเรา เราก็จะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้ อาจจะด้วยใจที่ปล่อยวาง หรือเผชิญหน้าด้วยรอยยิ้ม
    <O:p></O:p>
    เพราะเรามั่นใจว่า เราไปดีแน่นอน

    [​IMG]


    http://www.nutpobtum.com/index.php?mo=3&art=422155<O:p></O:p><!-- google_ad_section_end -->
     
  14. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=10949[/MUSIC]

    [​IMG]

    พระธรรมเทศนา เรื่อง รีบทำความดีเพราะความตายไม่แน่นอน
    โดย หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี

    เครดิตคุณ aonlin
    ทีมงานอาสาฯ

    รีบทำความดีเพราะความตายไม่แน่นอน - Buddhism Audio
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2012
  15. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ตายเร็ว ตายช้า ก็ว่าตาย
    ตายอด ตายอยาก ยากไหม
    ตายจริง ตายหลอก บอกไป
    ยังไง ก็ตาย อยู่ดี

    กลัวตาย ตายตาย ใช่ไหม
    ก็ใช่ เพราะเป็น คนอยู่
    ก็ตาย เราไม่ เคยรู้
    เราสู้ กับสิ่ง ไม่รู้เลย

    ถ้ารู้ ตายเป็น อย่างไร
    ในใจ คงไม่ กลัวเหวย
    มันก็ เหมือนๆ เช่นเคย
    ตายเลย ก็ดี เหมือนกัน

    จะรู้ ตายตาย ได้ยังไง
    ก็ต้อง ฝึกตาย อย่างงั้น
    มรณา นุสสติ เท่าทัน
    จิตทัน ดับได้ สติมา

    ก่อนจิต จะดับ ลับมืด
    จิตยึด พุทธะ แน่นหนา
    ครั้นจิต ดับสิ้น มรณา
    ย่อมสู่ฟ้า เบื้องบน เหมือนเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2012
  16. สง๊บ สงบ

    สง๊บ สงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +664
    ดูจากหัวข้อของกระทู้แ้ล้วก็มานั่งคิดพิจรณา สรุปกับตัวเองว่า กลัวตายและยังไม่อยากตายแต่ก็มีความพร้อมที่จะตายถ้าหาก ณ เวลานี้จะต้องตาย ตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานในชาตินี้เท่านั้นจ้า
     
  17. พลายวาต

    พลายวาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +369
    ตามพุทธศาสนาที่ผมเข้าใจ ความกลัวตายเป็นสิ่งธรรมดาที่มีอยู่ในทุกชีวิต จะมีแต่ผู้ที่เข้ากระแสความเป็นอาริยชนแล้วเท่านั้น(โสดาบันขึ้นไป)ที่จะไม่กลัวความตายซึ่งเป็นหนึ่งในภัยทั้งห้าอันได้แก่
    1.อาชีวิตภัย(ภัยว่าด้วยการครองชีพ)
    2.อสิโลกภัย(ภัยจากการเสียชื่อเสียง)
    3.ปริสสารัชชภัย(ภัยจากความครั่นคร้ามเก้อเขินในที่ชุมนุม)
    4.มรณภัย(ภัยคือความตาย)
    5.ทุคคติภัย(ภัยคือความกลัวที่ที่จะไปหลังจากตาย)
    อาริยชนผู้มีพละ 4 (ธรรมอันเป็นกำลัง เป็นหลักประกันของชีวิตทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมนี้เกิดความมั่นใจเพราะเป็นผู้มีพลังในตน ย่อมพ้นจากความกลัวในภัยทั้ง 5)
    พละ 4 ได้แก่
    1.ปัญญาพละ 2.วิริยพละ 3.อนวัชชพละ 4.สังคหพละ

    ส่วนปุถุชนคนธรรมดาที่ดำเนินชีวิตไปตามกระแสกิเลสแห่งตน (ยังไม่ได้ฝึกตนฝึกจิตลดละกิเลสจนถึงขั้นอาริยชน) หากกล่าวถึงความตาย แล้วแสดงความไม่กลัว เห็นว่าเป็นสามัญลักษณ์ที่ทุกคนต้องเจอ ความเห็นเหล่านั้นย่อมแสดงให้เห็นถึง อัตวาทุปาทาน คือ การยึดมั่นได้แต่วาทะคำพูดว่าเป็นตน แต่ตัวตนที่จริงของตนหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ไม่มีสภาวะจริงจากการปฏิบัติ ไม่ได้เช้าใจความจริงด้วยญาณรู้ที่ตนปฏิบัติได้จริงจนเห็นกิเลส เห็นอัตตา
    สามัญลักษณ์เรื่องความตายที่ยกมาจึงเป็นเพียงความรู้ทางพยัญชนะเป็นความรู้แบบโลกียะที่ใครๆก็รู้ได้ด้วยความคิดหรือตรรกะ(แต่ไม่ประชุมลงที่ใจ รู้ลึกเข้าไปด้วยจิต)

    ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยนะครับ ที่ผมยกมาก็เป็นแค่ที่ผมศึกษามาบ้างในระดับจินตมยปัญญา(น่าจะพ้นระดับแรกมาบ้างคือ สุตมยปัญญาหรือความรู้ที่จำได้จากการอ่านการฟังมาเท่านั้น) ยังไม่ได้เป็นถึงขั้นภาวนามยปัญญา(ปัญญา การรู้ที่ได้จากการปฏิบัติจนมีความสำเร็จเห็นผล)
     
  18. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ถามผมว่ากลัวตายหรือไม่
    ตอบอย่างฉะฉานว่าไม่กลัวตาย
    แต่ยังไม่อยากตายครับผม:boo:
    ยังมีอะไรอีกเยอะที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ
    หรือทำแล้วยังไม่สำเร็จ

    แต่ถ้ามีใครเงื้อดาบฟันเรา ถ้าไม่หลบก็คงแปลกล่ะครับ
    วิ่งหนีได้ก็ต้องหนี สู้ได้ก็ต้องสู้เพื่อรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย
    ดังนั้นชีวิตยังไม่สิ้น ต้องดิ้นกันไป
    เพราะหากชีวิตไม่ดิ้น ก็อาจจะสิ้นใจ
    สู้ ๆๆๆๆ ครับพี่น้อง:cool:
     
  19. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    คนที่ไม่กลัวตาย อาจจะมีก็ได้
    แต่คนที่ไม่รู้ตัวเองว่า แท้จริงตนเองกลัวตาย กลับมีมากกว่า

    คนที่คิดว่าตนไม่กลัวตายนั้น
    เอาเข้าจริงในช่วงวิกฤติ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
    อาจกลัวตายสุดชีวิต กลัวตายมาก
    จิตตอนที่ตายแบบนั้น น่ากลัวมาก เพราะจะมีทุคติเป็นที่ไป
     
  20. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    รับได้หรือไม่ เมื่อมาถึงตัวแล้วก็ต้องรับ

    กลัวหรือไม่ เมื่อถึงเวลาก็ต้องไปตามสภาพ


     

แชร์หน้านี้

Loading...